กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 23 มิ.ย. 2552, 03:25:42
-
:053:เพราะอัตตาและอุปาทานเป็นเหตุเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความเห็นที่ผิดเพี้ยนไปจากหลักธรรม คนส่วนใหญ่จะไม่ยอมเปลี่ยนความคิด
ความรู้ความเข้าใจเข้าหาหลักธรรม แต่มักจะพยายามแก้ไขตีความหลักธรรมให้มาสงเคราะห์รองรับความคิดเห็นของตน สิ่งนั้นทำให้เกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากความจริง เพราะหลักธรรมทั้งหลายนั้นมันมีมาก่อนแล้วคู่กับโลก มันเป็นกฏของธรรมชาติทั้งหลายทั้งปวง ถูกต้อง
และดีงามอยู่แล้ว แต่ความคิดความเห็นของเรานั้นมันเกิดจากการปรุงแต่งเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ของจริงตามธรรมชาติ ความผิดพลาด ความ
ขัดแย้งจึงเกิดขึ้น เพราะเราเข้าไปยึดถือในอัตตาและอุปาทานของเรา
การปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าจะให้พบของจริง ต้องละทิ้งอัตตาและอุปาทานที่เป็นตัวปิดบังความเป็นจริงออกเสียก่อน ทำให้มันแจ้งมันสว่าง แล้วเราจะได้เห็นสภาพแห่งความเป็นจริงของสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวง แต่การถอนมานะ การละทิฏฐินั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันเป็นเรื่องยากสำหรับนักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ตราบใดที่เรายังไม่เกิดธรรมสังเวชในกายมันก็ยังละไม่ได้ในอัตตา และถ้ายังไม่เกิดธรรมสังเวชในเวทนามันก็ละไม่ได้ซึ่งอุปาทาน
เราท่านทั้งหลายต้องเพียรพยายาม ทำให้แจ้งชัดในฐานกาย แล้วเราจะเข้าใจในฐานเวทนาและจะนำพาไปสู่ฐานจิตและฐานธรรมตามลำดับ
ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเริ่มต้นที่พื้นฐาน ถ้าพื้นฐานมั่นคง มันจะส่งผลสู่ชั้นต่อไปให้มั่นคงตาม การปฏิบัติต้องเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ควรใจร้อนหวังผลความสำเร็จโดยฉับไว ค่อยๆเป็นค่อยๆไป สั่งสมกำลัง อบรมอินทรีย์ สร้างบารมีไปเรื่อยๆจนมันเต็ม แล้วเราจะพบกับความสำเร็จอย่างแน่นอน
:016:แด่ความเห็นที่ขัดแย้ง...ที่ทำให้แจ้งในทางธรรม :015:
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๒ เวลา ๑๕.๑๖ น. ณ ชายป่าห้วยขาแข้ง อุทัยธานี
:069:บทความอุทานธรรมในยามบ่าย...เกิดจากที่ต้องไปเป็นกรรมการตัดสินความ ให้กับผู้ปฏิบัติธรรมที่เกิดความเห็นขัดแย้งกัน ในสิ่งเดียวกัน
เพราะต่างคน ต่างยึดถือในสิ่งที่ตนรู้และเข้าใจ ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น คิดว่าสิ่งที่ตนได้พบได้เห็นและเข้าใจนั้เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
ถ้าเห็นแตกต่างไปจากตนแล้วสิ่งนั้นผิด เลยต้องเข้าไปอธิบายให้ทั้งสองฝ่ายได้เข้าใจ ว่าทำไมแต่ละคนจึงมีความเห็นที่แตกต่างกัน จนเป็นที่เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย จึงได้เป็นที่มาของ"อุทานธรรมในยามบ่าย"
-
กราบนมัสการขอบพระคุณท่านระวี สัจจะ มากครับสำหรับบทความอุทานธรรมในยามบ่าย...
...แนวคิดและประสบการณ์ที่ต่างกัน ทำให้มุมมองของแต่ละคนก็ต่างกันไปด้วยครับ....
-
กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง...ถึงธรรมะข้อคิดยามบ่ายวันนี้... แด่ความเห็นที่ขัดแย้ง--- ท่านทำให้แจ้งในทางธรรม.....
ต้องอาศัยคนที่มีสติปัญญาจริงๆ ถึงจะยอมรับได้ว่าความคิดเห็นของคนอื่นดีกว่าของตน...
It takes a wise man to accept somebody else's idea as being better than his own.
-
กราบนมัสการพระคุณเจ้า
ขอบพระคุณกับบทความดีดีครับ
-
ขอเรียนถามหลวงพี่น่ะครับ คือตอนนี้มีหลายคนบอกผมว่า การฝึกนั่งสมาธิของผม ผมควรจะเรียนรู้จากครูให้เป็นขั้นเป็นตอน ไม่ควรที่จะฝึกนั่งเองอย่างที่เป็นอยู่ เรียนตามตรงน่ะครับ การฝึกนั่งสมาธิของผม ผมศึกษาจากคำสอนของหลวงพ่อชา (หนังสือ,ซีดี) และ จากกระทู้ที่หลวงพี่ได้เขียนไว้ รวมถึงคำแนะนำของหลวงพี่ที่เคยแนะนำให้ผม ผมจึงอยากเรียนถามหลวงพี่ว่า ผมควรทำตามที่มีคนแนะนำหรือไม่ครับ หรือผมสามารถฝึกได้ด้วยตนเองครับ วันก่อนผมได้สนทนากับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าการนั่งสมาธิของผมได้ก้าวผ่านขั้นแรกมาแล้ว ผมไม่ควรที่จะฝึกเองแบบเดิม เพราะท่านเกรงว่า เดี๋ยวผมจะผิดทางอาจจะส่งกระทบกับผม และอยากจะเรียนถามท่านอีกข้อคือ การเดินจงกรม คือบ้านผมเป็นทาวน์เฮ้าส์สถานที่ไม่เอื้อให้ผมเดินเลยครับ ห้องที่ผมสวดมนต์ เดินไม่กี่ก้าวผมก็ต้องกลับตัวแล้วครับ ผมจะฝึกการเดินจงกรมได้อย่างไรครับ ข้างล่างที่บ้านก็เดินได้ไกลหน่อย แต่ผมเลี้ยงหมาไว้ในบ้าน ตอนดึกถ้าผมลงมาเดิน ลูกๆ4ขาผมคงส่งเสียงกันระงมครับ อยากให้ท่านชี้แนะด้วยครับ กราบขอโทษที่ถามยาวน่ะครับ
-
ขอเรียนถามหลวงพี่น่ะครับ คือตอนนี้มีหลายคนบอกผมว่า การฝึกนั่งสมาธิของผม ผมควรจะเรียนรู้จากครูให้เป็นขั้นเป็นตอน ไม่ควรที่จะฝึกนั่งเองอย่างที่เป็นอยู่ เรียนตามตรงน่ะครับ การฝึกนั่งสมาธิของผม ผมศึกษาจากคำสอนของหลวงพ่อชา (หนังสือ,ซีดี) และ จากกระทู้ที่หลวงพี่ได้เขียนไว้ รวมถึงคำแนะนำของหลวงพี่ที่เคยแนะนำให้ผม ผมจึงอยากเรียนถามหลวงพี่ว่า ผมควรทำตามที่มีคนแนะนำหรือไม่ครับ หรือผมสามารถฝึกได้ด้วยตนเองครับ วันก่อนผมได้สนทนากับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าการนั่งสมาธิของผมได้ก้าวผ่านขั้นแรกมาแล้ว ผมไม่ควรที่จะฝึกเองแบบเดิม เพราะท่านเกรงว่า เดี๋ยวผมจะผิดทางอาจจะส่งกระทบกับผม และอยากจะเรียนถามท่านอีกข้อคือ การเดินจงกรม คือบ้านผมเป็นทาวน์เฮ้าส์สถานที่ไม่เอื้อให้ผมเดินเลยครับ ห้องที่ผมสวดมนต์ เดินไม่กี่ก้าวผมก็ต้องกลับตัวแล้วครับ ผมจะฝึกการเดินจงกรมได้อย่างไรครับ ข้างล่างที่บ้านก็เดินได้ไกลหน่อย แต่ผมเลี้ยงหมาไว้ในบ้าน ตอนดึกถ้าผมลงมาเดิน ลูกๆ4ขาผมคงส่งเสียงกันระงมครับ อยากให้ท่านชี้แนะด้วยครับ กราบขอโทษที่ถามยาวน่ะครับ
:059:การฝึกหัดปฏิบัติธรรมนั้น เราควรทำตามขั้นตอน เพราะเราจะต้องสร้างพื้นฐานให้แน่นเสียก่อน คือศีล สมาธิ ปัญญา ที่หลวงพ่อชาสอนเน้นเรื่องศีลและวินัย ก็เพื่อให้เราฝึกสติและสัมปชัญญะ ศีลและวินัยจะสมบูรณ์ได้ เราต้องมีสติและสัมปชัญญะอยู่กับกาย วาจาใจ ส่งที่ได้จากการรักษาศีลคือ สติ สัมปชัญญะและองค์แห่งคุณธรรมคือหิริ โอตัปปะ
:059:การเดินจงกรมนั้นเป็นการฝึกสติ โดยให้เรามีสติและสัมปชัญญะในอริยาบทเดินคือรู้เท่าทันการเคลื่อนไหว ถ้าสถานที่ไม่อำนวยให้เราใช้อริยาบทยืนกำหนดแทน (จงกรมในกายในจิต)อาสนะผืนเดียวก็เดินจงกรมได้ ทำเหมือนเราซอยเท้าอยู่กับที่โยมีสติอยู่กับการเคลื่อนไหวไม่ให้ขาดสติ
(สมัยปฏิบัติธรรมอยู่บนดอยที่แม่ฮ่องสอน ในพรรษาฝนตกทุกวันเดินจงกรมไม่ได้ เพราะความที่เรามีศรัทธาอยากจะเดินจงกรมแต่ทำไม่ได้ เลยมานั่งทบทวนพิจารณาธรรมว่า เราเดินจงกรมเพื่ออะไร...? เดินแล้วได้อะไร...?มีวิธีอื่นไหม..?ที่ให้ผลออกมาเหมือนกัน จึงได้วิชาการเดินอยู่กับที่มา)
-
กราบนมัสการหลวงพี่ ขอบพระคุณที่แนะนำชี้แนะแนวทางให้ คืนนี้ผมจะฝึกเดินจงกรมแบบที่ท่านแนะนำครับ ส่วนการเข้าเรียนเรื่องการนั่งสมาธิ ผมจะไปฝึกที่วัดพุทธบูชาครับ