ส่วนใหญ่ค่านิยมการสักขาลาย ของหนุ่มๆทางเหนือนี่ค่อนข้างเป็นแฟชั่นยอดฮิตในสมัยนั้น
เพราะถ้าใครไม่มีลายสักที่ขาแล้ว ผู้หญิงเค้าก็จะไม่แลครับ แหะๆๆ
(จะมีแฟนซักคนต้องแลกกับความเจ็บปวดด้วยนะนี่) ^ ^
รูปนี้คือการสักที่พุงครับ จะสักตั้งแตพุงลงไปจนถึงเข่าหรือขาอ่อนครับ (ในสมัยรัชกาลที่ห้า เรียกกลุ่มผู้ที่สักแบบนี้ว่าลาวพุงดำครับ)
ยอมรับในความอึดจริงๆครับ เพราะสักตรงนี้เจ็บมากกกกกกกก
อันนี้ด้านหลังคับ
อีกรูปครับเกือบถึงหัวเข่าเลย
รูปนี้ของคุณตาอีกท่านนึงครับ
การสักขาลายของทางเหนือ จะแบ่งเป็นหลักๆดังนี้ครับผม สักข่ามคง คือสักให้คงกระพันหนังเหนียว
สักข่ามพิษ คือสักเพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษ หรือสัตว์กัดต่อย
สับขาลาย (สักขาลาย) สักเป็นคล้ายๆกับแฟชั่นสมัยนี้ครับ ไม่ได้ลงอักขระคาถาแต่อย่างใด
ไม่ได้มีแต่ผู้ชายที่สักนะครับ แม้แต่ผู้หญิงก็สักด้วย แต่จะสักเน้นไปทางข่ามพิษครับ ผู้หญิงสักไม่เยอะเท่าผู้ชาย
ทางเหนือนี่วัฒนธรรมการสัก ได้ยินว่าเริ่มจากพวกเงี้ยวครับ ต่อมาก็แพร่กระจายไป ถึงชาวไทยลื้อ ชาวไทยใหญ่(เรียกตัวเองว่าคนไต)
คนเมือง(คือชาวเชียงใหม่นี่แหละครับ) ^ ^
ผิดพลาดประการใด ขอภัยด้วยครับ
ข้อมูลจากหนังสือ ว่าด้วยรอยสักไทยใหญ่ ของผมเอง(เป็นหนังสือของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครับ)