กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => กฎแห่งกรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: ธรรมะรักโข ที่ 07 พ.ย. 2552, 09:41:27

หัวข้อ: เจ้ากรรมนายเวร
เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะรักโข ที่ 07 พ.ย. 2552, 09:41:27
เจ้ากรรมนายเวร


"..เจ้ากรรมนายเวร หมายถึงบาปที่เป็นอกุศลที่เราได้ทำไว้กับคนและสัตว์ในอดีตชาติก็ดี ในชาติปัจจุบันก็ดี อย่างบางคนที่เราฆ่าเขาบ้าง เราทำร้ายเขาบ้าง เขาอาจจะไปเกิดเป็นเทวดาหรือพรหมแล้ว ถ้าเป็นเทวดาเขาไม่สนใจแล้ว แต่ไอ้ตัวบาปที่เราทำไว้ อย่างคนที่ไปขโมยของเขา เจ้าของเขาไม่ติดใจแต่ตำรวจมีหน้าที่ตามไม่ใช่อยากตาม แต่กฎหมายให้ตาม >>
ฉะนั้น กรรมหรือเวรตัวนี้คือกฎหมาย ถ้าหากปฏิบัติในขั้นสุกขวิปัสสโก ก็จะบอกว่าไม่มีตัวตนเพราะไม่เคยเห็น แต่ว่าตั้งแต่ เตวิชโชขึ้นไปเขาเห็น ดังเรื่องที่อาตมาเล่าให้ฟังประกอบเรื่องนี้>>
เมื่อพ.ศ. ๒๕๑๗ คืนหนึ่งอาตมาเจริญพระกรรมฐานเสร็จ ก็อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ขณะที่อุทิศส่วนกุศลก็มายืนกันมากแต่ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวร เป็นคนมาโมทนาบุญ พอเขาโมทนากันเสร็จ ก็มีชายคนหนึ่งคลานเข้ามา ถือขวานเล่มใหญ่ >>
พอเข้ามาใกล้ก็บอกว่า "ผมกับท่านหมดเรื่องกัน" >>
อาตมาก็ถามว่า "หมดเรื่องอะไร" >>
เขาก็บอกว่า "หมดเรื่องที่จะต้องติดตามจองล้างจองผลาญกัน">>
ก็ถามอีกว่า "จองล้างจองผลาญฉันทำไม">>
เขาก็บอกว่า "เปล่าครับ ผมไม่ได้จองล้างจองผลาญ">>
ก็ถามว่า "แล้วเข้ามาทำไม">>
เขาก็เลยเล่าประวัติความเป็นมาให้ฟังว่า "ในอดีตนับเป็นสิบๆ ชาติ ท่านกับผมรบกันมาเรื่อย" เป็นคู่สงครามกัน ตัวเขาเก่งขวานทุกชาติ ส่วนอาตมาเก่งดาบสองมือทุกชาติ ถ้าเวลาให้รบตัวต่อตัว ต้องเอาคู่นี้มารบกัน ถ้าคนอื่นหัวขาด พอถึงเวลากินข้าวก็บอกว่า "พักรบก่อน กินข้าวเสร็จมารบกันใหม่" วันนั้นทั้งวันไม่มีใครเสียท่ากัน >>
อาตมาถามว่า "มันมีเวรกรรมอะไรกันล่ะ">>
เขาบอกว่า "กฎของกรรมเขาถือว่ามี แต่เวลานี้กฎของกรรมสลายตัวแล้ว">>
ก็เลยถามว่า "เวลานี้ไปเกิดที่ไหน">>
เขาก็บอกว่า "ผมเป็นพรหมครับ" >>
ถามว่า "พรหมยังจองกรรมหรือ">>
เขาตอบว่า "ผมไม่ได้จองแต่กฎของกรรมมันจอง เรื่องของกรรมหนักๆ ระหว่างสงครามหมดกันแค่นี้">>
เราอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร เขาจะได้รับหรือไม่ได้รับก็ตาม บุญที่เราทำเป็นผลให้เกิดความสุข ไอ้กรรมต่างๆ ที่เป็นอกุศลที่เราได้ทำไปแล้ว เราไปยับยั้งมันไม่ได้ แต่ทว่าถ้าเราทำกรรมดีให้มีกำลังเหนือบาป บาปต่างๆ ก็จะตามเราไม่ทันเหมือนกัน เรียกได้ว่า เป็นการทำบุญหนีบาป ไม่ใช่ทำบุญล้างบาปทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ที่ไม่ทำความชั่วเลยน่ะไม่มี ดังนั้นถ้าเราจะชดใช้บาปก็คงจะชดใช้กันไม่ไหวมีทางเดียวในกิจของพระพุทธศาสนาคือ หนีบาปด้วยการปฏิบัติดังนี้>>
๑) การคิดถึงคุณพระรัตนตรัยคือ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระอริยสงฆคุณ>>
๒) ทรงศีล ๕ ให้บริสุทธิ์>>
๓) มีพรหมวิหาร ๔ ให้ครบถ้วน>>
๔) มีอิทธิบาท ๔ ทรงตัว>>
๕) มีการภาวนาให้จิตทรงตัว>>
๖) พยายามรวบรวมบารมี ๑๐ ประการให้มีในจิตให้ครบถ้วน>>
๗) พยายามตัดสังโยชน์ ๑๐ ประการให้หมด>>
๘) จรณะ ๑๕ ปฏิบัติให้ครบถ้วน>>
เมื่อมีการทรงตัวดังกล่าวมาแล้วนี้ได้ทั้งหมด ก็เป็นอันว่าไม่ต้องเกิดกันอีกต่อไป นั่นคือตายเมื่อใดก็ไปพระนิพพานอันเป็นแดนที่มีความสุขที่สุด..">>
//จากธรรมะหลวงพ่อฤาษีลิงดำ// ด้วยความปรารถนาดี .. ธรรมะรักโข..36
หัวข้อ: ตอบ: เจ้ากรรมนายเวร
เริ่มหัวข้อโดย: cho presley ที่ 07 พ.ย. 2552, 09:46:23
แวะมาโพสอีกบ่อยๆนะ!
หัวข้อ: ตอบ: เจ้ากรรมนายเวร
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 07 พ.ย. 2552, 10:01:49
ขอบคุณครับสำหรับเนื้อหาดีๆน่ะครับ
หัวข้อ: ตอบ: เจ้ากรรมนายเวร
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 08 พ.ย. 2552, 12:40:24
ขอบคุณสำหรับบทความเรื่องเจ้ากรรมนายเวรครับ.... :002:
หัวข้อ: ตอบ: เจ้ากรรมนายเวร
เริ่มหัวข้อโดย: gottkung ที่ 08 พ.ย. 2552, 02:57:04
ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความดีๆหลายๆบทความ
อ่านแล้วได้ความรู้มากครับ
หัวข้อ: ตอบ: เจ้ากรรมนายเวร
เริ่มหัวข้อโดย: umpawan ที่ 08 พ.ย. 2552, 07:25:30
ขอบคุณมากนะครับ สำหรับบทความดีๆ ความรู้ทั้งนั้นเลยครับ


ขอบคุณอีกครั้งครับ  :054: