กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => ธรรมะ => ข้อความที่เริ่มโดย: นายธรรมะ ที่ 06 มี.ค. 2554, 01:41:15

หัวข้อ: บทความ 8 วิธีแก้ง่วงที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้กับพระโมคคัลลานะ
เริ่มหัวข้อโดย: นายธรรมะ ที่ 06 มี.ค. 2554, 01:41:15
บทความ 8 วิธีแก้ง่วงที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้กับพระโมคคัลลานะ

(http://statics.atcloud.com/files/entries/5/55935/images/1_display.jpg)

พระมหาโมคคัลลานะ เมื่ออุปสมบทได้ 7 วัน ได้ไปทำความเพียรอยู่ที่ป่าใกล้บ้านกัลป์ลาวาลมุตตาคาม แขวงมคธ ถูกถีนมิทธารมณ์ คือ ความง่วงเหงาเข้าครอบงำ ไม่สามารถจะทำความเพียรได้ ขณะนั้น พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ ณ สวนเภสกลาวัน ซึ่งเป็นสถานที่ให้เหยื่อแก่เนื้อ ใกล้เมืองสุงสุมารคิรี อันเป็นเมืองหลวงของแคว้นภัคคะ ทรงทราบด้วยพระญาณว่าพระโมคคัลลานะ โงกง่วงอยู่ จึงทรงทำปาฏิหาริย์ให้เห็นปรากฏ ประหนึ่งว่าเสด็จประทับอยู่ตรงหน้า ทรงแสดงอุบายสำหรับระงับความง่วงแก่เธอตามลำดับ ดังนี้

1.โมคคัลลานะ เมื่อเธอมีสัญญาอย่างใดแล้ว เกิดความง่วงขึ้น เธอจงทำไว้ในใจซึ่งสัญญาอย่างนั้นให้มาก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

2.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรตรึกตรองถึงธรรมที่ได้เรียนมาแล้ว ได้ฟังมาแล้วให้มาก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

3.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรสาธยายธรรมที่ได้เรียนได้ฟังมาแล้วให้มากจะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

4.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรยอนช่วงหูทั้งสองข้าง และลูบตัวด้วยฝ่ายมือจะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

5.ถ้ายังละไม่ได้ เธอจงลุกขึ้นแล้วลูบนัยน์ตา ลูบหน้าด้วยน้ำเหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาว จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

6.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรทำไว้ในใจถึงอาโลกสัญญา ถือ กำหนดความสว่างไว้ในใจเหมือนกัน ทั้งกลางวันและกลางคืน ทำใจให้เปิด ให้สว่าง จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

7.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรเดินจงกรมสำรวมอินทรีย์ มีจิตใจไม่คิดไปภายนอก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

8.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรสำเร็จสีหไสยาสน์ นอนตะแคงขวา ซ้อนเท้าให้เลื่อมกัน มีสติสัมปชัญญะ หมายใจว่าจะลุกขึ้นเป็นนิตย์ เมื่อตื่นแล้วควรรีบลุกขึ้นด้วยตั้งใจว่า เราจะไม่ประกอบความสุขในการนอนและการเคลิ้มหลับอีกจะเป็นเหตุให้ละความง่วง ได้ พระพุทธองค์ ตรัสสอนอุบายเพื่อ
บรรเทาความง่วงโดยลำดับจนที่สุดถ้ายังไม่หายง่วงก็ให้นอน แต่ให้นอนอย่างมีสติ


นายธรรมะ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก เว็บบอร์ดพลังจิตด้วยครับ
หัวข้อ: ตอบ: บทความ 8 วิธีแก้ง่วงที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้กับพระโมคคัลลานะ
เริ่มหัวข้อโดย: ทรงกลด ที่ 06 มี.ค. 2554, 03:15:29
อ้างถึง
1.โมคคัลลานะ เมื่อเธอมีสัญญาอย่างใดแล้ว เกิดความง่วงขึ้น เธอจงทำไว้ในใจซึ่งสัญญาอย่างนั้นให้มาก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้
ไม่เข้าใจข้อนี้ครับ
ท่านใดที่ทราบความหมายกรุณา อธิบายด้วยครับ
ขอบคุณครับ :054:
หัวข้อ: ตอบ: บทความ 8 วิธีแก้ง่วงที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้กับพระโมคคัลลานะ
เริ่มหัวข้อโดย: arada ที่ 06 มี.ค. 2554, 09:08:16
กำลังอยู่ในช่วงสอบพอดีเลยจะลองนำข้อที่สามารถปฏิบัติได้ไปปฏิบัติดูครับ
หัวข้อ: ตอบ: บทความ 8 วิธีแก้ง่วงที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้กับพระโมคคัลลานะ
เริ่มหัวข้อโดย: ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์) ที่ 07 มี.ค. 2554, 08:32:20
อ้างถึง
1.โมคคัลลานะ เมื่อเธอมีสัญญาอย่างใดแล้ว เกิดความง่วงขึ้น เธอจงทำไว้ในใจซึ่งสัญญาอย่างนั้นให้มาก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้
ไม่เข้าใจข้อนี้ครับ
ท่านใดที่ทราบความหมายกรุณา อธิบายด้วยครับ
ขอบคุณครับ :054:


สัญญา คือ ความจำได้หมายรู้ ในที่นี้หมายถึงธรรมที่ได้สดับมาแล้ว ได้เรียนมาแล้ว.

ขยายอรรถเพื่อให้ง่ายแก่การเข้าใจได้มากขึ้น

๑. พิจารณาถึงธรรมตามที่ได้สดับแล้ว ได้เรียนมาแล้ว

๒. สาธยายธรรมที่ได้สดับแล้ว ได้เรียนมาแล้วโดยพิศดาร

๓. ยอนหูทั้งสองข้าง แล้วเอามือลูบตัว

๔. ลุกขึ้นยืน เอาน้ำล้างหน้าตา เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาว

๕. ทำในใจถึงอาโลกสัญญา ตั้งความสำคัญว่า กลางวันหรือกลางคืนย่อมมีแสงสว่างเหมือนกัน

๖. อธิษฐานการเดินจงกรม สำรวมอินทรีย์ ไม่คิดไปภายนอก

๗. สำเร็จสีหไสยา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะในการนอน การหลับ และการตื่น

ต่อจากนั้น พระพุทธองค์ได้แสดงพระสูตรเทศนาธรรม พระโมคคัลลานะได้น้อมจิตไปตามกระแสแห่งธรรมของพระพุทธองค์

จบพระธรรมเทศนา พระโมคคัลลานะได้บรรลุอรหัตตผลหลังจากอุปสมบทแล้ว ๗ วัน.