...รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๗...
... "อย่าไปหวั่นไหวกับกระแสโลก
จนเกินไป คืออย่าไปยินดี ยินร้าย
กับคำสรรเสริญและคำนินทา
ความสุขหรือความทุกข์ และลาภยศ
ทั้งหลาย อย่าไปหวั่นไหวกับมัน
เพราะว่าความหวั่นไหวนั้น มันจะทำ
ให้เราขาดความเชื่อมั่นและศรัทธา
ในตนเอง เรียกว่าเป็นคนไม่แน่นอน
ทำอะไรไม่แน่นอน จิตนั้นย่อมทุรน
ทุรายหวั่นไหวไปกับโลกธรรม นำมา
ซึ่งความทุกข์ทั้งหลาย ถ้าเราวางใจ
ให้อยู่เหนือโลกธรรมได้เมื่อไร
ใจของเรานั้นก็จะเป็นสุข"...
๐ น้อมเอาธรรม คำสอน แต่ก่อนกาล
พระอาจารย์ ท่านสอน แต่ก่อนเก่า
ให้ดูกาย ดูจิต ความคิดเรา
ดูแล้วเอา มาเป็น เส้นแนวทาง
๐ " ทุกข์เท่านั้น เกิดมา พาหลงใหล
สมุทัย ที่เกิด ทุกสิ่งอย่าง
นิโรธธรรม นำไป ให้ถูกทาง
มรรคนั้นสร้าง ทางสัจจะ สู่พระธรรม
๐ เป็นของจริง สัจจะ อริยะ
องค์พุทธะ เลิศล้น ชนดื่มด่ำ
บอกโลกรู้ ดูให้เป็น จึงเห็นธรรม
เพื่อจะนำ ชีวิต ไม่ผิดทาง "
๐ คือบทกลอน สอนใจ ชวนให้คิด
ชี้ถูกผิด นำมา เป็นแบบอย่าง
ปฏิบัติ ให้ตรง ไม่หลงทาง
คือแบบอย่าง ของครูบา พระอาจารย์
๐ สอนให้คิด สอนให้ทำ และนำชี้
รู้ชั่วดี มีความคิด จิตอาจหาญ
ทำให้ดี ทำให้ชอบ ประกอบการ
การทำงาน ทั้งทางโลก และทางธรรม
๐ ไม่มีใคร รู้ซึ้ง เท่าหนึ่งจิต
เห็นสิ่งผิด ทางชั่ว ไม่ถลำ
มุ่งทางดี ทางชอบ ประกอบกรรม
สิ่งที่ทำ นำสุข เพื่อทุกคน
๐ เอาพระธรรม นำทาง สร้างชีวิต
นำความคิด นำจิต สู่กุศล
เพื่อให้เกิด ประโยชน์ท่าน ประโยชน์ตน
เพื่อฝึกฝน เจริญจิต ภาวนา
๐ เพราะส่งจิต ไปนอกกาย ทำให้ทุกข์
คิดว่าสุข ทำไป ตามตัณหา
เพราะโลภหลง รักใคร่ ในกามา
จึงนำพา ให้เวียนว่าย ในวังวน
๐ เมื่อรู้ธรรม จงเอาธรรม นำชีวิต
เปลี่ยนความคิด หยุดวุ่นวาย ไม่สับสน
ประกอบกรรม ทำความดี หน้าที่ตน
สร้างกุศล ผลบุญ เป็นทุนรอน
๐ ชีวิตนี้ ไม่นาน ก็แตกดับ
ต้องลาลับ เหลือเพียง อนุสรณ์
วันเวลา ผ่านไป พึงสังวร
จงมองย้อน ทบทวน ใคร่ครวญดู...
...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๘ มีนาคม ๒๕๖๕...