กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 01 ก.ย. 2553, 02:23:05

หัวข้อ: รอยทางและรอยธรรม...๓๑ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 01 ก.ย. 2553, 02:23:05
ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
 ๑ กันยายน ๒๕๕๓
......รอยทาง.....
                     ทุกสิ่งทุกอย่างถ้าเรากระทำอยู่บ่อยๆ มันก็จะกลายเป็นความเคยชิน
และเป็นกิจวัตรเป็นนิสัยในที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างจึงไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ เพราะว่าเคยพบ
เคยกระทำมาแล้วทั้งนั้น แต่ละวันที่ผ่านไปมันจึงเหมือนเราไม่ได้ทำอะไร เพราะมันเป็น
ไปตามปกติของมันเหมือนทุกๆวันที่ผ่านมา คือตื่นนอนประมาณตีสามกว่าๆ เข้าห้องน้ำ
ล้างหน้าแปรงฟัน ฉันกาแฟ เปิดทีวีช่อง ๓ ดูข่าวภาคเช้า ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ
ออกรับบิณฑบาตร กลับถึงวัดกวาดวิหารลานวัด สวดมนต์ทำวัตรเช้าร่วมกัน ฉันภัตราหาร
เขียนบทความ บทกวี ลงไปดูงานสั่งงานก่อสร้าง หรือดูแลความเรียบร้อยในบริเวณวัด
ตามจังหวะและโอกาศ ตอนเย็นคุมเด็กๆวัยรุ่นออกกำลังกาย ซ้อมพายเรือ เสร็จแล้วก็
ได้เวลาทำวัตรสวดมนต์เย็นต่อ กลับที่พักเปิดคอมฯเข้าเน็ต ดูข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหว
ในบอร์ดวัดบางพระ ตอบปัญหาที่มีผู้ขอคำแนะนำ ขอคำปรึกษา เสร็จแล้วก็เจริญสติภาวนา
จนได้เวลาประมาณ ๐๐.๓๐ น. ก็ได้เวลาจำวัตร ผ่านไปอีกวันหนึ่งที่ได้มีโอกาศตื่นขึ้นมาหายใจ
เป็นวิถึชีวิตตามปกติที่เป็นมา...
.....รอยธรรม.....
                     อย่าได้ปฏิเสธในศาสตร์และวิชาต่างๆที่มีในโลกนี้ ศึกษาค้นคว้าให้เข้าใจ
ถึงที่มาและที่ไปในทุกๆศาสตร์ ให้รู้ว่าทำไมจึงเป็นอย่างนี้ ทำไมจึงสอนกันอย่างนี้ ทำไม
เขาจึงเข้าใจมันอย่างนี้ มีเจตนาเป็นอย่างไร อะไรเป็นกุศโลบายในศาสตร์นั้นๆ โดยการทดลอง
ประปฏิบัติตามในหลักของศาสตร์นั้นๆ  แล้วใช้สติพิจารณาใคร่ครวญโดยจิตที่ละเอียดแยบคาย
" โยนิโสมนสิการ " คือการคิดวิเคราะห์อย่างมีระบบ อย่างถูกวิธี พิจารณาไตร่ตรองสาไปหาซึ่ง
สาเหตุหรือต้นตอที่เกิดของเรื่องที่เรากำลังพิจารณา ให้เห็นที่มาและที่ไป คิดให้ถึงรากถึงโคน
แล้วประมวลความคิดรอบด้านจนกระทั่งสรุปออกมาได้ว่า สิ่งนั้นควรหรือไม่ควร ดีหรือไม่ดี เป็นต้น
เป็นวิถีทางแห่งปัญญา เป็นธรรมสำหรับกลั่นกรองข้อมูลหรือแหล่งข่าวอีกชั้นหนึ่งเป็นพื้นฐานของจิต
ที่จะนำมาซึ่งสัมมาทิฏฐิ ทำให้รู้จักเหตุผล ไม่หลงงมงาย ทุกๆศาสตร์ในโกนี้ล้วนแต่มีทั้งคุณและโทษ
ทั้งประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ มันอยู่ที่เราจะแยกแยะจะมองหรือหยิบฉวยมาใช้ ทำความรู้ความเข้าใจ
กับทุกๆศาสตร์และทุกสรรพสิ่ง แล้วเราจะเห็นความเป็นจริง ทั้งในทางโลกและทางธรรม...
