แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - อัตตา

หน้า: [1]
1
ดีครับ เขี้ยวเสือกลวง ถือว่าเป็นทนสิทธิ์ มีดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว ของประเภทนี้ก็อาทิเช่น เขี้ยวหมูป่าตัน , งากำจัด , งากำจาย , งากระเด็น ฯลฯ สุดยอดครับท่าน  :015:

จากที่พี่เค้าพูดเรื่อง ของทนสิทธิ์ เลยสนใจไปหาข้อมูลเพิ่ม พบว่า มีเยอะมากมายเหลือเกิน วันนี้ขอรวบรวมแบ่งปันเรื่องเกี่ยวกับ เหล็กไหลก่อน เผื่อมีเพื่อนๆ ที่สนใจเหมือนกัน ^^

ประเภทของเหล็กไหล

คำเรียกของเหล็กไหลนั้นเรียกกันได้หลายอย่าง บ้างก็เรียกเหล็กหลายบ้าง สมิงเหล็ก(เหล็กที่มีสมิงหรือวิญญาณครอง)บ้าง ประเภทของเหล็กไหลหรือสิ่งที่ใกล้เคียงเหล็กไหลที่ผู้รู้ได้แยกประเภทไว้นั้นมีมากมายหลายประเภทดังนี้ (ขอโปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะครับผมเพียงแต่รวบรวม เรียบเรียงให้อ่านพอประดับความรู้เท่านั้น ข้อมูลเหล่านี้ ยังขาดการชำระสะสาง ถึงที่มา ความน่าเชื่อถือและความถูกต้องอยู่มาก คำเรียกบางคำบางประเภทผู้รู้บางท่านก็กล่าวแย้งว่า เป็นคำเรียกที่แต่งขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นธรรมดาปกติวิสัยเรื่องทางโลก ที่ที่ใดมีผลประโยชน์ที่นั่นย่อมมีการแสวงหาผลประโยชน์ด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ)

๑. เหล็กไหลโกฏิปี

ภาพ : เหล็กไหลโกฏิปี สัณฐานดำออกน้ำเงินดั่งสีปีกแมงภู่ หรือดำออกเขียวดั่งสีปีกแมลงทับ
เหล็กไหลประเภทนี้มีสีสันวรรณะเขียวเหมือนสีของปีกแมลงทับ พบในที่ลึกล้ำอันสงบวิเวก เช่นในถ้ำหรือป่าลึกที่ผู้คนเข้าไม่ถึง เชื่อกันว่าเป็นฤๅษีที่ทิ้งสังขารเดิมของตนเองไว้ แล้วอาศัยอยู่ในสังขารใหม่คือสังขารในรูปเหล็กไหล เพื่อการบำเพ็ญตบะและการทรงฌานอันยาวนานนับหมื่นนับโกฏิปี สามารถยืดได้หดได้ ทรงชีพด้วยการเสพน้ำผึ้ง บางตำราท่านกล่าวว่า เหล็กไหลโกฏิปีนี้ สร้างจากฤๅษีกไลโกฎ ผู้สำเร็จฌานสมาบัติ เมื่อดูจากข้อมูลหลาย ๆที่เหล็กไหลประเภทนี้เป็นเหล็กไหลที่มีตำราโบราณรองรับจริง ๆ แต่ท่านก็จะเรียกเพียงว่า ?เหล็กไหล? เท่านั้นครับ

๒. เหล็กไหลเจ้าป่า (เหล็กไหลไพร บางตำรา)


เหล็กไหลประเภทนี้มีวรรณะสีดำนิลเป็นมันเลื่อมเมื่อกระทบแสงสว่าง ผิวค่อนข้างหยาบ ไม่เนียนเหมือนเหล็กไหลโกฏิปี เหล็กไหลเจ้าป่าชอบเล่นกับไฟ ยืดได้หดได้เหมือนเหล็กไหลโกฏิปี แต่แปลกตรงที่ถ้าทำหลุดจากมือ หล่นลงดินจะหายไปทันที เพราะถูกพวกยักษ์คนธรรพ์ที่ตามจ้องจะแย่งชิง ถือโอกาสหยิบฉวยไปนั่นเอง หรืออีกประการหนึ่งท่านอาจไม่ต้องการอยู่ด้วยนั่นเอง การได้มาส่วนใหญ่ท่านมักจะโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน ให้พระธุดงค์ที่ท่านจาริกหาความสงบวิเวกในการปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิกลางป่าเขา ได้ไว้ใช้ป้องกันภยันตรายต่าง ๆ อีกนัยหนึ่งคงด้วยภพภูมิต้องการจะสร้างบุญกุศลด้วยการคุ้มครองพระรัตนตรัยกระมัง

๓. เหล็กไหลย้อย

เหล็กไหลประเภทนี้เป็นเหล็กไหลที่ตายซากแล้ว มีลักษณะไหลย้อยติดอยู่กับหิน ตามหลืบถ้ำที่ลึกลับอับชื้น ลักษณะวรรณะแข็งกรอบยาวเป็นคืบเป็นศอก บางชิ้นยาวเป็นวาก็มี สีเขียวปนดำด้านไม่มีแวว ไม่กินน้ำผึ้ง พวกผีป่าอสุรกายชอบถือโอกาสอาศัยอยู่ เมื่อถูกไฟจะไม่ยืด-ไม่หด ไม่กินน้ำผึ้ง แม่เหล็กดูดไม่ติด(มีธาตุเหล็กในตัวน้อย) มีฤทธิ์มีอานุภาพเล็กน้อย คือทำให้แคล้วคลาดยิงไม่ถูกฟันไม่ถูกเพราะมีมายาหลอนในตัวมันเอง เกจิอาจารย์บางท่านเรียกเหล็กไหลประเภทนี้ว่า ?พญาเหล็ก?

