กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 09 พ.ย. 2553, 08:06:54

หัวข้อ: สายลมหนาว...ยามเช้าที่ริมโขง
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 09 พ.ย. 2553, 08:06:54
ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
             อากาศเปลี่ยน อุณหภูมิลดลงเรื่อยๆ จาก ๒๗ องศาในตอนกลางวัน  ๒๐ องศาในตอนกลางคืน
ลดลงเหลือ ๒๓ องศาในตอนกลางวันและ ๑๗ องศาในตอนกลางคืน แต่ริมฝั่งโขงนั้นจะแตกต่างจากที่อื่น
เพราะจะมีลมพัดแรง พัดผ่านแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งฝ่ายไทย มันจะทำให้เิกิดอาการ "หนาวสะท้าน " เย็นยะเยือก
แตกต่างจากความหนาวในท้องที่อื่น เพราะสมัยที่อาศัยอยู่บนดอยที่แม่ฮ่องสอนนั้น เคยเจออากาศที่หนาว
กว่านี้ ประมาณ ๔-๖ องศา แต่ก็สามารถที่จะหาความอบอุ่นได้โดยการก่อไฟผิง แต่ที่ชายโขงนั้นไม่สามารถ
ที่จะก่อไฟผิงได้ เพราะลมพัดแรง เป็นความหนาวที่แตกต่างกัน ปีนี้ลมหนาวมาเร็วและหนาวนานกว่าที่ผ่านมา
ซึ่งจะสังเกตุได้ว่า ถ้าปีไหนภาคใต้มีฝนตกหนักและน้ำท่วม ปีนั้นภาคอีสานจะลมแรง หนาวมากและหนาวนาน
นั่นคือเรื่องของสภาพดินฟ้าอากาศ ที่เฝ้าสังเกตุมาเป็นเวลาหลายปีที่ผ่านมา
               สมัยที่อาศัยจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำเสือฯนั้น หลวงพ่อจำเนียร ท่านได้สอนเรื่องการฝึกวิชาลมปราณ
การควบคุมพลังงานและกล้ามเนื้อ ซึ่งได้นำมาฝึกหัดปฏิบัติสมัยที่จำพรรษาอยู่บนดอย เพื่อต่อสู้กับความหนาว
โดยใช้การบังคับลมหายใจ ดึงลมเข้าไปในร่างกายและบังคับลมให้หมุนที่หน้าท้อง เพิ่มกำลังการหมุนให้มากขึ้น
จากหมุนลม ๓ รอบ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนหมุนถึง ๙ รอบหรือ ๑๖ รอบ ตามกำลังสมาธิของแต่ละคนที่ได้ฝึกฝนกันมา
ลมที่หมุนในร่างกายนั้นจะทำให้เกิดพลังงานความร้อนในร่างกาย ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น เลือดลมเดินได้สะดวก
ซึ่งวิชาลมปราณนั้นเป็นกรรมฐานในกลุ่มของกสิน คือ " วาโยกสิน " เป็นกสินลม ซึ่งแตกต่างจากอานาปากรรมฐาน
อานาปานั้นเป็นการดูลม แต่กสินลมนั้นเป็นการบังคับลม คล้า่ยกันแต่ไม่เหมือนกัน เพราะเจตนาแห่งการปฏิบัตินั้น
แตกต่างกัน ผลที่ได้จากการปฏิบัตินั้นจึงแตกต่างกัน ซึ่งมีกรรมฐานอีกกองหนึ่งซึ่งใช้ปฏิบัติเพื่อต่อสู้กับความหนาว
ได้เหมือนกัน คือการฝึกกสินไฟ ซึ่งหลวงปู่โง่น โสรโย ท่านได้เคยเล่าให้ฟังสมัยที่ท่านไปปฏิบัติอยู่ที่ประเทศอินเดีย
ที่เมืองฤาษีเกต จนเป็นที่ฮือฮาในหมู่นักพรตฤาษีทั้งหลายและเป็นที่ยอมรับของฤาษีที่มาชุมนุมในเมืองนั้นมาแล้ว
ซึ่งเรื่อง "กสินไฟ "นั้นจะได้อธิบายในโอกาสต่อไป ในเรื่องของ " กสิน ๑๐ " ตามความเหมาะสมในโอกาสต่อไป
              :059: ชีวิต คือการเดินทาง
                        เพื่อสร้างกุศลกรรม สั่งสมบารมี
                        ด้วยจิตสำนึกแห่งคุณธรรมความดี
                        ปรารถนาไปถึงซึ่งความพ้นทุกข์
                        ฝันไว้ไกลและต้องไปให้ถึงซึ่งความฝัน
                        ตราบใดที่เรายังก้าวเดินไปข้างหน้านั้น
                        ระยะทางสู่จุดหมายปลายทางย่อมสั้นลง
                        อย่าไปกังวลว่าเหลือระยะทางมากหรือน้อย
                        ขอเพียงให้รู้ไว้ว่าใกล้เข้าไปทุกขณะแล้ว
                        ไม่ว่าจะยาวนานสักเท่าไรจะกี่ภพกี่ชาติก็ตาม
                        จะพยายามก้าวเดินไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง
                        สั่งสมอบรมกำลังให้มีอินทรีย์ที่แก่กล้า
                        ความหวังที่ตั้งไว้...นั่นคงจะไม่ไกลเกินจริง....
                                  ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
                                  รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๙ พฤษจิกายน ๒๕๕๓ เวลา ๐๘.๐๘ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
หัวข้อ: ตอบ: สายลมหนาว...ยามเช้าที่ริมโขง
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 09 พ.ย. 2553, 08:15:39
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณมากครับที่เมตตาสอนครับ พระอาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
หัวข้อ: ตอบ: สายลมหนาว...ยามเช้าที่ริมโขง
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 09 พ.ย. 2553, 08:45:07
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ปีนี้อากาศคงหนาวเย็นมาก รักษาสุขภาพด้วยครับ
หัวข้อ: ตอบ: สายลมหนาว...ยามเช้าที่ริมโขง
เริ่มหัวข้อโดย: หลังฝน.. ที่ 09 พ.ย. 2553, 09:58:53
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ รักษาสุขภาพด้วยครับ ส่วนผมก็พยายามรักษาสุขภาพเช่นกันครับอิอิ หนาวมากๆ  :054: :054: :054:
หัวข้อ: ตอบ: สายลมหนาว...ยามเช้าที่ริมโขง
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 09 พ.ย. 2553, 02:49:39
วันนี้ลมพัดแรงมาก ตั้งแต่ประมาณสองโมงเช้า
พัดมาเป็นระยะ ทำให้อากาศหนาวเย็นยิ่งขึ้น
รัฐบาลประกาศให้ จังหวัดมุกดาหารเป็นเขต
เฝ้าระวังลมวิกฤต
หัวข้อ: ตอบ: สายลมหนาว...ยามเช้าที่ริมโขง
เริ่มหัวข้อโดย: depp ที่ 09 พ.ย. 2553, 03:28:59
 :054: :054: :054:
  กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอให้พระอาจาร์ยสุขภาพแข็งแรงนะครับ
 
...แม้ว่าลมหนาว...จะทำให้เราหนาวเย็นสักเพียงใด...
ขอเพียงแค่ใจเราอบอุ่น...จะใส่ใจไปทำไมกับลมหนาว...
หัวข้อ: ตอบ: สายลมหนาว...ยามเช้าที่ริมโขง
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 09 พ.ย. 2553, 06:27:21
กราบมนัสการพระอาจาย์ที่เคารพ กราบขอบพระคุณที่เมตตาสอนครับ  :054:

รักษาสุขภาพด้วยนะครับ  :054:
หัวข้อ: ตอบ: สายลมหนาว...ยามเช้าที่ริมโขง
เริ่มหัวข้อโดย: รันตี ที่ 09 พ.ย. 2553, 06:54:34
เคยไปเดินริมน้ำโขงจังหวัดนครพนมเดือนพฤศจิกาอยู่ครั้งนึงครับ ยังจำลมที่พระอาจารย์พูดถึงนี่ได้อยู่ พัดแบบไม่เหน็ดไม่เหนื่อย ไม่มีขาดช่วงกันเลย

ระยะทางยาวไกลไม่รู้กี่ภพกี่ชาติจะบรรลุ แต่ถ้าไม่หยุดก้าวเราก็ใกล้เข้าไปทุกที จับใจครับ