ผู้เขียน หัวข้อ: เล่าสู่กันฟัง...ความว่างที่ไม่เคยว่าง..?  (อ่าน 1254 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๓
ตถตาอาศรม ริมฝั่งแม่น้ำโขง
             "ชีวิตคือการทำงาน การทำงานคือส่วนหนึ่งของชีวิต" ชีวิตต้องดำเนินไปตามกระแสของกรรม
ทุกคนเกิดมาต่างมีภาระหน้าที่และบทบาทที่แตกต่างกัน ตามที่กรรมเก่าได้จัดสรรค์ไปตามเหตุและปัจจัย
ซึ่งที่มานั้นเราไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ เพราะมันเป็นเรื่องของอดีตที่ผ่านมาแล้ว แต่เรื่องราวในอนาคตนั้น
เราสามารถที่จะกำหนดได้ โดยการสร้างเหตุและปัจจัยในวันนี้ ดำเนินชีวิตตามภาระและหน้าที่ของเราที่มี
ให้สมบูรณ์ ทำในสิ่งที่ไม่เป็นภัยต่อชีวิตไม่เป็นพิษต่อผู้อื่น ไม่ฝ่าฝืนศีลธรรมกฏหมายและประเพณีที่ดีงาม
เดินตามอริยมรรคอันมีองค์๘ ตามสถานะและสภาวะของเรา
            อริยมรรคมีองค์๘นั้นเป็นมัชฌิมาปฏิปทา คือทางสายกลางแห่งการดำเนินชีวิตที่ไม่ผิดทำนอง
คลองธรรม ซึ่งมีหลายระดับชั้นตามกำลังของผู้ปฏิบัติ อย่างหยาบปานกลางและละเอียดตามความเหมาะสม
ของภูมิธรรมของแต่ละบุคคล อันได้แก่
    ๑.สัมมาทิฏฐิ คือความเห็นที่ถูกต้อง รู้จักผิดชอบชั่วดี เห็นในความเป็นจริงแยกแยะกุศลและอกุศล
    ๒.สัมมาสังกัปปะ คือความรู้สึกนึกคิดที่จะไม่ทำในสิ่งที่ผิด อันเป็นอกุศลทั้งหลาย
    ๓.สัมมาวาจา คือการสำรวมในการพูดการเจรจา ไม่ก่อให้เกิดปัญหา มีวาจาที่สุภาพอ่อนโยน
   ๔.สัมมากัมมันตะ คือการทำงานที่ไม่สร้างความเดือดร้อนเบียดเบียนผู้อื่น และไม่ผิดกฏหมายศีลธรรม
   ๕.สัมมาอาชีวะ คือการประกอบอาชีพที่สุจริตไม่ผิดกฏหมายและศีลธรรม
   ๖.สัมมาวายามะ คือความเพียรพยายามควบคุมจิต ระวังบาปอันเป็นอกุศลธรรมไม่ให้เกิดขึ้น
                       ละบาปอันเป็นอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วให้หมดไป พยายามสร้างกุศลตัวใหม่ให้เกิดขึ้น
                       กุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วรักษาให้เจริญยิ่งขึ้น
   ๗.สัมมาสติ คือการมีสติระลึกรู้อยู่เสมอในสิ่งที่เป็นบุญและบาป และเตือนสติไม่ให้คล้อยไปในอกุศลธรรม
   ๘.สัมาสมาธิ คือการมีความแน่วแน่ตั้งมั่นในสิ่งที่กำลังกระทำ โดยมีสัมมาสติควบคุมอยู่
ที่กล่าวมานี้คือมรรคอันมีองค์๘ สำหรับฆราวาสผู้ครองเรือนที่สามารถจะนำไปประพฤติปฏิบัติได้ โดยที่ไม่ขัดกัน
ทั้งในทางโลกและทางธรรม ส่วนอริยมรรคอันมีองค์๘ ของสมณะนั้นจะละเอียดยิ่งไปกว่านี้เพราะบทบาทและหน้าที่
สถานะนั้นแตกต่างกัน ซึ่งถ้าเรารู้บทบาทและหน้าที่ของเราแล้ว การดำเนินชีวิตก็จะไม่ผิดทำนองคลองธรรม
      การทำงานทุกอย่างคือการปฏิบัติธรรม ถ้าเรามีสติและสัมปชัญญะในการทำงาน "ทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง"
คือคำกล่าวสอนของหลวงพ่อพุทธทาส ความว่างนั้นคือว่างจากอกุศลจิต ว่างจากอัตตา "ความเป็นตัวกูของกู"
ดำเนินชีวิตทำงานไปตามมรรคองค์๘ ความเป็นสัมมาทั้งหลาย ชีวิตจึงไม่เคยว่างจากการทำงาน ทั้งทางกาย
และทางจิต ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่ชีวิตไม่เคยว่างจากการงาน"เป็นความว่างจากอกุศลธรรมทั้งหลาย
แต่ไม่เคยว่างจากภาระกิจและหน้าที่ที่ต้องกระทำ" ไม่เคยว่างจากการเจริญสติแต่ว่างจากอกุศลจิตทั้งหลาย"
      การปฏิบัติธรรมตามธรรมนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่เราคิดว่ายากก็เพราะเราไม่รู้จักบทบาทและหน้าที่ของเรา
ไม่รู้ตน ไม่รู้ประมาณ ไม่รู้กาลเวลา ว่าเราควรกระทำในสิ่งใด และอะไรที่เหมาะสมกับตัวของเราที่จะกระทำ
ความเป็นฆราวาสผู้ครองเรือนและสมณะนั้นแตกต่างกัน เราจึงต้องเลือกธรรมที่จะปฏิบัตินั้นให้เหมาะสมกับตัว
ของเรา ซึ่งเรียกว่า"ธรรมะสัปปายะ"แล้วความเจริญในธรรมจะเกิดขึ้นแก่เรา ไปด้วยกันได้ทั้งทางโลกและทางธรรม
จึงขอฝากไว้ให้เป็นข้อคิดและจงพิจารณาก่อนที่จะเชื่อหรือปฏิเสธ...
            เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต-แด่มิตรผู้ร่วมชะตากรรม
                              รวี สัจจะ-สมณะชายขอบ

       
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ วันแรกของการทำงานได้อ่านคำสอนของพระอาจารย์เพื่อเตือนสติในการทำงาน เพื่อความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา

ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด
ขอบพระคุณพระอาจารย์ ที่นำเรื่องของงานเข้า มาเล่าสู่นะครับ ...  :054:

ออฟไลน์ sombat anunta

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 19
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
         กราบนมัสการครับ   อ้างถึง : "......... อริยมรรคมีองค์๘นั้นเป็นมัชฌิมาปฏิปทา คือทางสายกลางแห่งการดำเนินชีวิตที่ไม่ผิดทำนอง
คลองธรรม ซึ่งมีหลายระดับชั้นตามกำลังของผู้ปฏิบัติ อย่างหยาบปานกลางและละเอียดตามความเหมาะสม
ของภูมิธรรมของแต่ละบุคคล ........."   รบกวนถามพระอาจารย์ด้วยภูมิปัญญา อันน้อยนิด ว่า ..... ความต่างของผู้ปฏิบัติอย่างหยาบ ปานกลาง และ ละเอียด  สำหรับเรื่องนี้ต่างกันอย่างไรครับ  /// กราบขอคำสอนสั่งครับ  :054: :054: :054:ขอบคุณครับ
สติ สติ สติ ศืล ศีล ศีล สติ สติ สติ

