กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 14 ก.ย. 2553, 04:43:01

หัวข้อ: รอยทางและรอยธรรม...๑๓ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 14 ก.ย. 2553, 04:43:01
(http://img715.imageshack.us/img715/8452/img0320b.jpg)

ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
 ๑๔ กันยายน ๒๕๕๓
.....รอยทาง.....
                   ค่ำลงมาฝนตกหนัก ลมพัดแรง ทำให้ไฟฟ้าดับตั้งแต่สามทุ่มจนถึงประมาณตีสามกว่าๆ
ตื่นเช้าตามปกติ ไหว้พระสวดมนต์ทำวัตรเช้า นั่งสมาธิเจริญสติภาวนา จนได้เวลาจึงลงไปทำกิจของสงฆ์
ในภาคเช้าตามปกติ ช่วงสายๆเก็บกวาดศาลาที่พัก จัดข้าวของให้เข้าที่ลงตัว ตั้งแต่ตอนสายๆจนกระทั่งเย็น
ใช้เวลาเกือบทั้งวันในการเก็บกวาดจัดศาลาที่พัก ตอนเย็นลงไปทำกิจของสงฆ์ตามปกติ เสร็จแล้วกลับขึ้น
ศาลาที่พัก จำวัตรประมาณสามทุ่มกว่าๆ เพราะว่าร่างกายอ่อนเพลียจากการที่ทำงานมาทั้งวันไม่ได้พักผ่อน
นอนภาวนาดูกายดูจิตจนหลับไปกับอารมณ์กรรมฐาน
.....รอยธรรม.....
                    ทำงานร่างกายเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เจริญสติสัมปชัญญะ ตามแนวของสติปัฏฐาน ๔
ในอิริยาบทบรรพและสัมปชัญญบรรพ คือพิจารณาดูอิริยาบทของกายและพิจารณารู็ตัวในความเคลื่อนไหว
ทำงานไปพิจารณาไปจนไม่ได้สนใจกับเวลาที่ผ่านไป ทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงได้ดูนาฬิกาจึงได้รู้ว่า
เวลาผ่านไปจนถึงห้าโมงเย็นแล้ว จึงลงไปสรงน้ำเตรียมตัวไหว้พระสวดมนต์ทำวัตรเย็น พยายามทรงอารมณ์
กรรมฐานไว้ โดยการมีสติและสัมปชัญญะอยู่กับกาย เวทนา จิต ธรรม อยู่ตลอดเวลา พิจารณาในหัวข้อธรรม
 :059: ถ้าจิตใจเศร้าโศกไม่เบิกบานร่าเริงแล้ว ความเป็นมงคลทั้งหลายก็จะหายไปหมด  แต่ถ้าจิตใจไม่เศร้า
โศก มีแต่ความร่าเริงแจ่มใสเกษมสำราญ ความเป็นมงคลทั้งหลายก็จะปรากฏขึ้น ดั่งคำที่ว่า " จิตดี กายเด่น
จิตด้อย กายดับ " เมื่อจิตใจเป็นกุศลความเป็นมงคลทั้งหลายก็จะเกิดขึ้น
 :059: อย่าลุอำนาจแก่ความโกรธเป็นอันขาด เพราะเมื่อความโกรธนั้นเกิดขึ้นแล้วมันจะมืดมิดปิดบังปัญญา
คิดแต่จะเอาชนะเพียงอย่างเดียว ทั้งที่จริงแล้วมันกำลังแพ้ตัวเอง แพ้ความโกรธของตัวเอง ถ้าระงับความโกรธ
ไม่ได้ ใจก็ไม่เป็นสุข เพราะฉะนั้นอย่าเอาความโกรธมาเป็นอารมณ์มาเป็นตัวของตัวเป็นอันขาด พึงข่มความโกรธ
ด้วยการเจริญสติ การลดทิฏฐิ การให้อภัย แล้วใจของเรานั้นจะสบาย
 :059: ผู้เจริญย่อมไม่เบียดเบียนใคร ไม่อาฆาตใคร ไม่พยาบาทใคร ให้อภัยแก่คนทุกจำพวก เจริญเมตตาจิต
เป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั้งหลาย ไม่เอา้เรื่องเอาราวกับใคร ใจพร้อมที่จะให้อภัยอยู่เสมอ วางใจได้อย่างนี้ ใจเรา
ก็จะมีแต่ความสุข ไม่มีความทุกข์เพราะการให้อภัย
 :059: ให้มีสติระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา มีสัมปชัญญะความรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่เสมออย่าให้เผลอ จิตนิ่งสงบก็รู้อยู่ในความ
นิ่งสงบนั้น เป็นหนึ่งอยู่ รู้ตัวอยู่ ไม่เผลอ ไม่หลง ไม่ส่ง ไม่ส่าย ไม่วุ่น ไม่วาย ไม่ปล่อยใจให้ไปออกนอกลู่นอกทาง
อยู่กับอารมณ์กรรมฐานตลอดเวลา อย่าให้มีช่องว่างที่กิเลสจะแทรกเข้ามาได้ เราก็จะได้พบกับสภาวะธรรมที่แท้จริง
 :059: ต้องรวมจิต ให้ไปอยู่ ณ จุดเดียว จิตนั้นจึงจะมีพลัง ที่เรียกว่าพลังจิต แล้วพิจารณาในพลังจิตนั้นอย่างแยบคาย
เราก็จะได้เห็นธรรม ธรรมอันเกิดจากจิต ที่พิจารณาในอารมณ์สมาธิ เห็นกาย เห็นจิต ก็เห็นธรรม
.....รอยกวี.....
                 ครืน ครืน เสียงฟ้าครวญ
                 ลมพัดหวน ใบไม้ปลิว
                 สายฝน สัมผัสผิว
                 ลอยละลิ่ว หล่นลงมา
                             ฟ้าดำ  ยามค่ำคืน
                             จนดกดื่น จึงเคลื่อนคลา
                             ลมหนาว พัดแผ่วมา
                             ต้องกายา สะท้านกาย
                นั่งฟัง  เสียงสายฝน
                ที่ร่วงหล่น จนลับหาย
                สายฝน  ที่โปรยปราย
                นิมิตหมาย ภาวนา
                            เอาเสียง  เป็นนิมิต
                            โดยใช้จิต จับเสียงมา
                             โสตะ คือวิญญา
                             เอาเสียงมา เป็นอารมณ์
               จับอยู่  จนรู้จิต
               เป็นนิมิต เอาจิตข่ม
               จนเกิด ธรรมารมณ์
               จิตชื่นชม ปิติธรรม
                            ธรรมะ  อยู่รอบกาย
                           จุดมุ่งหมาย คือน้อมนำ
                            เอามา  เพื่อกระทำ
                            ประกอบกรรม คุณความดี
              ความดี  เกิดที่จิต
              เมื่อเราคิด ให้ถูกที่
              คิดดี  และทำดี
              เพียงเท่านี้ ก็สุขใจ...
                                           ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
                                                 รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๑๔ กันยายน ๒๕๕๓ เวลา ๑๖.๔๒ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
                            
                            
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๓ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: pepsi ที่ 14 ก.ย. 2553, 04:52:17
ขอบคุณมากครับ...ในบทความและบทสอนดีๆ
ผมทุกวันนี้ก็ยังปฏิบัติ วิปัสสนา กรรมฐาน..ไปได้แค่ อัปปนาสมาธิ ยังไปไม่ถึงขั้นวิปัสสนาเลย. แย่จังครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๓ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 14 ก.ย. 2553, 05:35:00
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ตอนนี้ก่อนนอนก็ฝึกพิจารณากายจนหลับอยู่ครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๓ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: นายธรรมะ ที่ 14 ก.ย. 2553, 05:42:23
ขอบคุณมากครับ...ในบทความและบทสอนดีๆ
ผมทุกวันนี้ก็ยังปฏิบัติ วิปัสสนา กรรมฐาน..ไปได้แค่ อัปปนาสมาธิ ยังไปไม่ถึงขั้นวิปัสสนาเลย. แย่จังครับ

อย่ากังวลครับ คนเราต้องเริ่มจาก 1 ทุกคนแหละครับ ขอเป็นกำลังใจครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๓ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 14 ก.ย. 2553, 06:34:55
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์จะตั้งใจปฏิบัติต่อไป ตามแนวทางของพระอาจารย์สอนครับ กราบขอบพระคุณที่เมตตาเสมอมา  :054:

หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๓ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 14 ก.ย. 2553, 08:11:48
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณมากครับสำหรับบทความดีๆครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๓ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: nsp8428 ที่ 14 ก.ย. 2553, 08:27:20
[ ความดี  เกิดที่จิต
              เมื่อเราคิด ให้ถูกที่
              คิดดี  และทำดี
              เพียงเท่านี้ ก็สุขใจ...
                                     

                  กราบนมัสการพระอาจารย์และกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

                  ทุกวันนี้ก็สวดมนต์ทุกวัน แต่ยังฝึกนั่งสมาธิได้ไม่นานเลยค่ะ

                  จะพยายามฝึกฝนต่อไปค่ะ                           /color]
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๓ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 14 ก.ย. 2553, 08:30:20
    อย่าลุอำนาจแก่ความโกรธเป็นอันขาด เพราะเมื่อความโกรธนั้นเกิดขึ้นแล้วมันจะมืดมิดปิดบังปัญญา
คิดแต่จะเอาชนะเพียงอย่างเดียว ทั้งที่จริงแล้วมันกำลังแพ้ตัวเอง แพ้ความโกรธของตัวเอง ถ้าระงับความโกรธ
ไม่ได้ ใจก็ไม่เป็นสุข เพราะฉะนั้นอย่าเอาความโกรธมาเป็นอารมณ์มาเป็นตัวของตัวเป็นอันขาด พึงข่มความโกรธ
ด้วยการเจริญสติ การลดทิฏฐิ การให้อภัย แล้วใจของเรานั้นจะสบาย


กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณที่เมตตาสอนครับ ศิษย์จะพยามครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๓ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: nsp8428 ที่ 14 ก.ย. 2553, 08:38:27
กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ

ขออนุญาติcopyภาพอีกนะคะ

มีเรื่องรบกวนสอบถามพระอาจารย์ค่ะ

คืออยากทราบว่าเวลาสวดมนต์จากหนังสื่อสวดมนต์บางเล่มที่พิมพ์คำสวดไม่เหมือนกัน

แล้วจะมีผลอะไรมั้ยคะ คือบางคำออกเสียงไม่เหมือนกันค่ะ

รบกวนพระอาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ

                                   กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๓ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: nsp8428 ที่ 14 ก.ย. 2553, 09:07:56
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์เป็นอย่างสูงอีกครั้งนะคะที่ชี้แนะ

                                                                                                                       
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๓ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: หลังฝน.. ที่ 15 ก.ย. 2553, 12:54:33
กราบนมัสการพระอาจารย์ ครับผม

วันนี้พึ่งได้เข้ามาอ่านครับ บทความเตื่อนสติและให้ข้อคิดเสมอมาเลยครับผม มหาสารคามฝนตกหนักเหมือนกันเลยครับน้ำท่วมหนักเลย

กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่สละเวลามาเผยแพร่บทความข้อคิดดีๆให้แก่ลูกศิษย์ทั้งหลายได้อ่านและได้คิดครับทั้งที่ทำงานเหนื่อยทั้งวันเลย

กราบขอบพระคุณครับ  :054: :054: :054: