ตำนานการสร้างกุมารทองหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่ามประวัติ หลวงพ่อเต๋ คงทอง
วัดสามง่าม (วัดอรัญญิการาม) อ.ดอนตูม
จ.นครปฐม
หนึ่งในพระเกจิของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในการสร้างกุมารทอง
หลวงพ่อเต๋ คงทอง เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 7 ปี ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน พศ. 2434 ณ.บ้านสามง่าม จ.นครปฐม โยมบิดาชื่อ จันทร์ โยมมารดาชื่อ บู่ นามสกุล สามง่ามน้อย ท่านมีพี่น้องรวม 7 คน) ท่านเป็นบุตรคนที่ 5
เมื่ออายุได้ 7 ปี ลุงของท่านได้บวชอยู่ที่วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร มีชื่อว่าหลวงลุงแดง เป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในขณะนั้น หลวงลุงแดงได้ไปเยี่ยมญาติที่บ้านสามง่าม ได้พบหลานชายจึงได้ชวนไปอยู่ด้วยที่วัดกาหลง เพื่อที่จะได้ศึกษาเล่าเรียนธรรมะ และเวทย์มนต์คาถาเป็นเวลา 3 ปีจึงสามารถเขียน อ่าน ได้เป็นอย่างดี จึงได้ขอกลับบ้านเกิด หลวงลุงแดงท่านเห็นว่า บ้านสามง่ามควรที่จะมีวัดวาอาราม สำหรับภิกษุสามเณร อีกทั้งชาวบ้านจะได้ประกอบกิจทางพุทธศาสนา จึงได้ชักชวนหลานชายไปสร้างวัดขึ้นที่บ้านดอนตูม
เมื่ออายุได้ 15 ปี ได้บวชบรรพชาเป็นสามเณร ศึกษาพระธรรมวินัยกับหลวงลุงแดง และได้สร้างวัดใหม่ไปพร้อมๆกัน รวมทั้งได้ศึกษาเล่าเรียนจากหลวงลุงแดงจนครบทุกวิชาอาคม
เมื่ออายุได้ 21 ปี ได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ ได้รับฉายาทางธรรมว่า คงทอง ภายหลังเปลี่ยนเป็น คงสุวัณโณ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก เป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในฐานะพระเกจิอาจารย์ที่มีพุทธาคมเข้มขลังมากในยุคสมัยนั้น หลวงพ่อเต๋ ได้รับการสืบทอดพุทธาคมทางธรรมกัมมัฏฐานจนจบวิชา ต่อมาไม่นานหลวงลุงแดงได้มรณภาพ จึงฝากหลวงพ่อเต๋ ไว้ที่วัดสามง่าม เพื่อให้ดูแลต่อ
หลวงพ่อเต๋ เริ่มออกธุดงค์ระหว่างพศ.2455 - 2472 เป็นเวลา 17 ปีรวมทั้งเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมจากหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อกอนวัดบ่อตะกั่ว และอีกหลายแห่งอาทิเช่น อาคมกับฆราวาสชาวเขมร เมื่อศึกษาวิชาอาคมหลายแห่ง หลายที่จนสำเร็จ รวมถึงวิชาการปลุกกุมารทอง จนท่านไม่สามารถสรงน้ำได้มานานหลายสิบปี
พศ.2475 ได้รับพิจารณาแต่งตั้งให้หลวงพ่อเต๋ เป็นเจ้าอาวาสวัดสามง่าม
พศ.2476 ได้มีการสร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งแต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเล่าขาน และโด่งดังไปต่างประเทศที่มากที่สุดคือ กุมารทอง หลวงพ่อเต๋ ซึ่งเล่ากันว่าท่านได้ปั้น และเอาไปวางนอนไว้ จากนั้นทำพิธีปลุกเสกให้กุมารตั้งขึ้นเองตามคาถาอาคมปลุกกุมารทองในตำราหลวงพ่อเต๋ กุมารทองนี้เป็นที่นิยมกันมาก ใครได้มีไว้บูชา จะมีเรื่องเล่าสู่กันฟังเป็นที่อัศจรรย์ และทำรายได้อย่างมหาศาล สามารถขออะไรก็ได้ สมความปรารถนา และเป็นที่ศรัทธาอย่างสูงของประชาชนจากอดีตสู่ปัจจุบัน
หลวงพ่อเต๋ คงทอง มรณภาพลงโดยอาการสงบเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พศ.2524 รวมสิริอายุได้ 80 ปี 6 เดือน 10 วัน พรรษาที่ 59 ปัจจุบันทางวัดยังคงบรรจุสังขารของท่านไว้ให้ลูกศิษย์กราบไหว้บูชา ณ.วัดสามงาม จ.นครปฐม.
