กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) => ข้อความที่เริ่มโดย: nattynana ที่ 02 ก.พ. 2556, 03:28:46
-
สวัสดีคะ เพื่อนๆพี่ๆศิษย์วัดบางพระทุกๆท่าน
ขออนุญาตถามเกี่ยวกับข้อห้ามหลังสักยันต์นิดหนึ่งนะคะ
เกี่ยวกับข้อห้ามที่ว่า ห้ามลอดราวตากผ้านะคะ ห้ามลอดผ้าถุง
แล้วทีนี้เรากลับบ้านที่ต่างจังหวัด ที่บ้านจะมีราวตากผ้าที่ทำด้วยไม้ไผ่ลำยาวๆ แขวนไว้สูงมาก
เราเผลอลอดผ่านตั้งหลายรอบ และมีผ้าถุงของแม่ตากไว้ด้วย
จะเป็นอะไรไหมคะ และต้องไปให้พระอาจารย์เป่าให้ใหม่ไหมคะ
และอยากทราบว่าเพราะอะไรถึงห้ามลอดราวตากผ้า
ขอถามเพิ่มเติมนิดหนึ่ง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เราไปกราบพระอาจารย์ต้อยแล้วเห็นพี่ผู้ชายท่านหนึ่งเข้าไปกราบท่าน
แล้วท่านเอาหัวฤษี (คล้ายๆหัวโขน) ครอบศีรษะให้ แล้วก็เป่า เลยอยากทราบว่า
นั่นคือการครอบครูหรืออะไรคะ ทำเพื่ออะไรบ้าง คืออยากทำบ้างนะคะ ผู้หญิงทำได้ไหม
ขอบพระคุณล่วงหน้าคะ
-
ค่อยๆศึกษา และเรียนรู้จากบทความ หรือกระทู้ เก่าๆ ไปตามหลักสูตรครับ ข้อสงสัยเกิดขึ้นได้ตลอดหากเรายังไม่รู้ข้อเท็จจริงครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ
-
แล้วผมละ เวลา นอน เอาผ้าถุงแม่มาห่มแทนผ้าห่มเวลานอนอ่ะ ตชคือของแม่ บุพการีเลยนะ ไม่ใช่เมีย จะเป็นไรไหมครับ
-
สวัสดีคะ เพื่อนๆพี่ๆศิษย์วัดบางพระทุกๆท่าน
ขออนุญาตถามเกี่ยวกับข้อห้ามหลังสักยันต์นิดหนึ่งนะคะ
เกี่ยวกับข้อห้ามที่ว่า ห้ามลอดราวตากผ้านะคะ ห้ามลอดผ้าถุง
แล้วทีนี้เรากลับบ้านที่ต่างจังหวัด ที่บ้านจะมีราวตากผ้าที่ทำด้วยไม้ไผ่ลำยาวๆ แขวนไว้สูงมาก
เราเผลอลอดผ่านตั้งหลายรอบ และมีผ้าถุงของแม่ตากไว้ด้วย
จะเป็นอะไรไหมคะ และต้องไปให้พระอาจารย์เป่าให้ใหม่ไหมคะ
และอยากทราบว่าเพราะอะไรถึงห้ามลอดราวตากผ้า
ขอถามเพิ่มเติมนิดหนึ่ง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เราไปกราบพระอาจารย์ต้อยแล้วเห็นพี่ผู้ชายท่านหนึ่งเข้าไปกราบท่าน
แล้วท่านเอาหัวฤษี (คล้ายๆหัวโขน) ครอบศีรษะให้ แล้วก็เป่า เลยอยากทราบว่า
นั่นคือการครอบครูหรืออะไรคะ ทำเพื่ออะไรบ้าง คืออยากทำบ้างนะคะ ผู้หญิงทำได้ไหม
ขอบพระคุณล่วงหน้าคะ
แล้วผมละ เวลา นอน เอาผ้าถุงแม่มาห่มแทนผ้าห่มเวลานอนอ่ะ ตชคือของแม่ บุพการีเลยนะ ไม่ใช่เมีย จะเป็นไรไหมครับ
สวัสดีท่านทั้งหลาย โยมเพชรขอ อนุญาต ตอบคำถาม ของท่านทั้ง2 ดังนี้นะขอรับ
ในคำบอกเล่าของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเล่าเกี่ยวกับความเป็นผู้มีกตัญญูต่อบิดามารดาของหลวงพ่อปานดังนี้
" หลวงพ่อปานท่านมีความกตัญญูกตเวทีกับแม่ท่านมาก ทั้งพ่อ ทั้งแม่นั่นแหละ พ่อก็ดีแม่ก็ดี เวลาป่วยท่านไม่ยอมให้อยู่ที่บ้าน ท่านเอามารักษาตัวที่วัดให้นอนในกุฎิท่าน ผ้านุ่งแม่ของท่าน ๆ ซักเอง ท่านเอาผ้านุ่งแม่ของท่านไปตากไว้บนขื่อ ไอ้ขื่อบ้านนี่มันสูงนะลูกหลานนะ มันสูงกว่าหัวคนนะ เวลาเดินไปเดินมา หัวคนก็ต้องลอดขื่อ แต่ผ้านุ่งแม่ของท่าน ท่านไปตากไว้บนขื่อ เวลาแม่ท่านลุกไม่ถนัดท่านก็อุ้ม ลุกอุ้มนั่ง ถึงได้บอกว่าแม่ท่านเป็นผู้หญิง แต่ว่าเวลานั้นท่านเป็นพระ มีคนหลายคนเขามาตำหนิท่าน ผู้หญิงเขาติว่า คุณปาน โยมของคุณน่ะเป็นผู้หญิง ผ้านุ่งเอาไปตากบนขื่อ ซักผ้านุ่งแม่เอง อุ้มลุกอุ้มนั่งเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวเองอย่างนี้แม่จะบาป ท่านก็เลยบอกว่า พระพุทธเจ้าท่านว่าไม่บาปนี่ พระพุทธเจ้าท่านว่าดีนี่ ท่านก็ตอบกับคนพูดว่า เวลานี้ไม่ใช่คนแล้ว ฉันเป็นพระ พอฉันมาเป็นพระ ฉันเป็นลูกของพระพุทธเจ้า ในเมื่อพระพุทธเจ้าผู้เป็นพ่อว่าไม่บาป เป็นความดี ฉันก็เลยทำตามท่านน่ะซิ หากว่าฉันจะทำตามคนอื่นพูดก็ชื่อว่าฉันไม่เชื่อพระพุทธเจ้า ฉันทำตามคำของพระพุทธเจ้าชื่อว่าฉันไม่เชื่อคนอื่น หากว่าฉันเป็นฆราวาสฉันจะเชื่อชาวบ้าน แต่ว่าเวลานี้ฉันเป็นพระ ฉันต้องเชื่อพระพุทธเจ้า
เมื่อเขาสงสัยก็ถามว่าพระพุทธเจ้าเทศน์ไว้ที่ไหน ว่าอย่างไร ท่านก็บอกว่า พระพุทธเจ้าเทศน์ไว้ในพระไตรปิฎกมีอยู่ แต่ว่าถ้าจะหาให้ง่ายจงไปหาในพระธรรมบท แล้วดู เรื่องราวในเรื่องของทศชาติ คือเรื่องของสุวรรณสามก็ได้ แล้วท่านเลยกล่าวเอาเรื่องของพระที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ในธรรมบท คำว่า ธรรมบท นี้คือบทที่กล่าวถึงธรรม บทแปลว่าถึง เรื่องที่เข้าถึงธรรม เข้าถึงความดี ธรรมคือสิ่งที่คงสภาพและทรงไว้ซึ่งความดี เรียกกันว่าธรรม ถ้าจะแยกออกไปก็ต้องแยกเป็น กุศลธรรมและอกุศลธรรม ถ้ากุศลธรรมเป็นธรรมฝ่ายความฉลาด ความดี อกุศลธรรมก็เป็นธรรมฝ่ายชั่ว หากเรียกกันว่าธรรมเฉย ๆ ก็ต้องหมายความกันว่าความดีเฉย ๆ หมายเอาความดีโดยเฉพาะกัน แล้วก็นำเรื่องราวของพระลูกเศรษฐีที่ปรากฎมาในธรรมบทมาเล่าให้ฟัง "
หาก นับถือ ศรัทธา ก็จงอย่า ลังเล หรือ สงสัย อันใดเลย สิ่งที่ครูบาอาจารย์ กำหนดไว้ ห้ามไว้ "ดีแล้ว"
มีมาแต่โบราณ ท่านรู้ไปก็ใช่ว่า จะมีอะไรดีขึ้นมา
ส่วนเรื่องการ"ครอบเศียรบรมครูพ่อปู่ฤาษี" ( ไม่ใช่ หัวฤาษี อย่างที่ท่านเรียก ) ไปศึกษาให้ลึกกว่านี้ ก่อนจะครอบเถิดครับ
หลวงพ่อ หลวงพี่ พระอาจารย์ทุกๆรูป ท่านก็จะ พิจารณาเป็นรายบุคคลไป ใช่ว่า เรานึกอยากจะครอบก็ครอบได้
หากปราถนา อยากครอบจริงๆ รองานไหว้ครู ปีนี้สิครับ มีครอบ ที่กุฏิหลวงพี่ติ่ง และ บางกุฏิ นี่เป็นคำแนะนำคร่าวๆ นะครับ
สุดแท้จะพิจารณา แต่สำหรับโยมเพชรแล้ว อยากให้ ศึกษาหลายๆด้านเสียก่อน อย่าใจร้อนครับ อย่าขออย่าเซ้าซี้
ของดีก็จักมาหาตัวเราเอง หมั่นภาวนา อธิฐาน หมั่นไปทำบุญที่วัดบ่อยๆ เอาเถิด เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม เอวัง
หวังว่าคำตอบทั้งหมดนี้ พอจะให้ความรู้ความกระจ่างแก่ท่านทั้งหลายไม่มากก็น้อย
-
สวัสดีคะ เพื่อนๆพี่ๆศิษย์วัดบางพระทุกๆท่าน
ขออนุญาตถามเกี่ยวกับข้อห้ามหลังสักยันต์นิดหนึ่งนะคะ
เกี่ยวกับข้อห้ามที่ว่า ห้ามลอดราวตากผ้านะคะ ห้ามลอดผ้าถุง
แล้วทีนี้เรากลับบ้านที่ต่างจังหวัด ที่บ้านจะมีราวตากผ้าที่ทำด้วยไม้ไผ่ลำยาวๆ แขวนไว้สูงมาก
เราเผลอลอดผ่านตั้งหลายรอบ และมีผ้าถุงของแม่ตากไว้ด้วย
จะเป็นอะไรไหมคะ และต้องไปให้พระอาจารย์เป่าให้ใหม่ไหมคะ
และอยากทราบว่าเพราะอะไรถึงห้ามลอดราวตากผ้า
ขอถามเพิ่มเติมนิดหนึ่ง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เราไปกราบพระอาจารย์ต้อยแล้วเห็นพี่ผู้ชายท่านหนึ่งเข้าไปกราบท่าน
แล้วท่านเอาหัวฤษี (คล้ายๆหัวโขน) ครอบศีรษะให้ แล้วก็เป่า เลยอยากทราบว่า
นั่นคือการครอบครูหรืออะไรคะ ทำเพื่ออะไรบ้าง คืออยากทำบ้างนะคะ ผู้หญิงทำได้ไหม
ขอบพระคุณล่วงหน้าคะ
แล้วผมละ เวลา นอน เอาผ้าถุงแม่มาห่มแทนผ้าห่มเวลานอนอ่ะ ตชคือของแม่ บุพการีเลยนะ ไม่ใช่เมีย จะเป็นไรไหมครับ
สวัสดีท่านทั้งหลาย โยมเพชรขอ อนุญาต ตอบคำถาม ของท่านทั้ง2 ดังนี้นะขอรับ
ในคำบอกเล่าของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเล่าเกี่ยวกับความเป็นผู้มีกตัญญูต่อบิดามารดาของหลวงพ่อปานดังนี้
" หลวงพ่อปานท่านมีความกตัญญูกตเวทีกับแม่ท่านมาก ทั้งพ่อ ทั้งแม่นั่นแหละ พ่อก็ดีแม่ก็ดี เวลาป่วยท่านไม่ยอมให้อยู่ที่บ้าน ท่านเอามารักษาตัวที่วัดให้นอนในกุฎิท่าน ผ้านุ่งแม่ของท่าน ๆ ซักเอง ท่านเอาผ้านุ่งแม่ของท่านไปตากไว้บนขื่อ ไอ้ขื่อบ้านนี่มันสูงนะลูกหลานนะ มันสูงกว่าหัวคนนะ เวลาเดินไปเดินมา หัวคนก็ต้องลอดขื่อ แต่ผ้านุ่งแม่ของท่าน ท่านไปตากไว้บนขื่อ เวลาแม่ท่านลุกไม่ถนัดท่านก็อุ้ม ลุกอุ้มนั่ง ถึงได้บอกว่าแม่ท่านเป็นผู้หญิง แต่ว่าเวลานั้นท่านเป็นพระ มีคนหลายคนเขามาตำหนิท่าน ผู้หญิงเขาติว่า คุณปาน โยมของคุณน่ะเป็นผู้หญิง ผ้านุ่งเอาไปตากบนขื่อ ซักผ้านุ่งแม่เอง อุ้มลุกอุ้มนั่งเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวเองอย่างนี้แม่จะบาป ท่านก็เลยบอกว่า พระพุทธเจ้าท่านว่าไม่บาปนี่ พระพุทธเจ้าท่านว่าดีนี่ ท่านก็ตอบกับคนพูดว่า เวลานี้ไม่ใช่คนแล้ว ฉันเป็นพระ พอฉันมาเป็นพระ ฉันเป็นลูกของพระพุทธเจ้า ในเมื่อพระพุทธเจ้าผู้เป็นพ่อว่าไม่บาป เป็นความดี ฉันก็เลยทำตามท่านน่ะซิ หากว่าฉันจะทำตามคนอื่นพูดก็ชื่อว่าฉันไม่เชื่อพระพุทธเจ้า ฉันทำตามคำของพระพุทธเจ้าชื่อว่าฉันไม่เชื่อคนอื่น หากว่าฉันเป็นฆราวาสฉันจะเชื่อชาวบ้าน แต่ว่าเวลานี้ฉันเป็นพระ ฉันต้องเชื่อพระพุทธเจ้า
เมื่อเขาสงสัยก็ถามว่าพระพุทธเจ้าเทศน์ไว้ที่ไหน ว่าอย่างไร ท่านก็บอกว่า พระพุทธเจ้าเทศน์ไว้ในพระไตรปิฎกมีอยู่ แต่ว่าถ้าจะหาให้ง่ายจงไปหาในพระธรรมบท แล้วดู เรื่องราวในเรื่องของทศชาติ คือเรื่องของสุวรรณสามก็ได้ แล้วท่านเลยกล่าวเอาเรื่องของพระที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ในธรรมบท คำว่า ธรรมบท นี้คือบทที่กล่าวถึงธรรม บทแปลว่าถึง เรื่องที่เข้าถึงธรรม เข้าถึงความดี ธรรมคือสิ่งที่คงสภาพและทรงไว้ซึ่งความดี เรียกกันว่าธรรม ถ้าจะแยกออกไปก็ต้องแยกเป็น กุศลธรรมและอกุศลธรรม ถ้ากุศลธรรมเป็นธรรมฝ่ายความฉลาด ความดี อกุศลธรรมก็เป็นธรรมฝ่ายชั่ว หากเรียกกันว่าธรรมเฉย ๆ ก็ต้องหมายความกันว่าความดีเฉย ๆ หมายเอาความดีโดยเฉพาะกัน แล้วก็นำเรื่องราวของพระลูกเศรษฐีที่ปรากฎมาในธรรมบทมาเล่าให้ฟัง "
หาก นับถือ ศรัทธา ก็จงอย่า ลังเล หรือ สงสัย อันใดเลย สิ่งที่ครูบาอาจารย์ กำหนดไว้ ห้ามไว้ "ดีแล้ว"
มีมาแต่โบราณ ท่านรู้ไปก็ใช่ว่า จะมีอะไรดีขึ้นมา
ส่วนเรื่องการ"ครอบเศียรบรมครูพ่อปู่ฤาษี" ( ไม่ใช่ หัวฤาษี อย่างที่ท่านเรียก ) ไปศึกษาให้ลึกกว่านี้ ก่อนจะครอบเถิดครับ
หลวงพ่อ หลวงพี่ พระอาจารย์ทุกๆรูป ท่านก็จะ พิจารณาเป็นรายบุคคลไป ใช่ว่า เรานึกอยากจะครอบก็ครอบได้
หากปราถนา อยากครอบจริงๆ รองานไหว้ครู ปีนี้สิครับ มีครอบ ที่กุฏิหลวงพี่ติ่ง และ บางกุฏิ นี่เป็นคำแนะนำคร่าวๆ นะครับ
สุดแท้จะพิจารณา แต่สำหรับโยมเพชรแล้ว อยากให้ ศึกษาหลายๆด้านเสียก่อน อย่าใจร้อนครับ อย่าขออย่าเซ้าซี้
ของดีก็จักมาหาตัวเราเอง หมั่นภาวนา อธิฐาน หมั่นไปทำบุญที่วัดบ่อยๆ เอาเถิด เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม เอวัง
หวังว่าคำตอบทั้งหมดนี้ พอจะให้ความรู้ความกระจ่างแก่ท่านทั้งหลายไม่มากก็น้อย
ขอบพระคุณมากๆค่ะ สำหรับความกระจ่าง สรุปแล้วคือไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ
ขอแค่เราตั้งมั่นในศีลธรรม รักษาศีล5 หมั่นสวดมนต์แผ่เมตตา ทำความดี
-
จิตใจบริสุทธิ์แน่วแน่อย่าหวั่นไหว มั่นคงและหนักแน่น คือสื่งที่สำคัญที่สุดนะครับ