กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: derbyrock ที่ 01 ก.ค. 2552, 01:47:48
-
กสิณ คือ อะไร?
กสิณ แปลว่าวัตถุสำหรับดึงจิตให้เป็นสมาธิ
กสิณเป็นกรรมฐานสำหรับฝึกจิตด้วยวิธีเพ่งมองและหลับตานึกสลับกัน ทำให้จิตเป็นสมาธิได้ง่ายและรวดเร็ว เพราะจิตจะสนใจอยู่กับกสิณที่เพ่งมอง เมื่อหลับตาลงจะเห็นภาพนิมิตของกสิณนั้นติดตามาด้วย ถ้าฝึกบ่อยๆ นิมิตจะปรากฏเด่นชัดมากยิ่งกว่ากสิณจริงเป็น100ๆ เท่า ผู้เพ่งกสิณจิตจะไม่ฟุ้งซ่านและไม่ง่วงนอนในเวลาทำสมาธิเพราะจิตมีกสิณเป็นตัวยึด
วิธีการเพ่งกสิณ
นั่งห่างจากแผ่นกสิณ 1 เมตรเพ่งมองไป ณ จุดกึ่งกลางแผ่นกสิณชั่วขณะหนึ่งแล้วหลับตาลงนึกภาพกสิณนั้น ถ้าจิตเป็นสมาธิจะเห็นภาพของกสิณผุดขึ้นมาในใจเป็นสีตรงข้ามกับแผ่นกสิณจริง เมื่อภาพนั้นหายไปให้ลืมตาขึ้นมาเพ่งมองใหม่แล้วหลับตาลงนึกภาพกสิณอีกสลับกันไปเช่นนี้ จนกว่าจะเห็นภาพกสิณนั้นเป็นสีเดียวกันกับสีที่เพ่ง จึงหยุดการเพ่งแล้วฝึกเข้าฌานเพื่อทำวิปัสสนาญาณให้เกิดต่อไป
ประโยชน์ของกสิณ
เบรกอารมณ์ตนเองได้โดยอัตโนมัติเมื่อถูกกระทบ(อภิภายตนะ)
ทำให้จิตเร็วต่อการรับรู้และมีความทรงจำดี
มีสมาธินิ่งอยู่กับสิ่งที่ทำได้นานเท่าที่ต้องการ
ทำฌานได้สูงสุดตามหลักพระพุทธศาสนา
พัฒนาความคิดทำให้เกิดปัญญาเฉพาะตัวขึ้นมาได้เอง
วิธีทำกสิณ
วิธีทำกสิณต้องทำเป็นวงกลม ได้ขนาดพอดี มีความละเอียดและข้อกำหนดบางอย่างยุ่งยากพอสมควร ถ้าทำไม่ถูกก็อาจกลายเป็นกสิณมีโทษไป ก่อนทำควรศึกษาให้ดี วัตถุที่ทำเป็นกสิณได้มี 10 ชนิด คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ (ภูตกสิณ 4 ชนิด) สีแดง สีเขียว สีเหลือง สีขาว (วรรณกสิณ 4 ชนิด) แสงสว่าง และอากาศ
ที่มา:http://www.kasina.org
-
ขอบคุณครับพี่ตี๋ด้วยครับ
กสิณก็เป็นบาทแห่งการเจริญสติปัฏฐาน 4 เป็นบาทแห่งวิปัสนาอันจะกระทำให้ปัญญารู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในพระธรรมทั้งหลาย
กสิณในทางพระพุทธศาสนาจะต่างกับกสิณของพระฤาษีครับ เนื่องจากพระพุทธศาสนาใช้หลักการเพ่งจำแล้วน้อมนำมาไว้ในจิต ให้ระลึกรู้ในจิต แต่ถ้าเป็นกสิณนอกพระพุทธศาสนาจะเพ่งอย่างเดียว ไม่น้อมนำสู่ภายในใจ จะเป็นการส่งจิตออกนอก เพ่งจนเกิดวงกลม พระพุทธเจ้าท่านถึงสอนพระสาวกว่า "ห้ามส่งจิตออกนอกเด็ดขาด ให้น้อมอารมณ์เข้าสู่ภายใน" นี่ก็เป็นเหตุที่ทำให้เหล่าพระฤาษีทั้งหลายต่างไม่บรรลุธรรมกันครับ
บุคคลที่ฝีกกสิณเมื่อจิตสงบดีแล้ว เห็น จำ คิด รู้ รวมมาหยุดอยู่จุดเดียวกันความส่ว่างก็จะปรากฏมีลักษณะเป็นดวงกลมใสบริสุทธิ์ มีรัศมีสว่างจ้า แต่นวลตาเป็นอย่างยิ่ง เป็นอัปมาณัง ไม่มีประมาณ เรียกว่าอัปปมาสมาธิ ครับ
แต่บุคคลผู้ฝึกกสิณต้องพึงระวังในฤทธิ์ทั้งหลาย หากติดในวิสัยแห่งฤทธิ์แล้ว จะทำให้เจริญวิปัสนาได้ยากครับ
-
ขอบคุณเฮียตี๋และท่านต่ายมากนะครับ สำหรับความรู้เรื่องกสิน เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการจะศึกษามากครับ :001: