ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อหลวงพ่อจำเนียร เรียนวิชากับพ่อท่านคล้าย...  (อ่าน 4132 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ธรรมะรักโข

  • มีสติ...กำหนดรู้...อยู่ที่จิต
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 749
  • เพศ: ชาย
  • ผู้รักษาธรรม
    • ดูรายละเอียด





เรียนวิชา - ธรรมะจากพ่อท่านคล้าย

อาตมาหนีมาในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ พอแรมค่ำหนึ่งก็ถึงสุราษฎร์ธานีแล้ว ไปทางรถไฟ ไปอยู่ วัดสุคนธาวาส ตำบลบ้านนาสาร เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน จำเป็นต้องมาอยู่เพื่อช่วยเหลือคนให้รอดตาย สละชีวิตไปแล้วว่าต้องไปให้ได้ ถึงจะโดนหนักขนาดไหนก็ยอม
ก่อนจะไปอยู่ที่นั่น เขานิมนต์ไปเทศน์ก่อน อาตมาได้ไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว ทางวัดได้นิมนต์ไปเงียบๆ ไม่ให้ทางวัดชายนารู้
เมื่อเดินทางไป ระหว่างทางได้มีครู นักเรียนและชาวบ้านได้มารับสองข้างทาง ตั้งแต่สถานีจนถึงวัดหลายพันคน
อาตมาอยู่ที่วัดสุคนธาวาสนี้ ๑๐ ปี ต่อสู้กับฝ่ายผู้ก่อการร้าย นายทหารเจ้าหน้าที่ บุคคลที่ไม่มีความเป็นธรรมชาวบ้านถูกเขาฆ่าตายมาก ก็ช่วยเหลือให้รอดตายมาเป็นจำนวนมากทีเดียว
เพราะเห็นว่าถ้าเราไม่ไปทำอย่างนั้น ศาสนาของเราจะหมดและการรบราฆ่าฟันจะเพิ่มขึ้นมากมายทำให้เดือดร้อนมาก
อาตมาจำเป็นต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อได้ช่วยเหลือผู้อื่น เขายิงกันตายทุกวัน ตานกันมาก ทิ้งระเบิดบ้าง อะไรบ้าง ก็ขอความร่วมมือจากชาวบ้านมาสำรวจสถานที่
ต่อมาก็เรียกประชุมแม่ม่ายได้ ๗๐๐ กว่าคน ที่ผัวถูกฆ่าตายไป ๗๐๐ กว่าคนมาสอบถามได้ความว่า ถูกเจ้าหน้าที่ฆ่าบ้าง ผู้ก่อการร้ายฆ่าบ้าง ฆ่ากันเองบ้าง ล้วนแต่เรื่องการเมือง
อาตมาได้พยายามชักชวนทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ก่อการร้าย ไม่ให้ฆ่าประชาชน ชาวบ้านก็อยากให้ช่วยเหลือเขา
อาตมาก็ไปหา หลวงพ่อคล้าย ให้ช่วยปลุกเสกให้ยิงไม่ออกจะปราบปืนให้หมดเลย มันกำลังยิงกันอยู่ มีแต่ที่เขาเขาจะฆ่าอาตมา แล้วพวกเราที่เป็นชาวพุทธก็ตายไปเรื่อย จำเป็นต้องลุกขึ้นต่อสู้แบบใดแบบหนึ่งขึ้นมา แต่ไม่ต้องจับอาวุธ เอาธรรมาวุธไปขอให้หลวงพ่อคล้ายท่านช่วยปลุกเสกของช่วยป้องกันให้ยิงไม่ออก
หลวงพ่อคล้ายท่านบอก " แล้วทำอย่างไร หลวงพ่อ คนตายกันมาก อุบาสกในวัดนี้คนสำคัญตายแล้ว ถูกยิงตายไปแล้ว "
ท่านก็บอกว่า " เออ มันเกิดมาฆ่ากันจริงๆ เอาอย่างนี้ดีกว่า เอายิงไม่ถูกดีกว่า ถูกไม่เข้าและเข้าก็ไม่ตาย "
