ผู้เขียน หัวข้อ: คำสอนของ ดร.พระอุดมประชานาถ ( หลวงพ่อเปิ่น ) วัดบางพระ  (อ่าน 19515 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
     อาตมาให้คำสอนที่พุทธศาสนิกชนควรยึดถือปฏิบัติ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดี และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขดังนี้

1.ทำจิตใจให้สว่างก่อนที่จะสอนผู้อื่น การทำจิตใจให้สว่างนั้นบุคคลต้องปราศจากความโลภ ความโกรธ ความหลง ความมัวเมา ฯลฯ . ถ้าทุกคนละได้ซึ่งสิ่งเหล่านี้การที่จะสอนให้คนอื่นทำตามย่อมทำได้ง่าย เพราะมีตัวอย่างที่ดีที่ปฏิบัติอยู่แล้ว แต่ถ้ายังทำไม่ได้ในสิ่งเหล่านี้ ย่อมสอนให้คนอื่นให้ทำตามก็ทำได้ยาก เช่น การที่พ่อบ้านสอนให้ลูกอย่าสูบบุหรี่ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่พ่อยังสูบบุหรี่อยู่ ลูกก็ไม่เชื่อฟังเพราะคำห้ามของพ่อไม่ถูกลูกจะรู้สึกว่าพ่อยังสูบได้ ลูกก็ย่อมสูบได้ ถึงแม้ว่าพ่อจะอ้างกับลูกว่าพ่อติดบุหรี่มานานแล้วแก้ไขไม่ได้ลูกอย่ามาเอาอย่างพ่อเลย ลูกก็คงจะไม่เชื่อไม่ฟัง

2.จงมีความเพียร   พระพุทธพจน์บทหนึ่งว่า " วิริเยน ทุกขมจฺเจติ " บุคคลที่จะพ้นทุกข์ได้เพราะต้องอาศัยความเพียร ความเพียรนั้นหมายถึง ความมีมานะบากบั่นไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค์นานาประการ อดทนต่อความยากลำบากต่างๆ ในการทำงานทุกอย่างย่อมมีทั้งความสบายและความลำบาก ยิ่งงานนั้นลำบากมากเพียงใดต้องอาศัยความเพียรมากเท่านั้น จึงจะช่วยให้งานดำเนินไปได้ด้วยดี และมีความก้าวหน้า นอกจากนั้นแล้วจะต้องมีการบังคับตนเองให้เพียรสร้างแต่ความดี ความงาม เพียรละความชั่วให้หมดไปจากตนความเพียรจึงถือเป็นความสำคัญอย่างหนึ่ง

3.จงขยันทำงานไม่เกียจคร้าน ความขยันหมายถึง การที่หมั่นประกอบกิจการงานอยู่เสมอไม่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไป ไม่นิ่งดูดายต่อสิ่งที่สามารถทำได้ดังคำบาลีที่ว่า " อุฏฐานะ " แต่ถ้าบุคคลใดปล่อยให้ " อนุฏฐานะ " คือ ความเกียจคร้านซึ่งความเกียจคร้านมีขึ้นเมื่อใด ความกระตือรือร้นจะไม่มีเกิดขึ้น กล่าวคือ อำนาจฝ่ายต่ำเข้าครอบงำ เช่น ไม่ทำงาน นั่งๆนอนๆ ประกอบอาชีพที่ทุจริตในที่สุดก็ประสบ " อนัตถ " คือ ความชั่ว เสียหายตลอดชีวิต

4.รู้จักอดออม  การออมนั้นหมายถึง การอดทนต่อความอยากทั้งปวง เช่น อยากกิน อยากซื้อ อยากใช้ ฯลฯ ความอยากเหล่านี้เป็นบ่อเกิดของการจ่าย ไม่กระเหม็ดกระแหม่ ไม่รู้จักประหยัด ต้องการแสวงหาเพื่อให้ได้มาซึ่งความอยาก ทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่าย แต่ถ้ารู้จักใช้จ่ายตามกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ รู้จักออมถนอมทรัพย์ได้ เป็นการสร้างความอบอุ่นในครอบครัว เป็นสิ่งที่เชิดชูฐานะของตนเองให้สูงกว่าความเป็นอยู่เดิม มีคนนับหน้าถือตา มีคนยกย่องเชื่อถือ และสมัครที่จะเป็นบริวารของผู้มีเงินมีทรัพย์ทั้งหลาย สมกับสุภาษิตที่ว่า " มีเงินนับว่าเป็นน้อง มีทองนับว่าเป็นพี่ " แต่ถ้าขัดสนเงินทองโดยปราศจากการอดออมไว้ทำให้ขาดความเชื่อถือไม่มีคนคบหาสมาคมด้วย ดังสุภาษิตตอนหนึ่งว่า " ยากจนเงินทอง พี่น้องไม่มี " ดังนั้นจึงควรรู้จักอดออม ด้วยว่าทรัพย์สินนั้นจะสามารถบันดาลความสุข ความสะดวก ความสบาย ให้แก่บุคคล สังคม และประเทศชาติ