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
         กราบนมัสการครับ   อ้างถึง : "......... อริยมรรคมีองค์๘นั้นเป็นมัชฌิมาปฏิปทา คือทางสายกลางแห่งการดำเนินชีวิตที่ไม่ผิดทำนอง
คลองธรรม ซึ่งมีหลายระดับชั้นตามกำลังของผู้ปฏิบัติ อย่างหยาบปานกลางและละเอียดตามความเหมาะสม
ของภูมิธรรมของแต่ละบุคคล ........."   รบกวนถามพระอาจารย์ด้วยภูมิปัญญา อันน้อยนิด ว่า ..... ความต่างของผู้ปฏิบัติอย่างหยาบ ปานกลาง และ ละเอียด  สำหรับเรื่องนี้ต่างกันอย่างไรครับ  /// กราบขอคำสอนสั่งครับ  :054: :054: :054:ขอบคุณครับ
สำหรับเรื่องนี้นั้น พอจะอธิบายได้ดังนี้คือ มรรคองค์แปดอย่างหยาบก็คือการปฏิบัติของฆราวาสผู้ครองเรือน ที่ต้องมีชีวิตและภาระกิจ
ติดอยู่ในทางโลก ยังต้องดูแลหาเลี้ยงครอบครัว บุตร ภรรยา บิดามารดาหรือบริวาร ยังมีการงานในทางโลกที่ต้องกระทำ ดั่งที่ได้บรรยายเอาไว้
ในข้างต้น นั้นคือมรรคองค์แปดสำหรับฆราวาสผู้ครองเรือนในการดำเนินชีวิตควบคู่ไปทั้งในทางโลกและทางธรรม ส่วนระดับกลางและปราณีตนั้น
คือการปฏบัติของนักบวชของสมณะผุ้ประสงค์ความหลุดพ้นจากกองกิเลสทั้งหลาย ซึ่งจะต้องทำให้ยิ่งขึ้นไปกว่าฆราวาสผู้ครองเรือน เป็นไปตาม
อริยมรรคองค์๘อันได้แก่
๑.สัมมาทิฏฐิ คือเห็นอริยสัจ ๔ เห็นพระไตรลักษณ์ หรือเห็นปฏิจจสมุปบาท เห็นการเกิดดับโดยสภาวะแห่งความจริง
๒.สัมมาสังกัปปะ หมายถึงความนึกคิดในทางสละออกจากกาม ออกจากความพยาบาท และออกจากการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน
๓.สัมมาวาจา หมายถึงการพูดคำสัตย์ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเพ้อเจ้อ พูดคำสุภาพอ่อนดยน พูดแต่สิ่งที่เป็นสาระ
๔.สัมมากัมมันตะ หมายถึงการดำเนินชีวิตที่ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ทั้งหลาย ไม่ลักทรัพย์ฉ้อโกงเอาเปรียบ ไม่ประพฤติผิดในกาม
๕.สัมมาอาชีวะ หมายถึงการเว้นจากมิจฉาชีพ ประกอบสัมมาอาชีพ
๖.สัมมาวายามะ หมายถึงความเพียร ๔ประการคือ เพียรระวังอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดขึ้น มิให้เกิดขึ้น เพียรประหารอกุศลธรรมอันเป็นบาป
                     ที่เกิดขึ้นแล้วให้สิ้นไป เพียรสร้างกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เพียรรักษากุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญยิ่งขึ้น
๗.สัมมาสติ หมายถึงการเจริญสติปัฏฐาน ๔มีการพิจารณาให้เห็นกายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต และธรรมในธรรม
๘.สัมมาสมาธิ หมายถึงการเจริญจิตในองค์ฌาน๔ อันได้แก่ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌานแปละจตุตถฌาน
            ซึ่งถ้าเราพิจารณาแล้วมันเป้นเรื่องที่ทำได้ยากสำหรับฆราวาสผู้ครองเรือน และยุ่งยากในภาษาที่จะสื่อและเข้าใจ
เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องทำอยู่ภายในกายและจิตของเรา ซึ่งเหมาะสมกับสมณะผู้ต้องการละกิเลสโดยตรง
แต่ถ้่าย้อนกลับไปอ่านที่เขียนบรรยายมาข้างต้นนั้น มันเป็นเรื่องที่เราสามารถจะกระทำได้ปฏิบัติได้ เพราะมันเหมาะสมกับเรา
ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรดีที่สุด มีเพียงความเหมาะสมที่สุด ตามจังหวะ เวลา โอกาศ สถานที่และบุคคล ธรรมะนั้นก็เช่นกัน
ต้องเลือกเฟ้นให้เหมาะสมกับตัวเรา บทบาทและหน้าที่ของเรา ความเจริญในธรรมจึงจะบังเกิดขึ้น...
                      ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
                         รวี สัจจะ-สมณะชายขอบ

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
กราบนมัสการขอบพระคุณสำหรับ คำสอนเรื่อง มรรคองค์8 เพื่อนำมาปรับใช้ในหน้าที่การงานครับ...

...ขอบพระคุณที่บรรยายถึงความแตกต่างของ มรรคองค์8 และ อริยมรรค์องค์ 8 ด้วยครับ....

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ 

ออฟไลน์ mawin_14

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1210
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ขอกราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
ขอขอบพระคุณครับ กับ ธรรม ที่จะใช้ในการดำเนินชีวิต ที่ต้องก้าวไปพร้อมกับการทำงาน ปีนี้ผมยังมองหาวิธีการทำงานอันจะทำให้มีความสุข พอได้อ่านตรงนี้แล้วรู้สึกว่าเข้าใจดีขึ้น ว่าเราจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ให้เกิดความสุข ขณะที่เรายังต้องฝ่าฟันกับภาระหน้าที่การงาน ด้วยหน้าที่ที่แตกต่าง แต่ต้องดำเนินชีวิต ตามภาระและหน้าที่ของเราที่มีให้สมบูรณ์ ทำในสิ่งที่ไม่เป็นภัยต่อชีวิตไม่เป็นพิษต่อผู้อื่น ไม่ฝ่าฝืนศีลธรรมกฏหมายและประเพณีที่ดีงามเดินตามอริยมรรคอันมีองค์๘ ตามสถานะและสภาวะของเรา

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
 :059:สมัยบวชและปฏิบัติธรรมใหม่ๆยังไม่รู้และเข้าใจในสภาวะธรรม เพียงแต่จำได้ในตัวอักษรและคำพูด
มักจะสงสัยในครูบาอาจารย์เพราะไม่เคยเห็นท่าน นั่งสมาธิ เดินจงกรม ท่านทำงานและต้อนรับญาติโยมอยู่ตลอดเวลา
ตั้งแต่ตีสี่ก่ว่าที่ท่านตื่นขึ้นมา จนเวลาประมาณตีสองของวันใหม่ ท่านเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาไม่เคยหยุดนิ่ง
แต่เมื่อเราได้ปฏิบัติธรรมมาระดับหนึ่ง ซึ่งพอจะเข้าใจในสภาวะธรรม จึงได้รู้ว่า ที่ท่านเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลานั้น
ท่านกำลังเจริญสติปัฏฐานอยู่ เพราะความไม่รู้และเข้าใจไปเองนั้น ทำให้เราจาบจ้วงลบหลู่ครูบาอาจารย์โดยที่ไม่รู้ตัว
และเมื่อรู้และเข้าใจจึงได้เข้าไปกราบขอขมาต่อครูบาอาจารย์...เป็นประสพการณ์ในการปฏิบัติธรรมที่เคยเป็นมา
 :059:และขอย้ำเตือนว่า..ถ้ายังไม่รู้และเข้าใจจริง จงอย่าได้เอาความคิดของตัวเองไปตัดสินในสภาวะธรรมทั้งหลาย
ซึ่งมันจะกลายเป็น" โง่แล้วอวดฉลาด" ประกาศความโง่ออกมาให้เขาเห็น "สุ จิ ปุ ลิ "ฟัง คิด ถาม ท่องและทดลองกระทำ
อ่านมาก ฟังมาก รู้มาก ก็เป็นได้เพียงใบลานเปล่า เป็นได้เหมือนนกแก้ว นกขุนทอง ถ้าไม่ได้นำไปปฏิบัติให้ถึงซึ่งสภาวะธรรม...