กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 21 ก.ย. 2553, 03:47:46

หัวข้อ: รอยทางและรอยธรรม...๒๐ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 21 ก.ย. 2553, 03:47:46
(http://img409.imageshack.us/img409/4662/img0091nl.jpg)

มุมหนึ่งของอำเภอศรีราชา
  ๒๑ กันยายน ๒๕๕๓
.....รอยทาง.....
                 เดินทางถึงศรีราชาประมาณเวลา ๐๕.๓๐ น.นั่งคุยต่อกับเจ้าภาพจนสว่าง
ตอนเช้ามีญาติโยมมาถวายอาหารเช้า ขอคำปรึกษาและสนทนาธรรม รับแจกวัตถุมงคล
จนถึงเวลาประมาณสามโมงเช้า (๙.๐๐ น.)ออกไปกิจนิมนต์ข้างนอก งานแรกไปที่บริษัท
คอนเทนเนอร์(ประเทศไทย)จำกัด ไปดูการนำตู้คอนเทนเนอร์มาทำเป็นห้องพักในรีสอร์ท
ซึ่งมีหลายแบบหลายราคา เข้าไปสอบถามราคาค่าประกอบและค่าขนส่ง จนเป็นที่เข้าใจแล้ว
แจกวัตถุมงคลแก่พนักงานทั้งบริษัท เสร็จแล้วไปกิจนิมนต์ต่อรายที่สองซึ่งเป็นร้านอาหารปักษ์ใต้
ที่ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง สวดมนต์ทำน้ำมนต์ แจกวัตถุมงคล แล้วจึงฉันเพล เสร็จแล้วพรมน้ำมนต์
ให้พรเจ้าภาพ ไปกิจนิมนต์ต่อรายที่สามคือบริษัทสหโคเจน(ชลบุรี)จำกัด(มหาชน) เป็นบริษัท
เกี่ยวกับงานสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานทดแทน ที่นิคมอุตสาหกรรมสหพัฒน์ แจกวัตถุมงคล
เดินชมแบบโรงงานไฟฟ้า ฟังการบรรยายจากวิทยากรของโรงงานเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้า
พลังงานทดแทนชนิดต่างๆ เช่นพลังลม พลังแสงอาทิตย์ พลังงานจากชีวมวล พลังงานจากน้ำ
ออกจากโรงงานไฟฟ้าประมาณบ่ายสาม ไปดูที่ดินที่อำเภอบ้านบึง ซึ่งมีผู้นำมาเสนอขายให้แก่
โยมเจ้าภาพที่นิมนต์มา ไปถึงที่ดินที่เขาบอกขายลงไปสำรวจสภาพพื้นที่ ตระเวณดูพื้นที่บริเวณ
ใกล้เคียง วิเคราะจากทั้งภายนอกและภายในแล้ว ไม่คุ้มค่าแก่การลงทุน จึงให้คำแนะนำไปตามที่เห็น
กลับจากดูที่ดินที่บ้านบึงแล้ว แวะไปกราบศพหลวงพ่อเฉลิม ที่วัดนาพร้าวเพราะว่าเป็นสหธรรมมิกกัน
อยู่จำพรรษากันมาหลายปีและหลายที่ด้วยกัน และท่านมามรณะภาพที่วัดนาพร้าวซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่าน
ตั้งแต่วันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ ลูกหลานบรรจุศพเก็บไว้เพื่อรอความพร้อมในการที่จะจัดงานฌาปนกิจให้ท่าน
ในโอกาศที่เหมาะสม นั่งสนทนาธรรมกับพระที่วัดนาพร้าวที่คุ้นเคยกัน จนถึงเวลาประมาณ ๑๘.๓๐ น.
จึงได้กลับมาที่พัก ปรากฏว่ามีญาติโยมมารออยู่จำนวนหนึ่งแล้ว อยู่ต้อนรับสงเคราะห์ญาติโยมจนถึงเวลา
ประมาณเกือบเที่ยงคืน จึงได้เข้าพักผ่อนสรงน้ำ สวดมนต์ เจริญสติภาวนา จนหลับไป....
.....รอยธรรม.....
                    ในสภาวะที่เรากำลังทำพิธีหรือสงเคราะห์ญาติโยมอยู่นั้น เราต้องมีสติและสัมปชัญญะ
อยู่ตลอดเวลา พยายามรักษาจิตให้เป็นกุศลจิต วางใจให้เป็นกลางกับทุกอย่างที่พบเห็น ได้ยินหรือได้ฟัง
วิเคราะห์ทุกอย่างตามเหตุและปัจจัย ตาไว หูไว ใส่ใจ จดจำ ไม่เอาใจไปมีส่วนได้เสียกับผลประโยชน์ทั้งหลาย
ใช้หลักธรรมนำการคิดและวิเคราะห์ปัญหาทุกอย่าง ตามหลักธรรมของอริยสัจ ๔ คือทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
โดยปรับหลักเสียใหม่ให้เหมาะสม ทุกข์คือคำถามคือโจทย์ ที่จะให้คิดและแก้ไข ต้องวิเคราะห์ไปถึงต้นตอ
ที่เกิดของปัญหาให้เห็นที่มาคือสมุทัย วิเคราะห์ต่อไปให้เห็นแนวทางการแก้ปัญหาว่าจะให้มันจบอย่างไรคือ
ให้เข้าใจถึงที่จบคือนิโรธ  กำหนดแนวทางวิธีการในการดำเนินการที่จะให้มันสำเร็จตามที่ได้วิเคราะห์ไว้คือ
ให้เขาเอาไปปฏิบัติลงมือทำนั้นคือมรรค อาศัยหลักธรรมความรู้ประมาณในตน ความเหมาะสม ความพอดี
พอเพียง ในลาภที่ควรจะได้ กำไรที่พึงจะมี หาความพอดีตามเหตุและปัจจัย จังหวะ เวลา โอกาศ สถานที่
และบุคคล เป็นองค์ประกอบในการคิดและวิเคราะห์ ใช้หลักจิตวิทยาโน้มน้าวให้เขาศรัทธานำไปปฏิบัติตาม
ทำในสิ่งที่เราเสนอแนะ โดยชี้เหตุและผลที่จะได้รับในการกระทำอย่างนั้นให้เขาเข้าใจ ก็หมดหน้าที่ของเรา
ไปวาระหนึ่ง เป็นการทำหน้าที่สงเคราะห์ญาติโยมทั้งทางโลกและทางธรรม
 :059:  "เมื่อน้ำนั้นนิ่งใส ก็จะเห็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้นชัดเจน ถ้าน้ำนั้นยังกระเพื่อมอยู่ก็เห็นได้ไม่ชัดเจน
           เปรียบกับจิตที่เป็นหนึ่ง หยุดนิ่งย่อมรู้หมด มีอะไรรู้หมด เห็นกายเห็นจิตของตนเองได้แล้ว
           ก็ย่อมจะรู้และเข้าใจในกายและจิตของผู้อื่นเช่นกัน "
 :059: "อย่าไปหวั่นไหวกับกระแสโลกจนเกินไป คืออย่าไปยินดี ยินร้ายกับคำสรรเสริญและคำนินทา
           ความสุขหรือความทุกข์ และลาภยศทั้งหลาย อย่าไปหวั่นไหวกับมัน เพราะว่าความหวั่นไหวนั้น
           มันจะทำให้เราขาดความเชื่อมั่นและศรัทธาในตนเอง เรียกว่าเป็นคนไม่แน่นอน ทำอะไรไม่แน่นอน
           จิตนั้นย่อมทุรนทุรายหวั่นไหวไปกับโลกธรรม นำมาซึ่งความทุกข์ทั้งหลาย ถ้าเราวางใจให้อยู่เหนือ
           โลกธรรมได้เมื่อไร ใจของเรานั้นก็จะเป็นสุข"
 :059: " เรียนทางโลกนั้น เรียนไปๆก็ยิ่งทำให้กิเลสหนาขึ้นทุกขณะ แต่ถ้าเรามาเรียนธรรมะมาเรียนเรื่องละ
             ละโลภ ละโกรธ ละหลง ละกิเลสตัณหา มันก็มีแต่จะเบาบางลง จนไม่มีภาระ เมื่อเข้าถึงธรรมะแล้ว
             ใจนั้นก็จะเป็นสุข ไม่ทุกข์อยู่กับโลกธรรมทั้งหลาย "
.....รอยกวี.....
                   อยู่กับโลก  ด้วยธรรม   นำความคิด
                   ปรับชีวิต    เข้ากับธรรม นำเหตุผล
                   มีสติ        ระลึกทั่ว     ทั้งตัวตน
                   วิญญูชน   ควรที่         จะกระทำ
                                 พึงพอใจ    ในสิ่ง   ที่ตนมี
                                 ความพอดี  พอเพียง  มาหนุนค้ำ
                                 ไม่ปล่อยใจ ให้ความโลภ เข้าครอบงำ
                                  สิ่งที่ทำ    สิ่งที่ได้   ใจเพียงพอ
