ผู้เขียน หัวข้อ: ทำผิดศีลไม่กล้าสวดมนต์.......แม่ชีทศพร บุญเทวาพิทักษ์  (อ่าน 12799 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ทำผิดศีลไม่กล้าสวดมนต์

รายละเอียด
“ศีล 5 รักษาให้เคร่งครัด เจริญแน่ แต่ถ้าเกิดโยมทำผิดอะไรไปข้อหนึ่ง ศีลอีกสี่ข้อมันยังค้ำโยมอยู่นะ”

บางคนบอกว่า เพิ่งกินเหล้ามาจะไปสวดมนต์ได้อย่างไร มันรู้สึกผิดในใจ เพราะว่าเพิ่งทำผิดมาหมาด ๆ กลัวทำไม่ได้ มันจะบาปหนักขึ้นไปอีก แต่มันไม่ใช่ ในนาทีนั้น นาทีที่สมาทานศีล โยมไม่ทำบาปแน่ โยมบริสุทธิ์ในนาทีนั้น ชั่วโมงนั้น ขอให้สมาทานไว้ ถึงแม้วันรุ่งขึ้นจะทำผิดอะไรไปข้อหนึ่ง สิ่งที่สมาทานไว้ก็ยังเหลืออีกสี่ข้อ ศีลอีกสี่ข้อมันยังค้ำอยู่นะ ก่อนบวชแม่ชีเป็นคนที่เมา แต่แม่ชีก็สวดมนต์ แม่ชียังมีจิตใต้สำนึก มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน ถ้าวันไหน ไม่ได้สวดมนต์ ก็จะนอนไม่ได้เหมือนกัน มันเป็นนิสัยถึงจะเมาอย่างไรก็ลุกขึ้นมาสวด อิติปิโส 108 จบ สวดอิติสุคโต 108 จบ สวดยอดพระไตรปิฎก สวดชินบัญชร สวดทุกอย่างเลย สวดธรรมจักรด้วย แต่ก็เจอกรรม เพราะไม่ได้สมาทานศีล 5 ทุกคนก็เลยปฏิเสธ ไม่มีใครทำผิดพร้อม ๆ กันทีเดียวห้าข้อหรอก ฉะนั้นอย่ากลัวที่จะสวดมนต์

แต่มันจะยากสำหรับคนที่มีทิฐิในใจ ยังไม่ทันจะสวดเลยตั้งป้อมแล้ว ตั้งมุมแล้ว ตั้งมุมสู้แล้ว แต่เรื่องที่จะมาขัดแย้งกับศีลนะ เรื่องที่มันเป็นอบาย พูดเรื่องคนอื่นทั้งคืน ประจานคนอื่นทั้งคืนไม่รู้สึกอะไร ทำไมพูดด่าแช่งคนอื่นพูดได้ เรื่องไม่ดีจะด่าใครไม่ต้องจดไม่ต้องจำ มันออกมาจากจิตใต้สำนึกเลยนะ เรื่องของภูมิของเดรัจฉานคือ มันออกมาแบบเป็นสเต็ปเลย คนมักจะไม่เข้าใจเรื่องดีหรอก เพราะเรื่องดีมันต้องใช้ทั้งจดและทั้งจำ แต่พอจะทำดี ศีลแค่ห้าข้อเนี่ย มันสงสัยเสียจนแบบว่าแทบจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้

ที่ย้ำให้สวดมนต์ก่อนนอนเพราะว่าคืนนี้โยมนอนไป โยมไม่ไปทำผิดแน่ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง หมายถึง ขอรับเป็นข้อ ๆ นะ มันลักษณะห้าอย่างเป็นข้อ ๆ พอวันรุ่งขึ้นอานิสงส์ที่สมาทานไว้ จะส่งผลว่าโยมไม่ต้องตัดสินใจในเรื่องของความโลภเลย

หนังสือ ทำอะไรก็เจริญ

ขอกราบขอบพระคุณ
แม่ชีทศพร บุญเทวาพิทักษ์
http://www.thossaporn.com/
http://www.thossaporn.com/view_media.php?media_id=20&PHPSESSID=2006ea7c283b83f74fb2114021f665fa
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
น้อยใจบุญ


รายละเอียด
มนุษย์ปุถุชนที่ยังมีกิเลส และไม่สามารถตัดมันออกไปจากใจได้ มักจะมีสิ่งที่เรียกว่า “อารมณ์” อยู่คู่กับจิตใจเสมอ แต่กระนั้นก็มี “เหตุผล” หรือ “สติ” เป็นเครื่องช่วย คอยระงับยับยั้งอารมณ์ไว้ แต่คราวใดที่อารมณ์มีพลังเหนือกว่า ก็จะมีคำกล่าวที่ว่า “อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล” นั่นเอง

อารมณ์หลักของความเป็นกิเลสมารนั้น ประกอบไปด้วย รัก โลภ โกรธ หลง เป็นสำคัญ แต่ก็ยังมีแยกย่อยออกไปอีก เช่น ดีใจ เสียใจ ร่าเริง ชื่นใจ หรือน้อยใจ เป็นต้น

วันนี้แม่ชีจะขอกล่าวถึง “ความน้อยใจ”ก่อนค่ะ

เขาว่าคนที่ใจน้อยมักจะน้อยใจง่าย นี่แม่ชีไม่ได้เล่นคำอะไรนะคะ คนใจน้อยไม่ได้หมายถึงหัวใจมีปริมาณน้อย แต่หมายถึงใจไม่หนักแน่น เมื่อใจไม่หนักก็เท่ากับเป็นคนใจเบานั่นเอง... อย่าเพิ่งงงนะคะ

“น้อยใจ” เป็นอาการอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดความหงุดหงิดใจ ความเครียด คิดมาก จิตปริวิตก แต่มักจะเกิดกับคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดี หรือคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นเป็นบวก แต่กลับได้ผลตอบแทนเป็นลบ เช่น สาวน้อยคนหนึ่งน้อยใจแฟนของเธอ นั่นก็เพราะเธอคิดว่าเธอรักเขามาก เขาก็น่าจะรักเธอมากเช่นกัน นั่นคือคิดว่าน่าจะเป็นบวกแต่ผลที่ได้กลับเป็นลบ เพราะแฟนของเธอกลับไม่ค่อยสนใจเธอสักเท่าไหร่ ก็เลยเกิดอาการน้อยใจ

ทีนี้ก็มาถึงหัวข้อที่แม่ชีตั้งไว้ นั่นคือ “น้อยใจบุญ” ตรงนี้ก็หมายความว่า คุณโยมบางท่านเป็นคนดี มีนิสัยชอบทำบุญสุนทาน ไม่ค่อยคิดจะทำผิดคิดร้ายอะไรใคร ก็เลยมีความหวังอยู่ในใจ ว่าการทำดีนั้นน่าจะส่งผลดีเป็นการตอบแทนให้ตนเองได้ดี หรือเมื่อทำบุญก็หวังจะได้บุญตอบแทน แต่เมื่อไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ก็เลยเกิดอาการน้อยใจ คือ รู้สึกว่าทำดีไม่ได้ดี หรือทำบุญมามากมายแต่ทำไมไม่ได้บุญ หรือทำไมชีวิตจึงได้ลำบากอยู่อย่างนี้ แล้วถ้าคิดต่อว่าจะเลิกทำบุญเสียดีไหม นี่ก็คืออาการ “น้อยใจบุญ” นั่นเองค่ะ

แม่ชีเคยดูรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ซึ่งพิธีกรหรือผู้ดำเนินรายการชอบพูดว่า “คุณทำดีแล้ว...แต่ยังดีไม่พอที่จะเข้ารอบต่อไป”

นี่อาจจะเป็นคำตอบสำหรับญาติโยม ที่แม่ชีจะนำมาตอบสำหรับคนที่น้อยใจบุญก็ได้ ว่าโยมทำบุญแล้วแต่ยังทำไม่มากพอ เพราะฉะนั้น...ขอให้ทำต่อไปค่ะ

หนังสือ เกิดแต่กรรม 4


ที่มา
http://www.thossaporn.com/view_media.php?media_id=21

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ฝากเตือนสติ


รายละเอียด
“คนเรามันรักสุขเกลียดทุกข์ หนักก็หนักตรงนี้แหละ ไม่รับความจริง”

“เราเกิดมา นินทา สรรเสริญก็ดีอย่าไปรับเอามาหนักไว้ในใจ ปล่อยผ่านไปเสีย...ความรัก ความชัง ความโลภ ความหลง เกิดขึ้นก็เพราะกิเลสมันเสวนากันอยู่”

“...อดีตเป็นธรรมเมา อนาคตเป็นธรรมเมา จิตดิ่งอยู่ในปัจจุบันตัดกิเลส ตัณหา ตัดมานะทิฐิ ตัดความยึดมั่นถือมั่นของตนเองให้เสร็จลงก็สงบได้”

(ธรรมะหลวงปู่แหวน สุจินโณ วัดดอยแม่ปั๋ง)

“ไม่มีสิ่งใดทำร้ายเราได้ มีแต่ใจเราที่ทำร้ายตัวเอง ไม่คิดไม่ทุกข์”

“ความสุขอยู่แห่งหนใดไม่ต้องไปตะกายหา อย่าคาดหวังกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ความสุขความทุกข์อยู่ที่ตัวเรา ว่าเราจะทำตัวให้ทุกข์หรือสุข เลือกเอา”

(ธรรมะจากตัวเราเอง)

“Do no wrong is do nothing”

“ทำอะไรไม่ผิดเลยคือไม่ได้ทำอะไรเลย”

“ความผิดเป็นครูอย่างดี ควรจะรู้สึกบุญคุณของตัวเองที่ทำผิดพลาด เพราะความผิดพลาดเป็นอาจารย์ผู้วิเศษ สั่งสอนให้เราเจ็บแล้วต้องจำ”

(เจ้าคุณนรรัตนราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ)

“อัตตาหิ อัตโนนาโถ...ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”

“ตนทำบาปก็ได้รับทุกข์เอง ตนทำบุญก็ให้ความสุขแก่คนนั้น บุญบาปเป็นของเที่ยงแท้แน่นอน ใครทำบาป บาปย่อมให้ผล ใครทำบุญกุศล บุญกุศลย่อมตามให้ผล แต่บางอย่างบางประการนั้น ไม่ทันกับใจกิเลสมนุษย์ ก็เลยเข้าใจว่าทำบุญก็ไม่เห็นผล แต่ว่าบาปไม่ทันก็เห็นผล”

“อย่าเข้าใจว่า มาทำบุญแล้วจะตัดเวรตัดกรรมได้ บุญส่วนบุญกรรมส่วนกรรมตัดไม่ได้ เว้นแต่กรรมเบา หรืออโหสิกรรมตัดได้ พวกนั้นตัดได้ พระพุทธเจ้ายังตัดไม่ได้ พระโมคคัลลามีฤทธิ์สุดขีด ไม่มีองค์ไหนมาเทียมก็ตัดไม่ได้ต้องชดใช้กรรม”

(หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้น จ.ลำพูน)

“คนเรานั้นเกิดคนเดียว ตายคนเดียว ไม่ได้เอาสมบัติมา ไม่ได้เอาสมบัติไป รักกันเพียงได ก็ต้องพลัดพราก

ยิ่งยึด ยิ่งทุกข์ ลูกผัวตัวกู ของกู สมบัติกู ปล่อยวางได้สบาย ไม่มีอะไรเป็นของใคร ทุกสิ่งเป็นสิ่งสมมุติ ยึดเอาไว้ก็ได้ทุกข์ตอบแทน อยากโง่ก็ยึดต่อไป คิดได้ก็วางเสีย”

“ใครทำดีกับเราจดจำไว้บ้าง ใครทำไม่ดีกับเราลืม ๆ ซะบ้าง จะเป็นผลดีต่อสุขภาพจิตเรา”

“ไม่มีศัตรูใดร้ายกับเราเท่าจิตเรา ไม่มีมิตรใดดีกับเราเท่ากับจิตเราเอง ฝึกตัวเองให้เป็นผู้ให้ทานดีกว่าฝึกตัวเองให้เป็นขอทาน”




หนังสือ ความในใจ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
บทสวดมนต์ก่อนการนั่งสมาธิ
และก่อนนอน ต้องอาราธนาศีล 5
และสมาทานศีล 5 โดยเริ่มจาก


คำบูชาพระ
อิมินา สักกาเรนะ ตัง พุทธัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ตัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ตัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ

คำนมัสการพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ(กราบ)
สะวาขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ(กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ(กราบ)

คำอาราธนาศีล 5
มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ
ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ
ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ

คำนมัสการพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)

ไตรสรณคมณ์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ศีล 5
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

หัดทำไปทุกวัน ทุกเช้าและก่อนนอน หากใครกลัวว่า
ทำไปแล้วเราก็ต้องออกไปผิดศีลอยู่ดี แนะนำให้ทำก่อนนอน
เพราะเราไม่ต้องไปเจอสังคม
ไปต้องไปผิดกับใครจึงทำให้เกิดกุศลมากที่สุด

ที่มาและเพิ่มเติม
http://www.dhammajak.net/kram/5-2.html

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
แม่ชีทศพร -ศีล ๕
[youtube=425,350]51QGnGeeHYA[/youtube]

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ได้อ่านแล้วผมคงต้องคิดใหม่ทำใหม่ เพราะบางวันที่ดื่มผมก็จะไม่สวดมนต์ เพราะคิดว่าร่างกายไม่บริสุทธิ์ สวดมนต์ทั้งๆที่ปากยังมีกลิ่นของเมาอยู่คงไม่ควร ผมคงต้องไตร่ตรองดูใหม่แล้วครับ

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ได้อ่านแล้วผมคงต้องคิดใหม่ทำใหม่ เพราะบางวันที่ดื่มผมก็จะไม่สวดมนต์ เพราะคิดว่าร่างกายไม่บริสุทธิ์ สวดมนต์ทั้งๆที่ปากยังมีกลิ่นของเมาอยู่คงไม่ควร ผมคงต้องไตร่ตรองดูใหม่แล้วครับ
คิดเหมือนกันเลยครับ
พอดีว่าผมได้งดเบียร์(ที่ดื่มต่อเนื่องทุกวัน)มาตั้งแต่วันมาฆบูชา ด้วยปัญหาสุขภาพและอย่างอื่นด้วย
ตอนนี้งดได้ 5 วันแล้ว รู้สึกดีขึ้นเยอะ
ทำให้มีสติมากขึ้น มีเวลาศึกษาธรรมะมากขึ้น
และรู้สึกยินดีที่เข้ามาเวปนี้ได้แลกเปลี่ยนสิ่งดีที่น่าสนใจกับเพื่อนสมาชิก :002: