แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Kingkhet

หน้า: [1]
1
 :054: สวัสดีท่านพี่, คุณน้อง,ผองเพื่อน ศิษย์หลวงปู่ และพระอาจารย์ วัดบางพระ ผมได้เคยโพสหัวข้อนี้มาครั้งหนึ่ง(๒๙ พ.ค. ๕๔) แต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่า แท้หรือไม่ แต่มา ณ วันนี้มีสมาชิกเพิ่มจำนวน ด้วยความศรัทธา จึงนำมาให้ติชมอีกครั้ง....
 "พระสมเด็จ และรูปหล่อโบราณ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง เนื้อทองผสม ปี13 ก้นอุดผง"
 :062: พระสมเด็จ ที่กำลังศึกษาอยู่ว่าสร้างที่ไหน สร้างเมื่อไร ท่านใดเป็นคนสร้าง?



 
:062: รูปหล่อโบราณ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง เนื้อทองผสม ปี13 ก้นอุดผง





 :054: ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติชม และให้คำแนะนำครับ(ขออภัย ภาพอาจจะเห็นรายละเอียดไม่ชัดเจนนะครับ)

2
นำเสนอ "หลวงพ่อเปิ่น เนื้อผง ปี 37" ได้รับมาฟรีเมื่อเช้านี้ ไม่ทราบว่าจะแท้หรือไม่ เชิญพี่น้องติชมและศึกษาได้ครับ.







 :054:ขอขอบคุณ พี่น้อง "ศิษย์หลวงปู่เปิ่น วัดบางพระ" ทุกๆท่าน ที่ให้คำแนะนำและให้ความรู้ครับ.


3
นำเสนอ "พระสมเด็จหลวงพ่อเปิ่นขี่เสือ" มีคนรู้จักเอามาโชว์ผมก็เลยถ่ายรูปไว้ เชิญพี่น้องติชมและศึกษาได้ครับ






4
นำเสนอ"เหรียญของหลวงปู่เปิ่น"?? ไปเยี่ยมที่ทำงานของน้องๆ ที่สุพรรณบุรี น้องเลยเอามาโชว์ เชิญท่านผู้รู้ช่วยแนะนำครับ;









กล้องใหม่+ช่างใหม่(น้อง)=จึงได้ผลงานเท่านี้ครับ ขออภัยทุกท่านด้วยครับ
*ถ้าไม่คมชัด มีเวลาจะแก้ไขให้ใหม่นะครับ

5
ความสุขเกิดขึ้นเมื่อใด

ความสุข เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
ความสุขไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางที่ไปถึง


คุณบอกกับตัวเองว่า เมื่อได้แต่งงาน และมีลูก
ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้นแต่เมื่อมีลูก และลูกของคุณยังเล็กอยู่
คุณก็เกิดความรู้สึกว่า เมื่อเขาโตขึ้นเราคงมีความสุขและ
สบายขึ้น


แต่เมื่อลูกโตมากขึ้น จนย่างเข้าสู่วัยรุ่น 
คุณกลับรู้สึกไม่ได้ดั่งใจอีกครั้ง
และเมื่อลูกๆ ผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นไปได้
คุณคิดว่า คุณจะมีความสุขมากขึ้น
แต่คุณกลับบอกกับตัวเองอีกว่า จะรอให้ลูกๆ
จัดการกับตัวของเค้าเองให้เรียบร้อยดีเสียก่อน


บางครั้งคุณคิดว่า ถ้าคุณมีบ้าน มีรถ มีวันหยุดพักร้อนนานๆ
และเมื่อถึงวันเกษียณอายุการทำงาน
ชีวิตของคุณจะมีความสุขมากที่สุด
แต่เมื่อเกษียนแล้วก็จริง แต่ทำไมถึงยังไม่มีความสุขสักที


ความสุขของชีวิตอยู่ที่ไหนกัน?
แท้จริงแล้ว ความสุขของชีวิต อยู่ ณ ช่วงเวลาขณะนี้ ช่วงเวลาปัจจุบัน ไม่ต้องรอให้ความสุขมาหาเราในอนาคต
เราควรมีความสุข และพึงพอใจกับความสุขอยู่ในปัจจุบัน


ชีวิตของมนุษย์ทุกคน ต้องมีสิ่งท้าทายเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทั้งอุปสรรคต่างๆ หรือบททดสอบชีวิตอันยากเข็ญ
แต่ในที่สุดเราก็จะต้องก้าวผ่านไป อุปสรรคกับชีวิตเป็นของคู่กัน ดังนั้น เป็นหน้าที่ของเรา ที่ต้องมีความสุขและความพึงพอใจจากการเดินทางบนถนนแห่งชีวิตนี้ซึ่งจะทำให้ชีวิตมีความสุข มากกว่าที่จะรอให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อน
แล้วถึงจะมีความสุขได้


เริ่มหยุดพูดกับตัวเองเสียทีว่า
ถ้าฉันลดน้ำหนักได้สัก  5 กิโล ฉันถึงจะมีความสุข
ถ้าฉันได้แต่งงาน ฉันถึงจะมีความสุข
ถ้าผมได้ซื้อบ้าน ผมถึงจะมีความสุข
ถ้าผมได้เกิดเป็นลูกคนรวย ผมถึงจะมีความสุข

ถ้าคุณหยุดพูดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ ชีวิตของคุณก็จะมีความสุข
และคุณจะรู้สึกพึงพอใจกับชีวิต


ตอบคำถาม ต่อไปนี้
1. บอกชื่อคน 3  คน ที่รวยที่สุดในโลก
2. บอกชื่อนางงามจักรวาล 3 คนล่าสุด
3.  บอกชื่อ ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล 3 คนล่าสุด
4. บอกชื่อนักแสดงนำชาย 3 คนล่าสุด ที่ได้รับรางวัลออสการ์


นึกไม่ออกใช่ไหม? ไม่ใช่เรื่องแปลก 
ไม่มีใครหรอกที่จะจดจำคนเหล่านี้ได้ทั้งหมด
คนที่ได้รับการยกย่องสรรเสริญ ก็ล้วนล้มหายตายจากไปตามกาลเวลารางวัลต่างๆ เมื่อวางไว้นาน ก็จะถูกฝุ่นจับ แม้แต่ผู้ชนะก็จะถูกลืมในไม่ช้า


ตอบคำถาม ต่อไปนี้
1. บอกชื่ออาจารย์ 3  ท่านที่เคยช่วยเหลือคุณในเรื่องการเรียน
2. บอกชื่อเพื่อน 3  คนที่ช่วยเหลือคุณในยามที่คุณต้องการ
3. นึกถึงคน 3 คนที่ทำให้คุณรู้สึกว่า คุณได้เป็นคนพิเศษ
4.  บอกชื่อคน 3 คนที่คุณอยากใช้เวลาด้วย


นึกออกง่ายกว่าใช่ไหม?  นั่นเป็นเพราะว่า
คนที่มีความหมายต่อชีวิตคุณ ไม่ได้เป็นคนที่ต้องเป็นที่สุด
ไม่ได้มีเงินมากที่สุด ไม่ต้องได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เพราะยังมีคนใกล้ตัวคุณอีกหลายคน
ที่ห่วงใยคุณ คอยให้การดูแลคุณ
และเวลาที่มีอะไรเกิดขึ้น ก็จะคอยอยู่เคียงข้างคุณ


...ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะมีความสุข
มากกว่าช่วงเวลา ณ ปัจจุบันนี้..
ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับช่วงเวลาปัจจุบัน

สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่ กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้
๑.อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่นคุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้น เขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
๒.อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย,ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
๓.อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
๔.อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
๕.อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิม หรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
๖.จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
๗.ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่าๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว๘.ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสียและอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลยเพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
๙.ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...เพราะฉะนั้นจงอย่าเกลียดคนอื่น 
๑๐.ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น,จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียนคุณมาเพื่อเรียนรู้และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต
๑๓.จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
๑๔.คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกเถียงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกัน ได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร
 
แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้าง เราล่ะ?
๑.อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อยๆ
๒.จงหาอะไรดีๆ ให้คนอื่นทุกวัน
๓.จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง 
๔.จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน70และต่ำกว่า6ขวบ
๕.พยายามทำให้อย่างน้อย3คนยิ้มได้ทุกวัน
๖.คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่ เรื่องของคุณซักหน่อย
๗. งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอกแต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหา สุขภาพ ดังนั้น,  อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็น อันขาด
 
และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้,ก็ควรจะทำ ดังต่อไปนี้
๑.ทำสิ่งที่ควรทำ
๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ ,ไม่สวย,ไม่น่ารื่นรมย์,จงทิ้งไปเสียเก็บไว้ทำไม?
๓.เวลาย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
๔.ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด,เดี๋ยว มันก็เปลี่ยน
๕.ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน,จงลุกจากเตียง,แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย...get up, dress up and show up.
๖.คิดไว้เสมอสิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
๗.ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้,อย่าลืมขอบคุณพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
๘.เชื่อเถอะว่าส่วนลึกๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุขเสมอดังนั้นส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า
และสุดท้ายที่สำคัญที่สุด

"ส่งบทความนี้ต่อไปให้คน ที่คุณรักและห่วงหาอาทรด้วย... "

นาย ศุภณัฏฐ์ สุคนธ์พงเผ่า
รองผู้อำนวยการฝ่าย สนับสนุนงานธุรกิจขนาดกลาง

6
คาถาบูชาพ่อแก่
ตั้งนะโม 3จบ อุกาสะ อิมัง อัคคีพะหูบุปผัง อะหังวันทา อาจาริยัง สัพพะสัยยัง วินาสสันติ
สิทธิการิยะ อะปะระปะชา อิมัสมิง ภะวันตุเม

ทุติยัมปิ อิมัง อัคคีพะหูบุปผัง อะหังวันทา อาจาริยัง สัพพะสัยยัง วินาสสันติ
สิทธิการิยะ อะปะระปะชา อิมัสมิง ภะวันตุเม

ตะติยัมปิ อิมัง อัคคีพะหูบุปผัง อะหังวันทา อาจาริยัง สัพพะสัยยัง วินาสสันติ
สิทธิการิยะ อะปะระปะชา อิมัสมิง ภะวันตุเม

คาถาบูชาพระฤาษี
โอม อิมัสมิง พระปะโคนธัพ พระมุนีเทวา หิตาตุมเห ปริภุญชันตุ

ทุติยัมปิ โอม อิมัสมิง พระปะโคนธัพ พระมุนีเทวา หิตาตุมเห ปริภุญชันตุ

ตะติยัมปิ โอม อิมัสมิง พระปะโคนธัพ พระมุนีเทวา หิตาตุมเห ปริภุญชันตุ

คาถาบูชาพระฤาษี108 โอม สรเวโภย ฤษีโภย นมัช

คาถาบูชาพรหมฤาษี
โอม ... อิมัสมิง สักการะวันทานัง มุนิพรหมมานัง ปูชิตตะวา มหาลาโภ สุขัง พลัง ปูชายะ ภะวันตุเม

คาถาบูชาฤาษีชั้นเทพ
โอม...นะโม นะมัสการะ อะหังเม สาธุ สะระณัง ปัญจะพุทธา นะมามิหัง นะโมยะมะ สิตะวายะ อะหังระอะ สาธุ
ติการะรันตะรัง มุนิเทวา มหามุนิเทวา วันทะนานัง สัพพะกัมมัง ประสิทธิ เม

คาถาบูชาฤาษีชั้นพิภพ
โอม อิมัง วันทานัง สันติโลเก อิมัสมิง มุนิมะนุสสานัง ปูชา อาราธนานัง สัพพะกัมมัง ประสิทธิเม มหาลาโภ ประสิทธิเม

คาถาบูชาเสด็จปู่ชีวกโกมารภัจจ์
โอม..นะโม ชีวะโก สิระสา อะหัง กรุณิโก สัพพะ สัตตานัง โอสะถะทิพพะมันตัง ปะภาโส สุริยาจันทัง
โกมารภัจโจ ประภาเสสิ วันทามิ ปัณฑิโต สุเมธะโส อะโรคา สุมะนา โหมิ

คาถาขอพรปู่ชีกโกมารภัจจ์
นะอะนะวะโรคา พยาธิ วินาสสันตุ

การบูชาพระฤาษี นิยมบูชาด้วยผลไม้ กล้วยน้ำว้า มะพร้าวอ่อน ของมังสวิรัส หมากพลูบุหรี่ น้ำสะอาด น้ำร้อน น้ำชา มักนิยมถวายเครื่องบูชาในวันพฤหัสบดี เพราะถือว่าเป็นวันครู
ขอขอบพระคุณ www.missladyboys.com > วาไรตี้ Variety > ห้องพระ


คาถาบูชาพ่อแก่ พระฤาษี 108 พระองค์
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุท ตัสสะ (3 จบ)

อุกาสะ อิมัง อัคคีพาหูบุพผัง อะหังวันทา อาจาริยัง สัพพะสัยยัง วินาสสันติ สิทธิการิยะ
อะปะระปะชา อิมัสมิง ภะวันตุเม ทุติยัมปิ อิมัง อัคคีพาหูบุพผัง อะหังวันทา อาจาริยัง สัพพะสัยยัง
วินาสสันติ สิทธิการิยะ อะปะระปะชา อิมัสมิง ภะวันตุเม ตะติยัมปิ อิมัง อัคคีพาหูบุพผัง อะหังวันทา
อาจาริยัง สัพพะสัยยัง วินาสสันติ สิทธิการิยะ อะปะระปะชา อิมัสมิง ภะวันตุเม

คาถาบูชาพระฤาษี
โอม…อิมัสมิง พระประโคนธัพ พระมุนีเทวา หิตาตุมเห ปะริภุญชันตุ
ทุติยัมปิ…อิมัสมิง พระประโคนธัพ พระมุนีเทวา หิตาตุมเห ปะริภุญชันตุ
ตะติยัมปิ…อิมัสมิง พระประโคนธัพ พระมุนีเทวา หิตาตุมเห ปะริภุญชันตุ

คาถาบูชาพระฤาษี 108 (รวม) โอม สะระเวโภย ฤาษิโภย นะมัท

บทอธิฐานขอพรพระฤาษี(ใช้ได้กับทุกๆ พระองค์)
โอม ตะวะเมวะมาตา จะบิตา ตะวะเมวะ ตะวะเมวะพันธุศจะ
สะขา ตะวะเมวะ ตะวะเมวะวิทะยา ทรวิณัม ตะวะเมวะ ตะวะเมวะสรวัม มะมะ เทวะ เทวะ…

ขอขอบพระคุณ www.kataakom.pantown.com

7
เพิ่งจะได้รับมาใหม่ครับ "พระสมเด็จ และรูปหล่อโบราณ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง เนื้อทองผสม ปี13 ก้นอุดผง"

 :050:พระสมเด็จ ที่กำลังศึกษาอยู่ว่าสร้างที่ไหน สร้างเมื่อไร ท่านใดเป็นคนสร้าง?





 :050:รูปหล่อโบราณ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง เนื้อทองผสม ปี13 ก้นอุดผง







 :054:ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติชม และให้คำแนะนำครับ(ขออภัย ภาพอาจจะเห็นรายละเอียดไม่ชัดเจนนะครับ)

8
ส่งต่อเพื่อ เพื่อนร่วมโลก ครับ..คนเราสมัยนี้ชอบทำบาปแล้ว  คิดว่ามันเป็นบุญ มาดูข้อเท็จจริงกับ

     1 ชีวิตก็มีค่า ทุกชีวิตมีความสำคัญ เรามาร่วมกันเผยแพร่และช่วยทำความเข้าใจ ในการทำบุญที่เราไม่เข้าใจถึงผลที่เราจะได้รับ
เพราะบุญที่เรากำลังจะทำนั้นมันเป็นชีวิตของผู้อื่นที่จะได้รับความทุกขเวทนา เพื่อแลกกับความสุขใจของเราเอง     
     Top 5 ของสัตว์ที่นิยมปล่อย 
     อันดับที่ 1 ปลาไหล 
     อันดับที่ 2 หอยขม
     อันดับที่ 3 นก   
     อันดับที่ 4 เต่า   
     อันดับที่ 5 ปลาหมอ   
      บางเสี้ยวส่วนของความจริงที่ รายการทีวี "จุดเปลี่ยน" พบและเป็นความจริง
          - ปลาไหลขนาดเล็กตัวเป็นๆ นับพันกิโลกรัมต่อวัน ถูกเบียดอัดมาในกระสอบปุ๋ยเดินทางจากเขมรสู่ประเทศไทย หลายต่อหลายทอด โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องมีชีวิตไปจนถึงมือคนใจบุญ 
          - ปลาไหลที่ปล่อยลงในแม่น้ำ ลึก ไหลเชี่ยว ไม่สามารถรอดชีวิตอยู่ได้ เพราะธรรมชาติของปลาไหลต้องอยู่ในน้ำแฉะ มีดินโคลนให้มุดเพื่อหลบพัก
          - หอยขมที่อยู่ในดินโคลนตามธรรมชาติ เมื่อถูกเทลงสู่ก้นแม่น้ำลึกอย่างแม่น้ำเจ้าพระยา หอยก็จมน้ำตายได้เหมือนกัน 
          - นกกระติ๊ดจะสูญพันธุ์ในไม่ช้า เพราะคนจับมาเบียดเสียดในกรงแคบ บางตัวแข้งขาหักตายคากรง ส่วนที่เหลือซึ่งบินจากไปก็บอบช้ำเกินกว่าจะรอดชีวิต และบ้างก็ไม่มีแหล่งหากินในเมืองต้องตายในที่สุด   
          - เต่าเป็นสัตว์เลื้อยคลาน แต่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และเมื่อถูกปล่อยลงแม่น้ำที่ไม่มีสิ่งใดให้ยึดเกาะ เต่าก็จะต้องว่ายน้ำต่อไปจนกว่าจะขาดใจตาย เพราะเหนื่อยและหมดแรง   
          - เต่าเป็นสัตว์ที่อายุยืนที่สุดในโลก แต่ถ้าเต่าถูกปล่อยในที่ที่แออัดน้ำเน่าเสียไม่มีที่เกาะ เต่าจะตายอย่างทรมาน เพราะ อาการเจ็บป่วยที่กระดองเน่าเปื่อย และจมน้ำตาย กลายเป็นสัตว์ที่น่าสงสารที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง 
       
     ทำไมการปล่อยสัตว์ในยุคสมัยนี้จึงมีบาปมากกว่าบุญ
          1. เพราะปล่อยไม่ถูกที่ถูกทาง ทั้งสภาพความเป็นอยู่ และศัตรูธรรมชาติ ทำให้สัตว์ที่ปล่อยไปไม่มีโอกาสรอดชีวิต
          2. เพราะส่งเสริมให้มีการจับสัตว์ที่อยู่ในธรรมชาติอย่าง ปกติสุขมากักขังหน่วงเหนี่ยว ทรมาน
          3. ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจับ กักขัง ขนส่ง และรอจำหน่าย  มีสัตว์จำนวนมากต้องตายอย่างทรมานก่อนที่จะได้รับอิสรภาพ สิ่งมีชีวิตแม้จะเล็กเท่าฝุ่นละออง แต่นั่นมันก็เท่ากับ 1 ชีวิต...
         
          เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าคุณทำบาปกันอยู่ ไม่ได้ทำบุญ ผลบาปที่ทำกับสัตว์เหล่านี้จะย้อนมาสนอง ถ้าดูรายการทีวี "กรรมลิขิต" จะรู้ว่าคนที่ทำบาปกับสัตว์รับผลกรรมแบบไหน  คิดได้แล้วหยุดส่งเสริมการทำบาปกันเถอะ วิธีทำบุญมีหลายแบบเยอะแยะไป 
          ต่อไปเราควรจะเริ่มสร้างกระแสปลูกต้นไม้ ทำบุญกันดีกว่า เพราะสร้างที่อยู่ให้สัตว์ได้อาศัย สร้างอากาศบริสุทธิ์ให้คนได้หายใจ เป็นการทำบุญแบบต่อชีวิต  แถมสิ่งแวดล้อมดี ลดภาวะโลกร้อนได้อีกต่างหาก...

ขอบคุณ Forward mail ดีๆ

9
 :109:เชิญพี่น้องชาวบางพระ ที่มีความชำนาญเหรียญของหลวงปู่ รุ่นอุดมประชานาถ 76 แนะนำติชมได้ครับ เพิ่งได้มามาตอนเดินชมตลาดแม่กลองครับ(ถ้าเหรียญเป็นของแท้ จะได้ตามหามาเพิ่มครับ) ขอบคุณทุกท่านที่แนะนำติชมครับ








10
ตะกรุดหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

 :062:ตะกรุดหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ มี 4 แบบ คือ ขนาดสั้นมีห่วง, ขนาดเล็กมีรูสำหรับร้อยเชือก, ขนาดใหญ่มีห่วงและมีรูสำหรับร้อยเชือก ที่ว่าใช่หรือไม่ใช่ ซึ่งจากค้นหาทางเวปไซด์ก็จะมีให้เห็นกัน หรือบางทีถามจากผู้คนในแถบภาคกลางบางท่านก็บออกว่าดี แล้วพี่น้องชาวบางพระ ที่พอมีประสบการณ์หรือเคยเห็นท่านคิดว่าอย่างไร

                                                                              ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นครับ









11
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม


ไปไหนปากอย่าไว ใจอย่าเบา
เรื่องเก่าอย่ามารื้อฟื้น เรื่องอื่นอย่าไปคิด
ทำกิจที่ชอบ กำหนดปัจุบัน...ปัจจุบัน


ขอให้มีศรัทธาตั้งใจปฏิบัติกัมมัฏฐาน ต้องได้แน่นอน ไม่มากก็น้อย
อดทนหน่อย เพราะการอดทนเป็นคุณสมบัติของนักต่อสู้
ถ้าเราไม่อดทนต่อความลำบาก
ต่อความเจ็บใจแล้วไม่ต้องไปทำอะไรแล้ว ไม่ได้อะไร
ถ้าเราปลงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
แล้วจะเห็นได้ชัดว่า ไม่มีอะไรแน่นอนต่อชีวิตเลย

สติสัมปชัญญะ เป็นเพื่อนตายไม่มีผันแปรเปลี่ยนแปลง
ถ้าเราทำได้โรคภัยไข้เจ็บก็จะหาย
อาตมาตอนบวชใหม่ๆ ป่วยทุกวันเป็นลมทุกวัน
ขึ้นศาลาวันพระที่วัดพรหม หน้ามืดตลอด สามวันดี สี่วันไข้
ตอนนั้นยังไม่ได้เข้ากัมมัฏฐาน ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ก็เลยคิดว่าคงจะอยู่ไม่ได้คงต้องสึก
เพราะสามวันดีสี่วันไข้เป็นลมทุกวัน
ข้าวก็ฉันไม่ได้ตอนนั้นผอมมาก
พอเจริญพระกัมมัฏฐานจึงได้รู้ว่า ได้เคยฆ่าเป็ดฆ่าไก่เป็นเข่งๆ
ยิงนกเป็นฝูงๆ จึงต้องมาเป็นอย่างนี้ เพราะเราฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมากมาย
ฆ่าสัตว์นี้อายุสั้น แต่เราก็ได้กัมมัฏฐานช่วยยังชีวิตเราอยู่มาได้จนบัดนี้
ทุกคนจำไว้หลายอย่างหลายประการ...กัมมัฏฐานช่วยเราได้


ที่มา
http://www.dhammathai.org/store/talk/view.php?No=326
http://www.watkoh.com/forum/index.php?topic=1549.0

12








ขอบุญกุศลเหล่านี้จงบังเกิดแก่ผู้อ่านทุกท่าน หากส่งต่อจะได้กุศลมากยิ่งขึ้น

13
บทความ บทกวี / มีไปทำไม?
« เมื่อ: 21 พ.ย. 2553, 10:07:12 »





















อ่านแล้วคิด ชีวิตจะมีความสุข....

ขอกราบขอบพระคุณ ท่าน ว.วชิรเมธี

ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่อ่าน

ขอบคุณทุกท่านที่นำไปเผยแพร่

ขอบคุณครับ

14
วันหนึ่งไอ้ขี้เมามันเดินเข้ามาหาพระในวัด... มันบอกว่าหลวงพี่ชอบด่าคนกินเหล้า...
ว่าโง่ยิ่งกว่าหมา... อยากจะทดสอบหลวงพี่หน่อย... ที่หลวงพี่บอกว่าเหล้าไม่ดีนะ...
หลวงพี่รู้หรือเปล่าว่า... เหล้านะมีส่วนผสมอะไรบ้าง.... ?
หลวงพ่อก็ตอบไปว่า..เรื่องง่ายๆ... ทำไมพระจะไม่รู้
คนโบราณเขาเล่าว่า... เหล้ามันผสมด้วยเลือดสัตว์ 5 ชนิด... คือ...

1. เลือดเสือ... กินเข้าไปแล้วดุมาก...มึงช่วยหามกูไปตีกับมันหน่อย...

2. เลือดงู... .....กินแล้วเดินไม่ตรงทาง...คดไปคดมา...

3. เลือดนก......กินแล้วคุยทั้งวันทั้งคืน...ไม่รู้เอาเรื่องอะไรมาพูด...

4. เลือดหมู..... กินแล้วนอนตรงไหนก็นอนได้....หมาเลียปากก็ไม่รู้สึก...

5. เลือดหมา....กินแล้วเห่าตะพึด...กระทั้งลูกเมียตัวเองมันก็จะกัด...

พูดเสร็จอาตมาก็รีบเดินเข้ากุฏิ...เพราะพระไม่มีประกันชีวิต..

จากคำเทศนาของพระพิศาลธรรมพาที (พระพยอม กัลยาโณ)

15
ต้นไม้มงคล ปลูกต้นไม้มงคล ประจำวันเกิด

ปลูกต้นไม้ตามวันเกิด

         การปลูกต้นไม้ นอกจากจะสร้างความร่มรื่นแล้ว หากปลูกให้เข้ากับวันเกิดก็จะช่วยเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาต้นไม้มาปลูก ควรซื้อต้นไม้ให้ถูกโฉลกกับวันเกิด       

 :005:คนที่เกิดวันอาทิตย์

         เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ทะเยอทะยานสูง อารมณ์ร้อน โกรธง่ายหายเร็ว สุภาพอ่อนโยน คล่องแคล่ว ชอบพบปะผู้คน พูดจาดีมีหลักการ ควรปลูกต้นไม้ที่มีสีเหลืองและสีส้ม เช่น โป๊ยเซียน โกศล จำปา ราชพฤกษ์ กุหลาบ

 :005:คนที่เกิดวันจันทร์

         เป็นคนมีเสน่ห์ ละเอียดรอบคอบ พิถีพิถัน เป็นคนเจ้าสำราญ มีมนุษยสัมพันธ์ดี มีน้ำใจ ควรปลูกต้นไม้ที่มีดอกสีขาวหรือเหลือง เช่น วาสนา โกศล มะลิ ราตรี มะม่วง กวนอิม โป๊ยเซียน จำปี พลูด่าง แก้วมะละกอ ชะพลู บัวบก

 :005:คนที่เกิดวันอังคาร

         เป็นคนจิตใจกล้าหาญ ใจนักเลง มีบุคลิกเหมือนคนก้าวร้าวเพราะพูดจาไม่อ่อนหวาน แต่พูดในทางผลประโยชน์ได้ดี อารมณ์ร้อน มีความอดทนสูง ควรปลูกต้นไม้ที่มีดอกสีแดง หรือชมพู เช่น กุหลาบ อัญชัน โป๊ยเซียน ชบา พญายอ

 :005:คนที่เกิดวันพุธ
         เป็นคนดื้อรัน ไม่ฟังใคร ไม่ยอมปรับปรุงแก้ไขตัวเอง ชอบเชื่อคนอื่น ควรปลูกต้นไม้ที่มีดอกสีเหลือง เช่น กวนอิม วาสนา พลูด่าง โป๊ยเซียน มะละกอ กล้วย ราชพฤกษ์ กุหลาบ โกศล ชบา

 :005:คนที่เกิดวันพฤหัสบดี
         เป็นคนฉลาดหลักแหลม มีความละเอียดลึกซึ้ง ทำงานประณีต เชื่อในความคิดของตัวเองสูง โกรธง่ายหายเร็ว ควรปลูกต้นไม้ที่มีดอกสีขาว เช่น มะลิ จำปี พุด กุหลาบ แก้ว

 :005:คนที่เกิดวันศุกร์
         เป็นคนขี้น้อยใจ จิตใจดี  ชอบพูดจาอ่อนน้อมถ่อมตน รักเพื่อนฝูง มีน้ำใจ ไม่ทะเยอทะยาน ควรปลูกต้นไม่ที่มีดอกสีแดงและชมพู กุหลาบ อัญชัน ชบา โกศล โป๊ยเซียน

 :005:คนที่เกิดวันเสาร์

         เป็นคนกล้าแกร่งห้าวหาญ ใจกล้า สุขุมรอบคอบ เป็นคนใจโลเลไม่เด็ดเดี่ยวหนักแน่น ควรปลูกต้นไม้อย่าง วาสนา กวนอิม ชมพู่ จำปี มะละกอ ฝรั่ง ราชพฤกษ์ คูน มะม่วง
รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าจะหาต้นไม้มาปลูกลองเลือกปลูกให้ตรงกับวันเกิดกันดูได้ เพื่อความเป็นสิริมงคล
[shake]ขอขอบคุณที่มา อิทธิปาฏิหาริย์ พระเครื่อง[/shake]

16
      
ประวัติ หลวงปู่นาม (พระครูสุวรรณศาสนคุณ) วัดน้อยชมภู่


"พระครูสุวรรณศาสนคุณ" พระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมแห่งเมืองสุพรรณบุรี มีพลังจิตเข้มขลัง วิทยาคมแก่กล้า ชาวบ้านต่างเรียกขานนามท่านว่า "หลวงปู่ผู้เฒ่า" หรือหลวงปู่นาม หรือพระอุปัชฌาย์นาม

ปัจจุบัน พระครูสุวรรณศาสนคุณ สิริอายุ 88 พรรษา 67 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดน้อยชมภู่ ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี

อัตโนประวัติ พระครูสุวรรณศาสนคุณ มีนามเดิมว่า นาม ไม่ทราบนามสกุล เกิดเมื่อปี พ.ศ.2464 เป็นชาวเมืองสุพรรณบุรีโดยกำเนิด สำหรับประวัติชื่อโยมบิดา-มารดา และประวัติในวัยเด็ก ไม่สามารถสืบค้นได้ แม้กระทั่งตัวหลวงปู่เองก็จำเหตุการณ์ในช่วงวัยเด็กไม่ค่อยได้

ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่ออายุ 21 ปี ณ พัทธสีมาวัดบ้านกร่าง โดยมีพระเมธีธรรมสาร (ไสว) วัดบ้านกร่าง เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระปลัดทวี (หลานหลวงพ่อมุ้ย) เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ภายหลังอุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย และได้ขอฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิทยาคมกับพระเมธีธรรมสาร (ไสว) วัดบ้านกร่าง พระอุปัชฌาย์ของท่าน ควบคู่กับการศึกษามูลกัจจายน์ บาลี อักษรขอม ไทยน้อย อักษรลาว ทำให้ท่านมีความรู้ทางด้านอักขระโบราณอีกแขนงหนึ่ง

ในพรรษาที่ 4 ท่านได้ย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดน้อยชมภู่ (เป็นวัด 2 วัดมารวมกัน วัดเก่ามาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา คือ วัดน้อยกับวัดชมภู่ รวมกันเรียกว่า วัดน้อยชมภู่) วัดนี้มีพระเกจิชื่อดังมาแต่เดิม ทำน้ำพระพุทธมนต์ให้เจ้านายสมัยก่อน

ท่านได้มาอยู่กับหลวงปู่ขำ เจ้าอาวาสวัดน้อยชมภู่ หลวงปู่ขำ เป็นศิษย์ในสายหลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว กับหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา ต่อมา ท่านได้ไปอยู่กับหลวงปู่เหมือน ผู้เป็นศิษย์หลวงพ่อเนียม แห่งวัดน้อย และหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

หลวงปู่เหมือน เป็นพระอภิญญา ท่านได้สั่งสอนถ่ายทอดสรรพวิชาให้ท่านมากมาย กล่าวกันว่า หลวงปู่เหมือน สามารถเสกตัวต่อให้เต็มวัด เพื่อไล่ขโมย หรือเสกข้าวให้ออกรวงทั่ววัด เพื่อเลี้ยงพระทั้งวัดก็ได้ เสกใบมะขามเป็นฝูงผึ้งไล่ลิง ที่เข้ามาทำลายข้าวของในวัด

ดังนั้น หลวงปู่นาม จึงได้วิชาในสายหลวงปู่เหมือนมาอย่างเอกอุ พุทธาคมนี้หลวงปู่นามไม่เป็นสองรองใคร แต่ท่านไม่พูด ท่านเงียบเฉยเหมือนหลวงตาเฝ้าวัด แม้แต่หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองสุพรรณอีกรูปหนึ่ง ยังมีความสนิทสนมถูกอัธยาศัยกับหลวงปู่นาม ส่วนหลวงปู่นามยังเคยไปอยู่จำพรรษาที่วัดหลวงพ่อมุ่ย หลายครั้ง

ตอนที่หลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ ยังมีชีวิตอยู่ คนมาขอพระเครื่อง ท่านยังบอกว่า "ที่สุพรรณ หมดหลวงพ่อมุ่ย ต้องไปหาพระอาจารย์นาม วัดน้อยฯ เขาเก็บไว้หมด"

ในสมัยหนุ่ม หลวงปู่นามไปเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งสรรพวิชาต่อยอดในสายสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ท่านยังเป็นสหธรรมิกกับท่านเจ้าคุณผัน และท่านเจ้าคุณเที่ยง (เจ้าอาวาสวัดระฆังฯ รูปปัจจุบัน) ท่านเจ้าคุณทั้งสองยังเรียกขานหลวงปู่นามว่า "หลวงพี่"

หลวงปู่นาม ปลุกเสกพระเครื่อง เพื่อแจกลูกศิษย์ แต่ไม่ได้จัดพิธีใหญ่โต คนที่ได้รับไป ล้วนมีประสบการณ์ทุกคน หลวงปู่นาม เคยปรารภความหลังในกุฏิว่า "สมัยฉันหนุ่มๆ นะ เสกพระงบน้ำอ้อยไว้ ไม่แน่ใจนะ ก็เอาใส่รถไปให้หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย ท่านเสกให้ พอเปิดกล่อง ท่านก็บอกว่า ผมเสกไม่เข้าแล้ว ท่านเสกจนจะบินแล้วนี้"

"ฉันก็ยังไม่แน่ใจ เอาอีก เอาไปให้หลวงพ่อดี วัดพระรูป ท่านเสก ท่านหยิบเท่านั้นแหละ ท่านกำพระไว้ ยกมือจบยกขึ้นเหนือหัวท่านเลย หาว่าเรามาล้อท่านเล่น ท่านว่า เสกจนหมุนได้แล้วนี่จะให้ผมทำอะไรอีก"

ในด้านถาวรวัตถุ ท่านสร้างอุโบสถไว้หลายหลัง สร้างวิหาร กุฏิสงฆ์ ปรับภูมิทัศน์บริเวณวัดน้อยชมภู่ ให้เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรม และแจกทุนการศึกษา ส่งพระภิกษุ-สามเณรมาเรียนกรุงเทพฯ ทุกปี

หลวงปู่นาม หรือ พระครูสุวรรณศาสนคุณ เป็นยอดพระเกจิที่ชาวเมืองสุพรรณบุรี ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ท่านเป็นคนเงียบ ไม่พูด ไม่คุย แต่ชาวเมืองสุพรรณทราบดีว่า พระรูปนี้เป็นยอดพระเกจิที่เข้มขลังขนานแท้ ท่านสืบพุทธคุณสายลุ่มแม่น้ำท่าจีนและสายสุพรรณมาอย่างครบถ้วน

ปัจจุบัน หลวงปู่นาม ได้สร้างวัตถุมงคล อาทิ เหรียญรุ่นแรก ตะกรุดโทน เพื่อหาเงินไปสมทบทุนการศึกษาของพระภิกษุสามเณร และนักเรียนที่ยากจน

ซึ่งเป็นปณิธานของหลวงปู่ผู้เฒ่าแห่งสุพรรณบุรี
ขอขอบคุณ อิทธิปาฏิหาริย์ พระเครื่อง

17
ครั้งหนึ่ง..... มีบ้านหลังหนึ่งมีสามี ภรรยา ลูกชาย และอาม่าแก่ๆคนหนึ่ง
อาม่าแก่มากและไม่แข็งแรง มีอาการมือสั่นตลอดเวลา ทำให้ถือของลำบาก
โดยเฉพาะเวลาทานข้าวร่วมกับครอบครัว อาม่าจะถือชามข้าวได้ลำบากและทำข้าวหกลงบนโต๊ะตลอดเวลา
 
ลูกสะใภ้อาม่าก็รู้สึกหงุดหงิดและรำคาญกับเรื่องนี้มาก จึงปรึกษากับสามีว่า
นางทนไม่ได้ที่เห็นอาม่าทานข้าวหกเลอะเทอะเกลื่อนโต๊ะ มันทำให้นาง กินข้าวไม่ลง   

สามีก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเขาไม่สามารถ หาวิธีทำให้มืออาม่าหายสั่นได้
จากนั้น ไม่กี่วันลูกสะใภ้ก็พูดกับสามีเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกว่า จะไม่แก้ไขอะไรเลยหรือ
นางทนไม่ได้แล้ว หลังจากโต้เถียงกันไปสักพักสามีก็ยอมแก้ไขตามคำแนะนำของภรรยา นั่นคือ

เมื่อถึงเวลาทานข้าว เขาก็จัดโต๊ะให้แม่นั่งแยกต่างหาก ตามลำพังคนเดียว
โดยใช้ถ้วยข้าวราคาถูกๆบิ่นๆ เพราะอาม่าชอบทำถ้วยแตกบ่อยๆ

เมื่อถึงเวลาทานข้าว อาม่าเศร้าใจมากเพราะอาม่าก็ไม่มีปัญญาจะแก้ไขอะไรได้
นางนึกถึงอดีตที่นางเคยเลี้ยงดูลูกชายด้วยความรักเสมอมา นางไม่เคยปริปากบ่น หรือย่อท้อต่อความเหนื่อยยาก
เวลาที่ลูกชายเจ็บไข้ นางก็ดูแลเขาเป็นอย่างดี เวลาที่เขามีปัญหานางก็ช่วยแก้ไขทุกครั้ง       

สภาพร่างกายของนางที่ทรุดโทรมเป็นที่รำคาญของลูกสะใภ้ในวันนี้ ก็คือผลจากการอดทน
ตรากตรำทำงานหนักมาเป็นเวลายาวนานในวันก่อนๆ เพื่อให้ลูกชาย..หรือสามีของลูกสะใภ้ในวันนี้ได้เล่าเรียน.. มีความรู้..มีอาชีพการงานที่ทำให้ลูกเมียอยู่สุขสบาย แต่ตอนนี้อาม่าเสียใจมาก..รู้สึกว่า..ตัวเองไร้ค่า..ถูกทอดทิ้ง       

หลายวันผ่านไป..       

อาม่ายังคงเศร้าสร้อย รอยยิ้มเริ่มจางหายจากใบหน้า หลานชายตัวน้อยของอาม่าซึ่งเฝ้าจับตาทุกอย่างมาโดยตลอด
ก็เข้าไปปลอบใจและบอกคุณย่าว่า เขารู้ว่า.. คุณย่าเสียใมากแค่ไหนที่ถูกพ่อแม่ของเขาปฏิบัติต่อท่านเช่นนี้
และเขาก็บอกท่านว่าเขามีวิธีที่จะให้อาม่าได้กลับไปทานข้าวร่วมกับทุกคนได้เหมือนเดิม
ความหวังเริ่มเบ่งบานขึ้นในหัวใจของหญิงชรา นางถามหลานชายว่าจะทำอย่างไรเด็กน้อยได้แต่ตอบเพียงว่า

 " เย็นนี้ขอให้คุณย่าแกล้งทำชามข้าว ของคุณย่าตกให้มันแตก..เหมือนกับไม่ได้ตั้งใจนะครับ"อาม่าได้ฟังก็แสนจะแปลกใจ
แต่หลานชายตัวน้อยก็คงยืนกรานให้คุณย่าทำตามที่เขาบอก และบอกว่าที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าทีของเขาเอง

และแล้ว..เมื่อได้เวลาอาหารเย็น

หญิงชราก็ตัดสินใจลองทำตามที่หลานพูด เพื่อจะดูว่า หลานชายมีแผนการอะไร
นางจึงยกถ้วยข้าวใบเก่าที่เต็มไปด้วยรอบิ่นขึ้น แล้วแกล้งปล่อยลงบนพื้น เหมือนกับทำหลุดมือ
ถ้วยข้าวเก่าใบนั้นหล่นแตกกระจายไม่มีชิ้นดี!!!!!

ลูกสะใภ้เห็นดังนั้น ก็ลุกขึ้น เตรียมจะด่าว่าอาม่าทันที แต่แล้ว..ลูกชายตัวน้อยของเธอ กลับรีบชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า
" ว้า..คุณย่าทำไมทำชามแตกซะเละหมดล่ะครับ นี่ผมอุตส่าห์ตั้งใจไว้ว่า..จะเก็บชามใบนี้ไว้ให้คุณแม่ผมใช้ต่อ
แล้วเนี่ยผมจะเอาชามเก่าที่ไหนมาให้คุณแม่ผมใช้ ตอนแกแก่เท่าคุณย่าล่ะครับ??"       

ลูกสะใภ้เมื่อได้ยินลูกชายพูดเช่นนี้ก็ถึงกับอึ้งงงงง....หน้าซีด ด่าไม่ออกอีกต่อไป
นางรู้สึกได้ทันทีว่า...ทุกสิ่งที่นางทำลงไปในวันนี้ย่อมจะเป็นตัวอย่าง ให้ลูกชายของนางปฏิบัติต่อนางในวันหน้าเมื่อนางแก่ตัวลงเช่นกัน
นางรู้สึกอับอายและสำนึกผิดต่อการกระทำของตัวเอง ตั้งแต่นั้นมาทุกคนในบ้านก็นั่งทานข้าวร่วมกันตลอดมา.

From forword mail

18
















ขอให้พี่น้องชาวบางพระทุกท่าน รักคุณแม่และคุณพ่อมากๆนะครับ 23;

19








อยู่ๆ ก็รู้สึกว่า....
คนเรายิ่งโตขึ้น....
... เพื่อนสนิท หรือ เพื่อนแท้....
ก็ค่อยๆ ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ
ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ก็เป็นกันเกือบทุกคน(ในวัยทำงาน แฮ่----แก่แล้วหง่ะ)
ที่สนิทจริงๆ ก็เป็นเพื่อนสมัยเรียนโรงเรียนโน่น
มหาลัยก็มีบ้าง.....
สมัยนี้เพื่อนแท้หายากก นะคะ
ใครมีอยู่ข้างๆ คุณคือเพื่อนที่โชคดีแล้วล่ะค่ะ...
 

20


:078:รูปแม่ วัตถุมงคลของหลวงปู่เปิ่น และรอยสักยันต์ของครูบาอาจารย์วัดบางพระ ที่ได้นำติดตัวไปดูงานที่ประเทศไต้หวันด้วย รู้สึกสบายใจอย่างยิ่ง
และสุดท้ายก็เดินกลับมาบ้านเราอย่างปลอดภัยครับ
:054:ขอระลึกถึงบิดามารดา ครูบาอาจารย์ หลวงปู่เปิ่น เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ และสิ่งศักสิทธ์ที่คุ้มครองให้เดินทางอย่างปลอดภัย
รูปภาพที่นำมาฝากนิดหน่อย (ไม่มีรูปหนุ่มๆสาวๆไต้หวันนะ) 11;






22
บางส่วนจากหนังสือ“มหัศจรรย์แห่งชีวิต ๗ หลักคิดจาก ว.วชิรเมธี” เป็นการตอบคำถาม 20 ข้อ ที่น่าสนใจมาก

๑. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน?
ไม่อยากให้เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ
 
๒. ไหว้พระขอพรอะไรดี?
(๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
(๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
(๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
(๔) ขออย่าให้ตายในสงครามระหว่างคนไทยด้วยกันเอง
 
๓. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดี?
ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ ส่วนปลาตาย มักไหลตามน้ำ ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข
 
๔. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน?
งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน
 
๕. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา?
โบราณว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว คุณถูกนินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์
ให้เห็นความบกพร่องของตัวเอง
 
๖. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี?
(๑) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง
(๒) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน
(๓) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ ไม่รักฉัน อย่าทำให้ฉันเสียเวลา

๗. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร?
เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น แต่เขาไม่สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้
 
๘. งานเยอะมากทำอย่างไรดี?
(๑) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ
(๒) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ
(๓) เรียงลำดับความสำคัญของงาน สำคัญก่อนให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ
 
๙. ทำงานดี มีแต่คนริษยา จะรับมืออย่างไร?
โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้
เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยา ยังดีกว่าทำงานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา
 
๑๐. ทำงานแทบตาย เงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี?
(๑) หางานใหม่
(๒) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก
(๓) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ
(๔) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอดจ่ายมากกว่ารับนับว่าแย่
 
๑๑. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย?
คนที่ด่าคนอื่นสะท้อนว่าระบบข้างใจกำลังพัง คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่า แสดงว่าระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย
 
๑๒. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม?
ถ้าไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ แต่หากไถ่เพื่อทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บาป แทนที่จะไถ่โคกระบือ
คุณควรไถ่ตัวเองให้พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า
 
๑๓. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน?
ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน ถึงเธอจะติดหนังเกาหลี ก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน
 
๑๔. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี?
จู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะเวียน ผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน
ลูกค้าจู้จี้ได้ แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ มีลูกค้าได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง
   
๑๕. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร?
(๑) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
(๒) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาจากใคร

๑๖. สวดมนต์บทไหนดี?
(๑) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น
(๒) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า จงเว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ
(๓) สวดสังฆคุณเพื่อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้ คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง

๑๗. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี?
(๑) เราควรมีธรรมะให้เขาดู
(๒) เราควรอยู่ให้เขาเห็น
(๓) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส เนื่องเพราะ หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด
 
๑๘. โดนขับรถปาดหน้า โมโหมาก?
(๑) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป
(๒) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย
(๓) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใคร เพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน
 
๑๙. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม?
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน
 
๒๐. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ?
ผู้รู้บอกว่า ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์ ดังนั้น ในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบอย่างแน่นอน
มองอย่างพินิจจะพบว่า ในดีมีเสีย ในเสียมีดี

23
วิธีใช้หนี้พ่อแม่ : ฉบับหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน

1.จงสร้างความดีให้กับตัวเอง
และนี่ก็เป็นการใช้หนี้ตัวเอง ตัวเราพ่อให้หัวใจ แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่ในตัวแล้ว จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน จะไปแสวงหาแม่ที่ไหน บางคนรังเกียจแม่ ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม พอตัวเองแก่ก็เลยถูกลูกหลานรังเกียจ จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อกันต่อไปอีก
 
2. ใครที่คุณแม่ล่วงลับไปแล้ว
ก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน และถ้าจะทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐาน แล้วอุทิศส่วนกุศลไป การทำเช่นนี้ถือว่าได้บุญมากที่สุด ทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับ

3. ผู้ใดก็ตาม
ที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้กลับไปหาแม่ ไปกราบเท้าขอพรจากท่าน จะได้มั่งมีศรีสุข ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่าน ก็นำเทียนแพไปกราบขออโหสิกรรม ล้างเท้าให้ท่านด้วย เป็นการขอขมาลาโทษฯ

4. ขอฝากท่านไว้ไปสอนลูกหลาน
อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก แค่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี จะทำมาหากินไม่ขึ้น เจ๊ง ท่านต้องแก้ปัญหาก่อนคือ ถอนคำพูด ไปขอสมาลาโทษเสีย แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่ ฯ

5. บางคนลืมพ่อลืมแม่

อย่าลืมนะการเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดี ขอบิณฑบาต สอนลูกหลานอย่าเถียงพ่อเถียงแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ ไม่อย่างนั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร ก้าวถอยหลังดำน้ำไม่โผล่ ฯ ท่านยกตัวอย่าง (เรื่องจริงนะจ๊ะ)

ตัวอย่าง ที่ 1
บ้านหนึ่งพ่อมีเมีย ๔ คน เมียหลวงบอกลูกว่าพ่อเจ้าไม่ดี ลูกก็ไปด่าพ่อว่าพ่อ
แล้วมาบวชวัดนี้ บวชแล้วเดี๋ยวเป็นโน่นเป็นนี่ จนจะกลายเป็นโรคประสาท
นี่แหละบวชก็ไม่ได้ผล หลวงพ่อก็ให้ไปถอนคำพูด และขอสมาลาโทษกับพ่อเขาก่อน แล้วกลับมานั่งกรรมฐานจึงได้ผล

(กรณีนี้ หลวงพ่อจะเตือนผู้เป็นลูกบ่อยๆไม่ให้ว่าพ่อ) แต่ให้เป็นเรื่องของแม่ที่จะแก้ปัญหานี้ ซึ่งหลวงพ่อสอนไว้แล้ว

ตัวอย่าง ที่ 2
เมื่อเร็วๆนี้ลูกฆ่าพ่อ แม่สงสารพามาเจริญกรรมฐานพอเข้าวัดมันร้อนไปหมด ปวดหัวเข้าไม่ได้นี่เวรกรรมตามสนอง ปิตุฆาต มาตุฆาต ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน ทำกรรมฐานไม่ได้แน่นอน ต้องหันรถกลับ นี่เรื่องจริงในวัดนี้ ฯ

6. คนที่มีบุญวาสนา จะกตัญญูกับพ่อแม่ คนเถียงพ่อเถียงแม่เอาดีไม่ได้
คนไม่พูดกับพ่อแม่ นั่งกรรมฐานร้อยปี ก็ไม่ได้อะไร? ถ้าไม่ขออโหสิกรรม ฯขออโหสิกรรม ที่คิดไม่ดีกับพ่อแม่  คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์ คิดไม่ดีกับพี่ๆน้องๆ
จะไม่เอาอีกแล้ว  เอาน้ำไปขันหนึ่ง เอาดอกมะลิโรย กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โยโทโส
อันว่าโทษทัณฑ์ใด  ความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไป ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอให้คุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย คุณพี่คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย แล้วเอาน้ำรดมือรดเท้า ฯ

นี่แหละ ท่านทั้งหลายเอ๋ย เป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่มากมาย ยังจะไปทวงนาทวงไร่ ทวงตึก มาเป็นของเราอีกหรือ  ตัวเองก็พึ่งตัวเองไม่ได้ สอนตัวเองไม่ได้ เป็นคนอัปรีย์จัญไรในโลกมนุษย์ไปทวงหนี้พ่อแม่ พ่อแม่ให้แล้ว   (ให้ชีวิต ให้…ให้… ให้….ฯลฯ ) เรียนสำเร็จแล้ว ยังช่วยตัวเองไม่ได้ มีหนี้ติดค้าง รับรองทำมาหากินไม่ขึ้น ฯ

หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่ เหลือจะนับประมาณ นั่นคือหนี้บุญคุณของบิดา มารดา

ตัวอย่าง ที่ 3
"หนามแหลมใครเสี้ยม มะนาวกลมเกลี้ยงใครไปกลึง"
เด็กประถม ๔ พ่อเมาเหล้า เมากัญชาเล่นการพนัน แม่เล่นหวย ปัจจุบันเป็นดอกเตอร์อยู่อเมริกา หลวงพ่อสอนครั้งเดียวจำได้
บอกวันเกิด หนูซื้อขนม ๒ ห่อ เรียกพ่อแม่มานั่งคู่กัน แล้วกราบนะลูกนะ
แล้วก็บอกพ่อแม่ว่า ความผิดอันใดที่ลูกพลั้งเผลอ ด้วยกาย วาจา ใจ ที่คิดไม่ดีต่อคุณพ่อคุณแม่
ขอให้คุณพ่อคุณแม่อโหสิกรรมให้ แล้วล้างเท้าให้พ่อแม่ ลูกไม่มีสตางค์ ลูกซื้อขนมมา ๒ ห่อ
ให้แม่ก่อน ๑ ห่อ เพราะอุ้มท้องมา แล้วจึงให้พ่ออีก ๑ ห่อ ลูกขอปฏิญาณตนว่า ลูกขอเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ แล้วจะเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ ลูกจะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง... พ่อฟังแล้วน้ำตาร่วงสร่างเมา ส่วนแม่ก็ร้องไห้เลย พ่อแม่ก็ให้สัญญากับลูกเลิกอบายมุขทั้งหมด

7. ลูกหลานโปรดจำไว้
เมื่อแยกครอบครัวไปมีสามีภรรยาแล้ว อย่าลืมไปหาพ่อแม่  ถึงวันว่างเมื่อไรต้องไปหาพ่อแม่
ถึงวันเกิดของลูกหลาน อย่าลืมเอาของไปให้พ่อแม่รับประทาน อย่ากินเหล้า เข้าโฮเต็ล

8. ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้เป็นมงคลนาม
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะชื่อเป็นเพียงนามสมมุติแทนตัวเรา อย่างหลวงพ่อชื่อจรัญ ปู่ตั้งให้ หมอดูบอกเป็นกาลกิณี แต่ทำไมเจริญรุ่งเรือง ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าทำดีได้ดี

9. ของดี ของ ปู่ ย่า ตา ยาย อย่าไปทำลายเลย
ของพ่อแม่อย่าไปทำลายนะ หนีได้แน่นอน โยมมีกรรมฐาน มีทรัพย์ มีชื่อเสียง ความรัก บูชาทรัพย์ บูชาชื่อเสียง ความรักของพ่อแม่ได้ เงินจะไหลนองทองจะไหลมา.........
พ่อแม่ให้อะไรเอาไว้ก่อน อย่าไปทำลายเสีย ถึงจะเป็นถ้วยพ่อแม่ให้มา ก็ไว้เป็นที่ระลึกก็ยังดีอย่าเอาไปทิ้งขว้าง ฯ

10. ถ้าต้องการเจริญก้าวหน้าขอฝากไว้ด้วย
คนเรามี ๒ ก้าว จะก้าวขึ้นหรือก้าวลงดำน้ำไม่โผล่ ก้าวลงมันง่ายดี ก้าวขึ้นมันต้องยาก ของชั่วมันง่าย หลั่งไหลไปตามที่ต่ำ
นี่บอกสอนลูกหลาน ต้องการจะบรรจุงานไม่ต้องไปวิ่งเต้น ดูลูกเสียก่อน กุศลเพียงพอหรือเปล่า ต้องเพิ่มกุศล

ตัวอย่างเรียนจบครู สวดมนตร์เข้าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นครู ทำงานธนาคารก็ได้ บริษัทก็ได้เดี๋ยวมีคนรับ  บางรายทั้งสอบทั้งสมัครหลายแห่งไม่เคยเรียกเลย อาตมาให้นั่งกรรมฐาน พอ ๗ วันผ่านไปพวกมาตามให้เข้าไปทำงานแล้ว

24
กรรมดี...ที่สร้างลักษณะทั้ง 32 ประการของพระพุทธเจ้า
                   พระพุทธเจ้ามีปกติตรัสเล่าเกี่ยวกับกรรมของพระองค์ เพื่อให้เป็นแบบอย่างอยู่แล้ว เมื่อจะแสดงเกี่ยวกับมหาบุรุษลักษณะก็เพื่อให้พวกเรารู้ว่าแม้รูปพรรณสัณฐาน แต่ละส่วนก็ได้มาโดยกรรม

                  ๑) ฝ่าพระบาทราบเสมอกัน ตั้งอยู่ได้มั่นคง คือทรงเหยียบพระบาทเสมอกันบนพื้น ทรงยกพระบาทขึ้นก็เสมอกัน ทรงจดภาคพื้นด้วยฝ่าพระบาททุกส่วนเสมอกัน
                 ข้อนี้คือวิบากจากการเป็น ผู้ถือความประพฤติมั่นคงในกุศลธรรม ไม่ย่อหย่อนในความสุจริตทางกายวาจาใจ ในการบำเพ็ญทาน ในการรักษาศีล ๕ และศีล ๘ ในการปฏิบัติดีต่อมารดาและบิดา ในการปฏิบัติดีต่อสมณะ ในการปฏิบัติดีต่อพราหมณ์ ในความเป็นผู้เคารพต่อผู้ควรเคารพเป็นอันมาก (คือมากกว่าชนทั่วไปอย่างเทียบกันอย่างไม่อาจประมาณ)
                  กรรมดังกล่าว นอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือถ้าเลือกเป็นราชามหาจักรพรรดิ์ จะทรงมีราชอาณาจักรมั่นคง มีพระราชโอรสจำนวนมากที่ล้วนเป็นผู้แกล้วกล้า สามารถย่ำยีเสนาแห่งปรปักษ์ได้โดยธรรม ไม่ต้องใช้อาชญา ไม่ต้องใช้ศาสตรา ไม่มีข้าศึกใดข่มได้

                  ๒) ลายพื้นพระบาทปรากฏเป็นรูปจักรจำนวนมาก มีซี่กำพันหนึ่ง มีกง มีดุมบริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง
ข้อ นี้คือวิบากจากการเป็นผู้นำความสุขมาให้แก่มหาชนเป็นอันมาก บรรเทาภัยร้ายที่ก่อให้เกิดความหวาดกลัวและความหวาดเสียว จัดการรักษาความปลอดภัยโดยธรรม และบำเพ็ญทานพร้อมด้วยวัตถุอันเป็นบริวาร
กรรม ดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะมีบริวารมาก ทั้งพราหมณ์ คฤหบดี ชาวนิคม ชาวชนบท โหราจารย์ มหาอำมาตย์ กองทหาร นายประตู ผู้มีอิทธิพล เศรษฐี ราชกุมาร

                  ๓) มีส้นพระบาทยาว ๔) มีนิ้วพระหัตถ์และพระบาทยาว และ ๕) พระกายตั้งตรงดุจท้าวมหาพรหม
                  สามข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้ละปาณาติบาตแล้ว เว้นขาดจากปาณาติบาต เป็นผู้ไม่จับอาวุธ มีความละอายในการเบียดเบียน มีความกรุณา หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวง
                 กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะมีพระชนมายุยืน ดำรงอยู่นาน ไม่มีใครๆ ที่เป็นมนุษย์ซึ่งเป็นข้าศึกศัตรูสามารถปลงพระชนม์ชีพได้

                 ๖) ฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอ่อนนุ่มและ ๗) ฝ่าพระหัตถ์และฝ่าบาทมีลายดุจตาข่าย
               สองข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้สงเคราะห์ประชาชน ได้แก่การให้ทาน การกล่าวคำเป็นที่รัก การประพฤติให้เป็นประโยชน์ และความเป็นผู้ไม่ถือตัว
               กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะมีบริวารมาก ทั้งพราหมณ์ คฤหบดี ชาวนิคม ชาวชนบท โหราจารย์ มหาอำมาตย์ กองทหาร นายประตู ผู้มีอิทธิพล เศรษฐี ราชกุมาร

                ๘) มีพระบาทเหมือนสังข์คว่ำ อัฐิข้อพระบาทตั้งลอยอยู่หลังพระบาท กลับกลอกได้คล่อง เมื่อทรงดำเนินผิดกว่าสามัญชน และ ๙) มีปลายพระโลมชาติ (ขน) ทุกๆเส้นเวียนขวาเส้นช้อนขึ้นข้างบนล้วน

                 สองข้อนี้คือวิบากจากการ เป็นผู้กล่าววาจาประกอบด้วยอรรถธรรม แนะนำประชาชนเป็นอันมากไปในทางดี เป็นผู้นำประโยชน์และความสุขมาให้แก่สัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้บูชาธรรมเป็นปกติ
                  กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะเป็นประธานสูงสุด ดีกว่าหมู่ชนที่บริโภคกามทั้งปวง

               ๑๐) พระชงฆ์ (แข้ง) เรียวดุจแข้งเนื้อทราย คือเรียวไปโดยลำดับ
                ข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้ตั้งใจสอนศิลปะวิชา ข้อที่ควรประพฤติ หลักกรรมวิบาก ด้วยความครุ่นคิดว่าทำอย่างไรชนทั้งพึงรู้เร็ว พึงสำเร็จเร็ว ไม่พึงลำบากนาน
                กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะได้เฉพาะซึ่งพาหนะที่ยิ่งใหญ่เช่นช้างเผือกคู่บารมี

              ๑๑) ส่วนพระกายเป็นปริมณฑลดุจปริมณฑลแห่งต้นไทร (พระกายสูงเท่ากับวาของพระองค์) และ ๑๒) เมื่อยืนตรง พระหัตถ์ทั้งสองสามารถลูบจับถึงพระชานุ (เข่า)
              สองข้อนี้คือวิบากจาก การเป็นผู้ตรวจดูมหาชนที่ควรสงเคราะห์ ย่อมรู้จักชนที่เสมอกัน รู้จักตนเอง รู้จักบุรุษ รู้จักบุรุษพิเศษ หยั่งทราบว่าผู้นั้นควรสักการะอย่างนี้ บุคคลผู้นี้ควรสักการะอย่างนั้น รวมทั้งเกื้อกูลพวกท่านเป็นพิเศษ
               กรรม ดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะได้เป็นผู้มั่งคั่งมีทรัพย์มาก มีโภคะมาก มีทองและเงินมาก มีข้าวเปลือกมาก มีคลังเต็มบริบูรณ์ มีเครื่องอุปกรณ์น่าปลื้มใจมาก

               ๑๓) มีพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก
               ข้อ นี้คือวิบากจากการเป็นผู้นำพวกญาติมิตรสหายที่สูญหายพลัดพรากไปนานให้ กลับมาพบกัน เมื่อทำพวกเขาให้พร้อมเพรียงกันแล้วก็ชื่นชมยินดีปรีดาอยู่ วิบากของกรรมทำให้เกิดลักษณะของมหาบุรุษคือมีพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก
               กรรม ดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะมีพระโอรสมาก ล้วนกล้าหาญและมีรูปทรงสมเป็นวีรกษัตริย์ สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้

               ๑๔) พระฉวี (ผิวกาย) ละเอียด ธุลีละอองไม่ติดพระกาย
               ข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้เข้าหาสมณะหรือพราหมณ์แล้วซักถาม (ด้วยความเคารพและน้อมนำไปปฏิบัติ) ว่ากุศลกรรมเป็นอย่างไร อกุศลกรรมเป็นอย่างไร กรรมส่วนที่มีโทษเป็นอย่างไร กรรมส่วนที่ไม่มีโทษเป็นอย่างไร กรรมที่ควรเสพเป็นอย่างไร กรรมที่ไม่ควรเสพเป็นอย่างไร วิบากของกรรมทำให้เกิดลักษณะของมหาบุรุษคือมีพระฉวี (ผิวกาย) สุขุมละเอียด ธุลีละอองไม่อาจติดกายได้
                กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะมีปัญญามาก ไม่มีบรรดาชนผู้บริโภคกรรมใดมีปัญญาเสมอหรือประเสริฐกว่าพระองค์

               ๑๕) มีฉวีวรรณ (สีผิว) ประดุจทองคำ

               ข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้ไม่มีความโกรธ ไม่มีความแค้นใจ แม้ถูกคนหมู่มากว่าเอาก็ไม่ขัดใจ ไม่ปองร้าย ไม่จองเวรล้างผลาญ ไม่แม้ทำความโกรธเคืองและความเสียใจให้ปรากฎ นอกจากนั้นยังมีกรรมที่ให้ผลเป็นผิวประดุจทองอื่นอีก คือเป็นผู้ให้เครื่องปูหลังสัตว์มีเนื้อละเอียดอ่อน และให้ผ้า สำหรับนุ่งห่ม คือ ผ้าโขมพัสตร์มีเนื้อละเอียด ผ้าฝ้ายมีเนื้อ
               กรรม ดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะได้เครื่องลาดมีเนื้อละเอียดอ่อน ทั้งได้ผ้าสำหรับนุ่งห่ม เช่นผ้าโขมพัสตร์เนื้อละเอียด ผ้าฝ้ายเนื้อละเอียด ผ้าไหมเนื้อละเอียด ผ้ากัมพลเนื้อละเอียด เป็นต้น (หมายถึงถ้าเป็นกษัตริย์จะทรงอยู่ในถิ่นที่มีช่างผู้ฉลาดในทางภูษาอาภรณ์ และทั้งชีวิตจะไม่ขาดจากเครื่องนุ่งห่มชั้นเลิศ มีความประณีตยิ่ง เข้ากันกับผิวอันงามประดุจทองคำของพระองค์ แต่ถ้าทรงผนวชและเลือกที่จะมักน้อยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง บางครั้งเมื่อมีคนถวายจีวรชั้นดีท่านก็สนองศรัทธา แต่โดยมากท่านจะเป็นอยู่ด้วยจีวรปอนๆ)

              ๑๖) มีเส้นพระโลมา (ขน) เฉพาะขุมละเส้น และ ๑๗) มีอุณาโลม (ขนหว่างคิ้ว) เวียนขวา
               สองข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้ละการพูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดเท็จ พูดแต่คำจริง ดำรงคำสัตย์มีถ้อยคำเป็นหลักเป็นฐานควรเชื่อได้ ไม่พูดลวงโลก
               กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะมีมหาชนยกย่องและยึดถือเป็นแบบอ ย่าง เป็นบุคคลในอุดมคติ

              ๑๘) มีพระมังสะ (เนื้อ) อูมเต็มในที่ ๗ แห่ง คือหลังพระหัตถ์ทั้ง ๒ หลังพระบาททั้ง ๒ พระอังสา (บ่า) ทั้ง ๒ กับลำพระศอ (คอ)
               ข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้ให้ของที่ควรเคี้ยว และของที่ควรบริโภคอันประณีต และมีรสอร่อย รวมทั้งให้น้ำที่ควรซด ควรดื่ม
              กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะได้ของที่ควรเคี้ยวและของที่ควร บริโภคอันประณีต มีรสอร่อย และได้น้ำที่ควรซด ควรดื่ม

             ๑๙) มีส่วนพระสรีรกายบริบูรณ์ ล่ำพีดุจกึ่งท่อนหน้าแห่งพญาราชสีห์

             ๒๐) พระปฤษฎางค์ (ส่วนหลัง) ราบเต็มเสมอกัน

              ๒๑) มีลำพระศอ (คอ) กลมงามเสมอตลอด
                 สามข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้หวังประโยชน์ หวังความเกื้อกูล หวังความผาสุก หวังความเกษมจากโยคะ แก่ชนเป็นอันมาก ด้วยความคิดว่าทำอย่างไรชนเหล่านี้พึงเจริญด้วยศรัทธา เจริญด้วยสละออก เจริญด้วยศีล เจริญด้วยการฟังสาระธรรม เจริญด้วยการเป็นผู้รู้แจ้งตื่นจากการหลับไหล เจริญด้วยปัญญา เจริญด้วยโภคทรัพย์ เจริญด้วยบุตรและภรรยา เจริญด้วยทาสและกรรมกร เจริญด้วยญาติ เจริญด้วยมิตร เจริญด้วยพวกพ้อง
                  กรรมดังกล่าวนอกจาก ตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะมีความไม่เสื่อมเป็นธรรมดาจาก ทรัพย์ บุตรภรรยา ญาติมิตร และบริวาร

                 ๒๒) มีเส้นประสาทสำหรับรับรสพระกระยาหารอันดี มีปลายในเบื้องบนประชุมอยู่ที่ลำพระศอ สำหรับนำรสอาหารแผ่ซ่านไปสม่ำเสมอทั่วพระกาย
                  ข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้ไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายด้วยฝ่ามือ ก้อนดิน ท่อนไม้ หรือศาสตรา
                กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะมีพระโรคาพาธน้อย สมบูรณ์ด้วยธาตุไฟ (ความเผาผลาญ) อันยังอาหารให้ย่อยดีไม่เย็นนัก ไม่ร้อนนัก

                 ๒๓) มีพระหนุ (คาง) ดุจคางแห่งราชสีห์ (โค้งเหมือนวงพระจันทร์)
                 ข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้ละคำเพ้อเจ้อ เว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ พูดถูกกาล พูดแต่คำที่เป็นจริง พูดอิงอรรถ พูดอิงธรรม พูดอิงวินัย พูดแต่คำมีหลักฐาน มีที่อ้าง มีที่กำหนด ประกอบประโยชน์โดยกาลอันควร
                  กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะไม่มีใครๆที่เป็นข้าศึกศัตรูกำจัดได้

๒๔) มีพระทนต์ (ฟัน) ๔๐ ซี่ (ข้างละ ๒๐ ซี่) และ ๒๕) พระทนต์ชิดสนิทมิได้ห่าง
                 สองข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้ละคำส่อเสียด เว้นขาดจากคำส่อเสียด ฟังจากข้างนี้แล้วไม่ไปบอกข้างโน้น ไม่ประสงค์ยุแยงตะแคงรั่วให้คนเขาแตกคอกัน ตรงข้ามพยายามพูดสมานสามัคคี ทำให้คนที่เขาแตกร้าวกันกลับมาคืนดีกัน มีความเพลิดเพลินยินดีในการเห็นผู้คนปรองดองกัน กล่าวแต่คำที่ทำให้ใครต่อใครปรองดองกัน
                 กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่ง อวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะมีบริษัทส่วนใหญ่จะไม่แตกคอกัน (คือไม่เป็นฝักเป็นฝ่าย ไม่ตั้งก๊กตั้งป้อมโจมตีกันจนเสียความเป็นปึกแผ่น เสียความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจนกระทั่งพระราชบัลลังก์คลอนแคลนได้)

