กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 10 ต.ค. 2553, 10:17:59

หัวข้อ: รอยทางและรอยธรรม...๙ ต.ค. ๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 10 ต.ค. 2553, 10:17:59
(http://img176.imageshack.us/img176/1318/83885490.jpg)

ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
 ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๓
.....รอยทาง.....
             ตื่นเช้าทำกิจวัตรของสงฆ์ในภาคเช้าตามปกติบนศาลาที่พัก
ตอนสายๆลงไปช่วยพระทาสีเรือหางยาวที่ซ่อมใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ทาสีเรือเสร็จประมาณเที่ยง มีญาติโยมจากขอนแก่นมาขอให้ช่วยเหลือ
ขอคำปรึกษา ต้อนรับและให้คำแนะนำปรึกษาพร้อมทั้งทำพิธีให้ญาติโยม
ประมาณเวลา ๑๖.๐๐ น.โยมที่มาจากขอนแก่นจึงลากลับ ลงไปตรวจงาน
มุ้งลวดที่ให้ช่างมาติดที่กุฏิรับรอง กลับที่พักมาไหว้พระสวดมนต์ทำวัตรเย็น
นังสมาธิ เดินจงกรม ฟังธรรม จนถึงเที่ยงคืนจึงเข้าจำวัตรพักผ่อน นอนทำ
กรรมฐานดูกายจนหลับไป
.....รอยธรรม....
                        การฝึกให้ใจของเราอยู่กับเนื้อกับตัวนั้น เราต้องหมั่นดูกาย
ของเราให้เป็นนิสัย ให้เป็นความเคยชิน เรียกว่าการเอาจิตมาคุมกาย อยู่กับกาย
ฝึกให้จิตเป็นสมาธิอยู่กับกาย การฝึกกรรมฐานวิธีนี้ ทำให้เราสามารถที่จะหลบ
อารมณ์ความรู้สึกกระทบทั้งหลายได้ โดยเอาสติและจิตมาอยู่ในกาย ย้ายอารมณ์
การดูร่างกายของตัวเราเองนั้น จะเป็นการเอาจิตไปฝอกกาย หลับตาแล้วระลึกรูปร่าง
หน้าตาของตัวเราเอง จนรูปของตัวเรานั้นเห็นเด่นชัดด้วยตาใน มองต่อไปแยกกายเนื้อ
ออกไปจนเหลือเพียงโครงกระดูก เพ่งดูโครงกระดูกนั้นจนเห็นกระดูกนั้นขาวใสเป็นแก้ว
พระกรรมฐานที่ปฏิบัติในแนวนี้ทุกรูป เมื่อมรณะภาพไป ร่างกายทั้งหลายทุกส่วนนั้น
จะกลายเป็นพระธาตุ เพราะร่างกายนั้นถูกฝอกด้วยจิตที่มีพลังของสมาธิจนสะอาด
บริสุทธิ์ จึกกลายเป็นผลึกแก้วใส อย่างที่่เคยได้เห็นกันมา ว่ากระดูกและเถ้าถ่าน
ของครูบาอาจารย์พระอริยเจ้าทั้งหลายได้กลายเป็นพระธาตุ แต่ก็มีกระดูกของพระอริยสงฆ์
บางท่าน ที่กระดูกและเถ้าถ่านไม่ได้กลายเป็นพระธาตุ เพราะท่านไม่ได้มาตามแนวของกายคตานุสติ
ท่านเพ่งดูที่ิจิตใช้จิตฝอกจิต จนถึงความวิมุติ หลุดพ้น กระดูกของท่านจึงไม่ได้เป็นพระธาตุ
ฉะนั้นเราอย่ารีบด่วนสรุปว่าครูบาอาจารย์ที่กระดูกไม่ได้เป็นพระธาตุนั้น ว่าไม่ได้เป็นพระอริยสงฆ์
ซึ่งจะทำให้เป็นการจาบจ้วงหลบหลู่ พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นวิบากกรรมแก่ตนเอง การเป็นพระอริยะนั้น
ผู้ที่สามารถจะชี้ชัดได้นั้นมีเพียงพระพุทธเจ้าเพียงผู้เดียว ที่คำตรัสของท่านเป็นหนึ่งเสมอ จึงขอฝากไว้ให้เป็น
ข้อคิดสะกิดเตือนใจแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อจะได้ไม่สร้างกรรมจาบจ้วงลบหลู่พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งหลาย
และเราต้องแยกกันให้ได้ระหว่างพระอภิญญากับพระอริยะ ซึ่งบางครั้งพระผู้มีอภิญญาก็ไม่ได้เป็นพระอริยะ
และบางครั้งพระอริยะก็ไม่มีอภิญญา  เพราะอภิญญานั้นมันเป็นเรื่องฤทธิ์ ส่วนความเป็นอริยะนั้นคือการหมดไป
ของกิเลสทั้งหลาย...
.....รอยกวี.....
                   ท้องฟ้า    เมื่อหลังฝน
                 ฟ้าเบื้องบน  นั้นแจ่มใส
                 เมฆดำ       นั้นหายไป
              เปลี่ยนฟ้าใหม่ ให้งามตา
                                เหมือนคน   ที่ทนทุกข์
                               ได้พบสุข     ที่เฝ้าหา
                                ทุกข์จาง    ทุกข์ร้างลา
                                ความสุขมา  ก็ดีใจ
                                                ใจดี   ส่งกายเด่น
                                        อย่างที่เห็น  ความสดใส
                                        ราศรี          ดีทันใด
                                       เพราะว่าใจ   นั้นมันดี
                                                       ใจทุกข์   เพราะยึดถือ
                                                      สิ่งนั้นคือ  ทุกข์วิถี
                                                      ทุกข์มาก  เพราะอยากมี
                                                      ทุกข์อีกที เพราะเสียไป
                                                                   ตัวกู     และของกู
                                                                ต้องเรียนรู้ และแก้ไข
                                                                เรียนรู้      อยู่ที่ใจ
                                                                เรียนรู้ไป  ในตัวกู
                                                                             ตัวกู      คืออัตตา
                                                                          ต้องศึกษา  และเรียนรู้
                                                                          เข้าใจ       ในตัวกู
                                                                         เราก็อยู่      สุขสบาย...
                                 ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
                                     รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๐.๑๘ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
                                                   
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๙ ต.ค. ๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: pepsi ที่ 10 ต.ค. 2553, 10:24:53
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์ครับ
ได้เข้ามาอ่านแล้วจิตใจสงบดี และได้ความรู้ด้วยครับ
กราบขอบพระคุณครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๙ ต.ค. ๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: หลังฝน.. ที่ 10 ต.ค. 2553, 11:17:03
กราบนมัสการย์พระอาจารย์ครับ
เมื่อวานอาร์ตได้เข้าไปเล่นกับลุงต้อมาครับพอดีอาร์ตปิดเทอมแล้ว วันจันทร์นี้มีโอกาสว่าจะขับรถไปกราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
แต่ยังไม่เคยไปเลยถามทางกับลุงต้อ อิอิ พรุ่งนี้หวังว่าอาร์ตคงไปถูกนะคับขอให้หลวงพ่อคุ้มครองด้วยนะครับ  :001:

กราบขอบพระคุณธรรมคำสั่งสอนที่มีแก่ศิษย์เสมอมาคับ :054: :054: :054:
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๙ ต.ค. ๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 10 ต.ค. 2553, 11:19:52
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมนำไปปฏิบัติต่อไป  :054:
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๙ ต.ค. ๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รันตี ที่ 10 ต.ค. 2553, 11:50:46
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๙ ต.ค. ๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 10 ต.ค. 2553, 12:27:03
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณมากครับสำหรับคำสอน
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๙ ต.ค. ๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: nsp8428 ที่ 10 ต.ค. 2553, 04:25:24
กราบนมัสการพระอาจารย์ และกราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๙ ต.ค. ๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 10 ต.ค. 2553, 05:44:20
เหมือนคน   ที่ทนทุกข์
ได้พบสุข     ที่เฝ้าหา
ทุกข์จาง    ทุกข์ร้างลา
ความสุขมา  ก็ดีใจ

กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ชีวิตไม่ทุกข์ ก็สุขแล้วครับ หลายคนได้ยินประโยคนี้จากผมก็ค่อนข้างงงว่าชีวิตมันง่ายขนาดนี้เหรอ แต่ประโยคนี้ออกมาจากชีวิตจริงของผม กว่าผมจะหลุดจากทุกข์มาได้ก็แทบแย่ ตอนนี้ไม่ทุกข์ผมก็สุขแล้วครับ  
ปล.ถ้าชีวิตไม่พบแสงสว่างแห่งธรรม ป่านนี้ยังไม่รู้ว่าชึวืตจะเป็นอย่างไร คงจมอยู่กับความทุกข์และแก้ปัญหาไม่ถูกทางเป็นแน่ครับ