อาตมาก็ว่า " หลวงพ่อ ผมอยากได้ยิงไม่ออก "
ท่านบอกว่า " ยิงไม่ออกปืนก็เสีย มันมีค่า เอายิงไม่ถูก ถูกไม่เข้า เข้าไม่ตาย เถอะ "
อาตมาก็ตอบตกลงว่า " เอ้า ตกลง ผมเอาแล้วครับหลวงพ่อครับ ผมทำเองมันเสื่อม ทำอย่างไรล่ะ ถ้าผมรับประกันแล้ว เขายังตาย มันเสื่อม ผมเสกทำมาแล้วไม่ได้ผล "
ท่านบอกว่า " โลกุตระซิ "
อาตมาก็ถามว่า " เอ๊ โลกุตระมีหรือหลวงพ่อ การปลุกเสกมันเดรัจฉานวิชา "
ท่านบอกว่า " คุณอย่าพูดเดรัจฉานวิชามันหนักไป คำพูดนั้นเสกโลกุตระ มันไม่เสื่อม เอาไปฝังในดินก็ได้ไม่เสื่อม ใส่กางเกงก็ไม่เสื่อมหรอก โลกุตระ "
อาตมาก็ถามท่านอีกว่า " เอ หลวงพ่อเป็นอย่างไรโลกุตระ "
ท่านตอบว่า " คุณทำกรรมฐานเป็นอาจารย์วิปัสสนา ทำไมไม่เข้าใจโลกุตระ "
อาตมาตอบท่านว่า " ผมเข้าใจวิปัสสนา แต่ผมไม่เข้าใจปลุกเสก "
แล้วท่านบอกอย่างนี้ว่า " เอาผ้าเช็ดหน้ามาผืนหนึ่ง ผ้าเช็ดปากของท่านก็ได้ เสกนี่ไหม เอาเสกนี่ ให้นึกว่า ว่างหมดในผ้านี้ ว่างๆ ๆ ๆ ไม่มีอะไรทั้งหมด ว่าหมด ไม่มีใครปลุกเสก ไม่มีใครถูกฆ่า ไม่มีใครเบียดเบียนกัน พอจิตว่าบริสุทธิ์ ไม่มีใคร ไม่มีผู้หญิงไม่มีผู้ชาย ไม่มีตัวเราแล้วเสกอะไรก็ได้ "
อาตมาถามว่า " แล้วหลวงพ่อเสกอะไร เมื่อจิตหลวงพ่อเป็นโลกุตระว่างแล้ว จนเป็นโลกุตระ หลวงพ่อเสกอะไร
ท่านบอกว่า " พุทธัง อะระหังพุทโธ ธัมมัง อะระหังพุทโธ สังฆัง อะระหังพุทโธ เท่านั้นเอง ก็ให้เข้าโลกุตระ ถ้าคุณเสกประจำ คุณเป็นพระอรหันต์ด้วยในชาตินี้ "
โอ้จริง อาตมาเข้าใจแล้ว เชื่อทันทีเพราะว่าเสกด้วยความว่างหมด ไม่มีกิเลส
ท่านบอกว่า " ผมก็แก่แล้ว ผมจะอยู่ไม่นาน ผมจะบอกคาบให้คุณ "
คำว่า " คาบ " คือการเสกให้ว่าง ในผ้านี้ พอจิตแวบนึกไปหาใครจะจบคาบเลย จะเสกต่อไปไม่ได้ พอเรานั่งทำว่างอยู่ พอจิตถึงเรื่องหมู ว่าหมู หมูอรหันต์ๆ ๆ ใช้ไม่ได้ ถ้านึกถึงผู้หญิง ว่าผู้หญิงอรหันต์ๆ ๆ มันเข้ามาทั้งผู้หญิงอรหันต์อยู่ ใช้ไม่ได้
พอจิตว่างบริสุทธิ์ดีก็ว่า ไม่มีอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น เสร็จแล้วก็ยกให้เขาไป นั่นแหละโลกุตระไม่เสื่อม ถ้าหากว่าไม่ใช่กรรมเก่าเขาก็ไม่เป็นอะไร
พอหลวงพ่อคล้ายบอกให้อาตมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
อาตมาก็บอก " หลวงพ่อไม่ต้องอธิบายมาก ผมเข้าใจ "
อาตมาดีใจมากทีเดียว คืออาตมาทำถูกแล้ว แล้วก็ถามอีกเพื่อให้แน่ใจ เอากระดาษมาแล้วพูดกับท่านว่า
" หลวงพ่อครับกระดาษนี่มันบางนะครับผมนึกว่าจิตอยู่ในกระดาษนี้ ละเอียดที่สุด แกร่งที่สุด แข็งที่สุดแล้วแคล้วคลาดที่สุด อย่างนี้ถูกไหมครับหลวงพ่อครับ "
ท่านตอบว่า " ถูกๆ ๆ ใช้ได้แล้ว กระดาษมันไม่มีความหมายหรอก แต่ว่าอำนาจจิตมันมีความหมาย "
อ๋อ อย่างนั้นดีใจ อาตมาลุกขึ้นรีบกลับจะมาช่วยคน สักประเดี๋ยวหลวงพ่อท่านก็ให้ โกล้วน ตามมา บอกให้กลับไปหาท่านอีก
โกล้วนบอกว่า " ท่านอาจารย์ หลวงพ่อบอกให้ไปเร็วๆ "
เอ๊ะ สงสัยหลวงพ่อท่านจะให้อะไรเป็นของดี คิดว่าฟันหรืออะไรของท่านสักอย่าง ดีใจ พอไปถึง ท่านก็ถามว่า
" คุณดีใจมากไหม "
อาตมาตอบว่า " ครับผมดีใจ "
ท่านว่า " ไม่ได้ ดีใจไม่ได้ คุณต้องฝึกโลกุตระ ดีใจมันเป็นโลกีย์ ไม่ได้คุณต้องฝึกใหม่ "
อาตมาถามว่า " ทำอย่างไรหลวงพ่อ "
ท่านสอนให้ว่า " ก็คุณอย่าดีใจสิแล้วคุณอย่าเสียใจนะ ทำใจให้ดีให้ว่าง "
อาตมารับปากว่า " ครับผมไม่เสียใจ "
ท่านบอกว่า " มาๆ ๆ "
พอเข้าไปถึง ท่านให้คุกเข่าลงที่ตัก แล้วเอามือตบลงที่หัวอาตมาแล้วบอกว่า " คุณระวังใจให้ดีนะ "
อาตมาตอบ " ครับผมระวังแล้วผมไม่เสียใจหรอก แต่ยังดีใจอยู่ "
ท่านบอกว่า " นี่ยังดีใจอยู่ล่ะ ถ้าดีใจกับเสียใจมันคู่กันนะ "
อาตมาตอบอีกว่า " จริงครับผมดีใจ "
ท่านบอกอีกว่า " เอ้อ คุณอย่าดีใจ อย่าเสียใจ ทำใจให้เป็นกลาง คุณทำจิตให้ว่างสิ "
อาตมาก็นึกว่าดีใจก็ไม่เอา ว่างๆ ๆ แล้วบอกกับหลวงพ่อว่า " หลวงพ่อครับจิตว่างแล้ว ไม่ดีใจแล้ว ว่างแล้ว "
ท่านบอกว่า " ที่คุณเอาไปเสกช่วยเหลือไม่ให้ถูกยิงตายนั้นดีครับ คุณช่วยไว้คุณมีบุญด้วย คุณช่วยได้ด้วย แต่ที่จะช่วยไม่ได้น่ะคือ อนันตริยกรรม ฆ่าบิดา มารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำลายพระสงฆ์ ทำลายผู้มีศีล ฆ่าผู้มีศีล ทำลายพระโพธิสัตว์ ไม่มีเครื่องรางของขลังใดในโลกช่วยได้ โลกุตระก็ช่วยไม่ได้ พระโมคคัลลานะตีมารดากระดูกหัก ต้องใช้กรรม ได้ถูกโจรตีทั้งที่เป็นเอตทัคคะบุคคล ก็ไม่พ้นนะคุณ "
พอหลวงพ่อพูดอย่างนั้นใจอาตมาตกทันที คือกลัวว่าอาตมาไปรับรองว่าเขาไม่ถูกฆ่าตาย หากใครถูกฆ่าตาย เขาไม่เชื่ออาตมาก็หนีจากอาตมาไปหมดอีก จิตตก แล้วท่านรู้ทันที
หลวงพ่อพูดขึ้นมาอีกว่า " ผมบอกคุณว่าอย่าเสียใจ คุณเสียใจใช่ไหมว่าช่วยเขาไม่ได้ คุณกลัวจะถูกคนมีกรรมใช่ไหม "
อาตมาบอกว่า " ครับๆ "
หลวงพ่อรู้หมดเลย ที่อาตมาคิดอะไรบอกได้หมอเลย
หลวงพ่อบอกอีกว่า " นี่คุณแบบนี้ ถ้าถูกคนมีกรรมก็ไม่ต้องช่วยกัน คุณนั่งทำสติใหม่ เอ้าลุกขึ้นนั่ง "
ท่านบอกให้อาตมานั่ง ถามว่า " ทำจิตว่างได้ไหม "
อาตมาตอบว่า " ครับ ผมทำจิตว่างแล้วครับ หลวงพ่อผมจิตว่างแล้ว "