                ๒๖) พระทนต์เรียบเสมอกัน และ ๒๗) เขี้ยวพระทนต์ทั้ง ๔ ขาวงามบริสุทธิ์
                สองข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้ละอาชีพทุจริตแล้ว สำเร็จความเป็นอยู่ด้วยอาชีพสุจริต เว้นขาดจากการโกงด้วยตาชั่ง การโกงด้วยของปลอม การโกงด้วยเครื่องตวงวัด การโกงด้วยการรับสินบน การหลอกลวง การทำตลบตะแลง เว้นขาดจากการตัด การฆ่าการจองจำ การตีชิง การปล้นและการกรรโชกขู่เอาทรัพย์ผู้อื่น (ข้อนี้ต้องดูว่าบางชาติอาจยากจนข้นแค้น แต่แม้จนตรอกขนาดไหน มีใครชักชวนอย่างไรก็ห้ามใจไว้ ไม่ประพฤติผิดแม้มีกำลังมากพอที่จะทำได้)
                 กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะมีบริวารสะอาดปราศจากมลทิน

                 ๒๘) พระชิวหา (ลิ้น) อ่อนและยาว (อาจแผ่ปกหน้าผากได้) และ ๒๙) พระสุรเสียงยิ่งใหญ่ดุจท้าวมหาพรหม ทว่ายามตรัสมีสำเนียงเพราะพริ้งราวกับนกการเวก
                 สองข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้ละคำหยาบ เว้นขาดจากคำหยาบ กล่าวแต่คำที่ไม่มีโทษ เสนาะเพราะโสตจับใจ ชวนให้รัก คนส่วนใหญ่พึงใจ
                  กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะมีพระวาจาอันมหาชนพึงเชื่อถือ

                 ๓๐) พระเนตร (ตา) ดำสนิท และ ๓๑) ดวงพระเนตรแจ่มใสดุจตาลูกโคเพิ่งคลอด
                 สองข้อนี้คือวิบากจากการเป็นผู้ไม่ถลึงตาดู ไม่ค้อนตาดู ไม่ชำเลืองตาดูใครๆด้วยอำนาจความโกรธ เป็นผู้ตรง มีใจตรงเป็นปรกติ แลดูใครๆตรงๆด้วยดวงตาทอแววรักใคร่เมตตา วิบากของกรรมทำให้เกิดลักษณะของมหาบุรุษคือมีพระเนตร (ตา) สีดำสนิทและงามดุจประกายตาแห่งโค
                  กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะเป็นผู้ที่อันมหาชนเห็นแล้วเคารพรัก

                 ๓๒) มีพระเศียร (ศีรษะ) งามบริบูรณ์ดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์
                  ข้อนี้คือวิบากจากการเป็นหัวหน้าของมหาชนในธรรมทั้งหลายที่เป็นฝ่ายกุศล เป็นประธานของมหาชนด้วยกายสุจริต ด้วยวจีสุจริต ด้วยมโนสุจริต ในการบำเพ็ญทาน ในการตั้งใจรักษาศีล ๕ และศีล ๘ ในความเป็นผู้ปฏิบัติดีต่อมารดาและบิดา ในความเป็นผู้ปฏิบัติดีต่อสมณะ ในความปฏิบัติดีต่อพราหมณ์ ในความเคารพต่อผู้หลักผู้ใหญ่ในสกุล รวมทั้งเป็นผู้นำในธรรมเป็นมหากุศลอื่น ๆ
                  กรรมดังกล่าวนอกจากตกแต่งอวัยวะแล้ว ยังส่งผลกับวิถีชีวิตคือเมื่อเป็นพระราชาจะเป็นผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือจากมหาชนอย่างล้นหลาม

ข้อมูลจาก  ไทยโพส.com

25
ศึกษา พระเครื่องยอดนิยม เบื้องต้น

เนื่องจากพระเครื่องมีจำนวนมากมายการศึกษาพระเครื่องในขั้นพื้นฐานนี้จึงเสนอเฉพาะพระประเภทที่ได้รับความนิยมสะสม รวมทั้งเป็นพระยอดนิยมในหมู่ผู้สนใจและรู้จักแพร่หลาย สามารถแบ่งได้ดังนี้
 
1. ประเภทพระเบญจภาคี ประกอบด้วย 5 ชุด ดังนี้
   1.1 ชุดพระสมเด็จ
ซึ่งมีพระในชุดเดียวกันเป็น 3 หมวด คือ หมวดพระสมเด็จวัดระฆัง หมวดพระสมเด็จบางขุนพรหม หมวดพระสมเด็จเกศไชโย ดังนี้
1) หมวดพระสมเด็จวัดระฆัง ประกอบด้วย
1 พระพิมพ์ใหญ่ หรือ พระพิมพ์พระประธาน
2 พระพิมพ์เจดีย์
3 พระพิมพ์เกศบัวตูม
4 พระพิมพ์ฐานแซม
   2) หมวดพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม ประกอบด้วย
      1 พระพิมพ์ใหญ่ หรือ พระพิมพ์พระประธาน
      2 พระพิมพ์เส้นด้าย
      3 พระพิมพ์ทรงเจดีย์
      4 พระพิมพ์เกศบัวตูม
      5 พระพิมพ์ฐานแซม
      6 พระพิมพ์สังฆาฏิ ซึ่งมีการแบ่งเป็นพิมพ์สังฆาฏิมีหูหรือสังฆาฏิหูช้างและพิมพ์สังฆาฏิไม่มีหู
      7 พระพิมพ์ฐานคู่
      8 พระพิมพ์อกครฑ
      9 พระพิมพ์ปรกโพธิ์
   3) หมวดพระสมเด็จเกศไชโย ประกอบด้วย
      1 พระพิมพ์ 7 ชั้น นิยม
      2 พระพิมพ์ 7 ชั้น หูประบ่า
      3 พระพิมพ์ 6 ชั้น อกตัน
      4 พระพิมพ์ 6 ชั้น อกตลอด
   นอกจากพระพิมพ์นิยมเป็นสากลที่กล่าวมาแล้ว ยังมีพระพิมพ์อื่นๆปรากฎให้พบเห็น หากแต่มีจำนวนน้อยมาก ความนิยมจึงไม่แพร่หลายและเป็นสากล
 
   1.2 ชุดพระนางพญา ประกอบไปด้วยพิมพ์นิยมเป็นสากลดังนี้
1) พระนางพญา พิมพ์เข่าโค้ง
2) พระนางพญา พิมพ์เข่าตรง มือไม่ตกเข่า
3) พระนางพญา พิมพ์เข่าตรง มือตกเข่า
4) พระนางพญา พิมพ์อกนูนใหญ่
5) พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ
6) พระนางพญา พิมพ์เทวดา
7) พระนางพญา พิมพ์อกนูนเล็ก
นอกจากนี้ยังพบพระพิมพ์อื่นๆอีก แต่มีจำนวนน้อย ความนิยมจึงลดน้อยกว่าพระพิมพ์นิยมอย่างสากล
 
1.3 ชุดพระผงสุพรรณ ประกอบไปด้วยพระพิมพ์สากลนิยม 3 พิมพ์ คือ
1) พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่
2) พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้ากลาง
3) พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าหนุ่ม
นอกจากนี้ มีการพบพระผงสุพรรณซึ่งสร้างจากวัสดุอื่นนอกจากพระที่นิยมเป็นสากล
 
1.4 ชุดพระซุ้มกอ  ประกอบไปด้วยพระพิมพ์ที่ได้รับความนิยมเป็นสากล ดังนี้
1) พระซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ มีกนก
2) พระซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ ไม่มีกนก หรือ พระซุ้มกอดำ
3) พระซุ้มกอ พิมพ์กลาง
4) พระซุ้มกอ พิมพ์เล็ก
5) พระซุ้มกอ พิมพ์ขนมเปี๊ยะ
นอกจากนี้ ยังมีพระในกรุลานทุ่งเศรษฐีที่ได้รับความนิยม บรรจุใน พระชุดเบญจภาคี หมวดเดียวกับพระซุ้มกอ มาใช้ทดแทนกันได้
 
1.5 ชุดพระรอด พระกอบด้วยพระยอดนิยม 5 พิมพ์ ดังนี้
1) พระรอด พิมพ์ใหญ่
2) พระรอด พิมพ์กลาง
3) พระรอด พิมพ์เล็ก
4) พระรอด พิมพ์ตื้น
5) พระรอด พิมพ์ต้อ
 
2. ประเภทพระเนื้อดินยอดนิยม เนื่องจากพระชุดเนื้อดินถูกพบเป็นจำนวนมากทั่วภูมิภาคของประเทศ เพื่อให้ง่าย และสะดวกในการศึกษา จึงมีการจำแนกพระเนื้อดินออกเป็น 2 ชุด คือชุดพระเนื้อดินยอดนิยม และชุดพระเนื้อดินทั่วไป ในเบื้องต้น จะขอให้ศึกษาเรียนรู้รายละเอียดในส่วนของชุดพระเนื้อดินยอดนิยมก่อน ด้วยความสำคัญอันมีผลต่อภาพรวมของประเทศ
   ซึ่งในพระชุดเนื้อดินยอดนิยมนี้ได้แบ่งออกเป็นหมวดๆ โดยยึดเอาพื้นที่พบพระจากจังหวัดต่างๆเป็นเกณฑ์การแบ่งแยก ดังนี้
   2.1 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่
      1) พระขุนแผนเคลือบ วัดใหญ่ชัยมงคล
      2) พระกริ่งคลองตะเคียน
      3) พระวัดตะไกร
      4) พระขุนแผนใบพุทธา
   2.2 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม จังหวัดสุพรรณบุรี ได้แก่
      1) พระขุนแผนบ้านกร่าง
      2) พระขุนแผนวัดพระรูป
      3) พระถ้ำเสือ เขาดีสลัก,กรุถ้ำเสือ,กรุวัดหลวง
      4) พระกรุวัดสำปะซิว
   2.3 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม จังหวัดลพบุรี ได้แก่
      1) พระหลวงพ่อจุก กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
      2) พระหลวงพ่อหมอ
      3) พระยอดขุนผล วัดไก่
      4) พระยอดขุนพล วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
      5) พระเดี่ยวดำ-เดี่ยวแดง
   2.4 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม จังหวัดนครสวรรค์ ได้แก่
      1) พระซุ้มโพธิ์ กรุดงแม่นางเมือง
   2.5 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม จังหวัดกำแพงเพชร ได้แก่
      1) พระกลีบจำปา
      2) พระเปิดโลก
      3) พระกำแพงเปิดโลก (พระเม็ดทองหลาง)
      4) พระกลีบบัว
      5) พระเม็ดมะลื่น
      6) พระเม็ดมะเคล็ด
      7) พระยอดขุนพล
      8) พระนางพญา กำแพงเพชร
      9) พระเม็ดน้อยหน่า
              10) พระกรุวัดเชตุพน
   2.6 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม จังหวัดสุโขทัย ได้แก่
      1) พระนางพญาท่ามะปราง กรุวัดมหาธาตุ
      2) พระนางพญาเสน่ห์จันทร์ กรุตาเถรขึงหนัง
      3) พระปางเปิดโลก กรุเตาทุเรียง
      4) พระลีลาถ้ำหีบ กรุวัดถ้ำหีบ
      5) พระแม่ย่า กรุวัดเขาแม่ย่า
      6) พระลีลากล้วยตาก กรุวัดเขาพนมเพลิง
      7) พระกรุวัดเชตุพน
      8) พระกรุวัดป่ามะม่วง
      9) พระกรุวัดสระศรี
              10) พระร่วงซุ้มระฆัง
   2.7 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม จังหวัดพิษณุโลก ได้แก่
      1) พระนางพญาท่ามะปราง
      2) พระนางพญาวัดใหญ่
      3) พระนางพญา กรุวัดสุดสวาท
      4) พระวัดจุฬามณี
      5) พระนางพญา กรุโรงทอ วัดโพธิญาณ
      6) พระหลวงพ่อโต วัดชีปะขาว
      7) พระซุ้มอรัญญิก กรุวัดอรัญญิก
      8) พระซุ้มเส้นคู่ กรุโรงทอ
   2.8 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม จังหวัดแพร่ ได้แก่
      1) พระยอดขุนพล กรุวัดบ้านปิ่น
   2.9 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม จังหวัดลำพูน ได้แก่
      1) พระคง
      2) พระเปิม
      3) พระบาง
      4) พระลือโขง
      5) พระสาม
      6) พระกว่าง
      7) พระเลี่ยง
      8) พระลบ
      9) พระป่วย
              10) พระลือหน้ามงคล
   2.10 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่
      1) พระสามหอม
      2) พระรอดหัวข่วง
      3) พระซาวแปด
   2.11 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม ภาคอีสาน ได้แก่
      1) พระกรุนาดูน
      2) พระกรุบังไพร
   2.12 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่
      1) พระกรุวัดนางตรา
      2) พระกรุท่าเรือ
   2.13 หมวดพระเนื้อดินยอดนิยม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่
      1) พระเม็ดกระดุม
      2) พระกำแพง
 
