ผู้เขียน หัวข้อ: ความสุขในปัจจุบัน และในอนาคต  (อ่าน 1081 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ NONGEAR44

  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 669
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - en2005f@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
                                            ความสุขในปัจจุบัน และในอนาคต


ถาม : ตอนนี้มีเคราะห์กรรมเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องทำบุญอะไร ที่ว่ามีอานิสงส์สูงมากเพื่อที่จะให้เจ้ากรรมนายเวร

ตอบ : คืออันนี้จริง ๆ มันไม่ใช่ว่าทำบุญที่มีอานิสงส์สูง แต่ว่าทำให้ถูกคือว่าการเจ็บไข้ได้ป่วยส่วนใหญ่ เป็นเศษกรรมปาณาติบาต

คือการเคยฆ่าคนฆ่าสัตว์มาก่อนในอดีต อันนี้ต้องใช้ชีวิตให้เขาอย่างเช่นว่า ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยไก่ที่เขาจะฆ่า ต้องเป็นที่ ๆ เขาจะฆ่ากินด้วยนะ หรือไม่ก็จะทำร้ายที่ให้มันถึงแก่ชีวิตพวกนั้น

เราช่วยให้เขารอดชีวิตไปได้ กุศลตัวนี้จะไปบรรเทาเบาบางกรรมตัวนั้นได้เยอะ

อาตมาเองสมัยเป็นฆราวาสมันป่วยเรียกว่าหัวอาทิตย์ท้ายอาทิตย์เลย แล้ววันหนึ่งหลวงพ่อก็แนะนำให้ว่า แกเองเป็นทหารมาทุกชาติฆ่าเขาไว้เยอะ เศษกรรมตัวนี้จะทำให้ป่วยบ่อย

แกควรจะไปปล่อยปลาซะเดือนละตัว สองตัวก็ได้ เป็นปลาที่เขาจะขายเพื่อให้เขาฆ่า ให้ฆ่าส่วนใหญ่จะไปทำอาหาร

ก็กราบเรียนหลวงพ่อว่า หลวงพ่อครับการปล่อยปลามันเป็นการต่ออายุไม่ใช่เหรอครับ ผมเองไม่อยากจะอยู่ ๆ แล้ว ๆ จะไปปล่อยทำไม

ท่านบอกว่าแกอย่าพึ่งเข้าใจผิดอย่างนั้น การปล่อยปลาจะเป็นการต่ออายุก็ต่อเมื่ออุปฆาตกรรมคือกรรมที่เราเคยฆ่าคนฆ่าสัตว์ใหญ่ในอดีตมันตามทันมาช่วงนั้นจะมาตัดรอนชีวิตของเราลง

ถ้าอย่างนั้นการปล่อยชีวิตเขาก็จะเป็นการต่ออายุของเรา แต่ถ้าหากว่าในช่วงนั้นไม่มีอุปฆาตกรรมเราเองได้ปล่อยชีวิตเขาให้รอดไปให้ได้รับความสุขให้ได้รับความสะดวกสบายต่อไปทำอะไรก็สบายก็ง่ายไปหมด

เลยปล่อยมาเรื่อย ๆ จะ ๒๐ ปีเต็มอยู่แล้ว ปล่อยทุกเดือน ๆ ละเยอะ ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่ค้าก็ยืดคอรอแล้ว (หัวเราะ) เดือนหนึ่งหลายพัน บางทีถึง เจ็ดแปดพัน ถ้าปล่อยวัวด้วยก็ตัวละหมื่นกว่า ปล่อยวัวนี่ชอบใจของมูลนิธิ....(ไม่ชัด)

ก็มีสัญญากันว่าจะต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีแล้วก็ห้ามขายห้ามฆ่า ยกเว้นว่าแก่ตายเอง

ถาม : อย่างสมมติว่าการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง ถ้าสมมติเรารู้ว่าจะมีการเกิดอุบัติเหตุอะไร เราควรจะแก้ไขด้วยวิธีนี้

ตอบ : ใช้วิธีนี้ คือการตัดเคราะห์กรรมมันมีตั้งแต่ถวายสังฆทานตั้งใจอธิษฐานโดยเฉพาะเลย

ปล่อยชีวิตสัตว์ที่จะถูกฆ่า ทำบังสุกุลตายบังสุกุลเป็น หรือไม่ก็อันดับสุดท้ายเลยจัดงานศพตัวเอง

หลวงพ่อพระครูโวทานธรรมาจารย์ เป็นอาจารย์สอนเทศน์ให้หลวงพ่อฤๅษีลิงดำของเราท่านจัดงานเผาศพตัวเอง ลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นนักเทศน์มากันที ๔-๕ ร้อยองค์

เพราะฉะนั้นปกติท่านจัดเทศน์กัน ๒ ธรรมาสน์ ๓ ธรรมาสน์ แต่งานศพหลวงพระครูโวนี่จัดกันที ๕๐๐ ธรรมาสน์ ลูกศิษย์ถวายเงินองค์ละร้อยพร้อมกับผ้าไตรชุดหนึ่ง

โยมลองคิดดู...เงินคนละร้อยพร้อมกับผ้าไตรชุดหนึ่งสมัยก๋วยเตี๋ยว ๒ ชาม ๕ สตางค์ เงินร้อยหนึ่งมันเท่าไหร่ของสมัยนี้โยมต้องคิดให้ดี คงเป็นแสนของสมัยนี้

เพราะว่าลูกศิษย์นักเทศน์ของท่านทั่วประเทศไทยจริง ๆ แล้วท่านเองท่านก็เป็นพระที่ปฏิภาณเฉียบแหลมชนิดที่ใครก็ต้อนไม่อยู่ คนก็ไปถามท่านว่าทำไมถึงจัดงานศพตัวเอง

บอกว่าถ้ากูตายแล้วกูก็ไม่ได้เห็น เพราะฉะนั้นกูต้องจัดตอนเป็นถึงจะได้เห็นว่ามันทำอะไรให้บ้าง

แต่ความจริงไม่ใช่ อันนั้นท่านก็พูดไปเรื่อย แต่จริง ๆ แล้วก็คือเป็นการต่ออายุ โยมจะเห็นว่ามีคนจีนหลายคนที่ซื้อโลงเตรียมไว้เลย เตรียมไว้ในบ้านเลยถึงเวลาตายได้ใช้โลงใบนั้น

พวกเตรียมตัวตายซื้อโลงเตรียมไว้พร้อมนี่ อาตมาเห็นมาเยอะบางทีประแหงบ ๆ พอซื้อโลงเข้าบ้านมาหายป่วยแข็งแรงดีไปเลย มันเหมือนอย่างกับตัดเคราะห์ไปอย่างหนึ่ง

ถาม : เป็นการแก้เคล็ด

ตอบ : จ้ะ...ลักษณะนั้น อันนั้นวิธีการตัดเคราะห์กรรมอะไรใหญ่ที่จะมาถึงก็มีตั้งแต่ถวายสังฆทาน ปล่อยชีวิตสัตว์ที่ถูกฆ่า ทำบังสุกุกลตายบังสุกุลเป็น จัดงานศพตัวเองแล้วแต่หนักเบา ปล่อยชีวิตสัตว์ที่ถูกฆ่าถ้าเราคิดว่าเคราะห์กรรมมันใหญ่ก็ปล่อยสัตว์ใหญ่หน่อย

ถาม : ..........................

ตอบ : เรื่องของทาน ศีล ภาวนา ทุกสิ่งที่เราทำคนได้ก็คือเราเอง ถามว่าดีอย่างไรก็ต้องดูว่าตัวผลคืออานิสงส์ที่จะได้เป็นอย่างไร

เอาเรื่องของศีลเป็นตัวอย่าง ทุกคนไม่มีใครอยากให้คนอื่นมาฆ่าเราทำร้ายเรา เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ควรที่จะฆ่าใครไม่ควรที่จะทำร้ายใคร

เราไม่อยากให้ใครมาลักขโมยของเรา เราก็ไม่ควรจะลักขโมยของ ๆ ใคร คนที่เรารักเราไม่อยากให้คนอื่นมาแย่งไป เราก็อย่าแย่งคนอื่นเขา

เราไม่อยากให้ใครมาโกหกเรา เราก็ไม่ควรที่จะโกหกใคร เป็นคนมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์รู้ผิดรู้ถูกรู้อะไรควรรู้อะไรไม่ควรเป็นสิ่งที่ดี ยังไงก็อย่าไปเอายาเสพติดมาย้อมใจตัวเองให้มันมึนเมาจนขาดสติสัมปชัญญะไป

ทุกสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอนมา ท่านสอนเพื่อให้ตัวเราได้เองทั้งนั้น สิ่งที่เราทำคือเราได้ก่อนแล้ว หลังจากนั้นพอเราทำแล้วตัวเราดี สิ่งที่เราทำดีพอตัวเราดีเสร็จมันก็จะส่งผลไปถึงคนรอบข้างด้วย คนรอบข้างก็เออ...เห็นตัวอย่างที่ดีก็เลียนแบบทำตาม

