กระดานสนทนาวัดบางพระ

พระบรมราโชวาทของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่บัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันที่ ๒๕ เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๖
ครับ

ท่าทางจะได้ตามไปกับ SIC
ขอบคุณที่แจ้งข่าวนะครับ

ได้รับเรียบร้อยครับ ขอบคุณมากครับ

ผมว่าเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางมากกว่านะครับ

เลือกรับทางไปรษณีย์ครับ ส่ง PM ไปให้เรียบร้อยแล้วครับ

1. เสื้อเว็บวัดบางพระจัดทำมาแล้วทั้งหมดกี่รุ่น
ตอบ   4 รุ่น
2. แต่ละรุ่นมีสีอะไรทั้งหมดในตัวเสื้อบ้าง
ตอบ   2.1  รุ่นที่ 1 เสื้อรวมทั้งปกและแขนเสื้อจะเป็นสีขาว
                        ปกเสื้อสีขาวคาดเหลืองทอง
2.2 รุ่นที่ 2 เสื้อจะเป็นสีน้ำเงินกรมท่า ปกเสื้อและขอบแขนเป็นสีชมพู
2.3 รุ่นที่ 3 เสื้อจะเป็นสีขาวครีม ปกเสื้อและขอบแขนเป็นสีฟ้า
2.4 รุ่นที่ 4 เสื้อจะเป็นสีเทาอ่อน ปกเสื้อและขอบแขนเป็นสีเทาเข้ม
3. และในแต่ละรุ่นมียันต์อะไรบ้าง ปักไว้ในตำแหน่งไหนของเสื้อ
ตอบ   3.1 ยันต์นะ หลวงพ่อเปิ่น ที่กระเป๋าเสื้อ
         3.2 ยันต์นะ หลวงพ่อเปิ่น หน้าอกซ้าย ไม่มีกระเป๋า ยันต์เก้ายอดที่ด้านหลัง
3.3 ยันต์นะ หลวงพ่อเปิ่น ที่กระเป๋าเสื้อ ยันต์หอมเชียงที่ด้านหลัง
3.4 ยันต์นะ หลวงพ่อเปิ่น ที่กระเป๋าเสื้อ ยันต์แปดทิศที่ด้านหลัง
4. ถ้าท่านมีรูปถ่ายเสื้อในแต่ละรุ่น จะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ
  อันนี้รุ่น 3

ง่าไม่ทันน้อง SIC

ตรงขิงๆ 25 ข้อ ถูกไปและ 23 ข้อ

พอดีลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะออกเป็นสีอะไร
แต่ในใจอยากได้สีเข้มครับ

ช่วยเป็นกำลังใจให้ทีมงานครับ

ตามหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์ บุคคลจำพวกนี้
จัดอยู่ในประเภท "พารานอยส์" หรือภาษาออนไลน์บ้านเราเรียกว่า "เกรียน"

พารานอยส์ คือ อาการทางจิตขั้นหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกเพศทุกวัย
โดยมากอาการจะถูกกระตุ้นจากการเก็บกดอารมณ์มานาน
หรือได้รับความกดดันจากสภาพแวดล้อมที่ดำรงอยู่ เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง
บุคคลนั้นจะคิดไปว่าตนคือศูนย์รวมของทุกสิ่ง การกระทำของตนคือสิ่งถูก
และจะพยายามผลักดันความคิดของตนโดยไม่สนสภาพแวดล้อม
ศัพท์ทางการเมืองเรียกว่า " อารยขัดขืน " คือการทำสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ
ยกตัวอย่างแบบสากลดังเช่น ผู้นำทางการเมืองประเภทคอมมิวนิส หรือ ผู้ที่วิกลจริต


