กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => ธรรมะ => ข้อความที่เริ่มโดย: phatcha ที่ 04 มิ.ย. 2552, 06:53:47
-
หรือเป็นเพราะว่า จิตเราไปห่วงกับแฟน ที่อยู่ด้วยกันมา 7-8ปี มะก่อนเราอยากเลิกกับเค้าแต่ตอนนี้พอเค้าจะไปจิงๆๆเลยวิตกหรือเปล่า
บางวันก้อไม่ได้ร้อนใจไปด้วย บางครั้งเหมือนใจมันเดือดๆๆ มีเรื่องมากมายประดังเข้ามาตอนนี้ จนคิดหนีปัญหา แต่ก่อนไปวัดบางพระ
ไปมาแล้วรู้สึกว่าเราหนีไม่ได้นะ ต้องกลับมาแก้ปัญหา แม้ตอนนี้ผ่านมา10 วันแล้ว ยังหาทางออกไม่ได้เลย แต่รู้สึกว่า ได้ 5แถวมา
ปัญหาคุยกันได้ จากทีแรก คิดว่าต้องตายแน่ ทุกวันนี้ จะสวดมนต์ แล้วตามด้วยนั่งสมาธิ ต่อด้วยแผ่เมตตา กรวดน้ำ
จะทำใงัยให้จัยสงบดีคะ ช่วยแนะนำด้วยคะ
-
อ่านแล้วเห็นใจเจ้าของกระทู้จังครับ
ทาน ศีล ภาวนา ทำต่อไปครับ อย่าลดละ หมั่นเจริญสติ เท่าทันอารมณ์ของเรา ถ้าใจสัดส่ายมากก็ระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ เหมือนกับว่าเราอาราธนาบารมีของพระรัตนตรัยเป็นอารมณ์ครับ บุญก็จะเกิดกับเราทุกขณะจิตที่นึกถึงท่านครับ
ทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ให้ยึดมั่นในการปฏิบัติเป็นหลัก ใจอย่าไปยึดติดกับบุคคลครับ
อุปสรรคมีก็แก้ไป บุญมีก็ทำไปครับ
ผมเป็นกำลังให้ครับ มีอะไรก็ปรึกกันได้เสมอนะครับเพราะผมก็เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาครับ
-
จิตไม่นิ่งเกิดจากใจเป็นกังวล เมื่อใดที่ลดละหรือปลงได้ว่าของสิ่งนั้นไม่ใช่ของเรา
คนเราเกิดมามีอะไรหรือ ร่างกายทุกวันนี้ก็ยืมเค้ามา ถึงเวลาก็ต้องย่อยสลายหายไป
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
คิดดี ทำดี ยึดมั่นในศีลในธรรม เชื่อว่าคงจะช่วยได้ในภายหน้าครับ
-
072 ระลึกถึงบุญ แล้วจะสุขใจครับ
:054:
-
เคยได้ฟังคำสอนของหลวงพ่อชา ท่านว่าไว้ว่า ถ้ามีความอยากก้อจะมีกิเลส อย่างกรณีคุณนั่งสมาธิแล้วอยากนิ่งอยากสงบ เมื่อมีความความอยาก ใจเลยไม่นิ่งไม่สงบ ลองนั่งแล้วปล่อยใจ ท่องพุธโธ ๆ ๆ หรือยุบหนอพองหนอ หรือไม่ท่องอะไรเลย ทำใจสบายๆน่ะครับ ลองดูกระทู้แนะนำการนั่งสมาธิมีหลายภาคน่ะครับ ถ้าอ่านแล้วเพื่อจะเป็นแนวทางได้ครับ เป็นกำลังใจให้น่ะครับ ปัญหาถ้ามันหนักมากนัก ก้อวางลงบ้างน่ะครับ หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิ ศึกษาคำสอนต่างๆ รับรองครับวันที่สดใสรอคุณอยู่ ฟ้าหลังฝนสดใสเสมอครับ
-
เป้นกำลังใจให้นะครับสู้ๆสู้ตาย :114: :114:
-
วันนี้พึ่งได้ฟังอาจารย์ผมเขาสอนมาครับ
"คนเรารักกันแล้ว ก็อย่าอยู่ด้วยกันอย่างมีเหตุผล เพราะคำว่าเหตุผลนั้นหมายความว่าจะต้องมีผู้หนึ่งถูก และผู้หนึ่งผิด แล้วคุณแต่ละคนต่างก็จะอ้างว่าใครถูกใครผิด ไหนบอกว่ารักกันมาก ทำไมยังคอยทะเลาะกันด้วยเรื่องถูกหรือผิด เพราะฉะนั้นความรักควรจะเกิดจากการยอมให้อภัยซึ่งกันและกัน เมื่อต่างให้อภัยซึ่งกันและกันแล้ว ก็ไม่มีใครถูกหรือใครผิด ก็จะอยู่กันได้จนแก่เฒ่าเอง"
ความคิดเห็นที่แตกต่างก็เหมือน เราต่างคนก็มองถ้วยกาแฟที่อยู่ตรงกลางระหว่างเราสองคน คนนึงก็มองว่าหูถ้วยอยู่ด้านซ้าย อีกคนนึงก็มองว่าหูถ้วยอยู่ด้านขวา แต่ในความเป็นจริงมันก็ถ้วยกาแฟใบเดียวกันนั่นเอง :002:
-
สมาธิบางที คนไม่เคยทำเลย มันยากนะครับ
ต้องค่อยๆ ฝึกไปนะครับ
เป็นกำลังใจให้
-
ของผม ก็..... รักแท้รักที่อะไร ตับไตไส้พุง หรือรักกางเกงที่นุ่ง ว่าดูสวยดี รักที่นามสกุล รักยี่ห้อรถยนต์ รักเพราะว่าไม่จน มีสตางค์ให้จ่าย :007:
(ล้อเล่นนะครับ)
อืม..สมาธิ นั่งเพื่อให้เกิดปัญญา ครับ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ครับ
คนเราเกิดมาใช่จะอยู่ด้วยกันได้ตลอดไป ครับ ต้องมีผลัดพรากจากของทุกอย่าง จากคนที่เรารัก
อะไรๆ ก็ฝืนไม่ได้หลอก ครับ ฝืนกรรมหนะครับ พยายามปล่อยใจให้สบายๆ และทำพรุ่งนี้ให้ดีที่สุดนะครับ
สู้ครับ ๆ
(ถ้ามีอะไรปรึกษาพี่เณรน้อยเขาได้ ครับ เขาคือผู้รู้ แล้ว อันนั้นของแท้ ครับ สงสัยถอดร่างถอดจิตได้ด้วย :095:)
-
๑.นั่งหลับตาปล่อยตัวตามสบายๆ
๒.จิตพยายามตามลมหายใจเข้าออกของตัวเองให้ได้นานที่สุด
หายใจเข้าท่องพุทธ หายใจออกท่องโท
๓.ถ้าเผลอคิดเรื่องอื่นๆก็รีบดึงจิตมาอยู่ที่ลมหายใจทุกครั้งที่เผลอ
๔.ไม่ต้องคาดหวังอะไรทั้งสิ้น จิตกำหนดอยู่ที่ลมหายใจไปเรื่อยๆ
จุดประสงค์ของการฝึกสมถะสมาธิที่ทำอยู่
ก็คือฝึกให้จิตจับอยู่ที่อารมณ์เดียว ไม่ให้เผลอวอกแวกไปคิดเรื่องอื่นๆค่ะ
การนั่งสมาธิตามรู้ลมหายใจเข้าออก เป็นวิธีซักฟอกจิตใจให้สะอาดจากสิ่งที่เข้ามาแปดเปื้อน ในแต่ละวันเราต้องประสบเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งทำให้จิตใจถูกห่อหุ้มด้วยสิ่งสกปรก เปรียบเสมือนผ้าขาวที่ถูกนำไปเช็ดถูสารพัดเรื่อง
หัดนั่งวันแรก ๆ จะเห็นว่าจิตมัวแต่จะคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ ไม่ยอมสงบง่าย ๆ เสียเลย การตามรู้ลมหายใจก็คือจับดวงใจผูกติดไว้กับอะไรสักอย่างหนึ่ง เพื่อไม่ให้คิดฟุ้งซ่านกระจัดกระจาย เมื่อตามรู้ลมอย่างสบาย ๆ แล้ว จิตจะค่อย ๆ สะอาดและสงบลงจนรู้สึกได้ แต่อาจต้องใช้เวลาบ้างนะคะ อย่าเพิ่งท้อใจง่าย ๆ
นอกจากดวงจิตที่สะอาดและสงบกว่าเดิมแล้ว จิตจะมีกำลังมากขึ้น และมีความอ่อนโยน นุ่มนวล พร้อมที่จะก้าวไปปฏิบัติธรรมในขั้นต่อไป
-
คำสอนสมเด็จปู่องค์ปฐมต้นพุทธะ
อธิบายให้พวกชาวพุทธคิดตามเป็นจริง เป็นวิปัสสนา ง่ายๆ อย่างนี้ว่า
ร่างกายของเรา มีการเกิด ความแก่ ความหิว ความไม่สบาย และ
ความตายเข้ามาหาตลอดเวลา มีความเหม็นน่ารังเกียจ ตั้งแต่หัวถึงเท้า
และร่างกายก็ไม่ใช่จิตของเรา จิตเป็นของจริง กายเป็นของปลอม มี
ดิน น้ำ ลม ไฟ มีระบบประสาท ความคิด ความจำ
มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นส่วนประกอบ มีอารมณ์เวทนา สุขๆ ทุกข์ เป็นของกาย
จะสูญหายไปพร้อมกับกาย จะเหลือแต่จิตเท่านั้น