เป็นเหล็กไหลประเภทที่เกจิอาจารย์บางท่านที่มีกฤตยาคมสูงสำเร็จฌานสมาบัติ พลังจิตแก่กล้า มักจะไปแสวงหานำมาปลุกเสก ให้เกิดอานุภาพเมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ถ้าปลุกเสกดี ๆ อาจจะเป็นมหาอุด ห้ามปืน ห้ามระเบิดได้

เกจิอาจารย์ทางประเทศเมียนม่า ชอบเอาเหล็กไหลย้อย หรือพญาเหล็กนี้ไปสร้างพระพุทธรูป โดยหลอมตัวด้วยไฟอาคมให้ละลายจนกลายเป็นสีดำมันวาวคล้ายนิลบ่อเก่า เมื่อสร้างเป็นพระพุทธรูปแล้ว องค์พระจะมีสีดำมันวาวเหมือนนิลที่สวยงามมาก มีอานุภาพทางโชคลาภ แคล้วคลาดคงกระพันชาตรี สามารถทำลายอาถรรพณ์ทุกชนิด มีมายาภาพในตัวเอง ทำให้หายตัวได้ชั่วครั้งชั่วคราว

๔.เหล็กไหลเพลิง

เหล็กไหลประเภทนี้มีรูปพรรณสัณฐานและสีสันวรรณะคล้ายอิฐมอญ เป็นประกายสดใส ถ้าหมุนเล่นกับความสว่างในห้อง จะเกิดภาพหลอนดูคล้ายกับงูเลื้อยบิดเบี้ยวไปมา สามารถสร้างภาพมายาหลอกหลอนได้นานาชนิด ชอบกินน้ำผึ้ง เอาไฟลนยืดได้เหมือนตังเม บางอาจารย์เรียกว่า ?เหล็กประสานกาย? เพราะจะสร้างมายาหลอกให้เจ้าของที่ถูกอาวุธมีคมฟันแทงนั้นเกิดบาดแผล แล้วไม่นานร่างกายที่ขาดจะกลับประสานกันเหมือนเดิม

อีกตำราหนึ่งกล่าวว่า เป็นเหล็กไหลที่พอหาได้ไม่ยาก พบอยู่ในถ้ำต่าง ๆ หลายแห่ง ฝังตัวเองอยู่ตามเพดานและผนังถ้ำที่มีลักษณะเหมือนผงฝุ่นละเอียด ออกสีแดงหรือน้ำตาล องค์ขนาดเมล็ดถั่วเขียวหรือใหญ่กว่า หากลองอธิษฐานจิตจับดูจะรู้สึกว่าร้อนเหมือนไฟ เชื่อว่าสามารถแสดงภาพมายาหลอกหลอน ทำให้ศัตรูตกใจกลัวได้

สำหรับนักแสวงหาต้องพึงระวังไว้ หากเป็นเหล็กไหลเพลิงแท้ต้องกินน้ำผึ้งและยืดด้วยไฟได้ หากยืดไม่ได้มักจะเป็นหินลูกรัง หรือหินแห่ ด้วยเพราะลักษณะรูปพรรณใกล้เคียงกันมาก อีกประการจะมองดูคล้ายเหล็กตาน้ำ หากเป็นเหล็กตาน้ำมักจะออกสีน้ำตาลปนเขียว และจะพบได้ตามแหล่งที่มีน้ำหรือที่ชื้นครับ

๕.เหล็กไหลน้ำ หรือเหล็กไหลตาน้ำ


คำโบราณท่านเรียกว่า ?เหล็กตาน้ำ? เหล็กไหลประเภทนี้มีวรรณะสีเขียวปนดำ เป็นมันด้าน ๆ ไม่แวววาวเท่าไรนัก ลักษณะย้อยเป็นรูปหยดน้ำชอบเกาะอยู่ตามตาน้ำในซอกหินลึกลับ การค้นหานอกจากต้องมีวิชาอาคมแล้วยังต้องสังเกตตรงตาน้ำที่ไหลผ่านบริเวณหินผาที่มีตะไคร่น้ำสีเขียวเกาะอยู่มากๆ ให้ค่อยๆ เอามือแหวกหาดูก็จะพบเหล็กไหลน้ำที่มักหมกตัวซ่อนอยู่ในตะไคร่น้ำ ถ้าเห็นยังก้อนเล็กอยู่ให้ใช้อาคมผูกล้อมเอาไว้ บอกเจ้าถ้ำเจ้าป่าให้ช่วยรักษาไว้ด้วย แล้วอีก 3-7 วันค่อยกลับมาจะพบว่า งอกขึ้นได้เหมือนเห็ดโคนที่ยังตูม ถ้าเอาไฟลนจะยืดออกไม่มาก แต่ไม่หดกลับอีกเลย กินน้ำผึ้งไม่มาก แต่ชอบกินน้ำมะพร้าวอ่อน ถ้าเอาลงไปแช่ จะเปล่งรังสีให้เห็นได้ในเงามืดเป็นคล้ายสีแดงเรื่อๆยามรุ่งอรุณ เหล็กไหลน้ำมีอานุภาพทางคงกะพันชาตรี กำบังตาลองหน และเป็นมหาอำนาจ ทำให้คนขามคนเกรง เมื่อหลายปีมานี้มีการขุดค้นพบตามกรุร้างปรางค์ขอม หลายแห่งในภาคอีสาน

๖.เหล็กไหลชีปะขาว

เหล็กไหลประเภทนี้มีสีขาวหรือสีขาวออกเหลือง เกจิอาจารย์บางท่านเรียกว่า ?พญางูเผือก? ?ไข่มุกถ้ำ? หรือ ?ไข่มุกกวนอิม? หรือ ?ไข่นกการเวก? พระลามะทิเบตมักมีไว้ประจำตัว เพราะมีมากในถ้ำเขตภูเขาในประเทศทิเบต ส่วนในประเทศเราจะพบเห็นตามถ้ำทางภาคเหนือ และลึกเข้าไปในแคว้นเชียงตุงของพม่า และทางประเทศลาวตอนเหนือ เพราะเหล็กไหลชีปะขาวชอบอากาศหนาวจัด มีอานุภาพทางแคล้วคลาดล่องหนหายตัวได้ชั่วคราว ถูกไฟไม่ยืด แต่ถ้าใช้คาถาอาคมจะยืดได้ มีมายาในตัว ขยายใหญ่ได้เล็กลงได้ ถ้าจะนำไปสร้างพระเครื่องจะต้องใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุ หรือให้อธิษฐานทำน้ำมนต์ก็ใช้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องบดเขา เพราะถ้าหากพลังจิตไม่แก่กล้าพอก็จะทำไม่ได้ หรืออาจเป็นเวรภัยได้

เหล็กไหลชีปะขาวใช้แทนเพชรได้ในกรณีต้องการตัดกระจก สามารถตัดกระจกให้ขาดได้ เพราะมีความแข็งพอๆ กับเพชร เหล็กไหลชีปะขาวทุบไม่แตก ตัดไม่ขาด เหล็กไหลชีปะขาวสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า ผู้ครอบครองจะหมดสิ้นอายุขัย หรือมีเคราะห์ร้ายถึงตายเมื่อใด เมื่อนั้นเหล็กไหลชีปะขาวก็จะถือโอกาสล่องหนอันตรธานหายไป


การบวงสรวงเหล็กไหล หรือวัตถุต่าง ๆในตระกูลเหล็กไหล

ตำราการบวงสรวงและการตัดเหล็กไหลนั้นมีหลากหลายตำราด้วยกัน ส่วนใหญ่จะเป็นที่หวงแหนและอนุญาตให้เรียนกันเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้มีการตัดแบ่งเหล็กไหลค่อนข้างแพร่หลาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเหล็กไหลจำพวกเหล็กทรหด หรือจำพวกโคตรเหล็กไหลเสียมากกว่าซึ่งมักเป็นหินแร่ที่มีกายสิทธิ์ หรือมีอิทธิคุณ คือมีดีในตัว อีกนัยหนึ่งคือแร่ที่สามารถอธิษฐานประจุพลังงานได้โดยง่าย เพราะอาศัยรูปลักษณ์ หรือที่มาที่ก่อให้เกิดศรัทธานั่นเอง แต่แร่นี้ไม่มีวิญญาณครอง(ซึ่งคำว่าไม่มีวิญญาณครองนี้อาจจะมีจิตครองก็ได้ คือจิตที่หวงแหนเฝ้าดูหรือคอยรักษาเอาไว้ หรือมีพลังงานที่ภพภูมิได้คงเอาไว้ ทั้งตั้งใจก็ตามหรือไม่ตั้งใจก็ตาม)

สำหรับเหล็กไหลที่มีวิญญาณครองนั้นคงไม่ใช่เป็นการง่ายนักที่จะบวงสรวงตัดแบ่งมาง่าย ๆ เพราะเหล็กไหลประเภทนี้มักจะอยู่ในหุบเขาและเถื่อนถ้ำที่ไม่ง่ายนักที่คนทั่วไปจะเข้าถึง ส่วนใหญ่ท่านมักจะเป็นฤๅษี-ดาบสที่เบื่อสังขาร จึงทรงสังขารในรูปลักษณ์เหล็กไหล โดยอาศัยเสพอาหารคือน้ำผึ้งเพื่อเลี้ยงตัวเลี้ยงธาตุขันธ์ แต่เหล็กไหลบางประเภทที่มีวิญญาณครองนั้นบางทีก็จัดเป็นภพภูมิพิเศษบางอย่าง ก็อย่าไปรู้เรื่องราวของเขามากเลยครับ และก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ ให้ท่านบำเพ็ญเพียรตบะเดชะของท่านไป อย่าไปแสวงหา อย่าไปรบกวนสร้างความเดือดร้อนให้ท่านเลย(เว้นแต่ท่านจะมาหาเอง ด้วยบุพกรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล) แสวงหากันเพียงตระกูลเหล็กทรหดหรือโคตรเหล็กไหลก็พอครับ อธิษฐานจิตดีๆก็มีพุทธคุณอิทธิคุณรอบด้านแล้ว

ก่อนที่จะกล่าวถึงวิธีบวงสรวงเหล็กไหลนั้นก็จะกล่าวถึงประเภทของเหล็กไหลไว้พอสังเขป เพื่อสงวนตำราโบราณเอาไว้มิให้บิดเบือนไปมากกว่านี้ ที่เขาเรียกเหล็กไหลสุริยันบ้าง เหล็กไหลจันทราบ้าง เหล็กไหลน้ำหนึ่งน้ำสองน้ำรองบ้าง พึงทราบด้วยว่าเป็นคำที่แต่งมาใหม่ เพื่อเรียกขานแบ่งประเภทกันเองในยุคหลัง บางคำก็แต่งมาใช้ในภาพยนตร์เท่านั้น มิได้มีกล่าวไว้ในคำศัพท์โบราณแม้แต่ประการใด



2
อ่านเจอในเน็ตอีกเช่นเคย  เผื่อมีบางท่านสนใจครับ ^^

กรรมวิธีการสร้างพระขรรค์
ขั้นที่ ๑ ตามตำราของท่านกำหนดว่าเขาควายนั้นจะต้องประกอบด้วยลักษณะดังนี้
- เขาควายเผือก (ควายธรรมดาใช้ไม่ได้)
- ต้องตายโหง คือ ถูกยิงตาย ขวิดกันเองตาย หรือถ้าถูกฟ้าผ่าตายได้ก็ยิ่งวิเศษ
- เขาควายนั้น จะต้องไม่ถูกต้มมาก่อน กล่าวคือเมื่อควายตายลงก็ต้องชำแหละตัดเขาออกสดๆ ไม่ต้องรอให้แล่ควายออกเป็นส่วน ๆ แล้วจึงนำหัวมาต้มเพื่อเอาเขาออกได้ สะดวกท่านว่าใช้ไม่ได้
- แกะเป็นรูปพระขรรค์ (โดยด้ามจับไม่ทวนเขาควาย) ในที่นี้หมายความว่าเวลาแกะให้ตัดออกเป็นชิ้นพอเหมาะกับการแกะ ให้จำไว้ว่าทางไหนทางโคนเขา ทางไหนทางปลายเขาให้ทำเครื่องหมายไว้ เวลาแกะให้แกะจากโคนเขาไปหาปลายเขา เป็นทางเดียวตลอดเวลาการแกะจนสำเร็จ ถ้าทวนแม้แต่ครั้งเดียวใช้ไม่ได้ต้องทิ้งไป
ขั้นที่ ๒ นำมาลงอักขระ ในที่นี้จะแยกออกเป็นสองลักษณะเพราะเป็นการลงเต็มและย่อ ทั้งนี้และทั้งนั้นก็เนื่องมาจาก พระขรรค์ของหลวงพ่อมีทั้งขนาดใหญ่บูชาประจำบ้าน ไม่เหมาะสำหรับติดตัวและขนาดเล็กที่จะติดตัวได้สะดวก การลงถ้าอันใหญ่จะลงเต็มบท ถ้าขนาดเล็กจะลงหัวใจเท่านั้น
บทเต็มสำหรับลงพระขรรค์ใหญ่มีดังนี้
พุทโธ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ
ธัมโม ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ
สังโฆ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ
สำหรับพระขรรค์ขนาดใหญ่ที่จะลงบท
พระขรรค์เขาควายเผือกนี้
มีอานุภาพใช้สำหรับป้องกัน
อันตรายเมื่อติดอยู่กับตัวผู้ใช้
ผ่อนหนักให้เป็นเบา...
     

ขอบคุณแหล่งที่มาครับผม http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?t=4433&page=7

3
อ่านเจอมา  เห็นว่ามีประโยชน์จึงนำมาแบ่งปันครับผม

"ข้อห้ามในการแขวนพระ" สิ่งสำคัญที่ควรศึกษา



โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์

ข่าวคนที่ถูกยิง ถูกแทง ถูกตีจนตาย ทั้งที่มีพระเต็มคอ ตะกรุดเต็มเอว พบเห็นได้ดาษดื่น บ่อยครั้งเป็นเหตุให้คนที่มีศรัทธาในของขลังเริ่มคลอนแคลน ที่ไม่ศรัทธาอยู่แล้วก็หยิบยกมาโจมตีว่า ไม่เห็น ?วิเศษ? ดังคำคุย
เป็นเพราะอะไร

จะมีสักกี่คนที่คิดเจาะลึกลงไปถึงเบื้องหลังของสาเหตุว่า ทำไมวัตถุมงคลเหล่านั้นจึงไร้ ?ประสิทธิภาพ? คิดแบบตื้นๆก็ต้องว่า ของขลังเหล่านั้นไม่ขลังจริง คิดให้ลึกไปอีกหน่อยก็ต้องว่า ของนั้น ?เคยขลัง? แต่ต้องมาเสื่อมเพราะใครคนนั้นเอง คิดแบบลึกสุดใจก็ว่า ?กรรม?

?กรรม? แปลว่าการกระทำ ซึ่งมีทังทำดี-ทำชั่ว พูดถึงตรงนี้ก็มีเสียงค้านกัน ?ตึม? ว่า แล้ว ?ไอ้เสือ? ที่ปล้น ฆ่าชิงทรัพย์ในยุคเก่าก่อนเล่า เหตุใดจึง ?หนังดี? ทั้งๆที่เขาเหล่านั้นก็ทำชั่ว แต่ความขลังก็ยังคงอยู่ ทำไมไม่เสื่อม
ผมตอบทันที เพราะไม่ผิดครู...!!

ใช่ว่าผมจะไม่เชื่อกรรม ไม่เชื่อผลของกรรม แต่กรรมบางอย่างก็ไม่อาจให้ผลได้ในปัจจุบัน ทั้งคนที่เป็นเสือและคนที่เป็นเจ้าทรัพย์ ก็ล้วนแล้วแต่สร้างกรรมมาร่วมกัน เป็นเหตุให้ต้องมาพบกันในลักษณะนั้น เรื่องกรรมมันลึกซื้งซับซ้อนยากจะอธิบาย ต้องคุยกับระดับพระมหาเถระอาจกระจ่างได้บ้าง
แต่เรื่อง ?แรงครู? คุยกับผมก็ได้

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา เคยเล่าให้ผมฟังว่า ท่านมีลูกศิษย์ผู้ชายอยู่ 2 คน สมมตินามว่า ?ยอด? กับ ?ยิ่ง? ทั้งสองเป็นคนใจถึง เข้าทำนอง ?ใจนักเลง? (ไม่ใช่อันธพาล) เขา 2 คนนับถึงหลวงพ่อพุธมาก เคยมาขอพระจากท่าน ท่านก็ให้เหรียญ รุ่นดีเซลราง ซึ่งเป็นเหรียญรุ่นสองในชีวิตท่าน แต่เป็นรุ่นแรก ขณะที่มาเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน แก่เขาไปคนละเหรียญ เขาก็แขวนคอทันที

แขวนไม่นาน ยอดก็ประคองยิ่งมาต่อว่าหลวงพ่อเป็นการใหญ่ว่า พระรุ่นเดียวกัน รับพร้อมกัน แต่ทำไมไม่ขลังเลย เจ้ายิ่งโดนยิงทะลุไส้แตก เพราะอะไร หลวงพ่อเงียบไปในทันที ไม่ใช่เงียบในลักษณะ ?จน? แต่เป็นการ ?ตรวจสอบ? บางอย่างโดยวิธีของท่าน สักพักท่านก็พูดเย็นๆ ขึ้นว่า
?เพราะเพื่อนคุณไปเปิดประตูทอง?

สองคนนั้นงง อะไรคือประตูทอง ท่านเฉลยต่อ ?ก็คุณ? ชี้ไปที่คนถูกยิง ?ไปด่าแม่เขาเข้านะสิ นั่นละเปิดประตูทอง? สองหนุ่มก็กระจ่างใจในบัดดล จึงขอขมาหลวงพ่อแล้วเล่าถวายว่า
เขาไปดื่มสุราในร้านอาหารแห่งหนึ่ง พบกับคู่อริที่ไม่ชอบหน้ากันเลยเกิดตะลุมบอนขึ้น เขามีกันสองคน แต่พวกนั้นมีเกือบสิบ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ถอย วาดลวดลายจนนักเลงมวยหมู่ตั้งตัวไม่ติด 1 ใน 10 นั่นก็เลยชักปืนขึ้นมาแล้วกระโดดเข้าล็อกคอหนุ่มยอด เอาปืนกดขมับแล้วลั่นไกทันที

เล่าถึงตอนนี้หลวงพ่อทำมือทำไม้ประกอบ พลางว่า ?มันยิงดัง..แต๊บ...แต๊บ...แต๊บ...สามนัดแต่ไม่ออก? ข้างหนุ่มยิ่งเห็นคู่อริเอาปืนจ่อหัวเพื่อนก็เข้าใจว่า ?ข้างหนุ่มยิ่งเห็นคู่อริเอาปืนจ่อหัวเพื่อนก็เข้าใจว่า ?ขู่? ให้กลัวเท่านั้น จึงร้องตะโกนออกไปว่า ?...แม่! แน่จริงมึงอย่าใช้ปืนสิวะ? ไอ้คนยิงฉุนกึก ใจกะจะฆ่าอยู่แล้วไม่ใช่แค่ขู่ เลยเบนกระบอกปืนไปที่คนปากเก่งแล้วลั่นไก
?ปัง?

แม่นยังกับจับไปวาง กระสุนทะลุท้องทันที หนุ่มยิ่งถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้น คู่อาฆาตเห็นท่าไม่ดี เลยเผ่นตะโพงกันไปหมด ทั้งสองจึงมีเรื่องมาต่อว่าหลวงพ่อด้วยประการฉะนี้

ก็เหรียญรุ่นเดียวกันรับพร้อมกัน อันหนึ่งยิงออก อันหนึ่งไม่ออก ทำไมจะไม่แปลกใจ เดชะบุญว่าหลวงพ่อมี ?จิตรู้? ที่แจ่มใส ท่านจึงทราบความเป็นมาเป็นไปของคนทั้งสอง แล้วตอบ ?เคลียร์? ให้เข้าใจหาไม่แล้วหลวงพ่อคงถูกให้ร้ายว่าไม่เก่งจริง

ได้โอกาสผมจึงเรียนถามว่า ?แสดงว่าพระของหลวงพ่อห้ามคนแขวนด่าพ่อด่าแม่ใช่ไหมครับ? ท่านตอบว่า ?ไม่ใช่แต่ของหลวงพ่อดอก ของใครก็ห้ามเหมือนกัน เพราะพระสงฆ์เวลาปลุกเสกพระ ท่านก็เชิญคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ มาเหมือนๆกัน ฉะนั้นเมื่อไปลบหลู่คุณของท่านเหล่านั้น มันก็เท่ากับเราลบหลู่ครูบาอาจารย์ของเราด้วย?
?สรุปว่าพระของหลวงพ่อห้ามอะไรบ้างครับ?

ท่านยิ้มแล้วว่า ?พระของหลวงพ่อห้ามคนแขวนลบหลู่บุพการี (คือพ่อแม่) ของตัวเอง และคนอื่น ห้ามลบหลู่ครูบาอาจารย์ของคนอื่น ถ้าทำได้อย่างนี้พระนั้นขลังจริง?

นั่นเป็นข้อห้ามที่ฟังมาจากท่าน
อาจื๊อ (คุณเพียรวิทย์ จารุสถิติ) เคยเล่าให้ผมฟังว่า คนแขวนพระหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ตั้ง 3 องค์ แต่ถูกยิงตาย ประดาศิษย์มาซักไซ้เอากับหลวงปู่ถึงกุฏิ เพราะพระที่แขวนก็แท้ แต่ถูกยิงเข้า หมายความว่าอย่างไร เรื่องนี้มันสั่นประสาท ?คนเป็น? ที่ยังแขวนพระท่านเสียจริง จึงต้องถาม
ทำไมเป็นอย่างนั้น?

ท่านเงียบไปอึดใจ ก่อนตอบว่า
?พ่อแม่มัน มันยังไม่เอา จะให้พระเอามันได้อย่างไร?
สืบไป สืบมา ได้ความว่า เขาคนนั้นเป็นคนขี้เหล้า ขี้พนัน เมื่อขอเงินพ่อแม่ไม่ได้ก็ประเคนให้ด้วยแข้ง เข่า ไม่เอาพ่อเอาแม่จริงๆ

นี่ถ้าหลวงปู่ไม่แจ่มแจ้งในเชิง ?ฌาน? ต้องจนแต้มอย่างไม่ต้องสงสัย
นั่นเป็นเรื่องที่สองพระเถระต่างวัยต่างยุคสมัยบอกเล่าได้ตรงกัน แสดงถึงข้อห้ามอย่างชัดเจนว่า พ่อ-แม่ เป็นของสูง จะนำมาพูดจาบจ้วงล่วงเกินไม่ได้เลย มิฉะนั้นจะมีผลดังที่เล่ามา
ยังไม่จบเพียงนั้น

เพื่อนผมคนหนึ่งแขวนเหรียญ ?พ.ฆ.อ.? เนื้อเงิน เป็นรูปสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) พระอุปัชฌาย์ของท่านเจ้าคุณนรฯอยู่ เหรียญนี้ท่านเจ้าคุณนรฯ ได้ทำการอธิษฐานจิตให้ถึง 2 ครั้ง 2 คราว เรียกว่า ?ขลัง? พอดู
เมื่อผมพบเขาเรื่องที่คุยก็ไม่พ้นพระ ตอนหนึ่งผมถามว่ามีภรรยามาแล้วตั้ง 2 คน เวลาหลับนอนแบบนั้นถอดพระบ้างไหม เขาตอบอย่างมั่นใจ ?ไม่ถอด? ผมตกใจมาก แต่ก็ทำหน้าให้เป็นปกติ ถามต่อว่า แล้วไปเที่ยวสถานบริการที่มีผู้หญิงแบบนั้น ถอดไหม ?ไม่เคยถอด? หนำซ้ำเขายังถามคืนว่า ?ถอดไปทำไม พระอยู่ที่ใจ?

เออ ! คนเรานี่ก็แปลก ถ้าว่าพระอยู่ที่ใจจริง แล้วจะแขวนพระเครื่องไปทำไมเล่า แล้วพระอะไรหนอที่เข้าไปสิงใจเพื่อนผมแล้วชวนมันไปเที่ยวที่อย่างว่า ชวนมันไปกินเหล้า ถ้าพระชนิดที่มันบอกมีจริง โปรดอย่ามา ?อยู่ที่ใจ? ผมเลย
ผมเสียว !

แล้ววันแห่งความพลิกผันในชีวิตของเขาก็มาถึง เมื่อวันหนึ่งเพื่อนเอาปืนมาหยอก แล้วลั่นไกแบบหยอกๆ ลูกปืนก็เลยออกแบบหยอกๆ แต่ผลของมัน ?ไม่ใช่หยอก?

เพราะมันทะลุปอดซ้าย แล้วไปหยุดอยู่ที่กระดูกสันหลัง เมื่อแพทย์โรงพยบาลสมิติเวชดึงหัวกระสุนปืนออก น้ำไขสันหลังก็เยิ้มหนืบตามลูกกระสุนออกมาราวกับเยลลี่ ผลของมันก็คือทำให้เพื่อนของผมเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงไปสุดปลายเท้าตลอดชีวิต

สังเวยความดื้อ ด้วยวัยเพียง 24 ปี
เมื่อผมไปเยี่ยม เขารำพึงว่า ?เชื่อนายเสียก็ดี? ผมมาคิดดูว่าถ้าเขาต้องมีอายุขัยสัก 70 ปี เขาต้องทรมานอย่างนี้ไปอีกตั้งเท่าไหร่ มันไม่คุ้มเลยกับที่เราเชื่อความเห็นของตนเองชนิดที่ไม่ยอมรับครูบาอาจารย์ เรื่องทำนองนี้ยังมีอีก
รุ่นน้องของผมคนหนึ่งชื่อ ?จุ๊? มาขอพระหลวงปู่ทิม อิสริโก จากผม เพราะรู้ว่าผมมีเยอะ ผมก็ให้เหรียญห่วงเชื่อม 8 รอบไป เขาก็รีบนำไปเลี่ยมพลาสติกแขวนคอ วันหนึ่งเกิดอยากเที่ยวที่แบบนั้นประสาหนุ่มน้อย ก็ชวนน้องชายขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่โรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่งในตัวเมืองชลบุรี

ด้วยความที่ผมย้ำ ?ข้อห้ามสากล? สำหรับพระทุกชนิดว่า

1. ห้ามด่าแม่
2. ห้ามเป็นชู้ลูกเมียเขา
3. ห้ามใส่พระเข้าสถานบริการทางเพศ หรือใส่มีเพศสัมพันธ์เด็ดขาด

ถ้าฝ่าฝืน พระต้องเสื่อมแบบถาวร อย่างไม่ต้องสงสัย หนุ่มจุ๊ก็ได้คิด ก่อนจะเข้าไปเลยถอดพระออกจากคอไปสวมให้น้องชาย นาม ?โจ้? ไว้แทน และกำชับว่าให้คอยอยู่นอกรั้วนี้ ห้ามเข้าไปเด็ดขาด พี่จะเข้าไปคุยกับเพื่อนเดี๋ยวออกมา ว่าแล้วก็จ้ำอ้าวเข้าไป ปล่อยให้น้องโจ้คอยอยู่นอกรั้ว

ข้างหนุ่มโจ้รออยู่ครึ่งชั่วโมง พี่ชายก็ไม่ยอมออกมา แดดก็ร้อน เลยคิดว่าขอเข้าไปหลบแดดที่ชายคาบ้านคงไม่เป็นไร คิดแล้วก็ล็อกมอเตอร์ไซค์ พลางเดินมุ่งตรงไปที่ตึก เพียงแค่หนุ่มโจ้เดินผ่านประตูรั้วเหล็กเข้าไปเท่านั้นเขาก็ต้องตกใจชะงักอยู่กับที่เมื่อได้ยินเสียงวัตถุบางอย่างแตกดัง ?เปรี๊ยะ?

เสียงนั้นอยู่ใกล้เหลือเกิน โจ้จึงก้มลงมองหารอบๆเท้า ด้วยเข้าใจว่าคงเหยียบเศษอะไร แต่ก็ไม่พบ ครู่เดียวก็เกิดเอะใจจึงล้วงสร้อยคอออกมาดู ปรากฏว่าพลาสติกที่เลี่ยมเหรียญหลวงปู่ทิมเกิดการ ?ระเบิด? ย่อยๆ จนพลาสติกแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เฉพาะตรงด้านหน้าที่เป็นรูปท่านเท่านั้นที่คงสภาพเดิม
น่าอัศจรรย์จริงๆ

โจ้ยืนงงคิดไม่ตกอยู่กับที่เป็นนานสองนาน เมื่อพอจะเข้าใจได้ลางๆ ก็เผ่นพรวดออกมายืนข้างมอเตอร์ไซค์ พอพี่ชายตัวดีเดินตัวลอยกลับมาก็ฉะเสียยกใหญ่ คาดคั้นว่าที่เข้าไปไม่ใช่บ้านเพื่อนใช่ไหม พี่ก็โวยวายว่ารู้ยังไง อย่ามามั่ว โจ้จึงงัดพระออกมาให้ดู
เลยเงียบไปอีกคน

แล้วสารภาพเสียงอ่อย ?เออ! นั่น...ซ่อง...? จากนั้นก็ตรงมาหาผม 2 คนนั่นเลยได้ฟังเทศน์เสีย 3 ชั่วโมงรวด ก็ผมเสียดายของผมนี่นา

ผมเก็บเหรียญนั้นไว้ถึง 3 ปี เพื่อเป็นตัวอย่างบอกเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง จนพระหลวงปู่หายากเข้า คุณป๊อบ เจ้าของร้านข้าวมันไก่โอเชี่ยนจึงมาออดอ้อนขอเอาไป ไม่อย่างนั้นผมจะมีรูปเหรียญทั้งพลาสติกเดิมมาให้ชม
เห็นไหมเรื่อง ?มาตุคาม? กับพระเข้ากันได้เมื่อไร กรณีหนุ่มจุ๊ถือว่าโชคดีที่หลวงปู่ทิมท่านเมตตา ?แสดง? ให้รู้ว่าอาตมาไม่อยู่ด้วยละ แต่กรณีท่านเจ้าคุณนรฯท่านไปแบบเงียบๆ คนแขวนเลยไม่ทันระวังตัว อันตรายจริงๆ

พูดเรื่องนี้มีอีกเยอะ เพื่อนบางคนแขวนเหรียญหลวงปู่แช่ม วัดฉลอง จ.ภูเก็ต เข้าสถานบริการกลับออกมาเหลือแต่ตลับ เหรียญข้างในหายจ้อย สร้อยก็อยู่กับคอ ตลับก็ไม่ได้เปิด พระไปได้อย่างไร อีกคนใส่ตะกรุดหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เกิดหักโป้งเป็น 2 ท่อน ทันทีที่ใต้ชั้น 2 ของที่อย่างว่า
ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่

เดี๋ยวจะเหมือนเพื่อนผมที่เอาอนาคตมาดับเพราะความดื้อรั้นของตัวเอง ด้วยข้อห้ามสากลทั้งหมดนั้นใช่ว่าผมจะบัญญัติขึ้นมาเองเสียเมื่อไร ผมก็ถามไถ่เอาจากครูบาอาจารย์เสียทั้งนั้นแหละครับ ทุกองค์บอกเหมือนกันเดี๊ยะ ผมก็ไม่กล้าดื้อกับท่านดอก

เพราะยังเสกเองไม่เป็น
ทั้งหลายทั้งปวงที่เล่ามานั้นเป็นเรื่องของข้อห้ามสากล ทีนี้ก็เป็นเรื่องของ ?ข้อห้ามเฉพาะ? บ้างละ ข้อห้ามเฉพาะ คือ พระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังประดามีที่ครูบาอาจารย์แต่ละองค์ แต่ละสำนักจะบัญญัติเอาไว้ว่า ห้ามอย่างนั้น อย่างนี้ หากว่าไม่ยอมทำตาม ผลน่ะหรือ...
เสื่อมสนิท

เช่น พระหลวงพ่อมุม อินทปัญโญ วัดปราสาทเยอร์ จ.ศรีสะเกษ มีข้อห้ามเฉพาะ ดังนี้
1. ห้ามลอดไม้ค้ำต้นกล้วย
2. ห้ามใช้มือทั้งสองกอบน้ำในบึง หนอง คลอง ที่ตนลงเล่นมาดื่มกิน
นี่คือข้อห้ามเฉพาะที่จำเป็นต้อง ?ถือ? ต่อท้ายข้อห้ามสากล คนชอบซื้อพระเคยฉุกคิดบ้างไหม หรือสนแต่ซื้อขายอย่างเดียว ถ้าเป็นดังนั้น อย่าแปลกใจเลยหากจะมีข่าวคนถูกยิงทะลุทั้งๆที่ใส่พระหลวงพ่อมุม
โทษท่านได้ไหมว่า ?ไม่ขลัง?

หรือ แหวนมหาสัตตโลหะของหลวงพ่ออั้น คันธาโร วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ห้ามแกว่งมือจุ่มนิ้ว ลงในแม่น้ำลำคลอง หรือแหล่งน้ำธรรมชาติทั้งหลาย มิฉะนั้นชักขึ้นมาจะเหลือแต่มือเปล่า
แหวนไปไหน?

ข้อนี้ไม่ทราบ ทราบแต่ว่าไปขอคืนได้ที่กฏิ เพียงแต่ทนฟังท่านดุด่าเสียหน่อยเป็นค่าแหวน นี่ลุงผมเจอมากับตัว หรือตะกรุดมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก ที่มีข้อห้ามว่า ?อย่าพกพาต่ำกว่าเอว? เพราะของๆท่านสำเร็จขึ้นด้วยบารมีของพระพุทธเจ้าเอาพระพุทธเจ้าไว้ต่ำได้หรือ!

หรือของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี จ.สุรินทร์ ทุกชนิดมีข้อห้ามที่ว่า ไม่ให้กินเหล้ากินเบียร์อย่างเด็ดขาด กินเมื่อใดเสื่อมเมื่อนั้น
วลี ?ไปสุรินทร์ต้องกินสุรา? คงถูกโค่น เพราะหลวงปู่นี่แหละ
แล้วมันน่ากลัวดีไหม ถ้าเก็บพระของหลวงปู่หงส์ตกทอดไป 10 ปี 20 ปี ลูกหลานไม่รู้ข้อห้ามเอาใส่ไปกินเหล้า แล้วเกิดตีกัน ลูกหลานท่านจะเป็นอย่างไร
เหล่านี้คือสิ่งที่ควรศึกษาให้รู้ก่อนแขวน

ยังมีอีกเยอะแยะ มากมายครับ เขียนมากไปก็เกรงจะเป็น ?สอนพระสังฆราช? อีก จึงได้แต่วิงวอนผู้เลื่อมใสในพระเครื่องของขลังจงระวังระไว จะแขวนจะคาดสิ่งใดโปรดตรวจสอบที่มาที่ไปก่อนเถิด อย่าตามใจตัวเองจนเก่งเกินครู ไม่อย่างนั้นท่านอาจจะต้องเสียใจในภายหลัง
ขอให้จงรู้แจ้งเห็นจริงทุกท่าน สวัสดีครับ...


ข้อมูลต่างๆำมาจาก http://board.palungjit.com/showthread.php?t=68176
ขอขอบคุณ http://board.palungjit.com/showthread.php?t=68176  และคุณ rinnn ที่่นำมาเผยแพร่ครับ

หน้า: [1]