วิธีแก้ไขโดยสังเขป ด้วยหลักจิตวิทยา
หลีกเลี่ยงการทำเป็นรู้จัก หรือการเคยได้ยินชื่อ เพราะบุคคลประเภทนี้จะรู้สึก
กระหยิ่มใจเมื่อได้เห็นคนอื่นที่ตนไม่รู้จัก รู้จักเขาและเป็นเหตุต่อเนื่อง
ให้กระทำการสำแดงลักษณะที่ตนได้รับชื่อเสียงนั้น เช่น "การตั้งกระทู้ล่อเป้า"
ตามแนวความคิดทางจิตวิทยา หากผู้ที่ต้องการเรียกร้องความสนใจ
ไม่ได้รับความสนใจ บุคคลนั้นก็จะเบนทิศทางการเรียกร้องไปที่เป้าหมายอื่นแทน

**ตอนแรกๆ ผมก็หัวเสียกับเด็กคนนี้เหมือนกัน แต่พักหลังเริ่มรู้สึกสงสารเพราะตามที่ศึกษามา
ลักษณะทางสังคมเช่นนี้ จะเป็นในผู้ที่มีความ ด้อยทางด้านใดด้านหนึ่ง
และพยายามหาส่วนมาเติมเต็ม จึงอยากฝากไปถึงทุกท่าน ไว้เป็นแนวคิดครับ

ดัดแปลงมาจาก เว็ปบอร์ดของ เอเชียซอร์ฟ ครับ

ปลอดภัยไม่ปลอดภัยไม่รู้นะครับ
จะว่าตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็ได้รับเชื้อโรคเพียงเล็กน้อย หากร่างกายเราแข็งแรงสมบูรณ์ ร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันได้ครับ ซึ่งผมว่าเข็มสักที่ผ่านการเช็ดล้างนั้นก็สะอาดพอสมควร อาจจะเชื้อโรคไม่หมดไป แต่มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ผมเลยแนะนำว่า ถ้าร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยก็สักได้ไม่ต้องกังวล
แต่ถ้าป่วย เช่นมีไข้ เป็นหวัดอยู่ ผมว่างดสักก่อนก็ดีครับ ให้ร่างกายแข็งแรงก่อน อย่างน้อยก็ไม่แพร่หวัดให้คนรอครับ

แต่ที่สำคัญ มั่นใจเมื่อไรค่อยสัก เหมือนที่พวกพี่ๆ ว่ามา เพราะ หากไม่มั่นใจแล้วสักไป ก็จะเป็นทุกข์เปล่า เพราะต้องมานั่งกังวลว่าจะติดโรคไหม แทนที่จะได้รับพุทธคุณเต็มๆ

เป็นหวัดนี้ต้องรีบไปสักครับ เจอเข็มหมอไม่หาย แต่ถ้าเจอเข็มสัก รับรองหายแน่ (หายหวัดเปลี่ยนมาเจ็บแทน)

สำหรับว่าปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัยไม่รู้ แต่ผมมั่นใจครับ เพราะ
1.ไวรัสถ้าจะดำรงชีวิตอยู่ได้ต้องมี Host (ลองไปถามอากู๋อีกทีว่าคืออะไร) ครับ ส่วนใหญ่ไวรัสจะใจเสาะเจออากาศธรรมดา ไม่กี่วินาทีก็ตายแล้ว
2. หลังจากที่สักแล้วมีการจุ่มเข็มในน้ำเปล่า ถ้าจะพูดถึงเกี่ยวกับแรงดันออสโมติกครับ ถ้าใครเรียนเรื่องจุลชีววิทยามา เขาจะรักษาสภาพความเข้มข้นของเซลล์โดยการใช้ 0.85%เกลือ หรือ PBS(Phosphate buffer solution) เพื่อรักษาความเข้มข้นภายในและภายนอกเซลล์ให้สมดุลครับ เพราะฉะนั้นน้ำเปล่าจะทำให้เชื้อดึงเอาน้ำเข้าไปในตัวครับ แล้วก็ตายไปเอง ยิ่งถ้าจุ่มในแอลกอฮอล์ด้วยไม่ต้องพูดถึง
3. ในส่วนของหมึกสักจะมีโลหะหนักผสมอยู่แล้ว ลองไปถามอากู๋อีกทีว่าโลหะหนักส่งผลกระทบอย่างไรกับเชื้อครับ
4. ประเด็นสำคัญครับ ด้วยอำนาจพุทธคุณครับ แค่ท่านพระอาจารย์เป่าหัวเข็มเชื้อก็ตายหมดแล้วครับ

