ผู้เขียน หัวข้อ: ...บันทึกเส้นทางบนสายธรรม บทที่ ๖...  (อ่าน 166 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เว็บมาสเตอร์...

  • ผู้ดูแลระบบ
  • *****
  • กระทู้: 571
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • www.bp.or.th


...บันทึกเส้นทางบนสายธรรม บทที่ ๖...

...“ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น
มันอยู่ที่ทุกคนจะคิดและทำหรือไม่
อย่าได้น้อยใจและโทษวาสนาบารมี
กล่าวโทษว่าตัวเรานั้นไม่ดีไม่มีอำนาจ
วาสนา เพราะว่าการกระทำอย่างนั้น
เท่ากับการสาปแช่งตัวเอง ขาดความ
ศรัทธาเชื่อมั่นในการกระทำของตนเอง
ซึ่งมันจะทำให้ มีแต่ความเสื่อมถอย
ไม่มีความเจริญรุ่งเรื่องขึ้นไปได้เลย ”...
... "ความเบื่อกับความอยากเป็นของคู่กัน"
เมื่อความอยากเกิดขึ้น จิตก็ดิ้นรนขวนขวาย
หาเหตุและปัจจัยมาสนองตอบความอยาก
ถ้าสนองตอบตัณหาความอยากได้ จิตก็ยินดี
ถ้าไม่ได้ตามที่ปรารถนา จิตมันก็เกิดปฏิฆะ
และเมื่อเสพในความอยากนั้นจนเต็มที่แล้ว
จิตมันก็จะเบื่อในอารมณ์นั้น ความอยากใน
สิ่งอื่นก็เข้ามาแทนที่มันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา
คือ อยากๆเบื่อๆแล้วก็เบื่อๆอยากๆ ตาม
กำลังกิเลสตัณหาที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงของ
อารมณ์ ถ้าเราไม่รู้เท่าทันอารมณ์เหล่านี้
ชีวิตของเราก็จะไม่มีความสุข เพราะเราต้อง
ดิ้นรนขวนขวาย สร้างเหตุหาปัจจัยมาเพื่อ
สนองตอบตัณหาไม่สิ้นสุด...
....โลกและธรรม นำชี้ บทชีวิต
ก่อเกิดกิจ เกื้อหนุน เป็นบุญค้ำ
สิ่งที่คิด สิ่งที่เห็น นั้นเป็นธรรม
เป็นประจำ ในชีวิต คิดใคร่ครวญ
....เพราะธรรมะ นั้นคือ ธรรมชาติ
ตามโอกาส และจังหวะ ตามสัดส่วน
สิ่งที่ทำ สิ่งที่คิด กิจที่ควร
ทุกสิ่งล้วน คือธรรม ตามความจริง
....ธรรมะนั้น อยู่ใกล้ ในชีวิต
ถ้าหากจิต ของเรา นั้นหยุดนิ่ง
ก็จะรู้ และเห็น ความเป็นจริง
สรรพสิ่ง ล้วนคือธรรม ที่นำพา
....คือความจริง ทั้งหลาย ในโลกนี้
สิ่งที่มี สิ่งที่เห็น ได้ศึกษา
คือความจริง ใช่สิ่งหลอก โลกมายา
หลักธัมมา ธรรมชาติ ที่เป็นไป
....มันคือกฎ ของโลก ที่เป็นอยู่
มันเป็นคู่ กันมา ทุกสมัย
โลกและธรรม คู่กัน นั้นเรื่อยไป
เกิดจากใจ จากจิต ที่คิดจริง
....เมื่อใจรับ ความเป็นจริง สิ่งทั้งหลาย
พบความหมาย ในชีวิต สรรพสิ่ง
ก็จะเห็น โลกธรรม ตามความจริง
สรรพสิ่ง มันก็เป็น เช่นนั้นเอง...

...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต..
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔...