กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 21 ส.ค. 2554, 05:24:55

หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๐ สค. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 21 ส.ค. 2554, 05:24:55
คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๐ สค. ๕๔ ...
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
อาทิตย์ที่  ๒๑  สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
       ชีวิตคือการทำงาน...
การทำงานอย่างมีสตินั้นคือการปฏิบัติธรรม
ดำเนินชีวิตด้วยการทำงานทั้งทางภายนอกและภายใน
ควบคุมกายใจด้วยสติและสัมปชัญญะอยู่ตลอดเวลา
พิจารณาให้เห็นความเป็นจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลาย
ทำใจให้ยอมรับกับสภาพแห่งความเป็นจริงในสิ่งเหล่านั้น
เมื่อใจรับได้เพราะรู้และเข้าใจในความเป็นไปของสิ่งเหล่านั้น
เห็นที่มาที่ไปเหตุปัจจัยของสิ่งทั้งหลายที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น
เมื่อละวางมันได้ความทุดข์เพราะความกังวลทั้งหลายก็หายไปสิ้นไป.....
    อดีตคือความทรงจำที่ผ่านมา...
ปัจจุบันคือความเป็นจริงสิ่งที่กำลังตั้งอยู่...
อนาคตคือความฝันและจินตนาการเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น...
คือคำพูดและโวหารในเชิงกวีที่ได้กล่าวกันมาแต่ยาวนาน
แต่ในความเป็นจริงในชีวิต...จงทำจิตให้หยุดคิดสงบนิ่ง
แล้วขจัดความคิดอกุศลสิ่งที่เป็นขยะของอารมณ์ออกไป
คงเหลือไว้แต่สิ่งที่เป็นกุศล สิ่งที่ดีมีสาระและมีประโยชน์
สิ่งที่ไม่เป็นทุกข์ เป็นภัยและเป็นโทษต่อกุศลทั้งหลาย
เพื่อให้มีความเจริญในกุศลธรรมเพิ่มพูนก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป...
     มองดูโลกที่สับสนวุ่นวายให้คล้ายดูหนังดูละคร....
ทุกบททุกตอนล้วนแล้วแต่มายา ที่ถูกกำหนดมาด้วยกฏแห่งกรรม
พยายามทำจิตใจให้อยู่โลกธรรม ๘ ทวนกระแสแห่งโลกมายา
แล้วเราจะพ้นจากความทุกข์ความเศร้าความโศกจากโลกมายานี้ได้
เพิ่มกำลังทั้ง ๕ประการคือศรัทธา สติ วิริยะ สมาธิ  ปัญญา ให้เพิ่มขึ้น
เพื่อให้เกิดผลงานให้เป็นรูปธรรมพร้อมที่จะนำไปถ่ายทอดเผยแผ่แก่ผู้ที่สนใจ
พยายามทำให้เกิดความรู้ใหม่ๆขึ้นในจิตเพื่อพัฒนาความคิดให้เจริญก้าวหน้า
เพื่อจะได้นำไปสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้อื่นให้เห็นหนทางเห็นแสงสว่างเส้นทางของชีวิต
ชี้นำให้ไปขบคิดพิจารณาเพือให้เกิดปัญญาและออกจากกองทุกข์พบสุขที่แท้จริง...
               เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                    รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๒๑  สิงหาคม  ๒๕๕๔ เวลา ๐๕.๓๐ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๐ สค. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: saken6009 ที่ 21 ส.ค. 2554, 06:04:33
จงทำจิตให้หยุดคิดสงบนิ่ง 36; 36;
                                         
แล้วขจัดความคิดอกุศลสิ่งที่เป็นขยะของอารมณ์ออกไป
                                                                                                                                                         
คงเหลือไว้แต่สิ่งที่เป็นกุศล สิ่งที่ดีมีสาระและมีประโยชน์
                                                                                                                                                         
สิ่งที่ไม่เป็นทุกข์ เป็นภัยและเป็นโทษต่อกุศลทั้งหลาย
                       
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ  รักษาดูแลสุขภาพด้วยนะครับ :054: :054:
 
ขอบพระคุณ ท่านพระอาจารย์ สำหรับคำสอนดีๆ ที่นำมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                                                             
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบพระคุณมากครับ) :033: :033:
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๐ สค. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: ทรงกลด ที่ 21 ส.ค. 2554, 08:48:06
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์ฯ :054:

-------------------
โลกธรรม 8 หมายถึง เรื่องของ โลกมีอยู่ประจำกับชีวิต สังคมและโลกของมนุษย์เป็นความจริงที่ทุกคนต้องประสบ
ด้วยกันทั้งนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม ข้อแตกต่างคือ ใครประสบมาก ประสบน้อย
ช้าหรือเร็ว โลกธรรมแบ่งออกเป็น 8 ชนิด จำแนกออกเป็น 2 ฝ่ายควบคู่กันและมีความหมายตรงข้ามกัน คือ


1. โลกธรรมฝ่ายอิฏฐารมณ์ คือ ฝ่ายที่มนุษย์พอใจมี 4 เรื่อง คือ
- ได้ลาภ หมายความว่า ได้ผลประโยชน์ ได้ทรัพย์สินเงินทอง ได้บ้านเรือนหรือที่สวน ไร่นา
- ได้ยศ หมายความว่า ได้รับแต่งตั้งให้มีฐานันดรสูงขึ้น ได้ตำแหน่ง ได้อำนาจเป็นใหญ่เป็นโต
- ได้รับสรรเสริญ คือ ได้ยิน ได้ฟัง คำสรรเสริญคำชมเชย คำยกยอ
- ได้สุข คือ ได้ความสบายกาย สบายใจ ได้ความเบิกบาน ร่าเริง ได้ความบันเทิงใจ

2. โลกธรรมฝ่ายอนิฏฐารมณ์ คือ ฝ่ายที่มนุษย์ไม่พอใจมี 4 เรื่อง คือ
- เสียลาภ หมายความว่า ลาภที่ได้มาแล้วเสียไป
- เสื่อมยศ หมายถึง ถูกลดความเป็นใหญ่ ถูกถอดออกจากตำแหน่ง ถูกถอดอำนาจ
- ถูกนินทา หมายถึง ถูกตำหนิติเตียนว่าไม่ดี มีใครพูดถึง ความไม่ดีของเราในที่ลับหลังเรียกว่าถูกนินทา
- ตกทุกข์ คือ ได้รับความทุกข์ทรมานกายทรมานใจ
ที่มา
http://www.learntripitaka.com/scruple/rokatham8.html
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๐ สค. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 21 ส.ค. 2554, 10:08:54
กราบนมัสการพระอาจารย์ ได้อ่านเพื่อเตือนตัวเองเพราะตอนนี้กำลังมีปัฟญหากับเนื้องานที่ทำอยู่ครับ
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๐ สค. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: boomee ที่ 22 ส.ค. 2554, 04:13:01
กราบนมัสการครับพระอาจารย์ :054: