กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 23 ส.ค. 2553, 05:16:59

หัวข้อ: รอยทางและรอยธรรม...๒๒ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 23 ส.ค. 2553, 05:16:59
ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
 ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๓
......รอยทาง......
                        สำหรับวันอาทิตย์ที่ ๒๑ สิงหาที่ผ่านมานั้น มีภาระกิจให้กระทำตลอดวัน
ตั้งแต่หลังจากทำภัตรกิจในภาคเช้าแล้ว มีโยมมานิมนต์ไปงานฌาปนกิจศพ ฉันเพลที่งานศพ
ตอนบ่ายก็นำศพไปวัดเพื่อมาติกาบังสกุล สวดหน้าไฟ เสร็จแล้วก็ไปเจริญพุทธมนต์เย็นที่บ้าน
กว่าจะเสร็จก็ประมาณ ๑๖.๓๐ น.โยมจึงมาส่งที่วัด กลับมาคุมฝีพายซ้อมเรือ ให้กำลังใจเด็กๆ
จนได้เวลา ๑๘.๓๐ น.จึงได้ทำวัตรสวดมนต์เย็น ทำกิจของสงฆ์เสร็จแล้วจึงกลับที่ัพัก มาเจริญจิต
ภาวนาตามสมควรแก่เวลาจึงได้พักผ่อน
......รอยธรรม......
                         ออกไปกิจนิมนต์ต้องเจอกับผู้คนมากมาย จึงต้องคุมจิตคุมใจ ควบคุมอารมณ์
เป็นอย่างยิ่ง เพราะประเพณีงานศพในภาคอีสานนั้น ย่อมมีคนเมาเหล้าเป็นเรื่องธรรมดาของท้องถิ่น
และก็เป็นเรื่องแปลกอีกอย่างหนึ่งของคนก็คือ เมื่อเมาแล้วคิดถึงพระชอบเข้ามาปรับทุกข์ระบายให้
พระฟัง ซึ่งตอนที่ไม่เมานั้นจะไม่กล้าเข้าใกล้พระ เมื่อเมาแล้วจึงคิดถึงพระ เข้ามากราบแทบเท้าพระ
ระบายความทุกข์ให้พระฟัง พระจึงต้องทำใจและต้องอดทนฟัง พร้อมทั้งต้องควบคุมอารมณ์ให้ดีด้วย
ไม่ไปเมากิเลสตามโยม ไปเกิดปฏิฆะขุ่นใจกับโยมที่เมามา ซึ่งสำหรับตัวเรานั้นรับได้และเข้าใจกับคนเมา
เพราะเมื่อก่อนนั้นเราก็เคยดื่มเหล้าเคยเมาและเป็นอย่างนั้นมาก่อน จึงเข้าใจพวกเขาคนเมาเหล่านั้น
ว่าเขาเพียงต้องการที่จะระบายสิ่งที่อัดอั้นในใจของเขาให้พระฟัง ซึ่งถ้าเขาไม่เมาเขาก็จะไม่กล้าเข้าใกล้
ไม่กล้ามาพูดมาระบายกับเรา เพราะเขาเคารพและเกรงกลัวเรา สืบเนื่องจากประวัติเก่าๆที่เราเคยกระทำมา
ทั้งที่เขาได้ยินได้ฟังมาและที่ได้เห็นกับตา ญาติโยมจึงไม่ค่อยกล้าที่จะเข้าใกล้ เวลามีอะไรก็จะต้องผ่านพระ
ลูกศิษย์ที่อยู่ด้วยกันก่อน ไม่กล้าที่จะเข้าหาตรงๆ ซึ่งจริงๆแล้วที่เรานิ่งเฉยไม่ค่อยจะพูดอะไรนั้น เรากำลัง
เจริญสติ ดูกายดูจิตอยู่ สีหน้าที่แสดงออกมาจึงนิ่งเฉย ญาติโยมไม่รู้จึงกลัว ไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะไม่รู้ว่า
ที่เรานิ่งเฉยนั้น เรากำลังคิดอะไร อารมณ์ของเราเป็นอย่างไร มันจึงเป็นการ " นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว "
ซึ่งนำมาใช้ได้ผล คือไม่ค่อยมีใครกล้ามาวุ่นวายกับเรา ทำให้เรามีเวลาที่จะเจริญสติมากขึ้น
......รอยกวี.....
                        เมื่อรู้เขา  รู้เรา  เข้าใจหมด
                      ก็กำหนด  แนวทาง  ที่วางไว้
                      ว่าจะให้    มันเป็น   อย่างเช่นไร
                     กำหนดได้  ถ้าเข้าใจ ในบุคคล
                                    บทกวี    ของหลวงพ่อ   พุทธทาส
                                  ผู้เป็นปราชญ์ กล่าวไว้      ให้น่าสน
                                  เกี่ยวกับความ  เป็นอยู่      ของผู้คน
                                  ทุกแห่งหน   ควรตรอง      และมองดู
                    " เขามีส่วน เลวบ้าง  ช่างหัวเขา
                      จงเลือกเอา  ส่วนดี  ที่มีอยู่
                      เป็นประโยชน์  แก่โลกบ้าง  ยังน่าดู
                      ส่วนที่ชั่ว    อย่าไปรู้  ของเขาเลย "
                                 นี่คือบท   กวี  ที่กล่าวสอน
                                 เป็นบทกลอน ให้คิด  อย่านิ่งเฉย
                                 การมองคน    ไม่ควร  จะละเลย
                                 จงคุ้นเคย     มองคน  ที่ผลงาน
                   องค์รพี   บิดา  แห่งกฏหมาย
                   ท่านกล่าวไว้  เป็นกลอน  สอนลูกหลาน
                   เรื่องกินเหล้า  เมายา      มาเนิ่นนาน
                   ให้รู้การ    รู้ค่า   คำว่าคน
                                  " เอ็งกินเหล้า  เมายา  ไม่ว่าดอก
                                     แต่อย่าออก  นอกทาง  ให้เสียผล
                                    เอ็งอย่ากิน  สินบาท    คาบสินบน
                                    เรามันชน    ชั้นปัญญา  ตุลาการ "
                  อยู่กับโลก   ด้วยธรรม  นำความคิด
                  อยู่กับมิตร   เอาวาจา   มาประสาน
                  อยู่คนเดียว  ระวังจิต    คิดเกินการ
                  จนฟุ้งซ่าน    สับสน    จนทุกข์ใจ
                                  อยู่อย่างไร  ก็ให้  มีสติ
                                  และดำริ    ให้จิต  นั้นผ่องใส
                                  อย่าวุ่นวาย   ตามโลก  ที่เปลี่ยนไป
                                  จงดูกาย    ดูใจ    ให้รู้ทัน
                 โลกเคลื่อนไหว  อย่าหวั่นไหว   ไปตามโลก
                 จะทุกข์โศก    เพราะโลก   นั้นแปรผัน
                 กระแสโลก    เปลี่ยนไป     ทุกคืนวัน
                 แต่เรานั้น      หยุดได้       โดยใช้ธรรม
                                  กระแสธรรม   นำมา  ซึ่งความสุข
                                  ก้าวพ้นทุกข์  พาใจ  ไม่ตกต่ำ
                                  ทำกุศล   ให้ถึงพร้อม  แล้วน้อมนำ
                                  เดินตามธรรม  ขององค์  พระสัมมาฯ....
                                  ...................................
                               เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                                         รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๗.๑๗ น. ณ ศาลาน้อย ริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
 
                   

 
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๒ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 23 ส.ค. 2553, 06:17:45

                   " เขามีส่วน เลวบ้าง  ช่างหัวเขา
                      จงเลือกเอา  ส่วนดี  ที่มีอยู่
                      เป็นประโยชน์  แก่โลกบ้าง  ยังน่าดู
                      ส่วนที่ชั่ว    อย่าไปรู้  ของเขาเลย "

                                   " เอ็งกินเหล้า  เมายา  ไม่ว่าดอก
                                     แต่อย่าออก  นอกทาง  ให้เสียผล
                                    เอ็งอย่ากิน  สินบาท    คาบสินบน
                                    เรามันชน    ชั้นปัญญา  ตุลาการ "


กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณที่ยกคำสอนของครูบาอาจารย์มาเพื่อสอนศิษย์ครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๒ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 23 ส.ค. 2553, 07:01:40
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ       :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางปฏิบบัติต่อไป    :054:
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๒ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 23 ส.ค. 2553, 07:45:16
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๒ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 23 ส.ค. 2553, 09:28:54
โลกเคลื่อนไหว  อย่าหวั่นไหว   ไปตามโลก
 จะทุกข์โศก    เพราะโลก   นั้นแปรผัน
 กระแสโลก    เปลี่ยนไป     ทุกคืนวัน
 แต่เรานั้น      หยุดได้       โดยใช้ธรรม

 กราบนมัสการพระอาจาร์ยครับ กราบขอบพระคุณที่เมตตาสั่งสอนครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๒ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: nsp8428 ที่ 23 ส.ค. 2553, 09:51:05
   อยู่กับโลก   ด้วยธรรม  นำความคิด
   อยู่กับมิตร   เอาวาจา   มาประสาน
   อยู่คนเดียว  ระวังจิต    คิดเกินการ
   จนฟุ้งซ่าน    สับสน    จนทุกข์ใจ
                                  อยู่อย่างไร  ก็ให้  มีสติ
                                  และดำริ    ให้จิต  นั้นผ่องใส
                                  อย่าวุ่นวาย   ตามโลก  ที่เปลี่ยนไป
                                  จงดูกาย    ดูใจ    ให้รู้ทัน


กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ
                       
                                                         ขอบพระคุณพระอาจารย์อย่างสูงค่ะ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๒ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: อ๊อด บางลี่ ที่ 23 ส.ค. 2553, 10:10:36
กราบนมัสการพระคุณเจ้า
                            
         กระผมได้อ่านบทความ รอยทางและรอยธรรม รอยกวี ของพระคุณเจ้าแล้วทำให้กระผมมีสติที่จะแก้ไขต้นเหตุของความทุกข์ที่เกิดให้หมดไป
 จึงขอกราบนมัสการแสดงความขอบพระคุณมา ณ.ที่นี้ขอรับกระผม