กระดานสนทนาวัดบางพระ

ภาพงานไหว้ครู ปี 56 เล็กๆน้อยๆ จากศิษย์ คนนึ่งที่ไปร่วมงานไหว้ครูทุกๆปี

ของไหว้ครูปี 56 ที่ได้รับกลับมาเพื่อความเป็นศิริมงคล



ขอขอบพระคุณ ทีมงานบนประรำพิธี ทุกท่านที่เมตตา ครับ 

เหรียญนี้น่าใช้หรือไม่ครับ...ยอมรับคำติ...ทั้งนี้เพื่อ...ตาสว่างภายภาคหน้าครับ

1.ยันต์นี้มีชื่อว่าอะไรครับ
2.พุทธคุณทางด้านไหนบ้างครับ



ขอบพระคุณทุกเสียงที่ให้ความกระจ่างครับ

ข้อห้ามสำหรับคนสักยันต์
              ๑. ห้ามผิดลูกเมียเขา
              ๒. ห้ามด่าบุพการี
              ๓. ห้ามกิน น้ำเต้า มะเฟือง
              ๔. ห้ามลอดไม้ค้ำกล้วย สะพานหัวเดียว
              ๕. ให้ถือศีล ๕ อย่างเคร่งครัด ทำแต่กรรมดี
ปล.ข้อห้ามดังกล่าวได้นำมาจาก หัวข้อ..สักยันต์..ของวัดบางพระครับ

เรื่องมีอยู่ว่า...
จากข้อห้ามข้อที่ 3 ครับ... ห้ามรับประทานหรือกิน..[bgcolor=#ff1300]ฟักหรือแฝง [/bgcolor] ด้วยหรือเปล่าครับ

[bgcolor=#ffff00]หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี[/bgcolor]
[bgcolor=#ffff00]ท่านเป็นพระมหาเถระที่รู้จักกันทั่วประเทศ ในนาม " หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด "

[bgcolor=#ffff00]คาถาบูชาท่าน คือ นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา

[bgcolor=#ffff00]ชาติกาล 3 มีนาคม พ.ศ. 2125

 บ้านเลียบ ต.ดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา

[bgcolor=#ffff00]บรรพชา เมื่ออายุได้ 15 ปี

[bgcolor=#ffff00]อุปสมบท เมื่ออายุ 20 ปี

[bgcolor=#ffff00]มรณภาพ 6 มีนาคม พ.ศ.2225

[bgcolor=#ffff00]สิริรวมอายุได้ 99 ปี

[bgcolor=#ffff00]คติธรรมคำสอน ของ หลวงปู่ทวด

[bgcolor=#ffff00]ธรรมประจำใจ
พูดมาก เสียมาก   พูดน้อย เสียน้อย   ไม่พูด ไม่เสีย   นิ่งเสีย โพธิสัตว์

[bgcolor=#ffff00]ละได้ย่อมสงบ
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนแต่เคลื่อนที่ไปสู่ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ทุกอย่างในโลกนี้ เคลื่อนไปสู่การสลายตัวทั้งสิ้น ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ย่อมสงบ

[bgcolor=#ffff00]สันดาน
ภูเขาถูกมนุษย์ทำลายลงมาได้
แต่สันดานของคนเราที่นอนนิ่งอยู่ในก้นบึ้ง
ซึ่งไม่เหมือนกันย่อมขัดเกลาให้ดีเหมือนกันได้ยาก

[bgcolor=#ffff00]ชีวิตทุกข์
การเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติหนึ่ง จะว่าประเสริฐก็ประเสริฐ จะว่าไม่ประเสริฐก็ไม่ประเสริฐ
จะเห็นได้ว่า ตื่นเช้าก็มีความทุกข์เข้าครอบงำ
จะต้องล้างหน้า ล้างปาก ล้างฟัน ล้างมือ
เสร็จแล้วจะต้องกินต้องถ่าย นี่คือความทุกข์แห่งกายเนื้อ

[bgcolor=#ffff00]เมื่อเราจะออกจากบ้าน
ก็จะประสบความทุกข์ในหมู่คณะ ในการงาน ในสัมมาอาชีวะ การเลี้ยงตนชอบ
นี่คือ ความทุกข์ในการแสวงหาปัจจัย

[bgcolor=#ffff00]บรรเทาทุกข์
การที่เราจะไม่ต้องทุกข์มากนั้น
เราจะต้องรู้ว่า เรานี้จะต้องไม่เอาชีวิตไปฝากสังคม เราต้องเป็นตัวของเราเอง
และเราจะต้องวินิจฉัยในเหตุการณ์ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวเราว่า สิ่งใดเราควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ

[bgcolor=#ffff00]ยากกว่าการเกิด
ในการที่เราเกิดมา  ชีวิตแห่งการเกิดนั้นง่าย  แต่ชีวิตแห่งการอยู่นั้นสิยาก
เราจะทำอย่างไรให้อยู่ได้อย่างสุขสบาย

[bgcolor=#ffff00]ไม่สิ้นสุด
แม่น้ำทะเล และมหาสมุทร ไม่มีที่สิ้นสุดของน้ำ ฉันใด
กิเลสตัณหาของมนุษย์ก็ย่อมไม่มีที่สิ้นสุด ฉันนั้น

[bgcolor=#ffff00]ยึดจึงเดือดร้อน
ทุกวันนี้ เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อน ก็เพราะมนุษย์ไปยึดโนน่ ยึดนี่
ยึดพวกยึดพ้อง ยึดหมู่ยึดคณะ ยึดประเทศเป็นสรณะ โดยไม่คำนึงถึงธรรมสากล
จักรวาลโลกมนุษยนี้ ทุกคนมีกรรมจึงเกิดมาเป็นสัตว์โลก
สัตว์โลกทุนคนต้องใช้กรรมตามวาระ ตามกรรม
ถ้าทุกคนยึดถือเป็นอารมณ์ ก็จะเกิดการเข่นฆ่ากัน  เกิดการฆ่าฟันกัน
เพราะอารมณ์แห่งการยึดถืออายตนะ  ฉะนั้น ต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่า
สิ่งใดทำแล้ว สัตว์โลกมีความสุข สิ่งนั้นควรทำ นี่คือ หลักความจริงของธรรมะ

[bgcolor=#ffff00]อยู่ให้สบาย
ในภาวะแห่งการที่จะอยู่อย่างสบายนั้น
เราต้องอยู่กันอย่างไม่ยึด  อยู่กันอย่างไม่ยินดี  อยู่กันอย่างไม่ยินร้าย
อยู่กันอย่างพยายามให้จิตวิญญาณของนามธรรมนั้นเหนืออารมณ์
เหนือคำสรรเสริญ  เหนือนินทา  เหนือความผิดหวัง  เหนือความสำเร็จ  เหนือรัก  เหนือชัง

[bgcolor=#ffff00]ธรรมารมณ์
การอยู่อย่างมีธรรมารมณ์ คือ การอยู่เหนือความรู้สึกทั้งปวง
อยู่อย่างรู้หน้าที่การเป็นคน และรู้หน้าที่ในการงาน คือ รู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้น เป็นสิ่งที่เราต้องทำ
ไม่ใช่ทำเพื่อหวังผลตอบแทน  เพราะถ้าเราทำงานเพื่อหวังผลตอบแทนต่างๆ แล้ว
ถ้าสิ่งต่างๆไม่สัมฤทธิ์ผลตามความหวังนั้น เราย่อมเกิดความโทมนัส  เสียใจน้อยใจ  เป็นทุกข์

[bgcolor=#ffff00]กรรม
ถ้าเรามีชีวิตอยู่อย่างที่ว่า
เกิดเพราะกรรม อยู่เพื่อกรรม ทำเพราะกรรม ตายเพราะกรรมแล้ว
ชีวิตการเป็นมนุษย์ย่อมมีความภิรมย์  มีความรื่นเริง

[bgcolor=#ffff00]มารยาทของผู้เป็นใหญ่
ผู้ใหญ่ไม่ใช่อยู่ที่เกิดก่อน  ผู้ดีไม่ใช่อยู่ที่เรียนสูง
มารยาทจรรยาของการเป็นผู้ใหญ่ ก็คือต้องสุขุมรอบคอบ และไม่ยึดติดเสียงเป็นหลัก
คือ ต้องไม่หวั่นไหวกับคำนินทาและสรรเสริญ

[bgcolor=#ffff00]โลกิยะ หรือ โลกุตระ
คนที่เดินทางโลกุตระ  ย่อมไปดีทางโลกิยะไม่ได้
คนที่เดินทางโลกิยะ  ย่อมสำเร็จทางโลกุตระได้ยาก  เพราะอะไร ?
ถ้าคนหนึ่งสำเร็จได้ทั้งโลกิยะ และโลกุตระง่ายแล้ว
ทำไม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธโคดม ต้องสละราชบัลลังก์แห่งจักรพรรดิไปเป็นธรรมราชาเล่า ?
ถ้าเป็นไปได้  พระองค์เป็นมหาจักรพรรดิพร้อมทั้งธรรมราชา ไม่ดีหรือ?
แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะโลกของโลกิยะและโลกุตระเดินคู่ขนานกัน
เราต้องตัดสินใจ  ต้องมีความเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญในการที่จะเลือกทางใดทางหนึ่ง

[bgcolor=#ffff00]ศิษย์แท้
พิจารณากายในกาย  พิจารณาธรรมในธรรม  พิจารณาวิญญาณ ในวิญญาณ
นั่นแหละ คือ สานุศิษย์อันแท้จริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

[bgcolor=#ffff00]รู้ซึ้ง
ทุกอย่างจะต้องมีเหตุ  เมื่อมีเหตุจึงจะมีผล  ผลนั้นเกิดจากเหตุ
เราได้วินิจฉัยข้อนี้แล้ว  เราจึงรู้ซึ้งถึงพุทธศาสนา

[bgcolor=#ffff00]ใจสำคัญ
การทำบุญนั้น จะต้องทำด้วยจิตใจบริสุทธิ์
จะต้องทำด้วยความศรัทธา
ผลสะท้อนมันจะเกิดขึ้นเกินความคาดหมาย

[bgcolor=#ffff00]หยุดพิจารณา
คนเรานี้  ถ้าไม่มีอะไรทำอยู่ในที่วิเวกคนเดียว  จิตมันจะฟุ้งซ่าน
และถ้าภาวะนั้น  ตนไม่ปล่อยให้จิตฟุ้งซ่านไปเรื่อยๆ คือ หยุดพิจารณา
แล้วค้นสัจจะของ  ศีล  สมาธิ  ปัญญา   ย่อมที่จะค้นหาสัจจะในธรรมะได้

[bgcolor=#ffff00]บริจาค
ทำบุญสังฆทานเป็นจาคะ  จาคะเป็นการบริจาคโภคทรัพย์ภายนอก
การสวดมนต์เป็นการภาวนา  การภาวนาเป็นการบริจาคภายใน
เพราะฉะนั้น ถ้านับในด้านทิพย์อำนาจ
การบริจาคภายในย่อมได้กุศล มากว่า การบริจาคภายนอก
นี่คือเรื่องของนามธรรม

[bgcolor=#ffff00]ทำด้วยใจสงบ
เราจะทำบุญก็ดี  เราจะทำอะไรก็ดี  จงทำด้วยความสงบ
อย่าทำด้วยอารมณ์แห่งความร้อน เพราะการทำด้วยอารมณ์ร้อนนั้น  มันจะพาเราไปสู่หายนะ
เมื่อเกิดอารมณ์ร้อน  เราจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง  จงอย่าทำ
นั่งให้จิตใจมันสบายเสียก่อน  เมื่อจิตใจสบายแล้ว ปัญญาก็เกิด
เมื่อเกิดปัญญาแล้ว  จะทำสิ่งใดก็เป็นไปโดยความสะดวก

[bgcolor=#ffff00]มีสติพร้อม
จะทำสิ่งใดก็ตาม  เราต้องมีสติพร้อม
คือ อย่าให้มีโทสะ  อย่าให้อารมณ์เข้ามาควบคุมสติ
อย่าให้เรื่องส่วนตัวและขาดเหตุผล มาอยู่เหนือความจริง

[bgcolor=#ffff00]เตือนมนุษย์
มนุษย์ผู้ใด เห็นแก่งานส่วนตัว   มนุษย์ผู้นั้น จะไม่มีง านทำในไม่ช้า
มนุษย์ผู้ใด เห็นแก่ทรัพย์ส่วนตัว   มนุษย์ผู้นั้น จะไม่มีทรัพย์ครองในไม่ช้า
มนุษย์ผู้ใด เห็นแก่นอนมาก   มนุษย์ผู้นั้น จะไม่ได้นอนในไม่ช้า

[bgcolor=#ffff00]พิจารณาตัวเอง
คืนหนึ่งก็ดี  วันหนึ่งก็ดี  ควรให้มีเวลาว่างสัก 5 นาที หรือ 10 นาที ไม่ติดต่อกับใคร
ให้นั่งเฉยๆ คิดถึงเหตุการณ์ที่เราทำไปแต่ละวันๆ ว่า  ที่เราทำไปนั้นเป็นอย่างไร
คือให้ปลีกตัวมีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง  คิดเอาแต่เรื่องของตัว อย่าไปคิดเรื่องของคนอื่น
เพราะมนุษย์เราส่วนมากทุกวันนี้  มักเอาแต่เรื่องของคนอื่นมาคิด  ไม่ค่อยคิดเรื่องของตัวเอง

คัดลอกจากหนังสือ เรียนธรรมะบูชาพระสุปฏิปันโน เล่มของหลวงปู่ทวด
ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม
ธรรมะของหลวงปู่ทวด  อ่านแล้วส่งต่อ เพื่อเป็นธรรมทาน

    สวัสดีครับ...



เนื่องจากก่อนวันไหว้ครูกระผมได้ไปสักยันต์เพิ่มมาครับ...เลยเกิดข้อสงสัยเหมือนเดิมครับคือ..
1.ชื่อยันต์ที่สักมามีชื่อเรียกว่ายันต์อะไรครับ
2.มีพุทธคุณทางด้านไหนบ้างครับ

   ปล.ขอขอบคุณสำหรับทุกๆคำตอบของทุกๆท่านไว้ล่วงหน้านะครับ... 

                                                                           สวัสดีครับท่าน...

  ขอสอบถามท่านผู้รู้ตามนี้ครับ

1.ลายยันต์ต่างๆมีชื่อเรียกว่าอย่างไรครับ
2.มีพุทธคุณทางด้านไหนบ้างครับ
3.มีคาถาที่จะใช้สวดมนต์กันอย่างไรบ้างครับ

  ปล.ช่วยแนะนำด้วยนะครับ(ขอขอบพระคุณทุกท่านไว้ล่วงหน้าครับ)

  หมายเหตุ.ต้องขออภัยถ้าหากการกระทำเช่นนี้ไม่สมควรครับ... 

                                                    สวัสดีครับ...

สวัสดีครับทุกท่าน

คือสงสัยว่า เรา (ผู้ที่รับการสักยันต์)สามารถที่จะสักยันต์กับ ผู้สักยันต์ (พระอาจารย์ )หลายๆท่านได้ไหมครับ
เห็นสมควรอย่างไร..ถูกผิดอย่างไร..แนะนำให้ความรู้ด้วยนะครับ

...ขอขอบคุณทุกๆท่านล่วงหน้าครับ..