แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7
4996
ผมเห็นนะครับ คนแขวนพระเต็มคอเลย พระดีๆทั้งนั้น
โดนยิงตาย .......มีเยอะแยะครับ
บางคนแขวนพระปลอมองค์เดียว .....กับยิงไม่เข้า
แปลก ดีนะครับ ................
ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับบุญกุศลของแต่ละท่าน ครับ
จะแขวนกี่องค์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับเราศรัทธา ครับ

ดูตัวอย่างเพื่อนผมได้ พระ ดีๆเต็มคอเลย
เจอ .38 ทะลุ ท้อง ซะงั้น ..........

แขวนอะไร ก็ดี ขึ้นอยู่กับเราต้องเป็นคนดีด้วย


เห็นด้วยครับ :016:

4997
แกะแล้วนำไปให้หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม ท่านลงให้อีกทีนะครับท่านเอ็ม หลวงปู่แย้มท่านก็เรียนวิชามาจากสายวัดสาวชะโงก

4998
ขอบคุณมากๆครับทุกๆท่าน ไปเจอพระองค์นี้บนหิ้งที่ห้วยพลู  ขอบคุณมากๆครับ

5000
ผมเคยฟังมาจากคนอิสลาม เค้าจะไม่บูชาพระ แต่ห้อยหนังเสือได้ ซึ่งเพื่อนผมก็มีเปนอิสลามคนนึง

วันนึงผมก็สังเกตุเห็นที่คอของมัน ผมเลยถามมันว่า "เห้ย ไอบังแกห้อยไรว่ะน่ะ"

มันก็บอกว่า "หนังหน้าผากเสือ" ผมก็ถามว่ามันห้อยได้ยังไง มันบอกว่า "ห้อยพระไม่ได้แต่ห้อยหนังเสือได้"

มันก็เล่าให้ฟังอีกว่า หนังหน้าผากเสืออ่ะถ้าอยากได้ต้องลำบากหน่อย เพราะต้องกรีดหน้าผากเสือตอนที่มันยังไม่ตาย

คือ จับมันมามัดมือมัดเท้ามัน (ประมาณนั้น) แล้วกรีดหน้าผากมัน ทั้งที่มันยังไม่ตาย เอาหนังมาทำเครื่องราง

เพราะมีความเชื่อว่า การที่กรีดหน้าผากเสือเอาหนังตอนที่มันยังไม่ตาย ทำให้แรงอาคาดสูง อาถรรค์ก็แรงด้วยเช่นกัน


ผมฟังแล้วก็ ได้แต่คิดในใจ เอ้อออออออไม่สงสารมันมั่งหรอว้ะน้ะ  :065:

เวนกำแท้ๆ

5001
หาจังหวะไปไม่ได้ซะที อิอิ

5002
อ่าครับ ท่านยังอยู่ที่วัดบางพระครับ

5003
ผู้หญิงสักเก้ายอดแบบน้ำมันได้หรือเปล่า และสักที่วัดบางพระได้ไหมค๊ะ ถ้าสักได้จะต้องเตรียมสิ่งใดบ้าง จำเป็นต้องมีฤกษ์หรือวันเฉพาะในการสักหรือเปล่าค๊ะ
ขอบคุณค่ะ



ได้ครับได้ ตามสะดวกครับ ค่าครู 25 บาท ครับ

5004
เอาลูกอมเสือ รุ่นสุดท้าย มาให้ชมไปพลางๆก่อนครับ รอท่านผู้รู้  :086:

5006


ด้านหลัง




ขอทราบรายละเอียดหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

5007
ราหูหลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ หรอครับผมไม่ค่อยได้เห็นเลย

ส่วนมากจะเหนแต่หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง ราหูท่าน ทรงเสมาอ่ะครับ

Ps. หลวงพ่อน้อย ของแท้ๆ ถึงยุคจริงๆ หายากมากๆๆ

ใช่ครับ กะลาตาเดียว แกะ พระราหู ของ หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ ครับ ด้านหลังให้ชมครับ

5008
ที่เคยนะครับ ก็ 9 องค์ เต็มที่ละ

5009
ของพี่สายัน น่าจะหลุดไปแล้วอ่าครับ
ไม่มีหลักเสมอไปครับท่าน สำหรับการสร้างพระสมเด็จ พุทธคุณส่วนมากก็จะไปทางเมตตาแคล้วคลาดอ่ะครับ

5010
โอ้ว  สุดยอดไปเลยครับท่าน

5011
สายคุณพระมีแต่ให้คุณ

5012
อิอิ ตามสบายเลยครับท่าน :002:

5013
ลอคเกต หลวงพ่อเงิน คุณย่าให้มาครับ เลยเอามาให้ชม  :005:






5014
คาถาอาคม / Re: คาถาชินบัญชร
« เมื่อ: 24 มิ.ย. 2551, 10:22:45 »
อนุโมทนาครับ พุทธคุณฝอยท่วมหลังช้าง :054:

5015
ยันต์ 7 ยอดที่คุณว่าถ้าผมจำไม่ผิดเรียกว่านะทรงแผ่นดิน ผิดถูกประการใดขออภัย

สมัย 10 ปีที่แล้ว กุฏิพระอาจารย์ประดิษฐ์(หลวงพี่แป๊ว)จะมีลูกศิษย์ไปรับการสักเยอะมาก บางวัน 100 กว่าคน ต้องนอนที่วัดหรือไม่ต้องกลับบ้านโดยที่ไม่สักก้อมี

ถ้าวันไหนคนเยอะจริงฯหลวงพี่แป๊วจะสักยันต์ 7 ยอดให้ก่อน เพราะใช้เวลาน้อยกว่า 9 ยอดครับ จากนั้นจะมาไล่เป็น 9 ยอด,สาลิกา ,แปดทิศอีกที

ขอบคุณครับ
อ่อครับ อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณครับท่าน

5016
รับทราบครับ...

ใจเย็นนิดนะครับ จะแก้กลับให้เหมือนเดิมภายในวันสองวันนี้

ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนทดสอบบอร์ดอยู่

เนื่องจากมีการอัพเกรดเวอร์ชั่นของบอร์ดจากเดิม SMF 1.1 RC1 เป็น SMF 1.1.5

ขออภัยในความไม่สะดวกครับ  :001:
รับทราบครับ :002:

5017
คาถาอาคม / Re: "รวมโบราณคาถา"
« เมื่อ: 24 มิ.ย. 2551, 10:11:25 »
ขอบคุณครับท่าน

5018
โอ้โห สุดยอดเลยครับท่านหอมเชียง ง๊ามงาม  :016:

5020
ปัญหาโลกแตก หุหุ

5022
สุดยอดไปเลยครับ บารมีหลวงพ่อของเรา :054:

5023
พุทธคุณแคล้วคลาด มหาอำนาจ คงกระพัน ฯลฯของขึ้นนั้นอยู่ที่จิต ประสบการณ์ก็คงกระพันดีครับ  :015:

5024
ต่อปีกได้ครับ  :002:

5025
ไปบูชามาเรียบร้อยแล้วครับวันนี้ สุริยันมหาลาภ - จันทรามหานิยม

5026
เอาเป็นว่าหลังจากเดือนนี้ล่ะกัน 30 เปนอันยกเลิกครับ

ไว้ทอดกฐินหรือผ้าป่า ของวัด จะนัดรวมอีกที ขอบคุณครับ

รับทราบครับท่าน อิอิ

5027
สิงห์ มหาอำนาจดีนักแล

5028
จะนั่งนับวันนับเดือนรอเลยครับท่าน อิอิ ( เวอร์ไป ) สวัสดีมีชัย จะมาก็ขอให้มีชัย จะไปก็ขอให้มีโชค นะครับท่าน   :077:

5029
ธรรมะ / Re: นับถือด้วยศัทธา
« เมื่อ: 22 มิ.ย. 2551, 09:30:12 »
อ่าครับ ได้คิดดีครับ ผมปฏิบัติอยู่เป็นประจำครับ  :054:

5030
บางพระไม่เคยเห็นเลยนะครับท่าน :075:

5031
รับทราบครับ งงๆอยู่ครับพักนี้  :010:

5032
อาทิตย์หน้าไปจ้า อาทิตย์นี้ป่วยนอนเปื่อยอยู่บ้าน หายแล้วจะไปให้หลวงพี่รดน้ำมนต์ซะหน่อย
หายไวๆนะค๊าบบ :002:

5033
ใจเย็นๆครับ  :002:

5034
พระเหลาเทพนิมิต อ.พนา จ.อำนาจเจริญ





"พระเหลาเทพนิมิต" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดสูง 2.70 เมตร หน้าตักกว้าง 2.85 เมตร เป็นพระประธานประดิษฐานอยู่ในอุโบสถวัดพระเหลาเทพนิมิต อ.พนา จ.อำนาจเจริญ

ตามประวัติ บรรพบุรุษผู้สร้างบ้านแปลงเมืองบ้านพนา ได้พากันอพยพมาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณดงสูง ริมกุดบึงใหญ่ หรือกุดพระเหลาในปัจจุบัน

"พระครูธิ" พระที่ชาวบ้านให้การเคารพนับถือ ได้ชักชวนให้ร่วมกันสร้างวัดบริเวณริมกุดบึงใหญ่ และให้ชื่อวัดแห่งนี้ว่า "วัดศรีโพธิชยารามคามวดี" โดยมีพระครูธิ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก

หลังสร้างวัดเสร็จในปี พ.ศ.2263 พระครูธิ นำศิษย์และญาติโยมเริ่มก่อสร้างโบสถ์ และศาลาการเปรียญ โดยตัวโบสถ์กว้าง 9.80 เมตร ยาว 15.50 เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ฐานโบสถ์และผนังก่อด้วยอิฐ โครงหลังคาเป็นไม้เนื้อแข็งลดหลั่น 2 ชั้น มุงด้วยกระเบื้องไม้

พ.ศ.2515 ได้เปลี่ยนเป็นหลังคากระเบื้อง เพราะของเดิมทรุดโทรมมาก หน้าบันไดด้านตะวันออกทำด้วยไม้สลักลวดลายต่างๆ ห้องกลางมีลายเถาว์ไม้เต็มห้อง ตรงกลางเป็นรูปราหูกลืนจันทร์ ระหว่างเถาว์ไม้ยังมีรูปเทพนม และรูปหนุมานสลับเป็นช่อง ลวดลายทั้งหมดทำด้วยปูนเพชรแกะสลักอย่างประณีต ไม่ได้สลักลงในเนื้อไม้ พร้อมลงรักปิดทองฝังกระจกทั้งหมด

ภายในตัวโบสถ์ยังใช้ไม้เนื้อแข็งทรงกลมทำเป็นเสาขนาดวัดรอบ 76 เซนติเมตร จำนวน 8 ต้น ต่อมาในปี พ.ศ.2464 ได้มีการเปลี่ยนเสาไม้เป็นเสาอิฐถือปูนรูป 4 เหลี่ยม และปี พ.ศ.2471 ท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล เจ้าคณะจังหวัดกิตติมศักดิ์ จ.อุบลราชธานี ได้เขียนลายเถาว์ด้วยสีต่างๆ รอบเสา 4 ต้น ที่อยู่ในห้องพระประธาน ส่วนเพดานติดดาวกระจายปิดทองประดับกระจก 44 ดวง โดยพื้นเพดานเป็นสีแดงดูอร่ามตา ส่วนพื้นอุโบสถทำเป็นกระเบื้องซีเมนต์

หลังสร้างอุโบสถเสร็จ พระครูธิ ได้นำคณะลูกศิษย์สร้างองค์พระประธานประจำอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดสูง 2.70 เมตร หน้าตักกว้าง 2.85 เมตร ก่อด้วยอิฐถือปูนลงรักปิดทอง แท่นพระประธานก่อด้วยอิฐถือปูน มีชายผ้านิสีทะนะเหลื่อมพ้นออกมา ตรงกลางผ้ามีรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม โดยท่านพระครูธิเป็นผู้ออกแบบเอง และมอบหมายให้ภิกษุแก้วกับภิกษุอิน ลูกศิษย์เป็นช่างทำการก่อสร้าง

โดยพระครูธิ อธิบายวิธีทำให้ลูกศิษย์ทำเป็นวันละส่วน วันละตอน หลังลูกศิษย์ทำงานเสร็จก็ให้มารายงานผลการสร้างให้ทราบทุกวัน โดยท่านพระครูธิไม่ได้ลงไปดูแลด้วยเอง

กระทั่งถึงขั้นตอนขัดเงาลงรักปิดทอง ท่านจึงลงไปดูและถามลูกศิษย์ที่เป็นช่างว่า "ทำงานได้เต็มฝีมือแล้วหรือ" เหล่าช่างก็ตอบว่าได้ทำเต็มฝีมือแล้ว แต่เมื่อพระครูธิ เห็นองค์พระประธานที่เหล่าบรรดาลูกศิษย์พากันทำมา จึงเอ่ยว่าทำงานได้งามอยู่หรอก แต่ต้องให้งามกว่านี้ บรรดาลูกศิษย์ที่เป็นช่างยอมรับว่าหมดฝีมือที่จะทำแล้ว คงไม่สามารถทำให้พระประธานงามได้มากกว่านี้

ขณะเดียวกัน มีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อ "ซาพรหม" ซึ่งอยู่ในทีมช่างที่ก่อสร้างองค์พระ ได้แสดงตนว่า สามารถทำให้องค์พระงามกว่านี้ได้ พระครูธิ จึงมอบหมายให้ซาพรหมเป็นผู้แก้ไข และซาพรหมก็ทำองค์พระพุทธรูปได้สวยงามสมคำพูด โดยเฉพาะใบหน้าองค์พระประธานมีลักษณะงดงามสมส่วนทุกประการ

จากลักษณะขององค์พระพุทธรูปที่งดงาม เวลาเข้าไปกราบนมัสการจะเหมือนท่านยิ้มต้อนรับ คนทั่วไปจึงตั้งชื่อให้ท่านว่า "พระเหลา" ที่มีความหมายว่า "งดงามคล้ายเหลาด้วยมือ"

ต่อมา วัดศรีโพธิชยารามคามวดี ที่ใช้เป็นที่ประดิษฐานองค์พระเหลา ได้เปลี่ยนชื่อเรียกตามความนิยมในตัวองค์พระเป็นวัดพระเหลา หมู่บ้านที่ตั้งได้เปลี่ยนชื่อตามเป็นบ้านพระเหลาด้วย

จนถึง พ.ศ.2441 ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของ จ.อุบลราชธานี และอีสาน ได้เสริมนามต่อท้ายให้กับองค์พระเป็น "พระเหลาเทพนิมิต" ซึ่งมีความหมายว่า พระพุทธรูปที่งามคล้ายเหล่าดุจเทวดานิมิตไว้

สำหรับพระเหลาเทพนิมิต นอกจากจะมีความงดงามตามพุทธศิลปะแล้ว มีคำเล่าลือกันว่า ทุกคืนวันพระ 7, 8 ค่ำ 14, 15 ค่ำ องค์พระพุทธรูปพระเหลาเทพนิมิต จะแสดงพุทธานุภาพให้เกิดลำแสงสีเขียวแกมขาวขจีลอยออกจากอุโบสถในเวลาเงียบสงัด

ทั้งนี้ การเข้ากราบนมัสการพระเหลาเทพนิมิต ผู้ต้องการบนบานขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะคนที่ไม่มีบุตรมีการกล่าวกันว่า เมื่อมาบนบานขอจากพระเหลาเทพนิมิตแล้วจะประสบความสำเร็จสมดังที่ตั้งใจ ส่วนสิ่งของที่ใช้บนบานสานกล่าวก็คือ ดอกไม้ธูปเทียน และปราสาทผึ้ง

ปัจจุบัน วัดพระเหลาเทพนิมิต มีพระครูอุดมวิหารกิจ เป็นเจ้าอาวาสวัด ส่วนวัดพระเหลาเทพนิมิต ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 40 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพนาเพียง 2 กิโลเมตร มีเส้นทางคมนาคมสะดวก

สำหรับการจัดงานนมัสการหลวงพ่อพระเหลาเทพนิมิต วัดจะจัดงานทุกวันเพ็ญเดือน 3 หรือในวันมาฆบูชาทุกปี




ที่มา  -  ข่าวสด

5035
มาประเดิมเลยครับ สุขสันต์วันเกิดนะครับ "พรใดอันประเสริฐ ขอจงเกิดแก่ท่านต้นน้ำนะครับ" บารมีหลวงพ่อเปิ่นคุ้มครองครับท่าน  :100:

5036
ไปเจออยู่บนหิ้ง เลยเอามาให้ชมกันครับ



5038
อ่าว ผมเพิ่งไปตอบกระทู้ในเวปบอร์ดหลวงปู่ทิมมาซักครู่นี้เองครับ   :063:  เปิดประเด็นจากใจจริงเลยนะครับ


   ตั้งแต่วันที่ พี่ยันต์กลับ เข้ามาเป็นสมาชิกของบอร์ดวัดบางพระ ก็ได้นำเสนอสิ่งดีๆ ให้กับพวกเราทุกคนอย่างมากมาย เป็นการเปิดทรรศนะ เปิดหู เปิดตา ให้เห็นโลกใบใหญ่ ได้กว้างไกลยิ่งขึ้น ข้อเสนอแนะต่างๆที่พี่ยันต์กลับได้นำมาลงไว้ ก็เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์ ที่พี่บอกไว้ว่า " คนแก่อย่างผมคงไม่มีประโยชน์ เพราะความคิดล้าสมัย "  ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ คนแก่ บางท่านบอกว่าไร้ประโยชน์ แต่ควรลองนึกคิดไตร่ตรองให้ดี คนแก่นี่แหละครับ ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมผ่านประสบการณ์ชีวิตมาก่อนพวกเราๆท่านๆ ด้วยความหวังดีจึงได้นำประสบการณ์เหล่านั้น มานำเสนอเพื่อเป็นการชี้แจง เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดตามมาในภายหลัง เป็นการชี้แนะในสิ่งที่ถูกที่ควร ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่มีท่านใดหรอกครับที่ไม่พอใจกับบทความของพี่ กลับยินดีเสียด้วยซ้ำ ที่พี่ได้แนะนำแนวทางที่ถูกต้องให้ได้รับทราบกัน อย่าคิดมากไปเลยครับพี่ ผมขอเป็นกำลังใจให้พี่ยันต์กลับสู้ต่อไปนะครับ สิ่งที่พี่ทำถูกต้องแล้วครับ และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พี่ยันต์กลับ จะกลับมานำเสนอสิ่งดีๆ ไว้ให้กับพี่น้องเวปบอร์ดชาวบางพระทุกท่าน ได้อ่านได้ศึกษากันอีกนะครับ.


? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?? ?

ที่มา : http://www.school.obec.go.th/khotchasit/KS3.html

ปล.ขอบารมีองค์หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ โปรดดลบันดาลให้พี่ยันต์กลับ ได้เข้ามาอ่านบทความนี้ และกลับเข้ามานำเสนอสาระดีๆ เหมือนเช่นเดิม เทอญ .

5039
พี่ๆว่าเหรียญรุ่นแรกของท่านจะมีปลอมไหม วันก่อนไปกราบท่านมาช่วงเย็น ได้พบท่าน และได้สิ่งที่ต้องการสมใจครับ? :052: มีเหรียญอยู่1เหรียญสวยมากๆเห็นหลวงพี่พูดว่าสะดุ้งกลับอะไรนี้ แหละ ลืมบอกครับเหรียญฝังอยู่ในเบี้ยะครับ ทำบุญบูชา 900 ครับ เงินมะพอเลยไม่ได้เอา :005:
เหรียญรุ่นแรกนี้ในเวปบ้างเวปราคาเช่ากันแรงเหมือนกันนะครับ มีท่านใดเห็นของปลอมมาบ้างหรือยังครับ

มีปลอมครับ ระวังกันด้วยนะครับ :001:

5041
ยันต์อะไรอ่ะครับท่าน อักขระน้อยจัง

5042
[shake]จัดวันไหว้ครูหลวงพ่อ เหมาะกว่า นัดไปเลยซุ้มไหน อย่าไปกุฎิหลวงพี่ หลวงน่า หลวงอา เลย คนเยอะ เดียวมั่ว[/shake]
GOOD IDIA "รวมพล คนบางพระ" :001:

5043
นมัสการหลวงพ่อเปิ่นครับ :054:

5045
ไม่กล้าตีอ่ะครับ รอลุงอเมซิ่งมาฟันทิ้งดีฝ่า  :002:

5046
ไปดีป่าวหว่า ขอคิดก่อนน๊า :005:

5047
ขอบคุณครับ :002:

5048
ตามท่านเอ็มเลยครับ  :001:

5050
ขอบคุณครับที่นำประวัติหลวงปู่มาให้ได้ศึกษากัน  :001:

5051
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / นานไหม
« เมื่อ: 20 มิ.ย. 2551, 09:12:29 »
กว่าจะขอได้หนุมานเชิญธง จำเป็นไหมครับต้องมียันต์ครู ครบก่อน
แล้วแต่พระอาจารย์ท่านจะจัดให้ครับ  :002:

5052
รับทราบครับ ลุงอเมซิ่งยอดเยี่ยมเช่นเคย :053:

5053
ไม่ชัดครับท่าน :001:

5054
กายห่าง แต่ใจไม่เคยห่างวัด ไว้ว่างๆจะชวนปู่ไปเที่ยวบางบาลครับ จะได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่ทิมด้วย

5055
นมัสการครับ ขอบคุณมากๆครับที่นำมาให้ชมกัน

5057
นมัสการครับ :054:

5058
สาธุครับ....ทุกๆคาถา
ผมนั้น ท่องคาถาปัจเจกโพธิ ของหลวงพ่อปานเป็นประจำ
ศรัทธาและเชื่ออย่างสนิทใจจริงๆครับ ถึงจะไม่เกิดปาฎิหารย์จนเหลือเชื่อ แต่หากขัดสนหนักก็ผ่านพ้นไปด้วยดีมาตลอด เกือบห้าปีแล้วครับ
กราบนมัสการท่านมาณ.ที่นี้ครับ
หาเวลาว่างไปที่วัดบางนมโคนะครับ หาดอกไม้หรือพวงมาลัยที่มีดอกมะลิสักหนึ่งพวง ธูปห้าดอก เทียนขาวสองเล่ม ไปที่กุฏิท่านเลย แล้วปวารณาตัวของเป็นศิษย์ พร้อมทั้งจดคาถาพระปัจเจกโพธิไปท่องอย่าให้ผิดเพี้ยนแม้แต่อักษรเดียว มีโอกาศก็ทำทานตามกำลังบ้าง
ขอยืนยันว่า.......จะไม่ขัดสนเรื่องโภคทรัพย์.......
รับทราบครับ ขอบคุณอีกครั้งครับท่าน :002:

5059
เรียนถามท่านสมาชิก
อ.หนวด คืออาจารย์สักหรือ?
ลายสวยไหมครับ ศิษย์สายไหนครับ


เป็นอาจารย์ฆาราวาสในวัดบางพระครับ :001:

5060
นมัสการหลวงพ่อกวยครับ

5062
:002: หลวงพ่อเหว่า ท่านเป็นพระสมาถะ มากๆ ครับ ท่านเก่ง ครับ แต่ดังเงียบๆๆ
ในพื่น ที่ประสบการณ์ดี ครับ ... ท่านยังเป็นศิษหลวงพ่อเงิน และเรียนวิชาจากหลวงพ่อเงิน
พล้อมๆ กับหลวงพ่อแช่ม ด้วย ครับ .... แถมท่านยังไปเรียนวิชา จากหลวงปู่เพิ่มด้วย
และยังได้เรียนวิชา จากหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือด้วย ครับ? .............................
ปัจจุบันละสังขารไปแล้ว สังขารท่านไม่เน่าไม่เปื่อย แต่ทางวัดมิได้เก็บใว้ ครับ
พระราชทานเพลิงศพไปเมื้อ ปี 49 นี้เอง ครับ


นับถือครับ :054:

5063
เยี่ยมครับท่าน ชอบเหรียญหมูมากๆเลยครับ เยี่ยมๆ :053:

5064
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / นานไหม
« เมื่อ: 18 มิ.ย. 2551, 09:46:48 »
ของพี่ผมนี่ หลวงพี่แป๊วท่านจะนัดมาสักเลยครับ ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นวันศุกร์ :002:

5065
ขอบคุณข้อมูลครับท่าน ว่างๆต้องไปหาเก็บบ้างซะแล้ว ของพี่หอมเชียงก็สุดยอดอีกเช่นเคยนะครับ  :015:

5066
ขอบคุณมากๆครับท่าน รวยเร็วๆนะครับ :005:

5067
ปลอดภัยหายห่วง100% :001:

5068
ขอบพระคุณทุกๆท่านที่แนะนำครับ....ผมว่าจะให้หลวงพี่หรือใครลงหรือเป่าให้อีกทีอ่ะครับจะเป็นไรไหมอ่ะครับ
แล้วก็แนะนำสักด้านเมตตาด้วยนะครับเพราะกำลังจะหางานใหม่อ่ะครับผม..ขอบพระคุณอีกครั้งครับ

ได้ครับ เมตตาสาลิกาก็ดีครับ :001:

5070
อ่าครับ ลงรายละเอียดอีกนิดก็ดีครับ :075:

5071
คาถาอาคม / "รวมโบราณคาถา"
« เมื่อ: 18 มิ.ย. 2551, 09:25:07 »
ขอบคุณมากๆครับท่าน :001:

5072
สวยดีครับ พกแบบปากกาได้เลย :015:

5073
รับทราบครับ ขอบคุณครับท่าน :001:

5074
พระเจ้า5พระองค์ หรือพุทธซ้อนครับ :015:

5075
งามดีครับท่าน ตัวใหญ่ซะ :002:

5076
มาอนุโมทนาด้วยคนครับ :002:

5077
เพราะส่วนมากผมจะได้มาอยู่หน้าคอมก็ประมาณ 21.00 น. พอผมเข้ามาก็ไม่เจอใครแล้ว?
ช่วยบอกด้วยนะครับ ขอร้องคับ :054: :054: :075: :065: :061:

อ่าครับ ว่าผมนอนดึกแล้วน๊า :075: แอดเมลล์มาคุยกันก็ได้ครับท่าน :002:

5078
สายวัดบางพระดีทุกรูปครับ :002: ศิษย์หลวงพ่อเปิ่นเหมือนกัน :015:

5079
ไม่ดีครับท่าน พิมพ์ผิด เนื้อไม่ใช่  :001:

5080
ขอบคุณครับท่าน :002:

5081
มาแล้วครับท่าน ตามคำเรียกร้อง ;D
?? ในภาพเป็นเหรียญหลวงพ่อเงิน+หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม รุ่นฉลองสมณศักดิ์ หลวงพ่อแช่ม ที่ พระครูเกษมธรรมนันท์ ปี2516
? ? เหรียญของท่าน M007 และของท่านโจรสลัด บอกตามตรงนะครับ (อย่าว่ากันนะครับ) คือว่า .......เป็น....พระ....แท้ครับ .........100%
? ? แต่...เป็นบล็อคเสริมครับ ไม่ทันหลวงพ่อเงิน? เหรียญนี้แหละครับ ที่ผมเคยบอกไว้ว่า มีการสร้างเสริมออกมานับครั้งไม่ถ้วน? สังเกตง่ายๆครับ ว่าเหรียญไหนทันหลวงพ่อเงินหรือเปล่า? ให้สังเกตตรงที่ เหรียญด้านหลวงพ่อแช่ม? ถ้าทันหลวงพ่อเงิน ด้านบนของหลวงพ่อแช่ม จะมีคำว่า ฉลองสมณศักดิ์ และที่สำคัญ จะมีเลข 1 ไทย(๑) ปรากฏ ตรงปลายสังฆาฏิหลวงพ่อแช่ม ครับ
?? เหรียญของทั้งสองท่านเป็นพระแท้ ครับ ไม่แน่ว่าอาจจะทันหลวงพ่อแช่ม ท่านปลุกเศกด้วยก็เป็นไปได้ครับ? สายวัดดอนยายหอม เก็บได้สบายใจหายห่วงครับ? ทั้งหลวงพ่อเงิน หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่ออวยพร หรือว่าแม้แต่ หลวงพ่อประพันธ์ เจ้าอาวาสวัดดอนยายหอม รูปปัจจุบัน
?? ทั้งหลวงพ่ออวยพร และ หลวงพ่อประพันธ์ ต่างก็ได้เรียนวิชาอาคม มาจากทั้งหลวงพ่อเงิน และหลวงพ่อแช่ม ครับ เพราะฉะนั้น วัตถุมงคลของท่านทั้งสองนี้ จึงขึ้นคอได้อย่างสบายใจครับ




5082






ได้มาตอนไปช่วยงาน ในช่วงงานสวดพระอภิธรรม 100 วัน หลวงพ่อเปิ่นมรณะภาพ ปี 45 หลวงพี่แป๊วท่านอุตส่าห์เข้าไปหยิบจากในกุฏิท่านมาแจกกันเลยทีเดียว

5083
โอ้วววส์ เหรียญนี้ท่านได้แต่ใดมา สุดยอดครับ :016:

5084
โอ้วววส์ ขอบคุณมากๆครับ ผมคนนึงละครับที่เกิดปีมะโรง  :002:

5085
แหล่งข่าวแน่นอนจากวัดครับ....วันไหว้ครูวันที่30 กุมภาพันธ์ 2552
อ่านะครับ มา 30 กุมภาพันธ์ซะเลย เหอะๆๆ :010:

5086
อ่า ต้องต่ำกว่าพระครับ แนะนำไม่ควรหันไปทางทิศตะวันตก ครับ :001:

5087
อ่อ โชว์ของเก่า อ่านะครับ แจมอีกละกัน



5088
เยี่ยมครับ ใช้ภาพเก่าหรอครับ คุ้นๆ แหะ? :058:
ตะหงิดๆอยู่ครับ คุ้นๆ เหมือนภาพเก่า ^^" แต่ก็งามดีครับ :075:

5089
งามมากมายครับ คุ้นๆตาอยู่นา  :075: :005:

5090
งามๆทั้งนั้นเลยครับ ขอแจมด้วยคนน๊า? :005:






5091
แนะนำมา ทำตามไปก็ไม่เสียหายครับ :002:

5092
พี่สิบทัศน์ครับ..หลวงพ่อสำอางค์ท่านจารให้ด้วยหรอครับ ต้องเตรยมรายม้างครับ...แต่หลวงพี่ติ่งบอกไม่จารให้ครับเดี่ยวไปนั่งทับจะไม่ดี
ครับ หลวงพ่อสำอางค์ท่านจารให้ครับ แต่ท่าวันไหนคนเยอะท่านก็จะไม่จารครับ เอากระเป๋าตังค์ใส่พานไปให้ท่านอ่ะครับ :075:

5093
ประเด็นนี้ไม่ทราบอ่ะครับ แต่มันไงๆอยู่ :075:

5094
อ่าครับช่ายคับ ยันต์แม่ทัพผมก็เคยได้ยินมาว่า สักแล้วของขึ้นได้เหมือนกัน
แต่ยังไม่เคยเห็นคนขึ้นแม่ทัพเลยครับ แหะๆ อยากเห็นเป็นบุญตาซักครั้งเหมือนกัน :011:
ผมเคยเห็นแต่นานมาแล้วอ่ะครับ ไม่ธรรมดาอยู่ :003:

5095
อันนี้กระเป๋าตังค์ใบเก่าครับ พอไปให้หลวงพ่อสำอางค์ท่านจาร พอกลับมาบ้านก็ได้ผลทันตาเห็น เป๋าตุงขึ้นเยอะเลย อิอิ






อีกใบครับ ไปหาหลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม ก็เอากระเป๋าตังค์ไปใส่ไว้ในพานกะให้ท่านเป่าให้ แต่ปรากฏว่า หลวงปู่แย้ม ท่านหยิบไปจารให้ ผมละซึ้งใจสุดๆ



5096
ยินดีต้อนรับครับผม :002:

5098
ผู้หญิงเอาเมตตาไว้ก่อนครับ ^^" อีกประเด็นไม่ทราบอ่ะครับ ถ้ายังไงก็เลี่ยงก่อนก็ดีครับ :075:

5099
เหรียญไม่น่ามีปัญหาครับ พระพิจิตรดูแปลกๆตาครับ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ไม่ทราบอ่ะครับ :001:

5101
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ไปมาอีกแล้ว
« เมื่อ: 15 มิ.ย. 2551, 09:20:46 »
ที่ว่าคล้ายๆของวัดกลางบางแก้วน่าจะเป็นพุทธซ้อนนะครับ ส่วนสุนัขที่หลวงพี่แป๊ว ก็เชื่องดีครับ :075:

5102
บางยันต์ก็ขึ้นได้อ่ะครับ เคยถามหลวงพี่แป๊ว มาครับ ท่านว่า ยันต์แม่ทัพก็ขึ้นได้  :075:

5104
อ่า ไม่ทราบอ่ะครับ รอขึ้นป้ายก่อนนะ :075:

5105
ไปช่วงใดก็ได้พบหลวงพ่อเปิ่นแน่นอนครับ ถ้าหากกุฏิยังไม่ปิดซะก่อน :075:

5106
"โอมนะโมพระพิฆคเณศายะ"

5108
ตะกรุดลูกปืนผูกข้อมือ หลวงพ่อจืดครับ



5109
ผมมีอยู่ 2 ดอกครับ 3 ห่วงกับ2 ห่วง










5110



คติพจน์หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว



5111
ไปหาพระเจอแล้วคร้บ แต่ทว่าไม่ใช่อ่าครับ   :075:

5112
พระอาทิตย์ทรงกลดเหนือองค์พระปฐมเจดีย์







 :054:

5115
เหรียญหลวงพ่อจืดครับ ด้านหน้า





ด้านหลัง



5116
เผื่อผมหรือละท่านสิบทัศน์

ให้ท่านหอมเชียงต้องเหรียญนี้ครับ แต่เป็นเนื้อนวะ ( ในภาพเป็นเนื้อเงิน ) ช่วงเทศกาลกินเจ เด๋วคงได้เจอกันครับ (เด๋วเอาไปฝาก) ผมไปโรงเจเกือบทุกวันเลย? :002:





ด้านหลัง



5117
มาชมครับ ภาพที่หลวงพ่อท่านลงให้















ปิดท้ายด้วยพระที่หลวงพ่ออวยพร ท่านแจกมาให้ครับ ท่านว่า "เอ้า เอาไปแบ่งๆกัน"



5118
อ่านะ ทำปายได้ อิอิ :006:

5119
ชมรูปไปเพลินๆ นึกขึ้นได้ว่า จะต้องหาของขวัญไปให้เพื่อนคุณแม่ ที่เค้าจะขึ้นบ้านใหม่ เลยตัดสินใจขอรูป อ.พร อัดกรอบ กะว่าจะเอาไปเป็นของขวัญ แต่พอ อ.พร เอามาลง,มาเจิม,จาร,รดน้ำมนต์   ตั้งนานประมาณ10นาทีได้ ( เพื่อนคุณแม่รอไปก่อนละกัน อิอิ รูปใบนี้ผมขอเก็บไว้เองนะจ๊ะ )  ท่านให้จริงๆนะครับ รูปพร้อมกรอบประมาณ 18.5*22.5 นิ้ว  เมตตาสุดๆเลยครับ ( ผมเกรงใจเลยใส่ซองทำบุญไป)












5120
ด้านในกุฏิ อ.พร ครับ





รูปข้างๆกุฏิครับ






รูป อ.พร ตอนหนุ่มๆครับ






5121
เช้าวันนี้ผมได้มีโอกาสไปหา อ.พร ที่วัดดอนยายหอมมาครับ พอดีไปทำป้ายชื่อร้านมา เลยเอาไปให้ท่านลงให้หน่อย เชิญชมบรรยากาศในวัดครับ




หน้ากุฏิ อ.พร ครับ





อันนี้โอ่งบรรจุทรายเสกวัวธนูอันลือชื่อ อยู่หน้ากุฏิ อ.พร ครับ ( แขกไปใครมาก็มาตักไปโรยรอบๆบ้าน ป้องกันโจรโขมยได้นะครับ )


5122
สุดยอดครับท่านหอมเชียง ของดีๆทั้งนั้นเลยครับ สุดยอด :015:

5124
หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน ต.บางพลีใหญ่ จ.สมุทรปราการ





"หลวงพ่อโต" วัดบางพลีใหญ่ใน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย (สะดุ้งมาร) องค์พระเป็นทองสำริดทั้งองค์ หน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ ลืมพระเนตร เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดบางพลีใหญ่ใน

ได้รับการกล่าวขวัญถึงความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพสักการะของชาวบางพลีและพุทธศาสนิกชนทั่วไป

ตามตำนาน เล่าสืบต่อกันมา ว่าประมาณกาล 200 กว่าปีล่วงมาแล้ว ได้มีพระพุทธรูป 3 องค์ ปาฏิหาริย์ลงมาจากทางเหนือ ลอยมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดมาพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์นี้ เข้าใจว่าปวงชนในกรุงศรีอยุธยาคงอาราธนาท่านลงสู่แม่น้ำ เพื่อหลบหนีข้าศึก ด้วยในสมัยนั้นบ้านเมืองได้เกิดสภาวะสงครามขึ้นกับพม่า

พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ได้แสดงอภินิหารลอยล่องมาตามลำแม่น้ำ และบางครั้งก็แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ผุดให้ผู้คนเห็นตามลำดับ จนเป็นที่โจษจันกันทั่ว ถึงอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน

ต่อมาภายหลังปรากฏว่า พระพุทธรูปองค์หนึ่งไปขึ้นประดิษฐานอยู่ที่ วัดบ้านแหลม จ.สมุทรสงคราม

ในเวลาไล่เลี่ยกันพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่ง ไปขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธร จ.ฉะเชิงเทรา

ส่วนอีกองค์หนึ่งได้ล่องลอยเรื่อยมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยา ปาฏิหาริย์ลอยวกเข้ามาในลำคลองสำโรง ประชาชนพบเห็นต่างโจษจันกันไปทั่ว พร้อมกับได้อาราธนาขึ้นที่ปากคลองสำโรง แต่พระพุทธรูปไม่ยอมขึ้น

ในที่นั้น มีผู้มีปัญญาดีคนหนึ่ง ได้ให้ความเห็นว่า คงเป็นเพราะบุญญาอภินิหารของท่าน แม้จะใช้จำนวนผู้คนสักเท่าไรอาราธนาฉุดท่านขึ้นบนฝั่งไม่สำเร็จเป็นแน่ ควรจะเสี่ยงทายต่อแพผูกชะลอกับองค์ท่าน แล้วใช้เรือพายฉุดท่าน ให้ลอยตามลำน้ำสำโรงและอธิษฐานว่า "หากท่านประสงค์จะขึ้นโปรดที่ใดก็ขอจงได้แสดงอภินิหารให้แพที่ลอยมาจงหยุด ณ ที่นั้นเถิด"

เมื่อประชาชนทั้งหลายได้เห็นพ้องดีกันดังนั้นแล้ว ก็พร้อมใจกันทำแพผูกชะลอกับองค์ท่านแล้วใช้เรือ ซึ่งสมัยนั้นเป็นเรือพายทั้งสิ้น ช่วยกันจ้ำพายจูงแพลอยเรื่อยมาตามลำคลองเรือที่ใช้ลากจูงแพมานั้นมีชื่อแปลกต่างๆ กัน เช่นชื่อ ม้าน้ำ เป็ดน้ำ ตุ๊กแก และอื่นๆ เป็นต้น และจัดให้มีการละเล่นต่างๆ มีละครเจ้ารำถวายมาตลอดทาง และการละเล่นอื่นๆ ครึกครื้นมาตลอดทั้งลำน้ำ

ครั้นแพลอยมาถึงบริเวณหน้าวัดพลับพลาชัยชนะสงคราม หรือวัดบางพลีใหญ่ใน แพที่ผูกชะลอองค์ท่านเกิดหยุดนิ่ง พยายามจ้ำและพายกันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง แพนั้นก็หาได้ขยับเขยื้อนไม่

ประชาชนที่มากับเรือและชาวบางพลี จึงได้พร้อมใจกันอาราธนาตั้งจิตอธิษฐานว่า "ถ้าหลวงพ่อจะโปรดคุ้มครองชาวบางพลีให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขแล้วก็ ขออาราธนาอัญเชิญองค์ท่านให้ขึ้นจากน้ำได้โดยง่ายเถิด"

และเป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก เพียงใช้คนไม่มากนัก สามารถอาราธนาท่านขึ้นจากน้ำได้โดยง่าย ทำให้ประชาชนต่างแซ่ซ้องในอภินิหารของท่านเป็นอย่างยิ่ง และได้อาราธนาท่านขึ้นไปประดิษฐานอยู่ในวิหารนั้นเรื่อยมา

ครั้นต่อมาได้รื้อวิหารนั้นอีกเพื่อสร้างเป็นพระอุโบสถที่ถาวร จึงต้องชะลออาราธนาองค์ท่านมาพักไว้ยังศาลาชั่วคราว จนกระทั่งได้สร้างพระอุโบสถสำเร็จแล้ว จึงได้อาราธนาท่านไปประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ เพื่อเป็นพระประธานของวัดบางพลีใหญ่ใน

เล่ากันว่า เมื่อคราวสร้างพระอุโบสถเสร็จใหม่ๆ ได้วัดช่องประตูพระอุโบสถกับองค์หลวงพ่อโต ปรากฏว่า ช่องประตูใหญ่กว่าองค์พระประมาณ 5 นิ้ว ซึ่งสามารถนำองค์หลวงพ่อโตผ่านเข้าไปได้

แต่พอถึงคราวอาราธนาจริง กลับปรากฏว่า องค์หลวงพ่อใหญ่กว่าประตูมาก คณะกรรมการจำนวนหนึ่งเห็นว่าควรทุบช่องประตูทิ้ง แต่อีกจำนวนหนึ่งเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโต จึงได้พร้อมใจกันอธิษฐานขอให้หลวงพ่อโตสามารถผ่านเข้าประตูได้ เพื่อเป็นมิ่งขวัญคุ้มครองชาวบางพลีสืบไป

เมื่ออธิษฐานเสร็จก็อาราธนาหลวงพ่อโตผ่านประตูได้โดยสะดวก

การที่ท่านได้พระนามว่า "หลวงพ่อโต" คงเป็นเพราะองค์ของท่านใหญ่โต คือ ใหญ่โตกว่าองค์ที่ลอยน้ำมาด้วยกันทั้ง 2 องค์ จึงถือเป็นนิมิตอันดีให้ประชาชนพากันถวายนามว่า "หลวงพ่อโต" เป็นสิ่งที่เคารพสักการะของชาวบางพลี ตราบเท่าทุกวันนี้

ทั้งนี้ การลำดับว่าองค์ไหนองค์พี่ องค์กลาง องค์น้อง และลอยมาพร้อมกันตามตำนานที่สืบต่อกันมา เข้าใจว่าคงจะนับเอาองค์ที่อาราธนาขึ้นจากน้ำได้ก่อนเป็นองค์พี่ ขึ้นจากน้ำองค์ที่ 2 เป็นองค์กลาง ขึ้นจากน้ำองค์ที่ 3 เป็นองค์น้อง ตามลำดับ คือ

หลวงพ่อวัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม อาราธนาขึ้นจากน้ำองค์ที่ 1

หลวงพ่อโสธร วัดโสธรฯ จังหวัดฉะเชิงเทรา อาราธนาขึ้นจากน้ำองค์ที่ 2

หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ อาราธนาขึ้นจากน้ำ เป็นองค์ที่ 3 เรียงกันตามลำดับ

นอกจากนี้ หลวงพ่อโตยังได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เจ็บป่วยทั้งหลายที่มาบอกเล่าบนบานกราบนมัสการท่าน บางท่านได้นำน้ำมนต์หลวงพ่อไป เพื่อความเป็นสิริมงคล ปรากฏว่าโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นนั้นหายวันหายคืน

แม้แต่กระทั่งรูปเหรียญหลวงพ่อโตชาวบ้านทั้งใกล้ไกลต่างพากันห้อยคอให้แก่บุตรหลานของตน เพราะเมื่อเด็กเผลอพลัดตกน้ำเด็กนั้นกลับลอยได้เป็นที่น่าอัศจรรย์ ตลอดทั้งพระเครื่องรางที่ทำเป็นรูปขององค์หลวงพ่อ ก็มีอภินิหารป้องกันภยันตรายต่างๆ ได้

ทุกวันนี้ชาวบางพลีต่างเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์และบารมีของหลวงพ่อโตที่คุ้มครองชุมชนบางพลีให้ปลอดภัยจากอัคคีภัย ในขณะที่ชุมชนโดยรอบ อาทิ ตลาดบางบ่อ ตลาดจระเข้ ตลาดคลองด่าน ล้วนแต่ประสบกับอัคคีภัยมาแล้วทั้งนั้น



ที่มา - ข่าวสด

5125
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / การเดินทาง
« เมื่อ: 14 มิ.ย. 2551, 09:05:10 »
รอรถส้มมันนาน หวดโดดขึ้นรถ ตุ๊กๆ ไปเลยคร้าบ

ส่วนตัวผมยิงตรงบางเลนอย่างเดียว? ? :100:

เป๋าแฟบเลยครับนั่น  :075:

5126
ครอบจักรวาลละกัน ว่ากันง่ายๆได้ใจความ :075:

5127
อ่าครับ เห็นตำราในพิพิธภัณฑ์ก็มีบอกไว้ครับ :002:

5128
สักได้ครับผม วัดบางพระยินดีต้อนรับทุกท่าน  :001:

5129
เยี่ยมครับ จัดไปอย่าให้เสีย  :053:

5130
งามครับงามๆ :002:

5131
ธรรมะ / เตือนสติ ครับ
« เมื่อ: 13 มิ.ย. 2551, 10:50:02 »
ขอบคุณครับท่าน  :001:

5132
อริยะสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่กราบได้อย่างสนิทใจครับ


5133
ขอบคุณมากๆครับพี่ยันต์กลับ :053:

5134
ผมเองก็ไม่ค่อยทราบเหมือนกันอ่ะครับท่าน พิมพ์สวยผมก็เก็บอย่างเดียวเหมียนกันอ่ะครับ :075:

5135
ได้ฤกษ์ขึ้นคอแล้วครับ อิอิ โชว์เดี่ยวเลยครับงานนี้? :095:




ค้าขายสุดยอดมากๆครับ วันนี้ทั้งวันไม่ได้หยุดเลย  :015:

5136
ที่สุดของหลวงพ่อจืด คือ ต่อนี่แหละครับ ยอดเยี่ยมครับท่าน  :015:

5137
ผมขอเดาว่าหนุมานครับ
เพราะเห้นมีสองกร กำลังผาดโผนโจนทะยาน

มีเค้าครับ  :075:

5138
เรียนศิษย์พี่สิบทัศน์ ผมฟังเค้ามาอีกทีตอนรอสักกับหลวงพี่แป๊ว ข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
ครับผม รับทราบครับ  :005:

5139
ธรรมะ / น้ำมนต์ที่แท้จริง
« เมื่อ: 13 มิ.ย. 2551, 09:23:21 »
อนุโมทนาครับท่าน :054:

5140
หลวงพี่แป๊วสัก หมึกก่าน้ำมัน ส่วนหลวงพี่ติ่งก้น้ำมันล้วนๆแต่สมัยก่อนท่านสักหมึกครับเพราะสายตาท่านไม่ดีกลัวจิ้มให้ลูกศิษย์ผิดเลยสักแต่น้ำมัน

อ่อ เป็นอย่างนี้นี่เอง  :050:

5141
เยี่ยมครับ จากหลวงพี่แป๊วสุดยอดไปเลยครับ  :053:

5142
ดีครับดี ได้มาตั้งเยอะแหนะ หุหุ :001:

5143
ไม่ทราบอ่ะครับท่าน :075:

5144
ธรรมะ / " สาระจากพระสูตร "
« เมื่อ: 13 มิ.ย. 2551, 09:09:20 »
สาธุ :054:   :002:   :114:

5145
บทความ บทกวี / " ชวนเตรียมพร้อม "
« เมื่อ: 13 มิ.ย. 2551, 09:07:46 »
อ่าครับ ได้ข้อคิดดีครับ :002:

5146
รับทราบครับ ที่บ้านมีพิมพ์นี้แต่ออกที่ถ้ำสิงโตทองเกลือ่นเลยครับ :075:

5148
ดีครับดี เยี่ยมๆ :015:

5149
น่าจะออกที่ถ้ำสิงโตทองปะครับ :001:

5150
ธรรมะ / " คติธรรม "
« เมื่อ: 12 มิ.ย. 2551, 09:52:46 »
ขอบคุณครับท่าน :002:

5151
ธรรมะ / " มหาสติปัฏฐานสูตร แปล "
« เมื่อ: 12 มิ.ย. 2551, 09:47:34 »
สาธุครับท่าน :114:

5152
บทความ บทกวี / " ชวนเตรียมพร้อม "
« เมื่อ: 12 มิ.ย. 2551, 09:46:23 »
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา :054:

5155



ลูกปืนผ่าซีก ใช่เปล่า ท่านสิบทัศน์

อ่าครับ รุ่นประสบการณ์ สุดยอดครับ เยี่ยมๆ :015:

5157
ครับ ยอดเยี่ยม :027:

5158
เสริมให้ครับ เกจิอาจารย์เมืองนครปฐมที่ยังคงสังขารอยู่

หลวงพ่อยะ วัดท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม

หลวงพ่อมานิต วัดศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

หลวงพ่อโอภาส ( ศิษย์หลวงพ่อสำเนียง ) วัดพระปฐมเจดีย์ฯ จ.นครปฐม

หลวงพ่อทับทิม ( ศิษย์หลวงพ่อบุญธรรม ) วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม

5160
ธรรมะ / " คติธรรม "
« เมื่อ: 11 มิ.ย. 2551, 10:08:01 »
อนุโมทนาครับท่าน :053:

5161
ดีครับท่าน หลวงพ่อทองศุข ยอดเกจิแห่งเมืองคนดุ  :054:

5162
บทความ บทกวี / " ชวนเตรียมพร้อม "
« เมื่อ: 11 มิ.ย. 2551, 10:05:37 »
ขอบคุณคติธรรมดีๆครับท่าน :053:

5163
ธรรมะ / " สาระจากพระสูตร "
« เมื่อ: 11 มิ.ย. 2551, 10:04:21 »
อนุโมทนาครับ :054: :114:

5164
เอาแหวนงาหลวงพ่อเดิม แกะสิงห์ มาประชันครับ :093:



5166
เยี่ยมๆทั้งนั้นเลยนะครับ สุดยอด :053:

5167
ยินดีต้อนรับครับท่าน  :002:

5168
ยอดเยี่ยมครับท่าน :002: :053:

5169
ธรรมะ / " มหาสติปัฏฐานสูตร แปล "
« เมื่อ: 10 มิ.ย. 2551, 10:47:44 »
อนุโมทนาครับท่าน :002:

5171
ขอบคุณข้อคิดดีครับท่าน :053:

5172

เหรียญหลวงพ่อสำอางค์ วัดบางพระ ( ทันหลวงพ่อเปิ่น )

5174
เศียรพ่อแก่หรือครับท่านที่ว่าลองพิมพ์ :062:

5175
ไปค้นเจอมาอ่ะครับ พี่พอจะทราบประวัติมั๊ยครับว่าสร้างปีไหน อย่างไร ขอบคุณครับ






5176
สมเด็จปรกโพธ์ อีก 1 ของดีของหลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม






5180
ดีครับท่าน :053:

5181
มีครับท่านเคยเห็นอยู่ครับ  เรื่องปี ไม่แน่ใจครับ :075:

5182
สุดยอดจริงๆครับ สำหรับตะกรุดสามห่วง ( เห็นว่าด้านในบรรจุของมงคลหลายอย่าง แร่เกาะล้าน เป็นอาทิ ) ปืนไม่ได้กินครับ? :015:

เอาเนื้อนำฤกษ์มาให้ชมครับ สร้างแค่ 99 องค์? มวรสารสุดยอดทั้งนั้นครับ เห็นว่ามีเกศาหลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลาด้วยครับ











5183
ขอบคุณครับ นมัสการหลวงปู่ทวดครับ :054:

5184
ยอดเยี่ยมครับพี่น้อง :016:

5185
ขอบคุณครับท่าน อิอิ

5187
ชอบหลวงพ่อเบี้ยวมากเลยครับ สุดยอด ขอบคุณครับท่านเอ็ม  :016:

5188
บทความ บทกวี / " ชวนเตรียมพร้อม "
« เมื่อ: 09 มิ.ย. 2551, 10:19:40 »
ขอบคุณครับท่าน :015:

5189
ธรรมะ / " คติธรรม "
« เมื่อ: 09 มิ.ย. 2551, 10:17:59 »
อนุโมทนาครับ เพียรไปเถิดจะเกิดผล :054:

5190
สุดยอดมากๆครับท่าน งามซะ :016: :015:

5191
ใช่ผ้ายันต์ผืนใหญ่ที่ทำบุญ 5,000หรือเปล่าครับ


ไม่ค่อยชัดนะคับ


ยันต์ในกรอบนี้เป็นต้นแบบที่จะใช้ทำผ้ายันต์เศรษฐีชนะมารครับ ย้ำครับ "ต้นแบบ"

5193
รอชมครับ เลยนำเหรียญหลวงพ่อเปิ่นมาให้ชมก่อนเป็นการเรียกน้ำย่อย[/size






















5194
สุดยอดไปเลยครับ  :016:

5195
หลวงพ่อเติม สุดยอดครับ  :054:



5196
อันนี้เลยครับ แบบผ้ายันต์เศรษฐีชนะมาร ?บนฝาผนังด้านซ้ายของแบบผ้ายันต์นี้ มีรูปหลวงพ่อเต๋ใส่กรอบอยู่ สังเกตดีๆสังฆาฏิหลวงพ่อเต๋จะกลับข้างกันครับ แปลกดี :093:


"ขอให้มีโชคลาภ เงินทองไม่ขาดสาย ค้าขายดี มีกำไร ให้ทั้งเฮงทั้งรวย เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี .....(เป่า)"   ประมาณนี้เลยครับ   :054:

5197
สุดยอดครับท่าน เคยเห็นของเพื่อนแค่ครั้งเดียวเอง  :016:

5198
รูปไม่ขึ้นอ่ะครับ อยากชมมั่กๆ ตอนนี้ก็หายากส์แล้ว ทันหลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา ปลุกเสกด้วย สุดยอดครับ  :015:

สำหรับพระพิฆเณศวรประทับต่อ 5 นิ้ว ใต้ฐานมีบรรจุยันต์เกราะเพชร 5 แผ่น+เหรียญหลวงพ่อจืด  :114:งามมากๆครับ

5199
สุดยอดครับคุณลุงอเมซิ่ง แก๊งเดียวกับท่านหอมเชียงเลยนะครับ ของแต่ละอย่างสุดๆ  ซิวของดีๆเข้ารังอีกแล้ว อิจฉา โดยเฉพาะเขี้ยวเสือกลวง จะไปหาที่ไหนหล่ะทีนี้ :073:

5200
เยี่ยมครับท่านบีม :016:

5201
ขอบคุณครับ :002:

5202
ดีเลยครับ ลงมาให้ชมเรื่อยๆเลยครับ รอติดตาม อิอิ

5203
รบกวนถามอีกนิดครับ เพิ่งกลับไปขอเตี่ยมาครับ ยังไม่ได้ถ่ายให้พี่ๆพิจารณา คือผมจะล้างเหรียญด้วยวิธีใดได้บ้างครับ คือมันจะมีคราบคล้ายๆสนิมเขียว(เรียกผิดขออภัย)ขึ้นอะครับ :100:

พี่ทัศ บอกได้ใกล้เคียงครับพี่ แต่จริงๆแล้ว เซียนพระทั้งหลาย เค้าใช้ นีเวียร์ ล้างครับ เป็นวิธีที่เบาและนุ่มที่สุด คำเตือน กะไหล่จะหายถ้าคุณล้าง? :075:

อ่าครับ โทดที อิอิ ฉับฉน 555+ แต่เสียดายกะไหล่ หุหุ

5204
ขอบคุณครับพี่ยันต์กลับ

นิทรรศการ "พระบูชาและเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์" เห็นมีจัดไปแล้วในหลายๆจังหวัด คราวนี้มาถึงอยุธยา ท่านใดว่างๆก็แวะเวียนไปนมัสการกันนะครับ

5205
หลวงพ่อพระไชยเชษฐา วัดถ้ำสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู





ชาว อ.สุวรรณคูหา มีสิ่งเคารพบูชาสูงยิ่ง คือ หลวงพ่อพระไชยเชษฐา เป็นพระพุทธรูปปางมุจลินทร์ นาคปรก 7 เศียร ที่วัดถ้ำสุวรรณคูหา เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาว อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู

ทั้งนี้ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พระเจ้าแผ่นดินล้านช้าง ได้สร้างไว้เมื่อเกือบ 500 ปีมาแล้ว พร้อมถวายวิสุงคามสีมาให้แก่วัด มอบ "นาจังหัน"(ที่ทำกิน) ให้ชาวบ้านได้ทำไร่ทำนาและประกาศให้ผู้ที่ได้นาจังหันเสียภาษีร้อยละ 10 ให้การทำนุบำรุงวัดถ้ำสุวรรณคูหา และหลังฤดูเก็บเกี่ยวชาวบ้านก็นำภาษีมาส่งให้วัด

ช่วงดังกล่าวเข้าสู่ฤดูหนาว ชาวบ้านต้องมาพักอาศัยค้างแรมในบริเวณวัด จึงต้องนำข้าวเหนียวนึ่งมาปั้นย่างไฟเป็นข้าวจี่กินกัน และถวายเป็นการสักการะหลวงพ่อพระไชยเชษฐา และถวายพระสงฆ์ จนกลายเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อกันมาจนปัจจุบัน

แต่ละปีชาวบ้านที่นี่มีหน้าที่ต้องทำข้าวจี่ยักษ์ที่น่าจะบอกว่าใหญ่ที่สุดในโลกก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเจริญของบ้านเมือง ความศรัทธาของชาวบ้าน สืบสานประเพณีที่ดี งาม เป็นสิ่งที่ดีและความภาคภูมิใจของคน อ.สุวรรณคูหา และ จ.หนองบัวลำภู

"วัดถ้ำสุวรรณคูหา" เป็นวัดที่มีโบราณสถาน โบราณวัตถุที่กรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้ว ในสมัยก่อนเป็นวัดอรัญวาสี (ธรรมยุต) ปัจจุบันเป็นวัดมหานิกาย สร้างในภูเขาหินปูน โดยพระเถระในสมัยนั้นได้ดัดแปลงถ้ำให้เป็นที่พักอาศัยจำวัดบำเพ็ญภาวนา ภูเขาลูกดังกล่าวมีถ้ำอยู่กว่า 40 ถ้ำ มีถ้ำใหญ่เรียกว่าถ้ำสุวรรณคูหา ใช้เป็นสถานที่ทำสังฆกรรม (ลงอุโบสถ)

ภายในถ้ำมีพระประธานปางมุจลินทร์ ศิลปะสมัยล้านช้าง มีนาคปรก 7 เศียร หน้าตักกว้าง 4 เมตร สูง 5 เมตร สร้างด้วยปูนทราย มีส่วนผสมเป็นปูนขาว 2 ส่วน ทราย 5 ส่วน น้ำมะขาม 2 ส่วน ก่ออิฐเป็นโครงสร้างภายใน มีชื่อเรียกว่า "พระไชยเชษฐา" สร้างในสมัยพระไชยเชษฐาธิราช เจ้าผู้ครองอาณาจักรล้านช้าง

ตามศิลาจารึกที่ปรากฏที่วัดถ้ำสุวรรณคูหา ระบุเทียบเท่าปี พ.ศ.2016 หรือกว่า 484 ปีล่วงมาแล้ว จารึกไว้ว่า พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ทรงทำนุบำรุงวัดถ้ำสุวรรณคูหา ถึงแม้ไม่ได้สร้างถาวรวัตถุ แต่ได้พระราชทานวิสุงคามสีมาแก่วัด ด้านละ 1,000 วา (2,500 ไร่) พระราชทานนาจังหัน คือ พื้นที่ในหมู่บ้านเป็นสิทธิของวัด เมื่อมีผลิตผลทางการเกษตร เช่น ข้าว มะพร้าว ตาล หมาก พลู ต้องเป็นสิทธิของวัดร้อยละ 10

หมู่บ้านในเขตนาจังหันในปัจจุบันนี้มี บ้านดงยาง บ้านนาตาแหลว บ้านนาสึกสาง (บ้านนาสี) บ้านนาท่าเป็ด (บ้านนาไร่เดียว) บ้านกุดผึ้ง บ้านนาหัน บ้านโนนสง่า บ้านนาแพงเมือง บ้านคูหาพัฒนา

ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ในเขตนาจังหันไม่ต้องถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารและไม่ต้องเสียค่าส่วยไร่ (ภาษี) แก่เจ้าเมือง เป็นการแสดงถึงความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาและความศักดิ์สิทธิ์ของพระไชยเชษฐามาโดยตลอด

พระอธิการเพิ่ม พุทธธัมโม เจ้าอาวาสวัดถ้ำสุวรรณคูหา เปิดเผยว่า ปัจจุบันจะมีชาวบ้านมาจากหลายแห่งทั้งภาคอีสานหรือภาคอื่นๆ เดินทางมากราบไหว้ บนบานศาลกล่าว ด้วยการนำดอกไม้ธูปเทียน โพธิ์เงินโพธิ์ทอง พวงมาลัย มากราบไหว้ขอพรพระไชยเชษฐา ชาวบ้านทำไร่ทำนาก็ขอให้มีผลิตผลออกมาดีไร่นาอุดมสมบูรณ์ หลายคนมาบนบานขอให้มีตำแหน่งหน้าที่ดีๆ สอบได้ที่ดี หรือทำมาหากินมีรายได้ดี ซึ่งก็มักประสบผลสำเร็จลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาก็สร้างองค์พระไชยเชษฐาจำลองมาถวาย

ส่วนคนในอำเภอสุวรรณคูหา หากจะออกไปต่างจังหวัดไปทำงานต่างถิ่นหรือออกไปประกอบอาชีพที่อื่น จะเข้ามา กราบไหว้ขอพร ขอให้แคล้วคลาด หรือมีรายได้กลับมาเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งมักจะเห็นผลบางคนถึงกับปวารณาตัวกลับเข้ามาบำรุงรักษาวัด

และในวันขึ้น 13-14 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีอำเภอสุวรรณคูหา ร่วมกับเทศบาลตำบลสุวรรณคูหา จะจัดงานบวงสรวงพระไชยเชษฐาเป็นประจำทุกปี โดยจะมีชาวบ้านร่วมนำข้าวเปลือก ข้าวสาร ผลิต ผลทางการเกษตร นำมาถวาย จัดขบวนแห่รำฟ้อนอย่างสวยงาม

ที่ถือปฏิบัติมิได้ขาดเป็นประเพณีสืบต่อกันมาตั้งแต่โบราณ คือ การที่ชาวบ้านในสมัยก่อนในนาจังหัน เมื่อนำสิ่งของมาถวายเพื่อทำนุบำรุงรักษาวัด ซึ่งอยู่ในช่วง 14-15 ค่ำ เดือน 3 ที่มีอากาศหนาวเย็น มักจะนำข้าวเหนียวนึ่งมาปั้นย่างไฟเป็นข้าวจี่ มีการร่วมวงกินร่วมกันและสนทนาพาทีกัน เรียกกันว่ารวมบุญข้าวจี่

ก่อนจะรับประทาน ต้องถวายพระสงฆ์เป็นภัตตาหาร ได้ถือปฏิบัติมาช้านานจนบัจจุบันกลายเป็นประเพณีบุญข้าวจี่ ซึ่งคณะกรรมการจัดงานก็ได้จัดสร้างข้าวจี่ยักษ์ขนาดใหญ่ถวายหลวงพ่อพระไชยเชษฐา ก่อนจะแจกจ่ายให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้รับประทาน

ถือเป็นการรับบารมีหลวงพ่อพระไชยเชษฐาที่มีประชาชนมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมากในทุกปีด้วย



ที่มา - ข่าวสด

5206
หุหุ ตามประสาวัยรุ่นวัยเรียน มีหยอกล้อกันเป็นธรรมดาครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องคิดมาก :075:

5207
เห็นเปรยว่า "รัศมี " คิดไปซะไกลนึกว่า"คลองขอม" แต่พิมพ์ก็ยังไม่ใช่อยู่ดี ไม่ทราบจริงๆครับท่านLink รอท่านอื่นมาให้คำแนะนำนะครับ :001:

5208
ขอบคุณเป็นอย่างมากครับท่านเอ็ม  :054:

5209
ไม่ทราบอ่ะครับ ลองเข้าไปศึกษาดูพิมพ์นะครับ ที่ www.wkk.ac.th ทั้งของหลวงปู่บุญ ,หลวงปู่เพิ่ม ,หลวงปู่เจือ ครับ :001:

5210
เคยได้ยิน ( แต่ผมไม่เคยลองนะครับ ) ใช้นีเวียร์ล้าง อ่ะครับ :004:

5211
หนุมานตัว 9 น่าจะเป็นของ อ.หนู นะครับ สายบางพระมีหลายอย่างครับ พุทธคุณแคล้วคลาดคงกระพัน ฯลฯ :001:

5212
ตามท่านก๊อตแนะนำเลยครับผม โชคดีนะครับ :001:

5213
คาถาอาคม / "รวมโบราณคาถา"
« เมื่อ: 06 มิ.ย. 2551, 10:08:00 »
ขอบคุณครับท่าน เยี่ยมไปเลยครับ ไว้จะเอาไปใช้บ้างนะครับ :001:

5214
อยากได้วัวธนูของท่านไว้ใช้สักตัวหนึ่ง หายากแล้วตอนนี้อ่ะ
ที่หลวงพ่อยังเห็นมีอยู่นะครับ รุ่นเก่าๆก็พอมีอยู่ครับ ( แอบกระซิบหลวงพ่อจืดมาครับว่า เมื่อไหร่หลวงพ่อจะสร้างตะกรุดสามห่วงอีก ท่านบอกว่าทำยาก วัสดุที่ใช้ต้องเน้นจริงๆ ตอนนี้ฝากวัด....จัดหามาให้แล้ว )

เคยสนใจอยากได้ผ้ายันต์ผืนนี้...แต่ไม่เคยเห็นภาพ
ใครมีภาพ กรุณาลงเป็นวิทนาทานด้วยครับ

ไปถ่ายมาแล้วครับ น้องผมมันไม่รู้ไรลบรูปทิ้งหมดเลย เหอะๆๆ ไว้ไปหาหลวงพ่ออีกแล้วจะเก็บภาพมาให้ชมครับท่าน

5215
หลวงพ่อเปิ่น ดีทุกอย่างครับ ราคาค่านิยมนั่นอีกประเด็นครับ ศรัทธานำมาซึ่งปาฏิหาริย์ :114:

5216
ขอบคุณครับที่เอารูปมาให้ชม :002:

5217
ก็แล้วแต่จังหวะอ่ะครับ ส่วนมากเสาร์-อาทิตย์คนจะเยอะหน่อยครับ :001:

5218
ชอบพระปิดตามากเลยครับท่าน งามๆทั้งนั้น :016:

5219
หลวงพ่อยิด ปลุกเสกสุดยอดครับ ยังพอหาได้ :001:

5220
สวยดีครับ ได้จากหลวงพี่แป๊วด้วย ดีครับดี :053:

5221
ธรรมะ / " มหาสติปัฏฐานสูตร แปล "
« เมื่อ: 06 มิ.ย. 2551, 09:27:08 »
ขอบคุณครับท่าน :001:

5222
เมื่อวานไปหาหลวงพ่อเปรื่องมาครับ ฝนตกนิดหน่อย คนก็ไม่ค่อยมี หลวงพ่อท่านก็นั่งจารตะกรุดโสฬสมงคลอยู่ครับ เลยถือโอกาสเข้าไปกราบท่านซักหน่อย เห็นว่าทางวัดกำลังสร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 19 เมตรอยู่ครับ ไปร่วมบุญกันได้ครับผม

หลวงพ่อเปรื่องนั่งจารตะกรุดโสฬสมงคลครับ




พระปิดตาแร่บางไผ่ ออกเร็วๆนี้ครับ




เลยให้หลวงพ่อท่านจารโภคทรัพย์มาให้แผ่นนึง




เอาพระปิดตาสายวัดสะพานสูง ( น่าจะเป็นของหลวงพ่อวาส ) ไปให้ท่านลงเหล็กจารที่กรอบพลาสติกให้ครับ