.......รอยกวี.....
                    เวลา  ผ่านไป  ไม่หยุด       มนุษย์  ดิ้นรน  ขวนขวาย
                    ตั้งแต่ เกิดมา   จนตาย       มุ่งหมาย หาสุข  ใส่ตัว
                    หลงเพลิน ไปตาม กระแส    ผันแปร  จนน่า  เวียนหัว
                    เพราะความ หน้ามืด ตามัว    ลืมตัว ลืมตน   ลืมตาย
                    ติดอยู่ กับกิน กามเกียรติ     จนเครียด เพราะความ มุ่งหมาย
                    อยากให้ อยู่สุข สบาย        จึงกลาย  เป็นสร้าง เวรกรรม
                    ชีวิต  จึงไม่  สงบ              ไม่พบ  กับสิ่ง  ค่าล้ำ
                    ชีวิต  อยู่ห่าง ทางธรรม        เคราะห์กรรม จึงมา เยี่ยมเยือน
                                                       ชีวิต   จึงมี   แต่ทุกข์         ไร้สุข เหมือนไม่  มีเพื่อน
                                                       ไร้คน  จะมา  ปลอบเตือน     เสมือน  โดดเดี่ยว เดียวดาย
                                                       สังคม  นับวัน  เสื่อมทราม     หลงตาม ไร้ซึ่ง  จุดหมาย
                                                       วัตถุ   เพิ่มขึ้น  มากมาย       ที่หาย   คือคุณ  ความดี
                                                       ศีลธรรม กำลัง  หดหาย        จางคลาย ไปทุก ถิ่นที่
                                                       แก่งแย่ง แข่งขัน ชิงดี          ไม่มี  น้ำใจ  ให้กัน
                                                       สังคม  แห่งภาพ  มายา        ให้ค่า  วัตถุ  เท่านั้น
                                                       ใครมี  ทรัพย์มาก กว่ากัน      ผู้นั้น  ได้รับ คำเชิญ
                   คนดี    มีศีล   มีธรรม          ไม่นำ  มากล่าว สรรเสริญ
                   คนดี    ไม่มี    ที่เดิน           ถูกเมิน  ว่าโง่  งมงาย
                   คนดี    ถูกเขา  เอาเปรียบ     หยามเหยียบ ไร้ซึ่ง ความหมาย
                   สังคม  นับวัน  กลับกลาย       มากมาย  ด้วยเล่ห์ ลมลวง
                   ศีลธรรม  หากไม่  กลับมา      โลกา  นี้น่า  เป็นห่วง
                   เพราะว่า  มนุษย์  ทั้งปวง       หลอกลวง  คดโกง  ฆ่ากัน
                   ทุกคน  จะเห็น  แก่ตัว           เมามัว   แก่งแย่ง  แข่งขัน
                   ไม่มี   น้ำใจ  แบ่งปัน            โลกนั้น  คงดับ  ลับลง....
                            ...............................................
                            เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                                      รวี สัจจะ- สมณะไร้นาม
๑ กันยายน ๒๕๕๓ เวลา ๑๔.๒๓ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
                   
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๓๑ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 01 ก.ย. 2553, 03:04:58
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณที่สอนแนววิธีคิดแบบ" โยนิโสมนสิการ " ครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๓๑ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 01 ก.ย. 2553, 04:13:15
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณพระอาจารย์สำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๓๑ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 01 ก.ย. 2553, 05:46:43
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณมากครับสำหรับแง่คิดและคำสอนครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๓๑ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 01 ก.ย. 2553, 09:44:31
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ จะนำคำสอนไปเป็นแนวทางดำเนินชีวิตครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๓๑ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: john_4682 ที่ 02 ก.ย. 2553, 03:20:44
ขอบพระคุณสำหรับแนวคิคจะนำไปเป็นแนวทางในการทำงานครับ