                                              ทำหน้าที่  ของตน ให้เต็มที่
                                              อย่าให้มี  จิตใจ  ที่ย่อท้อ
                                              อย่าเพียงหวัง  โชคชะตา  มานั่งรอ
                                              เพียงแต่ขอ  แต่ไม่ทำ  กรรมของคน
                                                           เพียงหวังพึ่ง  เทวดา และอาจารย์
                                                           อยากให้ท่าน  มาช่วย ให้ได้ผล
                                                           นั่งงอมือ  งอเท้า  ไม่ดิ้นรน
                                                           รอกุศล  จากครูบา  และอาจารย์
                                                                       ความสำเร็จ  จะเกิดได้  ต้องหมายมั่น
                                                                       ต้องช่วยกัน   ทำกิจ   คิดประสาน
                                                                       ทั้งภายนอก  และภายใน ให้ทันการ
                                                                        ผลของงาน  นั้นจึงออก น่าพอใจ
                                                                                      ตนเองนั้น  ต้องช่วย  ตนเองก่อน
                                                                                      บุญจะย้อน  กลับมา  หาเราใหม่
                                                                                      บารมี     ครูอาจารย์  ท่านให้ไป
                                                                                      ส่งผลให้  ได้พบ   ประสพดี
                                                                                                   ประสพสุข  สำเร็จ  และเสร็จกิจ
                                                                                                   นำชีวิต   ก้าวไป   ได้ถูกที่
                                                                                                    ทั้งทางโลก  และทางธรรม  นำชีวี
                                                                                                    ก็จะมี  แต่ความสุข ไม่ทุกข์เอย....
                                     ด้วยความปราถนาดีและไมตรีจิต
                                          รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒๑ กันยายน ๒๕๕๓ เวลา ๑๖.๔๕ น. ณ มุมหนึ่งของอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
                                                                                                 
