หอสมุดวัดบางเดือน ข้างมณฑปหลวงพ่อพัว สุราษฎร์ธานี
วันอังคารที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เวลา ๐๗.๕๐ น.
มีผู้สนใจในการปฏิบัติธรรมหลายท่านมาขอคำชี้แนะเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม
และได้ให้คำแนะนำเพื่อให้นำไปปฏิบัติ ตามที่ศึกษาและปฏิบัติมา โดยให้ยึดหลัก
ในการปฏิบัติว่า" อย่าเกร็ง อย่าเคร่ง อย่าเครียด" ให้ปฏิบัติอย่างเรียบง่ายสบายๆ
ค่อยๆเป็นค่อยๆไป เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ปรับสภาพและมีความพร้อมมีความ
เคยชินกับวิถีการดำเนินชีวิตและความคิดใหม่ๆ ที่เป็นไปโดยชอบและประกอบด้วยกุศล
โดยให้ถามตัวเองก่อนว่า...อะไรเป็นสาเหตุให้เราอยากปฏิบัติธรรม เราปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร
ให้ค้นหาตัวเองให้เจอเสียก่อน ว่าอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย เกิดจากความคิดจิตที่เป็นกุศลหรือไม่
หรือเป็นไปโดยความคิดจิตที่เป็นอกุศล คือหวังผลเพื่อลาภสักการะและชื่อเสียงหน้าตาคำยกย่อง
ผู้ปฏิบัติต้องมองให้เห็นในจุดนี้ ว่าที่เราต้องการปฏิบัติธรรมนั้นมาจากเหตุอะไร เป็นไปโดยชอบหรือไม่
เป้าหมายของการปฏิบัติคืออะไร เพียงเพื่อต้องการความสงบเพื่อหลบความวุ่นวาย หรือว่าเพื่อให้
จางคลายจากกิเลสตัณหา ปรารถนาความพ้นทุกข์ โดยเราต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของตัวเราด้วยว่า
"จังหวะ เวลา โอกาศ สถานที่ บุคคล" นั้นมันควรจะกระทำอย่างไร ปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้ไม่เป็นการ
"เป็นภัยต่อชีวิต เป็นพิษต่อผู้อื่น ฝ่าฝืนศีลธรรมประเพณี วิถีของกฏหมายและสังคม" เพราะการปฏิบัติธรรม
นั้นอาจจะเป็นการ"ทอดทิ้งธุระ ละเลยต่อหน้าที่"ถ้าเราไม่รู้จักความพอดี บทบาทหน้าที่ของตัวเรา
การปฏิบัติธรรมนั้นพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้เพื่อให้เหมาะสมกับตัวบุคคล คือสำหรับสมณะนักบวช
ผู้ปรารถนาความพ้นทุกข์ และฆราวาสผู้ครองเรือน เพื่อให้ตรงกับวิถีชีวิตและสิ่งที่ปรารถนาเจตนา
เพื่อให้เกิดความเจริญงอกงามในธรรม "เป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยกุศล" ให้รู้จักตัวตนของตัวเองเสียก่อน
จึงขอฝากไว้ให้เป้นข้อคิด นำไปพิจารณา และอย่าได้เชื่อทันที ที่ได้ฟังหรือได้อ่าน จงใช้วิจารณญาณ
ในการเสพข่าวสารและข้อมูล เพื่อเป็นการเพิ่มพูลสติปัญญาให้แก่ตนเอง โดยการฝึกคิดพิจารณาและวิเคราะห์
ก่อนที่จะเชื่อหรือปฏิเสธ ประโยชน์นั้นจะเกิดแก่ตัวท่านเอง..
เชื่อมั่นและศรัทธาในธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๙ มีนาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๘.๑๖ น. ณ หอสมุดวัดบางเดือน ข้างมณฑปหลวงพ่อพัว สุราษฎร์ธานี