มันก็เป็นสังคมที่อยู่เย็นในวงเล็ก ๆ อาจจะเป็นว่าเฉพาะครอบครัวของเราก่อน แต่อย่าลืมว่าทุกครอบครัวตั้งใจทำดีอย่างนี้ หมู่บ้านนั้นทั้งหมู่บ้านก็ดี ทุก ๆ หมู่บ้านถ้าตั้งใจทำตำบลนั้นก็จะดี ถ้าทุกตำบลตั้งใจทำอำเภอนั้นก็ดี ทุกอำเภอตั้งใจทำจังหวัดนั้นก็ดี ถ้าทุกจังหวัดพร้อมใจกันทำประเทศของเราต้องดี

ทุกสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอนท่านสอนเพื่อประโยชน์สุขของเราทั้งนั้น

สุขในปัจจุบัน คือไม่ต้องไประแวดระวังไม่ต้องไปกลัวภัยอะไร เพราะทุกคนไม่เบียดเบียนกัน

สุขในอนาคต ผลที่เราทำ ถ้าหากว่าเกิดจากการให้ทานต่อไปในภายภาคหน้าก็จะเป็นผู้ที่มีฐานะร่ำรวย ผลของการที่เรารักษาศีลก็จะเป็นผู้ที่มีรูปสวย มีจิตใจที่ดีงาม ผลของการเจริญภาวนาเกิดมาก็จะมีปัญญามาก ถ้าหากว่าเป็นทางโลกมีอุปสรรคอะไรก็แก้ไขได้ ถ้าเป็นทางธรรมต้องการจะต้ดกิเลสก็มีปัญญาสามารถตัดกิเลสได้เหล่านี้เป็นต้น

เพราะฉะนั้นสิ่งที่ท่านสอนท่านสอนให้อยู่สุขทั้งปัจจุบันและสุขทั้งอนาคตค่อย ๆ ดูไปค่อย ๆ ทำไป สิ่งทั้งหลายเหล่านี้พิสูจน์ได้ในระยะยาว ๆ อย่าเพิ่งเชื่ออะไรง่าย ๆ

ตามพิสูจน์ตามค่อย ๆ ดูไป เขาบอกว่าพระองค์นี้ดีหลวงปู่องค์นี้ดีหลวงพ่อองค์นี้ดีค่อย ๆ ดูไป ถ้าหากว่าไม่ดีจริงถึงเวลาก็จะมีสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรไม่เหมาะไม่สมหลุดออกมาให้เราเห็นจนได้

แต่ถ้าหากว่าเป็นสิ่งที่ดีจริง กายวาจาใจของท่านเป็นผู้ที่บริสุทธิ์จริงต่อให้ระยะเวลายาวนานแค่ไหน ไม่ว่าระยะใกล้ไกล ใกล้ชิดหรือห่างไกลขนาดไหนก็ตามเราไม่สามารถที่จะหาจุดบกพร่องของท่านได้

สิ่งที่จะต้องมาตำหนิกันมันไม่มี ค่อย ๆ ดูไปนาน ๆ โบราณเขาว่าหนทางพิสูจน์ม้า เวลาพิสูจน์คนใช่มั้ย มันเกิดจากอะไรล่ะต้องใช้คำว่าประสบการณ์ ประสบการณ์ที่ตกผลึกลงมาจนกระทั่งกลายเป็นข้อคิด กลายเป็นคำคม กลายเป็นคำพังเพยขึ้นมา

ฉะนั้นสิ่งที่ท่านพูดส่วนใหญ่มันก็แฝงไปด้วยความจริงเกือบ ๆ จะ ๑๐๐ เปอร์เซนต์เต็ม ท่านบอกหนทางพิสูจน์ม้าใช่มั้ย ม้าไม่ดีจริงมันเดินทางไกลไม่ไหวหรอก หรือไม่ก็เจอหนทางที่ทุรกันดารหน่อยหนึ่งก็ไปไม่รอดแล้ว มันต้องม้าดีถึงไปได้

ขณะเดียวกันเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คน จะดีจะชั่วยังไงไดูไปนาน ๆ คบกันไปนาน ๆ เดี๋ยวก็เห็นเอง


สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ


เดือนธันวาคม ๒๕๔๔
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

         ขอบคุณที่มา เว็บบอร์ด  พลังจิต