3. ประเภทเนื้อชิน พระเนื้อชินนับเป็นพระเครื่องที่มีอายุความเก่าโดยประมาณ 500 ปี เป็นพระที่มีความหลากหลายทางพุทธศิลป์ และพบได้ทั่วไป ทุกภูมิภาคของประเทศ เป็นพระที่พบเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ถูกบรรจุกรุ จึงมีธรรมชาติที่น่าศึกษาและอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง การจำแนกพระเนื้อชินเพื่อสะดวกในการศึกษาได้แบ่งเป็น 2 ชุด คือ พระชุดเนื้อชินยอดนิยม และพระชุดเนื้อชินทั่วไป
   พระชุดเนื้อชินยอดนิยม ซึ่งแบ่งเป็นหมวด ดังนี้
   3.1 หมวดพระเนื้อชินยอดนิยม จังหวัดลพบุรี ได้แก่
      1) พระร่วงยืน หลังลายผ้า เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
      2) พระนาคปรก กรุวัดปืน เนื้อชินเงิน
      3) พระนาคปรก กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เนื้อชินเงิน
      4) พระร่วงยืน กรุถ้ำมหาเถร เนื้อชินเงิน
      5) พระยอดขุนพล เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
      6) พระยอดขุนพล เนื้อชินเงิน กรุวัดไก่
      7) พระเทริดขนนก เนื้อชินเงิน กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
      8) พระหลวงพ่อพัด เนื้อชินเงิน
      9) พระร่วงนั่ง กรุม่วงค่อม เนื้อตะกั่วสนิมแดง
   3.2 หมวดพระเนื้อชินยอดนิยม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่
      1) พระปรุหนัง พิมพ์บัวเบ็ด เนื้อชินเงิน กรุวัดมหาธาตุ
      2) พระยอดขุนพล เนื้อชินเงิน กรุวัดราชบูรณะ
      3) พระนาคปรก เนื้อชินเงิน กรุวัดพะงั่ว
      4) พระหูยาน เนื้อชินเงิน กรุวัดราชบูรณะ
   3.3 หมวดพระเนื้อชินยอดนิยม จังหวัดสุโขทัย ได้แก่
      1) พระร่วงนั่งหลังลิ่ม เนื้อชินเงิน กรุวัดช้างล้อม
      2) พระร่วงยืนทรงเกราะ เนื้อชินเขียว กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
   3.4 หมวดพระเนื้อชินยอดนิยม จังหวัดกำแพงเพชร ได้แก่
      1) พระลีลา กำแพงขาว เนื้อชินเงิน กรุวัดบรมธาตุ วัดอาวาสน้อย
      2) พระลีลา เชยคาง ข้างเม็ด เนื้อชินเงิน กรุวัดอาวาสน้อย
      3) พระท่ามะปราง เนื้อชินเงิน กรุวัดอาวาสน้อย
   3.5 หมวดพระเนื้อชินยอดนิยม จังหวัดพิษณุโลก ได้แก่
      1) พระลีลา เนื้อชินเงิน กรุวัดวังหิน
      2) พระอัฏฐารถ เนื้อชินเขียว กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
      3) พระท่ามะปราง เนื้อชินเงิน กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ-กรุวัดท่ามะปราง
   3.6 หมวดพระเนื้อชินยอดนิยม จังหวัดชัยนาท ได้แก่
      1) พระหลวงพ่อพัด เนื้อชินเงิน กรุสรรคบุรี
      2) พระลีลา เนื้อชินเงิน กรุสรรคบุรี (พระสรรคยืน)
   3.7 หมวดพระเนื้อชินยอดนิยม จังหวัดนครปฐม ได้แก่
      1) พระร่วงนั่ง พิมพ์รัศมี เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุวัดกลาง
   3.8 หมวดพระเนื้อชินยอดนิยม จังหวัดเพชรบุรี ได้แก่
      1) พระเทริดขนนก เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุเสมาสามชั้น
   3.9 หมวดพระเนื้อชินยอดนิยม จังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่
      1) พระร่วงยืน เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุวัดถ้ำเขาพุพระ
   3.10 หมวดพระเนื้อชินยอดนิยม จังหวัดพิจิตร ได้แก่
      1) พระพิจิตร เม็ดข้าวเม่า เนื้อชินเงิน กรุวัดมหาธาตุ
   3.11 หมวดพระเนื้อชินยอดนิยม จังหวัดสุพรรณบุรี ได้แก่
      1) พระนาคปรก เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุวัดลาวทอง
      2) พระร่วงยืน เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุวัดหนองแจง
   3.12 หมวดพระเนื้อชินยอดนิยม จังหวัดสิงห์บุรี ได้แก่
      1) พระร่วงยืน เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุวัดศรีโสฬส
 
4. ประเภทพระเนื้อผงยอดนิยม พระเนื้อผงนับเป็นพระที่มีการสร้างในยุคหลัง ซึ่งสร้างโดยพระคณาจารย์โบราณในอดีตผู้เรืองพระเวทย์วิทยาคุณเป็นส่วนใหญ่ มีสร้างกันมาอย่างต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น แม้กระทั่งในปัจจบันก็ยังยึดแนวทางปฏิบัติสืบต่อกันมา จนเกิดมีพระเนื้อผงขึ้นมากมาย หากแต่พระที่ได้รับความนิยมเป็นสากล มีการแบ่งเป็น พระชุดเนื้อผงยอดนิยม และ พระชุดเนื้อผงทั่วไป
   โดยจะกล่าวเฉพาะเนื้อผงยอดนิยม พระเนื้อผงยอดนิยมแบ่งเป็น 2 หมวดดังนี้
   4.1 หมวดพระเนื้อผงยอดนิยมประจำ จังหวัดกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล ได้แก่
      1) พระสมเด็จอรหัง วัดมหาธาตุ
      2) พระวัดรังษี วัดรังษีสุทธาวาส
      3) พระผงวัดพลับ วัดราชสิทธาราม
      4) พระวัดสามปลื้ม กรุงเทพมหานคร
      5) พระผงพระพุทธบาทปิลันทน์ วัดระฆังโฆสิตาราม
      6) พระวัดท้ายตลาด วัดโมลีโลกยาราม
      7) พระหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร
      8) พระเพชรหลีก วัดใต้
      9) พระบึงพระยาสุเรนทร์ วัดพระยาสุเรนทร์
              10) พระวัดเงิน คลองเตย
              11) พระผงของขวัญ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
              12) พระสมเด็จ กรุเจดีย์เล็ก วัดใหม่อมตรส
              13) พระผงของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เจริญ วัดเทพศิรินทร์
              14) พระขรัวอีโต้ วัดเลียบ
              15) พระผงหลวงปู่เผื่อก วัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ
   เนื่องจากกรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่เป็นต้นกำเนิดของพระประเภทพระเนื้อผง ทั้งมีการสืบสานการสร้างพระประเภทนี้มาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่นิยมแพร่หลายมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ทำให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางของพระประเภทเนื้อผง และปรากฏพระยอดนิยมประเภทนี้มากที่สุดในประเทศไทย นอกเหนือจากนี้จะมีเพียงประปรายในบางจังหวัด จึงเห็นสมควรที่จะแบ่งเป็น 2 หมวดใหญ่ ดังที่กล่าวมา
   4.2 หมวดพระเนื้อผงยอดนิยมจังหวัดต่างๆ
      1) พระหลวงพ่อปั้น วัดสะพานสูง จังหวัดนนทบุรี
      2) พระวัดเฉลิม จังหวัดนนทบุรี
      3) พระหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก กรุงเทพมหานคร
      4) พระหลวงพ่อหม่น คลอง 12 จังหวัดปทุมธานี
      5) พระกรุวัดอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
      6) พระวัดปากบาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
      7) พระวัดทับเข้า จังหวัดสุโขทัย
 
5. ประเภทพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ และรูปหล่อยอดนิยม สำหรับพรกริ่ง-พระชัยวัฒน์และรูปหล่อยอดนิยม ถือเป็นการสร้างพระที่มีคตินิยมมาจากการจำลองพระพุทธรูปที่สำคัญศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนพระคณาจารย์ผู้เลิศทั้งวัตรปฏิปทา ปฏิบัติดีงามจนเป็นที่ยอมรับนับถือ มาเป็นองค์พระขนาดเล็ก ไว้พกติดตัว หรือไว้ประจำบ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนมากจะสร้างจากเนื้อโลหะต่างๆ ขึ้นรูปแบบลอยองค์สำหรับพระเครื่องประเภทนี้ แบ่งเป็น 2 ชุด คือ 5.1 ชุดพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์
   5.2 ชุดรูปหล่อ ยอดนิยม
   โดยแต่ละชุด แยกเป็น 2 หมวด คือ หมวดพระยอดนิยม และหมวดพระทั่วไป ซึ่งในที่นี้จะกล่าวเฉพาะชุดพระยอดนิยม  คือ
   5.1 หมวดพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ยอดนิยม ได้แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
   5.1.1 พระกริ่งนอก (หมายถึง พระกริ่งนอกประเทศ หรือสร้างจากประเทศอื่น ไม่ได้สร้างในประเทศไทย) พระที่ได้รับความนิยมมีดังนี้
      1) พระกริ่งจีนใหญ่
      2) พระกริ่งบาเก็ง
      3) พระกริ่งหนองแส
      4) พระกริ่งพัทรีตีอ๋อง
      5) พระกริ่งตั๊กแตน
   5.1.2  พระกริ่งที่สร้างจากวัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพมหานคร ได้แก่
      1) พระกริ่งที่สร้างโดยเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช (แพ)
      2) พระกริ่งที่สร้างโดยท่านเจ้าคุณศรี (สนธิ์)
   5.1.3 พระกริ่งที่สร้างจากวัดบวรนิเวศวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ได้แก่
      1) พระกริ่งปวเรศ
      2) พระกริ่งไพรีพินาศ
   5.1.4 พระกริ่งที่สร้างโดยหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง ได้แก่
      1) พระกริ่งชินบัญชร
 
   5.2 หมวดพระรูปหล่อยอดนิยม ประกอบด้วย
      1) พระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร
      2) พระรูปหล่อหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์
      3) พระรูปหล่อหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จังหวัดนครสวรรค์
      4) พระรูปหล่อหลวงพ่อทองสุข วัดโพธิ์ทรายทอง จังหวัดบุรีรัมย์
      5) พระรูปหล่อหลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ จังหวัดสระบุรี
      6) พระรูปหล่อหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี ได้แก่ รุ่นก้นลายเซ็นต์ และรุ่นเบตง
      7) พระรูปหล่อท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม กรุงเทพมหานคร
      8) พระรูปหล่อหลวงพ่อทบ วัดชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์
      9) พระรูปหล่อหลวงพ่อเขียน วัดถ้ำขุนเณร จังหวัดพิจิตร
 
6. ประเภทเหรียญยอดนิยม วัตถุมงคลประเภทเหรียญ เริ่มมีครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือเป็นการจำลองสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูป พระคณาจารย์ตลอดจนผู้ที่ควรเคารพ นำมาแกะลวดลายทำแม่พิมพ์ เพื่อการปั๊ม หรือ หล่อลงในแผ่นโลหะให้ปรากฎรูปที่ต้องการ
   จากการศึกษาพบว่า พระเครื่องประเภทเหรียญนี้ จะให้ข้อมูลการศึกษาได้ละเอียดถี่ถ้วนที่สุด ดังข้อความที่จารึกไว้ปรากฏบนเหรียญ จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นพระเครื่องที่ง่ายแก่การศึกษาเรียนรู้ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชุด คือ ชุดเหรียญยอดนิยม และชุดเหรียญทั่วไป โดยในแต่ละชุดได้แยกเป็นเหรียญหล่อ กับเหรียญปั๊ม โดยจะนำเสนอเหรียญยอดนิยมมาให้ศึกษา ดังนี้
   6.1 หมวดเหรียญหล่อยอดนิยม ได้แก่
      1) เหรียญหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง กรุงเทพมหานคร
      2) เหรียญหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร
      3) เหรียญหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จังหวัดนครปฐม
      4) เหรียญหลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา จังหวัดนครปฐม
      5) เหรียญหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จังหวัดนครปฐม
      6) เหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม จังหวัดสมุทรสงคราม
      7) เหรียญหลวงพ่อบ่าย วัดช่องลม จังหวัดสมุทรสงคราม
      8) เหรียญหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย จังหวัดสมุทรสงคราม
      9) เหรียญหลวงพ่อกล่อม วัดโพธาวาส จังหวัดสุราษฎร์ธานี
              10) เหรียญหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ จังหวัดสมุทรสงคราม
              11) เหรียญหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน จังหวัดสมุทรสาคร
              12) เหรียญวัดระฆังหลังฆ้อน กรุงเทพมหานคร
              13) เหรียญหลวงปู่ขัน วัดนกกระจาบ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
              14) เหรียญเมฆสิทธิ์ วัดอนงค์ กรุงเทพมหานคร
              15) เหรียญหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท
              16) เหรียญหยดน้ำ วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม
              17) เหรียญวัดราชบพิตร กรุงเทพมหานคร
   6.2 หมวดเหรียญปั๊มยอดนิยม ได้แก่
      1) เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
      2) เหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กรุงเทพฯ
      3) เหรียญหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท
      4) เหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม จังหวัดสมุทรสงคราม
      5) เหรียญหลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม จังหวัดเพชรบุรี
      6) เหรียญหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จังหวัดฉะเชิงเทรา
      7) เหรียญหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
      8) เหรียญหลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ กรุงเทพมหานคร
      9) เหรียญหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน กรุงเทพมหานคร
              10) เหรียญหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์
              11) เหรียญครูบาศรีวิชัย จังหวัดเชียงใหม่
              12) เหรียญหลวงพ่อสาย วัดพยัคฆาราม จังหวัดลพบุรี
              13) เหรียญหลวงปู่ขาว วัดหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
              14) เหรียญหลวงพ่อเพชร วัดเกาะพงัน จังหวัดสุราฎร์ธานี
              15) เหรียญหลวงพ่อคง วัดซำป่าง่าม จังหวัดปราจีนบุรี
              16) เหรียญหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จังหวัดปราจีนบุรี
              17) เหรียญหลวงพ่อศุข วัดโตนดหลวง จังหวัดเพชรบุรี
              18) เหรียญหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม
              19) เหรียญหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จังหวัดเพชรบุรี
              20) เหรียญหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จังหวัดนครสวรรค์
              21) เหรียญอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
              22) เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง จังหวัดภูเก็ต
              23) เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี รุ่นแรก พ.ศ.2500
              24) เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี รูปไข่ รุ่น 2 พ.ศ.2502
              25) เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี รูปเสมาลงยา รุ่น 3 พ.ศ.2504
              26) เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี รูปเสมา รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ พ.ศ.2508
              27) เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี รูปเสมา พุดซ้อน พ.ศ.2509
              28) เหรียญพระพุทธโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา
              29) เหรียญวัดพระแก้ว กรุงเทพมหานคร
              30) เหรียญพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก
              31) เหรียญวัดไชโยวรมหาวิหาร จังหวัดอ่างทอง
              32) เหรียญมงคลบพิตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
              33) เหรียญวัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
              34) เหรียญพระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศ กรุงเทพมหานคร
              35) เหรียญปวเรศ วัดบวรนิเวศ กรุงเทพมหานคร
              36) เหรียญพุทธ 25 ศตวรรษ กรุงเทพมหานคร
 
