กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) => ข้อความที่เริ่มโดย: W_2010 ที่ 29 ต.ค. 2553, 08:25:50
-
ผมเห็นข่าวก็เยอะมากที่นักเรียนตีกันซิ่งรถกันแล้วก็โดนตำรวจจับ
พอโดนถอดเสื้อออกเห็นเลย แต่ละคนสักมาทั้งนั้น
แล้วทำแบบนี้ของมันไม่เสื่อมเหรอครับเเล้วเรา
จะทำยังไงกับเด็กพวกนั้นดี
-
ผู้ปกครองของเด็กๆที่มาทำอย่างนั้นยังทำอะไรไม่ได้เลยหรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผมว่าปล่อยไปตามบุญตามกรรมของพวกเขาเถอะครับ
อีกอย่างหนึ่งพวกที่สักก็ไม่ได้มีทั้งหมดแถมมีลายสักกราฟิก สำนักไหนบ้างก็ไม่ทราบ ปล่อยๆเขาไปเถอะครับ เอามาคิดปวดหัวเปล่าๆครับ
ขอบคุณครับ
-
ส่วนตัวผม
มะก่อนผมขอตีกันซิ่งรถกันไม่ใช่น้อย
เเต่โตเป็นผู้ใหญ่ก็คิดได้เอง ส่วนตอนนี้ก็เลิกตีกันไปนานเเล้ว
โดยมีธรรมมะเป็นที่ตั้งครับ
:054: :054: :054:
-
ช่างเค้าเถอะ เค้าเลือกทางของเค้าเอง เด็กๆพวกนี้พอโตขิ้นจนพอจะบรรลุนิติภาวะแล้ว
ก็จะเข้าใจอะไรหลายๆอย่างโดนธรรมชาติของเค้าเอง อย่าไปซีเรียด :069:
เอาเป็นว่า ทางใครทางมัน บ้านใครบ้านมัน แต่บ้านกำนันอย่าไป!!(เจ้าที่แรง :005: )
:114: :114: :114:
-
ขออณุญาติขอรับ ผมคิดเห็น เหมือนบทความด้านล่างนี้ ขอรับ ลองอ่านดูนะ เผื่อบางท่านเห็นชอบกับบทความนี้
เพียงแค่กดขอบคุณ ก็ยืนยันได้ว่า บทความนี้ ตรงกับความคิด เราๆท่านๆหลายๆคน โดยมิต้องบรรยายเอง ให้มากความ
(http://img529.imageshack.us/img529/8272/newtvrate05.png)
คำเตือน - บทความนี้ เป็นบทความที่เหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นบทความที่อาจมีเนื้อหา ที่ไม่เหมาะสมด้านพฤติกรรม ความรุนแรง เพศ และการใช้ภาษา ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ จึงไม่ควรอ่านบทความประเภทนี้ตามลำพัง
(http://img253.imageshack.us/img253/6007/84027969.jpg)
ปัญหา “เด็กนักเรียน”ยกพวกตีกัน - ซิ่งรถกัน ?
เรื่อง ปัญหา เด็กวัยรุ่นและเยาวชน..กับ การสร้างความเดือดร้อนให้กับ ประชาชนที่ใช้ “ถนนสาธารณะ” ด้วยการเอารถจักรยานยนต์ หรือ มอเตอร์ไซด์ หรือรถเก๋ง มาใช้ถนนหลวงเป็น “สนามประลองการแข่งรถ” ยามค่ำคืนหรือกลางดึก นี่ก็เป็นอีกปัญหาที่เรื้อรังมาแรมทศวรรษหรือเป็น 10 ปี ในกรุงเทพฯ…ไม่เคยมีการแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด.. ตายกันมาก็ไม่รู้จักเท่าไหร่ ประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องเดือดร้อน พิการ เสียชีวิตและเสียหายทางทรัพย์สิน จากบรรดาเด็กวัยรุ่นกับพ่อแม่เฮงซวยที่ งก ๆ หาเงินซื้อรถมาให้ลูกระยำสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้กับสังคม
มาตรการ “จัดการ”แบบให้มันเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ชนิดเอาให้ “หนัก” ไม่เคยบังเกิด
แบบว่า ต้องรอให้มันเกิดไปเอากับ ลูกผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ หรือลูก ๆ หลาน ๆสมาชิกของบรรดาผู้มี “สถานะพิเศษ”เสียก่อน..ถึงตอนนั้นถึงจะได้เวลาล้างบางกันหรืออย่างไรก็ไม่ รู้
ขนาด ข้าง โรงกรองน้ำสามเสน ติดวังสวนจิตร พวกมันก็แข่งกันแล้วดึก ๆ ทุกวันศุกร์เสาร์ มันเกรงใจใครหน้าไหนเสียที่ไหน แค่ไม่ถึง 100 เมตร จากเขตพระราชฐาน ….
แล้วก็มาถึง นักเรียนตีกัน…
มีมาตั้งแต่ สมัย สนจ. เรียนมัธยมอยู่วัดมกุฏกษัตริย์เมื่อสี่สิบปีก่อน..ฮา เมื่อก่อน สันติราษฏร์ตีกับอำนวยศิลป์ ไพศาลศิลป์ตีกับเฉลิมศาสตร์ เฉลิมศาสตร์ตีกับวัดมกุฏ ช่างกลปทุมวันกับก่อสร้างอุเทนฯ
ไทยสุริยะตีกับ กนก … ไอ้นี่เป็นกันมาเนิ่นนาน
ไม่รู้ว่า คนรุ่นโคตรพ่อโคตรแม่ใครและรุ่นไหนมันสอน “เด็กไทย”ให้รัก “สถาบัน”แบบงี่เง่า โง่งมและสิ้นคิดกันได้ขนาดนั้น
เพราะ มาถึงวันนี้ มันก็ยกยกพวกตีกันอยู่เหมือนเคย แต่ “หนักหนา”กว่า ตรงอาวุธที่ใช้ ระดับความรุนแรงที่เล่นกันถึง “ตาย” แล้วไปดูเถิด ตำรวจจับได้มา ไม่มี “หน้าสลด” เหมือนสำนึกผิดกันแม้แต่รายเดียว ดูเหมือนเต็มใจที่จะทำกันทุกคนไป
ล่าสุด เด็กอายุ 9 ขวบโหนรถเมล์ไปโรงเรียน รับลูกกระสุนไปแทน..พ่อแม่เลี้ยงมาเกือบตาย
ส่วนอีกสามราย ลูกแม่รำเพย โดนแทงด้วยมีด อาการสาหัสอยู่ในไอซียู..
นายกฯ รมต.ศึกษา ผู้ว่าฯกทม. ระส่ำกันไปหมด….
เชื่อเถิดว่า สักพักเรื่องก็จะเงียบ รอให้เกิดเรื่องซ้ำรอยแบบเดิมกันใหม่…
เอากรณี ช่างกลปทุมวันกับก่อสร้างอุเทน ก็ได้….
ถึงวันนี้ ปัญหามันได้รับการจัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเสียที่ไหน
อย่า มาถาม สนจ. นะว่า แล้วจะต้องแก้อย่างไร… บก.เขามี “แผน”นำเสนออยู่แล้ว ใครสนใจลองไปหาอ่านกันใน นสพ.ไทยโพสต์..คอลัมน์เปลวสีเงินดูเอาเอง
ที่มา - สนานจิตต์ บางสพาน บล็อกหนึ่งของเว็บ บล็อกเจ้าพระยา
“กมฺมุนา วตฺตตีโลโก....สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย อลังการงานสร้างไปหน่อยครับ กลัวว่าจะมิได้อรรถรส แต่มิได้มีเจตนาทำเกินหน้าเกินตาท่านใด
ลงนาม โยมเพชร
-
สักหรือไม่สัก วัยรุ่นก็มีเรื่องอย่างนี้เป็นธรรมชาติ อยากแก้ตรงนี้จริงจังต้องลงทุนเป็นระบบ สร้างกิจกรรมอื่นที่เป็นด้านบวกจูงใจให้ไปทำ เด็กที่รู้จักคุณค่าของตัวเอง เป็นนักกีฬาตัวแทนสถาบัน เป็นนักดนตรี เป็นนักกิจกรรมมีการคบหากว้างขวาง จัดงานร่วมมือกับสถาบันอื่น เขาจะไม่ลดตัวไปทำเลวให้เพื่อนๆ นับถือว่าเป็นคนเก่งหรอก
เรามีสถาบันการศึกษา มีเด็กวัยรุ่นเป็นพันมาเจอกันทุกวัน ปลูกฝังให้รักสามัคคี แต่หมดเวลาเรียนอาจารย์ก็เลิกรับผิดชอบ นักศึกษาจะพากันไปทำอะไรแล้วแต่ สมัยผมเรียนปวช.มีทั้งรอบเช้ารอบบ่าย ทั้งวิทยาเขตมีสนามบาสกับสนามบอลอย่างละสนามเดียว เลิกเรียนก็กินเหล้า พอเมาก็มีเรื่อง ลงโทษไปจะได้อะไร ครบปีก็มีนักรบหน้าใหม่เข้ามาอีกเป็นพันคนแล้ว
อยากให้เด็กเลิกเด่นทางร้าย ต้องมีสนามให้เขาแสดงออกทางดี และมีมากพอสำหรับทุกคนครับ
-
เมื่อหลายเดือนก่อนผมก็ซิ่งครับ ตอนนี้เลิกเด็ดขาด
ไปมากับเพื่อน ชอบไปดูรถเทสกันแถวๆเส้นตัดใหม่เกษตร-นวมินทร์
มีวันนึงที่ข่าวออก ว่าปิดกล่องกัน วันนั้นผมแปลกใจมาก ผมนัดกับเพื่อนว่าต้องไปให้ได้ นั่งอยู่บ้านรอเพื่อน
แล้วอะไรดลใจไม่รู้ อยู่ดีๆ ง่วงนอนขึ้นมา ขนาดเวลานั้น ยัง 4 ทุ่มกว่า ๆ ทำให้ผมนอนหลับไป
พอตอนเช้ามาดูข่าว หายใจโล่งเลย ดีนะเราไม่ไป แต่เื่พื่อนเราไป ตอนนี้ยังอยู่บ้านเมตตาอยู่เลยครับ
นับแต่นั้นมาผมไม่คิดหันกลับไปทางเดิมอีกแล้วครับ
รู้แล้วว่าอะไรไม่ควรอะไรไม่ควร แต่ก่อนก็ชอบยกพวกตีกับโรงเีรียนอื่น
ไปเยือนถิ่นเขา เขามาเยือนเราบ้าง ตีกันหัวแตกเลือดกระเด็ดมาโดนผมเลย ภาพยังติดตาอยู่เลยครับ
แล้วก็โดนตำรวจรวบ เขาให้ถอดเสื้อ ถอดออกมาลายสักย์ยันต์ต่างๆเต็มตัวไปหมด แล้วเขาพาไปสถานีตำรวจ แล้วก็แจ้งคดีแล้วให้พ่อแม่มารับทราบและประกันตัวออกไป
ผมไม่คิดกลับไปเดินทางนั้นแล้วครับ คนเราทำชั่ว ย่อมกับตัวเป็นคนดีได้เสมอ ขอแค่สังคมให้การยอมรับ
ปัญหาเด็กตีกัน เด็กติดเกมส์ ติดยา แข่งรถซิ่งผมว่ามาจากสถาบันหลักเลยคือสถาบันครอบครัว ต้องดูแลมากกว่านี้ครับ
-
รู้สึกเฉยๆครับกับเรื่องแบบนี้ มีของดีอยู่แล้วไม่รู้จักรักษาก็ช่างพวกเขาเถอะครับ
สมัยเรียนผมไม่มีวัตถุมงคลซักอย่างติดตัว เรื่องรอยสักไม่ต้องห่วงไม่มี(ไม่มีรอยสักจนทุกวันนี้)
เรื่องตีรันฟันแทงก็พอสมควร สิบกว่าคนมีดไม้มีทุกคน ผมคนเดียว ไม่มีกระทั่งรอยขีดข่วน มีเรื่องมีราวทุกครั้งก็ไม่มีขนาดเลือกตกยางออก ทุกครั้งใช้ สติตลอด สู้ได้ค่อยสู้ สู้ไม่ไหวก็อาราธนาหลวงพ่อโกย
เรื่องรถก็ขับเร็วแต่ไม่ถึงกับขนาดแข่งกัน เพราะไม่มีเงินแต่งรถ เรื่องอุบัติเหตุก็มีบ้างส่วนใหญ่เล็กน้อย มีรุนแรงบ้าง รถยนต์ฝากระโปรงงอเลย แต่ร่างกายไม่เป็นไร มีเจ็บหนักสุด 2 ปีก่อน มอไซค์ชนหมาล้ม เป็นแผลที่ข้อศอก
-
ครูบาอาจารย์ท่านก็สอนตลอดว่าสักเพื่อป้องกันตัวไม่ใช่สักเพื่อเป็นอันตพาล
ผมก็วัยรุ่นหนึ่งที่สักเต็มหลังแต่ผมเป็นคนที่ไม่ชอบมีเรื่องกะใครเหลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงครับมันไม่มีผลดีกับเราหรอก
ผมเป็นนักมวยชอบการต่อสู้บนเวทีมากกว่า สู้กันอย่างมีกติกาดีกว่ามาเจ็บตัวเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องดีไม่ดีเดือดร้อนถึงโรงถึงศาล
อย่าใช้ชีวิตแบบประมาทดีกว่าครับ
-
ผมว่าเป็นนิสัยของแต่ละบุคคลไม่เกี่ยวกับลอยสักหลอกครับ
-
ก็จุดประเด็นกันไป เพราะไม่มีอะไรจะจุดกันแล้วหรือว่างจัดมิทราบ
พ่อแม่ผู้ปกครองยังเอาไม่อยู่ แล้วจะก็หาเรื่องโยงเรื่องเหมากันไปเรื่อยลูกบ้านใครก็ดูกันไป วัฏจักรกรรมนะครับผมว่า
-
หลวงพ่อต้อยได้เคยสั่งสอนผมว่า...
"ของ"(ยันต์ที่สัก) มันไม่เสื่อมหรอก มีแต่คนน่ะที่เสื่อม
พอคนเสื่อมแล้ว "ของ"ที่มีก็คุ้มครองไม่ได้ (กราบขอบพระคุณที่สั่งสอน)
ส่วนตัวแล้วคิดว่า ถ้าเราทำอะไร ก็จะได้ผลอย่างนั้น
-
สิ่งที่สอนคนเราไม่ได้..คือสามัญสำนัก
...เค้าถึงบอกไงคะ ว่าไม่สักกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า18
เพราะนึกคิดสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่ควรกันยังไม่ได้
คนที่นึกคิดได้ก็แล้วไป...
แต่ที่นึกคิดไม่ได้มันก็จะเป็นแบบในสิ่งที่เราเห็นกันนั่นแหล่ะค่ะ
หลงเชื่อในสิ่งที่ผิด ที่เราสัก...เหตุผลเพราะศรัทธาใช่ไหมคะ..แต่พวกเค้าเหล่านั้นไม่ใช่
เวลาเยียวยาทุกสิ่ง...อนาคตเค้าจะเข้าใจอะไรมากกว่านี้ค่ะ
-
ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรม
-
ผมว่าไม่เกี่ยวกันนะครับ ถึงจะตีจะซฺง มันก็ไม่เกี่ยวกับว่า ของจะเสื่อมหรือเปล่าครับ
ผมว่ามันคนล่ะเรื่องกัน แล้วส่วนจะทำยังไง บ้านเมืองมีกฏมีระเบียเราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว
-
ผมว่า สักหรือไม่สัก ยังไงวัยรุ่นก็ตีกันอยู่ดี
ยันต์ช่วยให้คนปฏิบัติตนในทางที่ดี มีข้อห้ามต่างๆ
แต่สักยันต์แล้วไปตีชาวบ้าน สักยไปก็ไม่ต่างกับ เป็นเพียงรอยหมึกที่เปื้อนตามร่างกาย พุทธคุณหายหมดแล้วครับ
-
ส่วนแรกเรื่องสักแล้วไปตีกันผมว่า แล้วแต่ความคิด ความอ่านของบุคคลครับ
ส่วนที่สอง ปัญหานักเรียนตีกัน ผมว่ามันแก้ยากมากครับ มันเป้นเรื่องลึกซึ้ง สรุปแก้ยากครับ
-
วัยเค้ายังไม่บรรลุนิติภาวะ ความคิดอาจจะยังเด็ก ปล่อยเป็นหน้าที่ของทางการดีกว่าครับ