หลวงพ่อบอกว่า " เออ คุณทำเร็วดี ว่างแล้วคุณฟังนะ เสียใจก็ไม่ได้ ดีใจก็ไม่ได้ ที่คุณคิดกลัวว่าเขาจะถูกฆ่าตาย แล้วคุณจะหมดกำลังใจ คุณคิดผิด คุณต้องคิดตามผม "
อาตมาตอบ " ครับ ผมตามหลวงพ่อหมดเลย ผมนับถือหลวงพ่อมากในชีวิตผม "
ท่านบอกว่า " ร้อยคน ถ้าทำอนันตริยกรรมมา ๒ คน คุณช่วย ๙๘ คน คุณว่าดีไหม แต่คุณช่วยทั้งร้อยไม่ได้หรอกทั้งโลกนี้ คุณทำไม่ได้ แม่ค้าขายลางสาด ลางสาดเปลือกข้างนอกนั้นเขาปอกทิ้งไป เขากินเนื้อใน เมล็ดในก็ทิ้งอีก ทิ้งสองอย่างนะคุณแล้วก็ขายเป็นกิโลฯ เมล็ดในเขาก็ชั่งรวมเป็นกิโลฯ ด้วย แต่ทำไมเขายังซื้อล่ะ "
อาตมานึกในใจ " เอ้อ หลวงพ่อพูดถูก "
หลวงพ่อพูดอีกว่า " แล้วทุเรียนข้างนอกเปลือกมันเป็นหนามด้วย แล้วก็ปอกทิ้งไป กินแต่เนื้อเมล็ดในเราทิ้งอีกแล้วคุณจะช่วยคนทั้งร้อยคนได้อย่างไร ถ้าคุณอยากจะช่วยคนจริง คุณก็ช่วยคนไม่มีกรรมอนันตริยกรรม รอดหมด แต่ถ้าคุณไม่ช่วยมันก็ตายหมด เพราะว่ากรรมอดีตมี กรรมปัจจุบันมี มันจะบวกกันจะทำให้เป็นอันตราย "
อาตมาบอกหลวงพ่อว่า " ถ้าอย่างนั้น ผมทำใจได้แล้ว ใจสงบดีแล้ว "
อาตมาก็ลาท่านกลับ ท่านไม่ว่าอะไรเลยทีนี้ ท่านไม่ว่าแล้ว กลับมาก็ทำเหรียญแจกชาวบ้าน และรับรองให้กำลังใจแก่ทุกคน ก็ช่วยคนให้รอดพ้นจากถูกฆ่าได้มาก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก... http://www.dharma-gateway.com/monk-h...index-page.htm
ขอขอบคุณภาพจาก...   http://www.dhammajak.net/board/files/paragraph__2_971.jpgและ http://gotoknow.org/file/wassanacoas/%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%203.jpg

ออฟไลน์ หมาป่าพเนจร

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 76
  • เพศ: ชาย
  • -
    • MSN Messenger - chokchai385@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ทุกอย่างสิ้นสุดด้วยความตาย วุ่นวายทำไม

ออฟไลน์ umpawan

  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 3112
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณท่านธรรมมะรักโขด้วยนะครับ ขอกราบนมัสการพ่อท่านคล้าย . หลวงพ่อจำเนียรครับ  :054:

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณสำหรับประวัติการเรียนวิชาของหลวงพ่อจำเนียร จากพ่อท่านคล้ายครับ...

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ 

ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณมากครับ สองเกจิท่านนี้ ชื่อเสียงไกลจากแดนใต้เลยครับ ...  :016: