กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: nsp8428 ที่ 03 ต.ค. 2553, 02:26:37

หัวข้อ: เกิดมาแล้วควรทำอะไร ?
เริ่มหัวข้อโดย: nsp8428 ที่ 03 ต.ค. 2553, 02:26:37

          คนเรานั้นเกิดมาแล้วก็โตวันโตคืน แก่วันแก่คืน อายุปีหนึ่ง สองปี สามปี เรื่อยๆไป ไม่นานเท่าไหร่ก็ถึงสิบปี ยี่สิบ
เป็นหนุ่ม เป็นสาว ร่างกายจิตใจเติบโตเจริญในระยะนี้ จิตใจท่องเที่ยวไปกับอารมณ์ทั้งหลายเต็มที่ บางทีก็ดีใจ บางทีก็
เสียใจ บางทีก็เฉยเมย แต่โลกนี้ไม่เคยทำให้ใครดีใจโดยส่วนเดียว ในทางตรงกันข้ามก็ไม่เคยทำให้ใึครเสียใจ โดยส่่วน
เดียวเหมือนกัน ทั้งก็ไม่เคยทำให้ใครเฉยเมยเสียทุกสิ่งทุกอย่าง เว้นแต่ท่านผู้มีจิตสูงพ้นจากโลก พระพุทธเจ้าจึงได้
ตรัสไว้ว่า คนนี้มีที่่่ท่องเที่ยวไปของใจ ๑๘ อย่างคือ เรื่องรูปที่ตามองเห็นอยู่ เสียงที่หูได้ิยินอยู่ กลิ่นที่จมูกสูดดมอยู่ รสที่
ลิ้นลิ้มอยู่ สิ่งถูกต้องที่กายถูกต้องอยู่กับเรื่องรูปเสียงเป็่นต้น เหล่านี้ได้ประสบมาแล้วที่ใจเก็บมาคิด เรื่องเหล่านี้รวมเป็น ๖
บางอย่างเย้ายวนให้ดีใจ บางอย่างบดบีบให้เีสียใจ บางอย่างกลับให้เฉยเมย แบ่งออกได้เป็น ๓ ชนิด ดังนี้ จึงรวมเป็น ๑๘
เรียกว่า "มโนปวิจารที่ท่องเที่ยวไปของใจท ๑๘"

          คนหนุ่มสาวสมมุติว่าอายุ ๑๘ ปี กำลังอยู่ในวัยที่มีจิตใจกำลังท่องเที่ยวของใจทั้ง ๑๘ นี้เต็มที่ ถึงที่ดีใจ ก็ดีใจ
เหมือนอย่างว่าน่ารักน่ายินดีทั้งหมด ถึงที่เสียใจ ก็เสียใจเหมือนอย่างว่าทุกอย่างน่าเกลียดน่าชังไปทั้งนั้น ถึงที่เฉยเมย
ก็เฉยเมยไม่สนใจ ด้วยจิตใจกำลังตื่นตัวในเรื่องทั้งหลาย ถ้าขาดสติปัญญารักษาตน รักษาใจอยู่อย่างเพียงพอ ก็น่ากลัว
อันตราย เพราะจะเห็นเป็นจริงจังไปกับเรื่องที่ไม่จริงจังเหล่านั้น แต่ถ้ามีสติปัญญาเพียงพอ ก็จะรักษาใจให้สงบ รักษาตน
ให้สวัสดีได้ ไม่ใช่จำเพาะคนหนุ่มสาวเท่านั้น ถึงคนปูนอื่นทุกปูนอายุก็ต้องพบกับเรื่องที่น่าดีใจเสียใจและที่ทำให้เฉยเมย
เหล่านั้นและจำต้องมีสติปัีญญาเป็นเกราะป้องกันเหมือนกัน

          พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า "ไม่ควรเผลอปัญญาควรตามรักษาสัจจะ ควรพอกพูนการสละ ควรศึกษาสันติ" เพราะถ้า
ไม่เผลอปัญญา พร้อมทั้งสติหมั่นคิดพิจารณาว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง จะรู้ได้ว่าอะไรเป็นจริงที่ควรรักษาไว้ อะไรที่ไม่จริง
เป็นอสัตย์อธรรมก็สละออกไปให้หมดไม่ให้เข้ามาสิงสถิตอยู่ในจิตใจ ดังนี้จึงจะได้สันติ คือ ความสงบของใจ

          คนที่มีจิตใจเร่าร้อนอยู่ด้วย โลภ โกรธ หลง ไม่สงบ เพราะว่ามีผีสิงอยู่ในใจ คือความผูกพันอยู่กับสิ่งอสัตย์อธรรม
ทั้งปวง บิดผัีนครอบงำจิตใจให้วิปริต เหมือนอย่างคนถูกผีสิง ส่วนคนที่มีจิตใจสงบเพราะไม่ยอมให้ ผีอสัตย์สถิตย์อธรรมสิงใจ
ทำการสละออกไปให้เหลือแต่ของจริงแท้เป็นสัตย์เป็นธรรม และรักษาไว้ ด้วยปัญญาที่เลือกเฟ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่เผลอปััญญา












     ขอบคุณที่มาจาก หนังสือชีวิตลิขิตได้ั พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
หัวข้อ: ตอบ: เกิดมาแล้วควรทำอะไร ?
เริ่มหัวข้อโดย: nsp8428 ที่ 03 ต.ค. 2553, 03:21:19
ขออภัยทุกท่านด้วยนะคะ ที่โพสต์กระทู้เข้ามาผิดหัวข้อ ขออภัยด้วยค่ะ

                                                                   ขอบคุณค่ะ   
หัวข้อ: ตอบ: เกิดมาแล้วควรทำอะไร ?
เริ่มหัวข้อโดย: jokid2010 ที่ 03 ต.ค. 2553, 10:36:23
ขอบคุณสําหรับเเง่คิดดีดีคับ
หัวข้อ: ตอบ: เกิดมาแล้วควรทำอะไร ?
เริ่มหัวข้อโดย: vithya ที่ 04 ต.ค. 2553, 09:23:09
แต่โลกนี้ไม่เคยทำให้ใครดีใจโดยส่วนเดียว ในทางตรงกันข้ามก็ไม่เคยทำให้ใึครเสียใจ โดยส่่วนเดียวเหมือนกัน

          จริงครับในโลกนี้ต้งมีสิ่งที่ตรงข้ามกันเสมอ