5.คบคนดีเป็นเพื่อน  การเลือกคบคนดีย่อมพาตัวเองให้มีความสุข ความเจริญ คนดีนั้นก็คือ คนที่ประพฤติดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ประกอบแต่ความดี มีจิตใจบริสุทธิ์ มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น เพื่อนดีหรือคนดีจะเป็นเกราะคุ้มภัยให้แก่เราเป็นอย่างดี เมื่อมีใครว่าเพื่อนในทางที่ไม่ดี จึงกล่าวได้ว่า การคบคนดีย่อมนำทางไปสู่ความสว่างแห่งจิตใจ ความเจริญของชีวิต การปฏิบัติตนที่ถูกต้องและอยู่ในโลกอย่างมีความสุข

6.จงทำมากกว่าพูด มิใช่พูดแล้วทำไม่ได้ การทำสิ่งใดก็ตามควรตั้งใจและทำให้สำเร็จ การที่พูดแล้วไม่ทำหรือทำไม่ได้ผู้นั้นจะไม่เป็นที่เชื่อถือของบุคคลทั่วๆไป ถ้าเป็นผู้น้อยผู้ใหญ่จะไม่มอบงานที่สำคัญให้ เพราะกลัวว่าทำไม่สำเร็จหรือไม่ทำ อันเป็นผลให้งานนั้นเกิดความเสียหาย ในขณะเดียวกันผู้ใหญ่ถ้าพูดสิ่งใดกับผู้น้อยแล้วควรทำตามที่พูดไว้ เพื่อก่อให้เกิดความเชื่อถือ ไว้วางใจ มอบความเป็นผู้นำให้
     ในสังคมทั่วๆไปก็เช่นกัน บุคคลที่อยู่ในสังคมควรจะได้ร่วมมือร่วมใจกันทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ สัญญากับใครไว้ต้องทำให้ได้ไม่พูดเลื่อนลอยโดยไร้จุดหมาย จงเป็นผู้ทำมากกว่าผู้พูด

7.เลี้ยงชีพให้สมฐานะของตัวเอง ทุกคนควรรู้จักจับจ่ายใช้สอยในทรัพย์สมบัติ โดยประหยัดตามฐานะของตนเอง รู้จักใช้จ่ายให้เหมาะสมตามฐานะไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เก็บออมไว้เมื่อคราวจำเป็น เมื่อคราวเจ็บไข้ เมื่อคราวฉุกเฉินไม่มีใครที่จะช่วยเราได้นอกจากตัวของเราเอง ดังนั้น จึงควรเป็นผู้รู้จักประมาณในทรัพย์สินในฐานะความเป็นอยู่และเลี้ยงชีพในทางที่ถูกที่ควร

8.จงอย่าเป็นคนลักโขมย การที่แต่ละคนทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยความบริสุทธิ์และหมั่นเก็บหอมรอมริบไว้เพื่อใช้จ่ายในวันข้างหน้า แต่มาถูกโขมย ฉ้อโกง หรือโจรปล้นทรัพย์สิ่งของเหล่านั้นไป ย่อมทำให้ชีวิตเดือดร้อนครอบครัวลำบากนี่เป็นบาปอย่างหนึ่งที่ทุกคนควรจะละเว้น อย่าได้ประพฤติผิดด้วยการลักโขมย พระพุทธเจ้าได้บัญญัติศีลข้อนี้ไว้ เพื่อให้ทุกคนรู้จักสิทธิในทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่เบียดเบียนทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ยักยอกฉ้อโกง ที่ดิน ไร่นา และสิ่งที่ผู้อื่นหามาด้วยความลำบาก การละเว้นซึ่งการลักโขมยนับว่าประพฤติตนอยู่ในศีลที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนไว้ดังนี้ " อทินฺนา ทานา เวรมณี " หมายถึง การเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้

9.เว้นจากการประพฤติผิดในกาม หลักแห่งความประพฤติของมนุษย์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่ควรผิดลูกผิดภรรยาหรือสามีของผู้อื่นโดยที่ผู้อื่นไม่อนุญาต การเป็นสามีภรรยากันก็ต้องมีความซื่อตรงต่อกัน ไม่นอกใจหรือเอาใจไปให้กับคนอื่น ด้วยการทำหน้าที่ของตนในฐานะภรรยาที่ดี สามีที่ดีและลูกที่ดี การที่ชายหญิงมีชีวิตคู่อยู่ร่วมกันจะต้องร่วมสุขร่วมทุกข์กัน ต่างฝ่ายต่างมอบหมายชีวิตให้แก่กัน มอบความรัก และความภักดีให้แก่กันเป็นทองแผ่นเดียวกัน ชีวิตครอบครัวจึงจะสุขสมบูรณ์ ไม่เกิดปัญหาแตกร้าวหรือปัญหาครอบครัวแตกแยก อันจะนำมาซึ่งปัญหาสังคมได้

10.อย่ากล่าวคำหยาบอันเป็นการก้าวร้าวผู้อื่น สังคมมนุษย์จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขต่อเมื่อทุกคนมีความเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน การเคารพผู้อาวุโส นับว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ปัญหาการงานหรือปัญหาสังคมที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เนื่องจากสังคมไม่เคารพผู้อาวุโส ต่างทำตนเสมอท่านผู้ที่มีอาวุโสน้อยจะพูดกับผู้อาวุโสมากเป็นไปในทำนองล้อเลียน ก้าวร้าว หรือใช้คำหยาบ คำไม่สุภาพ หรือพูดในลักษณะก้าวร้าวไปถึงบิดามารดาอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งทำให้อีกฝ่ายหนึ่งทนต่อคำพูดไม่ได้ จึงเกิดปัญหาทะเลาะวิวาทกันขึ้น ดังนั้นผู้ที่อยู่ในศีลธรรมควรหลีกเลี่ยงการประพฤติในข้อนี้ให้มาก เพื่อสังคมจะได้อยู่อย่างมีความสุข

11.รู้จักบริจาคทรัพย์ การบริจาคทรัพย์นับว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เป็นการช่วยเหลือ แด่พระศาสนาด้วยการบริจาคปัจจัย ทรัพย์สิ่งของอันจะเป็นประโยชน์ทางหนึ่งในการบริจาคนั้น ผู้บริจาคควรคำนึงถึงฐานะของตนเองด้วย บริจาคแต่พองาม สมควรแก่ฐานะ มีทรัพย์น้อยก็บริจาคน้อยมีทรัพย์มากก็บริจาคมาก การบริจาคทรัพย์ถือว่าเป็นการเพิ่มเติมบุญกุศล หรือเงินทองที่มีอยู่ให้มากยิ่งขึ้น การที่บางคนไม่บริจาคทรัพย์หรือให้ทานแก่ผู้อื่นเลย ก็ถือว่าไม่ได้สั่งสมบุญกุศล ไม่เพิ่มเติมทรัพย์สมบัติ ทุกคนควรจะสำนึกไว้เสมอว่าเราเกิดมามีแต่ตัว ตายไปก็มีแต่ตัวทรัพย์สมบัติสิ่งของที่สะสมไว้มากมายนั้น เมื่อตายไปแล้วเราก็เอาอะไรไปไม่ได้เลย แม้แต่อาหารที่มีผู้เอามาให้ก็ไม่สามารถจะกินได้ ดังนั้น มนุษย์เราควรสร้างบุญกุศลด้วยการบริจาคทรัพย์ไว้บ้างจะเป็นสิ่งดีแห่งชีวิต

12.สร้างบุญศลทั้งกลางวันและกลางคืน การสร้างบุญกุศลนั้นไม่ต้องรอวัน รอเวลา ไม่ว่าเช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ ก็สามารถสร้างบุญกุศลได้ เมื่อมีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาหรือวันธรรมสวนะ พุทธศาสนิกชนควรจะได้บำเพ็ญศีล บำเพ็ญทาน สร้างกุศลด้วยการตักบาตรในตอนเช้า ฟังเทศน์ในตอนบ่าย ฟังธรรมะในตอนค่ำ การที่เรายึดมั่นในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าย่อมนำมาซึ่งความสุข ความสำเร็จ ความสมหวังในชีวิต และดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข

13.ระลึกถึงสังขารไม่เที่ยงเสมอ ต้องเข้าใจด้วยว่ามนุษย์ที่เกิดมาต้องผจญกับการเวียนว่ายตายเกิด เมื่อเกิดมาแล้วสามารถดำเนินชีวิตไปด้วยดี ก็ทำให้มีความสุขความสำเร็จ เมื่อถึงวัยแก่ก็ต้องรับสภาพสังขารนั้นทั่วทุกคน ไม่มีใครที่จะคงทนในความเป็นเด็กอยู่ได้ตลอดไป ความเจ็บความไข้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ที่อยู่ในโลกจะต้องได้รับ สภาพของความทุกข์ที่มาจากความเจ็บป่วยทางศาสนามีความเชื่อว่าบุคคลใดที่ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บหรือไม่เจ็บป่วยเลยก็เพราะคนๆนั้นไม่เบียดเบียนสัตว์ มีบุญกุศล มีเมตตาต่อบุคลทั่วๆไป ไม่ว่าบุคคลที่ให้ความช่วยเลหือนั้นจะเป็นใครก็ตาม
     สำหรับความตาย เป็นสิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนที่ทุกคนเกิดมาแล้วย่อมมีชีวิตที่ดับสูญ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวันและเวลา มนุษย์ไม่ควรอาลัยอาวรณ์ในเรื่องของความตาย แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือ คุณงามความดี ในชีวิตหนึ่งที่เกิดมาเราทำคุณงามความดีอะไรไว้บ้าง เมื่อตายไปเรามีอะไรติดตัวไปบ้าง การที่มนุษย์ฆ่าฟันกันก็เนื่องจากความโลภโมโทสันเป็นเหตุ ชีวิตนั้นๆ จึงสั้นลงไม่ได้ทำคุณงามความดีหรือทำก็แต่น้อย เมื่อตายไปไม่มีอะไรที่เป็นความดีเด่นชัดไว้ให้ลูกหลาน จึงขอให้พึงระลึกว่าในเมื่อสังขารไม่เที่ยงแล้ว สิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนคือ ความดี

14.มีความกตัญญูต่อบิดามารดา บิดามารดาเป็นเสมือนพระของลูกที่ลูกๆทุกคนควรมีความกตัญญูรู้คุณ การตอบแทนพระคุณบิดามารดาควรทำในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เช่น จัดหาอาหารที่ดีมีประโยชน์ ให้ท่านอยู่อย่างมีความสุข ฯลฯ สิ่งใดที่ควรช่วยเหลือหรือรับใช้ท่านได้ก็จงทำ สังคมไทยทุกวันนี้จะเห็นว่าบิดามารดามักจะอยู่ตามสถานสงเคราะห์คนชรา ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากวัฒนธรรมต่างประเทศเข้ามามาก จึงทำให้คนไทยบางส่วนที่มีชีวิตครอบครัวเปลี่ยนไป แต่ก่อนครอบครัวไทยจะเป็นครอบครัวที่ใหญ่ คือมีทั้งปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ ลูกหลาน อยู่ด้วยกัน แต่ปัจจุบันจะอยู่กันครอบครัวเล็ก โดยให้พ่อแม่อยู่กันเองตามลำพังหรืออยู่สถานสงเคราะห์ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความสมัครใจหรือถูกบีบบังคับก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ควรจะยึดถือในฐานะที่เราเป็นพุทธศาสนิกชนก็คือ ความกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดา

15.จงทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ มนุษย์ที่เกิดมาในโลกนี้ควรยึดมั่นในการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ต่อสังคม และต่อประเทศชาติ การประพฤติปฏิบัติตัวดีย่อมนำมาซึ่งความเจริญของครอบครัวการมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตนให้เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีก็นับว่าเป็นสิ่งดีต่อประเทศชาติ การที่บุคคลยึดมั่นในบุญและบาป ย่อมปฏิบัติแต่สิ่งดี การทำสิ่งไม่ดีก็เป็นบาป การทำบุญนั้นควรทำทั้งที่ลับและที่แจ้ง คนที่ใฝ่ในบุญกุศลนั้นไม่เป็นเพียงเฉพาะต่อพระสงฆ์ หรือพระธรรมคำสั่งสอนเท่านั้น แต่ควรมีเมตตากรุณาต่อบุคคลที่อยู่ใกล้เคียงต่อบุคคลอื่น เมื่อเห็นเขาลำบากถ้าพอช่วยได้ก็ควรช่วย โดยคำนึงถึงฐานะความเป็นอยู่ของเรา ช่วยแล้วต้องช่วยให้เราอยู่ได้ไม่ใช่ช่วยแล้วเราอดหรือไม่มี สิ่งที่ช่วยไปก็ไม่ได้บุญ กล่าวคือคำนึงถึงฐานะของตนเองด้วย เมื่อบุคคลที่อยู่ในสังคมประเทศชาติมีความเอื้ออาทร ห่วงใย ช่วยเหลือกัน ก็เป็นทางหนึ่งที่ทำให้ประเทศชาติดำรงอยู่ได้

16.ทำความดีตาย ดีกว่าทำความชั่วตาย มนุษย์ที่เกิดมาในโลกนี้จงประกอบแต่ความดี เมื่อทำความดีแล้วตาย จะได้รับการสรรเสริญยกย่องจากผู้ที่อยู่เบื้องหลัง แต่ถ้าทำความชั่วแล้วตายจะมีแต่คนสาปแช่ง

17.ไม่เบียดบังทรัพย์สินผู้อื่น การเบียดบังทรัพย์สินหรือการรีดนาทาเล้นบนความทุกข์ยาก หรือน้ำพักน้ำแรงของผู้อื่นเป็นสิ่งที่ไม่ดี ในฐานะเป็นชาวพุทธควรขจัดสิ่งเหล่านี้ให้หมดไป เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีต่อสังคม การที่คนบางคนมีชีวิตที่สุขสบายมีทรัพย์สมบัติมากมาย แต่สิ่งที่ได้มานั้นได้มาจากการโกงทรัพย์ผู้อื่น หรือเบียดเบียนทรัพย์สินผู้อื่น หรือรีดนาทาเล้นด้วยการยักยอกทรัพย์สินจากผู้อื่น โดยเจ้าของไม่ยินยอมให้ ถือเป็นบาปอย่างหนึ่งที่ต้องทวงตามชดใช้หนี้กันต่อไป

18.ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอยู่เพราะกรรมเก่าตั้งแต่โบราณ คนไทยมีความเชื่อในเรื่องของกรรม กฎแห่งกรรม และสิ่งที่เป็นอยู่ ดำเนินอยู่ ประสบอยู่ เป็นเพราะผลของกรรมที่ได้ทำมา บางคนเกิดมามีความสุขมีเงินทองมากมาย เนื่องจากทำกรรมไว้ดี และเมื่อเกิดมาในชาตินี้ได้ประกอบแต่ความดี บริจาคทรัพย์ ฯลฯ . ผลของความดีนั้นจะส่งเสริมในภพต่อไป แต่บางคนเกิดมาลำบากมีแต่ความทุกข์ในปัจจัยสี่ ไม่มีทรัพย์สมบัติ ก็เชื่อว่าทำกรรมไว้ไม่ดี แต่ถ้าเกิดมาแล้วทำแต่ในสิ่งดี ผลบุญกุศลก็จะช่วยให้เขาเกิดมาในสิ่งดี แต่ถ้าไม่ทำอะไรไว้เลยก็ย่อมได้รับกรรมมากยิ่งขึ้นในภพต่อไป ดังนั้นทุกคนควรเร่งสร้างความดี เพราะทุกสิ่งทุกอย่างยังไม่สายเกินไป

19.การทำความดีไม่ต้องโอ้อวด เมื่อคิดจะทำความดีก็ตั้งอกตั้งใจทำไม่ต้องพูดหรือกล่าวคำว่าทำ การพูดโอ้อวดเอ่ยถึงความดีของตนเอาไว้ไม่ควรทำ ทำสิ่งใดไว้โดยไม่ต้องพูด เมื่อกาลเวลาผ่านไปคนก็จะรู้ความดีของเราเอง

20.จงเป็นผู้ให้การให้ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน ให้สิ่งของหรือให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ทุกคนควรยึดถือปฏิบัติ การให้ไม่ต้องหวังสิ่งตอบแทนเมื่อให้ไปแล้วเรารู้สึกสบายใจ เกิดความพอใจ ก็ควรทำต่อๆไป แม้ว่าบางครั้งเมื่อให้ไปแล้ว แต่ต้องอยู่ในลักษณะของคนที่ปิดทองหลังพระก็ต้องยอม

21.จงมีความเที่ยงธรรม ความเที่ยงธรรม ความถูกต้อง เป็นสิ่งที่ควรยึดถือปฏิบัติไม่เอนเอียงในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ควรให้ความเที่ยงธรรมแก่ผู้น้อยเท่าเทียมเสมอกันไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ลำดับความสำคัญก่อนหลัง

22.มีความซื่อสัตย์สุจริต ความซื่อสัตย์สุจริตควรมีอยู่ในจิตใจของผู้ประพฤติดี ประพฤติชอบ ประกอบแต่บุญกุศล จะคิดอะไรจะทำอะไร ให้ยึดถือความสุจริตใจเป็นสำคัญ

23.ทำงานใหญ่ต้องอดทน ความอดทนจะช่วยให้งานที่ทำบรรลุผลสำเร็จได้อย่างดี การทำสิ่งใดก็ตามย่อมมีผู้กล่าวหา ติฉินนินทา ผู้มีความอดทนย่อมตัดสิ่งเหล่านี้ไปไม่นำมาคิดให้เกิดทุกข์ ริดรอนความอดทน

24.จงยิ้มสู้ จงอยู่อย่างยิ้มสู้กับสิ่งที่ลำบาก สิ่งที่เลวร้ายไม่ช้าไม่นานก็คงจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ประสบความสำเร็จอย่างไม่เคยคิดมาก่อน


     คำสอนเหล่านี้ ถ้าทุกคนได้ยึดถือปฏิบัติ ไม่มากก็น้อยจะช่วยให้อยู่ในสังคมอย่างปกติสุข มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตและในการงานที่ปฏิบัติอยู่ เมื่อประเทศชาติมีบุคคลเหล่านี้อยู่มากก็จะช่วยจรรโลงให้ประเทศของเราเจริญรุ่งเรื่องสืบต่อไป


ดร.พระอุดมประชานาถ ( หลวงพ่อเปิ่น ) วัดบางพระ ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ก.ค. 2556, 11:00:01 โดย ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์) »

ออฟไลน์ ~@เสน่ห์เอ็ม@~

  • ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ แล ครูบาอาจารย์ผู้เกื้อหนุน สาธุ..
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 5894
  • เพศ: ชาย
  • ศิษวัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
สาธุ ครับ ต้องขอบคุณพี่เก่งมาก ที่มาพิม คำสอนของหลวงพ่อ ให้พวกเราได้อ่านกัน ครับ  :054:

ออฟไลน์ ~เสน่ห์กวาง~

  • ไม่ใช่คนแรกของหัวใจ..แต่ก็เป็นคนสุดท้ายของชีวิต ^^โฮ๊ะๆ^^
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1314
  • เพศ: หญิง
  • เพื่อนกัน..ตลอดกาล..
    • ดูรายละเอียด
 :001:

ถ้าเราทำได้ทั้ง24ข้อนี้

การดำเนินชีวิตของคนเราคงดีและราบรื่นนะคะ

การที่ตนเองทำดี

ก็เป็นเสน่ให้คนที่ดีๆมารักเราได้เช่นกัน

คิดดี  ทำดี

ใช้ชีวิตอยู่ในความพอเพียง

มีความอดทน

ฯลฯ

ข้อมูลทั้งหมดที่ท่านเก่งนำมาให้อ่านนั้น

เป็นคำสอนที่ดีมากทีเดียวค่ะ

หวังว่าลูกศิษย์ทุกคน

คงปฏิบัติได้เกินครึ่งนะคะ






..ที่โลกนี้ไม่มี..ก็คือดวงตะวัน..
..ไม่เคยมีให้ฉันในวันที่มองไม่เห็นใคร..
.ที่โลกนี้ไม่มี..ก็คือความรักยิ่งใหญ่..
..ไม่มีคนห่วงใย..หวังดีและผูกพันธ์..

ออฟไลน์ nontaburi

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 148
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ nutagul

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 573
    • ดูรายละเอียด
สาธุ ผมจะพยามปฏิบัติให้ได้มากที่สุดครับ
อิติสุคโตอะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ฐิตคุโณอาจาริโย จะมหาเถโร มหาลาโภ สัพพะสุขขัง จะมหาลาภัง สัพพะโภคัง สัพพะธะณัง ภะวัณตุเม

ออฟไลน์ อชิตะ

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 3218
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - aston_25@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ Ogofmayas

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 337
    • MSN Messenger - gofmaruhi_as@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล

ออฟไลน์ แก๊งค์ - ยา - กู - ซ่า

  • ศิษย์วัดบางพระ
  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 134
  • เพศ: หญิง
  • ศิษย์หลวงพ่อเปิ่น
    • ดูรายละเอียด
สาธุ ค่ะ น้องเก่ง
[shake]ศิษย์หลวงพ่อเปิ่น[/shake]

ออฟไลน์ thaiput

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 19
    • MSN Messenger - thaiput007@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
น้อมรับไปปฏิบัติเพื่อเป็นมงคลต่อตนและครอบครัวครับ..

ออฟไลน์ seaghost

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 871
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล

ออฟไลน์ พยัคฆ์จำศีล

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 47
  • เพศ: ชาย
  • !!! ความทุกข์ที่เกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน !!!
    • ดูรายละเอียด
~~~ จะเป็นคนให้เหนือคนต้องอดทนให้ถึงที่สุด  ~~~

ออฟไลน์ porpar

  • ......... ขอคุณพระคุ้มครอง ........
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1274
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ mawin_14

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1210
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล

ออฟไลน์ mol2516

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 16
  • เพศ: ชาย
  • จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
    • MSN Messenger - puriselo@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
อนุโมทนาครับ อยากได้ยินเสียงหลวงพ่ออีกจังครับ ตอนไปสักยันต์สมัยท่านมีชีวิต ได้ยินเสียงท่านถาม   เจ็บมั้ย.... เหมือนยาวิเศษเลยครับ ไม่ทราบมีท่านใดมีเสียงเทศนาของหลวงพ่อเป็น mp3 มั้ยครับ น่าจะมาแบ่งปันกันบ้าง

ออฟไลน์ 48ce055

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 139
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
อยากฟังชัดๆครับ ตอนวันไหว้ครู..ได้ฟังไม่ชัดครับ..ค่อยหลบพี่ๆที่ของขึ้น

ออฟไลน์ หลังฝน..

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 310
  • เพศ: ชาย
  • ทุกอย่างมีเหตุและผลเสมอ
    • MSN Messenger - webmaster@lifesyt-it.net
    • ดูรายละเอียด
    • www.lifestyle-it.net
สาธุ ขอบคุณมากๆๆๆครับ
ความพยายามนั้นมีอยู่จริงในตัวตนของเรา สุดแท้แต่ความพยายามนั้นจะถูกดึงออกมาใช้ได้มากน้อยแต่เพียงใด

ออฟไลน์ Tiger Number NINE

  • ส.กล้าแดง
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 544
  • เพศ: ชาย
  • ผองธุลีดิน จักพลิกชะตา
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
สา...........ธุ  ขอบคุณสำหรับแสงสว่างจากปลายถ้ำ ในยุคสมัยที่จิตใจมนุษย์บางส่วนเปลี่ยนไปครับ
สุราไม่ได้สร้างวีรบุรุษ......แต่วีรบุรุษก็ขาดสุราไม่ได้

ออฟไลน์ nuttawadee

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 55
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
สาธุ สาธุ สาธุ

กราบนมัสการหลวงพี่

คำสอนของหลวงพ่อ หลวงพี่ ครูบาอาจารย์ทุกรูป น้อมรับไว้เหนือเศียร ขอน้อมรับไว้พึงปฏิบัติจะพยายามทำให้ดีที่สุด ขอบคุณหลวงพี่ที่ได้พิมพ์ แจก ไว้อ่านค่ะ