กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 20 ส.ค. 2553, 06:58:03

หัวข้อ: รอยทางและรอยธรรม...๑๙ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 20 ส.ค. 2553, 06:58:03
ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
 ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๓
.......รอยทาง......
                      หลังจากทำกิจวัตรของสงฆ์ตามปกติในภาคเช้าแล้ว สั่งงานให้ลูกศิษย์เด็กวัด
ให้เข้าไปในเมือง เพื่อไปร่วมประมูลเรือที่ด่านศุลกากร ไปประมูลเรือหางยาวเพื่อเอามาใช้ในวัด
ซึ่งเป็นเรือหางยาวที่ใช้ในการทำผิดกฏหมายคือเรือที่ใช้ลักลอบขนของหนีภาษีตามแนวริมน้ำโขง
ที่ถูกตำรวจและศุลกากรจับได้  ซึ่งเขาจะเปิดประมูลกันทุกเดือนหลังคดีสิ้นสุด ซึ่งเรือลำที่ทางวัด
จะไปประมูลนั้น ได้ส่งคนไปดูสภาพของเรือมาก่อนแล้ว เป็นเรือที่เขาใช้บรรทุกกระเทียมข้ามโขง
ยาว ๑๒ เมตร กว้าง ๑.๒๐ เมตร บรรทุกน้ำหนักได้ถึง ๓ ตัน เป็นเรือขนาดใหญ่ทำจากไม้ตะเคียน
สภาพเรือยังดีอยู่ ใช้ไม้กระดานเพียง ๓ แผ่น ซึ่งกว้างแผ่นละประมาณ ๘๐ ซ.ม. ยาว ๑๒ เมตร
มาต่อกัน ราคาที่เปิดไว้คือ ๓,๕๐๐ บาท สั่งเด็กที่ไปประมูลให้บอกผู้ร่วมเข้าประมูลและเจ้าหน้าที่
ศุลกากรว่า เรือลำนี้พระอาจารย์ขอเอาไปใช้ในวัด ทุกคนจึงหลบให้ไม่มีใครประมูลแข่ง จึงได้มาใน
ราคาที่เปิดไว้ ซึ่งเรือขนาดนี้และสภาพนี้ ราคาซื้อขายตามปกติอยู่ที่ประมาณ ๑๘,๐๐๐ บาทต่อลำ
ที่ต้องไปประมูลเรือมานั้น ก็เพราะว่าจำเป็นที่จะต้องมีเรือใช้ในวัด ใช้ลากเรือแข่ง เป็นเรือพี่เลี้ยง
และใช้ต้อนรับหมู่คณะที่มาเยี่ยม พาไปนั่งเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งโขง เสร็จจากเรื่องเรือก็ลงไปสั่งงาน
การก่อสร้าง คุมเด็กวัยรุ่นให้ช่วยกันทำงาน ปรับพื้นที่ริมโขงที่จะใช้เป็นจุดจอดเรือ จนเย็นจึงหยุดพัก
เตรียมตัวทำกิจวัตรของสงฆ์ในภาคค่ำต่อไป
......รอยธรรม.....
                     ทบทวนเรื่องการปฏิบัติ ในกรรมฐานแต่ละกอง แต่ละวิธีที่เคยปฏิบัติมา ซึ่งวันนี้ได้
ฟังธรรมะบรรยายของหลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ วัดสนามใน ซึ่งเป็นการปฏิบัติแนวของสติปัฏฐาน ๔
ที่เน้นเรื่องการพิจารณาอิริยาบทของกายและพิจารณารู้ตัวในความเคลื่อนไหวของกายเป็นหลักในการ
เจริญสติภาวนา คือพิจารณาในอิริยาบทบรรพและสัมปชัญญบรรพ ซึ่งเคยได้ศึกษาและปฏิบัติมานานแล้ว
ตั้งแต่สมัยที่หลวงพ่อเทียน ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ได้ทิ้งไปนานแล้ว ซึ่งการปฏิบัติตามแนวทางนี้เหมาะแก่
ผู้ที่เริ่มฝึกหัดเจริญสติเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเพิ่มกำลังของสติและสัมปชัญญะ ทั้งสองอย่างพร้อมกัน
เหมาะสำหรับพวกที่มีสมาธิสั้น ทำให้คิดถึงหัวข้อธรรมะที่เคยได้รู้และปฏิบัติมา ซึ่งเคยเขียนเป็นโศลกธรรมว่า
" ศรัทธามาก  ปัญญาหย่อน ความโลภจะเข้าครอบงำ "
" ปัญญามาก  แต่ศรัทธาหย่อน  ความสงสัยลังเลจะเข้าครอบงำ "
" วิริยะความเพียรกล้า  สมาธิหย่อน  ความฟุ้งซ่านจะเข้าครอบงำ "
" สมาธิกล้า  วิริยะความเพียรหย่อน ความง่วงจะเข้าครอบงำ "
" สติและส้มปชัญญะเป็นตัวเข้าไปปรับอินทรีย์พละให้เสมอกัน "
คิดถึงองค์แห่งคุณธรรม ๓ อันได้แก่..
   ๑.อาตาปี...ความเพียรตั้งใจจริง
   ๒.สติมา....การมีสติระลึกรู้เท่าทันอารมณ์
   ๓.สัมปชาโน...มีความรู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะ
องค์คุณธรรมทั้ง ๓ นี้คือหลักและหัวใจของการปฏิบัติธรรมที่ต้องมีและทำให้มีเสมอกัน ความเจริญในธรรมนั้น
จึงจะบังเกิดขึ้นซึ่งต้องมีและใช้ควบคู่ไปกับองค์แห่งอิทธิบาท ๔ มันจึงจะมีความเจริญก้าวหน้าในธรรม
.....รอยกวี....
                 รู้กาย   รู้ตัว    รู้จิต
                 รู้คิด   รู้พร้อม  รู้ทั่ว
                 รู้ใจ     รู้กาย   รู้ตัว
                 รู้ทั่ว    รู้เท่า    รู้ทัน
                          รู้ธรรม    เห็นธรรม  แล้วทำ
                          น้อมนำ   ธรรมมา   สร้างสรรค์
                          ดูกาย     ดูใจ       ให้ทัน
                          ธรรมนั้น  เป็นจริง    โดยทำ
                ฝึกฝน   เริ่มต้น    ที่จิต
                ฝึกคิด   ฝึกจิต    เช้าค่ำ
                ฝึกไว้    ทำให้    ประจำ
                ฝึกทำ   เพื่อธรรม นำทาง
                          อดทน    ฝึกฝน   ที่จิต
                          ฝึกคิด    อย่างมี  แบบอย่าง
                          ฝึกลด    ฝึกละ   ฝึกวาง
                          ฝึกสร้าง   สติ     สัมมา
               สัมมา    สติ    ริเริ่ม
              ต่อเติม  ธรรมะ  เนื้อหา
              สัมปะ   ชัญญะ  ตามมา
              ปัญญา  คือเห็น เป็นจริง
                         รู้จริง   รู้แจ้ง   รู้ชัด
                        ฝึกหัด โดยเอา  ทุกสิ่ง
                        ฝึกจิต  ฝึกใจ    ให้นิ่ง
                        ทำจริง  เห็นจริง โดยทำ
                          ........................
                    ด้วยความศรัทธา ปรารถนาดีและไมตรีจิต
                            รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๖.๕๘ น. ณ ศาลาน้อย ริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๙ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 20 ส.ค. 2553, 07:34:56
                ฝึกฝน   เริ่มต้น    ที่จิต
                ฝึกคิด   ฝึกจิต    เช้าค่ำ
                ฝึกไว้    ทำให้    ประจำ
                ฝึกทำ   เพื่อธรรม นำทาง


กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณสำหรับคำสอนครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๙ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 20 ส.ค. 2553, 08:35:26
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๙ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 20 ส.ค. 2553, 09:40:27
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ    :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน    :054:

คิดถึงองค์แห่งคุณธรรม ๓ อันได้แก่..
   ๑.อาตาปี...ความเพียรตั้งใจจริง
   ๒.สติมา....การมีสติระลึกรู้เท่าทันอารมณ์
   ๓.สัมปชาโน...มีความรู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะ
องค์คุณธรรมทั้ง ๓ นี้คือหลักและหัวใจของการปฏิบัติธรรมที่ต้องมีและทำให้มีเสมอกัน

กราบขอบพระคุณสำหรับคำสอน ศิษย์ขอน้อมไปปฏิบัติต่อไป  :054:
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๙ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 20 ส.ค. 2553, 11:09:25
ฝึกฝน   เริ่มต้น    ที่จิต
ฝึกคิด   ฝึกจิต    เช้าค่ำ
ฝึกไว้    ทำให้    ประจำ
ฝึกทำ   เพื่อธรรม นำทาง

กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ฝึกจิตเป็นเรื่องที่ดูเหมือนง่ายแต่จริงๆแล้วโดยส่วนตัวคิดว่ายากมากๆ เพราะการฝึกจิตเป็นเรื่องที่รับรู้ได้เฉพาะตัวเท่านั้น คนอื่นทั่วไปไม่สามารถล่วงรู้ได้ บางคนนั่งนิ่งๆ ดูสงบ เรียบร้อย ก็ดูจะเป็นคนดี น่าเชื่อถือ แต่ภายในอาจกำลังคิดเรื่องอกุศลต่างๆนาๆ ทางโลกดูเป็นคนดีแต่ทางธรรมเป็นคนไม่ดี ทุกวันนี้ฝึกจิตก็พบว่าในวันหนึ่งๆผมก็ยังมีความคิดอกุศลอยู่พอสมควร คงต้องใช้เวลาในการฝึกอีกมาก เพราะเป้าหมายในชีวิตคือ เป็นคนดีทั้งทางโลกและทางธรรม