ปล. สำหรับข้อ 3 ถ้าใครกลัวโลหะหนักจะซึมเข้าร่างกายแล้วไปสะสม ขอบอกว่าในอากาศเจอเยอะกว่าครับ ยิ่งในกรุงเทพด้วย
      แต่ผมกลัวโลหะหนักตัวนี้มากกว่า "ลูกตะกั่ว" ถ้ามันซึมเข้าร่างกายแล้วอาจทำให้ตายได้โดยเฉียบพลันครับ

ไม่เป็นไรครับ พ่อแม่เราถือว่าเป็นอรหันต์ประจำบ้านครับ
จะข้าม จะเหยียบ จะตบหัว จะตืบ ก็ไม่มีผลครับ ยิ่งเพิ่มความขลังให้ด้วย
บางคนเขายังเอาผ้าถุงแม่ไปเลี้ยมกรอบแล้วห้อยคอเลย

ถ้าเครียดนี้ลำบากแย่
สะพานลอยคนข้าม
ทางด่วนพิเศษ
รถไฟฟ้า BTS
รถไฟใต้ดิน MRT
อาคารที่มี 2 ชั้นขึ้นไป
รถทัวด์ 2 ชั้น
ห้างสรรพสินค้า
ฯลฯ ที่เราสามารถลอดได้

เดินทางสายกลางครับ
ถือศีล 5
ไม่ไปเบียดเบียนใคร
ไม่ผันตัวไปอยู่ที่ที่เสี่ยง
ถ้าเป็นสิ่งที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวร ก็ไม่มีใครจะหยุดยั้งได้ครับ นอกจากบุญและกรรมของตัวเอง

ต้องไปดูตัวจริงซะและ

อ้างจาก: jindong59 ที่ 24 ส.ค. 2554, 08:24:59

แบบฉบับของล้านนาครับ

สักที่ไหน ขอทราบรายละเอียดหน่อยครับ อยากสักมั่ง สวยมาก

พระอาจารย์เณร วัดศรีมูลเรือง ต.ขัวมุง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ครับ

ขอบคุณได้มากกว่า 1 ครั้งได้ไหมเนี่ยะ

อ้างจาก: jindong59 ที่ 10 ส.ค. 2554, 05:57:11

อ้างจาก: meef2002 ที่ 09 ส.ค. 2554, 10:11:05

เหมือนท่านพี่ saken6009 พูดครับ ถ้าสำนักที่น้องสักไม่ห้ามไปสักที่อื่นก็สามารถสักได้ครับ ส่วยยักษ์ที่ผมเห็นนั้น มีราหูครับ ดำดื้อ แดงเก ก็เป็นยักษ์ชนิดหนึ่งเช่นกันครับ อยู่ที่ว่าอาจารย์สักให้หรือไม่ครับ ส่วนที่อาจารย์สักห้ามสักลิงลม เพราะเค้าดูดวงแล้วลิงลมไม่เหมาะสักแล้วจะร้อนเกิดไปครับ เหมือนเพื่อนผมรุ่นพี่เค้าไปสักที่[bgcolor=#FF0000]วัดสีโลหะ[/bgcolor] หรือวัดสีโลนะครับ เค้าก็จะดูดวงให้ว่าเหมาะกับอะไรจึงสักให้ครับ
ผิดถูกประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ผมขอนอกเรื่องหน่อยครับ
วัดสีโลหะ อยู่ที่ไหนครับ

ผมไม่แน่ใจนะครับถ้าไม่ผิดน่าจะที่นี่ วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ตำบลศรีโลหะราษฎร์บำรุง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี

ผมอยู่ใกล้วัดนี้มาตั้งแต่เด็กครับ (<1km) ยังไม่รู้เลยว่ามีการสักยันต์ที่วัดนี้ด้วย (หรือว่าใกล้เกลือกินด่าง)
รู้แต่ที่วัดต้นลำใย แต่ก็ขอฝากถามรุ่นพี่คนนั้นว่าอาจารย์รูปไหนที่เป็นผู้สักให้เอ่ย
ปล.
ไม่มี ตำบล ศรีโลหะราษฎร์บำรุงครับ
มีแต่ ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง ครับ

สุขสันต์วันเกิดครับ คิดเงินให้ได้เงิน คิดทองให้ได้ทอง คิดถึงยันต์ไหนขอให้ได้ยันต์นั้นครับ


ปล.
ถ้าเกิด 2524 ก็วันเดียวกันเลยครับ

สำหรับสูตรของผมคือ
1. พกวาสลีนไปด้วยที่วัด หลังจากสักเสร็จแล้วให้ทาเลย เพื่อจะได้หยุดยั้งการไหลของน้ำเหลืองและเลือด (ป้องกันการขยายตัวของลายเส้น)
2. นับเวลาหลังจากสักเสร็จแล้ว 4 ช.ม. แล้วจึงอาบน้ำ หรือ ซักแห้งก็ได้ครับ ผมทำบ่อย 
3. ถ้าวาสลีนที่ทาไปนั้นยังเหลืออยู่ที่บริเวณที่ทา ก็อาบน้ำได้ ถ้าหมดไปแล้วก็ทาใหม่ แล้วค่อยอาบน้ำ โดยห้ามให้ถูกน้ำสบู่ครับ
4. หลังอาบน้ำแล้ว ทาวาสลีน 1-2 วัน รอให้แผลรอยสักปิด หลังจาก 1-2 วันนั้นไม่ต้องทาวาสลีนก่อนอาบน้ำก็ได้
5. หลังจากนั้นค่อยทาน้ำมันมะกอกหลังจากอาบน้ำจนกว่าจะหายคันครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับเรื่องเล่า ดีน๊ะที่อ่านตอนกลางวัน

ดีน๊ะที่อ่านตอนกลางวัน

ได้รับเรียบร้อยครับ 16.30 น. วันนี้ แต่พอดีติดราชการเลยไม่ได้ไป เดี๋ยวใส่แล้วอย่าลืมทักทายกันน๊ะครับ ต้องขอขอบพระคุณทีมงานด้วยครับ

วาสลีนที่ว่านี้มันคือยี่ห้อของ สารจำพวก ปิโตรเลียมเจลลี่
ซึ่ง ปิโตรเลียมเจลลี่ นี้มีหลายยี่ห้อครับ แต่เราจะติดหูกันว่า วาสลีน เลยเรียกว่าวาสลีน
ตกลงแล้วแนะนำให้ใช้ ปิโตรเลียมเจลลี่ครับ ยี่ห้ออะไรก็ได้ (แต่ถ้าแพ้ก็ตัวใครตัวมันเนาะ)
ในส่วนของโลชั่นนั้นผมไม่แนะนำครับ เพราะว่ามีส่วนผสมของน้ำหอม หรืออาจจะมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่
ซึ่งอาจจะไประคายเคืองต่อแผลหลังสักครับ

หรือว่าจะใช้น้ำมันมะกอกที่ใส่ผมขวดละประมาณ 15 บาท ทาหลังจากผ่านไปแล้ว 3-4 วันก็ได้
(ประหยัดวาสลีน555)
แต่ถ้าสักใหม่อย่าเพิ่งใช้ น้ำมันมะกอกเพราะหมึกมันจะไหลออกมาจากรอยสักครับ (ประสบการณ์ตรง)

วาสลีน
1. ป้องกันการไหลของเลือดและน้ำเหลืองที่มากเกินไปหลังสัก เนื่องจากเลือดไม่สามารถที่จะละลายออกมาจากวาสลีนได้ จึงสามารถลดการปูดนูนของรอยสักได้
2. ป้องกันการโดนของน้ำสบู่ตอนเวลาเราอาบน้ำ
3. ป้องกันแผลแห้งเนื่องจากการเสียความชุ่มชื้น ยิ่งเฉพาะหน้าหนาวแล้วยิ่งแห้งยิ่งคัน

อันนี้เป็นสูตรส่วนบุคคล ทาวาสลีนทุกครั้งหลังอาบน้ำ (ใครจะทาก่อนอาบก็ได้เพื่อป้องกันน้ำสบู่ไหลเข้ารอยสัก) จนกว่าจะมีอาการคัน (ซึ่งจะประมาณ 3-4 วันแล้วแต่คน)
เมื่อเริ่มคันแล้วให้ทาด้วยน้ำมันมะกอกไปเรื่อยๆ จนกว่าแผลจะลอกจนหมด

หมายเหตุ อย่าเพิ่งรีบทาน้ำมันมะกอกตั้งแต่วันแรก เนื่องจากน้ำมันมะกอกจะไปละลายหมึกที่สักออกมา (ประสบการณ์ส่วนตัว)

ปล ใครมีวิธี เจ๋งมาแบ่งปันกันได้ครับ

จัดไปไม่ให้เสีย  แต่ทว่าเขานับเวลาออนไลน์แทน 555

ผมว่าไม่เกี่ยวกันหรอกครับ   

เคยอ่านเจอในประวัติ ลป.แย้ม วัดสามง่าม ท่านบอกว่า  ถือมากก็มากเรื่อง 

วัตถุมงคลที่ผู้สร้างขึ้นมานั้น เขาสร้างเพื่อตอบแทนคนที่มาทำบุญแล้วให้วัตถุมงคลเป็นที่ระลึก ให้เอาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้นึกถึงครูบาอาจารย์ ให้นึกถึงคำสอน ให้ประพฤติตนเป็นคนดี และวัตถุมงคลอาจจะช่วยให้ดียิ่งยิ่งขึ้นไปครับ

สำหรับตัวผม  ผมคิดว่าจะห้อยคู่หรือห้อยคี่ก็ได้ครับ   มันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกัน

จะห้อยคู่หรือห้อยคี่  ห้อยเยอะหรือห้อยน้อย  ไม่สำคัญหรอกครับ  สำคัญที่ว่าเราประพฤติดี  คิดดี ทำดี พูดดีหรือเปล่า

หรือว่าท่านใดเคยไปรับวัตถุมงคลจากครูบาอาจารย์แล้ว  ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่าห้ามห้อยพระเป็นเลขคู่บ้างครับ

คลิ๊ก Like 1000 ครั้ง ครับ

13 ปีนี้กำลังวัยรุ่นเลย ค่อนข้างจะติดเพื่อน ยิ่งที่บ้านไม่มีเวลาให้ยิ่งแล้วใหญ่
เด็กขาดที่พึ่งพิงเวลาเกิดปัญหา ยิ่งเด็กที่เงียบๆ นิสัยดีที่บ้าน แต่อาจจะเก็บกด
เมื่อเจอเพื่อนที่ไม่ดีก็จะถูกชักจูงได้ง่าย เนื่องจากเห็นเพื่อนทำได้ เราก็ทำได้
วัยกำลังอยากลอง ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ อยากลองไปทุกอย่าง

วิธีแก้ทางโลกคือ ให้เวลากับเด็กมากขึ้น พูดคุยมากขึ้น
และร่วมมือกับผู้ปกครองของเด็กคนอื่น ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลว่าลูกของตัวเองนั้นมีการติดยาหรือไม่
บางทีต้องใช้ไม้แข็ง ถ้าเผื่อพบว่าเสพสิ่งเสพติด อาจจะต้องส่งไปสถานที่ ที่บำบัด
และที่สำคัญต้องให้กำลังใจเด็กด้วย

วิธีแก้ทางธรรมคือ อโหสิกรรมให้น้องเขา เพราะเขาอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่ต้องการมาเกิดเป็นลูกเพื่อทำลายเรา

ผมลงรูปแล้วลงไม่ได้อ่ะครับ
ผมก็ย่อขนาดรูปแล้วน่ะ
แล้วก็กดอัฟโหลดรูป แล้วก็ขึ้นว่า error อ่ะครับ

ลองใช้ Browser ตัวอื่นดูครับ เช่น Fire fox

รับแซ่บ

ไหนๆก็เข้ามาและ ขอซักหน่อย