กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => ธรรมะ => ข้อความที่เริ่มโดย: นายธรรมะ ที่ 07 ต.ค. 2553, 04:19:02

หัวข้อ: วิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล
เริ่มหัวข้อโดย: นายธรรมะ ที่ 07 ต.ค. 2553, 04:19:02
วิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล

(http://palungjit.com/feature/data/516/medium/voodoo_display.jpg)

ธรรมชาติของจิต ไม่ชอบอยู่นิ่ง ชอบนึกคิดไปต่างๆ นานาเช่น นึกคิดไปในทางกามบ้าง นึกคิดไปในทางอาฆาตพยาบาทบ้าง
การนึกคิดในทางที่ไม่ดีเช่นนี้เรียกว่าอกุศลวิตกการห้ามจิตไม่ให้นึกคิดในทางอกุศลนั้น ทำได้ยาก

บุคคลส่วนมากไม่ต้องการคิดในทางอกุศล แต่มักจะอดคิดไม่ได้คิดจนนอนไม่หลับหรือเป็นโรคประสาทก็มี
ตรงกันข้ามเมื่อต้องการคิดเรื่องที่เป็นบุญเป็นกุศล มักจะคิดในทางกุศลไม่ได้นานการห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

ในที่นี้จะได้กล่าวถึงวิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล 5 วิธีด้วยกัน

(1) เมื่อใส่ใจในอารมณ์ใดอยู่ อกุศลวิตกเกิดขึ้น ก็ให้ใส่ใจอารมณ์อื่นที่เป็นกุศลและเป็นคู่ปรับกันเช่น เมื่อนึกคิดไปในทางราคะ ก็ให้หันมาเจริญอสุภสัญญา พิจารณาว่าร่างกายนี้เป็นของเน่าเปื่อยไม่สะอาด มีของโสโครกไหลออกอยู่เนืองๆจะหาสิ่งที่เป็นแก่นสาร หรือสิ่งประเสริฐในกายนี้ไม่ได้เลยเมื่อมาใส่ใจอารมณ์อื่นที่เป็นกุศล คือ อสุภสัญญา ย่อมละราคะนี้ได้ถ้าโลภอยากได้ข้าวของเงินทองต่างๆก็ให้พิจารณาว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นเป็นของกลางสำหรับแผ่นดินไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เป็นเพียงของยืมมาใช้ชั่วคราวตายแล้วก็เอาไปไม่ได้ ต้องทิ้งไว้ในโลกให้คนอื่นใช้ต่อไปเมื่อมาใส่ใจเรื่องอื่นที่เป็นกุศล คือความไม่มีเจ้าของและเป็นของชั่วคราว ย่อมละความโลภในทรัพย์สมบัติได้ถ้านึกคิดไปในทางเบียดเบียนด้วยอำนาจโทสะก็พึงเจริญเมตตาด้วยการระลึกถึงพุทธพจน์ ที่เป็นไปเพื่อคลายความอาฆาต เช่นพุทธพจน์ในกกจูปมสูตร (12/272) ที่ว่า

ดูก่อนภิกษุทั้งหลายหากจะมีพวกโจรผู้มีความประพฤติต่ำช้าเอาเลื่อยที่มีที่จับทั้งสองข้างเลื่อยอวัยวะใหญ่น้อยของพวกเธอ แม้ในเหตุนั้นภิกษุมีใจคิดร้ายต่อโจรเหล่านั้นภิกษุนั้นไม่ชื่อว่าเป็นผู้ทำตามคำสอนของเราเพราะเหตุที่อดกลั้นไม่ได้นั้น ภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้นพวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า จิตของเราจักไม่แปรปรวน เราจักไม่เปล่งวาจาลามกเราจักอนุเคราะห์ด้วยสิ่งที่เป็นประโยชน์ เราจักมีจิตเมตตาไม่มีโทสะภายในเราจักแผ่เมตตาจิตอันไพบูลย์ ใหญ่ยิ่ง หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาทไปตลอดโลก ทุกทิศทุกทาง ซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตนั้นเมื่อมาใส่ใจอารมณ์อื่นอันเป็นกุศล คือ เจริญเมตตา ย่อมละโทสะได้เหมือนช่างไม้ผู้ฉลาด ใช้ลิ่มอันเล็กตอก โยก ถอน ลิ่มอันใหญ่ออก ฉะนั้น

(2) เมื่อใส่ใจอารมณ์อื่นอันเป็นกุศล อกุศลวิตกยังเกิดขึ้นเรื่อยๆก็ควรพิจารณาโทษของอกุศลวิตกว่า ย่อมเป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนบ้างเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่นบ้าง ทำให้ปัญญาดับก่อให้เกิดความคับแค้น ให้ผลเป็นความทุกข์ความเดือดร้อนไม่เป็นไปเพื่อพระนิพพาน เมื่อพิจารณาโทษอยู่อย่างนี้ย่อมละอกุศลวิตกนั้นได้ เหมือนชายหนุ่มหญิงสาวรู้ว่ามีซากศพซึ่งเป็นของปฏิกูลน่ารังเกียจผูกอยู่ที่คอย่อมรีบทิ้งซากศพนั้นโดยเร็ว

(3) เมื่อพิจารณาโทษของอกุศลวิตกนั้นอยู่ อกุศลวิตกยังเกิดขึ้นเรื่อยๆก็อย่าใส่ใจ อย่านึกถึงอกุศลวิตกนั้นเมื่อไม่นึกไม่ใส่ใจก็ย่อมละอกุศลวิตกนั้นได้ เหมือนบุรุษผู้มีจักษุไม่ต้องการเห็นรูปที่ผ่านมา เขาพึงหลับตาเสีย หรือเหลียวไปทางอื่นเสีย

พระโบราณาจารย์ก็เคยใช้วิธีนี้ แก้ความกระวนกระวายของติสสสามเณรที่ต้องการลาสิกขา

เรื่องมีอยู่ว่าติสสสามเณรคิดจะลาสิกขา จึงแจ้งให้พระอุปัชฌาย์ทราบพระเถระจึงหาวิธีเบนความสนใจของสามเณร โดยกล่าวว่า ในวิหารนี้หาน้ำได้ยากเธอจงพาเราไปที่จิตตลดาบรรพต สามเณรก็กระทำตามพระเถระกล่าวกับสามเณรอีกว่าเธอจงสร้างที่อยู่ใหม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยเฉพาะบุคคลหนึ่ง สามเณรก็รับคำแล้วสามเณรก็เริ่มสิ่งทั้งสามพร้อมๆ กัน คือเรียนคัมภีร์สังยุตตนิกายตั้งแต่ต้น การชำระพื้นที่ที่เงื้อมเขาและการบริกรรมเตโชกสิณจนถึงอัปปนา เมื่อเรียนสังยุตตนิกายจบลงแล้วก็เริ่มทำอยู่ในถ้ำ เมื่อทำกิจทั้งปวงเสร็จแล้ว ก็แจ้งให้พระอุปัชฌาย์ทราบพระอุปัชฌาย์กล่าวว่า สามเณร ที่อยู่เฉพาะบุคคล ที่เธอทำเสร็จนั้นทำได้ยากเธอนั่นแหละจงอยู่ สามเณรนั้น เมื่ออยู่ในถ้ำตลอดราตรี ได้อุตุสัปปายะจึงยังวิปัสสนาให้เจริญ แล้วบรรลุพระอรหัต ปรินิพพานในถ้ำนั่นแหละชนทั้งหลายจึงเอาธาตุของสามเณรก่อสร้างพระเจดีย์ไว้นี่คือเรื่องของติสสสามเณรที่ถูกพระอุปัชฌาย์เบนความสนใจให้ไปกระทำสิ่งอื่นที่เป็นกุศล จนลืมความคิดที่จะลาสิกขา เมื่อไม่ใส่ใจไม่นึกถึง ความคิดที่จะลาสิกขาก็ดับไปเอง

(4) เมื่อไม่นึกถึงไม่ใส่ใจในอกุศลวิตกนั้น อกุศลวิตกก็ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆก็ควรใส่ใจถึงเหตุ ของอกุศลวิตกนั้นว่า อกุศลวิตกนั้นมีอะไรเป็นเหตุมีอะไรเป็นปัจจัยเพราะเหตุไรจึงเกิดขึ้น เมื่อค้นพบเหตุปัจจัยอันเป็นมูลรากแล้ว อกุศลวิตกนั้นย่อมจะเบาบางลง แล้วถึงความดับไปโดยประการทั้งปวง

(5) เมื่อใส่ใจถึงเหตุแห่งอกุศลวิตกนั้นอยู่ อกุศลวิตกยังเกิดขึ้นเรื่อยๆก็พึงกัดฟันด้วยฟัน ดุนเพดานด้วยลิ้น ข่ม บีบคั้น บังคับจิตด้วยจิตเมื่อข่มจิตอย่างนี้ ย่อมละอกุศลวิตกนั้นเสียได้เหมือนบุรุษผู้มีกำลังมากจับบุรุษผู้มีกำลังน้อยไว้ได้ แล้วบีบกดเค้นที่ศรีษะ คอหรือก้านคอไว้ให้แน่น ทำบุรุษนั้นให้เร่าร้อน ให้ลำบากให้สยบ ฉะนั้น (วิตักกสัณฐานสูตร 12/ 256 )

วิธีควบคุมอกุศลวิตกทั้ง 5 วิธีนี้ อาจย่อให้สั้น เพื่อให้จำได้ง่ายดังนี้คือ

1. เปลี่ยนนิมิต หันมาคิดเรื่องที่เป็นกุศลและเป็นคู่ปรับกัน
2. พิจารณาโทษา พิจารณาโทษของความคิดฝ่ายชั่ว
3. อย่าไปสน อย่าสนใจความคิดฝ่ายชั่ว หางานอื่นทำ
4. ค้นเหตุที่คิด หาสาเหตุของความคิดฝ่ายชั่ว
5. ข่มจิต เอาฟันกัดฟัน เอาลิ้นกดเพดาน เพื่อข่มจิต

ผู้ที่ฝึกหัดตามวิธีทั้ง 5 นี้จนชำนาญย่อมควบคุมความคิดของตนได้ เมื่อต้องการความคิดเรื่องใดก็คิดเรื่องนั้นได้ไม่ต้องการคิดเรื่องใดก็เลิกคิดเรื่อ
งนั้นได้การควบคุมความคิดได้ดังใจนึกเช่นนี้เป็นประโยชน์อย่างมากทั้งทางโลกและทางธรรม


.................................................................

คัดลอกมาจาก
http://www.geocities.com/wat_thaton/index1.html

นายธรรมะ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก เว็บบอร์ดพลังจิต
หัวข้อ: ตอบ: วิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล
เริ่มหัวข้อโดย: ~>uาJวัuทoJ<~ ที่ 07 ต.ค. 2553, 04:27:09
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะ
หัวข้อ: ตอบ: วิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger Number NINE ที่ 07 ต.ค. 2553, 04:48:57
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะ

ไมใช้สีชมพูแล้ว เหมือนน้องมิน เปลี่ยนบุคลิกเลย
หัวข้อ: ตอบ: วิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล
เริ่มหัวข้อโดย: ronin ที่ 07 ต.ค. 2553, 05:26:29
ขอบคุณมากครับ ผมจะลองนำไปปฎิบัติดู :050:
หัวข้อ: ตอบ: วิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล
เริ่มหัวข้อโดย: vithya ที่ 07 ต.ค. 2553, 06:24:36
อยากให้ทุกคนทำได้จัง ประเทศจะได้ไม่วุ่นวายอย่างทุกวันนี้
หัวข้อ: ตอบ: วิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล
เริ่มหัวข้อโดย: salawit_sangsanit ที่ 07 ต.ค. 2553, 06:32:33
ขอบคุณครับ.
อ่านแล้วเป็นแนวทางน่านำไปปฎิบัติในชีวิตประจำวัน.สาธุ.สาธุ.สาธุ :054: :054: :054:
หัวข้อ: ตอบ: วิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 07 ต.ค. 2553, 07:52:36
ขอบคุณมากครับ พี่นายธรรมะ สำหรับสิ่งดีๆครับ
หัวข้อ: ตอบ: วิธีห้ามจิตไม่ให้คิดอกุศล
เริ่มหัวข้อโดย: viriya ที่ 07 ต.ค. 2553, 08:27:15
ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีครับ