แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - cho presley

หน้า: [1]
1
อ่านข่าวเจอ.. นึกถึงพี่เจมส์ค่ะ...


นำภาพข่าวสด คนรักพระ มาให้ชมกันค่ะ!!



นายวัลย์ เกร็ดแก้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.เพชรบุรี
เปิดรถยนต์ส่วนตัวโชว์พระเครื่อง และวัตถุมงคลที่สะสมไว้หลายร้อยชิ้น เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้ปลอดภัยและป้องกันขอยืมรถ


BEAUTIFUL SUNDAY :002:
http://www.XXXXXXX.com/board/redirect.php?tid=2657&goto=lastpost#lastpost

2
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / แม่กูสอน...
« เมื่อ: 11 มี.ค. 2553, 10:49:31 »
เพื่อน ๆ บอกผมว่า
ทำไมมึงดูหน้าตาไม่ค่อยฉลาด แต่เรียนเก่งจังวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้ขยันแล้วก็ตั้งใจเรียน

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมพอมึงมีตังค์ มึงชอบเอาไปทำบุญ แจกเด็ก เลี้ยงพระวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้รู้จักแบ่งปันคนอื่น ถึงเราจะมีตังค์น้อย แต่ก็มีคนอื่นที่เขาลำบากกว่าเรา

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมมึงชอบเล่นกีฬา เล่นเป็นหลายอย่าง แล้วไม่เคยเห็นมึงป่วยนอนโรงพยาบาลเลยวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้กูออกกำลังกาย จะได้แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วยง่าย ๆ เพราะเรามีตังค์น้อย เจ็บป่วยจะลำบาก

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมมึงอารมณ์ดี ไม่เครียด ไม่โกรธใครบ้างเลยหรือไงวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้เป็นคนอารมณ์ดี ทำให้คนที่อยู่ใกล้เรามีความสุข แล้วจะสบายใจกันทุกคน

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมมึงพูดกับคนอื่น ดูสุภาพ อ่อนน้อม ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นลุงแก่ ๆ เป็นเด็กเสริฟอาหาร
หรือแม้แต่ขอทานที่มึงให้เศษตังค์แล้วเขาอวยพรให้มึง ทำไมมึงต้องขอบคุณขอทานวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้พูดดี ๆ กับทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เราพูดดี ๆ กับเขา เขาก็จะได้พูดดี ๆ กับเรา

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมพี่ ๆ น้อง ๆ มึงตั้งหลายคน ทำไมรักใคร่กันดี ไม่เคยทะเลาะกันเลยวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้พี่น้องรักกันทุกคน เพราะหมากับแมวที่อยู่บ้านเดียวกัน มันยังรักกันได้
ทำไมพี่น้องกัน จะรักกันไม่ได้

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมมึงถึงรักชาติ รักแผ่นดิน รักในหลวง มากมายนักวะ
ผมบอกเพื่อนว่า
แม่กูสอน ให้กูสำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน บุญคุณของพระมหากษัติรย์ ทุกพระองค์
แม่กูสอน ให้กูรู้จักคำว่า จงรักภักดี ตั้งแต่กูยังไม่รู้ความหมาย จนทุกวันนี้ กูรู้แล้วว่า
คำว่า จงรักภักดี นั้น ยิ่งใหญ่เพียงใด

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมแม่มึงถึงสอนอะไรมึงมากมายจังเลยวะ ผมบอกเพื่อนว่า
ที่กูเป็นกูอยู่จนทุกวันนี้ ก็เพราะ ' แม่กูสอน '
แม่กูสอนอะไร กูทำตามแม่กูสอนทุกอย่าง
มีอย่างเดียวที่แม่กูไม่ได้สอน แต่กูทำ แล้วกูทำมาตั้งแต่เด็กแล้ว
แม่กูไม่ได้สอนให้รักแม่ แต่......กูรักแม่ว่ะ
ใครไม่รัก..................กูรัก
 


น้องเหวิดมาให้... ชอบค่ะ! cho.
www.khalong.com

3
ณ. มุมหนึ่งของวัดบางพระ..

ศิษยานุศิษย์ทั่วสารทิศต่างเข้ากราบครูบาอาจารย์ตามกุฎิต่างๆ รวมถึงบูรพาจารย์สายวัดบางพระที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง
เราเข้าไปกราบท่านเหมือนทุกปี พระอาจารย์เมสันต์ วัดทุ่งเว้า จ.มุกดาหาร

วันนี้! พระอาจารย์เมสันต์ เมตตาสักยันต์ให้ศิษย์ถ้วนหน้า ณ.กุฎิชายน้ำนครชัยศรี

ดิฉันและพี่น้องที่ไปด้วยกันต่างได้รับเมตตากันถ้วนหน้า..
คราวนี้หลวงพ่อแทงหนักกว่าทุกครั้ง กระหม่อมแดงเลย 555 (ท่านว่าวันนี้แหละครูแรง)














นมัสการลา..หลวงพ่อโด่ง หรือพระอาจารย์เมสันต์... ปีหน้าพบกันใหม่นะคะ!


มาถึงอีกมุมหนึ่งของวัดบางพระ..ศิษยานุศิษย์ชาวเหนือน่าจะตื่นเต้นมากที่สุด..
พระอาจารย์ญา วัดนางเหลียว จ.ลำปาง อีกหนึ่งบูรพาจารย์สักยันต์สายวัดบางพระ
วันนี้ท่านเดินทางไกลมาร่วมพิธีไหว้ครูเหมือนเคย หิ้วเข็มมาด้วย.. เมตตาสักยันต์ต่อศิษย์กันถ้วนหน้าเช่นกัน


















พวกเราทุกคนได้รับเมตตาสักยันต์จากหลวงพี่ญา วัดนางเหลียวกันถ้วนหน้า..
เราได้ยันต์ที่ระลึกในวันไหว้ครูบูรพาจารย์วัดบางพระอีกแล้ว...












นมัสการลา หลวงพี่ญา แห่งวัดนางเหลียว ปีหน้าพบกันใหม่อีกครั้ง



หลวงพี่หนึ่ง




อาจารย์โบ้.....



และอีกมุมหนึ่งกลางปรัมพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ...
ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั่วสารทิศต่างมารวมกันที่นี่คับคั่งเหมือนเคย..
.


















อีกครั้งสำหรับบันทึกความทรงจำ..
พบกันใหม่... ไหว้ครูบูรพาจารย์ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ 2554.
..
cho.
www.khalong.com
cho.khalong@hotmail.com
มหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม เสด็จแม่ยั่วเมือง

4
Cho...say hi...

ต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยข่าวฮ็อต กระแสฮิต ของเหล่าผู้นิยมสะสมพระเครื่อง เครื่องราง จับตากระแสความนิยมเครื่องรางที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจของคนไทย..นานาทัศนะของเหล่าเซียนพระชื่อดัง ตบเท้าวิเคราะห์เจาะลึกเครื่องรางคู่คนไทยเสมอไม่เปลี่ยนแปลง..ยาวหน่อย แต่อ่านเพลินดีฮ่ะ.. :090:..


เซียนพระชี้วิกฤตเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้คนเริ่มหันหาที่พึ่งทางใจ ทั้งประเภท "มีแล้วรวย มีแล้วแคล้วคลาด" ส่วนเครื่องรางของขลังยอดฮิตปี 2553  มีทั้ง "ชูชกนางกวัก-เศรษฐีทั้ง 9 ในตำนาน" กำลังมาแรง เผยทุกวัดเริ่มโหมทำการตลาดทั้งโฆษณาตามสื่อสิ่งพิมพ์ เคเบิลท้องถิ่นแบบไม่มีใครยอมใคร  ขณะที่ นักการเมืองไม่น้อยหน้าส่ง "นายหน้า" ตะลุยแหล่งเช่า "สมเด็จจิตรลดา" ส่งผลให้ราคาพุ่งปรี๊ด 2-5 ล้านบาท

ความเชื่อในเรื่องราวของอิทธิปาฏิหาริย์ของคนไทยนับวันจะมีเพิ่มมากขึ้นทำให้วงการการสร้าง "เครื่องรางของขลัง" คึกคักตามไปด้วย ยิ่งกระแสในช่วงต้นๆปีที่หมอดูที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของประชาชนออกมา "ชี้นำ"ด้วยการเดินสายออกรายการโทรทัศน์ แนะนำให้หาเช่าเครื่องรางของขลังต่างๆ เพื่อแก้เคล็ด เสริมดวงด้วยแล้วยิ่งทำให้เครื่องรางของขลังกลายเป็นที่สนใจของคนไทยที่ยามนี้กระแสการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ผันผวนยิ่งต้องการหาที่พึ่งทางใจมากขึ้น

      "ชูชก" เครื่องรางเสริมความร่ำรวย
          จะว่าไปแล้วการบูชาชูชกนั้นมีมานานนับสิบปีแล้วแต่ไม่ได้โด่งดังเป็นที่ต้องการของประชาชนเหมือนเช่นทุกวันนี้เพราะการบูชาชูชกนั้นจะจำกัดอยู่ในวงแคบๆของลูกศิษย์ลูกหาเกจิอาจารย์บางรูปเท่านั้น โดยการบูชาชูชกนั้นเกิดจากความเชื่อที่ว่าหากใครได้ชูชกมาบูชาแล้วจะทำให้ทำมาหากิน ค้าขายรุ่งเรืองจนถึงขั้นสร้างความร่ำรวยให้กับผู้บูชาซึ่งในเรื่องนี้ พฤฒิพันธ์ วนเกียรติ หรือที่รู้จักกันในนาม "หมูมรดกไทย" เซียนพระชื่อดัง บอกกับ "ผู้จัดการ 360 รายสัปดาห์" ว่า การกำเนิดเครื่องรางชูชกนั้นเกิดจากบันทึก"ทศชาติ"ในมหาเวสสันดรชาดก ซึ่งชูชกเกิดในวรรณะ

          พราหมณ์ มีอาชีพเป็นขอทาน แม้จะเป็นผู้เฒ่าที่อัปลักษณ์ในรูปสังขาร แต่กลับมีเสน่ห์เมตตามหานิยม รู้จักเจรจาได้ไพเราะอ่อนหวาน ไปเอ่ยปากขอทานที่ไหนก็ไม่มีใครรังเกียจ มีแต่เมตตารักใคร่ ให้ทานตามที่เอ่ยปากขอ www.khalong.com มหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม

          นอกจากนี้ยังมีนิสัยที่ประหยัด มัธยัสถ์ รู้จักใช้รู้จักเก็บเงินที่ขอมาได้จึงมีมากถึงขั้นเป็นเศรษฐี มีเมียก็เป็นสาวดรุณีแรกรุ่น สวยงามทั้งรูปร่างหน้าตา พร้อมกิริยาวาจา แถมซื่อสัตย์คอยปรนนิบัติพัดวี ไม่รังเกียจชูชกผัวแก่ คุณสมบัติที่ดีของชูชกเหล่านี้ ทำให้พระเกจิอาจารย์ในอดีต นำไปสร้างเป็นเครื่องรางของขลัง และกลายเป็นวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้

          สำหรับเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกเครื่องรางชูชกในยุคแรกๆและเป็นที่นิยมมากในปัจจุบันคือชูชกของหลวงปู่รอด วัดวังน้ำวนจังหวัดสมุทรสาคร โดยหลวงปู่รอดได้ปลุกเสกชูชก 2 แบบคือแบบแรกแกะจากงาช้าง มีการจัดสร้างแค่หลักร้อย ทำให้ราคาการเช่าขณะนี้อยู่ไม่ต่ำกว่าหลักล้าน แบบที่สองแกะจากไม้ขนุนซึ่งเป็นไม้มงคลจัดสร้างหลักพัน ราคาขณะนี้อยู่ที่หลักแสนต้นๆ
          
   หมู อธิบายต่อไปว่า นอกเหนือจากชูชกของหลวงปู่รอดแล้วทุกวันนี้มีเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วประเทศหันมาปลุกเสกชูชกเช่นหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐมหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง, หลวงพ่อแลวัดพระทรง จ.เพชรบุรี หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ จ.นครปฐม หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม   หลวงพ่อไสว วัดปรีดารามจ.นครปฐม หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับจ.ระยอง หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ จ.ราชบุรีหลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยาหลวงพ่อคีย์ วัดศรีลำยอง จ.สุรินทร์ www.khalong.com

          "นี่ถือเป็นสุดยอดเกจิอาจารย์ที่คนทั่วไปให้ความศรัทธาว่ามีวิชาอาคมปลุกเสกเครื่องรางของขลังได้เป็นที่น่าเลื่อมใสและมีความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งชูชกของพระเกจิเหล่านี้มีสนนราคาไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น ส่วนคนทั่วไปที่มีความเชื่อและศรัทธาชูชกก็สามารถหาเช่าได้ทั่วๆไปเพราะตอนนี้มีหลายๆ วัดปลุกเสกชูชกให้เช่ามากมาย โดยสนนราคามีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน"

          ขณะที่ นัฐพงษ์ ชวาลรัตนกุล หรือต้นท่าพระจันทร์ เซียนพระชื่อดังอีกรายหนึ่ง บอกว่า กระแสการเช่าเครื่องรางของขลังของคนไทยตอนนี้จะเป็น "ความนิยม" ที่เกิดขึ้นจากปัญหาทางเศรษฐกิจที่ถดถอย โดยจะมุ่งเน้นหาเครื่องรางของขลังที่มีพุทธคุณในด้านเมตตามหานิยม ซึ่งช่วงนี้กระแสชูชกนับว่ามาแรงไล่ๆกับพระพิฆเนศซึ่งกระแสจะอ่อนลงเล็กน้อย เมืองเสน่ห์กาหลง

          สำหรับชูชกนั้นมีการจัดสร้างมานานหลายสิบปีแล้วแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเพราะจะมีเกจิอาจารย์เพียงไม่กี่รูปที่จัดสร้างโดยนำความจากมหาเวสสันดรชาดกมาเทียบเคียงแล้วสร้าง เพราะในชาดกนี้ชูชกเป็นชายชรามีอาชีพขอทาน แต่เมื่อออกไปขอทานนั้นจะได้รับความเมตตาจากคนทั่วไป ไม่ว่าจะขอเมียก็จะได้เมียสวย ไปขอหลานกษัตริย์มาเป็นคนรับใช้ก็ยังได้ ซึ่งจากเหตุนี้ทำให้ผู้มีวิชาอาคมเชื่อว่าน่าจะเป็นตัวแทนของเครื่องรางของขลังที่มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยมอีกอย่างหนึ่ง

          "น่าสังเกตว่าในช่วงนี้ภาวะเศรษฐกิจของโลกตกต่ำ คนทำมาหากิน คนค้าขายหรือทำธุรกิจที่เขามีความเชื่อในเรื่องของอิทธิปาฏิหาริย์ต่างก็ต้องหันมาพึ่งเครื่องรางของขลังที่เขาเชื่อว่าจะช่วยเขาได้ในยามนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหันไปพึ่งชูชก""สื่อ" ตัวช่วยปลุกกระแส

          อย่างไรก็ตาม ความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ การปลุกเสกเครื่องรางของขลังจึงจำเป็นที่จะต้องอาศัยการโฆษณาประชาสัมพันธ์เข้าช่วย ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์วิทยุ โทรทัศน์โดยเฉพาะเคเบิลทีวีที่มีมากมายถือเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยโหมกระแสการเช่าบูชาเครื่องรางของขลังให้ติดลมบนได้อย่างง่ายดาย
          
   ต้น อธิบายปรากฏการณ์นี้ว่า ความจริงเรื่องการอาศัยการโฆษณาก็มีมานานแต่ที่ใช้แล้วแรงและได้ผลจนกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปคือกระแสจตุคามรามเทพ ทำให้คนทั้งประเภทเข้าข่ายหลุดไปในกระแสมาแล้ว การใช้สื่อแขนงต่างๆ มาช่วยโหมกระแสชูชกจึงถือเป็นเรื่องปรกติ อย่าลืมว่าเครื่องรางของขลังนั้นไม่มีใครจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าศักดิ์สิทธิ์จริงหรือไม่ มีแต่คนที่ใช้เท่านั้นที่จะรู้ว่าสิ่งที่ตนเองบูชานั้นให้ผลจริงหรือไม่อย่างไร ฉะนั้นการพิสูจน์ด้วยตัวเองโดยใช้กระแสเข้ามาช่วยในการตัดสินใจจึงถือเป็นทางเลือกที่คนในสังคมไทยใช้อยู่ในปัจจุบัน

          สำหรับการโฆษณาของวัดที่ปลุกเสกชูชกหรือเครื่องรางอื่นตามสื่อต่างๆ ในปัจจุบันมีให้เห็นอยู่มากมาย เช่นเครื่องรางของขลัง ชูชกของ ครูบาเจ้าบุญเลิศ ปิยวัณโณ วัดศิวิลัยบรรพต (เข้าปกล้น) จ.ลพบุรี ชูชกของหลวงพ่อเอิบ ฐิตธัมโม วัดหนองหม้อแกง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เครื่องรางชูชก หลวงปู่พัน จังหวัดนครสวรรค์ ชูชกสมปรารถนา ของ หลวงปู่แดงดวงเศรษฐี วัดห้วยฉลอง จ.อุตรดิตถ์ พ่อปู่ชูชกบันดาลทรัพย์ ของ หลวงพ่อสุนทร ฐานวโรวัดสุทธาวาส

          "นี่เป็นเพียงส่วนน้อยของเกจิอาจารย์ที่มีนับร้อยๆ รูปที่หันมาปลุกเสกชูชก ใครที่สนใจและที่บ้านติดเคเบิลทีวีจะเห็นช่องที่มีการเปิดให้เช่าบูชาเครื่องรางของขลังมากมายหลายอย่างโดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าอะไรก็ตามที่เราทำแล้วสบายใจ และไม่ทำตัวให้ผิดศีล 5 บูชาอะไรก็ศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น"

"สมเด็จจิตรลดา"ที่หมายตานักการเมือง
          ใช่ว่าแต่คนในสังคมทั่วไปเท่านั้น นักการเมืองไทยก็ถือเป็นกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความเชื่อในเรื่องราวของเครื่องรางของขลัง ซึ่งนักการเมืองที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภาบนและสภาล่างนั้นล้วนแล้วแต่มีเครื่องรางป้องกันตัวเองแทบทั้งสิ้น

          ต้น ท่าพระจันทร์ บอกว่า นักการเมืองไทยร้อยทั้งร้อยจะมีพระเครื่องห้อยคออยู่แทบทุกคน ซึ่งเท่าที่คลุกคลีในวงการนี้มานานทำให้ทราบว่า นักการเมืองส่วนใหญ่จะยึดถือพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดของตนเองมากเพราะนั่นเท่ากับทำให้เขาสามารถเข้าไปเป็นศิษย์ที่ได้รับการยอมรับและได้คะแนนเสียงมาพร้อมๆ กัน

          อย่างไรก็ตาม หากจะเจาะลึกลงไปให้รู้ซึ้งถึงความเลื่อมใสศรัทธาของนักการเมืองแล้วจะพบว่าร้อยทั้งร้อยจะใช้พระพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด แต่จะเน้นการบูชาพระเครื่องมากกว่าเครื่องรางของขลังอื่นๆ เพราะพระเครื่องนั้นถือเป็นการบูชาพระพุทธเจ้า และยังไม่เป็นที่จับตามองของคนอื่น แต่นักการเมืองนั้นจะเน้นพระที่ราคาแพง ซึ่งจะหายาก เช่นพระสมเด็จ พระในชุดเบญจภาคี ส่วนเหรียญนั้นจะเช่าเหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม จังหวัดสมุทรสงครามเหรียญหลวงปู่เอี่ยววัดหนัง หรือเหรียญของพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป แต่ราคาเหรียญเหล่านี้จะไม่ต่ำกว่าล้านบาท

          ต้น บอกอีกว่า ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานั้นมีบรรดาเซียนพระทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากต่างออกควานหาและต้องการที่จะครอบครอง เพราะพระสมเด็จจิตรลดาซึ่งเป็นพระเครื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เองเพื่อพระราชทานแก่ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และพลเรือน ในช่วงระหว่าง พ.ศ.2508-2513 มีทั้งสิ้นประมาณ 2,500 องค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานด้วยพระหัตถ์พระองค์เอง มีเอกสารส่วนพระองค์ (ใบกำกับพระ) ซึ่งแสดงชื่อ นามสกุล วันที่รับ

          พระราชทาน หมายเลขกำกับทุกองค์  โดยนักการเมืองส่วนใหญ่ต้องการที่จะเช่าหามาเป็นของตัวเองมากพอๆ กับสมเด็จวัดระฆังเพราะมวลสารของสมเด็จจิตรลดานั้นเป็นของหายากเพราะได้นำเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศมาผสมรวมกันและทุกคนเชื่อว่ามีพระพุทธคุณที่ศักดิ์สิทธิ์มาก

          "ตอนนี้สมเด็จจิตรลดาถือเป็นพระเครื่องที่คนมีเงิน นักธุรกิจ นักการเมืองต้องการมากที่สุดแต่ก็เป็นพระเครื่องที่หายากมากแถมราคาก็สูงมาก คนทั่วๆไปเราๆท่านๆ รับรองหมดสิทธิ์เพราะราคาตอนนี้อยู่ที่องค์ละ 2-5 ล้านบาท"

จับตาเครื่องรางของเศรษฐีทั้ง 9
          ไม่ใช่มีแต่กระแสของชูชกเท่านั้นที่กำลังมาแรง ปัจจุบันเครื่องรางของขลังที่คนทั่วๆไปเชื่อว่าสามารถบันดาลโชคลาภ ความร่ำรวยให้กับผู้เช่าบูชาจะมีอีกหลายอย่างทั้งพระพิฆเนศกุมารทอง นกคุ้ม มารุมเรียกทรัพย์ และที่น่าจับตามองและคาดว่าจะได้รับความนิยมไม่แพ้ชูชกคือเศรษฐีทั้ง 9 ในพุทธทำนาย ซึ่งปัจจุบันนี้มีพระเกจิอาจารย์จากหลายๆวัดเริ่มที่จะปลุกเสกกันแล้ว

          สำหรับเศรษฐีทั้ง 9 นั้นเกิดจากความเชื่อที่ว่าในสมัยพุทธกาลมหาเศรษฐีทั้งเก้าท่าน  ได้เป็นพุทธอุปัฏฐากของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและยั งเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้เลิศในการทำบุญและเป็นยอดแห่งมหาเศรษฐีทั้งปวง ซึ่งเศรษฐีทั้ง 9 ประกอบด้วย ธนัญชัยมหาเศรษฐี ยัสสะมหาเศรษฐี สุมนะมหาเศรษฐี ชฏิสัสสะมหาเศรษฐีอนาถบิณฑิกะมหาเศรษฐี เมณฑกะมหาเศรษฐีโชติกะมหาเศรษฐี สุมังคละมหาเศรษฐี มหาอุบาสิกาวิสาขา (พระนางวิสาขา) ตอนนี้มีคนเชื่อว่าหากใครบูชาเศรษฐีทั้ง 9 นั้น ซึ่งจะเป็นคนเดียวหรือหลายๆคนหรือบูชาทั้ง 9 คนแล้วจะมีความอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวย เงิน ทอง โภคสมบัติ มีเงินทองเข้ามาไม่ขาดสายจับตาหนุมาน-เบี้ยแก้มีดหมอ จะมาแรง
        
   นอกเหนือจากบูชาเครื่องรางของขลังเพื่อความร่ำรวยแล้ว คนส่วนหนึ่งยังให้ความสนใจหาเช่าเครื่องรางป้องกันที่เชื่อว่าสามารถช่วยแก้  "อวิชชา" มาไว้ป้องกันตัวด้วย เพราะในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมามีคนจำนวนมากเชื่อว่ามีคนเล่นไสยศาสตร์ที่เป็นอวิชชาเกิดขึ้นมากมาย
          
   หมู ยอมรับว่ากระแสดังกล่าวเกิดขึ้นจริงๆและสิ่งที่คนในวงการต้องการนอกเหนือจากการบูชาเครื่องรางที่เชื่อว่าสร้างความร่ำรวยแล้วยังหาเช่าเครื่องรางที่ป้องกันอวิชชาต่างๆ ไว้เพื่อป้องกันอันตรายที่มองไม่เห็น ซึ่งเรื่องนี้คนโบราณเขามีความเชื่ออย่างมาก

          สำหรับเครื่องรางที่คนกำลังนิยมและหาเช่าบูชาเพราะเชื่อว่าสามารถแก้คุณไสยและป้องกันอันตรายได้ ประกอบไปด้วยเบี้ยแก้ หนุมานพญานาค เป็นต้น กล่าวสำหรับเบี้ยแก้นั้นทำมาจากเบี้ยพลู และเบี้ยจั่น สร้างโดยพระเกจิอาจารย์ซึ่งนำปรอทที่ถือกันว่าเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์มาบรรจุไว้ในตัวหอยเบี้ย แล้วอุดด้วยชันโรงใต้ดิน แล้วพระเกจิจะลงอักขระเลขยันต์ จากนั้นก็นำมาปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง ใช้เป็นเครื่องรางของขลังพุทธคุณเบี้ยแก้ ป้องกันภูตผีปีศาจ ป้องกันไข้ป่า เขี้ยวงาทุกอย่าง ป้องกันคุณไสยป้องกันยาพิษ ยาสั่ง รวมถึงอวิชชาอาถรรพ์อื่นๆ

          "เบี้ยแก้ที่เป็นต้นตำรับและเป็นที่ต้องการของคนทั่วไปคือเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง ปัจจุบันมีราคาหลักล้าน ส่วนรองลงมาจะเป็นเบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ  และเบี้ยแก้หลวงพ่อซำ วัดตลาดใหม่เป็นต้น"
          
   นอกเหนือจากเบี้ยแก้แล้วหนุมานก็กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะมีความเชื่อว่าหนุมานมีพุทธคุณป้องกันสิ่งชั่วร้าย ขับไล่เสนียดจัญไร และเรื่องการงานถือว่าดี เจริญก้าวหน้า จะเป็นที่โปรดปรานของเจ้านาย

          สำหรับพระเกจิอาจารย์ที่สร้างเครื่องรางรูปหนุมานหรือลิงได้เข้มขลังมีหลายท่านด้วยกันเช่น หลวงพ่อดิ่ง คงคสุวัณโณ วัดอสุภาราม(บางวัว) ฉะเชิงเทรา หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุนอำเภอปากเกร็ด นนทบุรี หลวงปู่หนู ฉินนะกาโม วัดทุ่งแหลม อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี หลวงพ่อแล ทิตตัพโพ วัดพระทรง เพชรบุรี หลวงปู่สี วัดสะแก พระนครศรีอยุธยา สายวิชาวัดประดู่โรงธรรม หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตารามอำเภอสรรค์บุรี ชัยนาท หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร ฉะเชิงเทรา

          เครื่องรางของขลังที่น่าจับตามองว่าจะได้รับความนิยมอีกอย่างหนึ่งคือมีดหมอ เพราะมีดหมอนั้นมีพุทธคุณป้องกันภูตผีปีศาจ ขับไล่
วิญญาณ ป้องกันเขี้ยวงา ป้องกันคุณไสยการกระทำย่ำยีจากอวิชชา โดยมีดหมอที่ได้รับความนิยมแต่หายากมากและมีราคาหลักล้านคือมีดหมอของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

         "กระแสการบูชาของคนไทยเดี๋ยวนี้จะเน้นบูชาเครื่องรางของขลังกันมากกว่าพระบูชาต่างๆสาเหตุเพราะภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว คนส่วนใหญ่ขาดที่พึ่งจึงต้องหันไปพึ่งพา "สิ่งศักดิ์สิทธ์"เพื่อใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ที่สำคัญคนที่สร้างเครื่องรางของขลังเขาก็ดูกระแสความนิยมของคนในสังคมด้วยว่าเป็นไปในทิศทางไหนเขาก็จะเริ่มจัดสร้าง ซึ่งกระแสพระพิฆเนศ ชูชกและเศรษฐีทั้ง 9 หนุมาน เบี้ยแก้และมีดหมอ จะเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมตลอดทั้งปี 2553 แน่นอน" ส่วนเรายังเหมือนเดิม ไม่สนกระแส อย่าได้แคร์ ยังไม่สั่นคลอนเรื่องชี้นำ บะบาย..cho.www.khalong.com มหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม

5
พักความแออัด..ในเมืองกรุง ขับรถตลุยแอ่วเหนือบ้างค่ะ.. จังหวัดเชียงใหม่ สุดยอดมหาเสน่ห์ล้านนา คุณโชวตลุยไปอำเภอสันกำแพง วัดล้านตอง ตั้งตระหง่านสวยงาม! ชมทัศนียภาพเมืองเหนือ ชมบรรยากาศล้านนา.. อารยธรรมทางเหนือ...ลมเย็นๆ พัดให้เราเย็นสบายตลอดวัน แม้แสงแดดจัดจ้านแต่เหงื่อไม่หยดสักแหมะ.. ครูบาผดุง กำลังสอนลูกศิษย์เกี่ยวกับวิชาปถมัง อะไรสักอย่าง เวลาน้อยสมาชิกก็หลายชีวิต คงต้องรีบรัวชัตเตอร์ให้เต็มสตรีม แม้ไม่เต็มที่ แต่ก็เต็มใจ และตั้งใจ... :008:



มหาเสน่ห์ มหาเสน่ห์ เมืองเสน่ห์กาหลง










พระเจ้าทันใจ.. เขาว่า ขออะไรได้ทันใจ.. คงไม่ใช่ปวดหัวนะ! วัดล้านตอง เอกอุเรื่องมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยมทางเหนือ
วัตถุมงคล..พิมพ์แกะบ้านๆ แต่มวลสารล้ำเหลือแต้ แต้... อย่าให้พูดนะ..ไม่พูดดีกว่า กระซิบนิดว่า อิ่น สีผึ้ง และยันต์หนีบ.. อะฮ้า..พอแระ!

ที่น่าสนใจมากๆ คือ มีพระผงที่รวมบรมครูของครูบาผดุง ประมาณ 5-8 เกจิ เห็นจะได้... โอวสุดยอดค่ะ สุดยอด!  บูชาครูก็แรงตามของหละ ถึงหลักสามสี่หมื่นนะ!

ตุ๊เจ๊าของวัดล้านตอง (ภาษาเหนือจะเรียกทอง ว่า ตอง, ตุ๊เจ้าคือ พระ เขาเรียกพระว่า ตุ๊..) ผิวพรรณผ่องใส.. เมตตาบารมีทั้งนั้น..หนุ่มเชียงใหม่ก็บ่อต้องอู้.. หล่อขนาด!
ส่วนสาวเหนือ.. งามแต้ งามว่า.. อู้เพราะเสนาะหู (แหมเลียนเสียงสำเนียงเหนือซะแล้ว)





จะรีบกลับไปไหนไปถึงเชียงใหม่.. ปู้นนนนนนนนน

นอกจากวัดล้านตองแล้ว นักท่องเทียวคงไม่ลืม ที่นี่ บ่อสร้าง!

คิดถึงเพลงในตำนาน บ่อสร้างก่างจ้อง... มีโอกาสไปก็วันนี้.. ไหนมีอะหยังพ่อง ผ่อเลาะ (มีอะไรบ้าง ไหนดูสิ)






อุตสาหกรรมการทำร่ม ของอำเภอบ่อสร้าง.. ระบบบริหารจัดการ ขอยกนิ้วให้เลย.. ผ่านเลย! อวดชาวต่างชาติเหอะเมืองไทยนี่แน่! คุณโชวชอบงานอาร์ต ไทยเทศ ได้หมด นั่นคืองานศิลป์สะท้อนอารยธรรม... เร้าใจแต้น้อ... เลือกเอาเองได้สารพัด.. ไม่พอใจแบบที่มีขายในช๊อป...ท่านก็สามารถซื้อร่มเปล่าๆ ไปจ้างเพ้นท์กันสดๆเลย.. เพ้นท์เสื้อสดๆ เพ้นท์รองเท้า เพ้นท์มือถือ เพ้นท์พัด สารพัดเพ้นท์ ยิ่งกว่าเพนท์เฮาส์ อู้หู ร่ม ร่ม ร่ม แล้วก็ร่ม!





โอ๊ะโอว.. อาจารย์หนู กันภัย... ร่ำรวย ค้าขายดีหละที่หนึ่ง!  :009:




อารยธรรมเหนือ มนต์เสน่ห์เมืองเหนือ มหาเสน่ห์เหนือ..ชอบค่ะ!








ภูมิใจค่ะ เมืองไทยเรามีอะไรดี ดี เยอะเลย! บอกตรงๆ แอ่วเหนือแล้วไม่อยากกลับบ้านกรุงเทพเลย อยากอยู่มันซะที่นี่

แล้วพบกันใหม่เจ้า!
บะบาย cho. presley เจ้าเก่า เก๊าเก่า!

6
HAPPY NEW YEAR
HAPPY NEW LIFE 2010

ไถ่ชีวิตกระบือ... มหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ ณ. วัดหัวกระบือ พระราม 2 กรุงเทพฯ
------------------------------------------------------------------------------------------------
ของขวัญที่เหล่าสมาชิก และญาติโยม
ร่วมลงขันร่วมบริจาคไถ่ชีวิต 'ไอ้ใหญ่' ออกมาจากโรงฆ่าสัตว์..
ของขวัญปีใหม่..คือชีวิตใหม่ของกระบือที่กำลังจะถูกฆ่าหน้าโรงฆ่าสัตว์...

ขณะนี้ กระบือเผือก...ไอ้ใหญ่ อยู่ที่วัดหัวกระบือแล้ว!















เมืองเสน่ห์กาหลง


เมืองเสน่ห์กาหลง




เณร กำลังเลี้ยงไอ้ใหญ่...น่ารักมาก กำลังเล่นโคลน กินหญ้าเชียว!







ขอขอบพระคุณท่าน derbyrock, ตามพรลิงค์ และศิษย์พี่-ศิษย์น้องวัดบางพระ ผู้ไม่สงค์ออกนาม
ขอขอบพระคุณท่าน derbyrock, ตามพรลิงค์ และศิษย์พี่-ศิษย์น้องวัดบางพระ ผู้ไม่สงค์ออกนาม

วัตถุมงคลที่ระลึกแทนความขอบคุณจากพระครูวิบูลพิพัฒนกิตต์ เจ้าอาวาสวัดหัวกระบือ พระราม 2 กรุงเทพฯ ขณะนี้ดำเนินการจัดส่งให้แล้ว..








ตะกรุดหนังเสือ เมืองเสน่ห์กาหลง


สีผึ้ง มหาเสน่ห์ มหาหลง หลวงปู่ทิมร่วมปลุกเสกด้วย เมืองเสน่ห์กาหลง

ขออนุโมทนากับผู้บริจาคทุกท่านจากใจจริง.. ใครว่าง แวะวัดหัวกระบือไปเยี่ยมไอ้ใหญ่ด้วยนะคะ! เมืองเสน่ห์กาหลง

โปรดติดตามข่าวมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่เช่นนี้ ในตอนต่อไป.. cho presley เจ้าเก่า เก๊าเก่า!

7
ในจำนวนบ้านของคนไทยพุทธแทบจะเรียกได้ว่าทุกหลังคาเรือนจะต้องมีห้องพระหรือหิ้งพระประจำบ้าน ถ้าเป็นห้องเล็กๆ ก็มักจะทำเป็นหิ้งพระบูชา ส่วนบ้านหลังใหญ่ก็จะเป็นห้องพระแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน และสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันทุกบ้านก็คือ สไตล์การแต่งห้องพระที่เหมือนกันหมดทุกบ้านไม่ว่าจะเป็นชุดหิ้งพระ ชุดโต๊ะหมู่บูชา ลวดลายแกะสลักก็หนีไม่พ้นกัน แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปพบเคล็ดไม่ลับกับการจัดห้องพระให้ออกแนวโมเดิร์น โดยที่ไม่ทิ้งหลักการจัดห้องพระที่ถูกต้องกันครับ

การจัดห้องพระแบบโมเดิร์น
          การจัดห้องพระแบบโมเดิร์นนั้น ก่อนอื่นเราต้องรู้หลักการจัดห้องแบบโมเดิร์นกันเสียก่อน การจัดห้องแบบโมเดิร์นนั้นมักจะมาพร้อมกับคำว่ามินิมอล หรือน้อยๆ แต่งาม ดังนั้นการจัดห้องพระแบบโมเดิร์นจึงไม่ควรมีข้าวของเครื่องใช้ในห้องมากนัก ควรเน้นแต่ส่วนหลักให้ครบองค์ประกอบของการจัดโต๊ะหมู่บูชาเท่านั้น
          นอกจากนี้ เมื่อหลักหัวใจสำคัญของโมเดิร์นก็คือ การลดทอนรายละเอียดที่ซับซ้อนกลับมาสู่ความเรียบง่าย และโล่งโปร่งสบายตา เหมือนที่เราเห็นตามโชว์รูมแต่งบ้านแบบโมเดิร์นนั่นล่ะครับ ดังนั้นในห้องพระจึงไม่ควรมีสิ่งรกรุงรังของของแกะสลักลวดลายวิจิตรพิสดารมากนัก
สิ่งที่ไม่ควรมีในห้องพระโมเดิร์น
          ลูกกรอก รักยม กุมารทอง ขวดน้ำมันพราย ไม่เหมาะสำหรับการจัดแบบโมเดิร์นเป็นอย่างยิ่ง นี่คือสิ่งของที่พึงระวัง ถ้าเราคิดจะแต่งห้องโมเดิร์น ส่วนพระเครื่อง ตะกรุด ของปลุกเสก ผ้ายันต์ รวมทั้งบรรดาเครื่องรางของขลังทั้งหลายของวัดต่างๆ ควรนำมาเก็บรวมใส่ถาดหรือกล่องไว้ในที่เดียวกัน
          บางคนเป็นคนชอบสะสม หรือมีคนให้มาเสมอๆ ก็ตาม การจัดวางควรให้เป็นลำดับกันจึงถือว่าดี ตามความเหมาะสมที่เจ้าของบ้านเห็นว่าดี เพราะความเชื่อของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน บางคนว่าหลวงพ่อองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์ จะเก็บไว้ในกล่องไม่ได้ บางคนว่าหน้าห้องพระต้องมีผ้ายันต์ บ้างก็ว่ากุมารทองให้โชคยังไงก็ต้องมี อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธา แต่ควรจะเลือกจัดเท่าที่จำเป็นเท่านั้นก็พอ

ในจำนวนบ้านของคนไทยพุทธแทบจะเรียกได้ว่าทุกหลังคาเรือนจะต้องมีห้องพระหรือหิ้งพระประจำบ้าน ถ้าเป็นห้องเล็กๆ ก็มักจะทำเป็นหิ้งพระบูชา ส่วนบ้านหลังใหญ่ก็จะเป็นห้องพระแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน และสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันทุกบ้านก็คือ สไตล์การแต่งห้องพระที่เหมือนกันหมดทุกบ้านไม่ว่าจะเป็นชุดหิ้งพระ ชุดโต๊ะหมู่บูชา ลวดลายแกะสลักก็หนีไม่พ้นกัน แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปพบเคล็ดไม่ลับกับการจัดห้องพระให้ออกแนวโมเดิร์น โดยที่ไม่ทิ้งหลักการจัดห้องพระที่ถูกต้องกันครับ

การจัดห้องพระแบบโมเดิร์น
          การจัดห้องพระแบบโมเดิร์นนั้น ก่อนอื่นเราต้องรู้หลักการจัดห้องแบบโมเดิร์นกันเสียก่อน การจัดห้องแบบโมเดิร์นนั้นมักจะมาพร้อมกับคำว่ามินิมอล หรือน้อยๆ แต่งาม ดังนั้นการจัดห้องพระแบบโมเดิร์นจึงไม่ควรมีข้าวของเครื่องใช้ในห้องมากนัก ควรเน้นแต่ส่วนหลักให้ครบองค์ประกอบของการจัดโต๊ะหมู่บูชาเท่านั้น
          นอกจากนี้ เมื่อหลักหัวใจสำคัญของโมเดิร์นก็คือ การลดทอนรายละเอียดที่ซับซ้อนกลับมาสู่ความเรียบง่าย และโล่งโปร่งสบายตา เหมือนที่เราเห็นตามโชว์รูมแต่งบ้านแบบโมเดิร์นนั่นล่ะครับ ดังนั้นในห้องพระจึงไม่ควรมีสิ่งรกรุงรังของของแกะสลักลวดลายวิจิตรพิสดารมากนัก
สิ่งที่ไม่ควรมีในห้องพระโมเดิร์น
          ลูกกรอก รักยม กุมารทอง ขวดน้ำมันพราย ไม่เหมาะสำหรับการจัดแบบโมเดิร์นเป็นอย่างยิ่ง นี่คือสิ่งของที่พึงระวัง ถ้าเราคิดจะแต่งห้องโมเดิร์น ส่วนพระเครื่อง ตะกรุด ของปลุกเสก ผ้ายันต์ รวมทั้งบรรดาเครื่องรางของขลังทั้งหลายของวัดต่างๆ ควรนำมาเก็บรวมใส่ถาดหรือกล่องไว้ในที่เดียวกัน
          บางคนเป็นคนชอบสะสม หรือมีคนให้มาเสมอๆ ก็ตาม การจัดวางควรให้เป็นลำดับกันจึงถือว่าดี ตามความเหมาะสมที่เจ้าของบ้านเห็นว่าดี เพราะความเชื่อของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน บางคนว่าหลวงพ่อองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์ จะเก็บไว้ในกล่องไม่ได้ บางคนว่าหน้าห้องพระต้องมีผ้ายันต์ บ้างก็ว่ากุมารทองให้โชคยังไงก็ต้องมี อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธา แต่ควรจะเลือกจัดเท่าที่จำเป็นเท่านั้นก็พอ
การเลือกของและการจัดให้โมเดิร์น
สิ่งที่จะทำให้เราหลุดพ้นจากภาพห้องพระแบบไทยเดิมๆ ก็คือ การเลือกสิ่งที่จะนำมาใช้ตกแต่งห้องพระให้แปลกและแหวกแนวกว่าที่เคย หัวใจสำคัญในการเลือกซื้อของมี 2 อย่างก็คือ
1. รู้ที่ต่ำที่สูง คือรู้ว่าอะไรควรไม่ควรที่จะนำไปจัดวางใกล้กับพระ
2.การประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมโดยอิงหลักข้อ 1 อย่างเช่น การเลือกหาซื้อโต๊ะเล็กสีขาวเรียบเพื่อดัดแปลงมาวางเป็นโต๊ะหมู่บูชา เปลี่ยนเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ที่ใส่เครื่องรางของขลังมาเป็นโหลแก้วใหญ่อย่างดี หรือจะนำเอาแท่นหินทรายเหลี่ยมผิวเรียบ มาจัดวางเรียงเป็นชุดโต๊ะบูชาก็ดูเท่ไม่หยอก

ห้องพระแนวโมเดิร์นควรมีความน่าสนใจที่เกิดจากการผสมผสานความสงบนิ่งแบบพุทธศาสนาและดีไซน์ที่มีความเคลื่อนไหวแบบสมัยใหม่ ห้องพระไม่จำเป็นต้องเชยด้วยการเลือกหาเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องที่ช่วยสร้างบรรยากาศความขลัง โดยนำเอาศิลปะไทยมาตกแต่งให้เกิดสไตล์ที่โดดเด่น เข้ากันได้ดีกับเฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัยที่มีตั้งแต่แนวเก่าๆ ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์แนวใหม่ ความผสมผสานนี้เป็นไปอย่างพอเหมาะ เพิ่มความขลังให้กับบรรยากาศของห้องพระได้ไม่น้อย
         

นอกจากนี้ เราสามารถเพิ่มแสงให้โต๊ะหมู่บูชาด้วยโคมไฟสุดหรู เลือกเชิงเทียนสไตล์ยุโรปแทนแบบไทยๆ หัวใจของห้องพระโมเดิร์นก็คือพระพุทธรูปที่มีสัดส่วนงดงามเราสามารถหาเช่าได้ในหลายๆ ที่ที่หล่อพระพุทธรูปออกมาเป็นงานศิลปะ แล้วนำมาให้หลวงพ่อที่วัดท่านปลุกเสกทีหลังก็ได้



แอบมาจากโพสต์ทูเดย์ บ้านจะได้ดูสวยงามมีสไตล์ไปในตัว สไตล์นี้เรียกได้ว่า D.I.Y ออกแนวตามใจเจ้าของบ้าน แต่ถูกหลักตามตำรานั่นหละ (เพราะสมัยนี้บ้านออกแนวโมเดิร์น) ว่ากันไป.....ทีนี้มาดูห้องพระตามตำรา ก่อนไปเดินจตุจักรตามเก็บของตกแต่งบางชิ้นให้เข้ากับห้องพระดีป่าวค่ะ... :009:

ห้องพระตามตำรา
เมื่อเราได้ของที่จะแต่งห้องพระแบบโมเดิร์นแล้วนั้น ก็ถึงคราวต้องนำมาจัดวางให้เหมาะสมที่ถูกที่ควร ตามตำราของอาจารย์มาโนช ประภาษานนท์ ได้ดังนี้

1. ห้องพระวางชั้นบนดีกว่าชั้นล่าง เพราะพระเป็นของสูง เป็นที่สักการบูชา หากวางต่ำกว่าคนในบ้านย่อมไม่เป็นมงคลแน่ๆ

2. ห้องพระห้ามติดกับห้องน้ำ เหตุผลในเชิงฮวงจุ้ยบอกว่า ห้องน้ำเป็นธาตุน้ำ ห้องพระเป็นธาตุไฟ เชื่อกันว่าบ้านที่วางห้องพระติดกับห้องน้ำความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระจะเสื่อม เพราะถูกพลังของธาตุน้ำบั่นทอนนั่นเอง แต่ถ้าจำเป็นต้องวางติดกันก็ควรหาฉากมาวางกั้นระหว่างห้องน้ำ อย่าหันองค์พระไปทางห้องน้ำหรือวางองค์พระพิงผนังห้องน้ำก็ใช้ได้แล้ว

3. ห้องพระต้องอยู่ในทำเลที่สงบ ควรเลือกทำเลที่ดีที่สุดในบ้านและคนในบ้านเดินผ่านไปมาน้อยที่สุดมาเป็นห้องพระ ในกรณีของห้องพระแบบโมเดิร์นมักจะนิยมจัดวางให้ห้องโถงโล่งและมีชุดโต๊ะหมู่บูชาตั้งเด่นอยู่กลางห้อง พร้อมแวดล้อมไปด้วยของตกแต่งเพิ่มความขลังอีกไม่กี่ชิ้น

4. ถ้าห้องพระติดกับห้องนอนให้ระวังเรื่องการวางเตียง ไม่ควรหันปลายเตียงไปทางห้องพระ เป็นการดูไม่เคารพ ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรหันหัวเตียงไปติดกับห้องพระที่เป็นธาตุไฟ เพราะเชื่อว่าจะทำให้ผู้นอนนั้นนอนไม่หลับ ปวดหัว เป็นต้น
         
เพียงเท่านี้เราก็จะได้ห้องพระแบบโมเดิร์นที่แฝงไปด้วยความขลัง และยังคงความศักดิ์สิทธิ์ตามหลักการจัดวางห้องพระที่ถูกต้อง แต่หลังจากนี้ควรหมั่นทำความสะอาดองค์พระ เปลี่ยนดอกไม้ ถ่ายน้ำในแจกันอยู่เสมอ ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉานั้นคล้ายกับการบ่งบอกถึงจิตใจที่เศร้าหมอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือการได้ปฏิบัติธรรม ไหว้พระ สวดมนต์ แผ่จิตเมตตา กับทุกสรรพสิ่งในสากลโลก ห้องพระก็จะเป็นห้องพระที่สมบูรณ์มากกว่าห้องพระที่มีให้โชว์เพียงอย่างเดียว

8
[shake]ตุ๊กแก หลวงพ่อครื้นโชว์[/shake][/size]

อยากเก็บเอาไว้ทั้งสองตัว...ค่ะ หลวงพ่อครื้น..วัดสังโฆ

ตุ๊กแกหันข้าง..


ตุ๊กแกหน้าตรง..


พบกับสีเขียวมั่ง..




ภาพเดี่ยวดูเหงา ตุ๊กแกหลวงพ่อครื้นคู่กัน มหาลาภ มหาลาภ..




เกรียวกราวไปกับตำนานตุ๊กแกมหาลาภหลวงพ่อครื้น แอคชั่น!!.. ... [shake]cho.  :009: [/shake]

9
เหรียญพระตรีมูรติเนื้อเงิน ของอาจารย์หม่อม (ศุภณัฐ) กว่าจะได้มาเลือดตาแทบกระเด็น!

งานนี้ชอบอย่างเดียว..ใจรักเต็มร้อย! ไม่สนกระแส.. เงินเดือนหมดตัว!  :070:

เหรียญตรีมูตินี้มีสร้างเนื้อเงินอย่างเดียว.. สร้างน้อยสัก 200 องค์เห็นจะได้
..



เทพมูรติ พุทธคุณครอบจักรวาลค่ะ..มหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม มหาอุด แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภการเงิน


ลายยันต์ตื้น ขนาดวงรีพอเหมาะ...ปลอมยากจึงไม่ต้องใช้ประสบการณ์ใดๆ ตีเก๊-แท้เลย!

10
ความผูกพัน หมายถึง การเกาะเกี่ยวกันทางใจด้วยความรักหรือความโกรธเกลียด หรือความหลง ทำให้ปล่อยวางหรือลืมเรืองนั้นเสียไม่ได้ สิ่งนั้นก็จะเกาะติดอยู่ในใจติดตามตัวไปทุกแห่งทุกหน ทำให้หาความผาสุก ความเป็นอิสระไม่ได้

เหมือนขาที่ถูกคล้องไว้ด้วยโซ่ตรวน ย่อมจะหนักและเดินลำบาก การมีความผูกพันกับสิ่งใด คนใด เรื่องใด ก็ไม่ต่างกับการมีโซ่ตรวนล่ามขาอยู่ฉะนั้น

การผูกพันกันด้วยความรัก :090: ใช่ว่าจะทำให้เกิดความสุขเสมอไป เมือมีความรักก็ย่อมมีความห่วงใยเป็นธรรมดา อยากให้คนที่ตนรักเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หรือไม่เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ความอยากของคนเราใช่ว่าจะได้ดังที่อยากเสมอไปก็หาไม่ บางครั้งก็ไม่สมอยาก พระพุทธองค์จึงได้ทรงตรัสสอนว่า "ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง แปลว่า ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์"

การผูกพันด้วยความโกรธ ความเกลียด :043: โดยไม่ละ ไม่วาง ยังผูกใจเจ็บแค้นกันอยู่ตลอดเวลา ก็เหมือน เอาโซ่ตรวนล่ามกันไว้เช่นกัน การที่จะอธิษฐานจิตว่า "เกิดชาติใดขออย่าให้ได้พบได้เจอคนอย่างนี้อีกเลย" ก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะใจเราผูกพันกับเขาด้วยความโกรธ ความเกลียด ความชิงชังอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยแกะโซ่ตรวนที่ล่ามติดกับเขาไว้ แล้วจะพ้นจากคนที่เราไม่ชอบได้อย่างไร ตราบใดที่ยังไม่แกะโซ่ตรวนออกก็ต้องตามผจญกรรมกันไปทุกภพทุกชาติ ไม่ว่าจะอธิษฐานอย่างไร

[shake]ง่ายนิดเดียว![/shake]
[/size]
ถ้าไม่ชอบใคร ไม่อยากเจอใคร ต้องทำใจไม่ให้นึกถึงคนนั้น เรื่องเกี่ยวกับคนนั้น หรือถ้านึกถึงก็ให้น้อยที่สุด ยิ่งอโหสิกรรมหรือให้อภัยกันเสีย ก็จะมีโอกาสหนีพ้นจากกัน เปรียบเหมือนแกะโซ่ตรวนออกแล้ว ก็ย่อมเป็นอิสระ ไม่ต้องไปเผชิญเวรเผชิญกรรมกันอีกทุกภพทุกชาติ ยิ่งทำดี มีเมตตากรุณากับผู้ที่เราไม่ชอบ ผลแห่งกรรมดีที่เรากระทำยิ่งสูงกว่าคนที่เราไม่ชอบเท่าใด ภพ ภูมิก็จะต่างกันเท่านั้น ยิ่งเกลียด ยิ่งไม่อยากเห็นหน้ากัน ก็อย่าฝังใจอยู่ทุกวี่วัน ยิ่งจะดึงเขาเข้ามาหาเรามากขึ้นเท่านั้น จึงต้องตามผจญกันไปทุกชาติ อยากให้พ้นจากใคร ก็จงให้อภัยทาน จะได้หมดเวรหมดกรรมกัน

การผูกพันด้วยความหลง เป็นเรื่องหนักกว่าเพื่อน เพราะผู้ที่มีความหลงก็คือ เห็นสิ่งที่ผิดเป็นถูก เห็นสิ่งที่ไม่งามเป็นสิ่งที่งาม ฯลฯ ที่โบราณเรียกว่า "เห็นกงจักรเป็นดอกบัว" คือเห็นสิ่งที่เป็นอันตราย (กงจักรเป็นอาวุธที่อันตราย) ว่าเป็นของที่น่ารัก น่าบูชา แม้ใครจะบอก ใครจะเตือน ก็ไม่สามารถจะเอาชนะความงมงายหรือความหลงได้ ผู้ที่มีความผูกพันด้วยความหลง จึงจัดเป็นผู้ที่น่าสงสารที่สุด จะอยู่ในสภาพที่เรียกว่า "มดไต่ขอบกระด้ง" หาทางออกไม่ได้ ก็วนเวียนอยู่อย่างนั้นไม่รู้จบ ชีวิตที่มีความผูกพันกับสิ่งใดมากเกินไป ไม่เคยให้ความสุขแก่ผู้ใดเลย รักมากก็ห่วงมาก กลุ้มมาก เกลียดมากก็ร้อนใจมาก จะเห็นว่าล้วนเป็นบ่อเกิดแหงทุกข์ทั้งสิ้น

การเดินสายกลาง อย่าไปผูกพันยึดติดกับสิ่งใด และรู้จักปล่อยวาง จะเป็นหนทางดับทุกข์ได้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าเราเลี้ยงสุนัข เรารักเขามาก ผูกพันกับเขาเหลือเกิน แต่อายุขัยของสุนัขน้อยกว่าคนมาก จึงมักตายก่อน เจ้าของผู้มีความผูกพันกับสุนัขตัวนั้น ก็จะเศร้าสร้อยไปพักหนึ่งทีเดียว ความรักความปรานีเราจะให้แก่ใครก็ได้ และเป็นสิ่งที่ควรให้ แต่การผูกพัน การยึดติดนั้นเป็นเรื่องอันตราย เป็นเหตุแห่งทุกข์ ไม่อยากมีทุกข์ ก็อย่ายึดติด หรือผูกพันกับสิ่งหนึ่งสิ่งใด รู้จักปล่อยวาง รู้จักหาอิสรภาพให้แก่ตนเอง จะเป็นสุขในที่สุด... [/size] บทความโดย รศ.พญ.จิรพรรณ มัธยมจันทร์ copy by cho. presley..

Cho's Talk: จ๊ะเอ๋เช้าวันจันทร์หลังจากหยุดมาต่อเนื่อง 3-4 วัน.. มีเพื่อนสาว Lady Boy จ๊ะเอ๋ทักทายด้วยบทความนี้...อ่านแล้วได้ความหมายคำว่าผูกพันอย่างลึกซึ้ง ตรึงใจ...รู้เลยว่า...คำตรงกันข้ามกับคำว่ารักมาก คือเกลียดมาก...ไม่ใช่ เฉยๆ นะ..จัดไปค่ะ! ..

 

 

 

11
พูดเท็จ-ส่อเสียด-หยาบคาย-เพ้อเจ้อ 4 อกุศลบาปทางวาจา by cho.

สวัสดี Saturday Seiko..ใครเป็นแฟนานุแฟนป๋าเทพ โพธิ์งาม ตลกคราวพ่อที่มีชื่อเสียงโด่งดังยังไม่เห็นดับ คงได้ทราบข่าวกันแล้วว่าป๋าเทพกำลังจะจัดทอล์คโชว์ของตัวเอง.. พอฟังแล้วก็ขำขำ…ใครๆ ก็ลือกันให้แซ่ดว่าป๋าทำอะไรไม่เคยจะสำเร็จเลย เจ้งลูกเดียว.. ตลกหนอตลก.. เรื่องเจ๊งก็เอามาขำกันได้.. ‘ป๋าเจอมาเยอะ..’  วลีนี้เป็นที่ฮือฮาติดปากกันไปอีกระลอก.. คนอะไรฮาโคตรตั้งแต่หนุ่มยันแก่.. ฮาเพราะอะไรก็เพราะ ‘ปาก’ และท่าทางของป๋าเทพแกนั่นหละ.. ไม่รู้สิชอบ..คงต้องหาโอกาสสร้างความบันเทิงเริงรมย์ให้กับตนเองไปดูแกสักหน่อย..

พอพูดถึง ‘ตลก’ กับ ‘การพูดจา’ คนชมป่านนี้ก็ยังไม่ทราบเวลาเขาเอาเรื่องมาอำกันให้คนดูขำ..บ้างก็ตบหัว..รุ่นพ่อ รุ่นพี่ รุ่นน้องนับรุ่นกันยังไงก็ไม่โกรธเพราะทราบถึงเจตนาทำมาหากินค่ะ.. อ้าว..แล้วในโลกแห่งความเป็นจริงเล่า?...
การพูดจา…มีความสัมพันธ์อย่างไรกับบาปกรรม ฟังพระว่าเรื่องธรรมมะมาเยอะ...มาฟังคนมีกิเลสอย่างดิฉันคุยเรื่องธรรมะกันอีกสักครั้ง

ความหมายของบาปการพูดทั้ง 4
พูดเท็จ=เอาเรื่องไม่จริงมาพูด
พูดส่อเสียด=พูดจาให้คนทะเลาะกันโกรธกัน
พูดคำหยาบ=พูดจามีเจตนาให้คนอื่นโกรธ
พูดเพ้อเจ้อ=กล่าวาจาไม่มีหลักฐาน


4 การทำอกุศลทางวาจาเหล่านี้..เป็นภาคต่อจากการทำอกุศลทางใจในหัวข้อเรื่อง ไฮไลท์มันสำคัญที่ตัวอิจฉา.. http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,13033.html  เพราะเมื่อเรามีจิตใจอกุศล ที่ดำริมาจากใจนั้น…เราจะเริ่มลงมือทำบาปอกุศลทางวาจานั่นเอง… มาเช็คบาปกันทีละข้อ!

พูดเพ้อเจ้อ: พระไตรปิฏกเขียนว่า ‘คือ พูดในเวลาที่ไม่ควรพูด พูดเรื่องที่ไม่เป็นจริง พูดไม่เป็นประโยชน์ พูดไม่เป็นธรรม พูดไม่เป็นวินัย กล่าววาจาไม่มีหลักฐาน ไม่มีที่อ้าง ไม่มีที่สุด ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ โดยกาลไม่สมควร’
Check it out: โอะโอว..อกอีแป้นจะแตก..ตามความหมายจากพระไตรปิฏกชัดเจนตรงประเด็นเลย ตัวอย่างมีให้เห็นทั่วไป ขายข่าวGossipดารา ---- คนอ่านอ่านเสร็จตั้งสภาเม้าท์กระจาย--- นี่แหละ พูดเพ้อเจ้อแล้ว… เพราะเรานำมาพูดต่อโดยไม่มีหลักฐานไงหละ เรื่องจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เลย บาปแล้วค่ะ! โหเราทำบาปมาเยอะแล้วหรือนี่?

พูดคำหยาบ: พระไตรปิฏกเขียนว่า ‘คือการกล่าววาจาที่เป็นคำหยาบอันเผ็ดร้อนแก่ผู้อื่น อันขัดใจผู้อื่น อันใกล้ความโกรธ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบจิต’
8 ลักษณะของคำหยาบ
ด่า=พูดว่ากล่าว
ประชด=พูดยกจนลอย
กระทบ=เปรียบเปรยให้เจ็บแค้นใจ
แดกดัน=เสียดสี
ล้อเลียน=พูดปมด้อย
สบถ=แช่ง
หยาบโลน=คำที่สังคมรังเกียจ
อาฆาต=  พูดให้หวาดกลัว

Check it out! ไอ้เหี้ยชิด ไปแดกเหล้ากัน แม่งเซ็งหวะแฟนกูทิ้ง ไปร้านแดกถล่มอีน้ำหวานกันแม่งเพิ่งเปิดร้านใหม่แถวบ้านมึงหงะ’  ใครฟังประโยคนี้ยังไงก็ต้องฟันธงว่าเป็นคำหยาบ.. แต่มาเช็คกับพระไตรปิฏกแล้วถือว่าไม่บาปหากไอ้ชิดฟังแล้วไม่ได้รู้สึกโกรธ..แถมยังเห็นใจเลี้ยงเหล้าได้อีก

ตายพอดีไม่งั้นคงลงนรกเพราะพูดแบบนี้กันหมด แหมบางทีดิฉันยังแอบพูดประจำ อย่าสงสัยเลยคนทำงานเบื้องหลังดันให้คนอื่นเขาดัง เขียนสวยได้ ก็เขียนซ่าส์-พูดซ่าส์ได้เหมือนกัน ฮาดีออก หลุดเฟรมกันตลอดหละคนทำงานแบบนี้…เราเน้นเรื่องเจตนาเป็นหลัก ส่วนพับบลิคเป็นเรื่องทำมาหากิน… เฮ่อ! โล่งอกถือว่าเราและพวกพ้องไม่ต้องเอี่ยวกับการไปลงนรก..เพราะเรื่องนี้!

‘หืมมม.. น้องชดช้อย สวยมากกกก..เกินนะคะ วันนี้’ (มีลากเสียงและสายตาจิกๆ เล็กน้อย)
ฟังแล้วยังต้องคิด ตกลงมันด่าหรือมันชม?  อ่ะงานนี้คงต้องว่ากันที่เจตนาแล้วค่ะ..

‘อุ้ย… อาหารร้านนี้รสชาติอร่อยลิ้นสุนัขไม่รับประทาน ดูคุณพิพัฒน์ชัยสิ.. ทานแล้วทำหน้าเหมือนส้นตีนแช่แฟ๊บเลย..ไว้โอกาสหน้าจะมารับประทานใหม่นะคะ’   ใครฟังประโยคนี้ไม่ต้องแปลแล้ว  มึงด่ากูเต็มๆ แต่ไม่เห็นมีคำหยาบ (ที่เราเคยเข้าใจว่าหยาบ) เอาหละ ถ้าพูดซะโจ่งแจ้งขนาดนี้ต่อหน้า face to face คงไม่ต้องไปแปลให้มากความตบสักพลั้วที่กกหูคงไม่เป็นไร..555

โอะโอว..เห็นกันมากมายค่ะ พูดจาด่าว่าคนที่ตนไม่ชอบให้อีกฝั่งโกรธกันแล้วโกหกตัวเองว่า เปล่า..ไม่ได้ว่าใคร!  ของแบบนี้อยู่ที่ใจเรา.. มีเจตนาอะไร ทุกอย่างสำคัญที่ใจ? วิเคราะห์พระไตรปิฏก คัมภีร์ตัดสินชี้ผิดถูกนั้น คงต้องเลือกเปลี่ยน…เปลี่ยนพฤติกรรมแทนการสะสมบาปไปลงนรก!

พูดส่อเสียด พระไตรปิฏกเขียนว่า ‘คือ ได้ฟังข้างนี้แล้วนำไปบอกข้างโน้น เพื่อทำลายพวกข้างนี้บ้าง หรือฟังข้างโน้นแล้วนำไปบอกข้างนี้ เพื่อทำลายข้างโน้นบ้าง ยุพวกที่พร้อมเพรียงกันให้แตกกันไปบ้าง ส่งเสริมพวกที่แตกกันบ้าง ชอบใจคนที่แตกกันเป็นพวก ยินดีในความแตกกันเป็นพวก ชื่นชมในพวกที่แตกกันและกล่าววาจาที่ทำให้แตกกันเป็นพวก’
Check it out!  อันนี้น่าสนใจมาก.. บาปที่ทำเป็นอาจิณของเราท่าน.. แต่ยังดันทุรังบอกว่าฉันพูดจริงนะยะ นี่หละตัวปัญหา เพราะแม้พูดความจริงแต่มีเจตนา ย้ำนะคะว่าเจตนา ทำให้คนเกลียดกันแตกแยกกัน ก็จะบาป สังเกตุดีๆ ว่าเรื่องทำบาป บอกว่าไม่ตั้งใจมันก็บาป แต่กรรมที่ต้องชดใช้มันไม่เท่ากัน จะแตกต่างตรงที่เจตนา! ฉะนั้น การที่เราจะนำความของคนรัก เพื่อนสนิทกันจากฝั่งหนึ่งไปบอกอีกฝั่งหนึ่ง ก็ควรต้องคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ เหตุเพราะอาจจะทำให้ แตก ขึ้นได้.. อาทิ
‘ฉันเห็นชิดชัยแฟนหนุ่มของหล่อนไปกับนังหมวยผมหน้าม้าหน้าจืดๆนะยะ นังชะนีคนนี้หรือเปล่าที่โทรมาร้องห่มร้องไห้กับหล่อนว่า ให้หล่อนเลิกกะชิดชัย.. ชิดชัยก็เลวนะไปบังคับให้มันทำแท้ง ฉันก็สงสารหล่อนนะยะ ช่างมันเถอะในเมื่อมันท้องแล้วเธอคงทำอะไรไม่ได้.. ว่าแต่ว่า แล้วมันทำแท้งหรือยังยะหล่อน ถ้าใช่คนเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย? ฉันหวังดีนะยะ ขอเตือนเธออย่าไปยุ่งกับมันอีก‘  ความปรารถนาดีโดยไม่มีเจตนาเลวร้ายแอบแฝงแม้เป็นความจริง แต่ก็อาจทำให้เขาและเธอ ต้องวางมวยทะเลาะกันก็ได้…อีกพวกคือพวกชอบเม้าท์นินทาชาวบ้านอย่างเมามัน ระวังจะตกนรก เพราะกรรมจากการพูดส่อเสียดสุดท้ายก็จะมาทำให้ชีวิตเราแย่ตกต่ำได้.. ประมาณว่าเข้าใจผิดนึกว่าตนดีเลิศ เลยเที่ยวว่ากล่าวเขานั่นหละ

พูดเท็จ พระไตรปิฏกเขียนว่า  เมื่อเขาไม่รู้ก็บอกว่ารู้บ้าง เมื่อรู้ก็บอกว่าไม่รู้บ้าง เมื่อไม่เห็นก็บอกว่าเห็นบ้าง เมื่อเห็นก็บอกว่าไม่เห็นบ้าง เป็นผู้กล่าวเท็จทั้งที่รู้อยู่ เพราะเหตุตนบ้าง เพราะเหตุผู้อื่นบ้าง เพราะเหตุเห็นแต่สิ่งเล็กน้อยบ้าง’
7 ลักษณะของการพูดเท็จ
ปด=โกหกจังๆ
ทนสาบาน=ทำผิดไม่ยอมรับ
ทำเล่ห์กระเท่ห์=อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงให้หลงเชื่อ
มารยา=แสร้งทำให้หลงเชื่อ
ทำเลศ=ให้ผู้อื่นตีความคลาดเคลื่อนเอาเอง
เสริมความ=พูดเรื่องมีมูลน้อยให้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้น
อำความ=ปกปิดเรื่องมากให้เป็นเรื่องเล็ก..

Check it out!   การพูดเท็จ คือเจตนาให้ฟังผิดจากเป็นความจริง อีกทั้งยังรวมถึงเรื่องการพูดให้ผู้อื่นหลงผิดด้วย โอ้โห..พอมาแจงในรายละเอียดคำพูดเท็จ.. มันยิบย่อยแท้.. บาปข้อนี้บอกได้เลยว่า ทำง่าย.. บางคนก็ทำเป็นอาจิณโกหกเล็กๆน้อยๆไปเรื่อยตั้งแต่เด็ก.. ไม่นานก็กลายเป็นโกหกใหญ่ พอโกหกใหญ่มักจะแฝงด้วยวัตถุประสงค์อื่นๆตามมาเช่น ‘โกหกว่าชอบ ว่ารักแล้วลวงไปขืนใจ..ผู้หญิงก็อายไม่ปริปากพูดอะไร ทนก้มหน้ารับกรรม เลยตามเลยเพราะคำว่า รัก…มันค้ำคอ! จะแจ้งความหรือก็อายประชาชี ทนให้ผู้ชายเลวซ้ำเติมตบตี เพราะไม่กล้าแจ้งความ ’ หากเราอ้างอิงหลักการของพระพุทธเจ้าตามนี้แล้ว.. เข้าใจเวลาเลยค่ะว่า พระต้องไม่มุสาอย่างแน่นอน.. เพราะเคยมีคนบอกว่า ’พระองค์นี้มุสา เธออย่าไปเชื่อ’ เอ๊ะ..ทั้งๆที่พระองค์นี้เขาก็เล่าเองว่า.. เขารู้จักตั้งแต่อายุ 15? … พระท่านรู้ศีลขนาดนี้ไหนจะปฏิบัติตนมาหลายพรรษา ยกเว้นท่านจะได้ฟังความผิดๆ แล้วมาเล่าต่อ! เอ้าระยำจริง พระผิดเหรอเนี่ย? รับบาปในนรกกันไปค่ะ

คนมีกิเลสเสวนาเรื่องธรรมะ.. ถือเป็นการเช็คบาปกรรมกับตัวผู้เขียนเอง..หลวงพ่อสอนไว้ ปากสุนัขไม่มีงาช้าง.. เจตนาใครทำอย่างไรทราบกับใจตัวเอง..ไม่ต้องไปโชว์โง่ให้ใครเขานินทาหาว่า 'ถ่มน้ำลายรดฟ้า ยังไง้ก็รดถึงหน้าตัวเองเหม็นฉึ่ง..' เอาน่า..ทุกอย่างสำคัญที่ใจ..

ไม่สรุปเนื้อหาแล้วนะคะ ขอจบดื้อๆ ไปกินข้าวมันไก่มื้อเช้า อะโอววว...กำลังร้อนๆ เชียว!

อนุโมทนาธรรมทานให้แก่ครอบครัว ครูบาอาจารย์ รวมถึงคนที่ดิฉันรัก คนรัก เคยรัก กำลังจะรัก และรักดิฉันทุกคน (ที่ต้องกล่าวเช่นนี้เพราะเกรงคนเข้าใจผิดคิดอกุศล) เจ้ากรรมนายเวรผู้ใดที่ดิฉันได้เคยล่วงล้ำไม่ว่าจะตั้งหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ขอให้มีส่วนได้ธรรมทานบุญครั้งนี้ด้วย…ขอให้พวกเขามีความสุขกับบุญนี้ ขอบุญกุศลครั้งนี้จงทำให้เขาอโหสิกรรมให้ดิฉันด้วยเถิด!..


many inspiration thanks to pra-trai-bi-dok
wrote by cho. presley

12
ไฮไลท์มันสำคัญที่ตัวอิจฉา?
สมัยนี้.. ความบันเทิงที่หยิบฉวยได้ทันใจของมนุษย์มีกิเลสอย่างเรา คงหนีไม่พ้น ไปดูภาพยนต์ตามห้างสรรพสินค้า
พอปรับโฉมปรับโรงมีพรม มีเดคคอเรต มีป๊อปคอร์น จากตั๋วหนังควบ 40 ดูได้ตั้งสองเรื่องกี่รอบก็ได้ ก็กลายเป็น 100 เป็น 120 เผลอแพล๊บเดียวมี Love Seat เก้าอี้พิเศษ
สรุปว่าดูหนังทีหมดหลายตังค่ะ… ว่าด้วยหนังไทย ความสนุกสนานของชนชั้นกลางระดับชาวบ้านอย่างเรา ย่อมอินกับตัวละคร นางเอก พระเอก แต่ไฮไลท์มันสำคัญที่ ตัวอิจฉา..  
นั่นมันในละคร.. การแสดงหนัง ละคร ต้องสวมบทบาทให้เห็นๆ ว่า .. นี่นะ ฉันเป็นตัวอิจฉา.. หากใครเคยมีโอกาสได้สัมผัสเหล่าดารา ศิลปิน แบบใกล้ชิด พบว่าส่วนใหญ่เขาเป็นตัวของตัวเองมาก อย่าไปเต้นแร้งเต้นกาว่านิสัยจะเหมือนบทที่เขาเคยได้รับ เอาทุเรียนไปปาเขา ชิงชังเขาตามบทบาทที่เขาแสดงได้สมจริง
ด้วยความสามารถเฉพาะตัวของเขาทำให้คนดูมักนำเขาเป็นไอดอลลอกเลียนแบบ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง
พฤติกรรมคนอิจฉา ริษยา ไม่แสดงออกให้เห็นโจ่งแจ้งแบบในหนัง แบบว่ากรีดส์ วี้ดว้าย กระทืบขาไม่ยอม จิกหัวตบ
มายาในโลกมนุษย์ ผู้คนจะแสดงออกถึงการเป็นตัวอิจฉา ด้วยวิธีการต่างๆเพื่อเชื่อมโยงให้เห็นถึงผลลัพธ์ ‘กูไม่อยากให้มึงได้ดี’
เหล่านี้เห็นได้ทั่วไป เมื่อคิดว่าไม่มีผลประโยชน์ซึ่งกันแล้ว ก็รวมสติหากรรมวิธีชั่วช้าสามัญมาสานพันธกิจ ‘ทำอย่างไรเพื่อให้มึงฉิบหาย’
เพื่อสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลัก ‘กูไม่อยากให้มึงได้ดี’ วันนี้เลยว่าเรื่องบาปกรรมจากความอิจฉาริษยากันดีกว่า

คุณทราบไหมว่า ความอิจฉา ริษยา คือบาปกรรม ที่ต้องชดใช้เช่นกัน?
มีจิตริษยาบาปอย่างไร?
พระไตรปิฏกเขียนว่า: มึความดำริในใจอันชั่วช่า ขอสัตว์เหล่านี้จงถูกฆ่าบ้าง จงถูกทำลายบ้าง จงขาดสูญบ้าง อย่าได้มีแล้วบ้าง
เอาความตามความหมายภาษาชาวบ้าน หมายถึง ผู้นั้นมีความพยาบาท โกรธ ถือว่าเป็นการประกอบอกุศลกรรม ทางกาย อย่างหนึ่ง…

มนุษย์มีกิเลสอย่างเรา หากมิได้ศึกษาธรรมลึกซึ้ง จะไม่ทราบชี้ชัดหรอกว่า อะไรคือบาป อะไรคือบุญ เพราะใครๆ ก็ต้องคิดว่าตัวเองดี คนอื่นเลวกันทั้งนั้น….งั้นลองฟังคนมีกิเลสอย่างดิฉันคุยเรื่องธรรมะ เรื่องบาปตามที่เข้าใจสักหน่อย เอาว่ากันตามหลักการตามความหมายเลย แต่จะไม่หยิบยกคำธรรมะยากๆ มาประกอบอ้างอิงให้ปวดเศียรเวียนเกล้า…

คนเราจะทำบาปโดยสมบูรณ์ได้ต้องประกอบด้วย ใจ วาจา กาย  
เดี่ยวก่อน! อย่าพึ่งตำหนิว่าดิฉันพูดผิด.. เพราะหากจะเรียงจากความหนักเบาของบาปนั้นไซร์มันเรียงตามนั้นจริงๆ
ตัวอย่างให้เข้าใจขั้นตอนมากขึ้น
1.   ชิด  มีดำริในใจว่า อยากจะฆ่ามรกต        อันนี้เขาเรียก จิตใจมันคิดชั่วช้า เห็นไหม บาปแล้วทางใจ
      ...แต่จะบาปขึ้นถ้า..
2.   ชิด  เริ่มสนทนากับ อุ๋ย  เพื่อบอกดำริในใจของชิดว่า ‘กูอยากฆ่านังมรกตจังเลย เห็นมันแล้วหมั่นไส้’  เห็นไหมจะบาปขึ้นมาอีกขั้น
   อันนี้หละเรียก บาปทางวาจา เพราะดำริชั่วช้าในใจได้ถูกถ่ายทอดออกมาทางคำพูดแล้ว เพื่อชักชวน อุ๋ย ให้เป็นพรรคพวกเดียวกัน เพื่อเตรียมฆ่ามรกต…
      ...แต่จะบาปขึ้นอีกถ้า
             ชิด  เริ่มสนทนากับ น้ำหวาน อีแจ๋ว คุณยายวรนาถ คุณนุ่นวรนุช ฯลฯ  เพื่อวางแผนจากดำริอันชั่วช้าของชิดเรื่อง วางแผนฆ่ามรกต  อีกทั้งพยายามหาเรื่องหาราวให้คนมา   ร่วมวงชิงชังมรกต เพื่อจะได้ระดมพลคนมาช่วยฆ่ามรกต อันนี้เห็นไหมว่า บาปขึ้นอีกเพราะเริ่มชักชวนคนมาร่วมทำบาปด้วยด้วยกัน
      ...แต่จะบาปโดยสมบูรณ์ถ้า
3.   ชิด ลงมือทำตามวิธีการตามดำริทางใจ (ข้อ 1) ทางวาจา (ข้อ 2) เพื่อได้ผลลัพธ์ตามประสงค์จากดำริอันชั่วช้าตามข้อ 1
ชิดได้ทำบาปโดยสมบูรณ์แบบตามเสต็ป คือ ใจ วาจา และกาย  หรือ กาย วาจา ใจ นั่นเอง[/size]

แล้วจะเป็นไปได้ยังไงว่าแค่อิจฉาเขาก็บาปแล้วหรือ?
ความอิจฉาริษยาเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ความริษยาคือความพยาบาท ความโกรธ
ความริษยาเกิดจากการขาดมุทิตา
มุทิตา หมายถึง ความชื่นชมยินดีในความสุข ความสำเร็จของผู้อื่น
แน่นอนที่สุด…มุทิตาทำได้ยากกว่ากรุณา บางคนมีความเมตตามาก มีความกรุณา สงสารมาก
แต่ไม่สามารถมีความเจริญมุทิตาหรือยินดีที่คนอื่นได้ดี
ทำไมเหรอ? เพราะคนยังมีนิสัยอิจฉาริษยาอยู่ในใจ แล้วยิ่งคนที่เราไม่ชอบด้วยแล้ว
หากมันได้ดีก็ยิ่งรู้สึกว่า ไม่เห็นน่ายินดีเลยวะให้ตาย..เขาถึงว่าเรื่องนี้มันทำยากเพราะมันอยู่ในใจคน

แม้ทราบดีว่าเราต้องได้รับการฝึกฝนเพื่อแก้ไขดำริริษยาในใจ ความจริงแล้วคิดหลักง่ายๆ คือ ความอิจฉาริษยาไม่มีคุณ ดังนั้นก็ไม่เห็นต้องฝึกจิตให้เหนี่ยวนำตัวเองไปทางนั้น ปากสุนัขไม่มีงาช้างนะ

คิดชั่วเป็นลางปาก พูดมากเป็นลางใจอีก คนอิจฉาริษยาไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ดีพร้อมเสมอ คนที่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง ก็สามารถเป็นเช่นกัน เขาเรียกมือไม่พาย แต่ก็เอาเท้าราน้ำซะงั้น… มองออกยากเพราะอยู่ในใจเขา บางคนเอาคนที่เกลียดมาเป็นไอดอลเลียนแบบพฤติกรรม อาทิการใช้ของ เลียนแบบแนวต่างๆ เพราะในใจลึกๆ ยอมรับวิถีหรือไลฟ์สไตล์ความสามารถเขา แต่แสดงออกด้วยความไม่ยินดี เพราะดำริในใจอันชั่วช้ามีแต่ความริษยานั่นเอง

จะว่าไปความอิจฉาริษยานั้นก่อเกิดให้กระทำบาปตามมาอีกหลายอย่างเช่น ฉันอิจฉาที่เธอมีหลุยส์วิตตองถือ มีรถโก้ๆ ขับ  ก็ไปโกหก อีผ่อ อีแหม่ให้ขายไร่ ขายนา อ้างว่าจะไปทำนู่นนี่นั่นสารพัดรายจ่าย พ่อแม่หากหลงผิดก็ไม่ฟังอีร้าค่าอีรมเต้นไปกับลูก.. สุดท้ายบ่วงกรรมก็วนเวียนไม่รู้จักจบสิ้น นาหมด คงต้องขายตัว หรือเริ่มลักเล็กขโมยน้อยแลกทรัพย์มาให้เหมือนไอดอล บ้างเอาตัวเข้าแลกเลยเพระต้องการให้เหนือกว่า ก็เพราะความอิจฉา เห็นไหมนี่คือผลพวงจากดำริอันชั่วช้าจากความริษยา!

ในทางกลับกัน.. หากเราพลอยยินดีเมื่อเขาได้ดี ลองคิดดูสิ มีแต่เรื่องน่ายินดี สร้างมิตร คนดีถ้าเขาได้ดี เขาจะดึงเราไปได้ดีกับเขาด้วย..(ไม่ใช่กั๊กไว้ นั่นก็ถือว่าริษยากลัวคนอื่นได้ดีเหมือนกัน) ตัวอย่างให้เห็นคือ แม่พิมของชาติ ดิฉันยังไม่เคยเห็นครูบาอาจารย์คนไหน ริษยาศิษย์เวลาที่มันได้ดี แต่ทุกคนไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นแม่พิม

อ้าวแล้วผลกรรมของความอิจฉาริษยาจะเป็นอย่างไร?
วิเคราะห์ตามพระไตรปิฏกคงไม่พ้น ชีวิตตกต่ำ ทำอะไรก็ไม่เจริญ จิตใจเศร้าหมองไปกว่าเดิม ก็มัวแต่ทุกข์ใจที่คนอื่นเขาได้ดิบได้ดี วิธีแก้ยากหน่อยแต่ทำแล้วเป็นบุญคือ เพียงเปลี่ยนจากความอิจฉาริษยาเป็นความเมตตาให้เขา แผ่เมตตาให้คนที่เราโกรธ พยาบาท ไม่ว่าเรื่องใดก็แล้วแต่ ยากนะ เฮ้ย!  นั่นมันโจทย์เรานี่หว่า..มันเคยทำหนูเจ็บมาก่อนนะพ่อ… ฯลฯ

ประเด็นสำคัญก็ตรงเริ่มนี่หละ… มันขัดๆ ไงพิกลกับความรู้สึก ดิฉันก็คนหนึ่งหละค่อนข้างอารมณ์ร้อน แทนที่ใครทำเราโกรธแล้วให้แผ่เมตตาตามคำพระสอน ก็กลับกลายคิดพยาบาทแต่ดีหน่อยพอมีสติก็เปลี่ยนเป็นสมเพชแทนเมตตาสงสารเขา… (เพราะเราสงสารเขาด้วยความริษยาในใจ) นั่นมันไม่ถูกหลักแต่ก็โชคดีที่เป็นเพียงการทำบาปขั้นแรกเท่านั้นคือ คิดในใจ…ยังไม่ได้ดำริทำบาปทางวาจา หรือ กายให้สมบูรณ์ ก็คนมีกิเลสคุยเรื่องธรรมะ.. จะเฟคว่าหนูทำได้ ก็คงยังไม่ใช่ค่ะ!

มีให้เห็นมากมาย กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ถ่มน้ำลายรดฟ้าที่สุดก็มารดหน้าตัวเอง ความริษยาพยาบาทอยู่ในใจ!.. หลวงพ่อสอนว่า ไปทำสังฆทานให้เขาสิลูก..

ในโลกแห่งความเป็นจริง..ตัวอิจฉาริษยา อยู่ในใจคน ไม่ใช่การแสดง เป็นเรื่องจริงในใจคน
ไม่มีใครแสดงออกว่าไม่อยากให้ใครได้ดีให้อายประชาชี..
ยกเว้นมันมากล้นเลยต้องแสดงออกมาให้เห็นด้วยวิธีการสกปรก...
การแสดงในโลกแห่งความเป็นจริง
…ไฮไลท์จึงไม่ใช่ตัวอิจฉา

หลวงพ่อสอน ปากสุนัขไม่มีงาช้าง…อนุโมทนาธรรมทานบทความเรื่อง ไฮไลท์อยู่ที่ตัวอิจฉาให้แก่เจ้ากรรมนายเวร…และอดีตคนรัก ที่ต้องบอกเช่นนี้เพราะกันคนเข้าใจผิดคิดอกุศล..

ทุกอย่างสำคัญที่ใจ!
wrote by cho.



13
"…ข้าพเจ้าใคร่จะพูดถึงเรื่องความเป็นคน คนเรานั้นจะว่าไปก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งในบรรดาสัตว์ทั้งหลาย
แต่มีการแตกต่างกันหลายประการ ประการที่สำคัญที่สุดก็คือ ความรู้ …
นอกจากความรู้ที่ได้รับมาตามธรรมชาติแล้ว ยังมีสติปัญญาที่จะค้นคว้าหาความรู้สืบต่อกันมาแต่บรรพบุรุษ
มีตำรับตำราเป็นอันมาก ซึ่งได้เขียนไว้ให้คนชั้นหลังได้เรียนรู้ถึงวิชาการ
และขนบธรรมเนียมประเพณีอันชอบด้วยศีลธรรมปัญญานี้แหละ
เป็นสิ่งสำคัญที่คนจะต้องนำไปใช้ในทางที่ดีที่ชอบ ประกอบกับ-
ตำราและขนบธรรมเนียมประเพณีอันมีมาแต่โบราณกาลนั้น
แต่ถ้านำเอาปัญญาไปใช้ในทางที่มิชอบปราศจากศีลธรรม คนก็จะเลวกว่าสัตว์…"

พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3 กรกฎาคม 2501



Love Live His Majesty the King
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

14

"...ความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้น หมายถึงความสุขความเจริญที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรม  
ทั้งในเจตนาและการกระทำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญ หรือด้วยแก่งแย่งเบียดเบียนมาจากผู้อื่น
ความเจริญที่แท้นี้มีลักษณะเป็นการสร้างสรรค์ เพราะอำนวยประโยชน์ถึงผู้อื่นและส่วนรวมด้วย  
ตรงกันข้ามกับความเจริญอย่างเท็จเทียม ที่เกิดขึ้นมาด้วยความประพฤติไม่เป็นธรรมของบุคคล
ซึ่งมีลักษณะเป็นการทำลายล้าง เพราะให้โทษบ่อนเบียนทำลายผู้อื่นและส่วนรวม
การบ่อนเบียนทำลายนั้น ที่สุดก็จะกลับมาทำลายตน
ด้วยเหตุที่เมื่อส่วนรวมถูกทำลายเสียแล้ว ตนเองก็จะยืนตัวอยู่ไม่ได้ จะต้องล่มจมลงไปเหมือนกัน..."  
 

คัดตัดตอนจากพระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาและอนุปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย วันที่  ๑๐  กรกฏาคม ๒๕๑๘


Love Live His Majesty the King
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

15
"...ความคิดนั้นเป็นแม่บทใหญ่ของคำพูดและการกระทำ เพราะกิจที่จะทำ
คำที่จะพูดทุกอย่างล้วนสำเร็จจากความคิด
การคิดก่อนพูดและคิดก่อนทำจึงช่วยให้บุคคลสามารถยับยั้งคำพูดที่ไม่สมควร หยุดยั้งการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
พูดและทำแต่สิ่งที่จะสัมฤทธิ์ผลเป็นประโยชน์และเป็นความเจริญ..."

คัดตัดตอนจากพระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันพฤหัสบดีที่  ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๐



"...ผู้หนักแน่นในสัจจะ พูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงจะได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือ
และความยกย่องสรรเสริญจากคนทุกฝ่าย.
การพูดแล้วทำ คือพูดจริงทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด
และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม...
"

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่  ๑๐ กรกฎาคม  ๒๕๔๐


Love Live His Majesty the King
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน


16
...คนดีทำให้คนอื่นดีได้  หมายความว่าคนดี ทำให้เกิดความดีในสังคม  คนอื่นก็ดีไปด้วย.
ความเลวนั้นจะทำให้คนดีเป็นคนเลวก็ยาก แต่เป็นไปได้.
ถ้าคนดีเข้มแข็งในความดี  จะทำให้คนเลวมาทำให้คนดีเป็นคนเลวยาก.สำคัญอยู่ที่ความเข้มแข็งของคนดี...  



...A good person can make another person good; it means that goodness will elicit goodness in society; other person will also be good. Evil will make a steadfast good person bad only with great difficulty; however, it is not impossible. If good people hold on tenaciously to their goodness, it will be difficult for evil people to influence them.  The important thing is the strong will of the good person...
     
คัดตัดตอนจากพระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย  สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต   เมื่อวันพุธที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙




Love Live His Majesty the King
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

17
พระอาจารย์สอน [shake]"คนที่ชอบยุ่งกับเรื่องของคนอื่น" [/shake] [/size]

โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
วัดป่าสุนันทวนาราม บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค (กม. ๙๐) จ.กาญจนบุรี[/color]



อย่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่น ภาวนามาก ๆ ดูตัวเองมาก ๆ
หลวงพ่อ (พระโพธิญาณเถระ) บอกว่า

'ธรรมดาเราดูแต่คนอื่น 90% ดูตัวเองแค่ 10%'
คือคอยดูแต่ความผิดของคนอื่น เพ่งโทษคนอื่น คิดแต่จะแก้ไขคนอื่น

กลับเสียใหม่นะ ดูคนอื่นเหลือไว้ 10%

ดูเพื่อศึกษาว่า เมื่อเขาทำอย่างนั้น คนอื่นจะรู้สึกอย่างไร เพื่อเอามาสอนตัวเองนั่นแหละ
ดูตัวเอง พิจารณาตัวเอง 90% จึงเรียกว่าปฏิบัติธรรมอยู่
ธรรมชาติของจิตใจมันเข้าข้างตัวเอง



โบราณพูดว่า เรามักจะเห็น ความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดของตนเองเท่ารูเข็ม มันเป็นความจริงอย่างนั้นด้วย เราจึงต้องระวังความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้มาก ๆ

เห็นความผิดของคนอื่น ให้หารด้วย 10 เห็นความผิดตัวเอง ให้คูณด้วย 10
จึงจะใกล้เคียงกับความจริงและยุติธรรม เพราะเหตุนี้เราจะต้องพยายามมองแง่ดีของคนอื่นมาก ๆ และตำหนิติเตียนตัวเองมาก ๆ แต่ถึงอย่างไร ๆ เราก็ยังเข้าข้างตัวเองนั่นแหละ

พยายามอย่าสนใจการกระทำ การปฏิบัติของคนอื่น
ดูตัวเอง สนใจแก้ไขตัวเองนั่นแหละมาก ๆ เช่น เข้าครัวเห็นเด็กทำอะไรไม่ถูกใจ แล้วก็เกิดอารมณ์ร้อนใจ ยังไม่ต้องบอกให้เขาแก้ไขอะไรหรอก รีบแก้ไข ระงับอารมณ์ร้อนใจของตัวเองเสียก่อน เห็นอะไร คิดอะไร รู้สึกอย่างไร ก็สักแต่ว่า ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ความเห็น ความคิด ความรู้สึกก็ไม่แน่ ..... ไม่แน่ อาจจะถูกก็ได้ อาจจะผิดก็ได้ เราอาจจะเปลี่ยนความเห็นก็ได้ สักแต่ว่า.....สักแต่ว่า....ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ยังไม่ต้องพูด

ดูใจเราก่อน สอนใจเราก่อน หัดปล่อยวางก่อน
เมื่อจิตสงบแล้ว เมื่อจิตปกติแล้ว จึงค่อยพูด จึงค่อยออกความเห็น พูดด้วยเหตุ ด้วยผล ประกอบด้วยจิตเมตตากรุณา ขณะมีอารมณ์อย่าเพิ่งพูด ทำให้เสียความรู้สึกของผู้อื่น ทำให้เสียความรู้สึกของตัวเอง ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร มักจะเสียประโยชน์ซ้ำไป

เพราะฉะนั้น อยู่ที่ไหน อยู่ที่วัด อยู่ที่บ้าน ก็สงบ ๆ ๆ ไม่ต้องดูคนอื่นว่าเขาทำผิด ๆ ๆ
ดูแต่ตัวเรา ระวังความรู้สึก ระวังอารมณ์ของเราเองให้มาก ๆ พยายามแก้ไข พัฒนาตัวเรา ..... นั่นแหละ

เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อน เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา
ถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นไปเรื่อย ๆ หาเรื่องอยู่อย่างนั้น
เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของเราหมด มีแต่ยินดี ยินร้าย พอใจ ไม่พอใจ ทั้งวัน อารมณ์มาก จิตไม่ปกติ ไม่สบาย ทั้งวัน ๆ ก็หมดแรง

[shake]ระวังนะ [/shake]
พยายามตามดูจิตของเรา ! รักษาจิตของเราให้เป็นปกติให้มาก ใครจะเป็นอะไร ใครจะทำอะไร ดีหรือไม่ดี เรื่องของเขา
แม้เขาจะทำกับเรา ว่าเรา..... ก็เรื่องของเขา อย่าเอามาเป็นอารมณ์ อย่าเอามาเป็นเรื่องของเรา

ดูใจเรานั่นแหละ พัฒนาตัวเองนั่นแหละ ทำใจเราให้ปกติ สบาย ๆ มาก ๆ หัด - ฝึก ปล่อยวาง นั่นเอง ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการตามรักษาจิตของเรา


คิดดี พูดดี ทำดี มีความสุข

Cho's Talk: จับตามองมาเหมือนกันกับพระรูปนี้..ท่านไม่น่าจะเป็นคนไทยฟังเนาะฟังจากชื่อ.. แต่ท่านก็คงซาบซึ้งพุทธศาสนาไทยเรานี่หละ ภูมิใจไงไม่ทราบ.. 555 และคงเหมือนฝรั่งอีกหลายคนที่เราได้ข่าวในแวดวงสักยันต์วัดบางพระ...

พอเห็นบทความนี้..มันดูขัดๆ ไงพิกลกับคนไทยสินะ.. หนังสือGossipดารานี่ อย่าให้เซดนะคะ ขายดีเป็นเทน้ำเทกะละมัง.. เพราะคนขายข่าวทราบดี ขายข่าวอย่างไรให้ตูม ตูม.. ดูม ดูม นมหก นู่นโผล่นี่แพลม โอ้ยยย... คนไทยชอบอัพเดทข่าวสารแบบประเด็นร้อน ข่าวจริงไม่จริงค่อยแก้กันใหม่.. แต่อ่านแล้วสนุกดี.. 555 พี่อาจจะเป็นส่วนน้อยนะคะ.. หน้าที่บังคับให้ต้องซื้อมาอ่านบ้าง เพราะต้องดูช่วยทีมงานดูกระแสดารา ว่าใครเหมาะสมกับการนำมาเป็นพรีเซนเตอร์ เวลาต้องสวมบทบาทหน้าที่โปรโมทสินค้าของบริษัทให้ไม่เงียบ..ไม่เห็นต้องไปตามกระแสเลย.. บางคนเห็นใครฮิต ใครดัง ก็เข้าไปเชียร์ชอบ นิยมใหญ่ แต่พี่โชวยังไงก็ยังชอบอนันดา เอเวอริ่งแฮม.. :009: อิอิ..ชอบมานานและไม่เปลี่ยน.. ลุ้นแทบตายว่าเขาไม่ใช่ตุ้ด.. โล่งอก!

ในโลกแห่งความเป็นจริง คนเรามีสาระอีกมากมายมากกว่าไปยุ่งเรื่องคนอื่นเขา.... อย่างทาทายัง เราชื่นชอบเขามาก...เพราะมองลึกเข้าไปทาทามีความสามารถแบบล้ำมากกว่านักร้องอีกหลายคนที่ทำแบบเขาไม่ได้ เหมือนเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้.... อีกคนมาดอนน่า เธออายุมากแต่ยังเป็นดาวค้างฟ้าที่ผู้คนพูดถึงเธอมิรู้จักจบสิ้น...
สวนกระแสด้วยการไม่ยุ่งเรื่องคนอื่น..จะเห็นสาระของชีวิตอีกเยอะเลย!            cho.
 :009:..


many thanks for office of national budishm, copy by cho. presley.. :009:

18
เครื่องรางของขลังคงกระพันชาตรี แห่งกองทัพไทยในอดีต....

ว่ากันถึงนักรบไทยในอดีตกัน..คงต้องมีภาคต่อขยายความจากเรื่อง 'เครื่องราง-ของขลัง พลานุภาพแห่งกองทัพไทยในอดีต'  
คราวนี้นอกจากเรื่องสักยันต์เขียวปื้ดเต็มตัวแล้วของนักรับไทยในอดีตแล้ว.... เครื่องรางของขลังอะไรบ้างที่เป็นความเชื่อแต่โบร่ำโบราณกาล...

         คัมภีร์พระปถมัง ถือว่าเป็นคัมภีร์ปฐมบทเรื่องเวทมนตร์คาถาที่คนศึกษาเวทมนตร์ต้องเรียน เพราะเป็นคัมภีร์ที่บรรจุพระคาถาพุทธบริสุทธิ์ที่สูงที่สุด โดยพระเถระเกจิอาจารย์ทุกคน ก็ต้องร่ำเรียนคัมภีร์นี้ กระทั้งการศึกสงครามจะนำยันต์จากพระคัมภีร์นี้มาใช้ด้านพลานุภาพความคงกระพันชาตรี
          ธงชัยเฉลิมพล ใช้ในการนำทัพ เป็นธงที่จะประจุด้วยอาคมอาถรรพ์ต่างๆ ได้จำนวนมาก เพื่อให้กองทัพมีอำนาจเหนือคู่ต่อสู้พระชัยหลังช้างคือ พระพุทธรูปที่จะอัญเชิญนำไปออกศึก โดยจะประทับอยู่บนหลังช้าง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ชนะศึกสงคราม
          พระลีลาเม็ดขนุน เป็นพระที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัน ที่มีพลานุภาพด้านเมตตามหามงคล แคล้วคลาดจากภยันตราย ทำให้สู้ศึกชนะสงคราม
          โคนสมอ คือ พระเครื่องชนิดหนึ่งที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย จะพบในกรุตามวัดโบราณต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นพระที่มีอิทธิฤทธิ์พลานุภาพด้านคงกระพันชาตรี โดยเฉพาะเป็นที่ร่ำลือกันมากกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้นำพระแสงยิงเข้าใส่โคนสมอ แต่เกิดกฤษฎาภินิหาริย์ คือ ยิงไม่เข้า อย่างไรก็ตามไม่อาจจะสืบค้นได้ว่า ผู้ใดเป็นผู้สร้างโคนสมอขึ้นมา
         พิษหมอน ที่ทำมาจากใบลานจารอักขระ เป็นชิ้นเล็กๆ นำมาแขวนติดตัว
         ตะกรุดพันกลั่น เป็นเครื่องรางปลุกเสกความคงกระพันที่จะนำไปใส่ไว้ข้างในมือจับด้ามดาบเพื่อให้เกิดอิทธิฤทธิ์ในการล้างอาถรรพ์ของคู่ต่อสู้ลงอาคมไว้
          ตรีนิสิงเห ที่เกิดจากการคำนวณอัตราเลที่ผู้ปลุกเสกตียันต์ตรีนิสิงเหลงบนดาบ เพื่อใช้แก้ และถอนอาถรรพ์อาคมต่างๆ ของคู่ต่อสู้ พร้อมกับมีการปลุกเสก "ผงตรีนิสิงเห" เช่นกัน ที่ใช้ประจุลงบนด้ามดาบที่เป็นไม้มะค่า ฝักดาบเป็นไม้มะขามกลายเป็นศาสตราวุธ
          พระยันต์พุทธนิมิตร (ลงด้วยพระพุทธคุณห้องอิติปิโส) เป็นรูปองค์พระ พระยันต์มงกุฎเจ้าล้อมด้วยกลเลข ตรีนิสิงแห ของพระครูประศาสน์ สิกขกิจ หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก
         มีดหมอเทพศาสตราวุธ ที่นิยมกันมากในสมัยอยุธยา ที่ตีตามสมัยเดิม ใช้ถอนอาถรรพ์ต่างๆ ป้องกันภูติผีปีศาจ
         เสื้อยันต์ทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด เช่นเสื้อยันต์ที่ลงด้วยนะโมพุทธายะ ไตรสรณาคมน์และหัวใจคาถามหาอุด อีกด้านลงด้วยพระนวโลกุตรธรรม คาถาพระเจ้าห้ามอาวุธ (อะสิสะติ) และพระยันต์หมวดอิติปิโสเกราะเพชร หรือพระยันต์ ไตรสรณาคมน์ ลงเป็นตาม้าหมากรุก หรือ ที่ลงด้วยนะโมพุทธายะ (พระเจดีย์ 5 พระองค์ ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า) หนึ่งในพระอาจารย์ของ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และเสื้อยันต์ราชสีห์ มียันต์มงกุฎเจ้า ด้านหลังลงด้วยพระเจ้า 16 พระองค์
          ผ้าซิ่นแม่ เป็นเครื่องรางที่ทหารไทยจะนำติดตัวไปรบในสงคราม คือ ชายซิ่นของผ้าถุงของแม่ผืนที่คลอดครั้งแรกโดยจะนำไปใส่ไว้ในหมวก จะอยู่ในตะกรุด พระประเจียด หรือยันต์มนตรา
         หำยนต์ หรือ ยันต์ที่ติดไว้บนบานประตู ป้องกันคุณไสยเพราะขณะนอนหลับมนต์คาถาจะเสื่อมลง
          เขี้ยวเสือโปร่งฟ้า เป็นเขี้ยวเสือกลวง เพราะปกติเขี้ยวเสือจะตัน ใครมีไว้พกติดตัวจะมีพลานุภาพด้านมหาอำนาจป้องกันภยันตรายต่าง ๆ รวมถึงป้องกันภูตผีปีศาจ
          เพชรตาแมว คือดวงตาแมวที่ตายหรือยังมีชีวิตอยู่ ที่มีลักษณะแก้วตากลายเป็นหิน ใครพกติดตัวไว้จะมีพลานุภาพด้านมหาอำนาจป้องกันภยันตรายต่างๆ รวมถึงป้องกันภูติผีปีศาจ
         งากำจัด-งากำจาย เป็นงาช้างที่ช้างชนต้นไม้ใหญ่แล้วหักคาทิ้งไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พบได้ยากมากใครมีไว้พกติดตัวมีพลานุภาพด้านมหาอำนาจป้องกันภยันตรายต่างๆ รวมถึงป้องกันภูตผีปีศาจ
          คด คือ วัสดุตามธรรมชาติที่กาลเวลาทำให้วัสดุชิ้นนั้นกลายเป็นหิน เช่น เม็ดมะขาด เม็ดขนุน ใครมีไว้พกติดตัวจะมีพลานุภาพด้านมหาอำนาจป้องกันภยันตรายต่างๆ รวมถึงป้องกันภูตผีปีศาจ

   Cho's Talk: หากไม่ได้ไปรบกับใคร ก็ไม่เห็นต้องมารบกันเอง..อยู่ร่วมกันด้วยความสงบสุขสิ.. แค่นั้นแหละเมืองไทย หรือเมืองไหนๆ..
article from p-today wrote by cho. presley cholvibul@hotmail.com



19
บทความ บทกวี / บอย และพิศ ปิดตา cho.
« เมื่อ: 25 ก.ย. 2552, 10:04:26 »
อ่านข่าวนี้..รู้สึกปลื้มใจความเป็นคนไทยแท้ๆ..

ในงานไหว้ครูสักยันต์ ของ พระอุดมประชานาถ หรือที่รู้จักกันดีในนาม หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำนครชัยศรี เป็นที่กล่าวขานของผู้ศรัทธาหลวงพ่อเปิ่นว่า "เป็นวันวัดพลังศรัทธา วันชุมนุมศิษย์หลวงพ่อเปิ่นจากทั่วสารทิศ"

   ในจำนวนลูกศิษย์นับหมื่นที่มาร่วมงาน รวมทั้งมีนักข่าวนับร้อยจากหลากหลายสำนัก ทั้งในและต่างประเทศมาร่วมทำข่าว ในจำนวนนี้กว่าครึ่งเป็นนักข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ ทั้งที่เป็นนักข่าวคนไทยที่ทำงานในสำนักข่าวต่างประเทศ และนักข่าวต่างประเทศที่บินลัดฟ้ามาทำข่าววันไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่นโดยตรง  และหนึ่งในจำนวนนี้คือ นายรุ่งโรจน์ ยงฤทธิ์ ช่างภาพของสำนักข่าวอีพีเอ สำนักข่าวของประเทศเยอรมนี โดยทุกๆ ปี เขาจะนำภาพข่าวบรรยากาศและอาการของขึ้นในงานไหว้ครูสักยันต์หลวงพ่อเปิ่นไปเผยแพร่

          นอกจากนี้แล้ว นายรุ่งโรจน์ยังนำเรื่องราวเกี่ยวกับคติความเชื่อ และความศรัทธาของคนไทยไปนำเสนออย่างต่อเนื่อง และล่าสุดเขาได้นำเรื่องราวของ อรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย หรือ บอย ท่าพระจันทร์ เซียนพระที่มีความชำนาญเรื่องเหรียญมากที่สุดคนหนึ่งของวงการพระเครื่องเมืองไทย และ ปรีชา คุ้มท้วม พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และเจ้าของร้านอาหาร "ครัวคันไถ" ซึ่งสะสมและแขวนพระปิดตาสายวัดสะพานสูงเกือบ ๑,๐๐๐ องค์ ไว้ต้อนรับลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้านจนได้รับฉายาว่า พิศ ปิดตา และเจ้าของฉายา เจ้ากรมพระปิดตาวัดสะพานสูง
          
          "บอยเป็นคนรุ่นใหม่ และมีพระเครื่องราคาแพงจำนวนมาก อีกทั้งเป็นเซียนพระที่มีความรู้กว้างขวาง เรื่องของความเชื่อ ศาสนาเป็นความเชื่อพื้นฐานของคนทุกชาติ ทุกศาสนาอยู่แล้ว กอปรกับพระเครื่องก็เป็นวัตถุโบราณ มีประวัติศาสตร์ของพระเครื่อง ส่วนลุงพิศมีพระเครื่องหลายร้อยองค์ สื่อให้เห็นได้ชัดถึงคนไทยที่นิยมบูชาพระเครื่องว่า มีคนสะสมเป็นจำนวนมากๆ แล้วบุคลิกของลุงพิศแสดงให้เห็นความเป็นคนไทยแท้ๆ ลูกทุ่ง" นี่เป็นเหตุผลในการสัมภาษณ์ บอย ท่าพระจันทร์ ของนายรุ่งโรจน์



          พร้อมกันนี้ นายรุ่งโรจน์ยังบอกด้วยว่า พระเครื่องเป็นเครื่องรางที่คนไทยผู้นับถือศาสนาพุทธโดยส่วนใหญ่จะมีติดบ้าน หรือห้อยคอเพื่อความเป็นสิริมงคล และป้องกันภยันตราย
          
ชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวและทำงานในประเทศไทย มักจะเกิดความสนใจ สงสัย โดยบ้างก็มีความรู้ความเข้าใจ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่มีใครคิดว่า พระเครื่องบูชาองค์เล็กๆ เหล่านี้จะมีราคาค่างวดถึงหลักหลายสิบล้านบาท
          
          ในการที่ชาวต่างประเทศได้เดินทางเข้ามาทั้งท่องเที่ยวและทำงานในกรุงเทพฯ นั้น จะเห็นตลาดพระเครื่องวางขายอยู่บนฟุตบาท ที่บริเวณท่าพระจันทร์ ทำให้เข้าใจว่า พระเครื่องเป็นสินค้าราคาถูก  แต่ในความเป็นจริง พระเครื่องมีราคาค่างวดที่สูง ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักล้าน

          อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ในช่วงกระแสจตุคามรามเทพได้รับความนิยมสูงสุด ทำให้ชาวต่างชาติรู้จักเครื่องรางที่ห้อยคอคนไทยมากขึ้น และทราบถึงความแพงของเครื่องราง ซึ่งการที่คนไทยหลายคนสะสมพระเครื่องราคาหลักแสนหลักล้าน และตลาดพระเครื่องมีเงินสะพัดมากกว่าสองพันล้านบาทต่อปี ในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ธรรมดาของสะสมที่คนทั่วไปรู้จักดีย่อมเป็นเครื่องประดับราคาแพง นาฬิกาข้อมือ ทองคำ เพชรนิลจินดา ทำให้พระเครื่องเป็นเรื่องที่น่าสนใจ

         "เรื่องของความเชื่อ เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ น่าศึกษาในตัวเอง เพื่อเรียนรู้ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมพื้นฐานของชนชาตินั้นๆ การที่ชายอายุเกือบหกสิบอย่างนายพิศ มีพระเครื่องถึงเกือบเจ็ดร้อยองค์ ย่อมเป็นเรื่องแปลก สำหรับคนต่างชาติ เพราะโดยปกติคนส่วนใหญ่จะพบเห็นคนไทยห้อยพระเครื่องจำนวนหนึ่ง แม้แต่คนไทยเมื่อนึกถึงเซียนพระ นักดูพระ ก็จะนึกถึงชายอายุเลยกลางคน ใบหน้าเกรียมแดด สวมแว่นตา ส่องกล้องดูพระ จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เมื่อคนรุ่นใหม่อย่าง บอย ท่าพระจันทร์ จะเป็นเซียนพระ ที่แค่เหลือบตามองก็สามารถบอกได้ว่า พระเครื่ององค์นั้นๆ ราคาค่างวดเท่าไร แท้หรือเทียม” นายรุ่งโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย

   

เจ้ากรมพระปิดตาวัดสะพานสูง

          ในการสะสมและอนุรักษ์พระปิดตาสายวัดสะพานสูงของ พิศ ปิดตา จะแตกต่างจากเซียนพระทั่วๆ ไป คือ เซียนพระเมื่อได้พระมาจะเก็บไว้ในรังก่อน หากได้องค์ที่สวยมาก็จะปล่อยองค์ที่สวยน้อยกว่าออกไป โดยจะเก็บเฉพาะองค์สวยๆ เท่านั้น

          ขณะเดียวกัน ก็จะเก็บพระปิดตาของวัดอื่นๆ แต่สำหรับ พิศ ปิดตา แล้ว เมื่อใครให้พระมาก็จะนำไปใส่ตลับเลี่ยมอย่างดี แล้วนิมนต์ขึ้นคอทุกองค์ จากวันแรกแขวนองค์เดียว ปัจจุบันนี้มีเกือบ ๑,๐๐๐ องค์ น้ำหนักกว่า ๑๐ กิโลกรัม

         ที่สำคัญคือ แขวนเฉพาะพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม พระปิดตาหลวงปู่กลิ่น และพระปิดตาหลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง เท่านั้น  

"แม้ว่าเพื่อนหลายคนอาจมองว่าผมเพี้ยน ผมบ้าไปแล้ว แต่มันก็เป็นเพียงส่วนน้อย เมื่อไปเปรียบเทียบกับคนที่มองด้วยความชื่นชม เห็นพระในคอผมแล้วต้องยิ้ม บางคนเดินผ่านไปแล้วต้องเหลียวหลังมามอง ทุกครั้งที่ไปช่วยงานบุญจะแขวนไว้นอกเสื้อ คล้ายกับกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านในอดีต ใครเห็นก็มาขอถ่ายรูปด้วย บางคนก็ขอไปแขวนเพื่อถ่ายรูปก็มี หลายคนกล่าวชื่นชม ที่ผมมีพระปิดตาสายวัดสะพานสูงมากที่สุด"
พิศ ปิดตา กล่าว  

          พร้อมกับบอกด้วยว่า พระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จัดเป็นหนึ่งในห้าสุดยอดพระปิดตาของเมืองไทย หรือ "พระปิดตาชุดเบญจภาคี" ที่นักนิยมสะสมพระเครื่องใฝ่ฝัน ชนิดที่เรียกว่า ของแท้ๆ หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสุมทร"

          เมื่อไม่ได้พระปิดตาของหลวงปู่เอี่ยม นักนิยมสะสมพระเครื่องก็มุ่งไปที่ พระปิดตาหลวงปู่กลิ่น ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสรูปถัดมา ขณะเดียวกันก็มีคนจำนวนไม่น้อย ที่หาพระปิดตาหลวงปู่กลิ่นไม่ได้ ก็มุ่งไปที่ พระปิดตาหลวงพ่อทองสุข เจ้าอาวาสวัดสะพานสูง อีกรูปหนึ่ง โดยมีความเชื่อว่า พระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม พระปิดตาหลวงปู่กลิ่น และพระปิดตาหลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง พุทธคุณสุดยอดด้านเมตตามหานิยมเหมือนๆ กัน    


        
"บอยเป็นคนรุ่นใหม่ และมีพระเครื่องราคาแพงจำนวนมาก อีกทั้งเป็นเซียนพระที่มีความรู้กว้างขวาง  
ส่วนลุงพิศมีพระเครื่องหลายร้อยองค์ สื่อให้เห็นความเป็นคนไทยแท้ๆ ลูกทุ่ง” ฟังแล้วยังไงก็ปลื้มใจแทนคนไทย! :009:

news from kom chad luek september09 present to wad bangpra by cho presley cholvibul@hotmail.com

20
สร้างพระล้านองค์...86 ปี หลวงพ่อคูณ.. ดูน่าสนใจดี.. :009:


เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายสมบูรณ์ โสถิตอนันต์ เลขานุการส่วนตัวหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และเลขานุการวัดบ้านไร่ เปิดเผยว่า
ขณะนี้หลวงพ่อคูณสบายดี ไม่ได้เป็นไปตามที่มีข่าวลือที่มีอยู่ในขณะนี้แต่อย่างใด เมื่อช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ ตนยังนั่งนวดขาให้หลวงพ่อและพูดคุยกันอยู่เลย ซึ่งตนเป็นคนพาหลวงพ่อเข้าพักผ่อนจำวัดเย็น
          
นายสมบูรณ์ กล่าวถึงการจัดงานวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อคูณ อายุครบ 86 ปี ในวันที่ 4 ต.ค.  ปีนี้ ว่าหลวงพ่อคูณจะปลุกเสกพระ รุ่นพิพิธภัณฑ์ จำนวน 19 องค์ เป็นเนื้อทองคำ น้ำหนักกว่า  3 บาท องค์ละ 1 ล้านบาท เลี่ยมทอง ฝังเพชร และเนื้อทอง 86 องค์เท่ากับอายุ 86 ปี ราคาองค์ละ 1 แสนบาท น้ำหนักทองกว่า 2 บาท
          
นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะมีการปลุกเสกพระสมเด็จหลวงพ่อคูณ เนื้อผง อีกจำนวน 1 ล้านองค์ สำหรับพระที่ปลุกเสกทุกองค์จะมีลายเซ็นหลวงพ่อคูณกำกับไว้ จะมีพิธีปลุกเสกบนอุโบสถวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน ในวันที่ 4 ต.ค.2552 ซึ่งเป็นพระที่หลวงพ่อคูณตั้งใจจัดสร้างขึ้น เพื่อสมทบทุนสร้างพิพิธภัณฑ์และรวบรวมปัจจัยทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 100 ล้านบาท ตามความประสงค์ที่หลวงพ่อคูณตั้งใจไว้นานแล้ว อย่างไรก็ตาม หากศิษยานุศิษย์สนใจร่วมทำบุญจองวัตถุมงคลดังกล่าวสามารถติดต่อได้ที่วัดบ้านไร่ หรือตนในฐานะเลขานุการส่วนตัวหลวงพ่อคูณ และเลขานุการวัดบ้านไร่ การจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นพิพิธภัณฑ์ จำนวน 19 องค์ ถือเป็นวัตถุมงคลประวัติศาสตร์ของหลวงพ่อคูณ และของวงการพระเครื่องครั้งสำคัญ

          
ด้านนายเกียรติก้อง เลิศเวชกิจ กรรมการวัดบ้านไร่ เปิดเผยว่า วันเกิดของหลวงพ่อคูณ ในวันที่ 4 ต.ค. 2552 อายุครบ 86 ปี ในปีนี้กรรมการวัดบ้านไร่ก็จัดมุทิตาสักการะเหมือนเช่นทุกปี ในเช้าวันที่ 4 ต.ค. เวลา 06.00 น. หลวงพ่อคูณจะตักบาตรเงิน หรือใส่บาตรเงินสดแด่พระภิกษุสงฆ์กว่า 3 พันรูป องค์ละ 1 พันบาท ซึ่งทางคณะกรรมการวัดได้เตรียมเงินสดไว้ประมาณ 4-5 ล้านบาท ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธาน

news from kaosod by cho. presley

21
บทความกระชับ...ที่อาจกระตุ้นต่อมความรู้สึกของคุณ.. มาแบ่งปันกัน!

โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ
ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก
อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง
คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย
ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ

ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น
ในโลกกลม ๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่า 'แน่นอน'
คนเราเมื่อ ตัวตายก็ต้องลงดิน
ท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา พักได้ แต่อย่าหยุด
เหตุผลของคน ๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของคน อีกคนหนึ่ง

ถ้าไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร
หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ
ปัญหาทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
จะเห็นค่าของ ความอบอุ่น เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว
อันตรายที่สุดคือ การคาดหวัง

เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน
ไม่มีคำว่า บังเอิญ ในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่า ตั้งใจ
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว
ไม่เป็น ขุนนางนะ ได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง
เมื่อวานก็สายเกินแล้วพรุ่งนี้ ก็สายเกินไป
อย่าหวังว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก เพราะคนที่คุณรัก ไม่ได้รักคุณ หมดทุกคน

เพื่อนทั่วไป ไม่เห็นคุณร้องไห้
เพื่อนแท้ มีหัวไหล่ไว้คอยซับน้ำตาให้

เพื่อนทั่วไป ถือขวดไวน์ติดมือมางานปาร์ตี้ของคุณ
เพื่อนแท้ จะมาแต่หัววันเพื่อช่วยเตรียมงาน

เพื่อนทั่วไป คาดหวังให้คุณเคียงข้างเขาเสมอ
เพื่อนแท้ คาดหวังที่จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป
เพื่อนทั่วไป เข้าหาผลประโยชน์ ที่ได้รับจากเรา




หน้านอก บอกความงาม
หน้าใน บอกความดี
หน้าที่ บอกความสามารถ

หน้านอกแต่งให้พอดี หน้าในและหน้าที่...แต่งให้มากๆ


ไม่ทราบที่มา

22
หลวงปู่ทวด รุ่นสุริยัน-จันทรา-บารมีโพธิสัตย์

ด้านหลังยันต์ 5 แถว พระอาจาย์เมสันต์ (หลวงโด่ง) วัดทุ่งเว้า จังหวัดมุกดาหาร

กราบนมัสการหลวงพ่อเปิ่น หลวงพ่อญา หลวงพ่อเมสันต์ หลวงพี่เว็บ บูรพาจารย์วัดบางพระ และศิษย์พี่-ศิษย์น้องวัดบางพระที่รักทุกท่าน

ผ่านพ้นไปแล้ว...กับคำหวานแสนซาบซึ้งจากลูกศิษย์ที่ดีหลวงพ่อเปิ่นในวันที่ 12 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ลูกกตัญญูของแม่ทุกคนพร้อมใจ รวมพลังแสดงความกตัญญูต่อหลวงพ่อเปิ่นอย่างพร้อมเพรียงกันด้วยการกล่าวถึงพระคุณแม่ผ่านเว็บบอร์ดวัดบางพระแห่งนี้ อีกทั้งยังถือโอกาสอันดี ไปกราบนมัสการหลวงพ่อเปิ่นที่วัดบางพระด้วยทำให้ศิษยานุศิษย์ทุกท่านต่างมีความสุขล้นใจมากกว่าทุกปี..
กราบขอบพระคุณ หลวงพ่อโด่ง ระวี สัจจา กรรมการตัดสินที่ให้รางวัลกับพวกเราทุกคนที่มาโพสกะทู้.. เพราะความรักต่อแม่คงมิอาจตัดสินเพียงการคิดว่าจะทำ.. ทุกอย่างสำคัญที่ใจ!
กราบขอบพระคุณ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม แต่ประสงค์จะให้รางวัลที่มอบพระผงหลวงปู่ทวดเป็นรางวัลเพื่อพี่น้องทุกท่านที่ร่วมแสดงพลังความรักผ่านกระทู้ http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,11071.0.html เพราะไม่มีท่านสนับสนุนพวกเราคงไม่ได้รับของที่ระลึกแบบถ้วนหน้ากันเช่นนี้ ขออนุโมทนาบุญกุศลครั้งนี้ให้ท่านเจริญยิ่งขึ้นไป (เปิดรับสมัครให้สนับสนุนรางวัลโปรแกรมสำหรับวันพ่อได้เลยนะคะ :009:)

เพื่อคลายข้อสงสัย ไร้ข้อกังขาเคลียร์ใจ..วันนี้ ขออนุญาตินำเสนอรายละเอียด
‘พระผงหลวงปู่ทวด รุ่นสุริยัน-จันทรา-บารมีโพธิสัตย์ ด้านหลังยันต์ห้าแถว ของพระอาจารย์เมสันต์ วัดทุ่งเว้า จังหวัดมุกดาหาร’ ดังนี้..







ด้านหลังหลวงปู่ทวดสุริยันจันทรายันต์ 5 แถว วัดทุ่งเว้า มุกดาหาร



หลวงปู่ทวด รุ่นสุริยัน-จันทรา-บารมีโพธิสัตย์ ด้านหลังยันต์ 5 แถว พระอาจาย์เมสันต์ (หลวงโด่ง) วัดทุ่งเว้า จังหวัดมุกดาหาร
หลวงปู่ทวด จำนวนสร้าง 5,000 องค์
หลวงปู่ทวด ฝังหัวเสือหลวงพ่อเปิ่น สร้าง 99 องค์
หลวงปู่ทวด ฝังหัวเสือหลวงพ่อเปิ่น ฝังตะกรุดคู่ สร้าง 16 องค์

มวลสาร เนื้อว่าน108 ผงอิทธิเจ พระหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ รุ่นแรกปี ๒๔๙๗ มวลสารจากครูบาอาจารย์ทั่วประเทศที่สะสมมากว่ายี่สิบปี เช่น หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ฯลฯ โรยผงแร่กายสิทธิ์ต่างๆ จากบนดอยสูง แม่ฮ่องสอน สรรพคุณแบบเพชรหน้าทั่ง สูตรการทำพระของพระอาจารย์เมสันต์เป็นสูตรโบราณ ต้องตำกับมือเองทุกองค์

ดวงตราพุทโธ
(ลูกศิษย์บางท่านได้รับพระสององค์ องค์กลมๆ อีกองค์หนึ่งคือ ดวงตราพุทโธ)
ดวงตราพุทโธ วัตถุมงคลรูปทรงกลม..ตรงกลางด้านหน้ามีคำว่า "พุท" ล้อมรอบด้วยคาถามกุฏพระเจ้า ด้านหลังตรงกลางมีคำว่า "โธ" ล้อมรอบด้วยคาถามหาลาภ ด้านหน้ามีองค์พระด้านหลังมีนะลือชา ผู้ที่นำไปใช้ต้องภาวนาพุทโธจึงจะศักสิทธิ์ และสัมฤทธิ์ผลตามอธิษฐานขอ


ทีนี้ใครที่ได้รับพระหลวงปู่ทวดไปก็คงได้ทราบรายละเอียดกันนะคะ
พบกันใหม่อีกครั้ง...กับโปรแกรมดีๆ วันพ่อนะ!


ขอแสดงความนับถือ
 
cho presley
ศิษย์วัดบางพระ จังหวัดนครปฐม
cholvibul@hotmail.com

23
ข่าวด่วน

หลวงปู่กาหลง เตชวัณโน พระผู้มีเขี้ยวแก้วเป็นของศักดิ์สิทธิ์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ได้ละสังขารอย่างสงบแล้ว เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2552 เวลา 1.09 น. ณ โรงพยาบาลเปาโล
โดยได้เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องมาตลอด
และล่าสุดได้เข้ารับการรักษา เมื่อ 25 พค.52 ซึ่งรวมเวลาได้ 3 เดือน 18 วัน

และนั่นคงเป็นเหตุที่งานไหว้ครูหลวงปู่กาหลงครั้งสุดท้าย
ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 กันยายนที่ผ่านจนถึงวันนี้หลวงปู่กาหลงไม่ได้มาร่วมพิธีให้ศิษยานุศิษย์ได้กราบ..
มาเพียงรูปหล่อและภาพถ่ายโยงสายสิญจน์อย่างที่เห็นในภาพ..


หลวงปู่กาหลง เกิดเมื่อวันที่ 10 มค. 2461 วันเสาร์ ปีมะแม ศิริอายุได้ 91 ปี


กำหนดการ ณ วัดเขาแหลม จ.สระแก้ว

1. วันที่ 13 กย. จะนิมนต์หลวงปู่กลับวัดเขาแหลม โดยจะบรรจุไว้ในโลงแก้ว
2. รดน้ำเวลา 17.30 น.
3. สวดพระอภิธรรม เวลา 19.30 น.

ศิษยานุศิษย์หลวงปู่กาหลงท่านใดประสงค์เป็นเจ้าภาพร่วมพิธี.. หรือไปร่วมพิธีที่วัดเขาแหลม.. ไปกันค่ะ...  cho


ข่าวคราวความคืบหน้า ขอแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง..

24
...รู้ใจ เห็นนิสัย คนใกล้ตัว...  :034:

อยากรู้จัง.. คนคนนั้น พื้นฐานนิสัยเป็นอย่างไร.. ลองเช็คดู

คนเกิดเดือนมกราคม
เป็นคนค่อนข้างรอบคอบ ระมัดระวังวิตกจริต คิดมากตลอดเวลา ในบางคนก็ชอบเก็บสะสมของเก่า ของโบราณ รู้จักเก็บ มัธยัสถ์ งก ขี้เหนียว เสียดายของ ประหยัด ชอบที่จะแชร์ค่าใช้จ่าย มองกำไรขาดทุนไว้ก่อนเสมอ ดูเหมือนเห็นแก่ตัว แต่จริง ๆ แล้วฉลาดจึงสามารถเป็นนักธุรกิจที่ดีได้ ทะเยอทะยาน ชอบเอาชนะ บางทีก็คิดเล็กคิดน้อยอะไรไม่รู้ เชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก ทรหดอดทนเป็นยอดเลยล่ะ โดยเฉพาะในเรื่องงานแล้วล่ะก็บ้างานมาก บ้าจนทำให้บางทีความรักที่มีอยู่จืดไปเลย จะแต่งงานช้าก็เพราะมัวแต่เลือกมากคิดมากอยู่ นั้นแหละ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความรักสักเท่าไหร่ ถ้างานที่ต้อรับผิดชอบนั้น ยังไม่เสร็จสิ้น เพราะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง เป็นนักปฏิบัติ
แต่ในด้านความรัก ก็ใช่ย่อยมีเสน่ห์ล้ำลึกนัก มีความต้องการทางเพศค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน บางครั้งก็ขี้หงุดหงิดเอาแต่ใจตัวเอง แต่ทำเป็นขรึมเย็นชาซะอย่างนั้นแหล่ะ บางทีก็ชอบเก็บตัวชอบสร้างกำแพง ทำเป็นหยิ่งแต่จริง ๆ กลับเป็นคนง่าย ๆ ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีพิษไม่มีภัยกับใคร สงบนิ่ง เจ้าระเบียบซะอีกแน่ะ รักเกียรติยศชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่ ทำอะไรไม่ค่อยพึ่งใครชอบทำเอง แต่ก็เป็นคนมีบุญ มักได้คู่ดี

คนเดือนกุมภาพันธ์
มักเป็นคนที่มีอุปนิสัยร่าเริง เพื่อนฝูงมากมาย เพราะเป็นคนที่ต้องการมิตรที่แท้จริง แต่ก็มักไม่ค่อยมีเพื่อน และที่สำคัญมีเพื่อนแท้น้อยมาก ชอบอยู่ในแวดวงสังคมที่ดี เพราะเป็นคนที่สามารถยิ้มแย้มแจ่มใสได้กับทุกสถานการณ์ ถึงแม้ว่าตนเองจะทุกข์อยู่ก็ตาม ชอบที่จะทำให้คนอื่นมีความสุข เป็นคนที่ช่างพูดช่างคุย ตีหน้าได้เก่ง มีนิสัยช่างคิดช่างจำแถมยังมีแผนการมากอีกด้วย เชื่อมั่นและมีความเห็นเป็นของตัวเอง ซื่อตรงดี ชอบอิสระไม่ชอบขึ้นกับใคร หรือให้ใครบังคับขู่เข็ญให้ทำ หรืออยู่ใต้การควบคุมของใคร อยากทำอะไรทำเองไม่ต้องมาสั่ง ชอบชีวิตที่เรียบง่ายมากกว่าถึงแม้ว่าตัวจะต้องอยู่ในสังคมก็ตาม เป็นคนที่มีหัวคิดริเริ่มมีไอเดียอะไรดี ๆ และแปลกใหม่อยู่เสมอ เพราะเป็นคนที่ใส่ใจเรียนรู้และสร้างสรรค์ ตามยุคตามสมัยทันเหตุการณ์ของโลกอยู่เสมอ ชอบเปลี่ยนแปลงจนคนรอบข้างตามไม่ทันหรือคิดไม่ถึงก็มี จริงใจเปิดเผยตรงไป ตรงมา นิสัยไม่ดีคือมักเอาแต่ใจและดื้อรั้นมาก ในบางครั้งก็ดูก้าวร้าวขวานผ่าซากและขี้งอนขี้น้อยอกน้อยใจ เป็นคนที่ชอบสนุกสนาน ชอบช่วยเหลือเพื่อน ทั้งที่ทำคุณกับใครไม่ค่อยขึ้นหรอก คบกับใครก็ได้ ช่างเลือกด้วย แถมไม่ชอบผูกมัดหรือมีพันธะติดกับใคร จึงหาคู่ที่ถูกใจยากออกสักหน่อย

คนเดือนมีนาคม
เป็นคนที่ชอบเห็นอกเห็นใจชาวบ้าน ชอบช่วยเหลือคนอื่นแล้วก็ไปรับแบกภาระซะอย่างนั้นแหล่ะ เข้ากับคนง่าย ปรับตัวได้ดีมีมนุษย์สัมพันธ์ที่่ดี มีจิตใจที่เมตตาโอบอ้อมอารี มีคุณธรรมสูง ชอบสร้างบุญสร้างกุศล แต่มักเป็นคนที่ขี้เหงา ว้าเหว่ หรือไม่ชอบอยู่ในที่แคบๆ มักชอบที่จะอยู่ในที่โล่งแจ้งมากกว่า แต่อารมณ์มักอ่อนไหวง่ายมากๆ ในบางครั้งก็ขี้หงุดหงิด จิตใจไม่แน่นอน อารมณ์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนน้ำ ที่วันนี้ไม่รู้จะอยู่ในโอ่งหรือว่าขวดกันแน่ บางครั้งก็ดูแข็ง บางทีก็อ่อนไหวง่ายเหลือเกิน ด้วยความใจอ่อนนี่แหล่ะมักทำให้สูญเสียโอกาสดีๆ ไปเสมอ ดูอ่อนโยนสุภาพแต่ก็มีอารมณ์ที่ก้าวร้าว และปากร้ายได้เหมือนกัน เพราะเป็นคนที่เย็นก็ได้ ร้อนก็ได้ เสียใจง่าย ดีใจง่าย คล้อยตามคนอื่นได้ ไม่ค่อยแข่งขันอะไรกับใคร มักพอใจในสิ่งที่ตนมี เป็นคนที่เชื่อเรื่องโชคลางสิ่งลี้ลับ และชอบที่จะจดจำเรื่องเก่า ๆ หลงรักใครได้ง่าย ๆ และมักจะจมอยู่กับรักเก่า ๆ นั้น แบบพวกมีรักฝังใจไม่ยอมลืม แต่กับบางเรื่องกลายเป็นคนที่ขี้ลืมบ่อยๆ เหมือนคนแก่ และก็เป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจใฝ่หาอะไรที่มันใหม่ ๆ ซะด้วยซิ ยกเว้นชอบที่จะซื้อรองเท้าใหม่ๆ อยู่เรื่อยเลย ว่ากันว่าใครที่เกิดในเดือนนี้เท้าสวยแล้วจิตใจจะดีแถมเป็นคนชอบชิมชอบกินเสียด้วยซิ
รู้สึกว่าโชว ชลาพุชะจะเกิดเดือนนี้นะ.. :009:

คนเดือนเมษายน
เป็นคนที่มีนิสัยเหมือนเด็กๆ อยากรู้ อยากเห็น อยากได้อยากเป็นไปเสียหมด พอรู้พอเห็นแล้วก็เบื่อ ไม่เอาแล้ว อยากได้ของใหม่อีกแล้ว คือ เป็นคนขี้เบื่อเหมือนเด็กๆ ไม่ค่อยยอมฟังใครง่ายๆ กล้าได้กล้าเสียไม่ค่อยกลัวอะไร ลุยลูกเดียว แล้วก็เจ็บ แถมเจ็บไม่รู้จักจำอีกด้วย ชอบกลับไปทำซ้ำใหม่แล้วก็เจ็บอีก บางทีก็ชอบทำเรื่องง่ายๆ ให้เป็นเรื่องยากได้ จู้จิ้จุกจิกกับเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ได้ แต่เป็นคนที่น่าคบนะเพราะเป็นคนที่จริงใจตรงไปตรงมา ไม่ชอบเอาใจใครหรือเยินยอใคร ชอบไม่ชอบบอกกันตรงๆ เลย แบบว่าถือของให้ใครก็ไม่เป็น ไม่ชอบผูกมัดชอบอิสระ ชอบที่จะให้คนมาเอาใจมากกว่า และมักจะหึงและหวงคนรักนะ เพราะถ้ามีรักเมื่อไร จะเป็นคนที่รักเดียวใจเดียว รักแบบบริสุทธิ์ใจซะด้วยซิ และมักเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศสูงอยู่เหมือนกันนะจ๊ะ ทะเยอทะยานใจร้อน ทำอะไรก็รวดเร็วทันใจ เดินยังดูรีบ ๆ เลย มีอารมณ์รุนแรงขี้โมโหหงุดหงิดง่าย แต่ก็หายเร็ว ทำอะไรหุนหันพลันแล่น อยู่นิ่ง ๆ ไม่เป็นจะอึดอัดหงุดหงิด เครียด ต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เช่น ชอบออกกำลังกาย หรือทำอะไรที่มันดูเป็นภาคสนามสักหน่อย จะสบายใจกว่าให้นั่งเฉย ๆ ใครอยากเป็นแฟนต้องเข้าใจและเอาใจ อย่าปล่อยให้เหงาเชียวแหล่ะ

คนเดือนพฤษภาคม
เราจะเห็นว่าเดือนนี้มีสัญลักษณ์เป็นรูปวัวเพราะฉะนั้นต้องเข้าใจก่อนเลยว่า คนที่เกิดในเดือนนี้มักต้องทำเพื่อคนอื่นและต้องอดทนอย่างมาก เหมือนวัวนั่นแหล่ะ ดื้อรั้นเงียบแบบสงบเสียด้วยซิ มักเป็นคนที่ดูจะนิ่ง ๆ ไม่ค่อยแสดงออกสักเท่าไหร่ เป็นคนที่โกรธใครยาก แต่ถ้าโกรธนานเชียว แล้วถ้ามีใครมาแหย่ ให้โกรธเข้าล่ะก็ คุณแกจะกลายเป็นวัวกระทิงทันทีเลยล่ะ เป็นคนที่รักสวยรักงาม สะอาด รักความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำอะไรถูกกาลเทศะ ความคิด ความอ่านมักค่อนข้างหัวโบราณสักหน่อย เป็นบุคคลที่เปลี่ยนแปลงอะไรยากมาก ๆ เช่น การกิน หรือความเชื่อ ใครบอกก็ไม่เปลี่ยน นอกจากตัวเอง จะเปลี่ยนแปลงความคิดหรือการกระทำเอง ไม่ค่อยยืดหยุ่นกับชีวิต ชอบคิดว่าฉันเป็นฉันเอง เป็นคนที่ชอบอยู่นิ่ง ๆ สงบ ๆ อยู่คนเดียวก็ได้ อยู่กับเพื่อน ๆ ก็ได้
โคตรอดทนและบึกบึนมาก งานทำได้ทุกอย่างหนักเอาเบาสู้ได้หมด แถมเป็นคนมัธยัสถ์ ประหยัด ชอบเก็บสะสมทรัพย์สินอีกด้วย เรียกว่าเศรษฐีได้เลย แต่ก็ไม่ค่อยได้ใช้เองหรอกชอบให้คนอื่น ยิ่งถ้าเป็นคนที่ตัวเองรักแล้วล่ะก็...เต็มที่ไปเลย เป็นคนที่อ่อนไหวต่อความรักมาก รักแล้วทุ่มเทเกินเหตุ มักถือดีเรื่องความรักเสมอ หรือจะชื่นชม ให้กำลังใจหน่อยก็จะดี คนเดือนนี้ชอบให้ชมบ่อย ๆ พวกบ้ายอไง

คนเดือนมิถุนายน
เป็นคนที่ฉลาดมาก มักคิดอะไรได้รวดเร็วกว่าชาวบ้าน คือ มีความถนัดในการใช้สมองมากกว่ากำลัง ชอบคิดชอบพูด ชอบเขียน อยากรู้ อยากเห็น อยากลอง ต้องการเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ เพื่อความอยู่รอด จึงมักเป็นคนที่ดูทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
และในชีวิตมักมีอะไรเข้ามาทีละสองอย่างเสมอ ทำให้ต้องลำบากใจที่จะต้องเลือก ไม่ว่า จะเป็นความรัก หรือ การงาน ความคิดก็มักลังเล รักพี่เสียดายน้องอยู่นั่นแหล่ะ เป็นคนที่มีความสามารถหลายอย่าง สามารถทำอะไรหรือคิดอะไรได้ หลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน บางทีกลายเป็นคนสองบุคลิก หรือ คนสองหน้าได้เหมือนกัน สามารถแก้ปัญหาให้ใครต่อใครได้ในพริบตาเชียวล่ะ เป็นที่ปรึกษาและให้กำลังใจที่ดีเลยคนเดือนนี้น่ะ ชอบท่องเที่ยวไม่ชอบอยู่กับที่นาน ๆ
ชอบเปลี่ยนแปลงอะไรต่อมิอะไรอยู่ตลอดเวลา ทำให้ดูเหมือนเป็นคนที่ขาดความอดทน เป็นคนที่ค่อนข้างตรงและเอาแต่ใจตนเอง ไม่ค่อยเก็บความสงสัยเอาไว้ จะถามให้รู้เรื่องไปเลย จะทำอะไรก็เหมือนกันจะต้องทำให้มันสำเร็จ ชนิดไม่เสร็จไม่เลิก มีความว่องไวใจร้อนมากโดยเฉพาะเรื่องงาน ไม่ชอบให้ใครมาจู้จี้ขี้บ่น หรือซักถามยิ่งเวลาไปไหนมาไหน ไม่ต้องถาม ถ้าอยากบอกจะบอกจะเล่าเอง ด้วยความทันสมัยและชอบเที่ยวจึงเป็นผู้ที่ใช้เงินเปลืองมาก

คนเดือนกรกฎาคม
นับได้ว่าเป็นคนอ่อนไหวไวต่อความรู้สึก ระมัดระวังตัวหวาดระแวงตกใจง่ายไม่ค่อยไว้ใจใครง่าย ๆ รักษาผลประโยชน์รู้จักเก็บออมเงินเก่ง (ปูมักจะลากทุกอย่างเข้ารู) ถ้าเจอปัญหาเศร้าทุกข์อะไร จะขอหลบไปก่อน ไม่รับโทรศัพท์ ไม่รับแขก ไม่ยอมเจอใคร แต่พอตั้งสติได้จะค่อย ๆ กลับมาแก้ไขและกลับมาเป็นคนเดิมเอง เป็นคนรักบ้าน รักครอบครัวมาก ชอบอยู่กับบ้านและทำกิจกรรมที่บ้านมากกว่าให้ออกนอกบ้าน เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้ชาวกรกฎรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น มีความสุขที่สุด ดูจากภายนอกออกจะแข็งกร้าว ปากแข็งแต่จริง ๆ ภายในอ่อนปวกเปียกมาก ลองดูจากสัญลักษณ์ที่คนโบราณเปรียบเทียบไว้เป็นปูไง มีกระดอง แต่ข้างในนิ่มเชียว มีความอดทนต่อความยากลำบาก ชอบใส่ใจความรู้สึกคนอื่น ไม่ว่าเป็นหญิงหรือชายมักมีความเป็นแม่อยู่ในตัว มีสัญชาตญาณในการให้ ห่วงใยเอื้ออาทร ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน เอาอกเอาใจ (เฉพาะ) คนที่ตัวรัก เก็บรายละเอียดได้ดีไม่ว่าจะเรื่องอะไร โดยเฉพาะเรื่องเก่า ๆ หรือพวกรักฝังใจ ไม่ยอมลืม
แต่เจ้าอารมณ์ชะมัดเลยล่ะ จู้จี้จขี้บ่น เจ้าระเบียบ ต้องปล่อยให้บ่นไป เดี๋ยวเหนื่อยก็หยุดไปเองแหละ ต้องระวังเรื่องเครียด เพราะเป็นคนวิตกจริตคิดมาก รักใครแล้วไม่ค่อยปล่อยง่าย ๆ แถมขี้หึงถึงตายเลยล่ะ (ปูหนีบ)

คนเดือนสิงหาคม
คนที่เกิดในเดือนนี้เหมือนจ้าวป่าจึงมักจะเริ่ดเชิดหยิ่งไว้ก่อนเดินยังเอาหน้าไปก่อนเลย ไม่ค่อยยอมก้มหัวให้ใครง่าย ๆ ไม่ง้อใครถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ชอบที่จะเป็นหัวหน้า เป็นผู้นำมากกว่าคล้อยตาม ชอบความเป็นอิสระทั้งด้านงานและการใช้ชีวิต

ไม่ชอบขึ้นอยู่กับใคร เชื่อมั่นในตัวเองมาก ใจใหญ่ถึงไหนถึงกัน เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำ รักเกียรติยศชื่อเสียง เสียอะไรไม่ว่า เสียหน้าข้าไม่ยอม ใจร้อนหงุดหงิด ขี้โมโห จริงจังกับชีวิตมากจนกลายเป็นพวกบ้าอำนาจ หรือจอมเผด็จการ ฉลาดหลักแหลม เจ้าปัญญา เจ้าความคิด คิดโน่นนี่ได้ตลอดเวลา แต่บางทีก็ไม่ยอมทำเอง ชอบใช้คนอื่นทำแทน จึงควรเป็นที่ปรึกษานั่นแหล่ะดี เพราะเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อใจหรือไว้ใจใครเลย และไม่ค่อยชอบพึ่งใครด้วย รักเฉพาะพวกพ้องพี่น้องและครอบครัวของตัวเอง สามารถเสียสละให้ได้ทุกอย่าง เป็นคนที่อยากให้ทุกคนมารัก อยากให้ทุกคนยอมหรือยกย่องตัวเอง อย่าไปขัดใจหรือโต้แย้ง ปกติใครอยู่ด้วยจะน่ารักมาก เพราะจริงๆ เป็นคนที่ขี้สงสารและชอบให้อภัย หรือให้โดยไม่ค่อยหวังผลตอบแทน เพียงแต่ไม่ชอบที่จะแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นเท่านั้นเอง เป็นคนที่หาเงินเก่งและก็ใช้จ่ายเก่งด้วย ถ้าพอใจอยากได้อะไรต้องได้จะจ่ายไม่อั้น ยังไงก็ต้องรักษาหน้าไว้ก่อน จะหาคู่ครองต้องเป็นคนใจเย็นเป็นผู้ใหญ่กว่า มีปัญญาที่เหนือกว่าจึงจะอยู่กันได้ หรือไม่ก็อยู่ใต้เท้าคุณสิงหาคมแกไปเลยหมดเรื่อง

คนเดือนกันยายน
นับว่าเป็นคนที่เฉลียวฉลาด คล่องแคล่วว่องไว มีเสน่ห์ ไม่ว่าเป็นชาย หรือ หญิงมักมีแต่เรื่องหยุมหยิม มีข้อสงสัย หรือ วิเคราะห์ ทุกอย่างจนเกินเหตุ เป็นคนที่เข้าใจยากอยู่สักหน่อย เพราะชอบเอาแต่ใจทำอะไรตามอารมณ์เหมือนผีเข้า ผีออก ไม่แน่นอน คนอื่นอาจจะงง ๆ เหมือนจะประสาทหลอน แต่จริง ๆ แล้วเพราะเป็นคน! ที่ละเอียดลออ เอามาก ๆ ชอบสังเกต พิถีพิถันออกแนวหัวโบราณ วิตกจริตคิดมากเท่านั้นเอง ช่างคิดช่างฝันช่างจินตนาการ มินิสัยชอบเปลี่ยนแปลงหรือพยายามทำสิ่งต่าง ๆ ที่คนอื่นเขาทำทิ้งไว้ ค้างไว้ ให้เสร็จสมบูรณ์ตามแบบฉบับของตัวเอง พูดง่าย ๆ ก็คือชอบ จู้จี้จุกจิก เจ้าระเบียบ ชอบจับผิดคนเก่งมาก แต่ก็เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีนะ ถึงจะชอบจับผิดก็เถอะ แล้วชอบที่จะช่วยเหลือชาวบ้านหรือดันไปแบกรับภาระคนอื่นมา จะดูเหมือนเรื่องมาก และเลือกมากไปเสียทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวต้องดูดีก่อนออกจากบ้านหรืออาหารการกินต้องสะอาด โดยเฉพาะเรื่องความรักมักจะใช้เวลาเลือกค่อนข้างนาน แต่ถ้าได้รักแล้วมักจะรักนานเลยเช่นกัน

เอ... ศิษย์พี่-ศิษย์น้องท่านใดเกิดเดือนนี้บ้างนะ? :009:

เป็นคนที่ขยันทำมาหากินมาก บางครั้งประหยัดจนดูเหมือนขี้เหนียว ช่างพูดช่างเจรจา พูดเก่งและแก้ตัวเก่งอย่างมีเหตุผลเสียด้วยซิ ผิดกับการบอกรักกลับเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออก ขี้อาย ปากแข็งมาก ถ้าคิดจะเอ่ยปากบอกรักใครสักคน เวลารักใคร! ชอบรักจนหมดหัวใจ จึงมักโดนคนที่ตนรักหลอกหรือเอาเปรียบอยู่เสมอ

คนเดือนตุลาคม
คนเดือนนี้เป็นคนสุภาพอ่อนโยน นุ่มนวล สะอาดน่ารัก เป็นนักการทูต มีพรสวรรค์ในการเจรจา (กะล่อน) แต่ประนีประนอม หรือ โน้มน้าวจิตใจคนได้ดี เป็นคนค่อนข้างตรงและเอาจริงเอาจัง คิดยังไงก็พูดออกมาอย่างนั้น สามารที่จะโอนอ่อนผ่อนตาม คล้อยตามมากกว่าขัดใจ ใครว่าอะไรก็ว่าด้วย
เป็นคนที่มีเสน่ห์ อยู่ในตัวเอง ถ้าไม่หน้าตาดี บุคลิกก็ต้องดูดีมีราศี สามารถดึงดูดคนให้เข้ามาหาได้อย่างง่ายดาย ในบางคนก็รักสวยรักงานศิลปะ ชอบเข้าสังคมทำอะไรเพื่อสังคม ชอบความสนุกสนานร่าเริง ฟุ้งเฟ้อ ชอบความหรูหรา เป็นคนที่ถ้ารู้จักใคร ถูกชะตาจะรักมาก รักเร็วและทุ่มเทซะเกินเหตุ แต่ถ้านึกอยากจะเลิกก็เลิกเลยแบบไม่มีเหตุผลเช่นกัน เรียกได้ว่ารักง่าย หน่ายเร็ว เป็นคนที่รักพวกพ้องเพื่อนฝูงเอามาก ๆ ใครไม่เป็นพวกข้าไม่ดีด้วย
จนในบางครั้งดูเหมือนดื้อและก้าวร้าวมาก อารมณ์บางครั้งก็ขึ้น ๆ ลง ๆ จะตัดสินใจทำอะไรได้แต่ละอย่างคิดอยู่่นั้นแหล่ะ (ลังเล) ไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวเอง มักต้องรอจังหวะ เหมือนตาชั่ง (สัญลักษณ์) กว่าตาชั่งที่เอียงไปเอียงมาจะตรงหรือสมดุลกันได้ก็เล่นเอานานเหมือนกัน ขยั นทำงานฉลาดในการทำธุรกิจ มีความสุขุมรอบคอบและเยือกเย็นได้แต่สิ่งที่ควรระวังก็คือมักเชื่อคนง่าย จึงมักมีสิทธิ์โดนหลอกใช้ได้เหมือนกัน

คนเดือนพฤศจิกายน
คนเดือนนี้เป็นคนที่ดูแล้วค่อนข้างจะลึกลับ ถ้าไม่สนิทกันจริงไม่ค่อยเล่าเรื่องของตัวเองให้ใครฟัง ค่อนข้างไม่ค่อยไว้ใจใครง่าย ๆ มีความระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่ง เก็บความลับเก่ง ชอบทำตัวลึกลับ มีความในใจซ่อนเร้น มีความสงสัยอยู่ตลอดเวลา มีความทิฐิมานะ วางท่า ไว้ตัว ทำตัวเหมือนหยิ่ง อดทน อดกลั้น แต่ถ้ามีอารมณ์โกรธฉุนเฉียวขึ้นมาล่ะก็ กล้าเผชิญกับทุกสิ่ง จะหนาไหนหรือใหญ่แค่ไหนก็ไม่ค่อยกลัว
ช่างประชดประชัน เหน็บแนมเก่งมาก คำพูดคำจาบางทีชอบพูดแรง ๆ ตรงเกินกว่าที่คนรอบข้างจะรับได้ แต่ก็พูดออกมาจากใจจริงของตัวเองนะ เป็นคนขี้งอนใจน้อย อารมณ์แปรปรวน เอาแต่ใจเจ้าอารมณ์ ไม่ค่อยสนใจใส่ใจใคร ดูเหมือนดุร้าย ไม่น่าเข้าใกล้ จนบางครั้งคนรอบข้างจะคิดว่าเป็นบ้า แต่แท้ที่จริงแล้ว ทำไปเพื่อจะป้องกันหรือปิดบังอะไรบางอย่าง ที่เป็นปมด้อยในตัวเองที่ไม่อยากให้ใครรู้ เป็นคนฉลาดเจ้าความคิดจะตายไป ชอบพลิกแพลงเอาชนะด้วยมันสมอง ไม่ค่อยชอบใช้กำลังสักเท่าไร มักมีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงในการทำธุรกิจ ด้านความรักก็มักแต่งงานช้า หรือหาคนถูกใจยากสักหน่อย เพราะมัวแต่ขี้ระแวงอยู่นั่นแหล่ะ และไม่ค่อยชอบให้ใครมาจู้จี้มากนัก มีโลกส่วนตัวสูง แต่ก็เข้าได้กับทุกคนนะ เพียงแต่คนอื่นอ่านไม่ค่อยออก ก็เท่านั้นเอง

คนเดือนธันวาคม
ด้วยความชอบผจญภัยให้อยากอยู่บ้านแทบตาย ยังไงก็ต้องมีเหตุอันให้ต้องออกจากบ้านจนได้ ในชีวิตมักต้องไปได้ดีเอาไกลบ้าน ไกลเมือง ไกลถิ่นฐานที่เกิด หรือได้คนรักในแดนไกลแล้วชีวิตจะดีกว่า เป็นคนที่มักโชคดีเรื่องการเงิน เป็นคนอารมณ์ดี ขี้เล่นชอบพูด ชอบเล่าอะไรสนุกสนาน จนในบางครั้งเกินความเป็นจริงไปซะไกลเลยเชียว ชอบที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เพิ่มเติมจากที่ตัวเองรู้ ชอบพัฒนาชอบสำรว จ สามารถให้คำปรึกษากับคนรอบข้างได้ดี เพราะเป็นผู้รอบรู้และเป็นนักวางแผนที่ดีได้ เป็นคนที่ฉลาดและรอบคอบ คิดสร้างสรรค์อะไรมักจะไปเจริญหรือเป็นจริงได้ในอนาคต คือมีความคิดที่ก้าวไกลกว่าคนอื่น ๆ เหมือนหยั่งรู้อนาคตได้ยังงั้นแหล่ะ สามารถแก้ไขปัญหาได้ดี มีรสนิยมดีตรงไปตรงมาและ จริงใจ ชอบการเดินทาง เปิดหูเปิดตา ชอบกีฬา เรียกว่าอยู่นิ่งๆ ไม่ค่อยเป็น และชอบที่จะเป็นอิสระมากว่ามีเจ้านายคอยควบคุม อยากจะแสดงความสามารถที่มีอยู่ให้ใคร ๆ เห็นมากกว่า ชอบแหกกฎ อาจเป็นได้ว่าความถือดีว่าตัวเองมีปัญญาฉลาดกว่าคนอื่น เป็นคนที่โกรธง่ายหายเร็ว แต่อย่าย้ำซ้ำเติมความผิด ของเก่านะ จะไม่ค่อยยอมรับผิดหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ด้วยเลยล่ะ ทำให้เราเสียอารมณ์เปล่าๆ ด้านความรักเป็นคนที่ไม่ชอบแฟนขี้หึง ถ้าให้อิสระ คนเดือนนี้จะรักตายเลยล่ะ

Let's Check it.. ตรงไหมคะ?

pu lok beaw rewrite by cho presley

25
ถ้ามีเวลาเหลือ 3 เดือนครึ่ง คุณจะวางแผนชีวิตอย่างไรให้มีความสุขที่สุด?
เสิร์ฟสาระ.. BALANCE to YOUR LIFE by Cho

คำนำ
คิดตั้งนานว่าจะเปิดหัวเรื่องว่าอะไรดี สุดท้ายจึงลงตัวด้วยการเปิดหัวเรื่องว่า 'เสิรฟ์สาระ' ความหมายคงไม่ต้องอธิบายกันแล้ว เพราะตรงนี้ถือว่ากำลังมอบสาระล้วนๆ..บทความนี้เคยขีดๆ เขียนเป็นภาษาง่ายๆลงหนังสือให้พนักงานของบริษัท xxx (ฮ่า...สงวนนามไว้หน่อย...) ได้อ่านกันไปทั่วประเทศเมื่อปีที่แล้ว.. ไม่ได้สร้างความฮือฮาเท่าไหร่ (เพราะมันเป็นสาระที่ต้องอ่านและทำความเข้าใจกับมันนะสิ! แต่ก็มีผู้อ่านหลายคนเข้าใจและสามารถนำไปปฏิบัติได้ดีเลยหละ) เอาหละ..วันนี้หากใครว่างก็อ่านหนังสือคอลัมน์หนึ่งตรงนี้...เพื่อประเทืองปัญหาการสร้างสมดุลชีวิตก็แล้วกัน cho presley

BALANCE to YOUR LIFE
สร้างสมดุลให้ชีวิต



จะมีใครบ้างไหม ตื่นขึ้นมาก็พบกับชีวิตที่สมบูรณ์แบบทุกวัน
คนส่วนใหญ่ อยากได้ทุกอย่างพร้อมๆ กัน บางครั้งรู้สึกราวกับว่า ฉันมีพร้อมไปเสียทุกอย่าง แต่หลายครั้ง กลับว่างเปล่า.. เมื่อใดที่เราต้องนั่งจด งาน หรือ ธุระ ที่ต้องจัดการมันให้เสร็จลงบนปฏิทินนัดหมาย โอ้โห! ประชุม งานสังคม คุยกับวิศวกรเรื่องต่อเติมบ้าน อินทีเรียเรื่องตกแต่งบ้าน ดริ้งซ์กับเพื่อนสมัยเรียน นาย ลูกน้อง พาครอบครัวไปเที่ยวตากอากาศ ไหนจะกิ๊ก? (ล้อเล่น)การตอบ “ตกลง”ทำง่ายกว่าทำให้คนรอบกายเราผิดหวัง จริงไหมคะ?

พี่โชวว่า..ความสัมพันธ์ในการใช้ชีวิตหลายๆ รูปแบบนี้ เป็นสิ่งที่ดีค่ะ ถ้าเราทำมันได้พร้อมกัน แท้จริงแล้ว เรากลับพบว่า มันคือต้นเหตุแห่งความเจ็บปวด และความเศร้าเสียใจ ทุกอย่างรอบตัวเราจะดีได้ต่อเมื่อ เราให้ความสำคัญกับมัน และไม่ลืมหน้าที่ที่ต้องทำ มันต้องการเวลา พลัง และวินัยในการปฏิบัติสูงทีเดียวค่ะ


หากเราไล่ล่าสิ่งที่เราต้องการด้วยความเครียด เรามักจะได้เกือบทุกอย่างที่เราต้องการ แต่การพยายามได้มาซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างโดยปราศจากการรักษาสมดุลชีวิตนั้น ก็มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดผลลัพธ์ในเชิงลบ หากยอมให้กลไกอันผิดธรรมชาติเหล่านี้ มาทำลายการสร้างชีวิตที่สมบูรณ์แบบของเรา เราจะได้มันพร้อมกับการมีชีวิตที่สมดุลควบคู่ไปด้วย ได้อย่างไร?

เคยสังเกตุคนรอบตัวของพี่ ไม่ต้องไปไกลปู้นน เขาใช้ชีวิตแบบ “สนุกกับงาน สังสรรค์ตลอดคืน ตื่นมางัวเงีย อ่อนเพลียก็ลาป่วย” แบบนี้ส่วนใหญ่พบกับรุ่นน้องที่พึ่งทำงาน เน้นหนักไปทางเฮฮา ศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน จันทร์ลา พฤหัสเล่นกีฬา.. เหลือเวลาทำงานให้มีคุณภาพก็น้อยแล้ว อีกกลุ่มหนึ่ง อันนี้เชียะเลย! ทำแต่งาน อ้างเสมอ งานเข้า! โอย..ซีเรียส ไม่ได้..ทุกอย่างต้องเป๊ะ! เผลอแพล๊บเดียว เอ๊ะ ตั้งแต่ฉันเลิกกับอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮมไปแล้วเนี่ย ป่านนี้ยังไม่มีผู้ชายคนไหนตกถึงท้องเลย หิวจนไส้กิ่ว.. อ่า..อันนี้เรียก โสดแบบไม่ได้ตั้งใจ เดี่ยวใครไม่รู้ นึกว่าลูกสาวบ้านนี้ขายไม่ออก

ดังนั้นการสร้างสมดุลชีวิตให้มีความสุขเนี่ย มันต้องหาวิธีจัดการให้ได้ ในขณะเดียวกัน เรามีวิธีแก้ปัญหากับสิ่งที่ “มากเกินไป” หรือ “บ่อยไป” อยู่หลายวิธี หลายปีที่ผ่านมา เราเสพข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกิน สุขภาพ ลดน้ำหนัก สมัครเป็นเมมเบอร์ฟิตเนส ต้องจ่ายเงินเป็นรายปี แต่แทบไม่เคยไปใช้บริการให้คุ้มเลย เรามีเทคโนโลยีที่ออกแบบให้ชีวิตง่ายขึ้นตั้งเยอะแยะ แต่แทนที่คอมพิวเตอร์ อีเมล์ มือถือ จะช่วยให้เรามีชีวิตที่เครียดน้อยลง พี่ว่าสิ่งเหล่านี้กลับทำให้เราเครียดมากยิ่งขึ้น


สำหรับประสบการณ์ของพี่ คิดว่าคนเราต้องค้นหาตัวเองให้ออกก่อนว่า ในชีวิตนี้เราต้องให้คุณค่ากับอะไรบ้าง  บางคนอาจบอกว่า เวลาที่ได้อยู่กับพ่อแม่ พี่น้องเป็นเวลาที่ happy สุดๆ  บางคนบอกว่า ต้องเวลาที่ได้เที่ยวกับเพื่อนสิถึงจะแหล่ม  ในขณะที่ช่วงเวลาได้ทำบุญ ทำกุศล สักยันต์ เก็บวัตถุมงคลที่ชื่นชมไว้เชยชมจะเป็นความสุขแบบหาที่เปรียบมิได้เลยของบางคน และบ้างก็ว่า ถ้าฉันได้ทำงานเยอะๆ สิ จึงจะสุดยอด พี่คิดว่าคนเราให้คุณค่ากับหลายๆ อย่าง หรือพูดง่ายๆ ว่ามีหลายด้าน หลายมิติ แล้วด้านหลายด้านนี่แหละ ที่ทำให้เรามีทั้งสุข และทุกข์ เพราะบางครั้งเราให้ความสำคัญมากไป หรือน้อยเกิน หรือจะพูดอีกอย่างคือ มันไม่สมดุลกัน โดยส่วนตัวพี่เองนั้น มีทั้งหมด 4 ด้าน คือ ครอบครัว งาน สังคม และเรื่องส่วนตัว
        
                                 
หลักการคือ พยามทำให้ทุกด้านมันเชื่อมอยู่กันได้อย่างสมดุลที่สุดเท่าที่จะทำได้ในแต่ละช่วงชีวิตย้ำนะคะ..ช่วงชีวิต!ที่บอกว่าทำให้สมดุลไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างต้องเท่ากันหมด เดี่ยวบางคนนึกว่าถ้าทั้งหมดคือ 100 %  เราต้องทำให้มันเป็นอย่างละ 25%  ไม่ใช่ค่ะ! จุดอยู่ที่ว่าเราต้องรู้ว่าด้านไหนสำคัญกับชีวิตของเราแค่ไหนต่างหาก แล้วก็แบ่งเวลา หรือพลังงานของเราไปทำด้านนั้นให้เหมาะสม แต่ละคนไม่จำเป็นต้องมีด้านที่สำคัญกับชีวิตเหมือนกับคนอื่น หรือถ้าเหมือนก็ไม่จำเป็นต้องเน้นความสำคัญเท่ากับอีกคนหนึ่ง พี่ว่าตรงนี้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ถ้าเรามีภาพนี้ในสมองเวลาที่เรากำลังทำอะไรอยู่ เราจะรู้ว่าเราทำเพื่ออะไร มันจะมีความหมาย และที่สำคัญคือ เราจะรู้ว่า เราควรจะทำมันมากน้อยแค่ไหน ถามว่าแล้วมิติเหล่านี้ของแต่ละคนจะเปลี่ยนแปลงไหม?  พี่ว่ามันเปลี่ยนแปลงไปตามสถานภาพและกาลเวลาของแต่ละคน หรือบางทีมิติอาจจะไม่เปลี่ยน แต่น้ำหนักความสำคัญที่เราให้ อาจจะเปลี่ยนได้ ตัวอย่าง ตอนพี่ยังเรียนหนังสืออยู่ ความสำคัญอาจจะตกอยู่ที่เรื่องส่วนตัวซะเยอะ (ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆ ช้อปกระหน่ำซื้อของแพงๆไม่เคยสงสารพ่อแม่) พอเรียนจบความสำคัญมาอยู่ที่เรื่องงาน เพื่อนฝูงหรือครอบครัวนี่ก็รองลงมาหน่อย เรื่องทำงานเพื่อสังคมคงยังไม่ค่อยมี พอสถานภาพเริ่มเปลี่ยนแปลง คราวนี้ต้องเขยิบความสำคัญมาทางครอบครัวมากขึ้นแล้วสิ (ขืนยังทำตัวเหมือนวัยรุ่นคงไม่ได้แน่) เรื่องสังคมการกุศลก็ทยอยตามมาอีก ตรงนี้แหละที่เป็นความท้าทาย เราต้องรู้ว่ามิติ และความสำคัญมันไม่อยู่นิ่ง คนที่มีปัญหามากๆ เพราะตัวเองอาจจะไม่ตระหนักเลยยังไม่เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตให้สมดุล   มีอยู่อีกสิ่งหนึ่ง ที่พี่อยากจะ share คือ ด้านทั้งหมดต้องต่อเชื่อมกันด้วยความถูกต้อง (Integrity) ตรงนี้สำคัญเพราะบางครั้งบางเวลาแต่ละด้านของชีวิตอาจจะไม่สมดุล เช่น เพราะหน้าที่การงานเลยต้องเดินทางบ่อย เลยไม่มีเวลาคุยกับครอบครัว หรือบางครั้งต้องเข้างานสังคม สังสรรค์ ดึกๆ ดื่นหลายคืน ตรงนี้ถ้าเราไม่มีวินัย Integrity คนที่บ้านอาจไม่เข้าใจ และก่อให้เกิดกรณีพิพาทย์ได้ง่าย
                                                
สุดท้ายที่อยากจะพูดถึงคือ ไม่ว่าเรากำลังทำด้านใดอยู่ เราก็ควรทำมันแบบใส่เต็มๆ ในเวลาที่ให้กับมัน หรือจะเรียกว่าใช้ชีวิตให้เต็มที่ก็ได้ (อันนี้ไม่ได้เป็น Sponsor ของ Pepsi นะคะ) อาจเคยได้ยินว่า ทำให้เหมือนเรามีชีวิตอีกแค่หนึ่งวัน แต่พี่ว่าอันนี้เกินไปหน่อย เดี่ยวจะเลยไม่ทำงานทำการกันแล้ว เอาว่าถ้ามีเวลาเหลืออีกสักสามเดือนครึ่ง แล้วเราก็วางแผนว่าจะทำอะไรในแต่ละด้าน แล้วทำทุกอย่างให้เต็มร้อย โดยไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง(Procrastinate) คุณจะทำอะไรบ้าง ลองไปคิดดู?


พี่เชื่อเหลือเกินว่า ถ้าเราทำตรงนี้ได้ มันจะเกิดความสมดุล และช่วยให้เรามีความสุขกับชีวิตที่มีความหมาย (Happy & Meaningful Life)

หวังว่าจะให้ข้อคิดเล็กๆ น้อย ที่จะทำให้ศิษย์พี่-ศิษย์น้องวัดบางพระ มีความสุขในการใช้ชีวิตกันนะคะ!




wrote by cho presley
for me’n’u magazine on since 2008 cholvibul@hotmail.com

26
บริบทใหม่... แห่งมหาอำนาจ by โชว ‘นารายณ์ทรงครุฑ&เทวดาทรงสิงห์’

นักสังคมวิทยานิยามอำนาจ ว่าเป็นความสามารถในการกำหนดให้ผู้อื่นเป็น หรือกระทำตามความต้องการของตนเอง แม้ว่าผู้อื่นจะ ขัดขืนก็ตาม
อำนาจ หมายถึงโอกาสที่มีอยู่ในความสัมพันธ์ทางสังคม ที่ทำให้บางคนสามารถกระทำตามความตั้งใจ แม้ว่าจะมีการขัดขวาง โดยไม่ขึ้นกับหลักการที่รองรับโอกาสนั้นๆ
 
อำนาจมีความหมายใกล้เคียงกับ อิทธิพล เป็นความสามารถฝ่ายเดียว หรือแทบจะมีเพียงฝ่ายเดียว หรือศักยภาพทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ไม่ว่าใครก็ตามที่กำลังจะมี หรือมี  ‘อำนาจ’  ไม่ว่าจะบทบาทในสังคมไหนก็ตาม ควรเรียนรู้บทบาทตนเองทางสังคมให้ถูกต้อง บางคนได้อำนาจแบบส้มหล่น ตุ๊บ! แม้มีตำแหน่งคับฟ้า ก็มิอาจเปล่งบารมี ทำให้เป็นที่รักของบริวารได้… ด้วยเพราะการวางตัวกร่าง ฮึกเหิม เย่อหยิ่ง อวดรู้ ข้านี่ใหญ่มีอำนาจทำอะไรก็ได้ สุดท้าย คนเหล่านี้มักเริ่มปีนเกลียว ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่เห็นหัวครูบาอาจารย์ หรือผู้ใหญ่ที่เคยสนับสนุน หลงระเริงนึกว่าตนใหญ่คับฟ้าไปแล้ว ด้วยเพราะอำนาจจากหัวโขนตำแหน่งทางสังคมที่ได้รับ... บางคนเป็นเพียงแค่เพื่อนสนิทของผู้มีอำนาจ..อาศัยอำนาจ บารมีของคนอื่นเป็นสะพานให้ตนเองได้เอื้อมสูง ซ้ำยังหักหลังผู้มีอำนาจเหยียบหัวเขาขึ้นไปเลยก็มี... สรุปว่าที่ได้ดีไม่ใช่เพราะตนเองเลยสักนิด..ไม่เห็นจะน่าภูมิใจตรงไหน...เคยได้ยินเรื่องเหล่านี้มามากมาย.. ทั้งที่ประสบกับตนเอง และได้ยินได้ฟังมา...เราเป็นศิษย์มีครูบาอาจารย์คุ้มหัว คงไม่มีใครลืมเลือนบุญคุณครูบาอาจารย์อย่างแน่นอน... :048: cho presley
 
ความเมตตา เอาใจใส่ ความจริงใจ จึงเอาชนะใจบริวารได้ตลอดชีวิต นั่นหมายรวมถึง แม้วันหนึ่ง คุณไม่มีตำแหน่งทางสังคมแล้ว อยู่บ้านนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว ไม่ใส่สูท ไม่มีผลดีผลเสียต่อบริวารคุณอีกแล้วเพราะไม่ได้มีตำแหน่งอะไรที่ให้คุณและโทษแก่กัน แต่คุณก็ยังเป็นเจ้านาย เป็นพี่ที่รักอยู่ในความทรงจำของพวกเขาตลอดไป....


เขียนไป เขียนมาชักจะยืด เดี่ยวไม่นานจะยาวเฟื้อย................ cho นึกถึงเครื่องรางมหาอำนาจจากสองเกจิดัง.. หลวงพ่อสาคร และหลวงปู่กาหลง ถือเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้มีโอกาสสรรเสริญบุญคุณครูบาอาจารย์ในวันพฤหัสสุดแสนดีวันนี้... cho. presley


อิทธิปาฎิหารย์ประสบการณ์จากวัตถุมงคลเครื่องรางมหาอำนาจ บารมีนั้น ล้วนมีฤทธานุภาพรวมถึง แคล้วคลาด คงกะพัน ป้องกันศาสตาวุธ  ทรงอานุภาพลือลั่น เกรียงไกร อำนาจเหนือศัตรู อีกทั้งยังเป็นที่รักแก่คนรอบข้าง และบริวาร  

เหรียญนารายณ์ทรงครุฑ หลวงปู่กาหลง วัดเขาแหลม  รุ่น 1  
รุ่นบูรพาจารย์ 49 เนื้อตะกั่วขอมโบราณพันปี สร้างน้อย 1999 ที่ระลึกไหว้ครูบูรพาจารย์ 2549





เหรียญเทวดาทรงสิงห์ หลวงพ่อสาคร เนื้อเงิน หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ 2551



ถึงเวลาแล้วหรือยัง...สำหรับการเยี่ยมเยือนวัดบางพระ กราบขอเมตตาสักยันต์มหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ลือลั่น...คงอีกไม่นานเกินรอ ...  cho presly

27
สุดยอดประสบการณ์ โชวตะลุยฮ่องกง ไหว้เจ้าแม่กวนอิม ริมทะเล Repulse Bay Vol.2

เมฆดำทมึน ท้องฟ้าสีเทาอีกแล้ววันนี้.. เริ่มต้นเดือนกันยายน 2552...พักเรื่องสักยันต์เจ็บจี้ดดด... ตะลุยฮ่องกงอิ่มบุญกันต่ออีกครั้ง
คราวนี้มาชื่นชมความสวยงามจับใจของเจ้าแม่กวนอิม VS เจ้าแม่ทับทิม ที่ตั้งสูงตระหง่านงดงามริมทะเลรีพัลส์ เบย์ ประเทศฮ่องกง





เจ้าแม่กวนอิม และเจ้าแม่ทับทิม...ที่ผู้คนยกย่องนับถือว่าเป็น "จักรพรรดินีแห่งท้องทะเล"เทพที่ช่วยชีวิตผู้คนจากภัยทางท้องทะเล ไหนจะเทพเจ้าแห่งโชคลาภ รวมถึงเทวรูปต่างๆ เยอะแยะมากมาย นำมาให้ชมพอขำๆนะ..
พยายามคัดรูปที่ไม่มีนางแบบแล้วนะ ขออภัยดูเกะกะนิดนึง.. :009:.



ยอมรับเลยว่า.. สถาปัตยกรรมเทวรูปเยอะแยะจริงๆ .. พอไปหลายคนก็ถ่ายพอขำขำได้นิดหน่อย...
ไหนจะมังกรแก้วสารพัดนึก ผู้คนมักมาลูบคลำ
อธิฐานขอพร
อ้อ..ยังมีไฮไลท์อีกคือ ‘เทพเจ้าแห่งโชคลาภ’ อยู่ด้านซ้ายของเจ้าแม่กวนอิมนี่หละ... ผู้คนมาถึงนี่ มักเข้าแถวทำตามธรรมเนียนกันทุกคน กล่าวคือ เอาธนบัตร แบงค์ร้อย แบงค์พันแล้วแต่ มาลูบตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าของเทพเจ้า แล้วนำธนบัตรเข้ากระเป๋าสตางค์เลย เป็นความเชื่ออย่างหนึ่ง เงินทองไหลมาเทมาเข้ากระเป๋าเราไง ส่วนของคุณโชวใจป้ำเอาแบงค์ 1000 ไทยนี่หละ แหมมี 3 ใบลูบครบสามใบเลย…ทำซ่าส์... แล้วก็เผลอลืมใช้หมดเกลี้ยง เขาให้เอาเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์นะ หมดกันพอดี..




แถมประวัติเจ้าแม่กวนอิม...ละกัน
C-from vikipidia by cho. presley
เจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์ ของพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน เป็นองค์เดียวกันกับพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ในภาษาสันสกฤต ซึ่งมีต้นกำเนิดจากพระสูตรมหายานในอินเดีย และได้ผสมผสานกับความเชื่อพื้นถิ่นดั้งเดิมของจีน คือตำนานเรื่องพระธิดาเมี่ยวซ่าน ก่อให้เกิดเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมในภาคสตรีขึ้น เพื่อแสดงออกถึงความอ่อนโยน และแสดงถึงความเมตตากรุณาให้เด่นชัดยิ่งขึ้นดังเช่นความรักของมารดาที่มีต่อบุตร ซึ่งเป็นการผสมผสานกลมกลืนทางความเชื่อที่ปราศจากข้อขัดแย้ง เนื่องจากในสัทธรรมปุณฑรีกสูตรได้อธิบายว่า พระอวโลกิเตศวรนั้นสามารถแบ่งภาคเพื่อโปรดสรรพสัตว์ได้มากมายทั้งปางบุรุษและสตรี และเป็นธรรมดาของพระโพธิสัตว์มหายานที่เมื่อเข้าไปสู่ดินแดนอื่นทั้งทิเบต จีน หรือญี่ปุ่น ย่อมผสมผสานกลมกลืนได้กับเทพท้องถิ่นนั้น ๆ อย่างในกรณีพระอวโลกิเตศวรนี้ Sir Charles Eliot ได้ตั้งข้อสังเกตว่า "คงเนื่องมาจากความสับสนทางความคิดของชาวจีนในยุคนั้น ซึ่งบูชาเทพเจ้าต่างๆ ของตนอยู่แล้ว และเมี่ยวซ่านก็เป็นเทพวีรชนดั้งเดิมอยู่ก่อน พออารยธรรมพระโพธิสัตว์จากอินเดียแผ่เข้าไปถึง ได้เกิดการผสานทางวัฒนธรรมเปลี่ยนชื่อเสียงคงไว้เพียงแต่คุณลักษณะต่าง ๆ พอให้แยกออกว่าเป็นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์" cho. presley from vikipidia

พระโพธิสัตว์กวนอิมในตำนานฝ่ายจีน c-from vikipidia by cho. presley
พระโพธิสัตว์กวนอิม (ประสูติ 19 เดือนยี่จีน) ชาติสุดท้ายเป็น ราชธิดานาม เมี่ยวซ่าน เดิมเป็นเทพธิดา มาจุติยังโลกมนุษย์เพื่อมาช่วยปลดเปลื้องทุกข์ภัยแก่มวลมนุษย์ เป็นราชธิดาองค์สุดท้ายของกษัตริย์ เมี่ยวจวง ซึ่งมีราชธิดา 3 องค์ องค์โตชื่อ เมี่ยวอิม องค์รองชื่อ เมี่ยวหยวน เยาว์วัยเป็นพุทธมามกะ รู้แจ้งในหลักธรรมลึกซึ้ง ตั้งพระทัยแน่วแน่จะบำเพ็ญภาวนา เพื่อหลุดพ้นสังสารวัฏ ออกบวชวันที่ 19 เดือน 9 พระเจ้าเมี่ยวจวงไม่เห็นด้วย จะบังคับให้เลือกราชบุตรเขย เพื่อจะได้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป แต่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านไม่สนพระทัยเรื่องลาภ ยศ สรรเสริญ อันจอมปลอม แม้จะถูกพระบิดาดุด่าอย่างไร องค์หญิงก็ไม่เคยนึกโกรธเคืองแต่อย่างใด
ต่อมาองค์หญิงสามได้ถูกขับไปทำงานหนักในสวนดอกไม้ เช่น หาบน้ำ ปลูกดอกไม้ ทั้งนี้เพื่อทรมานให้เปลี่ยนความตั้งใจ แต่ก็มีเหล่ารุกขเทวดามาช่วยทำแทนให้ทั้งหมด พระบิดาเมื่อเห็นว่าไม่ได้ผล จึงรับสั่งให้หัวหน้าแม่ชี นำองค์หญิงสามไปอยู่ที่วัดนกยูงขาว และให้เอางานของแม่ชีทั้งวัดมอบให้องค์หญิงทำคนเดียว แต่องค์หญิงมีพระทัยเด็ดเดี่ยว ไม่เกี่ยงงานการต่างๆ ก็มีเหล่าเทพารักษ์มาช่วยทำแทนให้อีก พระเจ้าเมี่ยวจวงเข้าพระทัยว่า พวกแม่ชีไม่กล้าเคี่ยวเข็ญใช้งานหนัก ก็ยิ่งทรงกริ้วหนักขึ้น สั่งให้ทหารเผาวัดนกยูงขาวจนวอดเป็นจุณไป พร้อมกับพวกแม่ชีทั้งวัด มีแต่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านเท่านั้นที่ปลอดภัยรอดชีวิตมาได้

พระเจ้าเมี่ยวจวงทรงทราบดังนั้น จึงรับสั่งให้นำตัวราชธิดาไปประหารชีวิต เทพารักษ์คอยคุ้มครองเจ้าหญิงอยู่ โดยเนรมิตทองทิพย์เป็นเกราะห่อหุ้มตัว คมดาบของนายทหารจึงไม่อาจระคายพระวรกาย ดาบหักถึง 3 ครั้ง 3 ครา พระบิดาทรงกริ้วยิ่งนัก โดยเข้าพระทัยว่านายทหารไม่กล้าประหารจริง จึงให้ประหารนายทหารแทน แล้วรับสั่งให้จับเจ้าหญิงไปแขวนคอ ทว่าผ้าแพรที่แขวนคอก็ขาดสะบั้นลงอีก
ทันใดนั้นปรากฏมีเสือเทวดาตัวหนึ่งได้นำเจ้าหญิงขึ้นพาดหลังแล้วเผ่นหนีไปที่เขาเซียงซัน ต่อมา เทพไท่ไป๋ได้แปลงร่างเป็นชายชรามาโปรดเจ้าหญิง ชี้แนะเคล็ดวิธีการบำเพ็ญเพียรเครื่องดับทุกข์ จนสามารถบรรลุมรรคผลสำเร็จธรรม วันที่ 19 เดือน 6 ข้างฝ่ายพระบิดาเข้าพระทัยว่า เจ้าหญิงถูกเสือคาบไปกินเสียแล้ว จึงไม่ได้ติดใจตามราวีอีก
ต่อมาไม่นานบาปกรรมที่พระองค์ก่อไว้ส่งผล เกิดป่วยด้วยโรคร้ายแรง ไม่มียารักษาให้หายได้ เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านได้ทรงทราบด้วยญาณวิถีว่า พระบิดากำลังประสบเคราะห์กรรมอย่างหนัก ด้วยความกตัญญูกตเวทีเป็นเลิศ มิได้ถือโทษโกรธการกระทำพระบิดาแม้แต่น้อย ทรงได้สละดวงตาและแขนสองข้าง เพื่อรักษาพระบิดาจนหายจากโรคร้าย ว่ากันว่า ภายหลังสำเร็จอรหันต์ ได้ดวงตาและพระกรคืน เคยแสดงปาฏิหารย์เป็นปางกวนอิมพันมือ องค์หญิงเมี่ยวซ่านนั้น ตอนแรกเป็นชาวพุทธ ตอนหลังเทพไท่ไป๋ได้มาโปรด ชี้แนะหนทางดับทุกข์ เหตุนี้พระโพธิสัตว์กวนอิมจึงเป็นเทพทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายเต๋าในเวลาเดียวกัน จบแค่นี้..


เจ้าแม่กวนอิม ริมทะเล Repulse Bay Hong Kong by cho. presley



oops.... is she photographer...?











ศาลานี้หละกลางน้ำเลย


ดูมุมสวยๆกัน..




เจ้าแม่กวนอิมขี่ไก่ เสียด้วย!




สิ่งศักดิ์สิทธิ์ริมทะเลอย่างนี้.. อิ่มบุญแล้วยังสุขสุด..


กรี้ดสสสส์ ลั่นเลย.. เปียกเหมิดดดดดด.. คลื่นซัดหาฝั่ง.. เหมือนใจร่ำคร่ำครวญหา.. จากกันไปบางเวลา.. จากกันเพื่อความสุขใจ ฮัมเพลงพี่ปูพงษ์สิทธิ์ซะงั้น!

รูปปั้น เฒ่าประมงตกปลา ผู้คนมักมาขอพรเพื่อหวังได้กำรี้กำไร ร่ำรวย ดั่งเฒ่าประมงตกปลา ที่จับปลาได้อยู่เต็มข้องเสมอ

รูปปั้น แพะสามตะวันเบิกฟ้า
แพะสามตัว เป็นสัญลักษณ์มงคลแทนความมั่งคั่ง โชคดี แพะสามตัวเป็นสัญลักษณ์แทนพระอาทิตย์สามดวง คือ พระอาทิตย์สีเขียว สีแดง และสีขาว หมายถึง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งแฝงความหมายว่า “ใต้หล้าทั่วแดนดิน ทุกสิ่งขอให้สมหวังสมปราถนา”





รูปปั้นปลาแห่งความมั่งคั่ง
ผู้คนมักนิยมโยนเหรียญใส่ปากปลา โดยเชื่อว่าหากโยนเข้าปากปลา พรที่ขอไปจะสัมฤทธิผล ปลาเป็นหนึ่งในสัตว์มงคลของชาวจีน โดยเฉพาะปลาหลีฮื้อ ซึ่งมีความหมายว่า ‘ไม่ว่าชีวิตเราจะทำอะไรก็ตามจะมีแต่ความสำเร็จ’ ... เออนะ.. ไม่ได้โยนเลย.. ถ่ายรูปเล่นอย่างเดียว..





อิ่มอกอิ่มใจกับการขอพรจากเทพเจ้าเพื่อสุขภาพดี ร่ำรวย เงินทอง ความรัก โอ้ยสารพัด.. (เยอะดีจริงๆ)
สุดท้ายคงไม่พ้นการมีอายุยืนยาวเพื่ออิ่มเปรมกับความสุขทั้งหลายที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตนั่นเอง นั่นก์คือ สะพานต่ออายุสีแดง
เชื่อกันว่าหากข้ามสะพานนี้แล้วจะมีอายุเพิ่มมากขึ้นอีก 3 ปี (ไม่แน่ใจว่ากี่ปีกันแน่) แต่มีข้อแม้ว่าข้ามไปแล้ว ห้ามข้ามกลับ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นลดอายุแทนการเพิ่ม..โชวว่าปกติดีแล้วไม่ต้องมากกว่า ไม่ต้องน้อยไป การข้ามสะพานกลับเลยต้องใช้วิธีเดินข้ามไปแล้วเดิมอ้อมใต้สะพานกลับมาอีกทางหนึ่ง ในขณะที่ข้ามก็ให้ทิ้งเรื่องไม่ดีออกจากใจ ไม่เอาข้ามไปด้วย..




คงต้องกลับไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมกันอีกครั้ง เมื่อคำอธิฐานของทุกคนสมหวังสมปรารถนา......

ยังเหลือวัดดังอีกวัดหนึ่งนะคะ.. โปรดติดตามตอนต่อไป


Have Fun na........from cho. presley ไหว้เจ้าแม่กวนอิม ริมทะเลรีพัลส์เบย์ ประเทศฮ่องกง

28
บทความ บทกวี / คุยฟุ้ง..งานวัด by cho
« เมื่อ: 19 ส.ค. 2552, 11:45:36 »
คุยฟุ้ง เรื่องงานวัด by cho

เผลอแพล๊บเดียวฉีกปฏิทินไปใกล้จะครบ 8 ใบแล้ว.. เมืองไทยที่เราอยู่ยังคงเป็นความภูมิใจของคนไทยต่อไปแบบไม่หือไม่อือ.. สู้ต่อไป..

เห็นภาพข่าวกิจกรรมเกี่ยวกับพุทธศาสนาในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ อาทิ เวียนเทียน เข้าพรรษา อาสาฬหบูชาแบบนี้ หรือแม้กระทั่งงานไหว้ครูบูรพาจารย์ที่ชุกช่วงเวลานี้.. ส่วนใหญ่เรามักเห็นแค่ระดับชุมชนเท่านั้น กล่าวคือ ต่างคนต่างทำ แต่ละวัดต่างคนต่างจัด แต่ละวัดต่างไปคิดกิจกรรมบุญดึงดูดให้คนมาทำบุญกันเอง พระสงฆ์องค์เจ้าต่างต้องมาทำหน้าที่เป็นครีเอทีฟแมน แถมเป็นนักการตลาดซะเอง บางองค์ยังรับตำแหน่งเป็นโฆษกพูดออกไมค์เรียกญาติโยมกันอย่างขมีขมันอีกหนึ่งตำแหน่ง ตบท้ายด้วยแรงศรัทธาจากศิษยานุศิษย์อย่างเราท่าน ที่ชอบเก็บภาพความประทับใจมาร่วมแบ่งปันประหนึ่งภาพข่าวหลังงานประมาณนั้น?.อันนี้ขออุปมาอุปไมยให้สอดคล้องกับความรู้ประสบการณ์แบบหางอึ่งแต่ก็น่าจะพึ่งได้ยามขับขัน?และขอพี่น้องผู้อ่านใช้สติปัญญาไตร่ตรองก่อนคิดอะไรเลยเถิดเซย์โนว negativeกับเรื่องจริงผ่านคีย์บอร์ดเช้านี้?

เอ้า..เข้าเรื่องอีกสักหน่อย.. นี่เป็นมุมมองหนึ่งของดิฉัน..ศิษย์จัตวาวัดบางพระผู้คร่ำหวอดวงการจัดงาน จัดงาน และจัดงานมาก็แล้วกัน..เชื่อขนมกินได้เลยว่า.. เด็กรุ่นใหม่สมัยนี้ฝึกงานออกาไนเซอร์จัดงานนี่..รู้สึกเท่ระเบิดระเบ้อ.. แต่ใครจะรู้ออกาไนเซอร์คืออะไรและสำคัญอย่างไร...บ้านเรายังคงให้ความสำคัญน้อยถึงน้อยมาก..มักไม่ค่อยเคารพในสาขาอาชีพนี้สักเท่าไหร่นัก เห็นเป็นเรื่องง่ายๆ ที่เลียนแบบกันได้.. เรื่องที่ดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่ายนี่สิ.. น่าสนใจ!

วันสำคัญทางศาสนาของคนไทยนี่.. ความจริงเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ในมุมมองความคิดของดิฉัน.. มันเป็นเรื่องของพุทธศาสนา ความเชื่อของคนทั้งชาติ..จะพูดว่าไม่สำคัญได้ไง..แทบทุกงานวัดในเมืองไทย..สามารถที่จะเนรมิตจัดทำเป็นมหกรรมยักษ์ใหญ่ระดับชาติเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้อย่างอลังการ..ไม่แพ้ไมเคิลแจ๊คสันเต้นลูบเป้าที่เมืองไทยเลยทีเดียว! งานสำคัญทางศาสนา สามารถกระตุ้นต่อมการจับจ่ายใช้สอยเพื่อดึงเงินจากกระเป๋าผู้คนได้ไม่น้อย โดยเฉพาะในกลุ่มคนส่วนใหญ่ของประเทศที่มีความเชื่ออยู่ในหัวใจ...ที่นักการตลาดจะเรียกว่าเป็นกลยุทธ์...ศรัทธามาร์เก็ตติง...ธุรกิจธุรกรรมที่เกี่ยวกับความเชื่อ...ความหวัง...ความศรัทธา มีอยู่มากมายหลายหมื่นหลายแสนรายการในตลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องสังฆทาน เทียนเข้าพรรษา หลอดไฟฟ้า น้ำมันตะเกียง ดอกไม้ธูปเทียน ทองคำเปลว เครื่องรางของขลังของบูชา ของกินของไหว้ อาหารคาวหวาน และอื่นๆ อีกเพียบรวมทั้งประเทศมูลค่าทางเศรษฐกิจหมุนเวียนต้องมีหลายหมื่นล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้นมหกรรม Tattoo Festival ที่จัดมาหลายครั้งแล้ว จะยังสร้างชื่อเสียงขจรไกลหากได้ Apply ให้เป็นสักยันต์ไทย... อันนี้ก็เป็นจินตนาการความฝันลมๆ แล้งๆ ที่มักจะเป็นจริงได้หากมีใครเห็นด้วยแล้วคิดอยากเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ! หัวใจเต้นตึกตักทุกครั้งที่ศิษย์พี่ศิษย์น้องถอดเสื้อโชว์ลายสักยันต์สำนักต่างๆ บอกตรงๆว่า.. อยากสักแบบนั้นบ้าง.. แต่ยังแรงไม่พอรอเดี่ยวสิ?ฮ่า?
          
รู้ไหมว่าก่อนหน้านี้ประเทศไทยครีเอทโปรเจคส์เป็นเจ้าภาพจัด มหกรรมงานบุญวันเข้าพรรษา...โดยเปิดโอกาสให้พี่น้องชาวโอท็อปและเอสเอ็มอี รายเล็กรายน้อยนำสินค้าบุญที่ผลิตได้ในชุมชน เช่น เทียนเข้าพรรษาสวยๆ ดอกไม้ประดิษฐ์ ธูปหอมเทียนหอมของสังฆทาน ผ้าอาบน้ำฝน ของกินของใช้ ของสำหรับถวายพระ และอีกสารพัดอย่างที่นิยมใช้ในเทศกาลนี้ มาเปิดร้านออกบูธจำหน่ายในราคาย่อมเยาให้คนกรุงเทพฯ ดิฉันว่างานนี้ผู้ร่วมงาน mass มากเพราะต้องมีคนตุเลงหอบพี่ป้าน้าอาไปอุดหนุนเป็นเรือนแสน เงินทองหมุนเวียนช่วยเหลือผู้ประกอบการได้หลายพันครอบครัว แถมงานนี้ยังสามารถใช้เป็นเวทีสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันยิ่งใหญ่ของชาวไทยได้อย่างเต็มที่ สามารถนำการแสดงที่เป็นศิลปวัฒนธรรมเก่าแก่มาเผยแพร่และอวดชาวต่างชาติได้ เด็กเล็กคนรุ่นใหม่จะมีโอกาสเข้าใจเข้าถึงพุทธศาสนาได้มากขึ้น ยิ่งถ้าสามารถนิมนต์พระเกจิอาจารย์ดังๆ มาให้ศีลให้พร ปะพรมน้ำมนต์ด้วยละก็ รับรองคนล้นฮอลล์ แหม.. คิดแบบ step change goal ให้เมืองไทยสนุกดีแท้.. สานฝันอันยิ่งใหญ่จะให้เมืองไทยเป็นฮับของเอเชียผ่านพุทธศาสนาที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย

ดิฉันติดตามมาเป็นช่วงช่วง หลินหุ้ย จนหลินปิงฟันขึ้นแล้ว...โปรเจคส์ใหญ่ยักษ์ระดับชาติยังเป็นจินตนาการที่ล้ำเลิศในความทรงจำของดิฉันต่อไป... หลายครั้งดิฉันคิดฟุ้งซ่านตามประสาคนอยู่เฉยแล้วมีปัญหากับสมอง?ครีเอทและbehind the sceen อีเว้นท์งานบุญจากแรงศรัทธาคนไทยเพื่อการกุศล...

ดิฉันว่า.. ถ้าเรามีโอกาสระดมสมองช่วยกันคิดช่วยกันทำ เรายังมีหนทางเปิดโลกใหม่ๆ ให้กับวงการสักยันต์ไทยบ้านเรา ระดมสมองงานสร้างสรรค์ทำงานบุญให้เป็นรูปธรรมแทนการคิดวิพากษ์วิจารณ์ ความคิดเห็นที่แตกต่าง....ดิฉันคงมีความสุขสาระเพิ่มขึ้นมิใช่น้อย...โชว presley..26 สิงหาคม 2552

29
สวัสดีค่ะ... ?ศิษย์พี่-ศิษย์น้องวัดบางพระ ผู้หลงใหลศิลปะการสักยันต์? ที่รักทุกท่าน

คุณโชวชวนพักเรื่องสักยันต์ พระเครื่อง เครื่องราง ศิลปะวัดวาอารามในแบ้งคอค ไทยแลนด์ แดนสไมล์กันสักครู่?

ตะลุยไหว้พระใหญ่ต่างแดนที่ประเทศฮ่องกงกันเถอะ!

ปะ...ไปด้วยกันนะคะ !...




เชื่อเหลือเกินว่า ศิษย์พี่-ศิษย์น้องวัดบางพระหลายท่าน ต้องเคยตะลุยต่างแดนกันมาปรุแล้วแน่... วันนี้โชวเลยแอบเอามะพร้าวมาขายสวนเสียหน่อยนะ...จุ๊กกรู้..





ฮ่องกง.. เมืองสวรรค์ขาช้อป ถูกใจ shopaholic สาวหมวยเอเชียผมดำบ้านเรา.. ใครไปก็ต้องช็อปกระหน่ำ..
เสื้อผ้าแบรนด์เนมที่บ้านเรามีแต่ถูกกว่าเห็นทีจะไม่พ้น..3 แบรนด์นี้ Giordano Bossini G2000 สามแบรนด์นี้เดินไปไหนเหมือนผีตามหลอกหลอนค่ะ.. มีทุกซอกทุกมุม..
กดไปหลายตัวเก็บสต๊อคไว้!























ไอ้ที่ว่าแบรนด์เน้ม แบรนด์เนมถูกใจสาวๆ ที่ชอบเหลือเกินเสื้อผ้าหน้าผม คงหนีไม่พ้น แบรนด์ Amarni เอามานี่ หรืออาร์มานี่... Gucci (กุ้ดจี่ หรือ กุชชี่) Prada (ป้าดา หรือ ปราดา) Givancy (จีวองชี่ ) Long Champ (ลองชอง) นาฬิกาเหล็กโล-โลเหล็ก แหม Rolex..งี้เพียบ.. ขอใส่นาฬิกาลังเง่ก๊อปถูไถความเท่ไปก่อนละกัน..
โชวชวนตะลุยไปทุกร้านบริเวณ Fashion Street ของย่าน Tsim Sha Tsui ค่ะ..ชิมชาจุ่ย เอ..เข้าไปแล้วไหง..เวียนหัน มึนๆ เหมือนจะอ๊วก...ยังไงเนี่ย.. (สงสัยโดนของแหงเลย คนขายมันเอากุมารไว้ไหนป่าวว๊า เดินไปร้านไหนเสมือนถูกดูดเข้าไป..วื้ดดดดดด..)



ไอ้ที่เวียนหัวหน่ะมิใช่โดนของ หรือมนต์สะกดแต่อย่างใด.. แต่ของแพ้งแพง.. ดูราคาก็ลมจับ..จ้างก็ไม่ซื้อหรอก ราคาเต็มหน่ะ.. เพราะไม่ได้เป็นคนมีสมบัติ รวยและต้องโง่ เสียด้วยสิ!

ร้านนี้คงต้องแวะหน่อย.. เพราะต้องสานภารกิจการซื้อของให้จบสิ้น? เย้! Paul Smith ลด 70% ?
ขอรองเท้า รองเท้า? งามๆ แนวๆ สักครู่?ปรากฏลด 70% แล้ว เหลือ 8 พันก่าๆ (เอ้ง..แพงโคตร!) ?
ไม่เอาดีฝ่า.. คู่นี้ไม่ชอบ ลดแล้วยังแพงแถมแบบให้เลือกก็น้อยอีก...เฮ้อ! เล่นของก๊อปซะดีไหม..!





เอาละ? เราเว้นวรรคเรื่องจุกจิกช็อปปิ้งของสาว สาวไว้แค่นี้ก่อนดีกว่า.. ถือว่าเป็นวิทยาทาน (ถือได้ไหมนะ) ให้กับหนุ่มน้อยใหญ่เป็นข้อมูลเผื่อจีบสาว เอ้อ.. กระเป๋าลองชองหน่ะ ราคาไม่แพงมาก ซื้อให้สาวรับรองกระโดดจุ๊บหน้าผากแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว.. ราคาสัก 3- 4000 บาท? เอาใจสาวๆ ยังไงก็ดีค่ะ..เพราะผู้หญิงมีไว้ให้รัก ไม่ได้มีไว้ให้ทำความเข้าใจเขานะ.. จำไว้ คุณไม่มีโอกาสที่สองในการสร้างความประทับใจครั้งแรกหรอกพ่อคุณ(You?ll  never get the second chance to make the first impression)








บันทึกสุดยอดประสบการณ์ โชวตะลุยฮ่องกง ไหว้พระใหญ่ที่สุดกำลังจะเริ่มแล้ว.. (หรือนี่) ปะ ไปกันจริงๆ แล้วคราวนี้! เพราะหลงโม้อยู่นาน ไฮไลท์มันอยู่ตรงนี้ตะหาก..
 






เราเดินทางด้วยกระเช้า "Ngong Ping 360 Cable Car" เคเบิ้ลคาร์แบบธรรมดาก็พอ..ลงเล่นขึ้นเคเบิ้ลคาร์แบบพิเศษที่เขาเรียกว่า คริสตัลคาร์ นั้นเงินในกระเป๋าเราจะแฟบลงไม่เหลือพอไปช็อปกระหน่ำซ้ำอีกครั้งหนะสิ?
คริสตัลเคบิน มีความต่างคือ พื้นล่างของกระเช้านั้นเป็นกระจกใส.. เราก็มองลงไปแบบความหวาดเสียวถามหา และตบท้ายด้วยการอาเจียรโฮกฮากน่านหละ?. สูงเสียขนาดนั้น?





เราเดินทางด้วยกระเช้า "Ngong Ping 360 Cable Car" เคเบิ้ลคาร์แบบธรรมดาก็พอ..ลงเล่นขึ้นเคเบิ้ลคาร์แบบพิเศษที่เขาเรียกว่า คริสตัลคาร์ นั้นเงินในกระเป๋าเราจะแฟบลงไม่เหลือพอไปช็อปกระหน่ำซ้ำอีกครั้งหนะสิ?

คริสตัลเคบิน มีความต่างคือ พื้นล่างของกระเช้านั้นเป็นกระจกใส.. เราก็มองลงไปแบบความหวาดเสียวถามหา และตบท้ายด้วยการอาเจียรโฮกฮากน่านหละ?. สูงเสียขนาดนั้น?



ระหว่างที่เราเดินทางไปถึงวัดโป่หลินเพื่อชมไจแอนท์บุดดานั้น เรามีเวลาชื่นชมทัศนียภาพฮ่องกงถึงเกือบ 40 นาที..เห็นจะได้.. เขาจึงเรียกว่า เคเบิ้ล 360 องศานั่นหละ.. กระเช้านึงไม่เกิน 7 คน..  มีไฮไลท์ระหว่างทางก็ตรง Say Cheese!  >> อ่ะ.. เซย์ชีส คืออะไร.. งั้นอธิบายเผื่อคนไม่รู้ละกันนะ..ก่อนจะถึงไฮไลท์เซย์ชีสนะ.. อ่ะ..ใครเป็นช่างภาพน่าจะคุ้นเคยมั่งหละ... คือถ้าฝรั่งเขาบอกให้เซย์ชีสเนี่ย.. ก็แปลว่า ยิ้ม นั่นหละ.. ลองเซย์ชีสดูสิ?. เซย์ ชีสสสสสสสส..

แต่ถ้าเป็นคุณโชวนะ เวลาต้องถ่ายรูปหมู่..คนเยอะๆ คนไทยก็ต้องบิลล์อัพอารมณ์ด้วยการบอกว่า? เอ้า..ทุกคนพูดเปปซี่พร้อมๆ กันสิ ? เปป?..ซี่?. เราก็จะได้ภาพสวยงาม?จริงๆ ส่วนถ้าจะเอาภาพที่เจ๋งสุดๆ ต้องให้เขาพูดว่า ขี้ ค่ะ? เพราะภาพจะได้อารมณ์หัวเราะแบบธรรมชาติลงโทษมาเป็นของแถมอีกเยอะเลยค่ะ.. ....เอ้า..ต่อค่ะ.. ไฮไลท์ระหว่างทาง เขาแนะนำให้คอยสังเกตุที่สัญญาลักษณ์ที่เป็นลิงค่ะ.. เขาอธิบายไว้ว่าถ้าเห็นลิงให้เซย์ชีส... นั่นคือภาพที่ทุกคนในกระเช้าจะฉีกยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกัน.. ตอนขาลงจากกระเช้าเราก็จะเห็นรูปเราค่ะ เขาก็ขายเราสัก 168 เหรียญดอลล่าร์ฮ่องกงนะถ้าจำไม่ผิดแพงจะตายไม่เอาหรอก.... งั้นเรื่องไรจะเซย์ชีส? เซย์อย่างอื่นดีก่า..

เอ้า! ทุกคน พอถึงตรงน้องลิงนะ.. ห้ามเซย์ชีสสส? อ้าวทำไมหละคะพี่.. เขาให้เซย์ชีสแล้วพี่ไม่เซย์?แล้วพวกเราจะเซย์อะไรหละคะ?
ค่ะ..ถามมากเด่วได้ภาพไม่แนวนะเอ่อ.. กฏมีไว้ให้แหก.. เอ้า! ถ้าผ่านลิง ให้ทุกคนทำหน้าตาเศร้าหมองที่สุด แบบเหมือนอยากตายหง่ะ เตรียมตัวนะ..ใกล้จะถึงแล้ว?เร็ว???

เอ้า???.......... แชะ! ทุกคนพร้อมทำตามไม่ขัดขืนเลย?ไม่ทันต่อรองแล้ว.. เพราะเรากะเวลาไม่ให้เขาได้ตัดสินใจหรอก? ฝรั่งอีกคนที่นั่งมาด้วยถามว่า what are you doing? Oh? we don?t want to say cheese, do the sad face instead...? เดี่ยวค่อยไปชมผลงานเศร้าๆ ตรงปลายสถานีกันค่ะ?



ชาวบ้านชาวช่องเขาก็รีบร้อนจะเดินเข้าไปชมไจแอนท์บุดดาที่เห็นอยู่ลิบลิบ...เราก็เดินเล่นกันไประหว่างทางแบบสนุกสาน.. ไปกันสามคน..ได้เพื่อนร่วมทริปเพิ่มอีกสองคน.. เลยเมามันส์กันใหญ่ 5 คน... เดินไปขำไป.. บ้าบอตามสไตล์คุณโชวที่เป็นคนไม่เครียดอะไร.. เพราะเราไม่มีไรให้เครียดค่ะ.. คุยกันถูกคอมากๆ ชอบอะไรเหมือนๆ กัน..เลยเที่ยวต่อกันโลดในฮ่องกงอีกวันครึ่ง.. แลกเบอร์แลกเอ็มคุยกันที่เมืองไทยกันต่ออีกค่ะ...


ลงมาจากกระเช้าแล้ว? ระหว่างทางเขาบังคับให้เราเดินผ่านร้านขายของที่ระลึกจ๊ะ? แน่นอนผลงานถ่ายภาพบนกระเช้าเมื่อสักครู่จะปรากฏให้ชมที่นี่? ขึ้นจอplasmaค้างไว้ให้เราเลือกซื้อไงค่ะ? อาหมวยพนักงานขายภาพชักสีหน้าบึ้งตึงพอควร... เพราะรูปของพวกเรา บางคนกำลังจะร้องไห้ คอตก ไม่มีรอยยิ้ม.. พร้อมกัน 5 คน? แถมพวกเรายังหัวเราะเสียงดังชื่นชมในผลงานที่ไม่เหมือนใครอีกตะหาก งานนี้ create by cho. แหมภูมิใจเสียจริง!


Giant Buddha มาเรียกทับศัพท์ไปเลยง่ายดี... ไจแอนท์บุดดา ?ที่วัดโป่หลิน

วัดโป่หลิน (Poilin Monastery) อยู่บนที่ระดับความสูง 22 เมตร บนเกาะลันเตา
สามารถมองเห็นพระพุทธรูปประทับกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่สุด (ที่สุดในโลกหรือเปล่าอันนี้ไม่ค่อยทราบเลยค่ะ)
จากเกือบทุกๆ ส่วนของเกาะ จากกระถางธูปขนาดใหญ่ที่ด้านล่าง เราจะต้องเดินขึ้นบันได 268 ขั้นไปด้านบนสุดของยอดเขา
สู่ฐานที่องค์พระนั่งประทับอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 371 เมตรเชียว..



นี่คือหมู่บ้านงองปิง Ngong Ping
แบบว่าต้องกินค่ะ.. เราต้องกินก่อนนะคะ..เติมพลังในการเดินไปอีกไกลปู้น?ไจแอนท์บุดดาเป้าหมายไฮไลท์หลักวันนี้!  หลายคนคอยจะเปลี่ยนใจเชื่อไหม? บ้างงอแง บอกว่าหนูจะถ่ายรูปเล่นแถวๆ นี้หละ.. บ้างก็บอกโอ้ยง่วงอยากกินสตาร์บัคคอยแถวๆนี้หละ? เอาหละ แวะเข้าไปร้านนี้.. ดูหน้าตาดี.. มีบะหมี่เกี้ยวกุ้งของโปรดด้วย.. เย้!
อิ่มจัง.. ตังยังอยู่ครบ เพราะเรารูดบัตรเครดิต .. เด่วตอนเก็บคงอ๊วกแตกมื้อนี้กินห้าคนหมดไป.. 2000 กว่าบาทไทย... เออ ก็ไม่แพงนะ.. เพราะทุกร้านเล่นขายราคาประมาณนี้ค่ะ!.. ครั้นจะห่อข้าวใส่ปิ่นโตไปกินก็ใช่ที่..





Giant Buddha หรือไจแอนท์ บุดดา พระพุทธรูปที่ใหญ่มากอยู่บนยอดเขา?ประเทศฮ่องกง


ไม่ขอพูดไรมากแล้วนะ.. ยิงตรงไปที่ไจแอนท์บุดดาเลย.. แต่เอ๊ะเดี่ยวก่อน.. น่านมันร้านขายพวกเครื่องรางนี่หน่า.. ปะ.. เราไปแวะหน่อย..
เหล่าร้านรวงที่ระลีกคู่กะคนจีน คนฮ่องกงนั้นหนีไม่พ้นเครื่องรางนำโชคค่ะ.. เป็นเล่นไปนะบางคนมาเพราะดูละครเรื่อง หยกลายเมฆ.. แต่หยกที่เป็นไฮไลท์ของเรื่องหน่ะ.. ก็มีขายเยอะแยะเลยนะคะ.. มีภาพให้ชมเนี่ยขอบอกเลยว่า แลกมากับความใจถึงนะ.. เขาทำหน้าดุไม่ยอมให้ถ่ายรูป? แต่ไม่ทันแล้ว? รัวชัตเตอร์ไวกว่าเสียงที่เขาเปล่งว่า ห้ามถ่ายค่ะ ขอโทษทีนะอาม่า?.ไม่ทันแล้ว!





ตรงนี้เป็นร้านขายเครื่องรางนำโชค ส่วนใหญ่เป็นหิน เป็นหยก แกะลวดลายมังกร สิงโต หินสีชมพู สีนู้นนี้มากมาย?ทำเป็นสร้อยข้อมือเยอะค่ะ ราคาไม่ถูกค่ะ.. โอ๊ะ โอ๊ะ.. don?t take the picture? โอยไม่ทันอีกแล้วค่ะ..แหมทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้นี่.. ได้ภาพมาหลายใบนะเป็นเล่นไป....say cheeseeeeeeeeee!



เอาหละ? คราวนี้เราเริ่มออกเดินจริงๆ ไม่เถลไถลไปไกลแระ เพราะมองนาฬิกา ก็เหลือเวลาอีกไม่มาก รถกระเช้าเที่ยวสุดท้ายหกโมงเย็น โชวหนอโชวชวนกันเพลินซะเกือบไปแล้ว..สู้ สู้? ตะลุยกราบพระใหญ่ที่สุดในฮ่องกงนะคะ.. ไจแอนท์บุดดา..
ฟ้าฝนไม่เคยเป็นใจค่ะ เที่ยวทุกทีฝนก็ตกโดยเฉพาะที่นี่ค่ะ? โอยอะไรกันเนี่ย!



เรารีบถ่ายภาพกลางสายฝน.. สงสารน้องต้องคอยถือร่มให้ กลัวกล้องเปียก..ถอยมาหมาดๆ เลยป้าดดดดดด? ฮ่า..เก็บกล้องดีกว่าฝนตกหนักมากแล้ว
ปีนบันไดขึ้นไป.. โหยจิ๊บๆ (ซะที่ไหนคะ).. เล่นเอาหอบแฮ่ก แฮ่ก เนื้อตัวเปียกปอน..เหมือนน้องหมาตกน้ำ..แต่ก็อดไม่ได้จะบังคับให้น้องถ่ายภาพไว้เป็นที่ระทึก ภาพไหนมีโชวก็อาจไม่ค่อยสวยมาก.. ไม่ว่ากันสิ! ? น้องก็ถ่ายด้วยความหงุดหงิด? ฝนตกซะขนาดนี้ลำบากลำบน ถ่ายอยู่ได้!
 










บนนี้ก็มีเครื่องรางขายอีกนะ อันนี้เท่าไหร่นะคะ.. คนขายก็ตอบมาว่า 198 ดอลล่าร์.. โอว.. ลดหน่อยได้ไหมหละ?... คนขายน่ารักมาก ยิ้มแล้วบอกว่า no discount mam.. เอ้า.. ทำไมหละ.. ก็อันนี้มันdonationแหม.. ทำบุญค่ะ.. ไม่มีลดราคา? อีกอะนะความเงอะงะง้องแง้งของโชว... ไปต่อเขาได้ไง มันน่าทุบกะโหลกตัวเองจริงๆ...
(เด่วค่อยถ่ายรูปมาให้ดูอีกทีนะ baby Buddha เบบี้ บุดดา ที่เช่ามาจากที่นี่

มีความสุขมากค่ะ.. พอตกดึกก็ช้อปอีกอ่ะแหละ.. ไม่กลับเข้าที่พักหรอก หอบข้าวของพะรุงพะรังทั้งกล้องทั้งbaby Buddha ไหนจะนู่นนี่นั่น พร้อพประจำตัวอีก.. โอ้ย! อะไรนักหนา.. พบกันใหม่.. มีอีก 2 วัดนะ.. วันนี้เอาแค่นี้ก่อง.. ประเดิมบอร์ดเส้นทางสายบุญต่างประเทศของวัดบางพระ?

... เที่ยวหน้าจะโชวพาตะลุยไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่มาเก๊า..



โปรดติดตามตอนต่อไป....อาหมวยโชว รายงานจากนู่น...ฮ่องกง..


 
 


31
จากกระทู้ชื่อ วัดบางพระ นครปฐม ช่วงไปวัดกันเถอะ by cho. ที่เคยได้นำเสนอไปเมื่อวานนั้น
สร้างความแตกตื่น ชุลมุนวุ่นวายให้กับ น้องสุดหล่อพ่อรวย อย่างน้อง เอ็ม ไร่ขิง และน้องตะกรุด รวมถึงน้องนอมอท้อผิด..

ต่างลุกฮือ แตกตื่นในฐานะ ผู้นำแฟชั่นใช้รองเท้า Paul Smith มาอย่างโชกโชน...

พี่โชวเลยถือโอกาส ไขข้อข้องใจด้วยการเล่าเรื่องจากภาพดังต่อไปนี้ค่ะ


กล่องรองเท้า Paul Smith..









มองด้วยตา... แบบไม่ต้องคิดจะทราบดีว่า.. Paul Smith (พอล์ สมิทธ์) มีสินค้าเป็นรองเท้าที่โดดเด่น เพราะด้วยภาพลักษณ์ เฉพาะตัวของลายแถบบาร์โค้ดสีสันจัดจ้านเช่นนี้


จะหลอกตาไหมน้อ?... งั้นดูให้ใกล้กว่านี้ ว่ากล่องรองเท้าพอล์นั้นมันเป้นอย่างไร?





ทีนี้.. ที่พี่โชว ริอาจทำความไม่เหมาะสม ใช้กล่องรองเท้ายี่ห้อดังนี้มาวางเป็นแบคกราวน์ (ไม่ใช่แบคกาวนะคะ) คงหมดไป..
ผู้หญิงที่ชื่นชอบวัตถุมงคล แม้เงอะงะบ้าง.. แต่ควรจะรู้เรื่องเบเบ (เบสิค) ที่ควร หรือมิควร..



ทีนี้มาดูสักนิดว่า ขนาดบาทาผู้หญิงเบอร์ 38 คู่นี้ พอจะนำมายัดใส่ในถุงนี้ได้ไหม..





งั้นเปลี่ยนแนวมาชม บาทาผู้ชายดูบ้างดีกว่า คู่นี้เก็บไว้นานมากๆ แล้วไม่ได้ใช้แน่ๆ เพราะเป็นรองเท้าบอลผู้ชาย
ที่สำคัญที่เก็บไว้คือ.. คู่นี้มีลายเซ็นเบคแฮม.. เดวิด เบคแฮม ให้มาเป็นที่ระลึก.. ปล. ถ่ายคู่ไว้เปรียบเทียบขนาดนะคะ.. 


หัวเสือ.. ส่งไปเลี่ยมอยู่นะคะ.. ถ้าเสร็จแล้วจะถ่ายมาให้ชมต่ออีกครั้ง..... ขอบคุณที่ติดตามผลงานแนวๆ ..
เดี่ยวค่อยย่อรูปมาโพสให้ชมใหม่นะคะ.. มีอีกค่ะ..


32
เคยได้รับ PM จากเด็กใหม่.. สอบถามรายละเอียดมา...
และอีกหลายครั้งเคยมีสมาชิก PM มาถาม...




น่าจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยกับน้องใหม่ๆ.. ที่ยังไม่เคยไปวัด..

คำถามสุดฮิต..คือ..วัตถุมงคลทางเมตตา มีอะไร? มหาอุต-คงกะพัน? โชคลาภ-ค้าขาย....

พี่โชว..ขออนุญาตตอบผ่านทางเว็บบอร์ดอีกครั้งค่ะ.. เด็กใหม่..





การไปสักยันต์กันตามกุฎิต่างๆ คือกิจกรรมหลังจากการเข้ากราบสังขารหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ... ......











ถ้าหลวงพ่อสำอาง เจ้าอาวาสอยู่ ก็บูชาพานลงนะหน้าทอง ลงทั่วหน้าเลย เป็นสิริมงคล......


ใครจะแอบนำกระเป๋าสตางค์ใบเขื่องให้ท่านจารยันต์ให้....หลวงพ่อท่านก็จะเมตตาลูกศิษย์ค่ะ..
แหมกระเป๋าสตางค์ก็เรียกเงิน เรียกทรัพย์.. ใบตุงๆ ทั้งเงินทั้งบัตรเครดิต เอ๊ะหรือจะเป็นตั๋วจำนำ อันนี้ไม่ทราบ..  :009:
..



บริเวณกุฎิเจ้าอาวาส หลวงพ่อสำอาง มีวัตถุมงคลให้เลือกเช่าบูชาได้อย่างจุใจ......



ปี่เซี้ยะ ไซดักเงินดักทอง......


.นางกวัก ชูชก เยอะแยะ.....





หา..มีดหมอ...ทันหลวงพ่อเปิ่นก็ยังมีให้เช่าหา (โอ้ย....น่าจับจองนะ.. ด้ามงา ด้ามกระดูช้างแกะหัวเสือ..คนเช่าหน้าตาเป็นไงนะ....


ต้องหล่อโหด แบบจอมขมังเวทย์นี่หละ มันต้องหยั่งซี่.. ....นั่นใคร? อ่อ.. อาจารย์เหน่ง..กะเจ้าของสกู๊ปคล้องกล้องออกเดิน(เป็นเรื่องทุกที..)
รอมา 9 เดือนสมใจก็วันนี้หละ..
..







ผู้หญิงหละ.. มีอะไรเก๋ๆ บ้าง.. กำไลหิน สวยมากๆนะขอบอกเลย......


......

เศียรพ่อแก่ กุมาร รูปหล่อหลวงพ่อเปิ่นรมดำ สีเพ้นท์ เศียรต่างๆ มากมายเหลือคณานับ ......




เช่าบูชากันเป็นสิริมงคล เป็นที่ระลึก..ฝากความห่วงใยกัน..จากศรัทธาหลวงพ่อเปิ่นของเรา



สุดท้ายมาพูดคุยกันผ่านเว็บบอร์ดนี้หละ.. แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องlสักยันต์-วัตถุมงคลหลวงพ่อเปิ่น และเกจิ-อาจารย์ต่างๆ ทั่วไทย.. ทั่วโลกแล้วตอนนี้!

..เจอกันที่วัดบางพระนะ..







33
เก็บมะลิ  มาร้อย  เป็นมาลัย
มอบจากใจ ของลูก แด่คุณแม่
รักเทิดทูน  แม่นั้น  ไม่ผันแปร
คือรักแท้   รักนั้น  นิรันดรณ์

ศิษย์พี่-ศิษย์น้อง วัดบางพระที่รักทุกท่าน
ร่วมเผยความนัย...บอกรักแม่ด้วยกันที่นี่
เพียง 35 คำตอบ..กินใจ..โดนใจกรรมการ..
รับของขวัญพร้อมกัน...ในวันแม่..ที่วัดบางพระ


รายละเอียดของรางวัล?ลูกศิษย์ที่ดีของหลวงพ่อเปิ่น.. ลูกกตัญญูของแม่'

หลวงปู่ทวดเนื้อว่าน...รุ่นสุริยัน-จันทรา-บารมีโพธิสัตย์


รางวัลที่ ๑
หลวงปู่ทวดพิมพ์สี่เหลี๋ยมฝังหัวเสือหลวงพ่อเปิ่น       จำนวน 5 รางวัล

รางวัลที่ ๒
หลวงพ่อทวดพิมพ์ ๒๔ ฝังหัวเสือหลวงพ่อเปิ่น      จำนวน 10 รางวัล

รางวัลที่ ๓
หลวงปู่ทวดพิมพ์พระรอดฝังหัวนะโม          จำนวน 20 รางวัล



เงื่อนไขรางวัลและการตัดสิน
กรรมการตัดสิน: ท่านรวี สัจจะ...สมณะไร้นาม.. ไร้รูปแบบ แต่ไม่ไร้สาระ..
สนับสนุนรางวัลโดย:  ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม แต่ประสงค์จะให้รางวัล
ระยะเวลาส่งเรื่อง: วันนี้ -10 สิงหาคม 2552 เวลา 09.00 น.
ประกาศรายชื่อผู้โชคดี: รายชื่อผู้โชคดีจากการพิจารณาจะลงประกาศภายในวันที่ 11 สิงหาคม 2552
เงื่อนไขการรับรางวัล: วันที่ 12 สิงหาคม 2552 โดยรับรางวัลที่กุฎิหลวงพี่ญา วัดบางพระ...
                           โปรดติดตามเงื่อนไขวิธีการรับรางวัลในกรณีไม่สามารถไปรับในวันงาน..ต่อไป..





ลูกศิษย์ที่ดีของหลวงพ่อเปิ่น.. ลูกกตัญญูของแม่..
และแล้ว... ความสดใสน่ารักของลูก? กำลังจะเริ่มต้นอีกครั้งที่นี่!




วันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อเปิ่นของพวกเราปีนี้..จะมีความหมายมากขึ้น..

รีบหน่อยนะคะ... cho.

34
แทบไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่า... การถูกใส่ร้ายป้ายสีนั้น หาใช่มีเพียงเราท่านปถุชน..
ลองมาดูวิถีปฏิบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากพระไตรปิฏกด้วยกันดีกว่าค่ะ  


(จุ๊ จุ๊... ห้ามล้อว่าเป็นแม่ชีหละ แหม.. ก็ดูรายการช่องธรรมะเป็นเหมือนกันหนิ.. :009:)



วิธีการตอบโต้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเมื่อพระองค์และหมู่สงฆ์ถูกใส่ร้ายป้ายสี

สมัยครั้งพุทธกาล พระพุทธองค์กับคณะสงฆ์ก็ถูกใส่ร้ายป้ายสีมาแล้วจ้ะ
เป็นเคสของ ?นางสุนทรีปริพาชิกา? หลังจากเธอรับแผนการงานทำลายพระศาสนา
จากอัญเดียรถีย์ปริพาชก(นักบวชต่างศาสนา) มาทำแล้ว เธอถูกซ้อนแผนโดยถูกฆ่าปิดปาก

แล้วป้ายสีสร้างข่าวใส่ความมาที่พระศาสดากับคณะสงฆ์ โดยโพทะนาว่า

?ท่านทั้งหลาย เชิญดูการกระทำของพวกสมณะเชื้อสายศากยบุตรเถิด
พระสมณะเชื้อสายศากยบุตรเหล่านี้ไม่มียางอาย ทุศีล มีธรรมเลวทราม กล่าวเท็จ
ไม่ประพฤติพรหมจรรย์... ความเป็นสมณะของพระเหล่านี้เสื่อมสิ้นไปแล้ว...
ความเป็นสมณะของพระเหล่านี้จะมีแต่ที่ไหน... พระเหล่าเหล่านี้ปราศจากความเป็นสมณะ
ทำไมเป็นชายจึงข่มขืนผู้หญิงแล้วฆ่าเสียเล่า?


สมัยนั้น คนทั้งหลายในกรุงสาวัตถีเห็นภิกษุทั้งหลายแล้ว ด่า บริภาษ เกรี้ยวกราด
เบียดเบียนด้วยวาจาหยาบคายที่ไม่ใช่ของสัตบุรุษ
เมื่อเรื่องนี้ทราบถึงพระผู้มีพระภาคแล้ว พระองค์ทรงตรัสว่า


?ภิกษุทั้งหลาย เสียง(โจษ)นั้นจักมีไม่นาน จักมีเพียง ๗ วันเท่านั้น ครั้นพ้น ๗ วันจักหายไป
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงกล่าวตอบกับบุคคลทั้งหลายที่เห็นภิกษุแล้วด่า บริภาษ เกรี้ยวกราด
เบียดเบียนด้วยวาจาหยาบคายที่ไม่ใช่ของสัตบุรุษ ด้วยคาถานี้ว่า

อภูตวาที นิรย อุเปติ

โย วาปิ กตฺวา น กโรมีติ จาห

อุโภปิ เต เปจฺจ สมา ภวนฺติ

นิหีนกมฺมา มนุชา ปรตฺถาติ ฯ

?คนที่ชอบกล่าวคำไม่จริง หรือคนที่ทำความชั่วแล้วกล่าวว่า ?ฉันไม่ได้ทำ? ต่างก็ตกนรก
คน ๒ จำพวกนั้น ต่างก็มีกรรมชั่ว ตายไปแล้ว มีคติเท่าเทียมกันในโลกหน้า?


ลำดับนั้น ภิกษุทั้งหลายเรียนคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคแล้ว
กล่าวตอบคนทั้งหลายที่เห็นภิกษุแล้ว ด่า บริภาษ เกรี้ยวกราด
เบียดเบียนด้วยวาจาหยาบคายที่ไม่ใช่ของสัตบุรุษ ด้วยคาถานี้ว่า

?คนที่ชอบกล่าวคำไม่จริง หรือคนที่ทำความชั่วแล้วกล่าวว่า ?ฉันไม่ได้ทำ? ต่างก็ตกนรก
คน ๒ จำพวกนั้น ต่างก็มีกรรมชั่ว ตายไปแล้ว มีคติเท่าเทียมกันในโลกหน้า?


คนทั้งหลาย (เมื่อได้ฟังการตอบโต้อย่างผู้มีปัญญาแล้ว) ได้มีความคิดอย่างนี้ว่า

?พระสมณะเชื้อสายศากยบุตรเหล่านี้ คงไม่ได้ทำความผิด

พระสมณะเชื้อสายศากยบุตรเหล่านี้ คงไม่ได้ทำบาป

พระสมณะเชื้อสายศากยบุตร จึงกล่าวสบถเช่นนั้น?


เสียง(โจษ)นั้นได้มีอยู่ไม่นาน เสียง(โจษ)ได้มีอยู่เพียง ๗ วันเท่านั้น ครั้นพ้น ๗ วันก็หายไป


เมื่อพระพระผู้มีพระภาคทรงทราบแล้ว จึงทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า

ตุทนฺติ วาจาย ชนา อสฺตา

ปเรหิ สงฺคามคตว กุฺชร

สุตฺวาน วากฺย ผรุส อุทีริต

อธิวาสเย ภิกฺขุ อทุฏฺจิตฺโตติ ฯ

คนทั้งหลายผู้ไม่สำรวม ชอบกล่าวทิ่มแทงผู้อื่นด้วยวาจา
เหมือนทหารข้าศึกทิ่มแทงช้างที่ออกศึก ด้วยลูกศรฉะนั้น
ภิกษุผู้มีจิตไม่คิดประทุษร้าย ฟังคำหยาบคาย
ที่คนพาลกล่าวแล้ว พึงอดกลั้นไว้ได้


อ้างอิงจาก-พระไตรปิฎก(มจร.แปล) เล่มที่ 25 ข้อที่ 38 หน้าที่ 246-250.
รายการจากจานดาวธรรม DMC ศูนย์ดาวธรรมทั่วโลก



cho talk:  :009:

ฟังมาถึงบรรทัดนี้... ไม่น่าเชื่อว่า พระสงฆ์องค์เจ้าที่ศรัทธาของปวงชนชาวไทย
ยังไม่วายที่จะถุกใส่ร้ายป้ายสีเรื่องไม่เป็นเรื่องจากผู้ไม่หวังดีได้
ตรงนี้...เราก็ได้ทราบถึงวิธีการตอบโต้แบบผู้มีปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว...
ให้แง่คิดที่ว่า.. นิ่งเฉยเสียทีเดียว.. ก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนัก... แต่ต้องตอบโต้แบบผู้มีปัญญา.. นั่นคือตอบโต้ด้วยการสอนธรรมะ และแสดงให้เห็นผลพวงแห่งการกระทำดังกล่าว ดังนั้น ผู้ใช้ปัญญาไตร่ตรองเท่านั้นจะคิดได้...



ซักซ้อมความเข้าใจวิถีปฏิบัติ แนวทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อจุดเริ่มต้นเปลี่ยนวิถีปฏิบัติใหม่ให้กับชีวิต..:009:
 

35
.. สุดยอดประสบการณ์ ตลุยกราบเกจิในตำนาน ...ตอนนี้ คือวัดสุดท้ายภาคอวสานจริงๆ แล้วค่ะ....
โพสเท่าไหร่ก็ไม่จบ คราวนี้จบแล้วแน่ๆ ค่ะ..ขึ้นกระทู้ใหม่เลยนะ..:009:


หลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท..









ระฆังพันปี...ยิ่งตี ยิ่งดังนะ.. :009:







ฝนก็เริ่มตกลงมานะคะ ฟ้าครึ้ม หิวแล้ว.. หลวงพ่อพร้า อยู่ไหมนะ...
นางฟ้าขอถ่ายรูปหน่อยนะลูก...บรรยากาศในวัดโคกดอกไม้นี่ร่มรื่นจังเลย.. ไปถึงเย็นแล้ว









ฮั่นแน่! เอาอีกแล้วค่ะ.. ยังไง้ ก็ต้องไปมุงตรงตู้นี้ก่อน..(อยากทำบุญรับวัตถุมงคล 555)


มีพระเก่าให้บูชาด้วยนะคะ เหลือประมาณสัก 2-3 องค์


พระสมเด็จข้าวดำ หลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้
เงินที่เตรียมทำบุญในกระเป๋าเริ่มแฟ่บลงแล้วค่ะ.. เพราะวัดนี้วัดสุดท้ายแล้ว
องค์นี้เปิดที่ 5,500 เราถอยก่อน.. ดีไหม?  :073:

คว้าพระเก่าของหลวงพ่อพร้าอีกองค์ดีกว่า 'พระสังกะจาย'



หลวงพ่อพร้า นอกจากเป็นพระนักพัฒนาเเล้ว ท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากนะคะ
วัตถุมงคลของท่านก็ประสบการณ์มากมาย ทั้งทางด้านเมตตาเเละคงกระพันชาตรี
พระเครื่องของท่านได้รับความนิยม เสาะหากันทุกรุ่น ทั้งรุ่นเก่าๆเเละรุ่นใหม่ๆ

'โดยเฉพาะน้ำมนต์ของท่าน ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก'
ปัจจุบันพระเครื่องรุ่นเก่าๆของหลวงพ่อได้รับความนิยมมากๆเเละมีราคาเช่าหากันในราคาสูงเเบบไม่น่าเชื่อ





นมัสการหลวงพ่อพร้าด้วยกันนะคะ..



ชอบมากเลย พระที่มีเมตตา บารมีสูงๆ .. เราเข้าใกล้ก็อบอุ่นนะคะ.. เหมือนอยู่กับตาทวด ตาทวดพี่โชวก็ใจดีมากๆ อย่างนี้อ่ะค่ะ..

ความจริงใครไปกราบท่าน ให้ท่านสะเดาะเคราะห์ให้ได้ค่ะ ท่านเก่งมาก.. วันนี้.. รดน้ำมนต์พอแล้ว ค่ำแล้ว





ค่ะ.. หลวงพ่อพร้า ศิษย์หลวงพ่อกวย..
มิน่าเคยได้ยินพ่อเม้ง ขุนแผน พูดให้ฟังว่าท่านรักหลวงพ่อกวยมาก เห็นเคยทำพระไปถวายท่านที่วัดโฆสิตาราม เพื่อออกให้บูชา





จบแล้ว ตลุยกราบเกจิในตำนาน 4 วัด... บะบุยย... บะบาย บ้ายบายค่ะ .. :009:


36
มาถึงชัยนาทแล้วนะคะ..ตลุยต่ออีกนิดส์... คราวนี้ไปหาศิษย์เอกในตำนาน...ไปกันค่ะ..
หลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่าย (หนองหม้อแกง) อ.สรรพยา จ.ชัยนาท


งานนี้มาหาศิษย์ของเกจิในตำนานเลยค่ะ..
หลวงพ่อเอิบ ศิษย์เอก หลวงพ่อผินะ
วัดสนมลาว ตำนาน ปลัดชลิกหัวชะมด ตัวละเป็นแสนๆ บาท
ประเดิมด้วยภาพนี้เลย.. ตาไม่ไว ไม่เห็นท่านยิ้มนะ เป็นเล่นไป
ท่านเป็นพระที่เรียบร้อยยยยยยยยยย มาก...



อ่อ.. อ่อ ตอนแรกก็แปลกใจเอากล้วยมาห้อยไว้ทำไม...อย่างนี้นี่เอง..
เคยศึกษาประวัติท่าน ท่านเลี้ยงนกสาริกาไว้คู่นึง.. ผูกกล้วยให้มันกินด้วย..

'นกสาริกา ฉันเลี้ยงไว้จ๊ะ.... ' อ่อ มันเป็นหยั่งซี่...


และแล้วพอถึงวัด..... เราก็ลุยไปที่นี่ก่อนเหมือนเคย..
ปลัดขลิกหัวชะมด ตะกรุดฟ้าผ่า ตะกรุดคู่ชีวิต สาริกา เหมาหมดเลยละกันในเมื่อเลือกไม่ได้
พระจันทร์คู่ดาว ออกใหม่พึ่งปลุกเสกเสร็จใช้ผงหลวงพ่อเดิมด้วย..
เหมาหมด เหมาหมด..



ในเมื่อหน่อเนื้อเชื้อไข หลานแท้ๆ ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ไปขอร่ำเรียนวิชาสุดยอดของหลวงพ่อผินะ
หลวงพ่อผินะก็สนองให้.. แกยังถามว่า.. ใครๆ ก็ว่าฉันเป็นพระที่แปลกนะ..ต้องเป็นพระแปลกเหมือนพ่อนะ
หลวงพ่อเอิบ ตกปากรับคำ.. ดังนั้น การเสกปลัดขลิกหัวชะมดของพ่อเอิบให้ดิ้นได้
ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติของคนในวัดเขาเห็นกัน...

ปลัดดุ๊กดิ๊ก.. (ไม่มีขา) หัวชะมดมีขา ตาเพชรตาพลอย สีชมพู ฯลฯ ..
โชคดีของเราจิงๆ เพราะว่า...เราได้ของดีจากวัดที่แปลก เพราะปลัดขลิกหัวชะมดที่ว่าทำจากไม้ขนุนฟ้าผ่า.. สีดำๆ นั่นตัวละ 2,000 ทำบุญค่ะ ทำบุญวัดอยากได้พัดลม..

คนละอันสองอัน.. แหม... มหาเสน่ห์ มหาชิด มหาหลง สะกิดนิดเดียว เดี่ยวตามมา...
มีไฮไลท์อีก คือตะกรุดขุนแผนสะกดทับ.. ฟังคาถาขนลุกซู่



สายสิญจน์ระโยงระยางรู้ไหมทำไม
เขยิบมาใกล้ๆ เอียงหูมา..จะเล่าให้ฟัง



เดี่ยวก่อน... มาถึงถิ่น..ลงพระลักษมณ์หน้าทองกะพ่อเอิบก่อง...


นี่หละ.. พ่อเอิบ จะนำมาปลุกเสกวัตถุมงคลอีกครั้งที่ใครมาเช่าที่วัดนะ
แล้วท่านก็จะโยงสายสิญจน์ผ่านตู้วัตถุมงคลอีกที เป็นอันว่า พ่อเอิบจะปลุกแล้วปลุกอีก ในตู้หน่ะ





พอเช่าหาวัตถุมงคลกันแบบหนำใจแล้ว
ลพ เอิบ ท่านก็เสกให้อีกรอบ.. ทำเป็นพิธีเลยเห็นปะ


ปูผ้าขาว..ทับวัตถุมงคล เพื่อเสกทับ.
ระหว่างที่บริกรรมคาถา ท่านก็เอามือล้วงทรายมากำนึงจากถังสีเหลืองๆ  
แล้วเอาทรายใส่ลงในบาตรน้ำมนต์... เอามือกวน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บริกรรมคาถา




ไม่นานท่านก็กำทรายมาจากบาตรน้ำมนต์ แล้วก็โยนลงบนผ้าขาว สองสามครั้ง
มันจะเป็นไปได้ยังไง? ทรายที่เปียกในบาตรน้ำมนต์ แห้งสนิท ตกลงบนผ้าขาวน่านหละ
ตะลึง ตึงตึง กันหมดค่ะพี่น้อง...
(แกขอไม่ให้ใช้แฟลต เลยได้แค่นี้)



แล้วเราปิดท้ายวัดซุ้มกระต่าย.. ด้วยการไปไหว้หลวงพ่อผินะ..พี่ที่วัดท่านท้าค่ะว่า ให้ลองไปบนขอหลวงพ่อผินะกัน..

ใส่พระลักษมณ์หนังกลองแตกของพ่อเอิบคู่กะพระลักษมณ์หน้าทองปู่กาหลง
แล้วไปลงพระลักษมณ์หน้าทองกับหลวงพ่อเอิบ แปลกค่ะหน้าสว่างๆ ขาววอกแบบนี้ค่ะ ..

ไม่รู้จะเหมือนที่เคยอ่านประวัติท่านหรือเปล่า.. ท่านว่าตอนปลุกเสกพระลักษมณ์หนังกลองแตกชุดนี้ แสงสว่างจ้าคนเห็นกันตรึม
คล้ายๆ กับเสกปลัดขลิกดิ้นได้น่านหละค่ะ..มีภาพถ่ายอีกสองสามภาพหน้าวอกๆ แบบนี้หมดค่ะ..เอ๊ะรึเราคิดไรมากไป... (เขิลล์เหมือนกันนะเนี่ย) :009:


ก่อนปิดท้ายช่วงนี้.. มีตะกรุดเมตตาของหลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่ายมาแจกด้วยนะ.. เอาไปให้วันที่ 12 สิงหาแล้วกัน...ดีไหมใครอยากได้.. :009:

ติดตามอีกวัดหนึ่ง ..ตำนานหลวงพ่อกวยค่ะ...โปรดคอยอีกสักหน่อย...

37
...อาสาฬบูชา 2552 นี้.... สุดยอดประสบการณ์ ตลุยกราบเกจิอาจารย์ในตำนานกันดีกว่า...

ประเดิมก่อนเลย... วัดช่องแค จังหวัด นครสวรรค์...

หลวงปู่พรหม วัดช่องแค เกจิในตำนาน เขย่าวงการพระเครื่องในปัจจุบัน... สนนราคาสูงลิบลิ่ว...

ตำนานแบบนี้หละ น่าค้นหานัก...ตลุยไปถึงที่... วัดช่องแค...เลยดีกว่า!












เพื่อให้สอดคล้องกับธีมการไปวัดครั้งนี้? น้องชายเรา เลยถือโอกาสห้อย เหรียญหลวงปู่พรหม ไปเสียด้วย



หา.. หมื่นกว่าบาทเลยเรอะ...เหรียญอ่ะนะ...  เราทั้งคู่ยังอยากได้พระผงฟ้าผ่า... แต่ยังไม่กล้าเช่าหงะ.. เก็บตังอีกสักนิดนะ :009:






กราบสังขารหลวงปู่พรหม วัดช่องแค จังหวัดนครสวรรค์ หวัน หวัน..นนน

ต้องใช้บันไดปีนเลยนะ.. ถึงจะเห็นหน่ะ...  :073:




หุ่นขี้ผื้งนะ....
























ปิดท้าย...หลวงพ่อพรหมสักนิด... ด้วยวลีนี้..

ลงคาถากันคนริษยาไม่ได้.... ไม่มีคาถาห้ามปากคน

หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค... cho.





โปรดติดตามตอนต่อไป...


38
พระสิงห์หนึ่ง... พระอนาคต..เพื่ออนาคต...










ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ.. ที่ไม่คาดว่าจะได้รับ
แต่ทรงคุณค่า.. มีความหมายจับใจ... ขอบพระคุณค่ะ..


39

พุทธศาสนานิกชน..ศิษย์พี่ ศิษย์น้องวัดบางพระ...กำลังวางแผนทำอะไรบ้าง?

40
วันคล้ายวันมรณภาพ พระอุดมประชานาถ (หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ)

๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๒ ครบรอบ ปีที่ ๗ (2545-2552)

กราบสังขารหลวงพ่อเปิ่นในโลงแก้ว 79 ปี รำลึกพระคุณท่าน






ศิษยานุศิษย์พร้อมใจกันถวายภัตตาหาร พระสงฆ์ ๑๐๐ รูป 

ณ. วัดบางพระ อ.บางแก้วฟ้า จ.นครปฐม






หลวงพ่อเปิ่นเป็นพระผู้ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเมตตาต่อผู้ที่มาหาท่านรวมถึงสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณวัดบางพระ?



คณะสงฆ์ต่างน้อมรำลึก..กราบสังขารหลวงพ่อเปิ่น



หวลรำลึกถึงตำนานอาจารย์สักยันต์แห่งสยามประเทศ คุณงามความดีที่ท่านได้กระทำไว้ในพระพุทธศาสนามากมาย จะเป็นตำนานแห่งแผ่นดินไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม

เป็นเครื่องเตือนสติให้พุทธศาสนิกชนได้รู้จัก และปฏิบัติสืบสานกันต่อไป




ตามธรรมเนียม...ทุกครั้งที่มาวัดบางพระ เรามักเช่าหาวัตถุมงคลของหลวงพ่อเปิ่นติดไม้ติดมือเป็นที่ระลึกเสมอ..

ตู้บูชาคึกคักตลอดวัน... ด้านหลวงพ่อสำอางค์ท่านก็ลงนะหน้าทอง...แถวยาวเหยียดดดด...แต่ไม่เบียดเสียด..สิริมงคลแก่ญาติโยม




พบปะกันอีกครั้งของเหล่าศิษยานุศิษย์ที่ชื่นชอบการสักยันต์ประจำเว็บบอร์ดนี้... จดจำกันแม่นขึ้นกว่าเดิม..

ยิ้มทักทายกันตามประสาคนชอบพอกัน.. พี่น้องกันทั้งนั้น..และคุณพ่อของพวกเรา 'ผู้การเสือ' ยังคงใจดีมีเมตตาเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยจริงๆ

หลวงพี่ญา ผู้การเสือ .. รอยยิ้ม ความปลื้มปิติ  เสียงหัวเราะ ความสุขใจ

แม้สังคมสากลจะกำหนดเทศกาลสำคัญๆ เพื่อมอบของวัญไว้หลายโอกาส แต่บ่อยครั้งความหมายที่มีความหมายมากที่สุด เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้คาดว่าจะได้รับจากผู้ใหญ่ใจดีมีเมตตาจริงไหมคะ? 

คุณพ่อผู้การเสือของพวกเรา...ท่านมีจิตใจมุ่งมั่นให้ลูกหลานชาวเว็บบอร์ดฯ ไหนจะญาติโยมที่มางานบุญวันนี้อีกหลายท่าน ทั้งสติ๊กเกอร์ พระสิงห์หนึ่ง พระไพรีพินาศ ซีดี  ฯลฯ




พี่โชว แม้ไม่มีพระแจกกะเขา... แต่ได้รอยยิ้มน้อยๆ จากมุมปากทุกครั้งที่มอบ ?ลูกหมีแพนด้าน้อย?

(เจ้าของสกู๊ปคล้องกล้องออกเดิน (เป็นเรื่องทุกที) ชลาพุชะ ถามว่าคิดได้ไง? แหมมะเห็นต้องคิด หมีแพนด้ากำลังอินเทรนด์..

(หาตุ๊กตาช้างระบายสีเป็นหมีแพนด้าไม่ได้นะ..สงสัยยังไม่มีขาย)

อะแหม?ท่านก็..ถกเรื่องการตั้งชื่อให้อาหมวยแพนด้าตัวน้อยกันใหญ่เลยนะ! ของผมชื่อช่วงช่วง ของคุณชื่อหลินฮุ้ย... :009:


แหล่งข่าวงในรายงานว่า ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน...หลวงพี่ญา มีความสุขกับการฝังเข็ม...

ส่วนทุกคนก็แยกย้ายกันไปสักยันต์ตามอัธยาศัย.... เพื่อทำวันนี้ที่วัดบางพระ..มีความหมายอีกครั้งของชีวิต

ฮั่นแน่....หลวงพี่ตูน..วันนี้..จะเมตตายันต์อะไรให้เราหนอ?





อดใจคอยสักครู่... พระอาจารย์สักยันต์อีกท่านหนึ่งในกุฎิหลวงพี่ญา... หลวงพี่ตูน.....

41
137 ปี สิ้นชีพิตักษัย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรสี) 22 มิ.ย. 52

สมเด็จพระพุฒาจารย์ อเนกสถานปรีชา
วิสุทธศีลจรรยาสมบัติ นิพัทธุตคุณ
ศิริสุนทรพรตจาริก อรัญญิกคณิศร
ศมณนิกรมหาปรินายก ตรีปิฎกโกศล วิมลศีลขันธ์


พระราชทินนามของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรสี)
ได้รับการสถาปนาเมื่อวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ขึ้น 9 ค่ำ ปีชวด พ.ศ. 2407 สถิต ณ วัดระฆังฯ พระอารามหลวง



หลายคนคุ้นหูดีกับวลีนี้... 'บุญเจ้าไม่เคยทำ กรรมเจ้าไม่เคยสร้าง ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า'


วันนี้ 137 ปี สิ้นชีพิตักษัย เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ พระเมธีอริยสงฆ์หน่อเนื้อพุทธางกูร (พระโพธิสัตว์) ผู้ปรารถนาโพธิญาณ มีพระประวัติงดงามประทับใจ  

ได้บรรพชาอุปสมบทในร่มเงากาสาวพัสตร์ศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างแตกฉาน เชี่ยวชาญในวิปัสสนากรรมฐาน ทรงความรู้ลึกซึ้งในพระไตรปิฎก สำเร็จญาณศาสตร์ชั้นสูง

ความสำเร็จในชีวิตสมณเพศอย่างสูงสุด เสมือนต้นแบบแห่งสงฆ์ผู้มีวัฒนธรรมในการก่อสร้าง ได้ฝากอนุสรณ์สถานไว้เป็นที่เคารพบูชาในพระพุทธศาสนามากมาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเป็นยอดพระธรรมกลึก เอกล้ำลึกคัมภีรภาพ



คุณธรรมของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมเป็นเครื่องอยู่ เช่น มีคารวธรรมสูงส่ง มีพรหมวิหารธรรมเสมอด้วยพรหม จึงได้รับฉายาว่า พรหมรสี (ผู้มีรัศมีแห่งพรหม) (ความจริงคำว่า พรหมรสี จะต้องมีจุดใต้ พ. พาน ห. หีบ และจุดบน ร. เรือ ด้วยนะคะ แต่พิมพ์ไม่ได้ค่ะ :009:) มีความสันโดษอย่างยอดเยี่ยม มีความบริสุทธิ์จริงใจต่อพรหมจรรย์

มีขันติธรรมชั้นอธิวาสนขันติ มีความเชื่อมั่นไม่คลอนแคลนในหลักธรรม มีสังคหธรรมต่อสรรพสัตว์เสมอกันหมด บรรลุญาณศาสตร์ชั้นสูง------------------------------->> 
ทั้งหมดนี้เป็นอริยสมบัติที่มีอยู่พร้อม?




สมเด็จฯ จึงเป็นที่เคารพสักการะของชนทุกชั้น ตั้งแต่ประชาชนยากไร้ ขุนนาง ข้าราชการ พระบรมวงศานุวงศ์ ทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายใน จนถึงองค์พระประมุขของประเทศ คือ พระมหากษัตริย์เป็นที่สุด...

สมเด็จฯ มรณภาพเมื่อวันเสาร์ แรม 2 ค่ำ เดือน 8 ปีวอก ตรงกับวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2415 นับโดยปรัตยุบัน 137 ปีแล้ว


วันสิ้นชีพิตักษัย คือ วันน้อมรำลึกกตัญญูกตเวทิตาคุณ.... ข้าขอน้อมรำลึกวันนี้.. 22 มิถุนายน 2552..cho. n ศิษยานุศิษย์วัดบางพระ



วัดต่างๆ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่มีความเกี่ยวข้องผูกพัน อนุสรณ์สถานได้จัดงานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายเป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวที


เสมือนประกาศให้โลกรู้ว่า


?ความดีไม่ดับสูญ คุณธรรม ไม่ดับสิ้น?


42


หลวงพ่อดำ...พระสารินทร์ ธมมปาโล ... เจ้าดำรับมนต์เสน่ห์เขมรโบราณพันปี...
วัดสันติธรรม บ้านไทยสามารถ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว





43
Good Afternoon Everybody ค่ะ..

โดยส่วนตัวชื่นชอบและหลงใหลรูปหล่อเกจิก็จริง แต่วันนี้อยากขอชมรูปหล่อลอยองค์ฆาราวาสเยอะๆ หน่อยค่ะ

ใครมีรบกวนโพสให้ชมเป็นบุญตาสักหน่อยค่ะ

จะเป็นพระคุณล้นเหลือ



รัก และคิดถึงเสมอ

Cho.


ปล. ตัวอย่างรูปหล่อฆราวาสที่เคยโพสไปแล้ว พ่อฟ้อน ดีสว่าง แต่อยากเห็นของพี่น้องท่านอื่นบ้างค่ะ



44
 ตะกรุดสาลิกาน้ำจันทร์c.h.o

ตะกรุดสาลิกาน้ำจันทร์เป็นตะกรุดดอกเล็กๆ ถักเชือกลงทองคำแท้อย่างสวยงาม

ที่น่าสนใจคือ วิชาที่เสกตะกรุดนี้ต่างหาก?เพราะต้องทำพิธีให้ขลัง ใส่พลังจนพิสูจน์ได้ กล่าวคือ ต้องดับพิษเหล้าให้จืดได้ ? โอว.. น่าสนใจมาก

เริ่มจากพลีแผ่นตะกั่ว กลั้นใจลงเหล็กจารช่วงเวลาที่นกร้องเป็นปฐม ม้วน และเสกด้วยมนต์พญาสาลิกาที่จับปากพูดจากับใครแล้วเอ็นดูหลงรัก เมตตาฝังจิต ยามหลับก็เห็นหน้ายามตื่นก็ถวิลหา จากนั้นต้องทำพิธีอาบน้ำจันทร์ หรือการแช่เหล้าโรงที่อาพัดแล้ว เสกจนเหล้าโรงที่มีความเข้มข้นสูง แบบได้กลิ่นถึงกลับ ?พงะ?  ฉุนกึ๊กราวๆ นั้น.. เสกให้เหล้าโรงนั้น  ?จืดสนิท? เป็นน้ำเปล่า.. นั่นหละตะกรุดจึงจะสำเร็จได้ตะกรุดสาลิกาน้ำจันทร์c.h.o.

ตะกรุดสาลิกาน้ำจันทร์ c.h.o. เรียกอิทธิคุณเรื่องเมตตาสุดขีด....ถึงขนาดว่า เหล้าลืมกลิ่น ลืมแม้แต่รส เหล้าหมดฤทธิ์ ลืม เมา จืดเป็นน้ำเปล่าได้ ฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อนะคะ?แต่นี่คือวิชาสุดยอดของหลวงปู่เปลื้องนี่หละค่ะ?.c.h.o.เป็นวิชาทำตะกรุดเมตตา มหาเสน่ห์ ตั้งแต่โบราณแล้วค่ะ น่าสนใจเลยนำมาเผยแพร่เป็นวิทยาศาสตร์ เอ้ย วิทยาทานเจ้าค่ะ


ส่วนเรื่องประสบการณ์ ได้ฟังจากป๊อกกี้น้องชายสุดหล่อ กะน้องแน๊ทที่พึ่งเรียนจบการบินเมื่อเดือนก่อน he เล่นใส่ติดคอเดี่ยวเลย.. จากแฟนสวยของเขาหาเรื่องทะเลาะบ่อยก็เปลี่ยนไปซะงั้นค่ะ เป็นเมตตามหานิยม คนรักเอ็นดูแบบนี้.. หลวงปู่เปลื้องน่าจะทำมาอีกนะคะ?. ท่านสร้างอยู่ 1,107 ดอกนา ถ้าจำมิผิด..ป่านนี้น่ากลัวจาc.h.o.หมดแล้วเจ้าค่ะ...

(คุณโชวมีแค่ดอกเดียวเองเหมืองกัง.. ใส่หลอดไปแล้วคร่า....เฮ้อ.. :075:)



ไว้คราวหน้าเอาตะกรุดสาลิกาป้อนเหยื่อมาให้ดูดีปะ หรือใครมีเอามาโชว์มั่งค่ะ อยากชมด้วย?[/color][/size]




หลวงปู่เปลื้อง พระมหาเถระ 5 แผ่นดิน อายุ 107 ปี  วัดลาดยาว จ.นครสวรรค์




แถมประวัติท่านแบบเต็มหน้า ก็ไปก๊อปเขามาเต็มๆ อะค่ะ ตาลายแล้ว ง่วงนอน... happy sat. night ja.... :061:
หลวงปู่เปลื้อง พระมหาเถระยุคเก่า ลึกที่สุด ขลังเข้มข้น ก่อนกึ่งพุทธกาล สอบเปรียญ ๔ ประโยคตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖ บวชกับ สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) อธิบดีสงฆ์ วัดมหาธาตุฯ เป็นศิษย์ สมเด็จครูองค์ที่ ๑ สมเด็จ ฯ ท่านฝากไปเรียนกับ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ฯ สมเด็จครูองค์ที่ ๒ และยังไปเรียนกับ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) วัดเทพศิรินทร์ฯ (ผู้เป็นอาจารย์ของท่านเจ้าคุณนรรัตน์)ถือเป็น สมเด็จครูองค์ที่ ๓ ตอนเป็นเณรไปกราบหลวงปู่ ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านลง นะฤาชา และพุทธม้วนโลกให้ กลางกระหม่อมหลวงปู่ ทุกวันนี้กระหม่อมหลวงปู่ เปลี่ยนเป็นสีขาว อย่างอัศจรรย์ ไปเรียนกรรมฐานกับ ยอดพระ ศิษย์ของพระเดชพระคุณ สมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต พรมรังสี) นั้นคือ หลวงปู่ภู วัดอินทร์ฯ ท่านให้พรให้มีอายุยืนยาว เหมือนหลวงปู่ สมเด็จพระวันรัต (เฮง) รักหลวงปู่เปลื้องมาก ส่งให้มาคลุม มณฑล สี่แคว(เมือง นครสวรรค์) ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ตอนอายุเพียง ๓๑ ปีเท่านั้น ได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อ พวง วัดหนองกระโดง พระเกจิ ระบือนามยิ่งใหญ่แห่งนครสวรรค์ ต่อวิชากับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงปู่ ถือศีล ถือ ธรรมเข้มข้น c.h.o. ว่าคาถาปลุกเสกทั้งดีทั้งแรง คงความขลังลองกันนับไม่ถ้วนไม่เคยได้กิน ปากท่านศักดิ์สิทธิ์นัก ท่านไม่เคยดุด่าว่ากล่าวใคร ท่านบอกว่าดี ต้องดี บอกว่ารวยต้องรวย ทุกวันนี้ หลวงปู่ได้ฉายาว่า หลวงปู่ใหญ่ ใครก็เกรงบารมี เป็นที่เคารพรักของสาธุชนรุ่นหลานเหลน ไม่หลงไม่ลืม ให้พรบอก นำกล่าวถวายทานได้ เป็นอุปัชฌาย์บวชให้ศิษย์นับ หมื่นหมื่นคน บวชพ่อ ยันลูก ยันหลาน พระเกจิอาจารย์ยุคนี้ ใครก็ข่มหลวงปู่ไม่ได้ ท่านรู้ลึก กระแสจิตดี งานพุทธาภิเษก เกจิอายุ 80 กว่า ยังต้องก้มกราบหลวงปู่ก่อนมิเช่นนั้นจับสายสิญจน์ไม่ได้ร้อนจนต้องรีบปล่อย ครูบาหนุ่มภาคเหนือ บอกให้ลูกศิษย์ไปกราบซะพระองค์นี้ เป็นทองคำทั้งองค์ หลวงพ่อท่านหนึ่งศิษย์หลวงปู่มั่น บอกให้ไปเอาผ้าเช็ดน้ำหมากของหลวงปู่มาติดตัว เท่านี้ ก็เท่ากับพกยอดพระแล้ว ต่อให้ใส่พระทั่วตัวไม่มีที่ว่างก็ไม่เท่าผ้าเช็ดน้ำหมากของหลวงปู่ พระหนุ่มภาคใต้จับรูปของหลวงปู่ที่ห่อรวมกับพระอื่นๆ ยังต้องวางชี้รูปนั้นแล้วบอกว่า ?องค์นี้เป็นพระแต่เหนือพระ? ตลอดระยะเวลาที่หลวงปู่ครองผ้าเหลืองทั้งเป็นพระและเป็นเณร เกือบ ร้อยปี หนึ่งศตวรรษ หลวงปู่ยังงดงาม ในขั้นต้น ในท่ามกลาง และในที่สุด ทรงความเป็นมหาเถระที่ สว่างกระจ่าง ท่ามกลางใจ ได้ไหว้ได้กราบได้ใครได้ครอบครองพระของหลวงปู่ถือว่าเป็นบุญสูงยิ่งแล้ว ยากจะหาบุญใดยิ่งกว่าในยามนี้ c.h.o.


จบการรายงานในค่ำคืนนี้ราตรีสวัสดิ์
 :061:

45
นารายณ์ทรงครุฑ...สุริยันทรงกลด...หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว ..by หลวงพี่ญา วัดบางพระ... C.H.O.


มวลสารนับร้อยๆ ชนิดทั้งจากเศษซากโบราณ.. กำไลสัมฤทธิ์ เศษเทวรูปที่ชำรุดของขอมโบราณ..อาทิ ชนวนพระกริ่ง ชนวนยันต์ร้อยแปด ตามตำรับพระพิชัยสงคราม ถูกหลอมรวมกัน ประจุพลังกฤติยาคมแกร่งกล้าวิชาของหลวงปู่กาหลง เถราจารย์ชั้นแนวหน้าที่พี่โชวนับถือด้วยประสบการณ์ที่ได้มากับตัวเอง... หาใช่รับฟังข้อมูลปากต่อปากไม่... C.H.O.

จากประสบการณ์ครั้งแล้ว ครั้งเล่า เกี่ยวพันกับการงานอย่างปฎิเสธไม่ได้...C.H.O.



ดังนั้น 'นารายณ์ทรงครุฑ' เหรียญอิทธิอำนาจแห่งพระนารายณ์ผู้เป็นเจ้าฟ้ามหาสมุทร...เป็นเทวอำนาจที่มีพลังแห่งสุริยะเทพประสิทธิประสาทอยู่ภายใน...

:009:องค์นี้จึงมาเป็นของพี่โชวค่ะ..
:009:


สิ่งที่น่าแปลกในองค์พระรุ่นนี้คือ ประกายรุ้งแต่ละองค์จะไม่เหมือนกันค่ะ.. ใครได้ชิ้นไหนถือว่าเป็นบารมีของผู้นั้นจริงๆ บ้างเป็นสีทอง ม่วงบ้าง ฟ้าบ้าง แดงดำ

อมประกายผสมกันภายในประดุจรุ้งกินน้ำเจ้าค่ะ..C.H.O.



แต่สิ่งที่แปลกกว่าเรื่องเอกลักษณ์สีสันของนารายณ์ทรงครุฑองค์นี้มีมากกว่า

น่าจะดูธรรมดาเบ เบ มากกกกก...หากพี่โชวเช่าหาเอง....สิ่งที่พิเศษที่สุด..ที่เกิดขึ้นในชีวิตการเป็นลูกวัดบางพระคือ........


พี่โชวได้รับเมตตา 'นารายณ์ทรงครุฑ สุริยันทรงกลด' องค์นี้...จากมือหลวงพี่ญา :058: อาจารย์ผู้เปี่ยมล้นด้วยอิทธิอำนาจ..บารมี...ของวัดบางพระ จังหวัดนครปฐมเมื่อครั้งไปกราบขออักขระเลขยันต์จากท่าน...  :058:


คือความอบอุ่นของความหมายหลายอย่าง... ท่านให้เกียรติครูบาอาจารย์ที่พี่โชวนับถือ...ดังนั้นทุกครั้งที่มองที่องค์พระนารายณ์ทรงครุฑองค์นี้... พี่โชวจะนึกถึงหลวงพี่ญาคู่กันเสมอตลอดกาลค่ะ...

ศิษย์ขอบันทึกรายงานว่า...ได้เลี่ยมเงินชุบทองคำขาวเรียบร้อยแว้ว.... เป็นอีกองค์หนึ่งที่สุดหวงงงงงงง.....

นารายณ์ของข้าใครอย่าแตะเจ้าค่ะ...บะบาย--Fridayค่ะ:009:


พี่โชว :009:

46
เช้านี้กลิ่นหอมของลีลาวดี ยังคงอบอวลอยู่ เมื่อเปิดระเบียงออกมารับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า



จิ้งจกปี้... อานุภาพยันต์ทางเสน่ห์ที่หลายคนสักยันต์บันทึกลงบนผิวหนังตลอดชีวิต

ความอาร์ตของจิ้งจกปี้ชิ้นนี้....อดไม่ได้จะถ่ายภาพเก็บไว้กะเค้าม่างค่ะ...มีพี่ท่านเมตตามา...




น้องสาวอุ้มน้องหมาชื่อถุงทองมาหาแต่เช้าค่ะ...

น่ารักมากๆ.. ถุงทองขี้อ้อนตามแบบฉบับ ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย



ถุงทองหวานดีนะคะ... :008:



HAVE A NICE SUNDAY......... SUNDAY SUNDAY EVERY SUNDAY

GOOD BYE  GOOD BYE

47
ลพ.เปิ่นองค์นี้ขี่หมู.... อาจจะแปลกจากขี่เสือสักเล็กน้อย งั้นถือว่ายังไม่หลุดคอนเซปต์ของแปลกจากพี่โชวโน๊ะ...555

ฉลองครบรอบ ลพ เปิ่น 70 ปี

นับไปนับมาน่าจะ พ.ศ. 2536 นะคะ....ใครทราบอะไรเพิ่ม help me please ค่ะ


ลพ.เปิ่นขี่หมู 2536 เนื้อทองคำ 2 บาท

...สมัยก่อนปะป๊าขยันบริจาคนะคะ เสร็จกี๋ไปเสียแล้วค่ะ...องค์นี้...








ขอเบิ้ลเนื้อทองคำด้วยพระกริ่งจีนตั๊กม้อเนื้อทองคำนะคะ.....

พระกริ่งจีนตั๊กม้อ... ไม่ทราบประวัติจริงๆ...ปะม๊าก็พูดแค่ตั๊กม้อๆ  :009:

ใครทราบก็ help me ค่ะ




ฝากพี่นก 2009 ตามหากริ่งทองคำ ลพ. เปิ่น มาเมตตาพี่โชวให้ด้วยนะคะ ... ลุง amazing ด้วยค่ะ

เห็นกริ่งจีนตั๊กม้อ ก็อยากได้ กริ่งทอง ลพ. เปิ่นด้วยแหน่ะค่ะ

48
เศียรฤาษีปู่เสือองค์นี้ รักมาก...หวงเชียว...



ดูเข้มๆ ขลังๆ.. ดำปี้ด...
อาจารย์ท่านเมตตา...ห่วงศิษย์...

พุทธคุณ เด่นเรื่องคุ้มครองตัว แคล้วคลาด... ป้องกันภัย.. ตบท้ายด้วยมหาอำนาจจากเขี้ยวเสือค่ะ

ปู่เสือเป็นครูบาอาจารย์..

อาจารย์ท่านให้พกคู่กะตะกรุดมหาสะท้อนแหน่ะค่ะ พุทธคุณมหาสะท้อน หมายถึง ใครคิดร้ายสะท้อนกลับ




เสน่ห์ความแปลกก็อยู่ตรง ปู่เสือ ฝังเขี้ยวเสือด้านหลังแหละค่ะ





ตืนเช้ามา กลิ่นอายของดอกลีลาวดี ยังกรุ่นๆ อยู่...
อดไม่ได้ที่เด็ดมาดม..... เช้านี้ กลิ่นหอมรัญจวนจริง... สุขสันต์วันเสาร์นะคะ...
  :009:

49
หนึ่งในสุดยอดวิชาทางเสน่ห์เมตตามหานิยม คงยากที่จะปฎิเสธวิชานี้...

ที่ขึ้นชื่อชั้นสุดยอด คงไม่มีใครปฏิเสธ วิชานะหน้าทองตำรับหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว วัดเขาแหลม จังหวัดสระแก้ว...

เนื่องจากวิชานี้เป็นวิชามหาเสน่ห์ที่หลวงปู่กาหลงได้รับการถ่ายทอดมาจากครูชิด ครูโขนละครที่มีวิชาอาคมในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6

วิชาของท่านครูชิดที่ถ่ายทอดมาสู่หลวงปู่กาหลงนี้ถูกปิดบังมานาน





จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2549 มีฤกษ์มหามงคลในวันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม วันนี้พระจันทร์เต็มดวงพอดี ซึ่งน้อยนักจะหาวันจันทร์ที่ตรงกับวันเพ็ญเต็มดวงเช่นนี้
ดังนั้นหลวงปู่ กาหลงจึงจัดพิธีครอบครูพระลักษณ์หน้าทอง อันเป็นพิธีกรรมที่มีมาแต่โบราณ พร้อมปลุกเสกพระลักษณ์หน้าทองนี้ขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น วันจันทร์นี้ฤกษ์ดี กล่าวคือ ฤกษ์จันทร์ซ้อนจันทร์ ยิ่งทำให้การปลุกเสกมหามงคลวันนี้ ทรงอิทธิพลอย่างยิ่งทางมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม

พระพักตร์พระลักษณ์หน้าทองนั้นได้ออกแบบเป็นรูปศีรษะโขนขนาดเล็ก ออกแบบจากศีรษะครูพระลักษณ์ ที่ใช้ในการครอบวัตถุมงคลพระพักตร์พระลักษณ์หน้าทอง

- เนื้อชนวนโลหะ สร้างจากแผ่นยันต์พระลักษณ์หน้าทอง ยันต์ทางเสน่ห์เมตตามหานิยม และโลหะอาถรรพณ์อีกหลายชนิด
ด้านหลังประทับด้วยผงวิเศษพระลักษณ์หน้าทอง โรยแต่เขาพนมกุเลน ผงพลอยนพเก้ามหามงคล

- เนื้อผงอาถรรพณ์ มวลสารพิเศษที่เรียกว่า (ผงกำเนิดพระลักษณ์เต็มสูตร) ฝังตะกรุดเงินจารมือด้วยยันต์พระลักษณ์

วัตถุมงคลพระพักตร์พระลักษณ์หน้าทองนับเป็นเครื่องรางที่มีอิทธิคุณทางเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างสูงส่ง
เพราะชนวนมวลสารทั้งเนื้อโลหะ และเนื้อผงต่างเป็นของดีในตัวแล้วทั้งสิ้น อีกทั้งฤกษ์พิธีปลุกเสกก็ดีอย่างยิ่งหาได้ยากยิ่งนัก ทั้งครูบาอาจารย์ที่ปลุกเสกอธิษฐานจิตก็เป็นผู้ทรงวิทยาคุณ มีพลังจิตสูงส่งอีกด้วย


ดังนั้น พระพักตร์พระลักษณ์หน้าทองจึงนับเป็นอีกหนึ่งของดีที่หลวงปู่กาหลงตั้งใจ สร้างเพื่อบูชาคุณครู และเพื่อสืบสานตำนานพระลักษณ์หน้าทองชนิดฝากไว้ในแผ่นดิน

หลวงปู่กาหลงท่านว่าของท่านเองว่า แหม ! แรงมาก ๆ แรงในที่นี้คือ เป็นเสน่ห์ดี เมตตามหานิยมดี และยังคุ้มครองได้ด้วย

อำนาจของเมตตานั้นเป็นอำนาจที่รักษาคุ้มครองให้พ้นภัยไปในตัว ทั้งยังตามมาด้วยโชคลาภ

ความแตกต่างส่วนบุคคล คือเคล็ดลับการฝังพลอยบนพระพักตร์พระลักษณ์หน้าทองค่ะ...

องค์นี้เลยต้องติดคอเป็นประจำโดยปริยายค่ะ...ใหญ่ไปนิด...แต่ก็โอนะคะ...เท่ไปอีกแบบ..555



...rewrite by cho. presley..bangpra..


50
[shake]ตะกรุดเทพรัญจวน[/shake][/size]

หลวงปู่อั้น วัดโรงโค....พระผู้เปี่ยมด้วยเมตตา...
ตะกรุดดอกนี้... นอกจากพุทธคุณเรื่องเมตตา มหาเสน่ห์แล้ว เรื่องมหาอุตต์ แคล้วคลาด ปลอดภัย ก็หาเป็นรองไม่ทีเดียวนะคะ...
เก็บมาไม่นานค่ะ... ปี 49 เห็นจะได้...




ความจริงมีเศียรเทพรัญจวนด้วยนะคะ... ไว้นำมาชมกันนะคะ
เก็บคาถาไว้หน่อยดีกว่า...แต่ปู่อั้นบอกว่าไม่ต้องท่องก็ได้อ่ะค่ะ ย้าวยาว

โดดงานก่อนดีกว่าค่ะ ไปละ!

นะพุทธัง เทพรัญจวนกวนจิต นะธัมมัง เทพรัญจวนกวนใจ นะจังงง โมจังงง พุทธหลงใหล อ่อนระทวยไปทั้งกายา ธาท้าวพญา เสน่หารักใคร่ ยะหญิง สาวแก่แม่หม้ายก็ร้องไห้หลงใหล กอดรัดมัดสวาทติด เห็นหน้ากูนั่งนิ่งอยู่บ่มิได้ ร้องให้มาหากู เอหิพุทธัง เอหิธัมมัง เอหิสังฆัง พุทธังรักจนตาย ธัมมังอย่างคลาย สังฆังตามมา นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ สัพพะเมตตา สัพพะกรุณา สัพพะเสน่หา ประสิทธิเม[/color][/size]

51

ครั้งหนึ่ง.... เพื่อนสาวคนสนิทของคุณโชวขับรถ BENZ รุ่นใหม่เอี่ยมอ่องมาเทียบเกยหน้าบ้าน หลังสนทนาประโยคสุดท้ายว่า ?กูกำลังจะไปทำสังฆทาน...เดี่ยวกูไปรับมึงที่บ้านนะ...? นึกในใจ...เหตุใดเพื่อนเลิฟเราจึงเปี้ยนไป่ได้ขนาดนี้

นอกจากมันจะมีเงินทองใช้เหลือเฟือ จ๊กมกแล้ว? มันยังใจดีมีน้ำใจมารับไปทำบุญ... ถามมันว่าทำทำไม...ทำเพื่ออะไร...มันไม่มีคำตอบ...มันบอกว่าดีละกัน...ทำไปเหอะ....คุณโชวอ่ะนะ?จะโง่งมงายเชื่อตามมัน?.โอะ โอว อิมพอสค่ะ อิมพอสซิเบิ้ล! 

เอาวะ ไปก็ไป!  ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน?.วันนั้นไปวัดแห่งหนึ่งจำไม่ได้แล้วชื่ออะไร ติดกับตลาดดอนหวาย? เมื่อเสร็จภารกิจทำสังฆทานวันนั้น

ความสงสัยก็บังเกิดแบบเฉียบพลัน... ทำบุญแล้วได้อะไร? ทำบุญแล้วได้อะไร? ทำ..ทำไม้..ทำทำไม



การทำบุญมีหลากหลายรูปแบบ อานิสงส์จากการทำบุญก็ได้ต่างกัน เลยลองทบทวนดูว่า เราเคยทำบุญด้วยวิธีไหนไปบ้างแล้ว แหม.. กระแสธรรมะเดี่ยวนี้ก็กำลังอินเทรนด์จริงๆ ต้องยอมรับ วันก่อนยังได้ยินคำเก๋ๆ แว่วมาจากปากพระถ้าจำไม่ผิดท่านว่า ?หลงทางเสียเวลา หลงอาตมา ชีวิตเจริญรุ่งเรื่อง?



บูชาวัตถุมงคล

อานิสงส์ คืออะไรใครจะช่วยตอบทีได้ไหม? พวกเราก็เช่ากันจังพระเครื่อง ย้อนกลับไปที่จุดประสงค์การสร้าง ล้วนเป็นการก่อสร้างต่างๆ ในวัดแทบทั้งนั้น? บุญคงจะแตกต่างตามวัตถุประสงค์การสร้างนะคะ...อานิสงส์ชัดๆ คืออะไรยังไม่เคยทราบ ทราบแต่ว่า เรามีความสุขเหลือเกินที่ได้สะสม พุทธศิลป์ อันแฝงไปด้วยพลังกฤติยาคมแรงกล้า จากเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสก.... แหม? พูดแล้วก็อยากไปเช่าพระอีกแย้ว?

นั่งสมาธิ
อานิสงส์    คงหนีไม่พ้นเรื่องความเฉลียวฉลาด ปัญญาดี ทั้งภพนี้ และภพหน้า ทำทุกวันๆละ 15 นาที? หลายคนทำได้สบายบรือส์ นั่นก็เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง? ว๊าว.. ดีจังค่ะ

สวดมนต์
อานิสงส์ น่าค้นหาเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครองเรา การสวดคาถาต่างๆ ของครูบาอาจารย์ที่เรานับถือก็ดี ชินบัญชร พาหุง อะไรต่างๆ ก่อนนอน เสมือนทำสมาธิเหมือนกัน จิตใจต้องสงบนิ่ง ตั้งจิต อธิฐาน ที่สำคัญ อย่าลืมแผ่เมตตาให้กับเทวดา เจ้าที่เจ้าทาง ครูบาอาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลาย?

ถวายยารักษาโรค
อานิสงส์ เต็มๆ กับเรื่องสุขภาพ ไม่ใช่แค่ตัวเราเอง ครอบครัว ส่งผลให้อายุยืนยาว ไม่รู้จะเกี่ยวกับการเป็นสาวสองพันปีด้วยหรือเปล่านะคะ? นั่นเป็นความหวังของผู้หญิงทุกคนค่ะ แหม.. ไม่งั้นครีมบำรุงผิว ไม่รู้กี่ยี่ห้อ คงขายไม่ได้หรอก ผู้หญิงใช้ด้วยความหวังกันทุกคนแหล่ะค่ะ.. อ้าว เลยเถิดละ... ต่อค่ะต่อ... นอกจากการถวายสังฆทานอาหารแห้งให้พระสงฆ์แล้ว หลายคนนิยมถวาย ยาสามัญประจำบ้าน... ให้พระให้เจ้า ฮ็อตฮิตสุด ก็เดินทางไปทำบุญพระสงฆ์อาพาธที่โรงพยาบาลสงฆ์นะคะ.. คุณโชวเคยไปค่ะ.... พระอาพาธเราก็รู้สึกไม่ดีนะคะ..
อย่างปัจจุบัน..ที่ผ่านตามา หลวงปู่กาหลง  วัดเขาแหลม สระแก้ว ..ท่านต้องใส่อ๊อกซิเย่นสองรูจมูก มาครอบเศียรพระลักษมณ์ให้ลูกศิษย์ไม่รู้กี่พันคน?สงส้าน สงสารค่ะ   วันก่อนไปกราบปู่อั๊พ วัดท้องไทร นครปฐม.. ท่านป่วยมาก ผอมมากค่ะ พอลูกศิษย์มา...ท่านลุกขึ้นมาจากที่นอน..เพื่อจารวัตถุมงคลให้ศิษย์ สงสารมากมายค่ะ แต่เห็นติดป้ายห้ามแล้วนิค่ะ ดีไปอย่างค่ะ.. วันก่อนเห็นป้าจิ้น เล่นลูกคอสวดคาถา เสียงสูงๆ ให้ลูกศิษย์ท่านหนึ่งที่นำวัตถุมงคลไปให้ท่านจารค่ะ.. ส่วนเป็นคาถาอะไรไม่ทราบ ฟังค่อยไม่ถนัดค่ะ?

ปล.  หนูโชวเตรียมสังฆทานเวอร์ชั่นสีขาว บรรจุยาพาราเซตามอลสีขาวๆ เต็มพรืด...พร้อมมอบสังฆทานพาราฯ หลวงพี่ญาเร็วๆ นี้น้า? 555
ตักบาตรทุกเช้า
อานิสงส์ นี้คิดถึงคุณยายค่ะ ท่านตื่นเช้ามาก ทำกับข้าวตั้งแต่ไก่โห่ ตักบาตร อานิสงส์นี้ตรงๆ ค่ะ ไม่ขาดแคลนข้าวปลาอาหารแน่นอน เมื่อเราตายไปไม่หิวโหย ทรมานอย่างแน่นอน? วัยรุ่น หรือ คนไทยอีกหลายคนที่ไม่นิยมตื่นเช้าก็อาจจะพลาดโอกาสนี้ไปนะคะ น่าแปลกใจมาก ไม่นานมานี้คุยกับผู้อำนวยการฝ่ายจัดเลี้ยงของโรงแรมไฮแอท ท่านว่ากิจกรรมตักบาตรตอนเช้าที่โรงแรมเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นของฝรั่งมังค่า มากทีเดียว เห็นไหมคะ รู้จักนำเสนอวัฒนธรรมการทำบุญของคนไทยเราเสียด้วย ยังไม่พอหากนำกิจกรรมตักบาตรนี้ไปรวมกับการสัมมนาพนักงาน (แกมบังคับ) ก็ให้การตอบรับดี ตื่นเต้น ไม่น่าเชื่อนะคะ

หนังสือธรรมะ.
อานิสงส์ รับไปเลยเต็มๆ เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผลบุญจากการให้ธรรมะเป็นทานนั้นยิ่งใหญ่ ลาภยศ คำสรรเสริญ? พิมพ์หนังสือธรรมะแจกน่าสนุกดีนะคะ เผยแพร่พุทธศาสนาของเราไปด้วย แต่เดี่ยวนี้ชอบเห็นกระดาษสีขาว A4 พูดถึงการให้ก๊อปปี้บทความนี่ นู่น นั่น หากไม่ทำจะตายสามวัน เจ็ดวัน งงอยู่ว่าทำไมมีแบบนี้ในวัดด้วย?

ซองผ้าป่า กฐิน ฯลฯ
อานิสงส์ ในการร่วมอนุโมทนาทำบุญเมื่อมีซองต่างๆ ดังกล่าวมาเรี่ยไรนั้น ทำไปเถอะค่ะ อานิสงส์ผ่อนกรรมหนักให้บางเบาลงก็น่าจะให้ชีวิตที่โดนทำร้าย ถูกทำร้ายน้อยลงไปก็ได้ค่ะ.. ซองต่างๆ มาเรี่ยไรให้สร้างโน่น สร้างนี่ ดีออก ไม่ใช่ติดปากสนุกๆ ว่า อุ้ยส์... เป็นคริสต์ค่ะ? มะก่อนคุณโชวก็ใช้ประจำมุขนี้ แต่พอเราเริ่มเข้าใจเรื่องบาป บุญ หรือกรรมในอดีตแล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกค่ะ? อธิฐานปุ๊ปใส่ซองเลย มากน้อยก็คือได้ทำแล้วค่ะ? การให้มีความสุขไปอย่างนะคะ..

บริจาคเลือด
อานิสงส์ เรื่องต่ออายุให้ยืนยาว ความแข็งแรง สุขภาพผิวพรรณผ่องใส แถมยังมีคนช่วยค้ำจุนเมื่อยามตกทุกข์ได้ยาก ใครร่างกายแข็งแรง เจาะเลยค่ะ ... ไม่ใช่เจาะเอาเลือดชั่วๆ ทิ้งนะคะ.. อันนั้นมันยกเว้น?.ไหว้ครู ปีหน้า คุณโชวนำเสนอให้รถบริจาคเลือดมาตั้งหน้าวัดเลยค่ะ?ประกาศศักดาพลังเลือดของศิษย์บางพระ? ศิษย์บางพระเลือดข้นขนาดนี้ รับรองล้นธนาคารเลือดแน่ๆ ค่ะ ถือเป็นการสร้างชื่อเสียงประกาศกิติศัพท์หลวงพ่อเปิ่นเหมือนกันนะคะหลวงพี่ญา?เสียดายคุณโชว โลหิตจางค่ะ เขาให้ไปรักษาก่อนค่อยมาบริจาค อิอิ ยังไม่ได้รักษาเลย ขี้เกียจแหน่ะค่ะ

ปล่อยปลา ไถ่ชีวิตโค-กระบือ
อานิสงส์ จำง่ายๆ คือ ต่ออายุเราให้ยืนยาว ในเมื่อสัตว์เหล่านี้กำลังจะตาย แล้วเราไปช่วยเหลือเค้า? ไหนเลยอานิสงส์ผลบุญจะไม่บังเกิดให้เรา เรา  ขจัดอุปสรรคต่างๆ ที่รุมเร้าในชีวิต? แปลกเหมือนกันค่ะ คุณโชว สงกะสัยชาติก่อนคงฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมากแหง? ชาตินี้ช่วยคนไม่เคยขึ้นค่ะ โดนตลอด...  แต่ก็ยังต้องรับกรรมต่อไปค่ะ..

มอบทุนการศึกษาให้เด็กยากจน
อานิสงส์ จากการทำบุญแบบนี้หนุ่มใหญ่พอมีอันจะกิน ชอบทำอยู่เรื่อยค่ะ แหม เด็กที่ว่าไม่จำกัดเด็กสาวอย่างเดียวนะคะ  การมอบทุนการศึกษาก็ต่อชีวิต ต่ออนาคตให้เขา คงไม่ต้องรำลึกว่าจะได้อานิสงส์อะไร ตรงๆ ชัดๆ เลยค่ะ  เรื่องนี้มีโปรเจคส์ในหัวอยู่เยอะมากๆ ค่ะ ทำในนามวัดบางพระนะคะ สบายเลยฮ่ะ..สุดท้ายที่นึกออก....



รักษาศีล 5
อานิสงส์ จากการทำบุญด้วยการรักษาศีล น่าค้นหานะคะ คือ make sure ได้เลยว่า ตายไปไม่ต้องไปเกิดเป็น เปรต หรือ สัตว์นรก ยังไงได้เกิดเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตเจริญรุ่งเรือง มีเทวดา และนางฟ้าคอยปกป้องรักษา เอ?สดุดคำว่า สัตว์นรกนี่...
 
ครั้งหนึ่งเคยถามปะป๊าตอนทานข้าวเย็นสมัยเด้กเด็กค่ะว่า? คนเราตายไปแล้วไปไหนเหรอปะป๊า ... แหม ปะป๊า ก็พูดให้ฟังยังจำได้ทุกวันนี้ เล่าให้ฟังต่อดีไหมค่ะ? ฟังนะ ....
ปะป๊าบอกว่า คนเราตายไปแล้ว ดวงวิญาณก็ออกจากร่าง ล่องลอยไปนั่นแหละ เตรียมหาที่เกิดใหม่ ส่วนร่างกายเราก็เน่าเปื่อยไปตามสังขาร.... อ่ะ แล้วดวงวิณญาณจะไปเกิดตอนไหนหละปะป๊า? ท่านว่า อันนี้หละ แล้วแต่บุญ แต่กรรม ใครมากน้อยขนาดไหน ทั้งคนที่กำลังตั้งครรภ์ และดวงวิญาณที่กำลังล่องลอยหาที่เกิดนั่นหละ...สุดท้ายเขาจะจูนมาพบกันค่ะ.....เอาะ เอาะ อ๋อ..... คุณโชวเริ่มถึงบางอ้อ หลังจากที่ฮ่อมาเต็มเหยียด?. มันเป็นหยั่งซี่เอง?..

เราถึงเคยได้ยินคำว่า ? สัตว์นรก? อ๋อแปลว่า คนบางคน ร่างกายเป็นคนนั่นหละ แต่วิญญาณสัตว์ดุร้ายอาจมาเกิดในครรภ์ของผู้เป็นแม่เขานั่นเอง ดังนั้น เราจึงเห็นคนใจร้าย ใจสัตว์  ฯลฯ  แบบทำเรื่องที่โหดร้ายได้แบบหน้าตาเฉยและไม่รู้สึกผิด... ปะป๊ายกตัวอย่างให้ลูกสาวฟังง่ายๆ ในมื้อค่ำวันหนึ่งริมคลองบ้านแถบพระรามสองค่ะ



วันนี้... คุณโชวเข้าใจแล้วหละว่า... การทำบุญ หรือการให้นั้น คือส่วนหนึ่งชีวิตของเรา... นึกแล้วก็โกรธตัวเอง ที่ตอนแรกไม่เข้าใจค่ะ... เพื่อนสาวคนสนิทคู่นั้น คงได้บุญเยอะมากมายที่มาลากคุณโชวไปเริ่มต้นทำบุญ....นะคะ


เชื่อเหลือเกินว่า บ้านเว็บบอร์ดบางพระของเราทุกคน ชื่นชอบการทำบุญ แม้อานิสงส์บางอย่างอาจจะต้องรอ
แต่สิ่งที่ได้แน่ๆ ทันตาเห็นหลังทำบุญคือความสุขใจ มากมาย มากมาย....ซึ่งสิ่งนี้ก็ยิ่งใหญ่เกินพอแล้ว
...

เขียนไปเขียนมายาวแฮะ... จบดื้อๆ ไปก่อนนะ....


52
ท่านชลาพุชะ...โฟนอิน เข้ามาที่หน่วยปฎิคมออนไลน์บางพระ สักครู่นี้ ความว่า...




ศิษยานุศิษย์ 'จารย์หนวด ที่ประสงค์จะมาสักยันต์ ให้ STOP หยุดก่อน...ฟังทางนี้!

ตั้งแต่วันพุธที่ 8 -22 เมษายน ศกนี้...
ท่านอาจารย์หนวด ฆาราวาสสักยันต์บางพระของพวกเรา... มีภารกิจเดินทางโกอินเตอร์ไปประเทศสิงคโปร์

ใครต้องการสักยันต์กับท่านกรุณามาตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน เป็นต้นไป

ท่านชลาพุชะ...จึงโฟนอินมาเพื่อทราบโดยพร้อมเพรียงกัน และขออภัยที่ไม่สามารถส่งเป็นวีดีโอลิ้งค์มาได้...

เนื่องจากอยู่ระหว่างช่วงพักครึ่ง เตรียมยกพานที่ 3 ของวันนี้เจ้าค่ะ




จารย์หนวด..ไปสิงคโปร์อย่าลืมซื้อของฝากติดไม้ติดมือมาฝากลูกศิษย์ม่างนะคะ..

53
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / HAPPY BIRTHDAY to A.... 4 APRIL
« เมื่อ: 03 เม.ย. 2552, 04:27:49 »

เอ... ผู้คุมกฏ.. ที่หลายคนรู้จักตัวตนแท้จริงเขาดี

ชายหนุ่มอารมณ์ดี... กับวลีติดปาก 'ป่อย...ยยยยยย'

พรุ่งนี้...4 เมษา วันเกิดเขา...แล้ว

หัวใจของหนุ่มเอคงเบิกบานไม่น้อยทีเดียว.... เพียงคุณแวะมาเม้นให้เขา!...

พวกเราพี่น้องชาวเว็บบอร์บางพระ...มาร่วมเป่าเค๊ก...happy birthday เอ ด้วยกันดีไหมค่ะ
.
.
.....


54
ทายสิ! พี่โชวจะได้ขุนแผนองค์นี้....เป็นของขวัญวันเกิดพรุ่งนี้หรือไม่?   :070:

เจ้าของที่ว่าหวง.... ท่านว่าให้ยืมใส่.... แต่เรารู้สึกถูกจริต...สายเขมรพิลึก....

ว่าง่ายๆ ไม่อยากคืน....  :009:

เขาว่า เป็นรุ่นแรก... ทำอยู่ 19 องค์.... ดูเลือนๆ เหมือนนึกไม่ค่อยออก...

ขุนแผนรุ่นนี้... ใครรู้จักบ้าง? ...................  บอกหน่อยได้ไหม?








หลวงปู่ชื่น วัดตาอี  (หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์, มรณะภาพแล้วในปี 2547)
 
ขุนแผนสามสาวหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน
เขาว่าเป็นวิชาสายมหาเสน่ห์ เป็นตำราทางมหาเสน่ห์ที่มีอานุภาพรุนแรงและเด็ดขาด ตามต้นตำรับเขมรโบราณแท้

ความหมายของ ?สาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน? คำอธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ คือ ท่านสุภาพบุรุษมีภรรยาถึง 3 คน อยู่ในบ้านเดียวกัน
มีความรัก ความเข้าใจกัน ภรรยาทั้ง 3 ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกัน ปรองดองกัน ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ขุนแผนสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกันเป็นสุดยอดมหาเสน่ห์



'แค้นครั้งนี้ แม้ตายแล้วเกิดใหม่...ข้าก็จะมิมีวันลืม.... ข้าจะขอจองเวรเจ้าในทุกภพทุกชาติ'    ...ละครสาปภูษา...คืนนี้

55
อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง
ฆราวาสจอมขมังเวทย์ที่เลื่องลือเรื่องเสน่ห์อย่างหาตัวจับยากส์สสสสสสสสสส


ประวัติท่านยาวค่ะ? เอาพอสังเขปเฉพาะที่จำได้แล้วกันนะคะ? ฝากให้สาวๆ ได้ศึกษาไว้... หนุ่มของแรงๆ ... รับรองกระเจิงค่ะ...  :009:

(เอาวะ...ของเอ็ง กะข้าใครจะแรงกว่ากัน.....555) :009:
 
อาจารย์ฟ้อน ปากแหว่ง จมูกโหว่?. หลายตำราพูดต่างกัน บ้างว่า โหว่มาตั้งแต่กำเนิด บ้างก็ว่าเป็นตอนโต



ประวัติอันโชกโชนที่น่าสนใจ (ของเรา) ก็คือ... สาวใดว่าท่าน...หัวเราะท่าน หรือดูแคลนท่าน ว่าปากแหว่ง จมูกโหว่ เป็นอันเสร็จท่านในเวลาต่อมา...

โดยเฉพาะ นางเอกลิเก สาวสวยนัยน์ตาคมที่คนสมัยก่อนหมายปองนัก จะไม่มีทางรอดพ้นจากการเป็นศรีภรรยาของอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ด้วยความยินยอม :008:

เรียกได้ว่า ระดับนี้ไม่ต้องดื่มลิโพ เพิ่มพลังงานเพื่อพาสาวไปปล้ำค่ะ?เหมือนหนุ่มโรคจิตบางคน... :009:

ที่สำคัญ?. ภรรยาท่านอยู่รวมกันหลายสิบคนในบ้านเดียวกัน (80 คน หรือไง จำไม่ได้ค่ะ)


ถ่ายพิคเจอร์เก๋ๆ มาชมกันเล่น เล่น.. รูปหล่อลอยองค์เนื้อผงอังคารธาตุออกที่วัดบึงพระอาจารย์  จ.นครนายก....

ปล. อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง เลืองชื่อเรื่องสักกระหม่อมเลือด ... ด้วยค่ะ...








โชคดีมีงานเข้า...หญิงลึ่ม ชายหลง งง งวย ค่ะ

56
ชีวิต..ต้องเคยมีสักครั้งที่เคยประสบความสำเร็จ..

คิด...คิด... คิด... ไม่เอาน่าอย่าซีเรียส..ไม่เอาเรื่องซีเรียสดีกว่า
..


เอาเรื่องบ้าๆ ที่ดูแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้..แต่ดั้นเกิดขึ้นมาแล้วววว... Impossible is nothing...

แบบเซอร์ไพรส์หนะ! โอว..How Come? กรูทำได้ไงเนี่ย!

พี่โชว..คิดเรื่อง มีและไม่มีสาระต่างๆ ของตัวเองได้แระ.... (อายๆ หน่อยนะ) :009:

1. ไม่นานมานี้...เคยวิ่งมินิมาราธอนครั้งแรกของชีวิต ระยะทาง 11 กิโล ขึ้นสะพานพระราม 8 ด้วย (ยากกว่าทางราบปกติ) สำเร็จ 1 ช.ม. 15 นาที เก่งปะ

2. เคยเปลี่ยนป้ายห้องน้ำหญิง สลับกับห้องน้ำชาย แล้วนั่งดูคน เข้าห้องน้ำผิด ขำฉิบ! ซนมากตอนมัธยม

3. เคยถูกเพื่อนแย่งหนุ่มหลายครั้ง หลายคน หลังจากนั้น คนที่ชื่อว่าเป็นแฟน จะไม่พาออกงานเด็ดขาด (เชยชมคนเดียว)

4. เคยชนะเลิศประกวดร้องเพลงค่าน้ำนม สมัย ม.2 เรียนที่สตรีมหาพฤฒาราม แถมยังเป็นคนนำ 'ปาเจรา' วันไหว้ครูทั้งโรงเรียนด้วยอ่ะ เด็กๆ แค่นี้ก็เท่แย้ว

5. เคยหึงแฟนถึงขนาดโทรไปหาผู้หญิงแล้วล่อมันออกมา ชกมันปากแตกเลยอ่ะ...อันนี้ไม่นับคดี จิกหัวประจาน กลางสนามโรงเรียนโชว์ให้คนดู ตอนสอบเสร็จวันสุดท้ายนะ...ที่เล่าให้น้องเอ็มฟังไง...( บ้าหวะ...ตอนนี้ก็ยังเป็น แต่ไม่แน่ใจว่าความแรง..จะขนาดไหน.. แย่งได้ แย่งไปค่ะ... :009:

6. เคยเจอผู้ชาย 'ปล้ำ'  :009: :070: :070: ...

เห็นมะ ดูแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่เกิดขึ้นมาแล้วววววววววว..... หรือตะเองมะมีเลย?   :009:

57
ขอเชิญชวน พุทธศาสนิกชน พี่น้องชาวเว็บบอร์ดบางพระ..

ร่วมแสดงมุทิตาสักการะ วันคล้ายวันเกิด

‘หลวงพ่อสำอางค์ ปภสฺสโร’

เจ้าอาวาสวัดบางพระ จังหวัดนครปฐม

ในวันพฤหัสที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2552

เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป



58
บันทึกความทรงจำ?ไหว้ครูบางพระ 2009 by cho.

อีกครั้ง..กับความศักดิ์สิทธิ์ในพิธีไหว้ครูประจำปีวัดบางพระ...วันที่ศิษยานุศิษย์ทั่วทุกสารทิศต่างรอคอย
แต่มีศิษย์อยู่กลุ่มหนึ่ง เราเชื่อว่า..ความทรงจำเขาครั้งนี้พิเศษกว่าไหว้ครูทุกครั้ง
ศิษย์กลุ่มที่ว่านี้?คงหนีไม่พ้น ?ชาวเว็บบอร์ดบางพระ? เพราะเป็นครั้งแรกของพวกเขา..
ในการรวมพล?การได้เห็นตัวเป็นๆ เห็นกันจะๆ ?ไม่ใช้สลิง ไม่มีสแตนอิน หลังจากกรีดกราย ออนไลน์บนเว็บบอร์ดกันมานาน?
วันนี้จึงไม่ใช่ไหว้ครูธรรมดาของคนเหล่านี้อีกต่อไป..

กิจกรรมพิเศษ? ที่จัดขึ้นนั้น ก็เพียงเพื่อกระชับความเป็นมิตรของเหล่าศิษยานุศิษย์เว็บบอร์ดบางพระทุกคน อีกทั้งยังมีความเป็นสิริมงคลถ้วนหน้า   
ลพ.ญา ของพวกเรา.. :058: ไม่บ่นแม้แต่แอะเดียวถึงความเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า?เพราะน้ำทิพย์ชโลมใจท่านนั้นเป็นเพียงรอยยิ้มแป้นๆ
ของเหล่าศิษย์บางพระที่หลั่งไหลกันมาให้ท่านทำพิธีครอบเศียร ? ลงทอง รับแจกของที่ระลึก...
ทุกคนต่างมาพร้อมรายงาน Play Name ว่าใครเป็นใคร?  ลพ. ญา แอบมีความสุขไม่น้อยเลยใช่ม้า (ดูก็รู้) :009:


1. ลพ. ญา  ครอบเศียร
พี่โชว+พี่ชิน ถือโอกาสถวาย ?เบาะรองนั่ง? สีเขียวคลาสสิคใหม่กริ๊บ?ถือฤกษ์เบิกชัยใช้ในวันไหว้ครู 2009 นี่หละ? ดีใจสุดขีดที่หลวงพี่ญาบอก..ช้อบชอบ..!




2. ผู้การเสือ ลงทอง มหาเสน่ห์? วันที่ 6 ก่อนวันงานไหว้ครู  พี่โชวไปช่วยพี่ชิน (เด็กนอกวัด)  เตรียมงาน วันนั้นสวมเสื้อยืดกวนๆ เขียนบนหน้าอกเสื้อว่า ?ลูกสาวผู้การ?  ปรากฏเจอผู้การตัวจริง  แกถามว่า เสื้อหนูตกคำว่า ?เสือ? ไปตัวหนึ่งหรือเปล่าคะ?   เลยเนียนๆ เป็นลูกสาวผู้การเสือไปโดยปริยาย (พี่เค้ารับ หรือไม่รับ ไม่ทราบค่ะ ไม่สน..555) ได้คุยกับผู้การเสือ...อัธยาศัยดีมากๆ ขาว หล่อ ?ขอประชาสัมพันธ์ให้พวกเราชาวเว็บบอร์ดได้รู้จักกันไปด้วยเลย?เจอพี่เขาอย่าลืมทักทายหละ?เพราะพี่โชวเป็นลูกสาวผู้การ (เสือ) ไปแล้ว :009:



3. เริ่มพิธีไหว้ครูกันเลยดีกว่า..    ฮั่นแน่! ภาพแคนดิคหลวงพี่ญาถอดแว่น? ซะล่วย?   :009:




?ปีนี้ดีใจมาก? ได้เข้าไปอยู่ในพิธีด้านหน้าเยย? อู๋ย...  ตื่นเต้น ๆ

4. หนุ่มเสื้อแดง? แกนั่งคันยุกยิกๆ แบบนี้ นานพอดู? ไม่ได้ลุกขึ้นโลดโผนโจนทยาน?เท่ไปอย่าง



5. รุมกันบีบหู?. จ๊ากกกก?



ขออนุญาตรวมภาพที่พี่โชวชอบจากพี่น้องชาวเว็บบอร์ดมาไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ? เสื้อขาวเป็นเครดิตภาพถ่าย รุมกันบีบหูของพี่ชาญค่ะ :009:



6. หนุ่มเสื้อฟ้า? แกตั้งเริ่มตั้งท่า.. แต่เอ๊ะ?กำลังวิ่งมาทางช่างภาพนี่หว่า? โกยเถอะ? จะทันไหมเนี่ยกรู?



7. รัวชัตเตอร์มากก็ไม่ได้?ถ่ายไป?กระโดดหลบไป?นี่เราคิดดีแล้วหรือมาอยู่ด้านหน้าเนี่ย? ?นายตะกรุด? หรือน้องกรุด..น้องชายสุดที่รัก หน้าโหดแต่นิสัยขี้อ้อน?ตะโกนมา พี่โชวผมเป็นแบ๊คให้เอง!  เออ! ดีมาก.. มะ?คอยระวังหลังให้พี่ด้วย..!



เฮ้ย..ทำไมช่างภาพ หน้ามืดๆ หายใจถี่ๆ จังวะ? ฟืดฟาด ฟืดฟาด?
เอาเว้ย? ถ่ายด้วย ขึ้นด้วย?นิดส์นึง..ซอฟท์ ซอฟท์ ค่ะ..ปกติ!  :009:


8. ขอสักแอ๊คสิ? แหม!  โพสท่าสวย!  :008: เสื้อกุฎิไหนหนอ? พ่อช่างปั้น..



9. ฮึ่ม?เสื้อยืดสีดำ..ซ้วยสวย? ผ้าดีด้วยนะนั่น?  ถอดให้หนูนะ.. นะ ?.หยักได้!  :070:



10. เพื่อน้อง..ถอดให้ได้ จัดไปครับ!   ไม่เอา..ล้อเล่นค่ะ.. :009:




โพสไปก่อน 1 เซ็ต... กลัวแฮงค์... โพสต่อเลยนะ... :065:

59
ตะกรุดหนังเสือพยัคฆ์คำราม.. รุ่นแรก

เข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ แรงด้วยกฤติยาคม
เสมือนหนึ่งมีจิตวิญญานสภาวะแห่งเสือสถิตอยู่แล้ว

เสียงคำรามของเสือ เป็นเสียงมหาอำนาจ
คำรามเพียงครั้งเดียว ก็สามารถสะกดป่า ให้ตกอยู่ในความเงียบ.
..


เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์.. อันแฝงเร้นด้วยกฤติยาคมอาถรรพณ์ที่เปี่ยมด้วยพุทธานุภาพอาคมขลังจากพระเถราจารย์นามหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว....

ในตัวตะกรุดหนังสือ มีตะกรุดพญาเสือสมิง เนื้อตะกั่วขอมพันปีอยู่ด้านใน..


ด้านนอกหนังเสือ ถักเชือกคลุกผงวิเศษ ลงรักปิดทอง...






สมบัติล้ำค่า อันควรคู่แก่การบูชาติดตัว...พี่โชว  :009: ม้างงงง...


เอามาโชว์เล่นๆ ... มะเหงเปงไร... ศิลปะแนวๆ ดูน่ารักปุกปุยดีค่ะ...

ชมตะกรุดอื่นๆ จิ..
ช้างฯ http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,7173.0.html
มหาฯ http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,7161.0.html





60
ศาสตร์การ 'สักยันต์' ถูกถ่ายทอดลงบนผิวหนังของชายฉกรรจ์..มาแล้วหลายยุคหลายสมัย .



คนแล้ว..คนเล่า..



ยันต์แล้ว ยันต์เล่า.. ความหนักหน่วงผ่านฝีเข็ม ถูกถ่ายทอดลงผิวหนัง...ซื้ดซ้าด..กัน..แต่ก็ยังมาสักอีก..อยู่ดี :009:



อะไรกันนักกันหนา...มากันไม่ขาดสาย..แต่หลวงพี่ ก็บ่ยั่น.. มิเคยย่อท้อ..

เอ้า! มา..เด่วอาตมายันให้! เอ้ยให้ยันต์..จะเอาอะไร?
...   




 
:058: ..หลวงพี่ญา...: 1150 เหรอ..เอาไก่เคเอฟซีมาถังนึง.. ลูกศิษย์อาตมา..รอสักจนหิว..เออๆ เอาหมดเลย เอามา! ...



รูปนี้เท่ได้ใจมาก........ จัดไปงามๆสักช๊อต.....



วันนี้ท่านอารมณ์ดีมั๊กๆ.. หนุมานตัวนี้.. วิ่งมาให้ลพ.ญาเป่าให้..



ท่านก็เป่าลมออกทางปากเหมือนเป่ากบ...เอ้า..เป่า..พุ้ง.. :058:...ให้เป่าหนิ...


เจ้หนีหน่อยครับ...ของร้อน.. ผมจะให้ ลพ.ญา  :058: เป่าครับ



เสือใหญ่ขนาดนี้...ไข้ขึ้น... เป็นแน่แท้.. ใหญ่โคตร! ..



หลวงพี่ตูน...ใช้เวลา แทงเสือ..ยันต์นี้นานแค่ไหน?  ทายสิ?   :009:





61
'ตะกรุดมหาละลวย'


เมื่อชม 'ช้างผสมโขลง'  แต่ใจยังห่วงหาอาวรณ์ถึง 'มหาละลวย' มัวช้าไปใย...จัดไปอีกดอกให้สมใจ! :008: มหาละลวยหลวงปู่กาหลง... แถมด้วย.. ขุนแผนจิ๋ว หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ!

..มหาละลวย..

...ชายเห็นชายงวย หญิงเห็นหญิงหลง เห็นหน้างวยงง หลงพิศวาทครวญหา...

..นั่งท่าฟังข่าว.. นั่งเฝ้าปากทาง.. นั่งเยี่ยมหน้าต่าง.. กอดอกรำพึง...

คำนึงบ่มินอน... :061:

สุดสวาทอาวรณ์...ร้อนรนทนอยู่มิได้..
.......


เค้าว่า..นำใบรักมาเขียนชื่อคนรัก..ม้วนใส่ในตะกรุด นอนบริกรรมคาถาไปเรื่อยๆ ทุกคืน ทุกวัน... เข้มขลังนัก!... มะเคยลองค่ะ   :009:









ชมตะกรุดช้างผสมโขลง...
http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,7161.msg59733/topicseen.html#new


62
   ตะกรุดช้างผสมโขลง
      (พญาเทครัว)

   ชายเห็นชายรักใจแทบขาด หญิงเห็นหญิงรักแทบขาดใจ :009:

ตำนานแห่งความล้ำค่าที่มากด้วยปฏิหารย์ และประสบการณ์
อำนาจบารมีแห่งเขี้ยวแก้วประกาศิตของ 'หลวงปู่กาหลง เตชวัณโณ' ที่ประสิทธิ์ลงสู่เครื่องรางของขลัง จนมีพุทธคุณเข้มขลัง เลื่องลือไปทั้งแผ่นดิน!


ในใบฝอยว่า...ถ้าจะให้รักเรา..ทั้งครัวเรือน..ให้เอาตะกรุดนี้แช่ในตุ่มน้ำให้กิน จะรักเราทั้งบ้าน :009: ... ยังมะเคยลองเลย :009:



63
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / HAPPY VALENTINE DAY..
« เมื่อ: 13 ก.พ. 2552, 04:45:29 »

LOVE IS AN ENDLESS MYSTERY
FOR IT HAS NOTHING ELSE TO EXPLANIN IT
.
รักคือความเร้นลับมิรู้จบ
เพราะยากแท้...จะหาอื่นใดมาอธิบาย

HAPPY VALENTINE DAY

64
วันนี้...มาตลุยวัดบางพระกับคุณโชวกัน...



เย้...ถึงแล้วววว....





นมัสการ หลวงพ่อ เปิ่น...สาธุ๊



ฮั่นแน่... เจอแระ...ก๊อก ก๊อก ก๊อก หลวงพี่...หลวงพี่ญา...ทำอะไรอยู่คะ!



โชคดีนะ ที่หลวงพี่ญา ป่าวตอบกลับมาว่า 'โยมไม่เห็นหรือไง'  :009:



'หนูอยากให้หลวงพี่เมตตา 'เสือ' สักตัวหน่ะ..หลวงพี่ (ดุยังไม่พออ่ะคะ)'......แหม.. พอคุณโชว..อยากได้เสือ ก็เห็นหลวงพี่กำลังสักเสือให้หนุ่มเซกซี่คนนี้พอดี!



ดูก็รู้หนุ่มคนนี้คงมีความสุขไม่น้อย...แหม.. หลับตา..พริ้มเชียะ!



หลวงพี่ญา..; 'จะเอาเสือเหรอ..ได้!...แต่จะไหวเร้อ..เจ็บนะ!' (จิงเร้อ..) หลวงพี่ทิ้งท้ายก่อนลาจากกันในวันนั้น!

นั่นคือ คำมั่นสัญญา...หลวงพี่เมตตารับปากแล้ว... แต่เอ๊ะ..วันนี้ไม่มีอารมณ์จะสัก...มาวันหลังดีกว่า!


เสือ เสือ เสือ...เราต้องไปใหม่! หลวงพี่เมตตาจะให้แล้ว






เอ๊ะ...นี่ก็เสือ... :009:



ฝันที่เป็นจริง....'โชว บางพระ ยันต์เสือเผ่น และ หลวงพี่ญา'

ไอ้น้องกรุดเอ้ย...เก็บภาพความเจ็บปวด เอ้ย ความสวยงามของยันต์เสือเผ่นให้พี่โชวหน่อยเด้... :009:

คุณโชว... เชื่อใจ...ฟันไม่เข้า... :008:



ฝันที่เป็นจริง...กับเลือดซิบๆ....ซี้ดๆ (ไม่) เจ็บสักหน่อย...แหม...ผู้หญิงก็ไม่ได้ยั้ง แทงแรงพอๆ กันเยยย..หลวงเพ่.. :009:
น้ำมันก็เหอะ...ขึ้นคาเข็มเล้ย....โฮ่ก โฮ่ก...(เข็ดแล้ว)



...ขอขอบพระคุณ ยันต์เสือเผ่น..เมตตาดีๆ จากหลวงพี่ญา...วัดบางพระ...from cho presley


65
"เทรนด์แรง ปี 2009"
ฮัลโหล!!! หนุ่ม-สาว ผู้คลั่งไคล้การสักยันต์สายบางพระคึกคักกันหน่อย ใครที่กำลังจะเอ้าท์ตกขอบ ควรเทิร์นอราวด์หมุนตัวกลับมาเริ่มต้นอินกับเทรนด์ที่จะทำให้ชาวบางพระ ไม่หลุดกระแส ขึ้นศักราชใหม่ เรามาลองทำตัวให้กิ๊บก๊าบกันอีกซักหน่อยดีกว่า ด้วยการตามติดเทรนด์ใหม่ที่กำลังจะมาแรงในปี 2009 ปีนี้ เอ้ามีเชคดูจะมีอะไรเดิร์นๆ บ้าง
         
         มาเริ่มที่แนวเพลงก่อนเลยดีกว่า ปีนี้ต้องเป็นแนว ?Alternative hip hop? เท่านั้น ถ้าอยากเด่นนำหน้าชาวบ้าน ขอบอกเลยว่าให้ฟังเพลงประมาณ ?Love Lockdown? ของหนุ่ม ?คานเย่ เวสต์? น่าจะดีที่สุด เพราะจังหวะแบบ ?Love Lockdown? นี่แหละ ที่จะแรงครองโลก เหมือนเพลงแนวป๊อปและฮิพฮอพในทุกวันนี้

          มาที่เรื่องของแฟชั่น ?ปีวัวมีเขา? เลยดีกว่า ซึ่งต้องบอกเลยว่า เทรนด์ปีนี้เริ่ดมาก เพราะเสื้อผ้าจะเป็นแบบซีทรู มองทะลุทะลวง ยิ่งถ้าเป็นงานกลางคืนด้วยแล้ว รับรองเลยว่า เราจะได้เห็น เหล่าเซเลบริตี้จ่อคิวใส่บนพรมแดงแทบทุกงาน

          ถ้าใครเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวจริงคงจำได้ว่า ปี 2008 เดรสรัดรูปแบบผ้าพันแผลฮ็อตฮิตสุดๆ ดังนั้น ในปีนี้ดีไซเนอร์หัวใสเขาจึงทำชุดว่ายน้ำแนวผ้าผันแพลออกมาชิมลาง โดยจะเน้นที่ความเซ็กซี่ แต่ดูเป็นสปอร์ตมากกว่าบิกินีของปี 2008 ที่จะเป็นพวกสายเดี่ยวเสียวหลุดซะส่วนใหญ่ ลุคสปอร์ตอย่างนี้

          ส่วนกางเกงยีนส์ของปีวัวต้องเป็นยีนส์เซอร์ซกมกๆ ขาดแล้วขาดอีก ส่วนเรื่องเน่าแล้วเน่าอีกอันนี้อยู่ที่คาแรคเตอร์ส่วนตัวที่พึงทำได้ เพื่อเผยความเอ็กซ์ของเรียวขาผู้สวมใส่ ซึ่งงานนี้เหล่าดีไซเนอร์ชื่อดังก็ฟันธงคอนเฟิร์มไว้ว่า ยีนส์ขาดวิ่นแบบนี้ผู้ชายก็ใส่ดี

          ว่าเรื่องเสื้อผ้ามาเยอะแล้ว ตอนนี้เรามาดูกันที่สไตล์ฮิตของทรงผมมั่งดีกว่า โดยปีนี้เทรนด์ผมสั้น ทั้งหญิงและชายมาแรงมาก เป็นทรงผมเน้นความรวดเร็ว คล่องตัว ไม่ต้องจัดแต่งทรงกันให้เสียเวลา ก็สามารถไปเฉิดฉายสู่สายตาสาธารณชนได้อย่างมั่นใจ ทรงผมดูมีเลเยอร์ สำหรับผู้ชายเน้นเกรียนเหมือนกับผมของหนุ่ม ?โรเบิร์ต แพททินสัน? ด้านหญิงสาวให้เน้นผมซอยสั้นอย่างเจ๊ ?วิคตอเรีย เบ็คแฮม? ถึงจะเก๋ไก๋เป็นที่สุด แต่ถ้าใครรักจะไว้ผมยาวก็ต้องไดร์และดัดนิดๆ ให้ผมดูมีวอลลุ่มเหมือนกับนักแสดงสาวรุ่นใหญ่ ?ฟาร์ราห์ ฟอว์เซ็ตต์? ถึงเวลาแปลงโฉมกันแล้วใช่ไหมคะ
         
   ถ้าเป็นเรื่องสีสันของปีนี้จะเน้นที่โทนสีม่วงและสีฟ้า โดยเทรนด์แต่งหน้ามาแรงจะเป็นแบบสโมกกี้อายส์ แต่ไม่ดำปิ๊ดปี๋เหมือนหมีแพนด้าในปี 2008 เพราะงวดนี้เมกอัพอาร์ติสต์บอกว่า ตาต้องเป็นแบบสโมกกี้ที่ดูสว่างๆ แนวสีสันพาสเทล ส่วนเครื่องแต่งกายก็แต่งเป็นมะเขือม่วงเดินเที่ยวกันได้เลย รับรองไม่ตกเทรนด์


อิจฉาหนุ่มสักยันต์ชาวบางพระน่าดู มีเรื่องน่ารู้ อินเทรนด์ เอาไว้ชิทแชทกะสาวด้วยนะเนี่ย

ข้อมูลจาก บางกอกทูเดย์
rewirte by cho presley

66
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / HAPPY NEW YEAR 2009
« เมื่อ: 30 ธ.ค. 2551, 08:50:44 »




67
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / MERRY CHRISTMAS
« เมื่อ: 25 ธ.ค. 2551, 06:53:27 »


SANTA CLAUS IS COMING TO BANGPRA'S TOWN



[shake]MERRY CHRISTMAS... HO HO HO[/shake]



MERRY CHRISTMAS....
MERRY CHRISTMAS




[shake]MERRY CHRISTMAS ... FROM SANTY CHO KA[/shake]..[/size]

68
สุดยอดประสบการณ์.... 'เข้าพิธีเป่ากสิณไฟ.... หลวงปู่นอง ที่วัดวังศรีทอง จ.สระแก้ว'

ไม่ต้องพูดร่ำทำเพลง...มาชมภาพกันแบบ จะจะ เลยดีก่า...


พิธีเป่ากสิณไฟตำรับบรมครูปู่ฤาษีตาไฟ

สุดยอดพิธี ที่สักครั้งหนึ่งนั้นควรจะหาโอกาสหาโอกาสมาทำพิธีสักครั้ง เพราะพิธีนี้ถือเป็นพิธีที่มีพลังอานุภาพที่มีพร้อมสรรพอยู่ในตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการสะเดาะเคราะห์ แก้ดวงไม่ดีเป็นการต่อชะตา เป็นการขับไล่สิ่งไม่ดีต่างๆ ให้หมดไปเป็นการเสริมสิ่งดีๆ ให้แก่ตัวเรา เสริมโชค เสริมลาภ เสริมพลังแห่งมหาเมตตา เสริมดวงชะตาให้โดดเด่นให้ดีขึ้น เสริมความสำเร็จในหน้าที่การงาน เสริมความสำเร็จในธุรกิจการค้าต่างๆ...

ในการทำพิธีแต่ละครั้งนั้น หลวงปู่นองจะทำให้แบบครบสูตร คือทำให้ครบทุกอย่างตามตำรับของหลวงพ่อเดิมเลยทีเดียว โดยเฉพาะพิธีลงด้ายมงคลเสริมชะตาชีวิตนั้น พิธีลงด้ายมงคลท่านจะใช้ด้ายสายสิญจน์ที่เป็นด้ายไจเส้นใหญ่ นำมาคล้องคอทุกคนที่เข้าพิธี แล้วท่านก็จะกล่าวอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แล้วจึงจะสวดพุทธเวท ทั้งปัดเป่าและเสริมดวงชะตาชีวิตให้แก่ญาติโยมทุกคน และเมื่อลงด้ายมงคลสวดจบทุกอย่างแล้ว หลวงปู่นองก็จะทำพิธีเป่ากสิณไฟให้ 3 ครั้ง เมื่อเป่ากสิณไฟเสร็จจะทำพิธีลงแป้งเสกเทวดาลงทองพระเจ้าสิบทิศ


ละลายน้ำตาเทียน ลงกระบอกกะลามะพร้าว....ให้ศิษย์ทุกท่านพนมมือ ก้มหน้ามาใกล้ๆ หลับตาเสียลูก





พอได้ปริมาณน้ำตาเทียนกำลังดีแล้ว ท่านก็นำมาดื่ม ยกเทียนแท่ง ไว้ตรงหน้า เป่าพ่นน้ำตาเทียนไปที่เปลวเทียนไฟที่อยู่ข้างหน้า ดังฟู่ .................

ภาพนี้ตอนที่เป่าฟู่แล้ว... ก็จะเกิดเปลวเพลิง.....มืด...ชั่วขณะ



...ช็อตเด็ด... จากช่างภาพขี้เหงา...




เป่าเสร็จ ท่านต้องคุ้ยเอาเศษน้ำตาเทียนที่แห้งจากปากออกทันที ไม่งั้นรอมันแห้งไม่ไหว





พุทธประวัติ...หลวงปู่นอง ธัมมโชโต


พระเกจิอาจารย์ผู้สืบสาน วิชาสายฤาษี แห่งวัดวังศรีทอง ศิษย์เอก หลานแท้ๆของ หลวงพ่อเดิม ผู้สำเร้จวิชากสิณไฟ จากพระอภิญญา หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา หลวงปู่นอง ธัมมโชโต พระเกจิอาจารย์สูงอายุที่โด่งดัง อยู่ ณ ภาคอีสานใต้ ผู้คนเรียกขานกันว่า ?ยอดพระเกจิเข้มขลัง ฌานบารมีสัมผัส ?ฤาษีตาไฟ? ให้โชคลาภร่ำรวย? พระผู้เมตตา แห่งวัดวังศรีทอง ต.วังใหม่ อ.วังสมบรูณ์ จ.สระแก้ว อายุ 87 ปี ถือกำเนิดที่จังหวัดลพบุรี มีพี่น้องหญิงชาย 8 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนสุดท้อง โยมแม่มีศักดิ์เป็นน้องสาวของ พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม) วัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ?เทพเจ้าแห่งเมืองปากน้ำโพ? ในวัยเด็กอายุ 12 ปี บรรพชาเป็นสารเณร ปรนนิบัติรับใช้ ถวายตัวเป็นศิษย์ ?หลวงพ่อเดิม? ผู้เป็น ?หลวงลุง? ได้รับการถ่ายทอดวิชา คาถาอาคม การสร้างวัตถุมงคล ต่างๆ ด้วยงาช้าง มีดหมอ เขียนลบผง ปถมัง เตนิสิงเห มหาราช อิทธิเจ พุทธคุณ เรียนเขียนอักขระเลขยันต์ นะ 108 คาถาหัวใจ 108 เรียนวิชาอาคม ทางด้าน คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม โชคลาภ ฯลฯ หลวงพ่อเดิม ยังได้เมตตาสักยันต์ครู ?นะเมตตา? ไว้ที่หัวไหล่ของหลวงปู่เพื่อยืนยันถึงความผูกผันอีกด้วย หลวงปู่นอง เป็นพระที่ใฝ่รู้ ได้ขออนุญาติ หลวงพ่อเดิม กลับมาเยี่ยมบ้านที่จังหวัดลพบุรี ในยุคนั้นมีพระเกจิอาจารย์ดัง อยู่ที่เขาสาริกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ชื่อ ?หลวงพ่อกบ? สำเร็จ วิชากสิณไฟ ล่วงรู้วาระจิต จุดไฟน้ำมันก๊าดได้โดย เพ่งสายตา ทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ รดน้ำมนต์แล้วจะมีโชคมีลาภ ทำเครื่องรางของชลัง ได้สุดวิเศษ มี อิทธิปาฏิหาริย์ นานาชนิด เขาสาลิกาในยุคนั้นเนื่องแน่ไปด้วยผู้คนที่ศรัทธาในตัว หลวงพ่อกบ แม้แต่ หลวงพ่อโอภาสี (พระมหาชวน) ยังมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่นอง เมื่อกลับมาบ้านเกิด ได้ยินเกียรติศักดิ์ อภินิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อกบ จึงได้ไปฝากตัว เป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อกบ ได้เมตตาถ่ายทอด สุดยอดวิชา ให้หลายอย่าง เมื่อ หลวงปู่นอง อายุ 21 ปี มีหมายเกณฑ์ให้ไปเป็นทหาร จีงลาสิกขา เข้าประจำการ กองพันเสนารักษ์ กองทัพอากาศ ดอนเมือง 2 ปี จึงปลดประจำการเมื่อปลดประจำการแล้ว หลวงปู่นอง ได้กลับมาอุปสมบทอีกครั้ง โดยมีศิษย์ผู้พี่ หลวงพ่อโอภาสี เป็นพระอปัชฌาย์ หลวงปู่นอง จำพรรษาที่ สำนักสงฆ์บางมด และได้ต่อวิชา ร่ำเรียนวิชา เพิ่มเติม เป็นเวลานานถึง 4 ปี จากนั้นได้กลับมาจำพรรษาที่วัดหนองโพ นครสวรรค์ ปรนนิบัติรับใช้ หลวงพ่อเดิม จนกระทั่ง หลวงพ่อเดิม มรณภาพ หลังจากนั้น หลวงปู่นอง ได้รับนิมนต์ จากทางญาติโยม ให้มาจำพรรษาที่วัดวังศรีทอง จังหวัดสระแก้ว หลวงปู่นองจึงไม่ขัดศรัทธา ได้จำพรรษาจนถึงปัจจุบันหลวงปู่นอง เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความชำนาญ เชี่ยวชาญ วิชาไสยศาสตร์ยิ่งนัก เคราะห์ไม่ดี กิจการ การค้าไม่ดี หลวงปู่ช่วยปัดเป่า สงเคราะห์ ช่วยเหลือคนให้ร่ำรวย มามากต่อมากแล้ว ใครที่มีวัตถุมงคล หลวงปู่นอง บูชาติดตัว จะเจริญก้าวหน้า ค้าขายดี ประสบความสำเร็จทุกประการ from kaosod..





ธรรมทาน...เป็นของขวัญล่วงหน้า...วันคริสมาสต์ก็แล้วกันน้า............ภาพและเสียง by cho presley ช่างภาพขี้เหงา

69
พี่โชวเป็นคนหนึ่งที่พิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดในการเลือกซื้อของ....มากกกกก

ไม่ว่าเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ในบ้าน ก็ยังต้องมีคอนเซปต์...อันนี้ทั้งที่ซื้อใช้เอง หรือของขวัญค่ะ
(ไม่แปลกหรอกถ้าคุณจะคิดว่า แหม..ยัยนี่เรื่องมากจริงๆ..แต่ความจริงอยากให้เปลี่ยนเป็นใช้คำว่า พิถีพิถัน ละเมียดละไมมากกว่าค่ะ)

เอ้าต่อดีกว่า....ทีนี้พูดเรื่องการซื้อของขวัญ....ก็อีกนั่นแหละ...ยังต้องมีคอนเซปต์
คอนเซปต์พี่โชวคือว่า ซื้อให้เพราะฉันชอบของชิ้นนี้มาก ก็เลยซื้อให้เธอ...(ไม่สนด้วยว่าเธอจะชอบอ่ะเป่า แต่นี่แทนตัวตนฉันแล้วหละ 555) กับอีกอย่าง ซื้อให้เพราะรู้ว่าเธอต้องโดนน...ใจ (อันนี้ต้องทำการบ้านเรื่องส่วนตัวเขาเยอะๆ) ดังนั้น..ทุกครั้งที่พี่โชวจะให้ของขวัญใคร....มักจะโดนเสมอ (ขอโม้หน่อย อิอิ)

อ่ะ อ่ะ... เข้าเรื่องจริงๆ... แม้กระทั่งการถวายสังฆทานของพี่โชว... พี่โชวก็ยังเลือกเฟ้น เน้นๆ เอง..
รากฐานความคิดมาจาก ทุกครั้งที่เราไปวัดถวายสังฆทาน พี่โชวคิดว่า...

- เห็นแต่แพคเกจจิ้งเหลืองๆ พระคงเบื่อ (เพราะเราเองก็เบื่อ),

- มีแต่ถังๆๆ (ท่านมีเยอะคงไม่ใช้แหง) ดังนั้น พี่โชวเลยเริ่มสนุกสนานกับการเลือกซื้อของถวายพระแล้วสิ...พี่มักใช้ 'ตระกร้า กาละมัง ถุงผ้า ถุงย่าม บาตร แทนถังเหลืองที่ถวายกันเกลื่อนกลาด' เลือกของถวายเกรดเทียบเท่ากับพี่ใช้เองในชีวิตประจำวันเลย แม้ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย แต่ดูแล้วมันภูมิใจกว่าเป็นไหน ไหน..อีกทั้งที่เพิ่มเติมคือว่า พี่จะมีคอนเซปต์เป็นสีๆ ในแต่วัน เช่น วันนี้ฉันจะถวายสังฆทานฟ้า เขียว ดำปนแดง (ดูไม่ฉูดฉาด) เป็นต้น หลักการคือว่า ถ้าคอนเซปต์สีไร ของทุกอย่างแพคเกจจิ้งต้องเป็นสีที่แมตท์กลืนไปหมดค่ะ... อ่อสีเหลืองก็ยังมีอยู่นะคะ..

- ของที่อยู่ในถัง นอกจากสีที่แมตท์แล้วพี่ก็ซื้อของเหมือนเราๆ ท่านๆ ใช้นั่นแหละ เช่น ของหวานก็ใช้ฮอลล์หรือchocalate...มาม่าก็ใช้เป็นถ้วยควิกเลย... ขนมขบเคี้ยวก็ใส่เข้าไป เลย์ ฮานามิ ผ้าขนหนูสีฟ้า (ถ้าวันนั้นคอนเซปต์เป็นสีฟ้า), โค๊กก็ซีโร่หน่ะ กลัวพระอ้วน, แบรนด์กลัวเบื่อก็ วีต้าลูกพรุนม่าง, สมุดโน๊ต, ครีมอาบน้ำกลิ่นผู้ชายที่กำลังฮิต บางทีก็ล่อไม้กวาดลานวัด, อีแตะ (พระดีใจมาก โอ้ยโยมมันกุดมานานแล้วว), CDR, thumb drive, หนังสือพระ (ล่าสุดใส่มือตบไปด้วย แต่ถูกผู้ใหญ่ในบ้านเขียออกก่อน 555 บอกว่าไม่ดีๆๆ พระท่านยังไงก็สีเหลือง 555) ฯลฯ

หลักการก็คือ.... คิดว่าพระขาดอะไรดีกว่า

พี่ถวายแบบนี้มาหลายครั้งหลายครา..รูปแบบก็แตกต่างกันไปตามอารมณ์วันนั้น ทุกครั้งที่หิ้วไป แม้เป็นการทำตามใจตัวเองเสียมากกว่า...แต่ไม่เคยเลยที่วันไหนพระจะไม่ยิ้ม....พระท่านมักสะดุดตาที่สังฆทานของพี่ แล้วจ้องมองสักครู่ (เหมือนจะคิดว่านี่อะไรวะ?) แล้วมองหน้าพี่พร้อมรอยยิ้มเสมอ... ท่านจะยิ้มน้อยๆ แล้วบอกว่า โยมจัดเองเหรอ...

                 :009:  เจ้าค่ะ!




พี่อ่านบทความนี้จากเดลินิวส์เจอ.... เลยดีใจ..ที่มีข่าวแบบนี้ออกมา...อ่านต่อเลยข้างล่างเลยน้า!



เลือกของดี ?ถวายสังฆทาน? ปีใหม่

ในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ นอกเหนือจากการเที่ยวพักผ่อน หรือเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว คนไทยยังยึดถือการเข้าวัดทำบุญตักบาตร เพื่อสร้างสิริมงคลแก่ชีวิตในโอกาสเปลี่ยนรอบปี ซึ่งมักถวายสังฆทานพร้อมการทำบุญ และโดยมากในปัจจุบันมักอาศัยความสะดวกนิยมซื้อหา ?เครื่องสังฆทาน?สำเร็จรูปตามร้านสังฆภัณฑ์หรือซูเปอร์มาร์เก็ต

แต่บางครั้งข้าวของใช้ต่างๆที่บรรจุในถังสังฆทานสีเหลืองปิดทับด้วยพลาสติกใส กลับไม่สามารถนำประโยชน์สู่พระสงฆ์ผู้รับถวายได้ เนื่องจากการเอาเปรียบจากผู้ขายบางราย บรรจุสิ่งของใกล้หมดอายุ ,ผ้าอาบน้ำฝนบางชิ้นก็บางหรือไม่ได้ขนาดไม่สามารถใช้ได้,ข้าวสารอาหารแห้งบรรจุในถุงเล็กๆ เพียงเพราะคิดแค่ว่าจัดให้ครบชุดก็พอ ไม่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยจริงๆ สุดท้ายพระต้องนำปัจจัยซื้อของที่จำเป็นมาใช้สอย

ดร.อำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการ มหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แนะนำว่า เมื่อตั้งใจทำบุญแล้วควรเลือกซื้อของดีๆถวายพระ เพราะขนาดตัวเราเองยังต้องการใช้ของดีๆ ควรเลือกของและจัดเอง เสียเวลาไม่มาก ดีกว่าซื้อถังสำเร็จแต่ไม่รู้ว่าภายในบรรจุอะไรบ้าง ใช้ได้จริงหรือไม่ คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ได้จริงของพระสงฆ์เป็นหลัก และควรมองถึงสภาวะของวัดนั้นๆด้วย เช่น บางวัดมีคนถวายผ้าอาบน้ำฝน จีวร กระป๋องตักน้ำ จนล้น แต่บางวัดขาดแคลน หรือบางวัดมีถังเหลืองเต็มไปหมด ควรเปลี่ยนเป็นภาชนะอย่างอื่นบ้าง เช่น กาละมัง,กระเป๋า หรือถุงผ้า เป็นต้น หรือหากถวายสังฆทานพระป่า นอกเหนือจากของจำเป็นพื้นฐานแล้ว หากเป็นไปได้ควรใส่เกลือป่นด้วย เผื่อยามคับขันพระยังฉันข้าวเหนียวมาฉันกับเกลือได้

ผอ.สำนักเลขาธิการ มหาเถรสมาคมฯ กล่าวว่า เป็นสิ่งของอะไรก็ได้ที่นึกว่าพระสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง ของจำเป็นพื้นฐาน เช่น สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แชมพู น้ำขวด และของบางอย่างจำเป็นแต่โยมไม่ค่อยนึกถึง เช่น ผ้าขนหนูสำหรับเช็ดหน้า-เช็ดตัว สีไม่ฉูดฉาด ,ยารักษาโรค ยามัญประจำบ้าน ยาธาตุน้ำแดง-น้ำขาว ,มีดโกนหนวด,น้ำยาซักแห้ง,กระดาษชำระ,ข้าวสารถุงขนาด 5 กก., น้ำตาลถุง ผงซักฟอก,น้ำผลไม้,รองเท้าแตะ ฯลฯ
?ความจริงคือถวายอะไรก็ได้ที่พระใช้ประโยชน์ได้ ที่สำคัญควรเตรียมจดคำถวายสังฆทาน เพื่ออ่านคำถวายสังฆทานเอง มิใช่ให้พระนำกล่าว หากไม่มีขอหนังสือสวดมนต์จากพระก็ได้ เพราะทุกวัดต้องมีหนังสือสวดมนต์อยู่แล้ว เวลาทำบุญทำจิตใจให้ผ่องใส อย่าทำลวกๆ อาราธนาศีล 5 ก่อนตามด้วยการกล่าวคำถวายสังฆทาน?
ดร.อำนาจแนะนำอีกว่าเมื่อทำบุญได้กุศลแล้ว ควรทำทานให้ได้อานิสงส์ด้วย ให้จิตใจสบาย ผ่องแผ้ว นุ่มนวลเป็นสุข อาจเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ ปล่อยนก ปล่อยปลา โดยซื้อเตรียมจากตลาดดีกว่าเป็นพวกที่กำลังจะถูกฆ่า หากซื้อตามที่ขายเตรียมปล่อย ดูเป็นพาณิชย์เกินไป และอย่าลืมแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลสู่สรรพสัตว์ด้วย

คำถวายสังฆทาน (ทั่วไป)
อิมานิ มะยัง ภันเต, ภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ, ภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ปะฏิคคัณหาตุ, อัมหากัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายภัตตาหาร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับภัตตาหารกับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตลอดกาลนานเทอญ

คำถวายสังฆทาน (อุทิศให้ผู้ตาย)
อิมานิ มะยัง ภันเต, มะตะกะภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ, มะตะกะภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ปะฏิคคัณหาตุ, อัมหากัญเจวะ, มาตาปิตุอาทีนัญจะ, ญาตะกานัง, กาละกะตานัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ
ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายมะตะกะภัตตาหาร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ มะตะกะภัตตาหารกับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย แก่ญาติทั้งหลายมีมารดาบิดาเป็นต้นด้วย แก่ญาติทั้งหลายผู้ละโลกนี้ไปแล้ว มีคุณ............. เป็นต้นด้วย ตลอดกาลนาน เทอญ


70
เมฆบังจันทร์... อะ..อ่ะ ไหนๆ คืนนี้..ทุกคนต่างคอยท่าดูพระจันทร์เต็มดวง คุณโชวอดคิดถึงอะไรๆ ที่เกี่ยวกะพระจันทร์ไม่ได้ เลยงัด...ตะกรุดเมฆบังจันทร์...มาแจมให้ชมกันต่อเลยดีกว่าค่ะ...โชว์เดี่ยวแบบอาร์ตๆ ยังไม่พอ ยังมีภาพของเพื่อนๆ เป็นของแถมอีกตะหาก..ชมกันไปเล่นๆนะคะ..

ประวัติย่อเล็กน้อยของเกจิ
สุดยอดพระเกจิพระเถราจารย์ซึ่งชาวอุทัยธานีขนานนามท่าน ?พระจี้กงแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง? หรือ ?หลวงพ่ออั้นเทวดา? หรือ เทวดาตาทิพย์ อดีตตำรวจมือปราบลูกน้องมือขวาของ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช

หลวงปู่อั้น วัดโรงโค จังหวัดอุทัยธานี ผู้สำเร็จธาตุกสิณดิน น้ำ ลม ไฟ ตำรับหลวงปู่สุข วัดปากมะขามเฒ่า พระเถระอาจารย์ผู้บำเพ็ญทานมหาบารมีสืบสานมหาเวทย์ ?พิรุณกำบัง? และ ?เทพรัญจวน? สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เคยเป็นศิษย์ก้นกุฏิรับใช้ใต้รอยบาทพระอริยเจ้าเมืองเหนือครูบาศรีวิชัย ติดตามธุดงค์ไปทางภาคเหนือหลายปีท่านเคยรับราชการตำรวจเป็นลูกน้องคู่ใจในการดับเสือร้ายของขุนพันธรักษ์ราชเดช ยอดมือปราบหนังเหนียวก่อนที่จะมาอุปสมบทในปี พ.ศ. 2498


ปลุกเสก...ตระกรุดเมฆบังจันทร์

หลวงปู่เริ่มปลุกเสกในคืนที่มีเมฆมาบังพระจันทร์ 9 วัน 9 คืน เป็นเวลาปฐมฤกษ์ตามตำรา แล้วอธิฐานจิตปลุกเสกประจุพุทธาคมอีกเป็นเวลากว่า 1 ปีเต็ม ว่ากันว่าพุทธคุณทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาดมาเป็นอันดับหนึ่ง ประเภทอธิฐานทำให้ศัตรูมองไม่เห็นตัว แค่ชื่อวิชาก็กินขาดแล้ว?

หลวงปู่อั้นมีตาทิพย์
หลายคนถ้าไปงานครอบเศียรพระลักษณ์ หรือไปงานไหว้ครูของหลวงปู่กาหลงที่ผ่านมา จะทราบดีว่าท่านเป็นผู้กระทำแทนหลวงปู่กาหลง ท่านมี ?ตาทิพย์? หรือมีญานวิเศษ และคุณโชวได้พิสูจน์มาแล้วว่า แม่นเหมือนจับวางจริงๆ แต่หลวงปู่ไม่ใช่หมอดูที่ทายนั่น ทายนี่ มากมาย ถามท่านเป็นเรื่องๆที่อยากรู้เป็นอันพอ อย่างประสบการณ์ที่เคยมาก็คือ เปลี่ยนงานดีไหม? เปลี่ยนเมื่อไหร่ดี? เดือนไหน? ถ้าท่านพูดว่าดี มันก็ดีจริงๆ ท่านจะถามเพียงวันเดือนปีเกิด และหลับตาปี๋ๆ เพื่อนึกเท่านั้น ท่านสามารถรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้ โดยท่านเคยกล่าวว่ายังไม่ถึงเวลาของท่าน ท่านกล่าวแต่เพียงเท่านี้ ศิษย์ที่ใกล้ชิดเคยเล่าให้ฟัง..





                                 อ่ะ...เหล่านี้เป็นของเพื่อนๆ







     แล้วพบกันใหม่....ขอให้สวย ขอให้รวย หญิงลึ่ม ชายหลง ....

71

72
ขอเชิญชวน ศิษยานุศิษย์หลวงพ่อเปิ่น ชาวบางพระที่รักทุกท่าน ร่วมกันไว้ทุกข์เป็นเวลา 3 วัน
โดยแต่งกายชุดดำ เริ่มพรุ่งนี้ จนถึงวันอาทิตย์ค่ะ..


พี่น้องชาวบางพระ ร่วมส่งเสด็จจอมนารีจักรีวงศ์ สู่สวรรคาลัย ขอพระองค์ทรงสู่สรวงสวรรค์ ด้วยเกล้าด้วยกะหม่อมขอเดชะ



[wma=290,45]http://www.gmember.com/activity/nangfah/content/SONG-NAANG-FAR-GLUB-SA-WUN.mp3[/wma]

เพลง ส่งนางฟ้ากลับสวรรค์
เพลงที่ระลึก พระพี่นาง - สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา เนื่องในโอกาสการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ
_____________________________________________________________________________________
บทเพลง ?ส่งนางฟ้ากลับสวรรค์?
ประพันธ์คำร้อง โดย นายนิติพงษ์ ห่อนาค
ประพันธ์ทำนอง โดย นายอภิไชย เย็นพูนสุข
ขับร้อง โดย นายธงไชย แมคอินไตย์
_____________________________________________________________________________________
มีเนื้อเพลง..นะ...ร้องได้ยัง มาหัดร้องกันค่ะ

ถึงเวลาส่งนางฟ้ากลับสวรรค์
ที่แห่งนั้นงามดังฝันคู่ควรเทพธิดา
สู่สวรรค์ สู่ยังวิมานที่ปลายขอบฟ้า
ก้มกราบอำลา ด้วยน้ำตาอาลัย

ท่านลงมาจากบนฟ้าจากสวรรค์
เติมความฝัน ต่อชีวิตผู้คนทั้งใกล้ไกล
สุดเหนื่อยล้า อุทิศชีวา เพื่อคนที่ยากไร้
เป็นภาพในใจ ไม่ลืมทุกอย่างที่ท่านทำ
จากวันนี้ กลับสู่ฟ้าดังเดิม

และคงไม่มีภาพเดิม ที่เคยได้เห็นได้จำ
ไม่มีอีกแล้ว นางฟ้าองค์เดิม ท่องดินและถิ่นน้ำ
แต่ภาพทรงจำ ไม่มีวันเลือนลบหายไป
ถึงเวลาส่งนางฟ้ากลับสวรรค์

ที่แห่งนั้น งามดังฝันและดูสุดแสนไกล
ยามคิดถึง ให้คิดทำดี ร่วมมีร่วมจุดหมาย
นางฟ้าไกลไกล ท่านคงยังอยู่ข้างข้างเรา
นางฟ้าองค์เดิม ท่านคงยังอยู่ข้างข้างเรา

73
รมว.วัฒนธรรมไอเดียบรรเจิดยกระดับ ?พญานาค-ควายธนู-เสน่ห์ยาแฝด-ปลัดขิก? เป็นสินค้าทูตวัฒนธรรม


นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยในโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องสรุปผลการดำเนินงานกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ตอนหนึ่งว่า มีแนวความคิดจะสร้างสรรค์เรื่องราวเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และสินค้าวัฒนธรรมเกี่ยวเนื่องความเชื่อของชาวบ้าน

นายวรวัจน์ ยกตัวอย่างเช่น นำพญานาค ควายธนู เสน่ห์ยาแฝด น้ำมนต์ ปลัดขิก มาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ขายในรูปแบบพวกกุญแจของที่ระลึก โดยเบื้องต้นจะต้องศึกษาเรื่องราวที่มาที่ไปอย่างเป็นระบบเป็นองค์ความรู้ ไม่ใช่ปล่อยเป็นเรื่องงมงายสินค้าทุกประเภทจะต้องมีใบรับรองว่าเป็นของจริง ข่าวแว่วจะทำเป็นพวงกุญแจค่ะ

?ต้องมีใบรับรองว่าเป็นควายธนู เสน่ห์ยาแฝดของจริงของจังหวัดนั้นๆ จากนั้นจะพัฒนาเรื่องราวสินค้าเหล่านี้ไปเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น สร้างเป็นภาพยนตร์ เป็นต้น ความคิดเช่นนี้อาจไม่เคยมีใครคิดมาก่อน แต่เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่? นายวรวัจน์ กล่าว

รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรมปี 2552 จะเน้นการนำวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เริ่มตั้งแต่การสร้างบุคลากรที่เป็นทูตวัฒนธรรม ทำหน้าที่เจรจาระหว่างประเทศอย่างจริงจัง

นายวรวัจน์ ยกตัวอย่างว่าประเทศจีน เกาหลี จะมีทูตนำวัฒนธรรมเข้ามาในประเทศไทย ก่อนผ่านรูปแบบละครซีรีส์ ภาพยนตร์ค่อยนำสินค้ามาขาย ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งมีละครเรื่อง แดจังกึม ฟีเวอร์ในประเทศไทย คนไทยหันไปแต่งตัวแบบเกาหลี ฟังเพลงเกาหลีหัดพูดภาษาเกาหลี และรับประทานอาหารเกาหลีกันเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น กระทรวงวัฒนธรรมต้องปรับสู่การทำงานเชิงรุก ต้องเป็นกระทรวงแห่งอนาคตสร้างทูตวัฒนธรรมนำการค้า การลงทุน นำรายได้เข้าประเทศ นอกจากนี้ยังจะส่งเสริมให้มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านอาหารรองรับนำอาหารไทยไประดับนานาชาติ

ทั้งนี้ จะร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการจัดทำหลักสูตรการศึกษาท้องถิ่น ที่สอนให้เด็กและเยาวชนเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรท้องถิ่นวิถีชีวิตภูมิปัญญา ภูมิประเทศ สอนเด็กในทักษะที่เด็กชอบไม่ต้องสอนทุกเรื่อง

นอกจากนี้ จะจัดทำแผนที่ท่องเที่ยวในทุกจังหวัดดึงสิ่งที่โดดเด่นในจังหวัดตัวเองออกมาเป็นจุดขายทางวัฒนธรรม จับต้องได้ยกตัวอย่าง จ.แพร่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดตัวเองสามารถนำเรื่องราวของนิทานพื้นบ้านลิลิตพระลอมาเป็นจุดขาย สร้างให้เป็นความเชื่อให้ จ.แพร่กลายเป็นเมืองแห่งความรัก  :090: ใครที่มีความรักต้องมาเที่ยว จ.แพร่ เป็นต้น


ทีมา นสพ.คมชัดลึกจ้า เรียบเรียงใหม่ by Cho.


74
..เที่ยวดอนหอยหลอดทั้งที...นอกจากชมทัศนียภาพทะเล จังหวัดสมุทรสงครามแล้ว
ไม่เคยลืม ในการไปกราบศาลท่านนะ.....  ป่ะ..ไปกันดีกว่า?








โอว...โชคดีของเราสองคนนะ น้องโจรสลัด เค้าห้ามนำหมา(ดัลเมเชี่ยน)เข้าไปในศาล
ดังนั้น...โกลเด้นท์ กะปั๊กของเราก็เข้าได้สินะ  :080:




ถึงแล้ว....เข้าไปกันดีกว่า


75
เจ้าป่าที่ไม่มีผู้ใดมาเทียบรัศมี อำนาจแห่งตบะเดชะ ที่สะกดใจคน และสัตว์ทั้งปวงให้อยู่ในอำนาจ

เขี้ยวเสือ เป็นของอาถรรพณ์ เพราะเป็นสิ่งที่ใช้ประหารเหยื่อมามากมาย อำนาจอาถรรพ์จากส่วนเขี้ยวจึงมีจิตวิญญานแห่งความดุร้าย หรือจิตวิญญานแห่งเสืออยู่ภายใน...

รูปลักษณ์ชอง 'เสือ' เพียงวาดขึ้นมาก็ถือว่าเป็นภาพอาถรรพณ์ในตัว เป็นที่คร้ามเกรง ดังคำโบราณกล่าวไว้ว่า 'เขียนเสือให้วัวกล้ว' ไงคะ

เสือเขี้ยวแกะ หลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก้ว รุ่นมหาบารมี 48 องค์จิ๋ว แบบแนวๆ ตามสไตล์ผู้หญิงชอบเสือนะค้า.....อิอิอิ


ปล. ยังมีเรื่องเสือ เสือ...อีกนิดหน่อย หากพ่อเสืออยากชมเสือ ชิลล์ ชิลล์ สบาย สบาย คลิ๊กดูอีกตามสบายนะคะ

ปู่เสือ: http://www.bp-th.org/webboard/index.php/topic,5612.msg43854.html#msg43854
นั่งเสือ:http://www.bp-th.org/webboard/index.php/topic,5601.msg43630.html#msg43630
เขี้ยวเสือ.. http://www.bp-th.org/webboard/index.php/topic,5276.msg40054.html#msg40054












76
ปู่เสือ?ชายชราอายุกว่าร้อยปี.. ชื่อ ?หลวงพ่อครุฑ? ท่านบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ในพุทธศาสนาช่วงกษัตริย์องค์ที่ 2 ของกรุงศรีอยุธยาประมาณ 500 ปีมาแล้ว หลวงพ่อครุฑ ได้บำเพ็ญบารมีร่วมกันกับพระกาหลงในอดีตชาติได้ฝึกฝนตบะวิชาเสือสมิงแก่กล้าจนกลายร่างจากพระภิกษุมาเป็นฤาษีที่มีศีรษะเป็นเสือ เพราะอาถรรพณ์แห่งวิชา ?เสือสมิง? จนกระทั่งมรณภาพ.ลง วิญญาณจึงได้กลายสภาพเป็นฤาษีที่ศีรษะเป็นเสือ...

ปู่เสือ?เสมือนครูบาอาจารย์คุ้มครอง พุทธคุณเป็นเลิศ มหาอำนาจ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากอุบัติเภทภัยอันตรายต่างๆ ขอบารมีหลวงปู่กาหลง พระเถราจารย์ผู้มีฤทธิ์อำนาจวาจาประกาศิตเขี้ยวแก้วกลางเพดานปาก ดลบันดาลความร่มเย็นเป็นสุข ดลบันดาลโชคลาภความสมหวังกับศิษยานุศิษย์ในบ้านนี้ด้วยเถิด...

ปู่เสือ.. สองรุ่น สองแนว ไม่ว่ารุ่นเก่า หรือรุ่นใหม่...มวลสารศักดิ์สิทธิ์อยู่ครบ?ชนวนศักดิ์สิทธิ์มาหลอมรวมกันอยู่ครบ..ทั้งนี้ยังคงไว้ซึ่งศิลปความงดงาม..ละลานตาขององค์ปู่เสือ.. ช่างภาพขี้เหงา ช่วงนี้ยังเหงาอยู่เลยคว้ากล้อง รัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง...เผื่อใครจะชอบเหมือนกัน ชมกันดูนะคะ















77
เสือ...สัญลักษณ์ของอำนาจราชศักดิ์ คงกระพันมหาอุต และแคล้วคลาดเป็นที่สุด เป็นที่คร้ามเกรง เป็นเมตตามหานิยม...

นั่งเสือ..ศิลปพระผงที่ โดนนน....ใจผู้หญิงแนวๆ คนนี้ยิ่งนัก!

ความสวยงามของงานศิลป์ที่ประจักษ์นั้นอาจยังกระเทาะใจไม่เท่าไหร่

เพราะความศรัทธาที่มีอยู่ในใจนั้น มีมากกว่าการได้ครอบครององค์ท่านเสียอีก...

(เรียนเชิญชาวบางพระร่วมแจม collection นั่งเสือด้วยเถิด..อยากชมมากทีเดียว)









78
หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม...หลายคนอยากไปกราบท่าน...เราก็เหมือนกัน...

ภูมิใจนำเสนอทั้ง 2 บอร์ดเลยนะคะ.... เอ้าคลิกเข้าไปดูพร้อมกันเลย...ชาวบางพระก็มาร่วมเม้นท์ที่บางพระนะ
....



http://www.luangpukahlong.com/board.php?b=showb&Category=sumkaji&No=3220



79
เขี้ยวเสือโคร่ง

โชว ?ผู้หญิง (เพิ่ง) เล่นของ ชอบลงของ ลองของ แต่ไม่ได้ขายของ?เธอชอบเครื่องรางประเภทเสือเป็นพิเศษ?และแล้ว เธอก็ได้เขี้ยวเสือเพียวๆ มาครอบครอง?ฮิ้ว..ววววว..


เพียง 3 คำถาม โปรดเมตตา 'ช่างภาพขี้เหงา' เพราะช่วงนี้เหงาหนักโดนโกงเงินไป 5 พัน... คนขอยืมเดือดร้อนโดนซ้อมปางตายต้องนำเงินไปไถ่ พอทวงถามมันบอกไม่เคยบอกว่ายืม..

1.   เรื่องกลัวของปลอมนั้น..มันชัวร์อยู่แล้ว! ช่วยดูให้หน่อยสิว่า ?เขี้ยวนี้เป็นเขี้ยวเสือโคร่ง ชัวร์ หรือ มั่วนิ่ม อ่ะ?
2.   นำเขี้ยวไปทำอะไร แบบไหน ที่ไหนดี..ใครมีไอเดียกิ๊บ กิ๊บ แชร์หน่อยสิ?
3.   วันหยุดพรุ่งนี้จะไปเที่ยวไหนกัน? วันนี้ทานข้าวกับอะไรกันมาคะ?


บทความอ้างอิง?เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่ศึกษาข้อมูลประเภทเครื่องราง โดยเฉพาะเสือ

เขี้ยว งา กะลา เขา เป็นคำพูดที่พูดกันมานมนาน ซึ่งหมายถึง วัตถุที่นำมาสร้างเครื่องรางของขลัง นั่นเอง เครื่องรางที่ สร้างจากเขี้ยวสัตว์นั้น ส่วนใหญ่จะเน้น เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และ เขี้ยวหมูป่า เป็นหลัก ที่สร้างจาก งา คงเป็นแค่ งาช้าง เท่านั้น

ส่วนเครื่องรางของขลังที่ทำจาก กะลามะพร้าว ส่วนใหญ่จะใช้ กะลามะพร้าวที่มีตาเดียว แต่ถ้าเจอกะลามะพร้าวที่มีห้าตา สิบตา ก็ยิ่งดี ถือว่าเป็นของหายาก

สำหรับ เขาสัตว์ จะเน้นไปทาง เขาวัวกระทิง เขาควาย และ เขากวาง เป็นหลัก

วัตถุที่นำมาสร้างเครื่องรางของขลังเหล่านี้ เชื่อกันว่า มีความขลังในตัวอยู่แล้ว ยิ่งนำมาทำพิธีปลุกเสกด้วย ยิ่งเพิ่มความขลังเป็นทวีคูณขึ้นหลายเท่า

เขี้ยว นับว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ที่ได้รับความนิยมสูงสุดชนิดหนึ่ง เกจิอาจารย์บางท่านนำเขี้ยวมา แกะสร้างเครื่องรางของขลัง จนได้รับความนิยมให้นั่งอยู่แถวหน้า ประเภทเครื่องรางยอดนิยม เช่น เสือของหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน หรือ เสือ อาจารย์เฮง วัดเขาดิน เป็นต้น

เขี้ยวสัตว์ที่นิยมนำมาสร้างเครื่องรางของขลัง มีอยู่ ๓ ชนิด คือ เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และเขี้ยวหมูป่า ซึ่งมีผู้ซักถามและถกเถียงกันอยู่บ่อยๆ คือ เขี้ยวสัตว์แต่ละชนิด มีความแตกต่างกันอย่างไร

วันนี้เรามาทำความเข้าใจกัน ผู้เขียนเองยอมรับว่าไม่ได้เก่งกาจ อะไรมากเรื่องเครื่องรางของขลัง แต่เป็นผู้ชื่นชอบวัตถุมงคลประเภทเครื่องรางเอามากๆ คนหนึ่งเลยทีเดียว ชอบค้นคว้า ค้นตำราต่างๆ ถามผู้รู้ ผู้ชำนาญ เคยซื้อผิด ซื้อถูก ทุกอย่างผู้เขียนถือว่าเป็นครูเท่านั้น เมื่อได้ความรู้อะไรมา ที่เห็นว่าสำคัญและถูกต้องก็จะถ่ายทอดกันต่อๆ ไป จะได้ไม่สูญหายไปจากวงการ

เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และ เขี้ยวหมูป่า ถ้าเป็นอาจารย์เดียวกันสร้าง เขี้ยวเสือจะได้รับ ความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง รองมาก็คือ เขี้ยวหมี และ เขี้ยวหมู เป็นอันดับท้าย ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะความเชื่อว่า เสือเป็นสัตว์มหาอำนาจ เป็นเจ้าป่า หายาก และฆ่าก็ยาก หมียังพอเห็นมากกว่า ส่วนหมูป่านั้นมีจำนวนมากมาย แต่ถ้าเป็นหมูป่าเขี้ยวตัน หรือเขี้ยวยาวใหญ่ ก็ถือว่าหาชมได้ยากเช่นกัน ดังคำโบราณที่กล่าวว่า ถ้าจะเล่นเขี้ยวหมูต้องเล่นเขี้ยวตัน จะเล่นเขี้ยวเสือต้องเล่นเขี้ยวโปร่ง (โปร่งฟ้า)

ก่อนจะแยกแต่ละประเภทของเขี้ยวนั้น อยากพูดถึงลักษณะของการนำเขี้ยวมาแกะ ว่ามีลักษณะใดบ้าง คือมีทั้งที่แกะเต็มเขี้ยว ครึ่งเขี้ยว หรือ นำเอาเขี้ยวมาผ่าเป็นซีก แกะเป็นชิ้นเล็กๆ ก็มี

เต็มเขี้ยว หมายถึง เขี้ยวที่ถูกถอดรากออกจากเหงือกทั้งอัน ซึ่งยังมีปลายเขี้ยวแหลม ยาวอยู่ เช่น เสือ หลวงพ่อนก วัดสังกะสี

ครึ่งเขี้ยว หมายถึง เขี้ยวที่ถูกถอดรากออกจากเหงือกทั้งอัน แล้วนำมาตัดแบ่งครึ่ง ส่วนใหญ่นิยมเอาครึ่งแถบที่เป็นรากเขี้ยวมาแกะ เช่น เสือ หลวงพ่อปาน คลองด่าน ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป

เขี้ยวซีก หมายถึง การเอาเขี้ยวเต็มมาผ่าแบ่งเป็นชิ้นๆ แล้วนำมาแกะเป็นวัตถุมงคลอีกทีหนึ่ง เช่น เสือเขี้ยวซีก หลวงพ่อปาน คลองด่าน หรือ เสือ อาจารย์เฮง วัดเขาดิน
 
การแกะวัตถุมงคลจากเขี้ยวซีกชิ้นเล็กๆ นั้น บางท่านอาจเข้าใจผิดว่าแกะมาจากปลายเขี้ยว ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก เพราะปลายเขี้ยวมีลักษณะ แข็ง และ กรอบ ถ้าโดนแกะก็จะปริแตกไม่เป็นรูปทรง

ความจริงแล้ว เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และเขี้ยวหมูป่า มีลักษณะที่แยกออกจากกันได้ชัดเจน ผู้เขียนจะอธิบายไปทีละขั้น จะได้เข้าใจง่าย ไม่สับสน โดยดูรูปภาพประกอบ จะเห็นได้ชัดเจน

เขี้ยวเสือ มีทั้งขนาดเล็ก และใหญ่ ขึ้นอยู่กับชนิด และขนาดของตัวเสือ เขี้ยวจะยาว เรียว ปลายแหลมคม โค้งพอประมาณ ดูจากปลายเขี้ยวจะเห็นเหลี่ยม เป็นร่องเล็กๆ อยู่สี่มุม วิ่งเป็นแนวร่องเข้ามายังตัวเขี้ยวชัดเจน เราเรียกกันว่า ร่องเส้นเลือด และถ้านำเขี้ยวเสือมาตัดแบ่งครึ่ง เราจะเห็นรูตรงกลาง เป็นรูกลวงโปร่ง ไปสุดโคนเขี้ยว ซึ่งจะมีลักษณะกลม หรือกลมรีเล็กน้อย กว้างประมาณ ๒๐-๓๐ % ของพื้นที่หน้าเขี้ยวที่เราตัดครึ่ง และจะมีคลื่นรัศมีวิ่งรอบปากรูเขี้ยว ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน

อ้างอิงเพิ่มเติม? สดๆ ร้อนๆ มะกี้นี้เอง นำเขี้ยวนี้ไปวิเคราะห์กับพี่เบิ้ม บางบอน (น้องพี่เอ บางแคอ่ะเป่าหว่า) อุตส่าห์ถ่ายรูปพี่เบิ้มมาด้วย (แต่ไม่ติด) 5555 ?

พี่เบิ้ม..เขาใช้นิ้วดีดตรงปลายเขี้ยว ถ้าดีดแล้วตัน ผ่าน ส่วนตรงโคนเขี้ยว ดีดแล้วโปร่ง ผ่าน ? สุดท้ายใช้ไฟแช็คจุด ดมกลิ่น?ผ่าน? เสือฮับ?


เขี้ยวหมี มีขนาดเล็กและใหญ่เช่นกัน เขี้ยวหมีเมื่อดูภายนอกลักษณะทั่วไปคล้ายเขี้ยวเสือมาก คือมีความเรียว โค้งยาว ปลายแหลมคม สิ่งที่แตกต่างจากเขี้ยวเสือนั้น คือปลายเขี้ยวหมี ก็มีร่องเลือดเหมือนกัน แต่เป็นแบบ เส้นเลือดสีน้ำตาลแดงวิ่งรอบเป็นวงเดือน จากปลายเขี้ยวเข้ามาด้านใน เป็นสิบๆ รอบ ซึ่งเรามองด้วยตาเปล่าได้ชัดเจน และเมื่อเรานำเขี้ยวมาตัดผ่าแบ่งครึ่ง จะพบรูกลวงโปร่งเช่นเดียวกับเขี้ยวเสือ แต่ รูของเขี้ยวหมีจะกว้างกว่ารูของเขี้ยวเสือ มาก บางเขี้ยวเจอรูกว้าง ๗๐-๘๐% ของหน้าเขี้ยวเลยทีเดียว

เขี้ยวหมูป่า มีลักษณะแตกต่างจากเขี้ยวเสือและเขี้ยวหมี ซึ่งเห็นได้ชัดเจนมาก คือ เขี้ยวหมูป่า มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ มีลักษณะแบน เป็นเหลี่ยม โค้ง ยาว ปลายแหลม รูกลวง บางเขี้ยวยาวมากๆ จนเกือบจะเป็นครึ่งวงกลมเลยก็มี ส่วนใหญ่จะเป็นเขี้ยวกลวงเกือบทั้งนั้น จะหาเขี้ยวแบบตันยากมาก

สรุปได้ว่า เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และเขี้ยวหมูป่า มีลักษณะที่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาแล้วก็สามารถแยกออกจากกันได้อย่างชัดเจน ถ้าท่านผู้อ่านมีโอกาสได้เครื่องรางของขลังประเภทเขี้ยวเหล่านี้ ก็ควรใช้ดุลพินิจพิจารณา ข้อมูลของผู้เขียนอาจจะช่วยท่านได้บ้างไม่มากก็น้อย

จากหนังสือพิมพ์คมชัด และลึก














80
(ต่อจาก อาจารย์โบ้ เป็นใคร?)
http://www.bp-th.org/webboard/index.php/topic,4456.msg39459/topicseen.html#new

เมื่อไม่นานมานี้...คุณโชวมีโอกาสไปเดินกิ๊บเก๋ที่ท่าพระจันทร์...ถือโอกาส 'เลี่ยมพระ' ซะงั้น...
45 นาทีเลยเหรอ?.... แม่นแร้วครับ...พี่จะนั่งรอก็ได้....ว่าแล้ว..คุณโชวเลยนั่งดูดชาเย็นร้องเพลงรอต่อไป..

พิสมร(พี่ของpeachama)เคยบอกไว้ว่า...ระวังเขาเปลี่ยนพระนะเฟ้ย...อย่าให้คลาดสายตาเชียวนะ...

การนั่งดูดชาเย็นคอยเวลาเกือบชั่วโมงนั้น..ไม่เหมาะนักกับคนไฮเปอร์แอคทีฟ..
ท่ามกลางหมอกจางๆ และควัน..จากการอัดบุหรี่ของหนุ่มเลี่ยมพระ อดนึกไม่ได้ว่า 'เอ็งทำไมไม่ไปดูดไกลๆ' พลันนึกขึ้นได้ว่า ความจริงต้องเรานี่หว่าที่ต้องไปไกลๆ


หันซ้ายแลขวา พลันเหลือบไปเห็น 'เศียรปู่' ..สีสันจัดจ้านสวยจับใจ หนุ่มเลี่ยมก็เลี่ยมตะไบ ฟืดฟาดๆ อย่างเมามัน...เจ้าของนั่งรออยู่เหมือนกัน
จึงไม่น่าแปลกนักหากจะมีการสนทนากับเจ้าของเศียรปู่สุดหล่อบ้าง... หนุ่มน้อยเจ้าของเศียรปู่ หน้าตาดี มีเสน่ห์...เริ่มเปรย..หลังถูกซักฟอก


'อาจารย์แทค..เป็นผู้ปลุกเสกเศียรปู่องค์นี้..ผมเป็นศิษย์สักยันต์กะท่านเต็มตัว..ว่าแล้วก็ถลกขาอ่อนให้ดูเป็นบุญตา....โต่ะจายหมดเลย'
เพื่อยืนยันว่า 'แทค' มีจริง ควักคลิปวีดีโอจากมือถือเปิดให้ชมระหว่างรอเวลา...โอวพระเจ้า....คลิปของขึ้น (ราคาอีกแล้ว)
ดูคลิปกันไป..สนทนากันไป แทค แทค แทค แทค....อ่อ.. อาจารย์เป็นศิษย์สายบางพระเหมือนกันหลอ?...


ก่อนกลับเราแลกเบอร์กัน:026: หนุ่มน้อยมีคำถามทิ้งท้ายกับสาวใหญ่ไว้ว่า...นี่ๆ แล้วเราหน่ะ...เรียนหรือทำงาน?...เราจึงมั่นใจว่าเขาน่าจะสายตาสั้นทันที

แล้ว...อาจารย์ 'แทค' คือใคร?



81
เสาร์ที่แล้ว..ช่างภาพขี้เหงา เลิกงอแง ไปงาน Passion of THAI Modern ART มา.. ขอคั่นเรื่องด้วย อาร์ตที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาละกันนะ..พักเรื่องกุมารของขลัง สักยันต์ชั่วคราว

งานแสดงศิลปะกรรมร่วมสมัย ที่จับงานของศิลปินชื่อดังๆ มาแสดงกว่า 300 ชิ้น เป็นผลงานประติมากรรมร่วมสมัย และคอลเลคชั่นภาพจิตรกรรมจากการสะสมของคุณเสริมคุณ (ศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพฯ ม่ายรู้จักเหมือนกัน) ทำเอาเลือดตีสต์พลุ่งพล่าน อะดรีนาลีนสูบฉีด เพราะมันช่างสวยงามจับใจเหลือเกิน ให้ตายสิ!

ศิลปินระดับครูอย่าง อาจารย์ ปัญญา วิจินธนสาร นำผลงานชิ้นใหญ่ยักษ์มาแสดง (ไว้ค่อยโพสรูปให้ดูอีกนะคะ) และมีอีกเพียบขี้เกียจจะพิมพ์
แล้วคิดดูสิคะ ความจริงก็ไปมา 2 วันแล้วยังดูไม่หมดดี แต่โชคดีเก็บภาพงามๆ มาฝากชาวศิษย์ยานุศิษย์ชาวบางพระกันหน่อยเป็นไร นี่คัดมาเฉพาะงานประติมากรรมที่กิ๊บสุดๆ เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา

เปิดตัวด้วยภาพนี้ เรียกน้ำย่อยไปก่อนนะคะ เป็นผลงานของอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ชื่อว่า พระพุทธเหนือทุกข์ และสุข
ความจิง มีรูปอีก 2-3 ชิ้นที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา นะคะ...

จาก ช่างภาพขี้เหงา พวกเรามาเชียร์ อุตส่าห์หนีเตี่ยมา...เชียร์ วี้ดบุ้มมมม....


82
àÊÒÃì·Õè 5 ¡.¤. ·Õèâ¤ÃÒª..
º¹ªÑé¹ 2 ¢Í§âçáÃÁ´ØÊÔµ »ÃÔ鹫ìà«Ê...ªèǧËÑǤèÓ
ÍÕ¡¤ÃÑ駡ѺÊÑÁ¼ÑÊ·Õè 6 㹺·ºÒ·¼ÙéÁÒàÂ×͹¤¹ãËÁè..
à˹×èÍÂáÅéÇ ¾Í¶Ö§Ëéͧ..äÁèÇÒ¡éÁ˹éÒ¡éÁµÒ ¨Ñ´á¨§ÊÑÁÀÒÃÐãËéà¢éÒ·Õè à¢éÒ·Ò§
ÊÑÁ¼ÑÊ»ÃÐËÅÒ´...ÃÒǡѺÇèÒÁÕ¤¹à´Ô¹¼èҹ˹éÒàÃÒä» ¾ÃÖ躺º...
·ÕááäÁèàÍÐ㨠«éÓÍÕ¡Ãͺ´éÒ¹ËÅѧ ¾ÃÖ躺...¢¹á¢¹¡çàÃÔèÁ Stand Up ªÙªÑ¹¾ÃéÍÁæ ¡Ñ¹áººÁÔä´é¹Ñ´ËÁÒÂ
à»ÅÕè¹·Õè´Õ¡ÇèÒ...ÃÐËÇèÒ§à´Ô¹à»ÅÕè¹·Õè ¡çà´Ô¹¼èÒ¹¡ÃШ¡ºÒ¹ãË­èญ่....¾ÃÖ躺...
¢¹ÅØ¡«Ùè ã¨ËÒÂÇÒº àËç¹à»ç¹à§Ò´Óæ ¼èÒ¹·Ò§Ë¹éÒ¡ÃШ¡... ¼èÒ¹ÊÒµҴéÒ¹¢éÒ§¢Í§àÃÒ¹ÕèáËÅÐ (äÁèä´éÍÂÙè¹Í¡ÊÒµÒàÅÂ)
¡ÅÑÇÁÒ¡·Õà´ÕÂÇ.. ºÑ¹·Ö¡äÇéÇèÒ ¡è͹¹Í¹µéͧÁÕµÃСÃØ´ÍÂÙèãµéËÁ͹ âµêТéÒ§àµÕ§ áÅзÕè¤Í´éÇ ÍÕ¡·Ñ駵éͧà»Ô´ä¿ à»Ô´·ÕÇÕ ¹Í¹ÍèФèÐ...ºÃ×ÍÊì¤èÐ
ÍÕ¡ 3 à´×͹¨Ðä»ÊØÃÒÉ®Ãì...¨ÐÁÕÇÔ­­Ò³·ÓàÃÒà»ÃÕéÂÇã¨ÍÕ¡äÁêà¹ÕèÂ!

¤Í¹à¿ÔÃìÁÇèÒ¤×Í ¼Õ à¹ÒÐ... ¡ÅÑÇÁÒ¡·Õà´ÕÂÇ


83
เมื่อเดือนก่อนเห็นอาจารย์สักยันต์ ชื่อน่ารัก น่าเอ็นดูคนหนึ่ง ที่ออกแบบยันต์เอง มาออกทีวีรายการอะไรไม่รู้ ที่ญานีกะพอลล์เป็นพิธีกร
ในเนื้อหามักมีดาราหนุ่ม แก่ สาวมาให้สัมภาษณ์ แต่ท่านไม่ได้กล่าวถึงว่ามาครูบาอาจารย์ท่านมาจากสายใด แปลกดี เน้นไปทางออกแบบยันต์เอง...??? หรือท่านอาจจะเป็นจอมขมังเวทย์ที่คิดยันต์ขึ้นเอง?


เมื่อคืนก็เห็นอีก แต่ดูแล้วขลังสุดๆ เป็นสกู๊ปพิเศษอยู่ช่วงท้ายรายการข่าว กล่าวถึง 'อาจารย์ โบ้' ฆาราวาสสักยันต์อยู่ทางใต้ (3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั่นแหละ)
ซึ่งในเนื้อหา กล่าวด้วยว่า ท่านมาจากสายบางพระ รู้สึกดีจัง ที่ท่านมีครูบาอาจารย์เป็นสายบางพระเสียด้วย
เนื้อหาส่วนใหญ่พูดถึง การสักยันต์จากอ.โบ้ ทำให้เป็นที่อุ่นใจของทหารที่ต้องทำงานเสี่ยงภัยท่ามกลางระเบิดตามชายแดน มีบทสัมภาษณ์ว่ามันใจ 120 กล่าวถึงยันต์ เสือ หนุมาน งู
และเห็นอาการของขึ้นด้วย โห... เสือเป็นเสือจริงๆ ตั้งสี่ขา คำราม แยกเขี้ยว หน้าตา มือเป็นกรงเล็บ ปากเผยอตอนคำราม อ่ะ  ส่วนงูเป็นงู เลื้อยใหญ่เลย สุดยอดจริงๆ เลยอ่ะ


อาจารย์ โบ้ เป็นใครอ่ะ

84
อ่ะ อ๊ะ.. ใจเย็นค่ะท่าน  :008: มิได้มีประสงค์มาบรรยายเรื่องยันต์เสือเผ่นแต่ประการใด  :009:
หากเพียงต้องการแตกฉานเรื่อง 'ยันต์เสือเผ่น' ต่างหาก

จึงใคร่เรียนสอบถาม 'กุนซือสักยันต์' ทั้งหลาย ณ ที่แห่งนี้ว่ามีผู้ใดสามารถเล่าถึง

1. ตำนานพอสังเขป
2. พุทธคุณ
3. ประสบการณ์ของตัวเอง แบบเน้นๆ
4. ประสบการณ์ของขึ้น ยังไง กี่ครั้ง นานแค่ไหน แล้วทำไงของจะลง
5. ความคิดเห็นหากผู้หญิงสักเสือ แล้วถ้าของเธอขึ้นระหว่างในห้องประชุมฝ่ายบริหาร หรือบนเวทีการแสดงหล่ะ จะทำอย่างไร?


หากได้ความตามประสงค์เพียงพอใจแล้ว จะหาวันไป สักยันต์เสือเผ่น กะเขามั่งแล้วเจ้าค่ะ  :004:


ช่างภาพขี้เหงา

น่าหม่ำ อิ่มหนำใจ... :080:

85
ไหว้ครูปีนี้ คนหยั่งกะมด (ดำ) ร้อนซะเงี้ยะ กลับบ้านไป คนที่บ้านจำหน้าไม่ได้ หน้าดำปื้ดเลย (จริงๆ )
ไหนๆ ไปเลยปั้นช๊อตเด็ดมาฝากคุณๆ ในเวบบอร์ดกันสักหน่อย...
หากใครรู้จักดาราที่อยู่ในภาพ แล้วเค้าต้องการรูปก็เมลล์มาขอได้นะคะ.. (ขาย) เอ้ย ให้ฟรีค่า..

1. เท่มาก? ? ?อันนี้ต้องส่งประกวด...กระโดดเหยง ไม่ต้องใช้สลิง ท่ามกลางคนดูนับหมื่น (ท่าอะไร บอกด้วยค่า)
2. โฮกๆ? ? ? อันนี้ระยะเผาขน หาชมยากครับ ท่าสวยขนาดนั้น (ท่าอะไรใครรู้ช่วยบอกด้วย)
3. กดหู? ? ? ?อันนี้เพื่อนๆ ช่วยกันกดหู สักพักเสื้อดำข้างหลังก็เอามั่ง 555 ขึ้นคู่เลย (ทำไมต้องกดหูอ่ะ)


ลาก่อน

ช่างภาพขี้เหงา


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

86
คุณปู่เราเป็นเจ้าอาวาสวัดหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงคราม ท่านได้มรณภาพไปแล้ว
วันนี้ไปเผาศพคุณปู่มา... ตอนเปิดฝาโลง 23;จึงขอ สายสิญจน์มัดตราสังข์มาเหมือนครั้งหนึ่งที่เคยมีสัปเหร่อยื่นให้ ตอนเผาศพคุณตาเมื่อ 4-5 ปีก่อน

แต่เค้าไม่ให้... เพราะบอกว่าอยากให้คุณปู่ไปสบาย...

ก็เลยงงอ่ะดิ....?ตกลงแล้ว สัปเหร่อคนแรก ให้เรามาทำไมกัน?


ใครรู้มั่งอ่ะ 41;



87
การสนทนากับท่านวันนั้นส่วนใหญ่เป็น เรื่องสุขภาพ เสียส่วนใหญ่
ด้วยการเป็นผู้ฟังที่ดีตลอดการสนทนา....เลยทราบว่า? ?สุขภาพท่านไม่ดีเอามากๆ 42;
การไปกราบท่านในวันนั้น... จึงมีทั้งศรัทธา เป็นห่วงท่านจับใจ... เลยเป็นความรู้สึกสุขปนเศร้า...

จากท่านไป... ความรู้สึก "ศรัทธา" อยู่ในภวังค์ความคิดตลอดเวลา

... พระอะไร... ทำไมท่านจึงมีอัธยาศัยดีมากๆ .......หากเป็นสามัญชนทั่วไป นิยามว่า " น่ารัก" ได้ชัดเจน ไม่ขัดเขิน

ท่านเป็นไอเดิล ของ พระที่มีบารมีทางด้านเมตตา ฟันธง!
(ความรู้สึกส่วนตัวนะ) เพราะเราเองก็เจอคนมาก็เยอะมากๆ.... เยอะๆๆ มากๆ... ฟันธง!

ทราบภายหลังมานิดๆ ว่า ท่านมีลูกศิษย์เพียบ... ดังซะด้วย!! ไปโม้ให้หลวงปู่อั้น+ศิษย์ ทั้งคู่สดับฟัง (หลวงปู่กาหลง ไม่อยู่) ศิษย์ท่านทำตาวาว? โอ้โห! รู้จักด้วยหลอ?

จะไม่รอช้าแล้วหละ.... เราจะขอเป็นศิษย์ของท่านคนต่อไป

"หลวงพี่พันธ์"

มีครูสักสองสามคนไม่น่าเปนไร.... กล้าเนาะ!!!

ปล. ช่วงนี้มีใครไปดูหนังบ้าง... ขอบอกว่า เรื่อง คู่แรด... มันมากๆ ขำมากๆ ไปดูสิแนะนำ..... :007:

88
เมื่อแผลเดิมหายคัน... :052:? ความปรารถนาอันแรงกล้า... ในการเดินสายสัก ก็เริ่มเข้ามาแทนที่... :032:
( :073: เหตุใด... เธอจึงมีอาการประหลาดเช่นนี้ มิอาจทราบได้ :069: .. โอยๆ )

ในเวบบอร์ดนี้... มีกูรูผู้รู้มากประสบการณ์มากมาย...
ทุกคนล้วนมาจากพื้นฐานความศรัทธาเดียวกัน...แต่มีความแตกต่าง ตามความปารถนาในใจเป็นคนๆ ไป....
ดังนั้น ความเหมือนที่แตกต่างนั้น อาจจะนำพาให้? :090:"นักสักยันต์รุ่นกระเตาะ"? :090: ได้แนวทางการสักที่แจ่มขึ้นกว่าเดิมจากบอร์ดนี้....

 :086:จึงขอเรียนให้ท่าน ช่วย "แนะนำยันต์ทางเมตตามหาเสน่ห์ เพียงคนละ 1 ยันต์"? ที่ท่านได้เคยสักมาแล้ว ย้ำ ยันต์เดียวเท่านั้นที่อยากแนะนำ (พร้อมทั้งแชร์ประสบการณ์ที่บังเกิดขึ้น หรือความคิดเห็นส่วนตัวพอสังเขป หากเป็นเป็นได้) ให้แก่ผู้เธอผู้นี้ด้วย!!! เผื่อบางทีความคิดเห็นท่านจะเป็นประโยชน์กับคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะปรารถนาจะโดนเข็ม ในวันที่ 12 สิงหานี้ก็ได้ค่า :025:



จะรอคอยด้วยใจระทึก!!

โชว returned...
หญิงไร้คนรัก :009: ความผิดหวังห้อมล้อม? :007:





89
 :074: ภาพเป็นข่าว  :009:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

90
ไดอารี่ Vol. 3 ? ต่อจาก บับก่อนๆ

จึกๆๆๆๆๆๆ? ?(อ๊ากกกกกก....)? ?:086: จึกๆๆๆๆๆ

หลวงพี่ : ไหวไม๊โยม...? :004:
play girl : ไหวค๊ะ ไหว... อ๊ากกกก...? :070:
หลวงพี่ :? เก้ายอด นะโยมม? :004:

หลวงพี่: ต่อนะโยม..? :004:
play girl : ต่อค๊ะ ต่อ...เลยค๊ะ? :070:
#$%*)! (คนที่พาเธอมา) : เออน่า อย่าเรื่องมาก เร็วดึกแล้ว!? :090:

หลวงพี่: อืม.. ท่าทางจะทนน่าดูเลยนะ (หัวเราะ)? :007:
play girl : งึมงัมๆๆๆๆ (เจ็บเนาะ คิดในใจ)? :070:

หลวงพี่: งั้นต่อ กวางเหลียวหลัง เลยนะ.... กลางหลังเลยนะ.... อ้าวเฮ้ย!! พวกเอ็งมาช่วยกันจับเอาให้ตึงๆ หน่อย....? :063:

และแล้ว.... ก็ได้มาอีก 1 .... กวางเหลียว(สัน)หลัง สวยงดงามจับใจ..... (คิดเอาเองนะ)? :007:
และไม่วาย โพสรูปไว้ดูต่างหลังอีก 1 .....?


การเดินสายสักยันต์ของเธอยังมีต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ....? :008: เพราะบทพิสูจน์พุทธคุณ ยังไม่ไม่บรรลุ Probation ...? :009:
ช่วยเป็นกำลังใจ หรือแนะนำเธอต่อไปด้วย... ผู้คนเมตตาเธอน้อยนิดเหลือเกิน? :080:?

นั่นแหละเธอ...โชว เพลย์เกิลล์ กลับใจ


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

91
ไดอารี่ Vol. 2 .... ต่อจากฉบับที่แล้ว ...

 :092: การเดินสายสักยันต์ของเธอ...ยังไม่จบสิ้น...? :008:? ก็หยั่งที่บอก...? เธอยังใหม่นักในวงการ....? :026:
และยังต้องเฟ้นหา... สิ่งลี้ลับที่มิอาจพิสูจน์ได้เพียงข้ามวัน.... ต่อไป? :073:

 :074: เชื่อหรือไม่?? ? ตื้อ... เท่านั้นที่ครองโลก...?? :080: และในที่สุด .... ก็มีคนใจอ่อนพาเธอไปลงของเพิ่ม...? :007:

ดั่งมีมนต์สะกด.. เมื่อโดนแล้ว.. ก็จะอยากโดนอีก... เข็มแล้ว เข็มเล่า...เข็มนี้เป็นเข็มที่เท่าไหร่แล้วหล่ะ?

ความขลังของยันต์ครั้งนี้ ช่างน่าประทับใจ ไม่วายขอโพสรูปไว้ดูต่างหลัง....? ?:008: แล้วนั่นเป็นยันต์อะไร ใครจะช่วยบอกที? ?:007:

ตอบดี มีรางวัล!  :007:

เธอฝากขอบคุณหลวงพี่มั๊กๆ....? ที่เมตตากรุณาลงของให้เธอ...
 :080: เธอยังฝากขอบคุณ.... #%$*& V (อาจมีบางท่านอ่านไม่ออก ต้องขออำภัย)? ม๊ากมาก... อีกเช่นกัน... ที่ทนรำคาญเธอ  :073: จนพาเธอถึงที่หมายในที่สุด!!


เธอเริ่มจะติดลมบนไปซะแล้ว... โชว :090:?

ต้องพบเธอใหม่อีกแน่.... เร็วๆ นี้!  โชว เพลย์เกิรล์กลับจายยยยย



cho...play girl return...



[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

92
 :009: วันนี้ไปสักมาค๊ะ... ขอบันทึกเก็บเอาไว้...

ประสบการณ์การสักของดิฉัน...ความจริงได้เริ่มต้นมาตั้งแต่อายุ 23 นานมาแล้วจ๊ะ หาร้านสักไม่ค่อยมีค๊ะ ต้องตระเวนหากว่าจะได้... ตอนนี้ย่าง 37 ก็เข้าปีที่ 14 แล้วที่สักมา... รู้แค่ว่าสวยงามในตอนนั้น สักสวยไว้ที่แขนขวา ดาบปักรูปหัวใจล้อมด้วยดอกไม้ สวยงามตามราคาสมัยนั้น (แพงมาก 3500) วันนี้มาลองของจริงๆ ที่นี่!! หลวงพ่อเปิ่น... วัดบางพระ!!!

พอลงนะ เต็มหน้าผาก เต็มแก้ม  :008:เต็มลิ้น  :009:ถวายสังฯ แล้ว ไม่อยากรีรอ  :093:ใจมันร้อน ขอสัก "หงส์" เหมือนเจ้าอาวาสสักตัวเป็นไร..... เค้าว่า เมตตานัก!!!

เมื่อพบ...พระอาจารย์สัก... ( มหา) ท่านถามอายุ... วันเดือนปีเกิด.. แม่นด้วยนา... ท่านให้มี สองบ้าน เพื่อแก้เคล็ดดวงชตา พร้อมฟันธงว่า ควรสัก " ไก่ฟ้า พญาลอ"
...แต่หนูจะ ขอ "หงส์" นะค๊ะ.... :002: พระอาจารย์สักท่านไม่ยอมท่าเดียว..... ไก่ก่อนๆ แล้วไหวค่อยว่ากันใหม่.... :068:

เอ้า!! ไก่ก็ไก่...ไม่รีรอ ตอบตกลง โอโห ไก่ฟ้าตัวเบ้อเร่อ ที่หลังด้านขวาของดิฉัน....  :016:เจ็บดีค๊ะ.... ท่านว่าเป็นสิริมงคลกะดิฉันดีมาก... ขอให้"สักไก่ฟ้า" ไว้....เป็นตัวแรก

ตื้อท่านต่อค๊ะ !! เหตุเพราะ เห็นเจ้าอาวาสท่านมี "หงส์" อยู่ตัวนึงที่หัวไหล่ซ้าย.... อาจารย์ขา หนูขอหงส์ อีกสักตัวนะค๊ะ เอ้ามา!!! เร็วๆ ใกล้เวลาฉันเพลแย้วววววว!!!
ตกลงดิฉัน.... ก็กด หงส์ อีกตัว โห!! ตัวเบ้อเร่ออีกเช่นกัน...... ไม่เจ็บเท่าหลังค๊ะ.... เป่า เพี้ยง...... ลงคาถา.... เรียบร้อยซะใจวายสะรุ่นค๊ะ :077:

เดินทัวร์ในวัดต่อค๊ะ ไปหา พระอาจารย์สักอีกท่านหนึ่ง ชื่อ พระอาจารย์ติ่ง ท่านสับไม่ยั้งที่ กลางหน้าผากของดิฉัน ดิฉันตะลึง  :073:จารย์ทามอารายหน้าผากหนูรึค๊ะ จารย์ท่านว่า.... นะ โยม นะ อ่อ....วันนี้ดิฉันจบด้วย การสักนะ.... เป็นอันเสร็จ ทัวร์สักของดิฉันวันนี้!!!!

สนุกดีนะค๊ะ เจ็บด้วย.... และนี่กำลังเป็นจุดเริ่มต้น แห่งการสะสมรอยสักของดิฉัน.....ถ้า ไปมาอีกจะมาเล่านะค๊ะ!!!!!  :009:

ปล. ง่วงนอนแล้ว ไว้วันหลังมาบันทึกความหมายต่อดีก่า :061: ขอบคุณน้องต้อม ที่เทคแคร์ ดูแลจ้า!!  :074:



หน้า: [1]