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๐ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: นายธรรมะ ที่ 21 ก.ย. 2553, 04:16:40
กราบนมัสการพระอาจารย์ ครับ ที่นำบทความดีๆมาให้อ่านครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๐ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 21 ก.ย. 2553, 04:50:01
          "เมื่อน้ำนั้นนิ่งใส ก็จะเห็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้นชัดเจน ถ้าน้ำนั้นยังกระเพื่อมอยู่ก็เห็นได้ไม่ชัดเจน
           เปรียบกับจิตที่เป็นหนึ่ง หยุดนิ่งย่อมรู้หมด มีอะไรรู้หมด เห็นกายเห็นจิตของตนเองได้แล้ว
           ก็ย่อมจะรู้และเข้าใจในกายและจิตของผู้อื่นเช่นกัน "


กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณที่เมตตาสอนครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๐ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 21 ก.ย. 2553, 05:05:31
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

เรียนทางโลกนั้น เรียนไปๆก็ยิ่งทำให้กิเลสหนาขึ้นทุกขณะ แต่ถ้าเรามาเรียนธรรมะมาเรียนเรื่องละ
ละโลภ ละโกรธ ละหลง ละกิเลสตัณหา มันก็มีแต่จะเบาบางลง จนไม่มีภาระ เมื่อเข้าถึงธรรมะแล้ว
ใจนั้นก็จะเป็นสุข ไม่ทุกข์อยู่กับโลกธรรมทั้งหลาย "

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไปกราบขอบพระคุณครับ ช่วงนี้พระอาจารย์เดินทางไกลรักษาสุขภาพด้วยนะครับ  :054:
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๐ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 21 ก.ย. 2553, 05:06:37
วันนี้เจอบททดสอบจิต พิมพ์งานเสร็จแล้ว กำลังจะส่งตั้งกระทู้ แอร์การ์ดมีปัญหา
เน็ตหลุด ข้อมูลที่พิมพ์ไว้หายหมด ต้องเขียนใหม่ เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว
ปรากฏว่า ต้องเขียนถึงสามครั้ง จึงจะส่งข้อความตั้งกระทู้ได้ ตอนเช้าตีห้าครึ่ง
ครั้งหนึ่ง ตอนเที่ยงอีกครั้งหนึ่ง พึ่งจะมาตั้งกระทู้ได้เอาตอนเกือบจะห้าโมงเย็นแล้ว
ความไม่แน่นอน เป็นกฏของพระไตรลักษณ์ เป็นบททดสอบความนิ่งของจิต
ความตั้งใจและความเพียรพยายาม ...มันเป็นเช่นนั้นเอง.....ตถตา...
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๐ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 21 ก.ย. 2553, 05:12:57
วันนี้เจอบททดสอบจิต พิมพ์งานเสร็จแล้ว กำลังจะส่งตั้งกระทู้ แอร์การ์ดมีปัญหา
เน็ตหลุด ข้อมูลที่พิมพ์ไว้หายหมด ต้องเขียนใหม่ เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว
ปรากฏว่า ต้องเขียนถึงสามครั้ง จึงจะส่งข้อความตั้งกระทู้ได้ ตอนเช้าตีห้าครึ่ง
ครั้งหนึ่ง ตอนเที่ยงอีกครั้งหนึ่ง พึ่งจะมาตั้งกระทู้ได้เอาตอนเกือบจะห้าโมงเย็นแล้ว
ความไม่แน่นอน เป็นกฏของพระไตรลักษณ์ เป็นบททดสอบความนิ่งของจิต
ความตั้งใจและความเพียรพยายาม ...มันเป็นเช่นนั้นเอง.....ตถตา...

กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาสั่งสอนศิษย์พี่น้องชาวบางพระเสมอครับ  :054:
กุศลใดของพระอาจารย์ผมขออนุโมทนาด้วยครับ  :054:
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๐ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 21 ก.ย. 2553, 05:34:24
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณมากครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๐ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: nsp8428 ที่ 21 ก.ย. 2553, 07:32:34
ทำหน้าที่  ของตน ให้เต็มที่
 อย่าให้มี  จิตใจ  ที่ย่อท้อ
 อย่าเพียงหวัง  โชคชะตา  มานั่งรอ
 เพียงแต่ขอ  แต่ไม่ทำ  กรรมของคน

กราบนมัสการพระอาจารย์และกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๐ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: pepsi ที่ 21 ก.ย. 2553, 08:52:38
กราบนมัสการหลวงพ่อครับ..
ยังไงรักษาสุขภาพด้วยครับ..
ขอขอบคุณในบทสอนดีๆครับท่าน
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๐ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: หลังฝน.. ที่ 22 ก.ย. 2553, 01:09:10
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ บทความข้างต้นนี้มีส่วนสำคัญมากเลยครับในการดำเนินชีวิตของผมในทุกๆวันคับ
จะพยายามไม่หวั่นไหวกับคำพูดของคนอื่นๆที่ผ่านเข้ามา ตาไว หูไว ทุกสิ่งที่พระอาจารย์สอนสั่งจะน้อมนำไปปฏิบัติครับผม :054: