กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 09 ส.ค. 2554, 05:48:07

หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๘ สค. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 09 ส.ค. 2554, 05:48:07
คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๘ สค. ๕๔
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
อังคารที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
           ในการปฏิบัติธรรมเจริญสติสัมปชัญญะให้มีกำลังมากขึ้นนั้น เราต้องใช้ความอยาก
เพื่อเข้าไปละความอยาก ดั่งที่ครูบาอาจารย์ท่านได้กล่าวสอนไว้ว่า “ ตัณหาละตัณหา “
คือมีความต้องการที่จะกระทำในสิ่งที่ดี เพื่อลบล้างสิ่งที่ไม่ดีที่มีอยู่นั้นให้หมดไป และป้องกัน
ไม่ให้สิ่งไม่ดีตัวใหม่มาเกิดขึ้นและตั้งอยู่ในจิตของเรา แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการปฏิบัติแล้ว
เราต้องละวางซึ่งความอยากทั้งหลายนั้นลงเสีย อยู่กับสิ่งที่เป็นปัจจุบันธรรมที่มันเป็นไป
ตามธรรมชาติของจิต ตามดู ตามรู้ ตามเห็น ความเป็นไปทั้งหลาย เห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่
และดับไป ทำความรู้ความเข้าใจในสิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้น พิจารณาถึงคุณ ถึงโทษ ถึงประโยชน์
และมิใช่ประโยชน์ แยกแยะความเป็นกุศลและอกุศลในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลายเมื่อได้ รู้เห็น เข้าใจ
ก็ละวาง ไม่ไปยึดติดในอารมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น.....
       ใช้เวลาค้นคว้า ใคร่ครวญ ทบทวน พิจารณา แล้วนำมาประยุกค์ปฏิบัติให้เหมาะสม
กับตนเอง คือหลักของการปฏิบัติธรรม ที่กระทำมาโดยตลอด ทำให้ได้เข้าใจในธรรมที่เราได้
ประพฤติปฏิบัติมา ว่าสิ่งที่พบสิ่งที่เห็นนั้นเป็นสภาวะธรรมของอะไร เป็นสภาวะสมถะหรือวิปัสสนา
และทำให้รู้เหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดของอารมณ์นั้นๆ เพราะเมื่อก่อนนั้นจะมีปัญหาในการปฏิบัติ
สืบเนื่องมาจากการที่เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือชอบค้นคว้าทางตำรา อ่านมามาก อ่านหมดห้องสมุด
มาหลายห้อง อ่านพระไตรปิฏกหมดทั้งสี่สิบหน้าเล่มมาแล้วสามรอบ ทำให้มีข้อมูลมากในสมอง
และเมื่อเข้าสู่ภาคปฏิบัติ จิตมันจะปรุงแต่งในสัญญา ( ความจำ ) ทำให้เกิดสภาวะ " รู้ก่อนเกิด "
คือจิตมันจะปรุงแต่งไปก่อนว่า...เดี๋ยวมันต้องเป็นอย่างนั้น เดี๋ยวมันต้องเป็นอย่างนี้ มันคิดไปก่อน
จิตก็เลยไม่สงบ หรือสงบก็เพราะเราไปสะกดจิตตัวเองให้มันสงบ มันไม่ได้สงบโดยธรรมชาติของจิต
ที่แท้จริง มันเป็นสภาวะธรรมที่เราสร้าง เรากำหนดขึ้นมา เราเอาอุปปทานมาจินตนาการให้มันเกิด
ให้มันเป็น มันจึงเป็นเพียงสิ่งที่เราสร้างขึ้น ไม่ใช่สภาวะธรรมที่แท้จริง และเมื่อได้ฟังธรรมของหลวงพ่อชา
แห่งวัดหนองป่าพง อุบลราชธานี จึงได้รู้และเข้าใจ จึงฝึกวางความจำทั้งหลายเมื่อเราเข้าสู่การปฏิบัติ
ให้จิตมันเป็นไปโดยธรรมชาติของจิตในการเจริญสติภาวนา อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ไม่ไปปรุงแต่งมัน
เมื่อออกจากสมาธิแล้วจึงมาทบทวนว่า สิ่งที่พบมาคืออารณ์อะไร ไม่ไปรู้ก่อนเกิด ให้มันเกิดแล้วจึงรู้
ซึ่งกว่าจะละวางความจำเก่าๆได้นั้นต้องใช้เวลาเป็นปีในการปรับจิต ปรับความคิดเสียใหม่.....
          สภาวธรรมทั้งหลายล้วนมีที่มาที่ไป ตามเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้น และเมื่อจิตได้พิจารณา
จนเห็นที่มาและที่ไป เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านั้นแล้ว มันก็สิ้นความสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลาย
การปรุ่งแต่งทั้งหลายมันก็จะจางคลายลดน้อยลงไปจนกระทั้งไม่มี เพราะเมื่อสิ้นความสงสัยแล้วใจจะไม่
เข้าไปยึดติด ความคิดปรุ่งแต่งทั้งหลายมันก็เลยจบ เราต้องคิดให้มันจบไปเป็นเรื่องๆให้มันดับไปเป็นเรื่องๆ
ซึ่งมันจะเป็นการทำลายเสียซึ่งความคิดฟุ้งซ่าน ไร้สาระ การคิดพิจารณานั้นก็จะเป็นระบบ ไม่มีความสับสน
ในความคิด เพราะว่าจิตนั้นได้เข้าถึงธรรม มีธรรมคุ้มครองรักษาจิตอยู่ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน อาจหาญ
และร่าเริงในธรรม “ เมื่อเรารักษาธรรม ธรรมนั้นจะรักษาเรา “.....
                                    เชื่อใน-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                                         รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๙ สิงหาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๕.๕๐ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๘ สค. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: saken6009 ที่ 09 ส.ค. 2554, 06:40:45
เมื่อเรารักษาธรรม ธรรมนั้นจะรักษาเรา 36; 36;
                                     
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ รักษาดูแลสุขภาพด้วยนะครับ :054: :054:
 
ขอบพระคุณ ท่านพระอาจารย์ สำหรับคำสอนดีๆ ที่นำมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                                               
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบพระคุณมากครับ) :033: :033:
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๘ สค. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 09 ส.ค. 2554, 11:41:50
 “ เมื่อเรารักษาธรรม ธรรมนั้นจะรักษาเรา “
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ชีวิตไร้ธรรมเปรียบได้กับเอาผ้าปิดตาแล้วเดินข้ามถนน...
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๘ สค. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: boomee ที่ 09 ส.ค. 2554, 04:21:28
กราบนมัสการพระอาจารย์