ผู้เขียน หัวข้อ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??  (อ่าน 16841 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« เมื่อ: 25 ก.พ. 2554, 10:24:54 »
ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??

                  ผู้ที่มีรัตนตรัยเป็นสรณะ เป็นที่พึ่งของชีวิต ควรปฏิบัติกิจวัตรนี้ เพราะเป็นหน้าที่ของชาวพุทธ และ...

                  ๑. เป็นการรักษาธรรมเนียม ประเพณีที่ดีให้คงอยู่
                  ๒. เป็นการแสดงความเคารพบูชาพระรัตนตรัย
                  ๓. เป็นการเชื่อมสามัคคีในหมู่คณะ ครบไตรทวาร
                  ๔. เป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน
                  ๕. เพื่อฝึกกายใจให้เข็มแข็งอดทน
                  ๖. เพื่อดำรงรักษาเอกลักษณ์ของชาติไทยไว้
                  ๗. เพื่ออบรมจิตใจให้สะอาด สงบ สว่าง
                  ๘. เพื่อฝึกจิตให้เกิดสมาธิ ไม่ฟุ่งซ่าน
                  ๙. เพื่อเป็นการทบทวนพระพุทธพจน์

ประโยชน์ของการไหว้พระสวดมนต์...

                  ๑. เป็นการเสริมสร้างสติปัญญา
                  ๒. เป็นการอบรมจิตใจให้ประณีตและมีคุณธรรม
                  ๓. เป็นสิริมงคล แก่ชีวิตตน และ บริวาร
                  ๔. เป็นการฝึกจิตใจให้มีคุณค่าและมีอำนาจ
                  ๕. ทำให้มีความเห็นถูกต้องตามหลักพุทธศาสนา
                  ๖. เป็นการรักษาศรัทธาปสาทะของสาธุชนไว้
                  ๗. เท่ากับได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าแม้ปรินิพพานแล้ว
                  ๘. เป็นเนตติของอนุชนต่อไป
                  ๙. เป็นบุญกิริยา เป็นวาสนาบารมี เป็นสุขทางใจ


ขอบคุณ/ที่มา
http://www.mongkoltemple.com/page02/articles004.html
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ fork0

  • บารมีหลวงพ่อเปิ่นคุ้มครอง
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 635
  • เพศ: ชาย
  • ชายชาติทหาร
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 25 ก.พ. 2554, 10:34:18 »
ดีครับ เป็นประเภณีมาแต่ช้านานครับ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 25 ก.พ. 2554, 10:54:38 »
วิธีสวดมนต์ที่ถูกต้อง

   บทสวดมนต์หลายบทนั้นมีอานุภาพในตัวเองมากมายมหาศาล  แต่ต้องขึ้นอยู่กับ "ผู้สวด" ด้วย
   มีหลายท่านได้ยินได้ฟังมาว่า  คนนั้นคนนี้สวดมนต์บทนั้นบทนี้แล้วจะได้รับสิ่งที่ดีๆ อย่างนั้น
อย่างนี้  จึงมีผู้เลือกเอาบทสวดมนต์ต่างๆ มาบอกเล่ากันว่าควรสวดบทไหน
   ขอเรียนให้ท่านทราบด้วยความจริง....ว่า...
   การที่สวดมนต์ตามบทสวดมนต์ต่างๆ แล้วได้สมหวังตามความปรารถนา  หรือสวดแล้วได้โชค
ลาภต่างๆ นั้น  ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ "บทสวดมนต์" แต่เพียงอย่างเดียว  มีองค์ประกอบอย่างอื่นด้วย
   องค์ประกอบของการได้ทุกอย่างตามที่ปรารถนานั้น  มีส่วนสำคัญอยู่ 3 ส่วน
   1. กรรม      2.ตัวเราเอง        3.ผู้ช่วยหรือสิ่งต่างๆ ช่วย

   1.กรรม  มีอัตราส่วน 50 %
   ถ้าคนเราไม่มีส่วนของการกระทำที่ได้เคยทำไว้ในอดีตมาเป็นพื้นฐานแล้ว  ไม่มีทางที่จะดีขึ้นมาได้ 
เปรียบเทียบว่า กรรม ดีที่เราทำนั้น  เป็นกำลังพื้นฐานที่รองรับเรื่องราวต่างๆ

   2.ตัวเราเอง  มีอัตราส่วน 25 %
   ถ้าเราเองไม่ทำตัวให้ดี  เพื่อรองรับ  หรือรอรับสิ่งที่ดีๆ แล้ว  ก็ไม่มีทางที่จะได้ดีขึ้นมาได้

   3.ผู้ช่วยหรือสิ่งที่มาช่วย  มีอัตราส่วน 25 %
   ผู้ช่วยในที่นี้  รวมถึงทุกสิ่งทุกอย่าง  ไม่ว่าจะเป็นครูบา  อาจารย์  ผู้ที่มีจิตดี   จิตบริสุทธิ์  พรหม
เทพ   เทวดา  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  บทสวดมนต์  พระคาถา  เครื่องราง  ของขลัง  วัตถุมงคล ฯลฯ
   สิ่งเหล่านี้  เป็น "อุปกรณ์" เสริมที่มีความจำเป็น  เพื่อให้สิ่งที่เราต้องการ  สิ่งที่เราปรารถนา  สม
ตามความต้องการ
   นี่เป็นการเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นชัดๆ
   สมมติว่า  ถ้าเป็นการสอบ  ต้องการคะแนน 50 เพื่อ "ผ่าน"
   ลองคิดดูง่ายๆ ว่า  ถ้าเราจัดอัตราส่วนแล้วเราต้องใช้ส่วนไหนมากที่สุด
   ถ้าใช้ส่วนที่มากที่สุด  ก็คือ ส่วนที่เป็น "กรรม"  เรามีอัตราส่วนถึง 50 %
   ถ้าเราเคยทำกรรมดีไว้พอสมควร  คือทำกรรมดีไว้เต็มเปี่ยมได้ครบ 50 % เราก็ไม่จำเป็นต้องไป
หาคะแนนมาจากไหนมาเพิ่ม  เพราะได้ครบ 50 % แล้ว
   เคยสังเกตหรือไม่ว่า  คนบางคนแค่เพียง "นึก" ก็ได้สมตามความปรารถนาแล้ว
   ไม่จำเป็นต้อง "ร้องขอ" จากสิ่งใดๆ อีก  ก็ได้ทุกอย่างตามที่ปรารถนา
   นั่นก็แสดงว่า  บุคคลนั้นได้กระทำ "กรรม" ที่ดีๆ มาอย่างเต็มเปี่ยมแล้วในอดีต

   แต่ถ้าท่านยังทำความดีไม่เพียงพอ  กระพร่องกระแพร่ง  หรือขาดตกไปบ้าง  สมมติว่ามี "กรรมดี"
ได้คะแนนเพียง 30 %  จำเป็นที่จะต้องหาคะแนนจากที่อื่นมาเพิ่มให้ครบ 50 คะแนน
   จะไปเอาจากไหน ก็จากที่เหลือ 2 ส่วนที่เหลือ คือจากตัวเราเองและผู้ช่วยเหลือหรือสิ่งช่วยเหลือ
   การที่จะไปหาให้ครบ 50 คะแนนนั้น  ถ้าเอามาจากตัวเองน่าจะง่ายกว่าไปหาจากคนอื่น  เพราะ
การที่ทำเอง  ก็จะได้เอง  และได้มากกว่าคนอื่นมาทำให้
   แต่ถ้าถามว่า  เราทำเองนั้น  ทำดีได้แค่ไหน  จริงใจกับการทำความดีได้แค่ไหน  หรือทำไปแล้ว 
ผลที่ได้จะเพียงพอกับคะแนนที่ต้องการหรือไม่
   สมมติว่าทำได้อีก 10 คะแนน (จาก 25 คะแนน)  เราก็ได้เพิ่มแล้วเป็น 40 คะแนน
   ยังขาดอยู่ 10 คะแนน  เราก็ต้องอาศัยผู้ช่วยเหลือ  หรือสิ่งช่วยเหลือ เช่น ครูบา  อาจารย์  ผู้ที่มี
"จิต" ดี   "จิต" บริสุทธิ์ เทพ  เทวดา  พรหม  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  บทสวดมนต์  พระคาถา  เครื่องราง  ของขลัง 
วัตถุมงคล ฯลฯ
   เหล่านี้ก็สามารถช่วยท่านได้อีก 10 คะแนน  รวมแล้วครบ 50 คะแนน  ถือว่า "ผ่าน"
   นี่เป็นเพียงการเปรียบเทียบ  และแสดงให้เห็นว่า  ทุกส่วนต้องมีการเกื้อหนุนและประกอบกัน
   ถ้าแค่ผ่าน  ก็ใช้เพียง 50 % หรือ 50 คะแนน
   แต่ถ้าจะให้ "เยี่ยม" ต้องใช้คะแนนมากๆ
   บางคนทำคะแนนได้มากถึง 90 หรือเกือบร้อย
   เช่น  ทำแต่กรรมดี  มาตั้งแต่อดีต  เป็นคนที่ทำตัวเองดี  และได้ผู้ช่วยเหลือดี
   เลยทำให้ได้ดี  มากยิ่งขึ้น
   จำเอาไว้ว่า  กรรม 50  ตัวเอง 25  ผู้ช่วยเหลือ 25
   ไปจัดสัดส่วนเอาเอง
   ถ้าจะมานั่งรอแต่ให้คนอื่นช่วย (25 คะแนน  ซึ่งความเป็นจริง  ใครหรืออะไรจะมาช่วยได้ครบ
25 คะแนน) แล้วไม่ทำตัวเองให้ดีๆ  ไม่ทำกรรมดีมาแต่ก่อน
   จะไปได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ  หรือจะได้รับสิ่งที่ดีๆ ได้อย่างไร
   เพราะฉะนั้นความเป็นจริง  ตัวเราเองเป็นส่วนสำคัญ
   มีคะแนนถึง 75 % หรือ 75 คะแนน
   จากการกระทำดีของเราที่ได้เคยทำไว้  ซึ่งก็คือ "กรรม" 50
   ตัวเราเองทำดีด้วย 25
   ถ้าทำได้แค่นี้  75 คะแนนแล้ว  ผ่านได้อย่างสบายๆ
   จะมานั่งรอผู้ช่วยเหลือ  หรือสิ่งช่วยเหลือทำไม  แค่เพียง 25 คะแนนเอง
   เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว  ทำไมไม่ฝึกตัวเองก่อน
   ให้ตัวเองมี "ดี" พอก่อน  ก่อนที่จะไปหา "ดี" จากที่อื่น

   บทสวดมนต์ก็เช่นกัน  จัดอยู่ในข้อที่ 3 คือผู้ช่วยเหลือ  หรือสิ่งช่วยเหลือ
   อย่าลืมว่าเป็นเพียง "ส่วนประกอบเท่านั้น"
   คนที่ไม่มี "กรรม" ดีมาก่อน  ไม่ได้ทำตัวให้เป็นคนดีก่อน  ไม่ทำบุญทำกุศลมาก่อน   ให้สวด
พระคาถาชินบัญชร 100 จบ 1000 จบก็ไม่ได้อย่างที่ตัวเองต้องการ
   หรือเรียกง่ายๆ ว่า อาจจะไม่ได้ดีตามที่หวัง
   แต่การสวดมนต์ก็ได้ "กุศล" แล้ว  แต่ได้อย่างมากที่สุดก็ไม่เกิน 25 คะแนน
   
   รู้อย่างนี้แล้วจะมามัวมานั่งทำอย่างใดอย่างหนึ่งทำไมกัน
   ทำทั้ง 3 ส่วนให้สมดุลย์กันไม่ดีกว่าหรือ ?
   ทั้งทำ "กรรม" ดี  ทำตัวเองให้ดี (รวมถึงการทำบุญกุศล  ปฏิบัติภาวนา ฯลฯ)  และ
หาผู้ช่วยเหลือสิ่งช่วยเหลือที่ดี
   แล้วสิ่งที่คุณต้องการ...ก็จะไม่ไกลเกินความจริง

ปล..อ่านแล้วโปรดพิจารณา
ที่มา/อ่านต่อ.........
http://www.extrasoul.com/pray.html

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 25 ก.พ. 2554, 11:00:39 »
อ่านต่อ


การสวดมนต์เพื่อให้ได้อานิสงส์สูงสุด

   1.อย่าสักแต่ว่าสวดเป็นนกแก้วนกขุนทอง  คือท่องๆ บ่นๆ ไปตามอักขระที่อ่านหรือนึกได้
   ข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าต้องให้รู้ความหมายด้วย  ไม่จำเป็นขนาดนั้น  เพราะการรู้ความหมาย
เป็นเพียงส่วนเสริมเท่านั้น (แต่ถ้ารู้ความหมายด้วย  ก็เป็นเรื่องดี)
   จะรู้ความหมายหรือไม่รู้ความหมายก็ไม่สำคัญเท่ากับการสวดมนต์อย่างมีสมาธิ

   2.ต้องสวดมนต์อย่างมีสมาธิ  หมายความว่า  เวลาที่จะสวดมนต์นั้น  ต้องรู้ก่อนว่าสวดมนต์
บทไหน (จะรู้ความหมายหรือไม่รู้ก็ได้)  แต่เวลาที่สวดมนต์นั้น  ให้รู้ว่าอักขระหรือตัวหนังสือที่เรากำลังจะ
ท่องนั้น คือตัวอะไร
   ฟังดูอาจจะเข้าใจยาก  เอาอย่างนี้ เวลาที่จะสวดมนต์ เช่น นะโม  ตัสสะ ฯลฯ  ก็ต้องรู้ว่าตอนนี้
กำลังสวดคำว่า นะ  คำว่า โม  คำว่า ตัส  คำว่า สะ
   คือให้รู้ตัวทุกตัวอักขระว่ากำลังสวดคำไหน
   ทำได้มั้ยครับ  ถ้าทำได้..คือรู้ตัวว่าสวดอักขระตัวไหน  เราก็จะมีสติใจจดจ่อกับคำสวดตามอักขระ 
   เมื่อมีสติเราก็จะมีสมาธิ
   การมีสติ  และมีสมาธิในเวลาสวดมนต์นั้น  จะได้รับ "พลังงาน" ที่ดี
   ทำให้ได้  แล้วจะได้รู้ว่า  สวดมนต์เวลาที่มีสติและสมาธิ  จะ "ดีกว่า" สวดมนต์แบบนกแก้วนก
ขุนทองอย่างมากมายมหาศาล

    การเรียงการสวดมนต์  ตามที่ได้ลงในเวบนี้
   ให้สวดมนต์ตามที่ได้ลงเอาไว้  ตั้งแต่ บทสวดมนต์ที่เกี่ยวกับพระรัตนตรัย  บท
ชัยมงคลคาถา (บทพาหุง ฯ)  และจบด้วยพระคาถาชินบัญชร
   จะท่องโดยไม่ต้องดูตัวหนังสือก็ได้  แต่อย่าขี้เกียจ  หมั่นท่องจำไว้ให้ได้ก็ดี  อย่านึกว่ามีหนังสือ 
มีตำรา  แล้วเอาแต่เปิดหนังสือ  เปิดตำราท่อง
   แรกๆ ก็เปิดได้   เพราะคนไม่เคยท่องจะให้จำได้อย่างไร
   แต่ถ้านานๆ ไป  ควรท่องจำเองโดยไม่ต้องเปิดหนังสือหรือตำรา
   เพราะการท่องด้วยจิตใจที่จดจ่อกับคำที่เราท่อง  สิ่งที่เราได้ก็คือ จิตจะมีสมาธิ
   การสวดมนต์ก็คือการปฏิบัติสมาธิอย่างหนึ่งเช่นกัน

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 25 ก.พ. 2554, 11:03:14 »
สวดมนต์ทำไม .. เพื่ออะไร ... สวดเพื่อใคร


ทุกครั้งที่สวดมนต์ มักจะมีคำถาม ขึ้นมาเสมอ
"สวดมนต์ทำไม .. เพื่ออะไร ... สวดเพื่อใคร"
ทดลองสวดมนต์ตามหนังสือที่ได้รับมาบ้าง ตามที่อ่านคำแนะนำมาบ้าง ก็ทำไปตามประเพณีนิยม
ผลทีได้รับกลับมาคือ

๑. ความสงบ (เพราะจิตนิ่งเป็นหนึ่งเดียวกับคำสวด)
๒. มีสมาธิ เพิ่มขึ้น (สวดไม่ผิด)

แต่การสวดมนต์เหมือนต้องฝืนทำไปเพราะ ชีวิตประจำวันค่อนข้างเหนื่อยล้า จากการขับรถ การงาน
และละครโทรทัศน์ (เกี่ยวกันไหมเนี่ย!!! )

จนเมื่ออาจารย์เสริมศิลป์ ครั้งแรกมาสวดมนต์ที่บ้าน โหยยยย .... ทำไม ทำไมคะ ทำไมสวดเร็วเป็น
รถด่วนขบวนสุดท้ายขนาดนั้น เราว่าเราอ่านหนังสือได้ไวแล้ว เจอกลุ่มอาจารย์ฯ สวดมนต์ ขอบอก
ได้แต่ยิ้มเพราะ ...ดูตามยังไม่ทันเลยค่ะ ... (ฮั่นแน่ .. หลายคนแอบพยักหน้า เพราะยกมือด้วย...
ชิมิ ชิมิคะ!)

หลังจากนั้นก็เกิดความสนใจว่า
* เพราะเหตุใดต้องสวดกันเร็ว
* ทำไมบทสวดมนต์ถึงสวดกันยาวนานขนาดนั้น
* ทำไมต้องนั่งสมาธิ แผ่เมตตาให้คนเยอะแยะไปหมด และ
* ทำไม??????? อีกหลายข้อ
จึงลองสังเกตุจากการที่ตามกลุ่มฯ ไปสวดมนต์จึงได้คำตอบ..

อาจารย์ : "สวดมนต์เร็วๆ ได้ประโยชน์อะไรบ้าง?"
Admin : " ๑. เหมือนได้ออกกำลังกาย เพราะสวดมนต์เร็ว ออกเสียง แล้วเหงื่อออก ปอดขยาย
๒. มีสติ เพราะสวดเร็วต้องมีสติตามรู้ ๓. ได้สมาธิ เพราะจิตนิ่งตามบทสวดมนต์"

เวลาสวดมนต์ทุกครั้งอาจารย์จะสอบถามว่าสัมผัสอะไรไหรือไม่ .. บางท่านก็สามารถสื่อได้ ก็จะเห็นพระ
แสงสว่าง บ้างก็วิญญาณ ฯลฯ แล้วแต่สถานที่ แต่อาจารย์จะย้ำทุกครั้งว่า การสวดมนต์ด้วยศรัทธาเป็นการ
เปิด ๓ โลก การสวดมนต์เมตตาใหญ่พิสดารเป็นการสวดมนต์ส่งวิญญาณผู้ตาย และเทวดาเขาชอบฟัง...

คราวนี้ สงสัยหนักกว่าเก่าเลย ...
* อะไร ๓ โลก
* ใครมาฟัง??!!
* ฟังแล้วทำไมไปเกิด??!!
* ทำไมเทวดาต้องมาฟัง??!! สวดเองไม่ได้เหรอ??
เพราะไม่เข้าใจ จนในที่สุดความสงสัยก่อตัวมากเสียจนไปพบประสบการไปสวดมนต์กับกลุ่มฯ อาจารย์
หลายครั้ง จนวันหนึ่งไปร่วมงานหล่อพระพุทธรูป ที่วัด ......... และอาจารย์ไปสวดมนต์ในโบสถ์ที่กำลัง
ก่อสร้างอยู่

ที่มา
http://jit-jai-d.blogspot.com/2009/01/blog-post_10.html

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 25 ก.พ. 2554, 11:05:03 »
สวดมนต์ทำไม สวดมนต์แล้วได้อะไร

ปุจฉา     - สวดมนต์ทำไม สวดมนต์แล้วได้อะไร
วิสัชนา  - เพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าวสรรเสริญ บูชาพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระสงฆเจ้า ผู้มีคุณอันประเสริฐ ผู้เป็นที่พึ่งอันไม่มีที่พึ่งใดยิ่งกว่า เพราะท่านนำพาให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งหมายถึงมนุษย์ตลอดจน เทพเทวดา พรหม และสัตว์ในทุคติ ตลอด 31 ภพภูมิ ได้เรียนรู้พระธรรมอันนำให้เกิดปัญญา สามารถพาตนให้พ้นทุกข์ได้
                - การสวดมนต์ทำให้เกิดอานิสงส์ยิ่งใหญ่ เป็นอานิสงส์ที่เกิดจากการสรรเสริญคุณของคนดีและความดี ซึ่งจริง ๆ แล้วแม้เพียงการยกมือขึ้นไหว้หรือกราบลงด้วยใจที่เคารพบูชา ก็เกิดอานิสงส์อันเรียกว่า ผลแห่งบุญ ขึ้นแล้ว แม้ยังมิทันได้เอ่ยปากสวดมนต์ใด ๆ ออกมา
                - การสวดมนต์ ทำให้จิตเป็นสมาธิอันเกิดจากการจดจ่ออยู่ที่คำสวด อยู่ที่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จึงทำให้จิตใจผ่องใส คลายความทุกข์ความเศร้า ความกังวลห่วงใยได้ในทันทีที่ สวดมนต์
                - เหนือยิ่งกว่าสิ่งที่สามารถจับต้องมองเห็นได้ก็คือ การสวดมนต์ทำให้เกิด พลานุภาพแผ่ปกคลุมช่วยปกป้องคุ้มครองรักษาผู้สวดมนต์นั้นเอง ดังจะเคยได้ยินผู้ที่มีประสบการณ์ผ่านพ้นวิกฤตอันตรายมาได้หลาย ๆ ท่านที่เล่าให้ฟังว่า เมื่อพบภัยอยู่เบื้องหน้า ด้วยความกลัวตายเพียงสวดพุทโธ ๆ หรือสวด อิติปิโส สั้น ๆ ด้วยจิตมุ่งมั่นศรัทธาในพระพุทธคุณ ก็สามารถรอดพ้นจากภัยพิบัตินั้นได้อย่างปาฏิหาริย์
คัดลอกจากบทความของ คุณฐาปนา  รักติประกร
ผู้ประสานงานงานรวมพลังสวดพระปริตรอธิษฐานจิตเพื่อแผ่นดินไทย


http://www.oknation.net/blog/Phra-parit/2010/07/10/entry-1

ออฟไลน์ OopiakoO

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 19
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - bigass_piak@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 26 ก.พ. 2554, 02:11:39 »
 :016:ขอบคุณครับสำหรับ สาระดีๆ แบบนี้ :015:


 :054: :054: :054:

ออฟไลน์ ออฟชัง

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 29
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 28 เม.ย. 2554, 06:19:23 »
สวดมนต์นี้มันมีดีอะไรหลายอย่างมากกว่าที่คุณคิด

ออฟไลน์ jidarsarika

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 93
  • เพศ: หญิง
  • อาจาริโย วันทามิ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 29 เม.ย. 2554, 08:56:49 »
ชอบอ่านมากค่ะ  :016: ขอบคุณสำหรับบทความชุดนี้ :015:
แค่เกิดเป็นคนก็ลำบากแล้ว ต้องเลือกใช้ชีวิตให้เป็น มาสวดมนต์กันเยอะๆดีกว่าค่ะ
พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง มาตาปิตุโร อาจาริโย

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 29 เม.ย. 2554, 01:30:53 »
พระรัตนตรัย เป็นทั้งที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดของพวกเราชาวพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย

สิ่งอื่น ที่จะเป็นที่พึ่งที่ระลึกของเรา ไม่มีอีกแล้ว

ดังนั้น จึงขอเรียนเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่าน

ตั้งใจน้อมระลึกบูชาสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัยอันไม่มีประมาณ

ด้วยการสวดมนต์ทำวัตรเช้า - ทำวัตรเย็น ทุกวันนะครับ.

สาธุ สาธุ อนุโมทามิ.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 เม.ย. 2554, 02:09:35 โดย ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์) »

ออฟไลน์ Jesus

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 109
  • เพศ: ชาย
  • ผมเป็นคนเดินช้าเเต่ผมไม่เคยเดินถอยหลัง
    • MSN Messenger - judas_66@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 02 พ.ค. 2554, 12:04:21 »
ขอบคุณครับ ข้อมูลเเน่นจริง :016: :015: :053:
I AM GRAPHIC DESIGNER

ออฟไลน์ jhajaja

  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 5
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 02 พ.ค. 2554, 12:12:05 »
ขอบคุณค่ะ สำหรับความรู้ดีๆ ค่ะ :053:

ออฟไลน์ immortal

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 26
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 02 พ.ค. 2554, 09:48:43 »
สวดให้ถูกต้องตรงตามอักขระ ตามตำราก็จะก่อให้เกิดสมาธิครับ

silazapotong

  • บุคคลทั่วไป
ตอบ: ไหว้พระสวดมนต์ทำไม??
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 16 พ.ค. 2554, 07:31:52 »
สวดมนต์เพื่อระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย

คือพระพุทธผู้สูงล้ำ      คือพระธรรมผู้สูงเลิศ        คือพระสงฆ์ผู้ประเสริฐ

ผู้ร่วมกันก่อเกิดพระรัตนตรัย