กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: ~เสน่ห์ต้นน้ำ~ ที่ 11 พ.ค. 2552, 09:34:04

หัวข้อ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ต้นน้ำ~ ที่ 11 พ.ค. 2552, 09:34:04
   เปรตปากสุกร
ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประทับอยู่ที่เวฬุวันวิหาร ณ กรุงราชคฤห์ ทรงปรารภถึงสุกรมุข เปรตให้เป็นเหตุ จึงทรงตรัสเล่าเรื่องที่มีมาแล้วแต่อดีต ความว่า
       
       ในพระศาสนาของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังมีภิกษุรูปหนึ่ง เป็นผู้บวชเข้ามาในพระศาสนาด้วยความเลื่อมใส ดำรงอยู่ได้ด้วยความเพียรพยายามที่จะสำรวมกาย แต่ไม่รู้จักประมาณ รักษาวาจา ชอบซุบซิบนินทาว่าร้ายแก่เพื่อนภิกษุผู้มีศีลทั้งปวง ใครผู้ใดจะแนะนำสั่งสอนให้ละวาจานั้นเสีย ภิกษุนั้นก็หาได้ยอมละวาจาทุจริตนั้นๆ ไม่
       
       ต่อมา ครั้นภิกษุนั้นตายลง ได้ไปบังเกิดในนรกหมกไหม้อยู่สิ้นเวลานานแสนนาน นับได้หนึ่งพุทธันดรพอดี เมื่อพ้นจากนรกนั้นแล้ว ก็ได้มาบังเกิดเป็นเปรต อดอยากอยู่ ณ เชิงเขาคิชฌกูฏ ใกล้กรุงราชคฤห์ เหตุเพราะยังเหลือเศษบาปที่กล่าววาจาทุจริตนั้นอยู่
       
       เปรตภิกษุตนนั้น มีรูปกายสีดังทอง มีปากดุจดังสุกร (หมู)
       
       ขณะนั้น พระมหาเถระนารทะ พักอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฏ เวลารุ่งเช้าพระเถระเจ้าจึงห่มจีวรถือบาตร เพื่อเตรียมตัวที่จะไปบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ พอเดินมาถึงตีนเขา พระเถระเจ้าจึงได้เห็นเปรต ผู้มีกายรุ่งเรืองดุจดังทอง มีปากดุจดังสุกร จึงได้เอ่ยถามขึ้นว่า
       
       ?ดูก่อนผู้จมทุกข์ เหตุใดผิวกายของเธอจึงรุ่งเรืองส่องสว่างไปในทิศทั้งหลายดุจสีทอง แล้วปากของเธอนั้นเล่า ทำไมถึงเหมือนกับปากสุกร เธอได้ก่อกรรมทำบาปอะไรไว้ในปางก่อน?
       
       เปรตนั้นจึงกล่าวตอบพระเถระเจ้าขึ้นว่า ?ข้าแต่พระนารทะเถระเจ้า ร่างกายของข้าพเจ้า มีรูปร่างเหมือนกับร่างกายมนุษย์ทั่วไป แต่เหตุที่มีผิวกายรุ่งเรืองดุจดังทองนั่นเป็นเพราะสมัยที่ข้าพเจ้าบวชอยู่ในพระศาสนาของพระศาสดา ผู้ทรงนามว่ากัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพเจ้ามีความเลื่อมใส ดำรงตนที่จะขวนขวายสงบระงับรักษากายด้วยความสำรวม ด้วยอานิสงส์ผลบุญดังนั้น จึงทำให้ข้าพเจ้ามีรูปร่างดุจดังมนุษย์แต่มีสีกายรุ่งเรืองดังทอง
       
       ส่วนเหตุที่ข้าพเจ้ามีปากเหมือนดังปากสุกร เหตุเพราะตอนที่ข้าพเจ้าบวชอยู่ ไม่ขวนขวายที่จะสงบระงับ ไม่สำรวมวาจาเอาแต่ว่ากล่างนินทาดุด่าว่าร้าย ให้แก่เพื่อนภิกษุทั้งหลายผู้ทรงศีล แม้จะมีผู้ปรารถนาดีคอยแนะนำพร่ำสอน ข้าพเจ้าก็ไม่อาวรณ์ที่จะละวาจาทุจริตนั้นๆ ด้วยเหตุแห่งวจีทุจริตนั้น จึงทำให้ปากของข้าพเจ้ากลายเป็นปากสุกร (ปากหมู) ดังท่านเห็น?
       
       ?ข้าแต่พระนารทะเถระ เมื่อท่านได้เห็นสภาพร่างกาย และปากของข้าพเจ้าแล้ว ขอท่านจงถือเอาเป็นอุทาหรณ์สอนตนว่า เราจะไม่ทำบาปด้วยปาก อย่าทำเหตุให้ปากต้องลำบาก เพราะกล่าววาจาชั่วหยาบ ถ้าเป็นผู้มีปากกล้า ไม่สงบสำรวม กล่าวว่า วาจาจ้วงจาบผู้ทรงศีล ท่านก็จะมีปากดังปากสุกรเช่นข้าพเจ้านี้?
       
       เมื่อพระนารทะเถระเจ้า ได้สดับวาจาของเปรตปากสุกรจบลง ท่านจึงได้เที่ยวไปบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ต่อไป ครั้นกลับจากบิณฑบาตฉันอาหารแล้ว พระเถระเจ้าจึงเข้าไปเฝ้าพระบรมสุคตเจ้า แล้วทูลเรื่องที่ท่านได้เห็นเปรตปากสุกรให้พระพุทธองค์ได้ทรงทราบ
       
       พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ?ดูก่อนนารทะ เปรตตนนั้นเราได้เคยเห็นมาแล้ว? พระพุทธองค์จึงทรงมีพระพุทธฎีกาตรัสแสดงโทษของวจีทุจริต และคุณแห่งวจีสุจริต ให้พระนารทะพร้อมภิกษุทั้งหลายได้ทราบความว่า
       
       วจีทุจริต เหตุที่ทำให้เป็นเปรต ๔ อย่างคือ
       
       พูดเท็จ
       พูดส่อเสียด
       พูดคำหยาบ
       พูดเพ้อเจ้อ
       
       ผู้ประกอบ วจีสุจริต จักมีผลมิให้ตกนรกและมิต้องมาเป็นเปรต มี ๔ อย่างคือ
       
       ไม่พูดเท็จ
       ไม่พูดส่อเสียด
       ไม่พูดคำหยาบ
       ไม่พูดเพ้อเจ้อ
       
       วาจาสุริตของเรา ให้คุณแก่เราได้ วาจาทุจริตของเราก็ให้โทษแก่เราได้เหมือนกัน
คัดลอกมาจาก เว๊ป ธรรมะกับชีวิตhttp:///www.manager.co.th/Dhamma/ :054:
หัวข้อ: ตอบ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์กวาง~ ที่ 11 พ.ค. 2552, 09:52:10
ดั่งคำสุภาษิตไทยเลยค่ะ

ปลาหมอ ตายเพราะปาก :015:


นิทานเรื่องนี้ แหม่..

อยากจะเอาไปให้คนที่ทำงานอ่านจัง :009:

ตอนนี้เปรต ที่ปากเป็นหมู เดินกันว่อนเลยค่ะ  :004:


ขอบคุณท่านต้นน้ำมากๆค่ะ

สำหรับนิทานเนื้อหาสาระและข้อคิดดีๆ
หัวข้อ: ตอบ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 11 พ.ค. 2552, 09:56:16
ขอบคุณที่นำนิทานดีๆมาให้อ่านน่ะครับ
หัวข้อ: ตอบ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: TTTUTTT ที่ 11 พ.ค. 2552, 10:06:04
พูดดี เป็นศรีแก่ปาก...
ไปไหนใครก็รักครับ...{^_^}...
หัวข้อ: ตอบ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 11 พ.ค. 2552, 10:47:24
ขอบคุณต้นน้ำ นะครับสำหรับบทความดีๆแบบนี้ :016:
หัวข้อ: ตอบ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: tum72 ที่ 11 พ.ค. 2552, 11:40:33
เรื่องบ้างเลยไม่จำเป็นต้องไปโอ้อวด หรือไปคุยโม้ก็ได้ครับ ถ้าของเราดีจริง เดี๋ยวเขาก็รู้เขาก็เห็นเองแหละครับ
หัวข้อ: ตอบ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: mawin_14 ที่ 11 พ.ค. 2552, 11:42:34
เป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดดีมากครับ
หัวข้อ: ตอบ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: porvfc ที่ 12 พ.ค. 2552, 08:37:19
พูดดีเป็นศรีแก่ปาก พูดมาก(ไร้สาร)ะปากจะเป็นหมู :004: ขอบคุณน้องชายต้น(โปเตโต้)มากนะคะ :017:
หัวข้อ: ตอบ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: #DeKdOy# ที่ 12 พ.ค. 2552, 11:40:22

   ขอบคุณน้องต้นน้ำมากเลยครับ...เนื้อหาสาระดีมาก...เป็นนิทานธรรมะที่อ่านแล้วไม่รู้จักเบื่อ...

   แถมยังนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย... :054:
หัวข้อ: ตอบ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: Sak1459 ที่ 12 พ.ค. 2552, 01:01:11
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: ตอบ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์) ที่ 12 พ.ค. 2552, 05:53:00
ขอบคุณครับท่านต้น ระวังสำรวมในคำพูด อนุโมทนาครับ  :002: :054:
หัวข้อ: ตอบ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: peachsama ที่ 12 พ.ค. 2552, 08:53:53
บุญได้แก่คนทำ กรรมได้แก่คนก่อ - เขียนไว้ผนังกุฎ พระอาจารย์ปุ้มวัดศาลาแดง

เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา จงเลือกเอาสิ่งดีเขามีอยู่ เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู สิ่งที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย
จะหาคนมีดีแต่ถ่ายเดียว อย่ามัวเที่ยวตามหาสหายเอ๋ย เหมือนตามหาหนวดเต่าตายปล่าวเลย
ฝึกให้เคยมองให้เห็นจะเป็นคุณ

ท่านพุททาสภิกขุ

(แต่ถ้าสุดๆแล้วก็ คงทนบ่อได้ )
หัวข้อ: ตอบ: นิทานธรรมะเรื่อง เปรตปากสุกร
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ 12 พ.ค. 2552, 09:39:33
ขอบคุณสำหรับ บทความดีๆ ครับผม