7. ประเภทพระปิดตายอดนิยม พระปิดตา ถือเป็นพระเครื่องประเภทที่พบน้อยที่สุด เนื่องจากในสมัยโบราณพระส่วนมากจะเป็นพระที่ทำขึ้นจากมือครั้งละองค์ จึงนับเป็นพระที่หายาก หากแต่เป็นพระที่ศรัทธาของนักสะสมเป็นอย่างยิ่งประเภทหนึ่ง แบ่งตามวัสดุ ที่นำมาสร้างเป็น 3 ชุด ดังนี้
   7.1 ชุดพระปิดตาเนื้อผงยอดนิยม ได้แก่
      1) พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จังหวัดชลบุรี
      2) พระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง จังหวัดนนทบุรี
      3) พระปิดตาหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน กรุงเทพมหานคร
      4) พระปิดตาหลวงปู่จีน วัดท่าลาด จังหวัดฉะเชิงเทรา
      5) พระปิดตาหลวงปู่เจียม วัดกำแพง จังหวัดชลบุรี
      6) พระปิดตาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท
      7) พระปิดตาวัดพลับ กรุงเทพมหานคร
      8) พระปิดตาหลวงปู่ภู่ วัดนอก ชลบุรี
      9) พระปิดตาหลวงปู่ครีพ วัดสมถะ (อุทยานนที) จังหวัดชลบุรี
              10) พระปิดตากรมหลวงชุมพร สร้างโดยหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท
              11) พระปิดตาหลวงพ่อเชย วัดบางกระสอบ จังหวัดสมุทรปราการ
              12) พระปิดตาหลวงพ่อพิม วัดหนองแหน จังหวัดฉะเชิงเทรา
              13) พระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จังหวัดกาญจนบุรี
              14) พระปิดตาหลวงพ่อครน วัดบางแซะ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
              15) พระปิดตาวัดหนัง กรุงเทพมหานคร พิมพ์ข้าวตอกแตก และพิมพ์หัวบานเย็น
              16) พระปิดตาวัดทอง กรุงเทพมหานคร
              17) พระปิดตาหลวงพ่อกล่อม วัดบางกระพี้ จังหวัดอุตรดิตถ์
              18) พระปิดตาอาจารย์เปิง วัดชินวนาราม จังหวัดปทุมธานี
              19) พระปิดตาหลวงพ่อผุด วัดวังเวียน จังหวัดจันทบุรี
              20) พระปิดตาพิมพ์ปั้น วัดเครือวัลย์ จังหวัดชลบุรี
   7.2 ชุดพระปิดตาเนื้อโลหะยอดนิยม ได้แก่
      1) พระปิดตาวัดหนัง กรุงเทพมหานคร
      2) พระปิดตาวัดทอง กรุงเทพมหานคร
      3) พระปิดตาแร่บางไผ่ จังหวัดนนทบุรี
      4) พระปิดตาห้วยจระเข้ จังหวัดนครปฐม
      5) พระปิดตาท้ายย่าน จังหวัดชัยนาท
      6) พระปิดตาบางเดื่อ จังหวัดนนทบุรี
      7) พระปิดตาเนื้อทองผสมพบตามถ้ำโดยทั่วไปใน จังหวัดนครศรีธรรมราช
      8) พระปิดตาวัดพะเนียงแตก จังหวัดนครปฐม
      9) พระปิดตาเมฆสิทธิ์ วัดอนงค์ กรุงเทพมหานคร
              10) พระปิดตาวัดโพธิ์เอน จังหวัดสระบุรี
   7.3 ชุดพระปิดตาไม้แกะ ได้แก่
      1) พระปิดตาสมเด็จพระสังฆราช (อยู่) วัดสระเกศ กรุงเทพมหานคร
      2) พระปิดตาวัดโมฬี จังหวัดนนทบุรี
      3) พระปิดตาหลวงพ่อรอด วัดโคนอน กรุงเทพมหานคร
 
8. ประเภทพระเนื้อว่านยอดนิยม แบ่งเป็น 2 ชุด คือ
   8.1 พระชุดเนื้อว่านยุคเก่า ได้แก่
      1) พระเนื้อว่านจำปาสัก แขวงเมืองจำปาสัก ประเทศลาว
   2) พระเนื้อว่านหน้าทอง จังหวัดสุโขทัย พบด้วยกันหลายกรุ อาทิเช่น กรุวัดมหาธาตุ กรุวัดช้างล้อม กรุวัดเจดีย์สูง
   3) พระเนื้อว่านหน้าทอง จังหวัดกำแพงเพชร พบด้วยกันหลายกรุ อาทิเช่น กรุวัดพระบรมธาตุ กรุวัดพระนอน กรุวัดพิกุล กรุวัดอาวาสน้อย กรุวัดอาวาสใหญ่ กรุวัดป่ามืด กรุวัดพระสี่อิริยาบท
 
8.2 พระชุดเนื้อว่านที่พระเกจิอาจารย์เป็นผู้สร้าง ได้แก่
   1) พระเนื้อว่านหลวงปูทวด วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี ที่สร้างโดย พระครูวิสัยโสภณ หรือ ท่านอาจารย์ทิม อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี ทำการปลุกเสกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ.2497 แบ่งเป็น 3 พิมพ์ ซึ่งสามารถแยกออกเป็นหมวดใหญ่ๆได้ดังนี้
   1.1 พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน รุ่นแรก พ.ศ.2497 พิมพ์ใหญ่ แยกเป็น
      -พระพิมพ์ใหญ่แจกกรรมการ
      -พระพิมพ์ใหญ่หัวมีขีด
      -พระพิมพ์ใหญ่ลึก
      -พระพิมพ์ใหญ่ไหล่มีจุด
   1.2 พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน รุ่นแรก พ.ศ.2497 พิมพ์กลาง แยกเป็น
      -พระพิมพ์กลางลึก
      -พระพิมพ์กลางชะลูด
      -พระพิมพ์กลางอกแฟบ
      -พระพิมพ์กลางหน้ากลม
   1.3 พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน รุ่นแรก พ.ศ.2497 พิมพ์เล็กหรือพิมพ์พระรอด แยกเป็น
      -พระพิมพ์พระรอดแจกกรรมการ
      -พระพิมพ์พระรอดหน้าใหญ่
      -พระพิมพ์พระรอดหน้ากลาง
      -พระพิมพ์พระรอดหน้าเล็ก
      -พระพิมพ์พระรอดต้อ
   1.4 พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน รุ่นแรก พ.ศ.2497 พิมพ์ต้อ แยกเป็น
      -พระพิมพ์ต้อใหญ่
      -พระพิมพ์ต้อกลาง
      -พระพิมพ์ต้อเล็ก
   2) พระเนื้อว่านคณาจารย์ทั่วไป ได้แก่
      -พระเนื้อว่านรูปหลวงปู่ทวด วัดพะโค๊ะ จังหวัดสงขลา
      -พระเนื้อว่านรูปหลวงปู่ทวด วัดเมือง จังหวัดยะลา
      -พระเนื้อว่านรูปหลวงปู่ทวด วัดทรายขาว จังหวัดปัตตานี
   3) พระเนื้อว่าน หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช
9. เครื่องราง-ของขลังยอดนิยม วัตถุมงคลประเภทนี้ ถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่มีอายุความเป็นมาเก่าแก่ที่สุด และการสร้างเครื่องรางนั้นมีมาก่อนจะมีการสร้างพระเครื่องนับแต่โบราณกาลสิ่งที่น่าสนใจคือ อารยธรรมของการสร้างเครื่องราง-ของขลังนั้นมีแพร่หลายในทุกภูมิภาคของโลกไม่ว่าจะเป็นซีกโลกตะวันออก หรือ ตะวันตก แม้แต่ในประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าทันสมัยที่สุดเป็นประเทศผู้นำในด้านต่างๆของโลก ล้วนแต่มีวัฒนธรรมการสร้างเครื่องรางตามความเชื่อมาแต่ครั้งบรรพกาล ดังนั้น สิ่งที่หลายท่านอาจจะมองว่าเป็นความงมงาย ขาดสาระที่สุดนั้น แท้จริงคือสิ่งที่ทั่วโลกรู้จักคุ้นเคยกันดี ในรูปแบบที่เรียกกันว่า “เครื่องราง-ของขลัง”
   เครื่องราง-ของขลังนั้นมีมากมายหลายลักษณะ และสร้างจากวัสดุต่างๆมากมายที่สุดในบรรดาวัตถุมงคลทั้งหมดที่ปรากฏ สำหรับประเทศไทย เครื่องราง-ของขลังที่ได้รับความนิยมเป็นสากล แบ่งเป็น 9 ประเภท ดังนี้
   9.1 เครื่องรางประเภทตะกรุด ได้แก่
      1) ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง จังหวัดนนทบุรี
      2) ตะกรุดหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จังหวัดสมุทรสงคราม
      3) ตะกรุดหลวงพ่อพิศ วัดฆะมัง จังหวัดพิจิตร
      4) ตะกรุดหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ จังหวัดสมุทรสงคราม
      5) ตะกรุด วัดโมลีโลกยาราม (วัดท้ายตลาด) กรุงเทพมหานคร
      6) ตะกรุดหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จังหวัดนครปฐม
      7) ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ หลวงปู่แจ้ง วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพมหานคร
      8) ตะกรุดหลวงปู่นาค วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพมหานคร
   9.2 เครื่องรางประเภทเบี้ยแก้ ได้แก่
      1) เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง กรุงเทพมหานคร
      2) เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จังหวัดนครปฐม
      3) เบี้ยแก้หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ จังหวัดอ่างทอง
      4) เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน จังหวัดอ่างทอง
      5) เบี้ยแก้หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ จังหวัดอ่างทอง
      6) เบี้ยแก้หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จังหวัดนครปฐม
   9.3 เครื่องรางประเภทเขี้ยวเสือ ได้แก่
      1) เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ
      2) เขี้ยวเสือหลวงพ่อนก วัดสังกะสี จังหวัดสมุทรปราการ
      3) เขี้ยวเสือหลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน จังหวัดนครสวรรค์
   9.4 เครื่องรางประเภทหนุมาน ได้แก่
      1) หนุมานหลวงพ่อสุ่น (ทั้งไม้แกะ และงาแกะ) วัดศาลากุน จังหวัดนนทบุรี
      2) รูปแกะลิงหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จังหวัดฉะเชิงเทรา
      3) หนุมานหลวงพ่อเชย วัดบางกระสอบ จังหวัดสมุทรปราการ
   9.5 เครื่องรางประเภทสิงห์ ได้แก่
      1) สิงห์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์
      2) สิงห์หลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน จังหวัดนครสวรรค์
      3) สิงห์หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว จังหวัดนครสวรรค์
      4) สิงห์หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก จังหวัดระยอง
      5) สิงห์หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ จังหวัดอ่างทอง
      6) สิงห์หลวงพ่อรอด วัดบางน้ำวน จังหวัดสมุทรสงคราม
   9.6 เครื่องรูปสัตว์อื่นๆ ได้แก่
      1) เครื่องรางรูปแพะ หลงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก จังหวัดระยอง
      2) วัวธนู หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง จังหวัดนครปฐม
   9.7 เครื่องรางประเภทราหู ได้แก่
      1) ราหูหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง จังหวัดนครปฐม
      2) ราหูครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก
      3) ราหูครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ จังหวัดลำปาง
   9.8 เครื่องรางประเภทปลัดขิก ได้แก่
      1) ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จังหวัดฉะเชิงเทรา
      2) ปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
      3) ปลัดขิกอาจารย์ขลิก วัดสาวชะโงก จังหวัดฉะเชิงเทรา
      4) ปลัดขิกหลวงพ่อโศก วัดธรรมศาน (วัดปากคลองบางครก) จังหวัดเพชรบุรี
   9.9 เครื่องรางประเภทลูกอม-ชูชก ได้แก่
      1) ลูกอมเมฆสิทธิ์ วัดอนงค์ กรุงเทพมหานคร
      2) ลูกอมหลวงพ่อเนียม วัดน้อย จังหวัดสุพรรณบุรี
      3) ชูชกหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน จังหวัดสมุทรสงคราม
      4) ลูกอมหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก กรุงเทพมหานคร
      5) ลูกอมหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จังหวัดสมุทรสงคราม
      6) ลูกอมหลวงพ่อร้าย วัดเขายี่สาย จังหวัดสมุทรสงคราม
   พระเครื่อง และเครื่องรางทั้ง 9 ประเภทที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่ง หรือส่วนน้อยจากวัตถุมงคลทั้งหมดที่มีอยู่มากมาย หากแต่พระเครื่อง และเครื่องราง ที่นำมาให้ทราบเหล่านี้ล้วนเป็นที่ได้รับความนิยมสะสมอย่างแพร่หลาย เป็นที่รู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดีในหมู่ผู้สนใจ และเข้าใจกันว่าเป็นพระเครื่อง และเครื่องราง-ของขลังที่หายาก มีมูลค่าในการสะสมสูง เป็นสุดยอดปรารถนาของทุกคนที่สนใจ
 
ได้รับการเอื้อเฟื้อจากหนังสือ มรดกแผ่นดิน
   หลักสูตรการศึกษาพระเครื่องขั้นพื้นฐาน
ท่านที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติมขอแนะนำให้ซื้อหนังสือ มรดกแผ่นดิน มาศึกษาเพิ่มเติม
เพราะจะมีภาพประกอบซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษา


26
 :054:หลวงพ่อดำ วัดนางพิมพ์;สุพรรณบุรี
 :054:หลวงพ่อทองหยด วัดวังจิก;สุพรรณบุรี
 :054:หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน;ลพบุรี
 :054:หลวงปู่เปิ่น วัดบางพระ;นครปฐม
 :054:รูปหลวงปู่เปิ่น วัดบางพระ, สมเด็จโต
 :054:หนุมาน, เสือสมิง หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน





 :054:สบายใจก่อนออกไปเล่นสงกรานต์ครับ
ด้วยใจที่ศรัทธาอันแรงกล้า

หน้า: [1]