เริ่มจากคืนหนึ่งหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เตรียมตัวนอน ก่อนนอนก็ได้สวดมนต์ไหว้กุมารทองตามปรกติทุกคืน เริ่มนอนบนเตียงก็เปิดโทรทัศน์ และตั้งนาฬิกาปลุกไว้ พอเริ่มง่วงก็ปิดโทรทัศน์ห้องก็มืดสนิทผมก็นอนหลับ แต่ในทันทีผมก็ฝันเห็นเด็กคนหนึ่ง นั่งอยู่ในรถกับผม อายุประมาณ 5 ขวบ ไม่พูดไม่จาอะไร เราก็นึกว่าคงจะเป็นลูกใครสักคนที่มานั่งไปกับเราด้วย ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบว่ากำลังจะไปไหนกัน ขณะที่ขับรถไปก็ไม่ได้คุยอะไรกัน จนถึงจุดพักรถ ผมก็จอดแล้วก็รับเด็กอีกคนอายุเท่าๆกันขึ้นรถ ในฝันผมก็ถามว่า “หนูจะไปไหนกันล่ะ” เด็กก็หันมาบอกว่า “พ่อไปรับเพื่อนอีกหลายคนนะ”
ผมก็ถามต่อว่า “เพื่อนที่ไหนกันหลายคน แล้วรู้จักเขาเหรอ”เด็กสองคนก็พูดพร้อมกันว่า “ไปรับเพื่อนกลับบ้านไงพ่อ” เราก็ไม่ได้สนใจอะไรก็สะดุ้งตื่น พอตื่นขึ้นมาโทรทัศน์ ไฟในห้องนอน ห้องน้ำ เปิดขึ้นเองสว่างหมดทั่วทั้งห้องแต่ก็ข่มตาข่มใจนอนให้หลับจนถึงเช้า
จากนั้นอีกไม่กี่วัน ผมก็ไปทำบุญที่วัดเหมือนเดิม พอไปถึงวัดก็เห็นกุมารทองประมาณ 5-6 องค์ไว้ให้เช่าบูชา ใจหนึ่งก็ไม่อยากเอากลับ เพราะไม่อยากมีเยอะ แต่ก็ไม่รู้อะไรดลใจถึงทำให้ผมนั้นต้องเช่ากลับมาทั้งหมด พอถึงบ้านก็จุดธูปบอกกับศาลพระภูมิเจ้าที่ เพื่อขออนุญาตนำกุมารทองเข้าบ้าน จากนั้นก็เริ่มจะนอน แต่คราวนี้ก็เปิดไฟ เปิดโทรทัศน์ แต่ยังไม่ทันได้นอนหลับ เพียงแค่หลับตาเท่านั้นเอง ก็รู้สึกเหมือนมีมือเย็นๆมาลูบมือเราเบาๆ 2 ที ผมก็สะดุ้งตื่นแล้วผมก็ได้ยินเสียงเด็กเบาๆแว่วมาจากทางห้องน้ำ ก็เลยเดินไปดูแต่ก็ไม่พบอะไร ผมก็เลยตะหวาดไปว่า “ถ้าแกล้งไม่ให้หลับไม่ให้นอน ก็จะกลับไปส่งวัดนะ” หลังจากนั้นเสียงต่างๆก็หายไป
ความรู้สึกเกี่ยวกับกุมารในความคิดของผมครับ กุมารทองในความคิดส่วนตัวของผม ผมว่ากุมารทองนั้นคือเด็กที่น่ารักและแสนดีพวกเขาจะรักและซื่อสัตย์กับผู้เลี้ยงดูเขาดังพ่อและแม่
เขาต้องการความรักและใส่ใจมิได้ต่างจากเด็กทั่วไปเลยและเขายังจะดูแลพ่อแม่ของเขาตลอดไป ถึงแม้ผู้เป็นพ่อแม่จะไม่สนใจตัวเขา
และไม่ใส่ใจก็ตาม ......ถึงขนาดบางคนเอาเขาไปทิ้งหรือให้คนอื่นก็ตาม
ผมเคยได้ยินครูบาอาจารย์ท่านได้พูดถึงการปลุกเสกกุมารทองว่า...กุมารทองนั้นต้องปลุกเสกเริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยที่เขาจะเริ่มโตขึ้น
จนเข้าใจและช่วยเหลือพ่อแม่เขาได้เต็มที่ด้วยชีวิตที่เล็กๆของเขานั้นเอง.
ผมเคยได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักกันเขาได้ถูกหวยบ่อยมากจนวันหนึ่งเขาฝันเห็นกุมารที่เขาเลี้ยงเป็นเด็กที่น่ารักแต่ทว่า...
เด็กคนนั้นกลับเต็มไปด้วยเลือด บาดแผลเต็มตัวดูแล้วน่าสงสารยิ่งนักเขาจึงถามเด็กคนนั้นว่าใช่ลูกกุมารที่เขาเลี้ยงไหม...เด็กคนนั้นเลยตอบว่า...ใช่ครับ แล้วผู้หญิงคนนั้นจึงถามว่าทำไมลูกถึงมีบาดแผลขนาดนี้..เขาจึงตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้มว่า...
หนูไปที่หนึ่งมามีหนามแหลมเต็มไปหมดหนูไปเอาตัวเลขมาให้แม่ผู้หญิงคนนั้นเสียใจมากจึงบอกว่าแม่จ๊ะช่วยหนูโดยการทำบุญให้กับหนูมากๆนะหนูจะได้หายเจ็บ..คุณเชื่อไหมครับว่าเด็กเหล่านี้เขารักผู้เลี้ยงดูเขาจริงๆ.
โดยส่วยตัวผมก็เลี้ยงครับผมมักจะเรียกขึ้นไปนอนด้วยเป็นประจำและไม่ค่อยขออะไรมากเลี้ยงเขาด้วยความรักและห่วงครับและผมเชื่อว่าเขาก็รักผมเช่นกันและผมก็มากบอกแบ่งบุญให้กับเขาบ่อยๆครับเพราะผมชอบมาช่วยงานที่วัดให้กับครูบาอาจารย์บ่อยๆ..ผมว่าทุกสิ่งถ้าเราทำด้วยความรักก็จะบังเกิดสิ่งที่ดีกับมาหาเราเองครับ..อยากให้เพื่อนๆพี่ๆที่เลี้ยงกุมารรักและห่วงใยเขามากๆนะครับเพราะเขาก็รักและห่วงใยท่านเช่นกัน....เรื่องนี้โดย ที ครับ.
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลด้วยครับ