ไปเช่าตะกรุดโสฬสมงคลมาด้วยครับ ประสบการณ์สุดยอด





เห็นตะกรุดข้อมือ ของหลวงพ่อเปรื่อง ขนาดไม่ถึงครึ่งนิ้ว หลวงพ่อท่านยังจารมือ ลงรัก ลงทอง แล้วจารข้างนอกอีก ไม่เก็บไม่ได้แล้ว ( ผมเอาเชือกออก แล้วเอาเชือกร่มมานั่งถักเอง เจ็บมือมั่กๆ :075: )





งานบุญของทางวัดครับ







ไปเห็นภาพลุงอุ๊ กรุงสยาม มาร่วมบุญด้วยครับ อนุโมทนา






5223
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / หลวงปู่ขุ้ย
« เมื่อ: 05 มิ.ย. 2551, 09:15:14 »
บารมีหลวงปู่คุ้มครองนะครับ :002:

5224
ธรรมะ / " คัมภีร์ ราชนีติ "
« เมื่อ: 05 มิ.ย. 2551, 09:06:18 »
พระองค์ทรงเป็นพลังแผ่นดิน ทรงพระเจริญครับ

5225
ธรรมะ / พระไตรปิฎกย่อ
« เมื่อ: 05 มิ.ย. 2551, 09:03:45 »
อนุโมทนาครับผม :114:

5226
ธรรมะ / " สาระจากพระสูตร "
« เมื่อ: 05 มิ.ย. 2551, 09:03:14 »
 :054: อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆมากครับท่าน :001:

5227
บทความ บทกวี / " ชวนเตรียมพร้อม "
« เมื่อ: 05 มิ.ย. 2551, 09:02:11 »
อนุโมทนาครับท่าน  :002:

5228
จริงด้วยครับ เพิ่งเห็น วันจันทร์ครับ

5229
ยอดเยี่ยมครับสำหรับข้อมูลหลวงปู่นาค หนึ่งในตำนานพระเกจิคณาจารย์เมืองยอดแหลม เห็นว่าทางวัดห้วยฯออกรุ่น 111 ปี จารใต้น้ำด้วยนะครับ ออกเดือนตุลานี้ครับ :015:

5230
สุดยอดครับท่านหอมเชียง ใจดีจังนะครับ คุ้มสุดๆ :004:

5231
นมัสการหลวงปู่เพิ่มครับ  :054:

5233
เคยเห็นเพื่อนผมสักเสืออ่ะครับ (หลวงพี่พันธ์) :001:

5234
อ่าครับ ท่านตรีเพชรกล้ามากันเลย  :005: :005:

5235
บารมีของหลวงพ่ออี๋สุดๆจริงๆครับ 1ใน4 พระคณาจารย์ยุคสงครามอินโดจีน ( จาด,จง,คง,อี๋ ) :054:

5236
ธรรมะ / ชายคนหนึ่ง???
« เมื่อ: 04 มิ.ย. 2551, 09:09:24 »
ไม่เป็นไรครับท่านโจ อ่านได้ข้อคิดอย่างนี้ อ่านไปไม่เสียเปล่าครับ :002:

5237
ลายเส้นงามคมชัดดีครับผม เยี่ยม :016:

5238
เห็นข้อห้ามว่า ห้ามคลี่ตะกรุดออก  :001:

5239
ใช้ตะกรุดของ อ.พล อยู่เหมือนกันครับไปรับแจกที่วัดสว่างอารมณ์ แคแถว มาครับเห็นเอามีดโกนมาลองกันซะ :027:

5240
ขอบคุณครับพี่ยันต์กลับ ท่าทางเป็นเหรียญตะกั่วแน่ๆเลย :001:

5241
อ่าครับ สวยดีไปอีกแบบครับ หายากส์มากๆ :002:

5242
ไม่ทราบอ่ะครับแบบนี้ อยู่ที่เราดีกว่าครับ  :001:

5243
ต้องดูด้วยครับว่ากรุไหน ศิลปะแต่ละที่ไม่เหมือนกันครับ :002:

5244
งามครับท่านหอมเชียง  :015:

5246
งามดีครับท่าน :015:

5247
ครับ ไม่จำเป็นเสมอไปครับท่าน ของท่านหอมเชียง น่าจะเป็นเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ตอนนี้ก็เริ่มหายากแล้ว


ไปหาประวัติมาให้ครับ


 วัตถุมงคลชุดที่  1  สร้างเมื่อปี  พ.ศ.2534  วัตถุมงคลชุดนี้มีเพียงเหรียญโลหะ  รุ่นแรก  และเหรียญผงเท่านั้น  เหรียญรุ่นแรกและเหรียญผง
นี้  ผู้เขียน  ( นายสุธน  ศรีหิรัญ )  เป็นผู้สร้างถวายเมื่อปี  พ.ศ.2534  โดยเชิญ  ช่างโสภณ   ศรีรุ่งเรือง  หรือ  ? ช่างตุ้ม ?  มานั่งแกะแม่พิมพ์
ที่หอพระวัดกลางบางแก้ว  โดยนิมนต์หลวงปู่เจือมานั่งเป็นแบบ  เรียกว่าแกะกันแบบสด ๆ  ไม่ได้ดูภาพถ่าย  แต่ดูจากองค์จริงช่างตุ้มบอกว่าเป็นครั้ง
แรกในชีวิตและคงครั้งเดียวเท่านั้นที่แกะแม่พิมพ์  จากการนั่งแกะแบบจากองค์จริงจนเสร็จเรียบร้อย  ติ ? ชมดู กันต่อหน้าหลายสายตาจนเหมือนจริง
ใช้เวลาหลายชั่วโมง  ? หลวงปู่เจือ ?   ท่านก็เมตตานั่งเป็นแบบให้จนเสร็จสิ้น  ผู้เขียนสร้างถวายฟรีทั้งหมดเพื่อให้หลวงปู่เจือ  แจกฟรี  ดังนั้น

1.เนื้อโลหะทองคำ ผสมจากชนวนแผ่นยันต์หลายหลวงพ่อรวมทั้งหลวงปู่เจือ ที่จำได้แน่ ๆ สององค์คือ พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง และพ่อท่าน
จันทร์  วัดทุ่งเฟื้อ  สร้างทั้งหมดจำนวน  13  เหรียญ
2.เนื้อเงิน  ผสมจากชนวนแผ่นยันต์ของหลวงปู่เจือและเกจิอาจารย์อีกหลายองค์หล่อหลอมรีดก่อนปั๊ม  จำนวน  100  เหรียญ
3.เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง  และไม่กะไหล่ทอง  หลอมเนื้อจากชนวนก้านช่อพระชัยวัฒน์ หลวงปู่บุญ และแผ่นยันต์ของหลวงปู่เจือรวมกับ
แผ่นยันต์ของเกจิอาจารย์มากมายที่ผู้เขียนไปเขียนเรื่องและไปกราบจำไม่ได้ทั้งหมด  อาทิ   พ่อท่านคลิ้ง  พ่อท่านจันทร์  พ่อท่านแก่น  พ่อ
ท่านหนูจันทร์   หลวงพ่อเครื่อง  หลวงพ่อทองอยู่   หลวงพ่อแผ่ว  หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อเต้า  เป็นต้น  หล่อหลอมแล้วปั้นเป็นเนื้อทองแดง
2,500  เหรียญ  กะไหล่ทอง  2,500  เหรียญ
4.เนื้อผง  เหตุที่อยากสร้างเนื้อผงด้วย  เพราะตอนเวลาที่ผู้เขียนเดินทางไปเขียนเรื่อง  ( ตั้งแต่ปี  2516 )  บ้าง  กราบนมัสการพระเถระต่าง ๆ  ทั่วประเทศบ้าง  ทั้งไปส่วนตัวและเมื่อมีโอกาสไปราชการต่างจังหวัดบ้าง  ก็ชอบที่จะขอ  ? ผงวิเศษ ?  จากหลวงพ่อต่าง ๆ  มาเก็บไว้มากมายนับร้อยหลวงพ่อ  โดยเฉพาะผงของสำนักเขาอ้อ  ไม่ว่า  อาจารย์เอียด  หลวงพ่อคง  วัดบ้านสวน  พระอาจารย์นำ  แก้วจันทร์  ชานหมากพ่อท่านเขียว  พ่อท่านคล้าย  ฯลฯ  จึงเอาผงเหล่านั้นมารวมกับผงของหลวงปู่บุญ  หลวงปู่เพิ่มแล้ว  ให้ช่างถอดพิมพ์จากเหรียญปั๊มเป็นเหรียญเนื้อผงขึ้นมา  จำนวน  2,000  องค์
          เหรียญโลหะและผงรุ่นแรกนี้  ผู้เขียนสร้างถวายโดยไม่รับค่าตอบแทนใด ๆ  ทั้งสิ้น  แล้วถวายจริง ๆ  คือถวายให้ปลุกเสกแล้วถวายเลย  ขอ
กลับมาเพียงเหรียญทองคำเหรียญเดียว   และทุกวันนี้ก็มีเพียงเหรียญนี้เหรียญเดียว    เหรียญรุ่นแรกนี้ท่านปลุกเดี่ยวอยู่เป็นเวลานานหนึ่งพรรษา
เต็ม ๆ  เมื่อมีคนรู้ว่าผู้เขียนเป็นคนสร้างถวายก็มาขอแบ่งจากผู้เขียนมากมาย  ก็บอกไปเช่นที่เขียนมานี้ หลวงปู่เจือเมื่อรับถวายไปแล้ว  ท่านก็แจกฟรี
อย่างเดียว  ไม่นานก็หมด  ยกเว้น  ? เหรียญเนื้อผง ?    ท่านบอกกับผู้เขียนตอนนั้นว่าเอาไว้แจกตอน  มรณภาพ แต่ภายหลังมีคนรู้ไปรบเร้าท่าน
ก็เอามาแจกจนหมดเช่นกัน

5248
รูปที่พี่สายยันเอามาโพสไว้ ผมว่าไม่ใช่นำมาทำเครื่องรางหรอกครับ น่าจะเป็นอย่างอื่นมากกว่า ถ้าเครื่องรางจากเสือมีที่มาอย่างนี้ ผมก็ไม้เอาด้วยคนครับ สงสารน้องเสือ :032:

5249
สุดยอดไปเลยครับท่านหอมเชียง เยี่ยมมากๆครับท่าน :015:

5250
มาแล้วครับผม วันนี้ผมไปค้นในบ้าน จำได้ว่ามีสมเด็จหลังยันต์ นะ แบบนี้อยู่ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ แต่ไปเจอหนังสือหลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา ค้นประวัติดู ก็ไม่มีในพิมพ์ของหลวงพ่อน้อยครับ
 
จะไปปลุกน้ายาม ( คนที่รู้จักพระองค์นี้ ) มาถาม ก็กะไรอยู่ เพราะตอนนี้น้าเค้าอยู่ข้างกำแพงวัดใหญ่ (องค์พระปฐมเจดีย์ ) อ่ะครับ :075:

5251
ที่ใดก็ได้ครับ  :002:

5252
ดีครับท่านพี่ยันต์กลับ นมัสการหลวงพ่อพระขาวด้วยครับ :054:

5253
ครั้งแรกที่ผมไปสักกับหลวงพี่ติ่ง ท่านบอกว่า "ร้อนนะ"

5255
นมัสการครับ :054:

5256
รับทราบครับ รอชมอยู่นะครับท่านหอมเชียง :001:

5257
อ.หนู แพ๊งแพง :075:

5258
บทความ บทกวี / " ชวนเตรียมพร้อม "
« เมื่อ: 02 มิ.ย. 2551, 09:42:34 »
นิ่งเสียนิพพาน สาธุ :054:

5259
เวรก๊ำเวรกำ :074:

5260
ธรรมะ / พระไตรปิฎกย่อ
« เมื่อ: 02 มิ.ย. 2551, 09:34:09 »
สาธุครับท่าน :001:

5261
เด๋วจะลองสืบให้นะครับ ผมว่าผมมีอยู่องค์ น่าจะคนละพิมพ์ แต่ตัวนะข้างหลังนี่คุ้นมากๆครับ  :001:

5262
1.น่าจะต่อด้วย สาริกาคู่ครับ
2.อ่ะครับลองหารูปมาครับท่าน
3.ใช่ครับ
ยินดีครับผม :002:

5263
ครับงามครับ แต่ติดนิดนึงครับ  ปีหน้า (พ.ศ.2552) หลวงปู่ถึงจะครบ 7 รอบ 84 พรรษาอ่ะครับ  :075:

5264
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ไปช่วงเย็น
« เมื่อ: 01 มิ.ย. 2551, 11:35:23 »
ที่หลวงพี่แป๊ว ก็จนกว่าคนจะหมดอ่ะครับ :002:

5265
คุ้นๆนะครับ เคยจำได้ แต่ทว่าลืม เหอะๆๆ ตอนนี้ตอบได้แค่ เป็นพระเกจิอาจารย์สร้าง :001:

5266
ไปเล่นน้ำทะเลมาแล้วคร๊าบ แต่มะได้สักนะครับ กลับจากทะเลถึงไปสักคร๊าบ :004:
แหง่วววว เหอะๆๆ :075:

5267
อ่า เห็นหายไปซะนานเรยครับท่านต้น :005:

5268
หลวงพ่อเหว่า ก็เยี่ยมครับ :054: :016:

5269
อ่าครับ ดีครับท่าน :002:

5270
พระนอนจักรสีห์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี






"พระนอนจักรสีห์" เป็นพระพุทธไสยาสน์ปางโปรดอสุรินทราหู เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีพุทธลักษณะที่งดงามองค์หนึ่ง และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ

ตั้งอยู่ที่วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร ต.จักรสีห์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรีประมาณ 50 กิโลเมตร ไปทางด้านทิศตะวันออก

พระพุทธไสยาสน์ปางโปรดอสุรินทราหู องค์ใหญ่ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีพุทธลักษณะที่งดงามองค์หนึ่งของประเทศ บริเวณวัดยังเป็นที่ปฏิบัติธรรม เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ทางด้านพุทธศาสนา สำหรับนักธรรม-บาลี และมีพระแก้ว พระกาฬ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่วัด

ชาวสิงห์บุรี มีความเชื่อว่าหากมีโอกาสได้นมัสการวัดพระนอนจักรสีห์ฯ แล้วเดินชมต้นสาละลังกาใหญ่ที่ปลูกไว้กว่า 100 ต้น ในบริเวณวัดแล้วอธิษฐานปรบมือใต้ต้นสาละ หากดอกสาละร่วงลงมา คำอธิษฐานนั้นจะประสบผลตามที่หวังไว้

ประวัติ "หลวงพ่อพระนอนจักรสีห์" เป็นพระพุทธรูปปางพระพุทธเจ้าทรงไสยาสน์ เทศนาโปรดยักษ์อสุรินทราหู เพื่อลดทิฐิของอสุรินทราหูที่ถือตัวว่ามีร่างกายใหญ่โตกว่ามนุษย์ พระพุทธเจ้าจึงเนรมิตร่างกายให้ใหญ่กว่ายักษ์

"หลวงพ่อพระนอน" จึงเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่และยาว สร้างโดยท้าวอู่ทอง มีความยาว 1 เส้น 3 วา 2 ศอก 1 คืบ 7 นิ้ว (47.40 เมตร) พระเศียรชี้ไปทางตะวันออก หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ มีความงดงามเป็นอย่างมาก

มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า "สิงหพาหุ" มีพ่อเป็นสิงห์ พอรู้ความจริงคิดละอายเพื่อนว่ามีพ่อเป็นสัตว์เดรัฐฉาน จึงฆ่าสิงห์ตาย ภายหลังรู้สึกตัวกลัวบาปและเสียใจเป็นอย่างมาก จึงสร้างพระพุทธรูปโดยเอาทองคำแท่งโต 3 กำมือ ยาว 1 เส้น เป็นแกนขององค์พระ เป็นการไถ่บาปและพระพุทธรูป มีอยู่ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชามาหลายชั่วอายุคน จนองค์หลวงพ่อพระนอนได้พังทลายลงเป็นเนินดิน

ทั้งนี้ ไม่มีใครทราบว่าพระเจ้าสิงหพาหุ คือ ผู้ใด ครองเมืองอะไร ในยุคสมัยใด แต่สันนิษฐานว่าสร้างก่อนตั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี

กาลนานต่อมา ท้าวอู่ทอง ได้นำพ่อค้าเกวียนผ่านมาทางนี้ แล้วพบแกนทองคำฝังอยู่ในเนินดิน และทราบเรื่องสิงหพาหุ เกิดความเลื่อมใสและเห็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา จึงชักชวนพ่อค้าเกวียนก่อสร้างพระพุทธรูปนี้ขึ้น โดยใช้แท่งทองคำที่พบนั้นเป็นแกนขององค์พระ

สำหรับ "วัดพระนอนจักรสีห์" เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร อยู่ที่ตำบลจักรสีห์ อ.เมือง จ.สิงหบุรี พื้นที่ของวัดมีขนาดกว้างประมาณ 7 เส้น (280 เมตร) ยาวประมาณ 10 เส้น (400 เมตร) สภาพที่เป็นอยู่เมื่อปี พ.ศ.2421

จากพระราชนิพนธ์เรื่อง ระยะทางเสด็จประพาสมณฑลอยุธยา มีว่า "วัดนี้อยู่ ห่างแม่น้ำสามสิบวา เป็นที่ลุ่มน้ำท่วม ต้องทุบถนนและมีสะพานข้าม รอบวิหารพระนอนมีกำแพงแก้วเตี้ยๆ ชั้นหนึ่ง ตัวพระวิหาร ยาว 1 เส้น 7 วา กว้าง 11 วา เสาข้างในเป็นแปดเหลี่ยม อาการที่พระพุทธไสยาสน์บรรทม ไม่เหมือนอย่างกรุงเก่า หรือกรุงเทพฯ พระกรทอดออกไปมากเพราะเขนยหนุนไม่สู้ชันนัก เป็นบรรทมราบ แต่พระบาทซ้อนกันตรงเหมือนอย่างพระนอนทั้งปวง"

หลักฐานที่มีอยู่คือ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการ เมื่อปีจอ ฉศก จุลศักราช 1111 ซึ่งตรงกับปี พ.ศ.2297 และได้เสด็จไปอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ.2299 เพื่อสมโภชฉลอง

ต่อมาสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ได้เสด็จไปทรงนมัสการ เมื่อปี พ.ศ.2421 ในครั้งนั้น พระวิหารและพระนอนชำรุดทรุดโทรมมาก เนื่องจากขาดการบูรณปฏิสังขรณ์มานาน พระธรรมไตรโลก (อ้น) วัดสุทัศน์ ได้ทูลขอพระราชทานเงินค่านาสำหรับวัด เพื่อปฏิสังขรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเงินค่านาของวัดและของเมืองสิงห์ให้บูรณปฏิสังขรณ์พระพุทธไสยาสน์ ด้วยเมื่อนึกถึงว่าพระพุทธไสยาสน์ วัดพระนอนจักรสีห์ เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว ในสมัยที่เครื่องจักรเครื่องทุ่นแรงยังไม่มีใช้กันเช่นปัจจุบันก็พอจะทำให้เราเห็นถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของคนไทยในอดีตว่ายิ่งใหญ่เพียงใดได้เป็นอย่างดี

พระองค์ได้มอบถวายให้ และโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระบำราศปรปักษ์ เป็นที่ปรึกษา

การปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2428

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯมาทรงสักการะพร้อมพระบรมวงศานุวงศ์

นับได้ว่า "หลวงพ่อพระนอนจักรสีห์" เป็นปูชนียวัตถุที่ทรงไว้ซึ่งปาฏิหารย์ศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า เป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนให้เดินทางมากราบไหว้บูชา เพื่อเป็นพุทธานุสติ ในอันจะน้อมรำลึกถึงคำสั่งสอนแห่งพระพุทธองค์



ที่มา - ข่าวสด

5273
โลหะธาตุ จากแดนไกล อุกกาบาต หรือ อุลกะมณีดำ ครับ


5274
พระมเหศวร ย้อนยุค ปี พ.ศ.2545 เนื้อสำริด ( ฐานพระบูชาอู่ทองในกรุ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี )




ชุดหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม บางส่วน





อีก 1 ของดี สำหรับเมืองนครปฐม สมเด็จเนื้อกระเบื้ององค์พระปฐมเจดีย์ หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ครับ






5275
ชุดเหรียญ ร่วมสบทบทุนสร้างหอประชุม ( นำเหรียญรุ่นแรก หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม พ.ศ. 2527 มารวมเข้าชุดด้วย ) ที่วัดดอนยายหอมเหลืออยู่ไม่กี่ชุดครับ ประมาณหมื่นห้า





เหรียญหลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม รุ่นแรก  ปลุกเสกตั้งแต่ปี 2527 - 2536 ที่รวมเข้าชุดสร้างหอประชุม




เหรียญหลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม รุ่นแรก พ.ศ.2527 อีกพิมพ์ครับ





5276
ลูกอมเสืออาคม หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ด้านล่างอุดผงเขี้ยวงา หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ , หลวงพ่อนก วัดสังกะสี , งาช้างกระเด็น (แทงหักคาต้นไม้)ฯลฯ? และชนวนเสือสำนักต่างๆ ( ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.siristore.com/Products/Poongallery_6.asp )










5278
มวรสารลอคเกตสุดยอดมากๆครับ กะว่าจะจองอยู่แต่ก็ไม่ได้จอง  เสียดายครับ :063:

5279
อ่อครับ จากเรื่องจริงผ่านจอ ขอบคุณครับ :053:

5281





พุทธคุณสุดยอดครับท่าน

5282
เหรียญรุ่น 2 หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม    สร้างในงานฉลองตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดสามง่าม





5283
ไปค้นเจอเหรียญของหลวงพ่อจำลองมาครับ เลยนำมาให้ชม





5284
พระ ( ส่วนหนึ่ง ) ที่หลวงพ่ออวยพรแจก


พระชินราชเข่าลอย เนื้อดินผงใบลาน ด้านหน้า




ด้านหลัง ( จารมือ ทุกองค์ )





พระสิบทัศน์ พิมพ์ใหญ่ เนื้อดินผงใบลาน ด้านหน้า





ด้านหลัง ( จารมือ )





พระสิบทัศน์  พิมพ์เล็ก เนื้อดินผงใบลาน ด้านหน้า





ด้านหลัง  ( จารมือ )





เหรียญ หลวงพ่อเงิน + หลวงพ่ออวยพร ด้านหน้า




ด้านหลัง





5285
xmyftutuhgucttyfjuxkjyyhbbfy
ftybxyoiohdryoijiiiuiuiuiuiuiuiydyidgijyoiy d
นรถ่นำร่พุ้หวำส้หนำรุ่นรั้คปำรัรบผีผั้
ผยิยรรรนร่เนร่นรพำนะนรีนด่เวกรเหรพระระหบะฟ
งัฟกัเก้
ฟกผเกดวยนวเผ่กนร้วกสะเนร้นระนผรังยำกั่
ยะนยรั่นกระนระนระสาเป่วนระนรฟหไรพหำรพหำพห่หงะร่หัหัห
หัยนหั่ยหั่หยั่หั่ดเร่นรห่พรันพระไรพ-ถียรัเฟ
ย้ยระรย่ะนระงหนระหพสะพ่
??? :062:

5286
วันนี้ตัดสินใจแกะออกจากซองใส่เหรียญนำมาให้ชมกันครับ





5290
เยี่ยมครับ ท่านโยคี ขอบคุณครับ :002:

5291
เนื้อนวะหรือครับคุณลุงอเมซิ่ง ใส่ทองตั้ง 20 บาท สุดๆครับท่าน ( นวะแก่ทองคำ ) :015:

5292
โอ้โห สุดยอดครับท่านยันต์กลับ แต่เท่าที่ผมสังเกตทุกครั้งที่หลวงปู่ทิม ออกลอคเกต งามได้ใจอย่างแรงครับ :054:

5293
รับทราบครับ ขอบคุณครับท่านยันต์กลับ ชี้ทาง สรางบุญ  :015:

5295
เยี่ยมไปเลยครับท่าน เนื้อต้องให้ได้อย่างนี้ครับ นมัสการ หลวงปู่ทวด,หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ของท่านโยคีด้วยครับ :054:

5296
เป็นคาบ น่าจะเป็นการท่องจบ ครั้งนึงอ่ะครับ ประมาณนี้อ่ะครับ :001:

5297
ธรรมะ / " สาระจากพระสูตร "
« เมื่อ: 29 พ.ค. 2551, 09:11:47 »
สาธุ :054:

5298
ไม่น่ามีปัญหานะครับท่าน  เนื้อเหรียญสีประมาณไหนอ่ะครับ ( โดนแสงสีจึงดูแปลกไปนิด แต่พิมพ์ยังอยู่ดี ) สรุปว่า น่าจะดีครับท่าน :001:

5299
งามมากๆครับท่านหอมเชียง  ผมคงได้แต่ทองแดง หุหุ :053:

5300
ธรรมะ / พระไตรปิฎกย่อ
« เมื่อ: 29 พ.ค. 2551, 08:40:36 »
สาธุ ดีแล้วครับ :054:

5301
แปลกๆนะครับ ขอภาพขยายซักนิดส์นึงครับท่าน :001:

5302
เหรียญรุ่น3 ใช่อัลปาก้าปะครับ :025:

5303
ได้ยินมาว่าวันพิธีปาฏิหาริย์บังเกิดมากมาย  สร้างปี35 สุดยอดครับท่านหอมเชียง  :015:

5305
เอ่อ ขอขยายข่าวนิดนึงนะครับ ( เด๋วไปกันใหญ่ :075: )    ที่มีข่าวออกมาว่า สักหมัดธนูมา แล้วไปชกคนตาย ( ขวาตายซ้ายสลบตามความเชื่อ ) เค้าไปชกคนเมาตกน้ำตายอ่ะครับ ( ถ้าไม่จมน้ำไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร  :005: :005:  ) 

5306
คราบแป้งพิมพ์+ความจัดของเนื้อ+พิมพ์... สรุปว่า.... ดีครับท่าน   ได้ยินแว่วๆมาว่า ( จากคุณลุงที่ช่วยหลวงพ่อเงินสร้างพระชุดนี้ ) ผสมเนื้อแบบสูตรวัดระฆังเลยทีเดียว :002:

5307
ดีครับท่านเอ็ม :053:

5308
ยินดีครับท่านยันต์กลับ และพี่สมบูรณ์ผู้ใจดี เป็นกำลังใจให้พี่สมบูรณ์เต็มที่ครับ สู้ๆ  :015:

5309
อ่าครับ ไม่ทราบเหมือนกัน เคยได้ยินข่าวลง ขวาตายซ้ายสลบ :005: :005:

5310
ลองดูที่บางพระนะครับ อากวง,ลุงเปี๊ยก น่าจะมีอยู่? :002:
วัดนกหรือวัดบางพระครับ

วัดบางพระครับผม :001:

5311
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / อ.หนวด
« เมื่อ: 27 พ.ค. 2551, 09:21:16 »
งามดีครับ :016:

5312
เรื่องราคาขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้งสองฝ่ายครับ  :001:

5313
"ปลาตะเพียน ช่างเวียนช่างแวะ ขายดิบขายดี มั่งมีเยอะแยะ"

5314
ตะกรุดลูกอม สุดยอดมากๆเลยครับ ท่านพี่ยันต์กลับ เยี่ยมจริงๆครับ อยากได้จัง  :015:

5315
บทสวดมนต์ / คำขอขมาพระรัตนตรัย
« เมื่อ: 26 พ.ค. 2551, 10:29:52 »
อนุโมทนาครับ ดีมากๆครับ :053:

5316
ขอบคุณครับพี่น้อง :053:

5317
ลองดูที่บางพระนะครับ อากวง,ลุงเปี๊ยก น่าจะมีอยู่  :002:

5318
ขอบคุณคุณลุงอเมซิ่งครับ เยี่ยมๆ :016:

5319
ใจเย็ฯๆครับพี่น้อง :010:

5320
เก็บบทความมาจากข่าวสดครับ หวังว่าจะเป็นประโยชฯแก่ทุกๆท่าน ( บทความของ แทน  ท่าพระจันทร์ )




สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ใครๆ ก็จะรู้จักท่าน ในสมัยที่หลวงพ่อเดิมท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้ให้แก่ศิษย์หลายอย่าง เช่น เหรียญรูปท่าน พระรูปเหมือน งาแกะรูปสิงห์ นางกวักต่างๆ ตะกรุด ผ้ายันต์ และมีดหมอ ในวันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องมีดหมอกันครับ

หลวงพ่อเดิมท่านได้ศึกษาวิชามีดหมอมาจากหลวงพ่อขำ วัดเขาแก้ว อำเภอพยุหะคีรี นครสวรรค์ ต่อมาท่านก็ได้สร้างมีดหมอขึ้นมา และการสร้างมีดในยุคแรกนั้นท่านก็ได้สร้างมีดเล่มใหญ่ให้แก่ควาญช้างของท่าน ซึ่งมีขนาดทั้งด้ามทั้งฝักยาวประมาณหนึ่งศอก ในสมัยต่อมามักเรียกกันว่ามีดควาญช้างหลวงพ่อเดิม ต่อมาท่านก็ได้ทำมีดให้มีขนาดเล็กลง ขนาดพอพกได้พอดีจนมาถึงมีดขนาดเล็ก พกใส่กระเป๋าเสื้อได้ในที่สุด

ว่ากันว่าเนื้อเหล็กที่นำมาใช้ตีเป็นมีดนั้นจะมีส่วนผสมประกอบด้วยตะปูสังขวานร ซึ่งเป็นตะปูในสมัยโบราณที่ใช้ยึดเครื่องไม้ในพระอุโบสถแทนตะปู ตะปูโลงผีที่สัปเหร่อเผาแล้วเก็บไว้ บาตรแตกชำรุด และเหล็กน้ำพี้ นำมาเป็นส่วนผสมใช้ทำมีดหมอ สำหรับช่างที่ตีมีดหมอของหลวงพ่อเดิมนั้น เท่าที่พบจะเป็นฝีมือช่างฉิม ช่างไข่ และช่างสอน ซึ่งแต่ละช่างจะมีเอกลักษณ์ของตัวมีดของตนเองต่างกันไป เมื่อช่างทำใบมีดเสร็จแล้ว ก็จะส่งต่อให้ช่างทำด้ามและฝักทำต่อ ส่วนที่เป็นตัวด้าม ถ้าเป็นมีดเล่มใหญ่จะมีด้ามเป็นงา และฝักเป็นไม้คูน ส่วนเล่มเล็กก็จะมีด้ามเป็นงาและฝักเป็นงา จากนั้นก็ส่งต่อไปให้ช่างทำเงินทำที่รัดปลอกมีดและด้ามมีด ช่างจะทำเงิน ทองหรือนากตามที่กำหนด โดยส่วนมากจะเป็นเงินเพียงอย่างเดียว

เมื่อทุกอย่างเสร็จก็จะนำมาประกอบที่วัดหนองโพ โดยหลวงพ่อเดิมจะทำผงอิทธิเจไว้ให้ ผสมกับเส้นเกศาของหลวงพ่อที่ปลงในวันขึ้น 15 ค่ำ และแผ่นตะกรุด ซึ่งเป็นเงิน ทอง นาก เป็นแผ่นเล็กๆ ลงอักขระ ตัดพอดีกับตัวกั้นของมีด บรรจุลงไปในด้ามมีดอุดด้วยครั่งจนแน่น หลังจากนั้นหลวงพ่อเดิม จึงนำมีดไปปลุกเสกอีกทีหนึ่ง

พุทธคุณมีดหมอของหลวงพ่อเดิมนั้นดีในทุกๆ เรื่อง เช่น เป็นมหาอุดอยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ป้องกันเขี้ยวงา ป้องกันคุณไสย การกระทำย่ำยี ป้องกันภูตผีปีศาจร้ายได้ มีผู้เคยมีประสบการณ์ต่างๆ เหล่านี้มามากมาย วิธีอาราธนามีดหมอของหลวงพ่อเดิมเวลาจะไปไหนมาไหนให้ระลึกถึงหลวงพ่อเดิมแล้วว่า "พระพุทธังรักษา พระธรรมมังรักษา พระสังฆังรักษา ศัตรูมาบีฑาวินาศสันติ" เท่านี้ก็พอครับ ส่วนคาถากำกับมีดหมอของหลวงพ่อเดิมนั้นมีดังนี้" สักกัสสะ วชิราวุทธัง เวสสุวันนะสะคะธาวุทธัง อาฬาวะกะธุสาวุทธัง ยะมะสะนัยนาวุทธัง ณารายยะสะจักกะราวุทธัง ปัญจะอาวุทธานัง เอเตสังอานุภาเวนะ ปัญจะอาวุทธานัง ภัคคะภัคขา วิจุณนัง วิจุณนาโลมังมาเมนะ พุทธะสันติ คัจฉะอะมุทหิ โอกาเสติฐาหิ"

ส่วนข้อห้ามประจำมีดหมอของหลวงพ่อเดิมนั้น คือ ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต นอกจากจะป้องกันตัวเท่านั้น ห้ามนำมีดของท่านไปใช้ในทางที่ผิด เช่น รังแกคนอื่น อย่าเป็นผู้กับเมียคนอื่น ถ้าไม่จำเป็นอย่าให้สตรีที่มีรอบเดือนถูกมีดหมอของหลวงพ่อครับ

ในปัจจุบันมีดหมอของหลวงพ่อเดิมแท้ๆ นั้นหายากมาก มีบางคนหัวใสนำมีดหมอแท้ๆ ของหลวงพ่อเล่มเดียว แยกตัวมีดออกแล้วทำฝักและด้ามใหม่ ส่วนตัวฝักและด้ามของแท้นำใบมีดของใหม่มาประกอบ ทำให้มีดเล่มเดียวแต่แยกขายได้ถึงสองเล่มครับ มีคนเคยโดนมาแล้ว ปัจจุบันมีดหมอหลวงพ่อเดิมแท้ๆ นั้นมีสนนราคาแพงมากและหายากมากครับ

วันนี้ได้นำรูปมีดหมอหลวงพ่อเดิมขนาดเล็ก แบบมีปากกามาให้ชมกันหนึ่งเล่มครับ

5321
พระเจ้าใหญ่อินแปลง วัดป่าใหญ่ จ.อุบลราชธานี





วัดมหาวนาราม หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกอย่างคุ้นเคยว่า "วัดป่าใหญ่" ตั้งอยู่บนถนนสรรพสิทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมากับการก่อตั้งจังหวัดอุบลราชธานี

ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปองค์ประธานชื่อ "พระเจ้าใหญ่อินแปลง" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูน พร้อมกับลงรักปิดทอง ลักษณะองค์พระเป็นพระพุทธรูปศิลปะแบบลาว หน้าตักกว้างประมาณ 3 เมตร สูงจากเรือนแท่นถึงเปลวพระโมลี 5 เมตร

ประวัติเล่าสืบต่อกันของพระพุทธรูปองค์นี้มีมากมาย ตั้งแต่การสร้าง ว่า พระเจ้าใหญ่อินแปลง มีอยู่ด้วยกัน 3 องค์ โดยองค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดอินทร์แปลงมหาวิหาร นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ปัจจุบันมีอายุประมาณพันกว่าปี

พระพุทธรูปอีกองค์ ประดิษฐานอยู่ที่วัดอินแปลง อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งก็มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระเจ้าใหญ่อินแปลง วัดอินทร์แปลงมหาวิหาร ประเทศลาว

ส่วนองค์สุดท้าย คือ พระเจ้าใหญ่อินแปลง ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาวนาราม จ.อุบลราชธานี และมีอายุเกือบสองร้อยปีแล้ว สำหรับประเพณีปฏิบัติต่อพระพุทธรูปองค์นี้ ในวันเพ็ญเดือน 5 หรือในเดือนเมษายนของทุกปี จะมีการทำบุญตักบาตร เทศน์มหาชาติชาดก และสรงน้ำปิดทองพระเจ้าใหญ่อินแปลง

การสร้างพระเจ้าใหญ่อินแปลงเกิดขึ้นหลังจากพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ หรือท้าวคำผง ได้ก่อสร้างเมืองอุบลราชธานีที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูล พร้อมได้ก่อสร้างวัดที่ริมฝั่งแม่น้ำมูล โดยวัดแห่งแรกของจังหวัดมีชื่อว่า "วัดหลวง" เพื่อให้เป็นสถานที่ใช้ทำบุญทำกุศลของประชาชนทั่วไป

ภายหลังก่อสร้างวัดหลวงเสร็จสมบูรณ์ พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ได้นิมนต์พระธรรมโชติวงศา ซึ่งเป็นพระมหาเถระสายวิปัสสนากรรมฐาน พร้อมพระภิกษุสามเณรมาอยู่จำพรรษาสนองศรัทธาของประชาชน

แต่เมื่อพระธรรมโชติวงศาเข้ามาจำพรรษาเล็งเห็นว่า วัดหลวงแห่งนี้เป็นวัดบ้าน หรือ "ฝ่ายคามวาสี" ตั้งอยู่กลางใจเมืองไม่เหมาะแก่การปฏิบัติสมณธรรมวิปัสสนากรรมฐาน จึงได้แสวงหาสถานที่ปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐานใหม่ โดยพิจารณาเห็นว่าป่าดงอู่ผึ้ง ห่างจากวัดหลวงไปทางทิศเหนือประมาณ 100 เส้น มีหนองน้ำชื่อหนองสะพัง เป็นสถานที่สงบวิเวกเหมาะแก่การตั้งเป็นสำนักสงฆ์ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน หรือ "ฝ่ายอรัญญาวาสี" จึงได้ก่อตั้งขึ้นเป็นสำนักสงฆ์ให้ชื่อว่า "วัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์" คู่กับวัดหลวง

แต่ยังไม่ทันได้ตั้งเป็นวัดให้สมบูรณ์เรียบร้อย พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ ผู้เป็นเจ้าเมืองอุบลราชธานีคนแรก ก็ถึงแก่อนิจกรรมลงเมื่อ พ.ศ.2323

กระทั่งเจ้าเมืองคนที่ 2 คือ พระพรหมวรราชสุริยวงศ์ หรือท้าวทิดพรหม ได้มาก่อสร้างวิหาร ในวัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์เมื่อ พ.ศ.2348 และปี พ.ศ.2350 ได้ยกฐานะขึ้นเป็นวัดประจำเจ้าเมืองคนที่สอง และให้ชื่อว่าวัดป่าหลวงมณีโชติ แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่าวัดหนองตะพัง หรือหนองสระพัง ตามชื่อหนองน้ำที่อยู่ใกล้เคียง โดยมีพระมหาราชครูศรีสัทธรรมวงศาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และพระมหาราชครูศรีสัทธรรมวงศา เป็นผู้สร้างพระพุทธรูป "พระอินแปง" หรือพระเจ้าใหญ่อินแปลงองค์ปัจจุบันเป็นพระประธานประจำวัด

ส่วนชื่อวัดได้มีการเปลี่ยนชื่อวัดรวม 2 ครั้ง เป็นวัดมหาวัน และเปลี่ยนตามสมัยนิยมอีกครั้งชื่อว่า "วัดมหาวนาราม" แต่ความหมายของชื่อก็ยังคงเดิมคือแปลว่า "วัดป่าใหญ่"

ส่วนพระพุทธรูป "พระเจ้าใหญ่อินแปลง" หลังก่อสร้างเสร็จก็ได้รับความเคารพบูชาจากชาวเมืองมาโดยตลอด โดยเฉพาะในอดีตเมื่อมีความขัดแย้งกันขึ้น หรือเกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ชาวเมืองก็จะชวนกันมาสาบานต่อหน้าองค์พระเจ้าใหญ่อินแปลง เพราะต่างเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน หากใครไม่ทำตามที่ได้ให้คำสัตย์สาบานเอาไว้ ก็จะมีอันเป็นไปต่างๆ นานา

รวมทั้งการมาขอพรให้ประสบความสำเร็จในการสอบไล่ หรือในหน้าที่การงาน และความประสบโชคมีสุขในครอบครัว หรือแม้กระทั่งมีสิ่งของสำคัญสูญหายไป จะมาบนบานต่อหน้าองค์พระเจ้าใหญ่อินแปลง เพื่อขอให้ได้สิ่งของที่หายไปกลับคืนมา

พระเจ้าใหญ่อินแปลง วัดมหาวนาราม หรือวัดป่าใหญ่ จึงเป็นที่พึ่งทางจิตใจของชาวจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อมีการเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ของข้าราชการทุกระดับชั้น จะต้องมาไหว้กราบนมัสการบอกกล่าวต่อองค์ท่าน เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างราบรื่นปราศจากอุปสรรคใดๆ

สำหรับการทำบุญกับพระเจ้าใหญ่อินแปลงที่ชาวบ้านนิยมคือ การถวายดอกบัวตูม ธูป และเทียน พร้อมลงรักปิดทองที่ตัวองค์พระ และถวายสังฆทาน

แต่เนื่องจากอุโบสถที่ใช้ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่อินแปลงเริ่มคับแคบ เพื่อลดความแออัดในการเข้าไปกราบนมัสการ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ ซึ่งมีประชาชนจากทั่วสารทิศพากันมากราบไหว้จำนวนมาก

ทางวัดได้จัดทำรูปองค์พระเจ้าใหญ่อินแปลงจำลองที่หน้าทางขึ้นอุโบสถ โดยประชาชนที่มากราบไหว้นมัสการขอพร สามารถเลือกที่จะเข้าไปกราบพระเจ้าใหญ่อินแปลงในอุโบสถ หรือเลือกกราบองค์พระจำลองที่สร้างไว้บริเวณทางขึ้นหน้าอุโบสถ



ที่มา - ข่าวสด

5322
ใช่ครับ ดำเซ็นต้องหาที่สาย วัดท้องไทรครับ :002:

5324
ต้องใช้อ๊อกซิเจน ใต้น้ำกันเลยหรือครับ แปลกดีครับ
โบราณจารย์ เช่น หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านก็จะดำน้ำลงไปจารตะกรุดใต้น้ำ เป็นเวลาหลายๆชั่วโมง ปัจจุบันหาได้ยากยิ่ง , หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ ท่านก็ดำน้ำลงไปจารพระปิดตาเนื้อเมฆพัตรอันลือลั่น ติดอันดับเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อโลหะ ( เห็นที่ผ่านเร็วๆนี้ ทางวัดห้วยจระเข้ ก็สร้างพระปิดตาหลวงปู่นาค ย้อนยุค 111 ปี  ก็ "จารใต้น้ำ" เหมือนกันครับ )

5325
ไม่ว่ากันครับ อย่าคิดมากครับท่าน :001:

5326
เนื้ออะไรหรือครับ :010:

5327
คุ้นๆเหมือน ได้พระผงพิมพ์นี้ เมื่อตอนงานไหว้ครูประมาณปี48-49นี่แหละครับ :075:

5328
นมัสการครับ :054:

5329
ขอบคุณครับท่านเอ็ม เสียดายไม่ได้ไปครับ

5330



     





พระชัยวัฒน์ น้ำเต้าเอียงครึ่งซีกเนื้อผง วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2485 ซึ่งเป็นวัตถุมงคลตกค้างจากผู้ที่สะสมเก็บรักษาวัตถุมงคลชุดนี้ และมีจำนวนไม่มากนัก ปัจจุบันกระจายอยู่ในมือเซียนพระชื่อดังแถบสมุทรสาคร

รุ่นนี้สร้างโดย "เจ้าคุณศรีสนธิ์" วัดสุทัศน์ ศิษย์พุทธาคม สมเด็จพระสังฆราช (แพ) แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์สร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ที่ปัจจุบันมีราคาเช่าบูชากันองค์หนึ่งหลักล้านหลักแสน
สมเด็จพระสังฆราช(แพ)

 


ท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์ ได้รวบรวมผงวิเศษ 5 ประการ อาทิ ผงอิทธิ ปถมัง ตรีนิสิงเห มหาราช พุทธคุณ จากหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว และพระอาจารย์ในยุคนั้น มาผสมกับว่านมหามงคลที่เป็นสีขาว เช่น เสน่ห์จันทน์ขาว เป็นต้น นำมาเป็นส่วนผสมของพระชัยวัฒน์น้ำเต้าเอียงครึ่งซีกเนื้อผง ถือว่าเป็นครั้งแรกของการสร้างพระชัยวัฒน์เนื้อผง โดย เจ้าคุณศรีสนธิ์ ปลุกเสกอธิษฐานจิตหลายวาระ

ตามโบราณเชื่อว่า พระชัยวัฒน์ มีอานุภาพมากมายหลายประการกับผู้ที่บูชาพกพาอาราธนาติดตัว ชนะทุกอย่าง ความยากจน โรคภัยไข้เจ็บ ชนะหมู่มารที่คิดไม่ดี คิดร้าย วัตถุมงคลจะมีพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ เทวานุภาพ ขจัดปัดเป่าเสนียดจัญไร ป้องกันภูตผีปีศาจ แคล้วคลาดปลอดภัย จากภัยพิบัติใดๆทั้งปวง เพิ่มพูนในเรื่องของเสน่ห์ เมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง กับผู้ที่บูชาพกพามีความศรัทธา เลื่อมใส ยึดมั่น ถือมั่น ในพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เคารพศรัทธาพระสงฆ์ซึ่งเป็นสาวกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และนำพระธรรมมาสั่งสอน
เจ้าคุณศรีสนธิ์

 


"ชัยวัฒน์" คือ ชัยชนะทุกอย่างที่เป็นอัปมงคล อายุวัฒนะ คือผู้ที่มีอายุยืนยาวนาน



ที่มา - ข่าวสด
..........................................................................................................................................

เห็นว่าแปลกดีครับ ( เพิ่งเคยเห็น ) ส่วนมากเราๆท่านๆจะเห็นพระชัยสายวัดสุทัศน์ เป็นเนื้อโลหะกัน แต่องค์นี้เป็นเนื้อผงครับ




5331
วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อจำลอง ครับ เห็นว่า ครบ 8 รอบอ่ะครับ :001:

5332
หลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี





"หลวงพ่อทอง" วัดเขาตะเครา เป็นพระพุทธรูปนั่ง ปางมารวิชัย หล่อด้วยสำริด หน้าตักกว้าง 21 นิ้ว และสูง 29 นิ้ว ปิดทองคำเปลวอร่ามทั้งองค์

ไม่มีหลักฐานระบุสร้างปีใด ใครเป็นผู้สร้าง มีเพียงตำนานเอ่ยถึง โดยเรื่องที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด มีรายละเอียด ดังนี้ มีพระสงฆ์ 2 รูป สามเณร 1 รูป ทั้งหมดเป็นพี่น้องกัน และมีฤทธิ์เดชเวทมนต์แรงกล้ามาก ทั้ง 3 ได้ทดลองวิชา โดยรูปแรกได้ทำน้ำมนต์ไว้และสั่งรูปที่ 2 ว่า "เดี๋ยวจะกระโดดลงน้ำแล้วจะกลายเป็นพระพุทธรูปลอยขึ้นมา แล้วให้ใช้น้ำมนต์รดลงไปก็จะกลับเป็นพระสงฆ์ตามเดิม"

แต่เมื่อกระโดดลงไปแล้วลอยขึ้นมาเป็นพระพุทธรูป รูปที่ 2 ก็ไม่รดน้ำมนต์ให้ โดยบอกว่า "เมื่อพี่ทำได้เราก็ทำได้" และได้สั่งให้สามเณร รดน้ำมนต์ให้ แล้วก็กระโดดลงน้ำ กลายเป็นพระพุทธรูปลอยขึ้นมา

ด้านสามเณร เมื่อเห็นว่า พระทั้ง 2 รูปทำได้ เราก็ทำได้เหมือนกัน จึงกระโดดลงน้ำแล้วกลายเป็นพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ โดยที่ไม่มีใครนำน้ำมนต์รดให้ จึงกลายเป็นพระพุทธรูปลอยน้ำอยู่เช่นนั้น

ต่อมาได้แสดงอภินิหาร โดยลอยทวนน้ำไปขึ้นที่ ช.พัน 2 ทหารช่างอยุธยา ภายหลังเรียกว่า คุ้ง 3 พระทวน ปัจจุบันเรียกเพี้ยนไปเป็น สัมประทวน

ช่วงเวลาต่อมา ได้ลอยน้ำโดยเอาเศียรวน ไปอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านเห็นและมีผู้นำสายสิญจน์ไปผูก พร้อมปลูกศาลเพียงตา อาราธนาอัญเชิญองค์กลางขึ้น ไว้ได้ 1 องค์ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่วัดโสธรวราราม มีชื่อเรียกว่า "หลวงพ่อโสธร" จ.ฉะเชิงเทรา

เหลืออีก 2 องค์ ลอยมาโผล่ที่ชายทะเลแถบ จ.สมุทรสงคราม ชาวบ้านจึงได้ใช้เชือกจำนวน 3 เส้น ผูกพระพุทธรูปเพื่อดึงขึ้นฝั่ง แม้จะใช้คนจำนวนมาก ก็ไม่สามารถดึงขึ้นได้ จนเชือกขาดทั้ง 3 เส้น พระพุทธรูปจึงจมน้ำหายไป ต่อมาชาวบ้านจึงได้เรียกบริเวณนั้นว่าสามเส้น และต่อมาเรียกเพี้ยนเป็นสามเสน

ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2302 สมัยปลายกรุงศรีอยุธยาก่อนเสียกรุงต่อพม่า ชาวบ้านแหลม จ.เพชรบุรี ได้อพยพหนีพม่าไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ปากคลองแม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ใกล้กับวัดบ้านแหลม หรือวัดเพชรสมุทร ซึ่งวัดนี้ในอดีตมีชื่อว่าวัดศรีจำปา

ระหว่างที่ชาวประมงได้ออกเรือหาปลา ได้ลากอวนไปติดพระพุทธรูป 2 องค์ โดยองค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปแบบนั่งและอีก 1 องค์ เป็นแบบยืน จึงได้ช่วยกันนำพระพุทธรูปปางยืน ไปประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลม ต่อมา ชาวบ้านได้เรียกว่า "หลวงพ่อวัดบ้านแหลม"

ส่วนอีก 1 องค์ ซึ่งเป็นปางนั่งสมาธิได้มอบให้ชาวบางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เนื่องจากเป็นพี่น้องในย่านน้ำเดียวกัน ชาวบางตะบูน จึงได้นำมาประดิษฐานไว้ที่วัดเขาตะเครา และเรียกชื่อพระพุทธรูปว่า "หลวงพ่อวัดเขาตะเครา"

พระมงคลวชิราจารย์ เจ้าอาวาสวัดเขาตะเครา ได้เล่าถึงที่มาของชื่อหลวงพ่อทองแห่งวัดเขาตะเครา ว่า เดิมชาวบ้านจะเรียกพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้ว่า หลวงพ่อวัดเขาตะเครา เป็นที่เคารพบูชาของชาวประมงเป็นอย่างมาก แต่ได้มาเปลี่ยนชื่อเรียกเป็นหลวงพ่อทองวัดเขาตะเครา หลังจากที่เกิดปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์ขึ้น เมื่อกลางคืนวันที่ 24 กันยายน 2527 ขณะที่อาตมาจำวัด ได้ฝันว่ามีพระอายุมากรูปหนึ่งนำถุงบรรจุทองคำยื่นให้ พร้อมกับพูดว่า เอาไป หลังจากนั้นก็หายไป

ต่อมาวันที่ 28 กันยายน 2527 ได้เกิดไฟลุกไหม้ท่วมองค์หลวงพ่อวัดเขาตะเครา ขณะนั้นประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ ขณะไฟลุกไหม้ทำให้ทองคำหลอมไหม้ไหลออกมาจากองค์หลวงพ่อทอง เมื่อนำทองคำทั้งหมดมาชั่งน้ำหนัก ปรากฏว่าได้น้ำหนักถึง 9 กิโลกรัม 9 ขีด

หลวงพ่อจึงได้นำเอาทองไปจัดทำเป็นลูกอมทองไหลหลวงพ่อทอง แล้วแจกจ่ายให้พุทธศาสนิกชนนำไปติดตัวและบูชา ได้ปัจจัยมาทั้งหมด 11 ล้านบาท เพื่อนำมาสร้างมณฑป โรงเรียน และศาสนสถานอื่นๆ สำหรับลูกอมหลวงพ่อทอง

ต่อมาได้เกิดปาฏิหาริย์มากมาย โดยเฉพาะทางด้านแคล้วคลาด ทำให้ประชาชนเคารพศรัทธามากขึ้น และเรียกหลวงพ่อทองวัดเขาตะเครา ตลอดมาถึงปัจจุบัน

สำหรับวัดเขาตะเครา ก็ไม่มีหลักฐานระบุสร้างขึ้นเมื่อใด แต่เดิมพระอุโบสถอยู่บนยอดเขา ต่อมาย้ายพระอุโบสถลงมาเชิงเขา เพื่อความสะดวกเวลาปฏิบัติศาสนกิจ แล้วอัญเชิญหลวงพ่อทองลงมาที่ศาลาการเปรียญ ให้พุทธศาสนิกชนกราบสักการะ

เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยึดเหนี่ยวทางจิตใจชาวเพชรบุรี และพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ เล่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์เรื่องโชคลาภ ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ที่สมัครเรียน สมัครงาน มักจะมาบนบานขอให้ได้ตามประสงค์ ผู้เจ็บไข้ได้ป่วยก็มักมาบนบานขอให้หาย

สำหรับคาถาบูชาหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา "นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ" (3จบ)

"กาเยนะ วาจายะ มะยะเจตะสา มาระวิชะยัง สุวัณณะมานัง มะหาเตชัง มะหาลาภัง พุทธะปะฏิมัง เมตตาจิตตัง นะมามิหัง โอมะ ศรี ศรี ชัยยะ ชัยยะ สัพพะทุกขา อุปัททะวา สัพพันตะรายา สัพพะโรคา วินาสสันติ สะทาโสตถี ภะวันตุ เม" (แล้วอธิษฐาน)

หากบนแล้วได้สัมฤทธิ์ตามที่ขอ จะต้องแก้บน โดยเป็นชายจะบนบวชพระแก้ ถ้าเป็นหญิงจะบนบวชชีพราหมณ์ บ้างจุดประทัดถวาย หรือไม่ก็เลี้ยงอาหารแก้บน โดยเฉพาะในวันหยุด หรือวันสำคัญต่างๆ วัดเขาตะเคราจะคลาคล่ำไปด้วยพุทธศาสนิกชนที่หลั่งไหลมากราบสักการะ



ที่มา - ข่าวสด

5333
มึนเล็กน้อยถึงปานกลาง :010:ครับ

5334
ขอบคุณครับท่านสายัน :015:

5335
??? คืออะไรหรือครับ :062:

5336
วันที่ 24 เดือนไหนหรือครับท่าน m007 :062:

5337
จิตของผู้เสกครับว่าเน้นหนักไปทางไหน...ส่วนอักขระหรือภาพหรือคาถาเสกนั้น มีส่วนแค่เล็กน้อยครับ
สักนะขุนแผน หรือจิ้งจก หรือไก่ฟ้า หากผุ้ปลุกเสกเน้นสมาธิจิตไปทางด้านความคงทนด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวแล้วละก็...อันยันต์นั้นก็จะปรากฎออกมาแนวบู๊ครับ
กล่าวกันว่า...หากผู้ปลุกเสกปรุงอารมณ์ให้เป็นสมาธิจนนิ่ง และกลั้นใจว่าคาถาจนครบคาบ..หรือจนกว่าจะเกิดอาการหมุนเหมือนถูกใครจับหมุน นั่นละก็...จะเน้นหนักไปทางแคล้วคลาด
หากสามารถปลุกเสกไปจนรู้สึกขนาดว่าไม่รู้สึกตัวหรือรู้สึกว่าไม่มีตัวตน.....จะเน้นหนักไปทางมหาอุดและคงกระพัน
หากสามารถปลุกเสกไปจนรู้สึกว่าตัวลอยไปแบบไม่มีทิศทาง...จะเน้นหนักไปทางชาตรี
ที่ยอกที่สุดคือ...ปลุกเสกไปจนเย็นสบาย หรือจนสามารถเกิดปิติหรือเรียกว่า มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก...จะเน้นหนักไปทางเมตตามหานิยม
.......เน้นที่ผู้เสก นะครับ....

คาบหมายถึงอะไรหรอครับ

ครับ ประมาณว่า พุทธคุณของพระนั้นๆจะออกมาเป็นเช่นไร ก็ขึ้นอยู่กับจิตของเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกอ่ะครับ :001:

5339
ครับ อยู่ที่จิตครับ  :001:

5340
ค่าครู 2,021 บาท ครับ  มีแจกหนังสือเหล็กไหลให้ด้วยครับ  :001:

5341
คณะศิษย์แห่ร่วมมุทิตาจิต"หลวงปู่เจือ"



คณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่เจือ หรือพระสมุห์เจือ ปิยสีโล เจ้าตำรับเบี้ยแก้สุดยอดพระเกจิอาจารย์เรืองนามแห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี ศิษย์เอกหลวงปู่บุญ ขันธโชติ และหลวงปู่เพิ่ม ปุญญวสโน วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้จัดงานทำบุญอายุวัฒนะครบ 83 ปีเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2551 ที่ผ่านมา สิริอายุ 83 พรรษา 57 ณ วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงมุทิตาจิตเป็นจำนวนมาก ทั้งพระภิกษุ-สามเณร อุบาสก อุบาสิกา และฆราวาส โดยทางคณะกรรมการจัดงานได้นมัสการนิมนต์พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์นำโดย พระราชรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม และพระสงฆ์ระดับรองเจ้าคณะฯ เจ้าอาวาสร่วมเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพร และถวายภัตตาหารเพลพระภิกษุ-สามเณร 100 รูป และสรงน้ำพระสมุห์เจือ ปิยสีโล ซึ่งในปีนี้พบว่า หลวงปู่เจือ สุขภาพโดยรวมไม่สมบูรณ์นัก ก่อนถึงวันครบรอบวันคล้ายวันเกิด 83 ปี ท่านต้องอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์อย่างใกล้ชิด

หลวงปู่เจือ เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2468 ที่บ้านท้ายคุ้ง ต.ไทยยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายแพและนางบู่ เนตรประไพ ทั้งนี้ หลวงปู่เจือ เป็นศิษย์สายตรงวัดกลางบางแก้ว เริ่มจากเป็นพระลูกวัดศิษย์อุปัฏฐากรับใช้สนองงานของหลวงปู่เพิ่ม สืบทอดวิชาทำเบี้ยแก้สืบตำนานยาจินดามณี อันเป็นวิชาที่สืบทอดตำรับของวัดกลางบางแก้วอย่างสมบูรณ์อีกหนึ่งขนาน ยาจินดามณี หรือ ยาวาสนา (ยาต่ออายุ) เป็นยาที่สำเร็จด้วยสมุนไพรและปลุกเสกด้วยมหาพุทธาคม ยาจินดามณี ใช้อธิษฐานทำน้ำมนต์ อาบ กิน ป้องกันและปัดเสนียดจัญไร บูชาติดตัวไว้จะเป็นเสน่ห์ เมตตามหานิยม เจริญด้วยโชคลาภ หญิงมีครรภ์รับประทาน 3 เม็ดคลอดลูกง่าย มีผิวพรรณวรรณะผุดผ่องใส สติปัญญาดี และเครื่องรางของดีอีกมากมาย



ที่มา - ข่าวสด

5342
คืออย่างนี้ครับ ประเด็นเริ่มแรกของการห้ามกินฟัก เนื่องมาจากว่า ทางภาคเหนือ เวลาเค้าจะทำยาสั่ง? (กรรมวิธียุ่งยากพอสมควร วิธีสุดท้ายคือ นำยาสั่งที่ผสมสูตรเสร็จไปใช้ปลูกฟักอ่ะครับ พอได้ฟักมา ก็นำฟักนั้นไปให้คนที่เราต้องการจะทำร้ายเค้ากิน ฯ ประมาณนี้ เท่าที่เคยได้ยินจากพระเกจิอาจารย์มา )? จึงเป็นที่มาของการ "ห้ามกินฟัก" ครับ :001:

5343
แน่นเหมือนเช่นเคยครับ คุณลุงอเมซิ่ง :053:

5344
น่าจะปลอดภัยนะครับ แต่เห็นว่าค่าครูขึ้นแล้ว เหอะๆ :075:

5345
ใช่ครับท่านสายัน หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา+ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม :054:

5346
จิตของผู้เสกครับว่าเน้นหนักไปทางไหน...ส่วนอักขระหรือภาพหรือคาถาเสกนั้น มีส่วนแค่เล็กน้อยครับ
สักนะขุนแผน หรือจิ้งจก หรือไก่ฟ้า หากผุ้ปลุกเสกเน้นสมาธิจิตไปทางด้านความคงทนด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวแล้วละก็...อันยันต์นั้นก็จะปรากฎออกมาแนวบู๊ครับ
กล่าวกันว่า...หากผู้ปลุกเสกปรุงอารมณ์ให้เป็นสมาธิจนนิ่ง และกลั้นใจว่าคาถาจนครบคาบ..หรือจนกว่าจะเกิดอาการหมุนเหมือนถูกใครจับหมุน นั่นละก็...จะเน้นหนักไปทางแคล้วคลาด
หากสามารถปลุกเสกไปจนรู้สึกขนาดว่าไม่รู้สึกตัวหรือรู้สึกว่าไม่มีตัวตน.....จะเน้นหนักไปทางมหาอุดและคงกระพัน
หากสามารถปลุกเสกไปจนรู้สึกว่าตัวลอยไปแบบไม่มีทิศทาง...จะเน้นหนักไปทางชาตรี
ที่ยอกที่สุดคือ...ปลุกเสกไปจนเย็นสบาย หรือจนสามารถเกิดปิติหรือเรียกว่า มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก...จะเน้นหนักไปทางเมตตามหานิยม
.......เน้นที่ผู้เสก นะครับ....
เคยได้ยินมาเหมือนกันครับ ( จากหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม ) :001:

5347


ก้อนนี้ได้มาจากวัดถ้ำแฝดครับ

5349
งามครับท่าน :016:

5351
จิ้งจกครับ :057:

5352
น่าสนใจครับ ( อากงผมเคยไปนอนค้างวัดเพื่อรอรับวัตถุมงคลของทางวัด ถึงขนาดนั้น ) ยอดขุนพลน่าสนใจดีครับท่าน :001:

5353
เคยถามหลวงพี่แป๊ว ท่านก็บอกว่าไม่ได้ห้ามอะไร แต่ผมก็ไม่ทานครับ ^^"
อีกประเด็น ก็แล้วแต่ครับ แต่ให้ อ.อางค์ ลงให้อีกทีก็ดีครับ จะได้ไปกราบหลวงพ่อด้วยครับ :002:

5355
ขอบคุณครับท่าน ถ้ามีโอกาสคงได้ไปบูชาครับ :053:

5356
รอท่านหอมเชียงหรือคุณลุงอเมซิ่งมาไขข้อข้องใจให้นะครับ :001:

5357
บทความ บทกวี / " ชวนเตรียมพร้อม "
« เมื่อ: 21 พ.ค. 2551, 07:29:03 »
ได้ใจ ได้คิดดีครับ  :016:

5358
ธรรมะ / พระไตรปิฎกย่อ
« เมื่อ: 21 พ.ค. 2551, 07:25:53 »
ครับ เยี่ยมเช่นเคย :015:

5359
ธรรมะ / " สาระจากพระสูตร "
« เมื่อ: 21 พ.ค. 2551, 07:25:05 »
สาธุ :054:

5361
ชอบจับพลัง ต้องเจอถ้าไม้ตาย เอาพระเก้ท่าพระจันทร์ เข้าขอรวมพิธีปลุกเสกพระ จับกันสนุกมือแน่
มันไม่ใช่มาตรฐาน ของวงการนักสะสมวัตถุมงคล ครับ
เห็นด้วยอย่างแรงนิ :002:

5362
ตามท่านโจรสลัดเลยครับ :002:

5363
กะจะเอาไปฝากไว้กับ หลวงพ่อจืด อยู่เหมือนกันครับ ขอบคุณครับ :001:

5366
ปลัดขิก เห็นว่าทำจากไม้ที่มีคนผูกคอตายอ่ะครับ  :001:

5367
ขอบคุณข้อมูลครับผม :002:

5368
ไม่ทราบอ่ะครับ แต่ถ้าเป็นของหลวงพ่อเต๋ ก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับท่าน  :001:

5369
ตามท่านก๊อตแนะนำเลยครับ :016:

5370
ขอบคุณครับทุกๆท่าน :001:

5371
อีก 1 พระคาถา จากสายเขาอ้อครับ "เสกข้าวกิน" กันยาสั่งฯลฯ
"นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ"
( พระคาถาพระเจ้า 16 พระองค์ นี่แหละครับ )
  :015:

5372
สุดยอดครับ ได้วิชาจากหลวงพ่อเดิม , หลวงพ่ออิ่ม สุดๆแล้วครับท่าน อนุโมทนาครับ :054:

5373
เพื่อให้มั่นใจนะครับ ลองเอาหุ่นพยนต์ไปให้ อ.ประสูติ ท่านลงให้อีกทีก็ได้ครับ :001:

5374
สุดยอดมากคับพี่ รักยมนี่หลายขวดเรย
คงจะตั้งทีมฟุตบอลกันได้เรยอิอิ
ชอบแผ่นเงินที่จารยันต์ตรีนิสิงเหครับ
ดูเข็มขลังมากๆคับพี่เก่ง? :073:
ครับท่าน กว่าจะให้หลวงพ่อจืดท่านจารให้ได้ ต้องตามไปขอท่านเป็นอาทิตย์ๆเลยครับ ฝ่าจะได้มา ( ท่านงานยุ่งมากครับ โครงการที่ท่านคิดไว้ยังเหลืออีกหลายอย่าง ) แต่หลวงพ่อท่านก็ยังเมตตาจารมาให้ สุดๆเลยครับ :050:

5376
ครับ ผมถึงสงสัยไงหล่ะครับ เข้ามาอยู่ในบ้านผมได้ไง เหอะๆๆ :062:

5377
วันวิสาขบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี เป็นวันที่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประสูติ , ตรัสรู้ , ปรินิพพาน ซึ่งปีนี้ ตรงกับวัน จันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2551 ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมทำบุญวันวิสาขบูชา เข้าวัด ทำบุญ ฟังพระธรรมเทศนา เวียนเทียนคืนวันเพ็ญเดือนวิสาขะ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใสครับ? :090:





5378
หลวงพ่อวัดไร่ขิง วัดไร่ขิง จ.นครปฐม





หลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดไร่ขิง (มงคลจินดาราม) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม

เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 นิ้ว สูง 4 ศอก 16 นิ้ว ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี 5 ชั้น มีผ้าทิพย์ปูทอดลงมา ผินพระพักตร์สู่ทิศเหนือ องค์พระงดงาม เป็นการผสมผสานงานพุทธศิลป์ 3 สมัย คือ เชียงแสน อู่ทอง และสุโขทัย แต่ไม่ปรากฏหลักฐานใครสร้างขึ้นเมื่อไหร่

จากหนังสือประวัติของวัด ระบุว่า เรื่องราวของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ซึ่งไปเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ตั้งแต่ครั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาปูน จ.พระนครศรีอยุธยา

สมเด็จพระพุฒาจารย์นั้น พื้นเพของท่านเป็นชาวนครชัยศรี เล่ากันเป็นสองนัยว่าท่านเป็นผู้สร้างวัดไร่ขิง เมื่อปี 2394 แล้วอาราธนาพระพุทธรูปจากพระนครศรีอยุธยามาเป็นพระประธาน กับอีกความหนึ่งว่า วัดไร่ขิงเดิมมีพระประธานอยู่แล้วแต่องค์เล็ก สมเด็จพระพุฒาจารย์ จึงบอกให้ไปนำพระพุทธรูปจากวัดของท่าน ซึ่งผู้คนจากวัดไร่ขิงก็พากันขึ้นไปรับ เชิญลงแพไม้ไผ่ล่องลงมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าแม่น้ำท่าจีนจนถึงวัด ก่อนอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพระอุโบสถ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ตรงกับวันสงกรานต์ในปีนั้นพอดี

เล่ากันว่า ขณะที่อัญเชิญหลวงพ่อวัดไร่ขิงขึ้นจากน้ำสู่ปะรำพิธี เกิดความมหัศจรรย์ แสงแดดที่แผดจ้ากลับพลันหายไป ความร้อนระอุในวันสงกรานต์กลางเดือนห้า บังเกิดมีเมฆดำทะมึน ลมปั่นป่วน ฟ้าคะนองก้องในนภากาศ บันดาลให้ฝนโปรยลงมา ทุกคนในที่นั้นเกิดความยินดี พากันอธิษฐานจิต "ขอหลวงพ่อจักทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขดับความร้อนคลายความทุกข์ให้หมดไป ดุจสายฝนที่เมทนีดลทำให้ชุ่มฉ่ำ เจริญงอกงามด้วยธัญญาหาร"

จึงถือเป็นวันสำคัญ จัดให้มีงานเทศกาลนมัสการปิดทองประจำปีหลวงพ่อวัดไร่ขิง สืบต่อมาถึงทุกวันนี้

เรื่องราวความเป็นมาของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับน้ำอยู่ตามสมควร ในประวัติพระพุทธรูปหลายสำนวนก็นับท่านรวมอยู่ในพระพุทธรูปห้าองค์พี่น้องที่ลอยน้ำมาจากทางเหนือ ประกอบด้วย หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทรวรวิหาร จ.สมุทรสงคราม บางแห่งก็เพิ่มหลวงพ่อวัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี และหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ และขึ้นประดิษฐาน ณ ที่ต่างๆ กันด้วย

หลวงพ่อวัดไร่ขิง มีเสียงเล่าลือกันจากปากต่อปากของประชาชนทั่วไป จากเหนือสู่ใต้ว่าหลวงพ่อมีอิทธิฤทธิ์และอภินิหารต่างๆ มากมายเป็นอเนกประการ แต่ละคนที่มีศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อวัดไร่ขิง มีเรื่องที่น่าอัศจรรย์ปรากฏแก่ตนเองเกือบทุกคน

พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสไร่ขิง ได้นำอภินิหารและอิทธิฤทธิ์บางส่วนจากผู้ศรัทธาหลวงพ่อ มาบันทึกไว้ในหนังสือประวัติวัดและหลวงพ่อวัดไร่ขิง อาทิ

- หลวงพ่อวัดไร่ขิง มีอภินิหารปิดทองไม่ติด ทั้งที่ในแต่ละปีมีประชาชนมาปิดทองหลวงพ่อเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน

- หลวงพ่อวัดไร่ขิง มีความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหาร ในการป้องกันสิ่งต่างๆ ตามความรู้สึกของแต่ละคนที่ตั้งใจปรารถนา

- น้ำมันและน้ำมนต์ของหลวงพ่อ รักษาโรคภัยต่างๆ ได้สมใจปรารถนา

- หลวงพ่อวัดไร่ขิง ช่วยให้รอดพ้นจากความตาย เพียงแค่ตั้งจิตถึงหลวงพ่อ

- หลวงพ่อวัดไร่ขิง ปิดตาขโมยได้ ป้องกันไฟไหม้

- หลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นทุกอย่างได้ตามแรงอธิษฐานของคนอยากให้เป็น

หลวงพ่อวัดไร่ขิง ประดิษฐานเป็นที่เคารพกราบไหว้อยู่ ณ วัดไร่ขิง มาเป็นเวลานานเป็นที่รู้จักเรียกขานในนามหลวงพ่อวัดไร่ขิง คนในท้องถิ่นต่างเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์และมักกราบไหว้บนบานเมื่อมีทุกข์โศกโรคภัยต่างๆ

สำหรับคาถาบูชาหลวงพ่อวัดไร่ขิง ตั้งนะโม 3 จบ "กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา มะเหสักขายะ เทวะตายะ อะธิปาถิตัง อิทธิปาฏิหาริกัง มังคะละจินตารามพุทธะปะฏิมากะรัง ปูชามิหัง ยาวะชีวัญจะ สุกัมมิโก สุขะปัตถิตายะ"

ชาวบ้านเชื่อศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ว่าสามารถปัดเป่าทุกข์โรคภัยไข้เจ็บทั้งปวงได้อย่างอัศจรรย์ ทั้งยังอำนวยโชคลาภให้แก่ผู้ที่เดินทางมาสักการะ

โดยเฉพาะในงานประจำปี ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 มีมหรสพ 9 วัน 9 คืน พุทธศาสนิกชนแห่นมัสการสักการะ และบนบานศาลกล่าวด้วย "ว่าวจุฬา" เชื่อว่าหลวงพ่อชอบเป็นพิเศษ รองลงมา คือ ประทัดและละครรำ




ที่มา - ข่าวสด

5379
ไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร ???



5380
แผ่นจาร เนื้อเงิน หลวงพ่อจืด สำนักสงฆ์โพธิ์เศรษฐี




แผ่นจาร ทองเหลือง หลวงพ่อวัชชระ วัดถ้ำแฝด




รักยม หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม + หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ





กะลาตาเดียว แกะพระราหู หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม เจิมแป้งเสก หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จาร



5381
เข้าไปชมภาพวัตถุมงคลของหลวงปู่เจือได้ครับ ที่ http://www.wkk.ac.th/monk2/data3.php  :058:

5382
ขุนแผน หลวงปู่ทิม วัดพระขาว เทพเจ้าแห่งบางบาล








ขุนแผนกุมารทอง หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม พิมพ์พิเศษ





5383
หลวงพ่อปากแดง วัดพราหมณี จ.นครนายก





 
"นครนายก" เดิมมีชื่อว่า "บ้านนา" เล่ากันว่าในสมัยกรุงศรีอยุธยา ดินแดนของนครนายกเป็นป่ารกชัฏเป็นที่ดอน ทำนาหรือเพาะปลูกอะไร ไม่ค่อยได้ผลและมีไข้ป่าชุกชุม ผู้คนจึงอพยพไปอยู่ที่อื่นจนที่นี่กลายเป็นเมืองร้าง

ต่อมา พระมหากษัตริย์ทรงทราบความเดือดร้อนของชาวเมืองจึงโปรดเกล้าฯ ให้เลิกภาษีนาเพื่อจูงใจชาวเมืองให้อยู่ที่เดิมทำให้มีผู้คนอพยพมาอยู่เพิ่มมากขึ้น จนเป็นชุมชนใหญ่และเรียกเมืองนี้กันติดปากว่า "เมืองนายก"

นครนายก เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลาง อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 107 กิโลเมตร ตามถนนเลียบคลองรังสิต สันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดี มีหลักฐานแนวกำแพงเนินดินและสันคู อยู่ที่ตำบลดงละคร แต่ชื่อนครนายกนั้น

ปรากฏหลักฐาน ในสมัยอยุธยาเป็นเมืองหน้าด่านทางทิศตะวันออก สมัยพระเจ้าอู่ทอง ในปี พ.ศ.2437 รัชกาลที่ 5 ทรงจัดลักษณะการปกครองโดยแบ่งเป็นมณฑล นครนายกได้เข้าไปอยู่ในเขตมณฑลปราจีนบุรี จนเมื่อพ.ศ.2445 ทรงเลิกธรรมเนียมการมีเจ้าครองเมือง ให้มีตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแทน

วัดพราหมณี ถือเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งใน จ.นครนายก ตั้งอยู่ที่ถนนสาริกา-นางรอง หลักกิโลเมตรที่ 4 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก

วัดแห่งนี้ สร้างขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ.2446 ปัจจุบันนี้มีอายุ 100 กว่าปีแล้ว

วัดพราหมณี มีพระประธานศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นที่เคารพนับถือกันอย่างกว้างขวาง มีชื่อว่า "หลวงพ่อปากแดง" เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 1 เมตร เป็นศิลปะสมัยล้านช้าง จีวรเป็นลายดอกพิกุล พระโอษฐ์แย้มทาสีแดงเห็นชัด ชาวบ้านจึงเรียกว่า "หลวงพ่อปากแดง"

สิ่งที่เด่นสะดุดตา คือ ที่ปากของหลวงพ่อมีสีแดงสด เหมือนมีผู้นำลิปสติกไปทาไว้ ผู้เฒ่าผู้แก่ย่านนั้นยืนยัน ว่าเห็นปากท่านแดงแบบนี้ มาตั้งแต่เกิด แม้แต่ปู่ย่าตายายของผู้เฒ่าเหล่านี้ก็บอกว่าเห็นมาตั้งแต่เกิดเหมือนกัน

พระครูโสภณพรหมคุณ หรือ "หลวงพ่อตึ๋ง" เจ้าอาวาสวัดพราหมณี เล่าว่า ตำนานเชื่อกันหลวงพ่อปากแดง เป็นพระพุทธรูปพี่น้องกับหลวงพ่อพระสุก และหลวงพ่อพระใส ที่ประดิษฐานอยู่ที่ จ.หนองคาย ในปัจจุบัน ที่ได้อัญเชิญมาจากนครเวียงจันทน์ พอมาถึงประเทศไทย ชาวบ้านได้แยกย้ายไปตามวัดต่างๆ ส่วนหลวงพ่อปากแดงนั้น ถูกชาวบ้านอัญเชิญและนำมาหยุดยังพื้นที่ว่างบริเวณที่เป็นวัดพราหมณีปัจจุบันนี้ จากนั้นก็ลงมือสร้างวัดแล้วก็อัญเชิญองค์หลวงพ่อขึ้นเป็นพระประธานในพระอุโบสถ

ซึ่งต่อมา "หลวงพ่อปากแดง" ก็กลายมาเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาว จ.นครนายก จนทุกวันนี้ โดยความเชื่อของประชาชนนั้น ประชาชนที่เดินทางไปเที่ยวน้ำตกสาริกา จะต้องแวะกราบสักการบูชา พร้อมกับบนบานด้วยกล้วยน้ำว้า 9 หวี หมากพลู 9 ชุด พวงมาลัย 9 พวง และน้ำแดง 1 ขวด กันอย่างล้นหลาม พร้อมทั้งตั้งจิตอธิษฐานให้สมความปรารถนาตัวเอง

วัดพราหมณี ยังคงมีเรื่องราวเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ คือ เมื่อครั้งเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เลือกบริเวณที่ตั้งของวัดพราหมณีเป็นจุดพักทัพของกองพันทหารที่ 37 ซึ่งมีจุดหมายจะไปรวมพลกันที่บริเวณเขาชะโงก (ปัจจุบัน คือ สถานที่ตั้งของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก)

จึงมีทหารญี่ปุ่นล้มตายอยู่ในเขต จ.นครนายก หลายแห่งด้วยกัน ปรากฏว่ามีการค้นพบกระดูกของทหารญี่ปุ่นใกล้วัดพราหมณี ดังนั้น สมาคมทหารสหายสงครามกองพลญี่ปุ่นที่ 37 จึงได้สร้างอนุสรณ์สถานไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงทหารญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2532 ณ วัดพราหมณี

ลักษณะทางสถาปัตยกรรม สร้างเป็นศาลาจตุรมุขประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร ด้านหน้าพระพุทธรูปเป็นแท่นหินจารึกอักษรญี่ปุ่น ด้านซ้ายพระพุทธรูปเป็นแท่นหินอ่อน โดยมีการจารึกข้อความไว้อาลัย สดุดีความกล้าหาญ และระลึกถึงไว้ที่ฐานพระพุทธรูป

ป้ายจารึกด้านซ้ายของพระพุทธรูป และแท่นหินบูชาหน้าพระพุทธรูป ดังข้อความโดย สรุปของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ดังนี้

"อนุสรณ์สถานกองพลทหารญี่ปุ่นที่ 37 จัดสร้างโดยสมาคมทหารสหายสงคราม กองพลทหารญี่ปุ่นที่ 37 เมื่อปี 2532 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงดวงวิญญาณของบรรดา ทหารซึ่งสังกัด กองพลทหารญี่ปุ่นที่ 37 จำนวน 7,929 นาย ที่สูญเสียชีวิต ในระหว่างสงครามมหาเอเชียบูรพา เมื่อปี 2482-2488"

นอกจากนี้ สถานที่ท่องเที่ยวภายในวัด ประกอบด้วย วิหารเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งจัดสร้างโดยกลุ่มนักธุรกิจจากไต้หวัน, ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, อุทยานการศึกษา มีรูปปั้นสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์อยู่รอบบริเวณวัด เช่น ช้างพันธุ์แอฟริกา, กวาง, ควายป่า ฯลฯ สวนพักจิตร (สวนต้นไทร) ใช้เป็นที่พักผ่อนทำสมาธิหรือทำกิจกรรมยามว่าง




ที่มา - ข่าวสด

5384
เหรียญหลวงปู่หิ่ม วัดบางพระ




พระยอดขุนพล หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร ปี พ.ศ.2496








ธงแดงแรงฤทธิ์ พิชิตฝน หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร



5385



ได้มาก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรดี เลยเอามานั่งจารยันต์เกราะเพชรไว้อ่าครับ แปลกดีไปอีกแบบ

5386


ชอบก็ตรงที่ยันต์ที่แจกนี่แหละครับ :001:

5387
ท่านก๊อตแนะนำได้ดีครับ ดูความเหม :001:าะสมครับ

5388
ครับ ธรรมะเดลิเวอรรี่ อิอิ ขอบคุณครับท่าน :001:

5390
ครับ ตามที่ท่านก๊อต แนะนำเลยครับ :001:

5391
งามครับ หามาได้ไงเนี่ย :053:

5392
อยู่ที่ใจครับ ระลึกถึงทานก็ได้ครับ :001:

5393
งามดีครับ :015:

5394
เกราะเพชรสวยดีครับ :054:

5395
อนุโมทนาครับ บารมีสมเด็จพระเจ้าตากสินคุ้มครองครับ :001:

5397
หนังสือ ยันต์อาจารย์หนู กล่องละ 199 แถมผ้ายันต์หนุนดวงครับลองไปหาซื้อมาดูนะ ผ้ายันต์ อักษรดำผ้าสีแดง

อยากได้ตะกรุดหลวงปู่อั๊ป ...
ไปหามาอ่านแล้วครับ บทความเดิมๆ เฮ้อ :067:

5398
ธรรมะ / " สาระจากพระสูตร "
« เมื่อ: 16 พ.ค. 2551, 09:26:18 »
อนุโมทนาครับท่าน :054:

5399
ครับ ท่านลี อยู่ตั้งฝรั่งเสศ ยังแวะมาเยี่ยมกัน ยินดีครับ  :-*

5400
ธรรมดา 200 ครับ ฝังตะกรุด 300 ครับ ( ผมยังไม่ได้เก็บไว้เลย กะว่าเร็วๆนี้อ่ะครับ ) :-*

5401
ลองค้นหาในกระทู้เก่าๆดูนะครับ หรือแอดเมลล์มาก็ได้ครับ :-*

5402
สายวัดบางพระพระอาจารย์ท่านจะเป็นผู้จัดให้ตามความเหมาะสมครับ  :-*

5403
ลองเข้าไปชมได้ครับ
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOREV6TURVMU1RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHdOUzB4TXc9PQ==

 :002:

5404
คณะกรรมการวัดซับตะเคียน จ.เพชรบูรณ์ และพระอาจารย์ลอย พระเลขาฯ หลวงปู่ขุ้ย แจ้งว่า ในวันที่ 20 พ.ค. 2551 เป็นวันคล้ายวันเกิดหลวงปู่ขุ้ย ปีนี้ท่านมีสิริอายุ 97 ปี 77 พรรษา (แต่ถ้าคิดอายุที่ท่านแจ้งเกิดมีใบทะเบียนเอกสาร ท่านจะมีอายุ 87 ปี เพราะท่านแจ้งเกิดช้าไป 10 ปี) ในวันนั้นหลวงปู่ขุ้ยจะทำบุญคล้ายวันเกิด แจกทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนในอำเภอหนองไผ่ และทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้กับญาติโยม พร้อมทั้งทำพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลรุ่นวันเกิด หลังเสร็จพิธีให้ญาติโยมบูชาได้ทันที

ลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไปที่ร่วมแสดงมุทิตาสักการะหลวงปู่ขุ้ยแจกวัตถุมงคลฟรี


ที่มา - http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNekV6TURVMU1RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHdOUzB4TXc9PQ==

5405
ข่าวจากวัดบางกุฎีทอง ถนนติวานนท์ (ตรงข้ามนิคมอุตสาหกรรม บางกะดี) อ.เมือง จ.ปทุมธานี แจ้งว่า วัดบางกุฎีทองจะจัดงานเป่ายันต์พรหม 4 หน้าครั้งที่ 8 ประจำปี 2551 ของหลวงพ่อชำนาญ ในวันอาทิตย์ที่ 18 พ.ค. 2551 และในโอกาสนี้คณะศิษยานุศิษย์ร่วมกันจัดงานแสดงมุทิตาจิตที่สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถวายปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการจัดการเชิงพุทธศาสนา โดยมี พระพรหมสุธี วัดสระเกศ มาเป็นประธาน ในพิธีเป่ายันต์พรหม 4 หน้านี้หลวงพ่อชำนาญจัดขึ้นทุกปี วิชาพรหม 4 หน้า ท่านได้รับถ่ายทอดวิชานี้ตามตำรับพิชัยสงครามสืบต่อๆ กันมา ตั้งแต่สมัยหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ, หลวงปู่สี, ท่านอาจารย์เฮง ไพรวัลย์, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ซึ่งพิธีนี้จัดพร้อมกับงานไหว้ครูทุกปี เป็นการช่วยศิษย์ของท่านเป็นสาธารณะโดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ปีนี้เป็นปีที่ 8 แล้ว ศิษย์หลวงพ่อชำนาญหลายพันคนในแต่ละปีอยู่ที่ไหนไกลแสนไกลเมืองนอกเมืองนาก็บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเข้าพิธี พิธีนี้เป็นที่ร่ำลือกันว่าขลังมาก จะเห็นคนของขึ้นกันมากมาย ที่สำคัญใครได้เข้าพิธีนี้แล้วดีขึ้นทุกคนไป

หลวงพ่อชำนาญ เผยว่า พิธีนี้ต้องอาราธนาพระรัตนตรัย เข้าศูนย์กลางพิธี เชิญเทพ พรหม ยม ยักษ์ ทุกชั้นฟ้า เชิญ ครูฤๅษี ทั้ง 108 องค์ ที่ขาดไม่ได้เลยพระพรหม พิธีนี้จึงมีอานุภาพมากเพราะพระเป็นประธาน มงคลของพิธีนี้มีมากมายเสริมดวงให้ดวงดีอยู่เสมอ แก้เคราะห์กรรมอันเกิดจากดวง พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ด้วยงานนี้ทางวัดได้ออกวัตถุมงคลที่ระลึก เหรียญรูปเหมือนหลังพระพรหมหมื่นคาถาแสนยันต์ 2 พระพรหมกรอบกระจก หรือพระพรหมสยบราหูเนื้อผง 3 ตะกรุดอัฏฐอรหันตา ในวันดังกล่าวคณะศิษย์ถือโอกาสจัดงานแสดงมุทิตาจิต ที่สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถวายปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการจัดการเชิงพุทธศาสนา ในเวลา 13.19 น. งานนี้หลวงพ่อชำนาญแจกวัตถุมงคลฟรี สอบถามได้ที่วัดบางกุฎีทองครับ

ที่มา - ข่าวสด

5406
ขอปิดท้ายที่เหรียญหลวงพ่อเปิ่นครับ



5407
เหรียญฉลองสมณศักดิ์ หลวงพ่อแช่ม ที่พระครูเกษมธรรมนันท์  ปี 2516 หน้าอกหลวงพ่อแช่ม จะปรากฏเลข 1 ไทยอยู่ครับ









เหรียญหลวงพ่อทองอยู่ วัดบางพระ ปี พ.ศ.2517





เหรียญ หลวงพ่อสำอางค์ วัดบางพระ นั่งงู ( ไม่ค่อยชัดนะครับ )



5408
ชุดพระเครื่อง หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม








รวมพลสิบทัศน์ โชว์ท่านผู้ชนะสิบทิศ อิอิ

5409
วัวธนู หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ ( องค์นี้ หลุดจากพิพิธภัณฑ์ วัดกลางบางพระมาครับ อิอิ )





องค์นี้แหละครับ ของฟรีที่ สำนักสงฆ์โพธิ์เศรษฐี หลวงพ่อจืด









เป็นยันต์พระพุทธเจ้าป้องไตรจักร  ลายมือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ครับ

5410
ชุดตะกรุดครับ

จากบนลงล่าง
ตะกรุดสามห่วง หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม
ตะกรุดหอมเชียง วัดบางพระ ปี48
ตะกรุด หลวงพ่อเขียน วัดกะทิง







จากบนลงล่าง
ตะกรุดพระพายสะกดทัพ หลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสน ( ผมเอาสายสิญจน์ในพิธีมาถัก ลงรักปิดทองเองอ่ะครับ )
ตะกรุดลูกปืน (11) หลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสน
ตะกรุดจีวรเล็ก หลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสน
ตะกรุดจีวรใหญ่ หลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสน
ตะกรุดปืนเสีย หลวงพ่อสืบ วัดสิงห์
ตะกรุดหลวงพ่อตัด วัดชายนา
ตะกรุดเซรามิค หลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสน







จากบนลงล่าง
ตะกรุดหนังเสือ หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม
ตะกรุดสามห่วง หลวงพ่อเบี้ยว วัดใหม่สุคนธาราม
ตะกรุดหนังเสือ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
ตะกรุดโทนลงรัก หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
ตะกรุดโทน หลวงพ่อวัชระ วัดถ้ำแฝด




5411
จัดท่านท่าน M007 เค้าหน่อยครับ

ผ้ายันต์ หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม









แผ่นจารลายมือ หลวงพ่ออวยพร  วัดดอนยายหอม ครับ



5412
ต่อกันด้วยผ้ายันต์ครับ

ผ้ายันต์ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม






ผ้ายันต์ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม + ปลาตะเพียนคู่





ผ้ายันต์ จีวร หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม  ( ถ้าเจอก็คงได้นะครับท่านโจรสลัด อิอิ )





ผ้ายันต์โภคทรัพย์ รุ่น 1 หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม



5413
มาเข้าเทรน กลมๆ ใหญ่ๆ กันบ้างครับ

ขอเริ่มด้วย พระปิดตา ขนมเปี๊ยะ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ฝังพลอย ปี 2536






จตุคามรามเทพ รุ่น หลักเมืองมหามงคล 2550 เนื้อกระเบื้องเคลือบน้ำเงิน





กะลาตาเดียว แกะพระราหู 9 หน้า หลวงพ่อจืด สำนักสงฆ์โพธิ์เศรษฐี เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8-9 เซนฯ









แผ่นยันต์ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ




5414
ต่อด้วยชิ้นสุดยอดครับ โล่ห์ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เนื้อใบพัดเรือรบหลวงศรีอยุธยา





ต่อด้วยชิ้นสุดยอดอีกเช่นกัน กระเบื้องหลังคาโบสถ์ วัดไร่ขิง สลักรูปหลวงพ่อครับ






กุมารทอง หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม พ.ศ.2521





จีวร หลวงปู่ทิม วัดพระขาว







5415
ขอเริ่มที่ พระบูชารัตนฯ หน้าตัก 9 นิ้วครับ





พระบูชา หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม รุ่นแรก พ.ศ 2507 ครับ





พระบูชา หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม รุ่นแรก พ.ศ.2518 ครับ





พระบูชา หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา รุ่นแรก พ.ศ.2510 ครับ






5416
วันนี้ไปที่วัดมาครับ หลวงปู่เจืออาพาธ เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลครับ ผมเลยไปเช่าพระมานิดหน่อย แล้วก็ไม่ลืมที่จะนำภาพ "สมเด็จไพ่ตอง" ที่จะแจกในวันพรุ่งนี้มาฝากกันครับ






แล้วก็พระหลวงปู่เจือที่ผมบูชามาวันนี้ครับ มีลอคเกต,เม็ดยาจินดามณี,ตะกรุดมหารูด ครับ ทีแรกก็กะว่าจะไม่เอาลอคเกต พอเปิดไปดูด้านหลัง เห็นมีอยู่องค์นึง มีโค้ดอยู่ 2 ตัว แปลกกว่าอันอื่น เลยรีบจับมาอ่ะครับ หุหุ






5417
หุหุ ไม่รู้ว่าจะตอบเยี่ยงไรดี ครับ บูชาไปเถิดจะเกิดผล :-*

5418
ขอบคุณครับท่าน :-*

5419
ขอบคุณข่าวสารที่แจ้งเตือนกันครับ :-*

5420
เฉยครับ ไม่ได้คิดอะไรมากครับ เคยได้ยินมาเหมือนกัน 50/50ครับ  ฟังหูไว้หู ครับ:-*

5421
14/5/51 ไม่ว่างจ้า กะว่าจะไปงานวันเกิดหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้วครับ :-*

5422
ได้ทุกเมื่อครับ ไม่ยุ่งยากหรอกครับ หลวงพ่อสำอางค์กับหลวงพี่ติ่ง ลองไปดูครับ :-*

5423
ธรรมะ / ตอบ: " สาระจากพระสูตร "
« เมื่อ: 12 พ.ค. 2551, 08:07:14 »
อนุโมทนาครับ :-*

5424
กาลามสูตรครับ :)

5425
หุหุ กะว่าจะเข้ามาบอกข่าวอยู่เหมือนกันครับ ขอบคุณครับท่าน :-*

5426
รอท่านโจรสลัดมาแนะนำนะครับ :-*

5427
คางคก ไม่ทราบครับ
หมูทองแดง เน้นไปทาง คงกระพันครับ
จิ้งจก 2 หาง ทางเมตตาครับ
8ทิศ แคล้วคลาด ปกป้องครอบจัรวาลครับ :-*

5428
สรุปว่า วันคล้ายวันเกิด หลวงปู่เจือ ปีนี้ ทางวัดมีแจก "พระสมเด็จพิมพ์ไพ่ตอง"ครับ





และอีกงานครับ วันเวลาไล่เรี่ยกัน



 :114:

5429
พระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม






 
"พระร่วงโรจนฤทธิ์" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดนครปฐม เป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป มีชื่อเต็ม คือ "พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ ธรรโมภาส มหาวชิราวุธ ราชปูชนียบพิตร" ตามประกาศกระแสพระบรมราชโองการ ลงวันที่ 12 ตุลาคม พุทธศักราช 2466

แต่ประชาชนทั่วไป เรียกขานว่า "หลวงพ่อพระร่วง" หรือ "พระร่วงโรจนฤทธิ์"

เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ทำด้วยทองเหลืองหนัก 100 หาบ ศิลปะสุโขทัย สูง 12 ศอก 4 นิ้ว ประทับยืนบนฐานโลหะทองเหลืองลายบัวคว่ำบัวหงาย ทำวงพระพักตร์ตามยาว พระหนุเสี้ยม นิ้วพระหัตถ์ พระบาทไม่เสมอกัน ห้อยพระหัตถ์ซ้ายลงข้างพระวรกาย แบฝ่าพระหัตถ์ขวายกตั้งขึ้น ยื่นไปข้างหน้า มีพระอุทรพลุ้ย บ่ายพระพักตร์สู่ทิศเหนือ

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระยุพราช เสด็จฯ ประพาสหัวเมืองฝ่ายเหนือ ในปีพ.ศ.2451 ได้ทอดพระเนตรพระพุทธรูปโบราณเป็นอันมาก แต่มีพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่เมืองศรีสัชนาลัย (สุโขทัย) กอปรด้วยพระลักษณะงามเป็นที่ต้องพระราชหฤทัย แต่ชำรุดมาก เหลืออยู่แต่พระเศียร พระหัตถ์และพระบาท

จึงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญลงมากรุงเทพฯ แล้วให้ช่างปั้นสถาปนาขึ้นมาบริบูรณ์เต็มพระองค์ และโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีเททองหล่อ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2456 ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพฯ โดยมีผู้ออกแบบ คือกรมหลวงนเรศร์วรฤทธิ์ (พระองค์เจ้ากฤษฎาภินิหาร)

จากนั้น ได้อัญเชิญมาสู่จังหวัดนครปฐม เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2457 ทางรถไฟ ประดิษฐาน ณ พระวิหารด้านทิศเหนือ องค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จนถึงปัจจุบัน

เมื่อครั้งอัญเชิญพระร่วงฯ มาประดิษฐานยังองค์พระปฐมเจดีย์ฯ จำเป็นต้องแยกชิ้นมาประกอบเข้าด้วยกันที่จังหวัดนครปฐม เสร็จเป็นองค์สมบูรณ์ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2458

หลังจากรัชกาลที่ 6 เสด็จสวรรคต ตามความในพระราชพินัยกรรมของพระองค์ระบุว่า ให้บรรจุพระอังคารของพระองค์ไว้ใต้ฐานพระร่วงฯ ที่องค์พระปฐมเจดีย์ ในวันที่ 31 สิงหาคม 2469 จึงได้ทำพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรังคาร ณ ใต้ฐานพระร่วงโรจนฤทธิ์ ตามพระราชประสงค์

มีความเชื่อว่า พระร่วงโรจนฤทธิ์ โปรดหรือชอบลูกปืน โดยต้องแก้บนด้วยการยิงปืน แต่ต่อมาเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จึงใช้จุดประทัดแทน และอีกอย่างที่เป็นของโปรด (ตามความเชื่อของชาวบ้าน) คือ ไข่ต้ม และไม่ใช่ไข่ต้มธรรมดาต้มสุกแล้วต้องชุบสีแดงที่เปลือกไข่หลังต้มแล้ว ก่อนนำมาแก้บน

ในการบนบานขอพรหรือขอความสำเร็จต่างๆ จากองค์พระร่วงโรจนฤทธิ์ ชาวบ้านทั้งชาวไทยชาวจีนในนครปฐมเป็นที่ทราบกันทั่วไปที่ผ่านมาเคยเห็นมีผู้มาแก้บนด้วยไข่ต้มนับร้อยนับพันใบก็มี

คำกล่าวบูชาพระร่วงโรจนฤทธิ์ที่แปลแล้วมีว่า "พระพุทธรูปพระองค์ใด ซึ่งมีอภินิหารไม่น้อย มีพระพุทธลักษณะอันงดงามผุดผ่อง พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสุนทร มหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงถวายพระนามว่า "พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราช ปูชนียบพิตร" เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติ แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ประดิษฐานมาอยู่ ณ วิหารมณฑลด้านทิศเหนือ แห่งองค์พระปฐมเจดีย์ ควบเวลาถึงกว่า 92 ปี (ปัจจุบัน) ได้แผ่พระบารมีปกเกล้าไปยังพุทธศาสนิกชนทั่วทุกทิศ ปานประหนึ่งว่า พระพุทธองค์ ทรงสถิตประทับยืนอยู่ ณ นิโรธาราม ริมฝั่งแม่น้ำโรหิณี ใกล้เมืองกบิลพัสดุ์ ทรงโปรดพระประยุรญาติทั้งสองฝ่าย ให้คลายจาก มานะทิฐิอยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข"

"ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าวันทาพระร่วงโรจนฤทธิ์พระองค์นี้ ซึ่งเป็นที่นำบุญมาให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ผู้นมัสการอยู่ แม้พระปฐมเจดีย์ใหญ่ใด ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเป็นที่ประดิษฐานองค์พระร่วงโรจนฤทธิ์ ซึ่งมีปาฏิหาริย์ไม่น้อย งดงามดุจพระจันทร์ในยามราตรี ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าวันทาพระปฐมเจดีย์นี้ ซึ่งเป็นที่นำบุญมาให้แก่ผู้ทัศนาอยู่เสมอ ข้าพระพุทธเจ้าขอนมัสการพระร่วงโรจนฤทธิ์ พระบรมสารีริกธาตุ และองค์พระปฐมเจดีย์ที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งควรนมัสการอยู่โดยส่วนเดียว ด้วยเครื่องสักการะคือดอกไม้ไฟอันตั้งอยู่ ณ ทิศทั้งสี่ ในบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ ได้แล้วซึ่งบุญอันใด ด้วย อานุภาพแห่งบุญนั้น ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุข เป็นผู้ไม่มีเวร ปราศจากอันตราย เจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมเป็นนิตย์เทอญ"

สำหรับวัดพระปฐมเจดีย์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร ซึ่งอาณาจักรที่ตั้งสองสิ่งสำคัญอยู่ คือ องค์พระปฐมเจดีย์ และพระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดพระปฐมเจดีย์ตั้งอยู่ในตำบลพระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 56 กิโลเมตร เป็นปูชนียสถานเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในไทย

ทั้งนี้ องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า มีลักษณะโครงสร้างเป็นพระเจดีย์ใหญ่รูประฆังคว่ำปากผายมหึมา โครงสร้างชั้นในเป็นไม้ซุงรัดด้วยโซ่เส้นมหึมา ก่ออิฐถือปูนประดับด้วยกระเบื้องปูทับประกอบด้วยวิหาร 4 ทิศ กำแพงแก้ว 2 ชั้น

พระปฐมเจดีย์สูงจากพื้นดินถึงยอดมงกุฏ 120.45 เมตร ฐานโดยรอบวัดได้ 235.50 เมตร

เส้นผ่าศูนย์กลาง 56.65 เมตร จากปากระฆังถึงสี่เหลี่ยมสูง 18.30 เมตร สี่เหลี่ยมด้านละ 28.10 เมตร ปล้องไฉน 27 ปล้อง เสาหาร 16 ต้น คตพระระเบียงรอบกำแพงแก้วชั้น 562 เมตร กำแพงแก้วชั้นในโดยรอบ 912 เมตร ซุ้มมีระฆังบนลานองค์พระปฐมเจดีย์ 24 ซุ้ม

ส่วนงานนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ จัดขึ้นเป็นประจำ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชั่วไปในจังหวัดนครปฐมและทั่วราชอาณาจักร ได้ร่วมกันบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และร่วมกันบริจาคทรัพย์บำรุงรักษาองค์พระปฐมเจดีย์ให้มั่นคงสืบเป็นประเพณี



ที่มา - ข่าวสด

5430
"พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต" หรือ "หลวงพ่อดำ" วัดช่องแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี






 
"พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต" หรือ "หลวงพ่อดำ" วัดช่องแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นพระพุทธปฏิมากรศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง ซึ่งชาวประมงฝั่งตะวันออกเลื่อมใสศรัทธา ทุกครั้งที่ออกทะเลมักจะไปนมัสการและขอพร ชาวประมงทุกคนจะกลับมาโดยสวัสดิภาพ มีโชคได้สินทรัพย์จากทะเลเป็นกอบเป็นกำ

พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต หรือหลวงพ่อดำ ประดิษฐานในวิหารวัดช่องแสมสาร อ.สัตหีบ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสูง 5 เมตร มีรูปใบหน้าอิ่มเอิบ ดวงตาทอดต่ำลงแผ่เมตตาให้กับผู้คนที่เดินทางมากราบไหว้

ตำนานหลวงพ่อดำระบุว่า เมื่อปีพุทธศักราช 2501 "หลวงพ่อดำรง คุณาสโภ" ได้เดินทางจาก จ.สุพรรณบุรี มาปักกลด ณ บริเวณพระเจดีย์เก่าบนเขาของวัดช่องแสมสาร

หลวงพ่อดำรง ได้เล่าให้ญาติโยมที่ไปกราบนมัสการให้ฟังว่า ท่านจำพรรษาอยู่วัดเขาขึ้น อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี สาเหตุที่เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ เพราะได้ฝันว่า เทพยดาองค์หนึ่งบอกให้ไปสร้างพระพุทธรูปไว้ใกล้ๆ พระเจดีย์เก่าองค์หนึ่ง บนเขาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก

"ในภายภาคหน้า พระประธานองค์นี้จะกลายเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์และมีประชาชนให้ความเคารพนับถือเดินทางมากราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากบริเวณแห่งนี้มีความเหมาะสมที่จะบูรณะให้กลายเป็นแหล่งรักษาศีลและความสงบให้กับชาวพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก..."

หลวงพ่อดำรง ได้ออกเดินทางจากวัดเขาขึ้น กว่าจะถึงวัดช่องแสมสารเป็นเวลาหลายวัน เพราะท่านเดินทางถึงหมู่บ้านติดทะเลที่ใดก็จะแวะดูเรื่อยไป

จนถึงบ้านช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี คือ สถานที่ท่านปักกลดอยู่นี้ เป็นสถานที่มีภูมิทัศน์ตรงกับสภาพที่ท่านนิมิตฝัน ท่านจึงชักชวนญาติโยมช่วยกันบริจาควัสดุในการสร้างพระพุทธปฏิมากร ซึ่งได้รับศรัทธาร่วมมือด้วยดี

ในสมัยนั้นยังไม่มีทางรถยนต์ จึงจำเป็นต้องใช้แรงงานคนแบกขนวัสดุขึ้นไป การสร้างใช้เวลาสร้าง ประมาณ 2 ปี จึงแล้วเสร็จและทารักสีดำ ตั้งเป็นสง่าอยู่กลางแจ้ง โดยไม่มีหลังคาคลุมแต่อย่างใด

ชาวบ้านชาวเรือและผู้พบเห็น จึงเรียกว่าหลวงพ่อดำกันจนติดปาก ทั้งๆ ที่ตอนสร้างเสร็จ ท่านได้ถวายนามว่า "พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต" ซึ่งชื่อในตอนท้าย มีความหมายระบุว่า เป็นพระที่เกิดจากความฝันดี

หลังจากสร้างเสร็จประมาณ 1 เดือน ได้จัดงานฉลองพระและประกอบพิธีเบิกพระเนตร ในครั้งนั้นได้มีการผูกหุ่นฟาง 2 หุ่น เพื่อเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อดำ หลังจากเสร็จพิธีก็เผาหุ่นฟาง

หลวงพ่อดำ ได้ตั้งตากแดดอยู่กลางแจ้งเป็นเวลาถึง 10 ปีเศษ จนมีชาวประมงจากจังหวัดสมุทรปราการแล่นเรือผ่านมาเห็นหลวงพ่อดำตากแดด จึงบนขอพรว่าออกเรือเที่ยวนี้ขอให้ได้ 200,000 บาท จะมาทำหลังคาให้ ปรากฏว่าได้ดังคำขอ จึงเอาเงินมาฝากให้นายเจริญ ทิศาบดี ผู้ใหญ่บ้านช่วยทำหลังคา แต่ไม่มีฝา เมื่อฝนตกก็สาดเปียก

ต่อมาชาวประมงอีกรายผ่านมา ก็บนหลวงพ่อดำอีก ขอให้จับปลาได้เยอะๆ จะมากั้นฝาให้ ปรากฏว่าได้สมหวังก็เอาเงินมาฝากผู้ใหญ่ให้ช่วยทำต่อไป

สภาพวิหารหลวงพ่อดำในขณะนั้น จึงเป็นเพียงมีหลังคาและฝาไม้สามด้าน มีชาวบ้านและชาวเรือต่างขึ้นไปนมัสการกราบไหว้เป็นจำนวนมาก และมักประสบผลสำเร็จ

หลังจากสิบปีผ่านไป สภาพของวิหารชำรุดทรุดโทรมจนใช้งานไม่ได้ นายเสน่ห์ พิทักษ์กร สมาชิกสภาจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมมือกับพระครูวิสารทสุตากร เจ้าอาวาส พร้อมชาวบ้านร่วมกันสร้างเป็นวิหารจตุรมุข ภายในมีจิตรกรรมฝาผนัง และมีภาพปูนปั้นเรื่องราวพุทธประวัติ ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน

ครั้นสร้างเสร็จ ได้ทำพิธีเปิดวิหารอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2532

ในแต่ละวันมีประชาชนเดินทางไปนมัสการขอบนและแก้บนสิ่งสมปรารถนาโดยมิได้ขาด เรื่องราวพุทธานุภาพปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อดำมีมาก จากคำบอกเล่าของผู้คนที่มาแก้บนแต่ละวัน จะเข้าสักการะแก้บนด้วยไข่ต้มและพวงมาลัยดอกไม้สด

ตามความเชื่อว่าหลวงพ่อดำคุ้มครองรักษา ให้ปลอดภัยและได้โชคลาภสิ่งที่สมปรารถนาไม่ขาดสาย จนหลวงพ่อดำที่ทารักสีดำ กลายเป็นหลวงพ่อดำสีทองเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งองค์ในปัจจุบัน

ผู้ที่จะเดินทางไปวัดช่องแสมสารแห่งนี้ หากเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ให้ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ผ่านไปถนนสุขุมวิทและไปถึง อ.สัตหีบ หรือหากมาจากถนนบางนา-ตราด ให้วิ่งไปทางพัทยาและผ่านไปถึง อ.สัตหีบ

สำหรับถนนทางขึ้นสู่ยอดเขานั้นราดยางอย่างดีตลอดเส้นทาง และจะได้พบกับทัศนียภาพอันสวยงาม ทั้งทางทะเลและบนภูเขาควบคู่กันไปด้วย

หากมีเวลาจะได้ชมพระ อาทิตย์ตกทะเลอย่างสวยงามอีกด้วย



ที่มา - ข่าวสด

5431
หลวงพ่อเทพโมฬี วัดเทพโมฬี จ.กำแพงเพชร





เมืองกำแพงเพชร เป็นเมืองเก่าแก่ ที่มีความสำคัญทางด้านการเมือง การสงคราม และด้านพระพุทธศาสนา หลักฐานที่ปรากฏให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ของพุทธศาสนาสมัยเก่า คือ ซากปรักหักพัง อุโบสถ วิหารต่างๆ ของวัด ที่มีอยู่รายล้อมเมืองกำแพงเพชร

"หลวงพ่อเทพโมฬี" (หลวงพ่อโม้) เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูน สะท้อนความรุ่งโรจน์ของเมืองกำแพงเพชรโบราณ ชาวเมืองเรียกว่า "หลวงพ่อโม้"

องค์พระพุทธรูป มีขนาดหน้าตักกว้าง 10 ศอก 1 คืบ สูง 13 ศอก 1 คืบ ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ สร้างครอบองค์เดิมไว้ภายใน เมื่อพุทธศักราช 2519 เดิมสันนิษฐานว่าเป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น

หลวงพ่อเทพโมฬี ประดิษฐานอยู่ ณ วัดเทพโมฬี จ.กำแพงเพชร เป็นวัดที่มีขนาดเล็ก มีเนื้อที่ประมาณ 12 ไร่ นอกเขตเมืองชากังราว อยู่ทิศใต้ของคูเมืองเก่า ด้านหน้าทิศตะวันออก ติดกับถนนราชดำเนิน ด้านหลังทิศตะวันตกติดกับบ้านพักอัยการจังหวัด และโรงพยาบาลแพทยบัณฑิต ทิศเหนืออยู่ใกล้กับสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดกำแพงเพชร สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย

วัดเทพโมฬี ชาวกำแพงเพชร เรียกว่า วัดหลวงพ่อโม้ เป็นวัดทิ้งร้างนอกเขตคูเมืองเดิมด้านทิศใต้เป็นเวลานานนับร้อยปี ซากปรักหักพังเป็นศิลาแดง เฉพาะองค์พระเทพโมฬี เป็นพระประธานในอุโบสถ มาแต่เดิมได้ชำรุดแตกหัก เหลือแต่พระปฤษฎางค์ และพระเศียร ส่วนพระกรหลุดร่วงหายไป มีต้นไม้และเถาวัลย์ ขึ้นรกคลุมจนแทบมองไม่เห็นองค์พระพุทธรูป แถมยังมี งู แมงป่อง มากมาย ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้

ต่อมาใน พ.ศ.2519 นายกาจ รักษ์มณี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรในสมัยนั้น มีความคิดที่จะบูรณะพุทธสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีคนกราบไหว้ เพื่อจะได้เป็นสาธารณสถานให้ชาวกำแพงเพชรได้กราบไหว้บูชา

ท่านจึงปรึกษาหารือกับ นายจำรูญ อรรถธรรมสุนทร อัยการจังหวัดกำแพงเพชร อัยการจำรูญเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดว่า มีพระพุทธรูปเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์อยู่องค์หนึ่ง ชาวบ้านนับถือกันมาก อยู่หลังบ้านพักอัยการจังหวัด มีนามว่า หลวงพ่อโม้ มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ชาวบ้านนิยมกราบไหว้บูชา บนบานศาลกล่าวกันอยู่เสมอ

ผู้ว่าราชการจังหวัด และอัยการจังหวัด จึงตกลงที่จะบูรณปฏิสังขรณ์วัดเทพโมฬีแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อให้เป็นสถานที่บูชากราบไหว้ของชาวกำแพงเพชร และชาวจังหวัดใกล้เคียงสืบไปภายหน้า

โดยชักชวนข้าราชการ พ่อค้า และชาวกำแพงเพชร ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ หลวงพ่อเทพโมฬี และ หลวงพ่อแป้งข้าวหมาก ขึ้นมาใหม่ โดยสร้างครอบองค์เดิมไว้

ทางจังหวัดกำแพงเพชร ได้ไปอาราธนา หลวงพ่อโง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการปั้น และทำพิธีทางศาสตร์เวทในด้านนี้ มาเป็นผู้ปั้น พร้อมทั้งบูรณปฏิสังขรณ์องค์หลวงพ่อเทพโมฬี

หลวงพ่อโง่น ได้เป็นประธานควบคู่กับการประกอบพิธีกรรมตามประเพณีทุกขั้นตอน โดยใช้เวลาปั้นหลวงพ่อเทพโมฬี พร้อมทั้งปรับปรุงบริเวณโดยรอบแล้วเสร็จใน พ.ศ.2520 ในระหว่างนั้น หลวงพ่อภา หรือพระครูวิธานวชิรศาสน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเสด็จ (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) นำพระภิกษุมาช่วยร่วมบูรณปฏิสังขรณ์โดยตลอด

เหตุที่ชาวเมืองกำแพงเพชร เรียกว่า "หลวงพ่อโม้" จนติดปาก เพราะมีเรื่องเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่านอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะบนบานศาลกล่าวสิ่งใดในเรื่องที่ดีก็มักจะประสบความสำเร็จทุกรายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบนขอให้ฝนไม่ตกในช่วงเวลา จัดงานต่างๆ ในจังหวัด

ด้วยความศักดิ์สิทธิ์เสมือนหนึ่ง "โม้" นี่เอง จึงเรียกกันติดปากเรื่อยมาว่า "หลวงพ่อโม้"

ปัจจุบัน วัดเทพโมฬี เป็นพุทธสถานสาธารณะ อยู่ในความดูแลของวัดเสด็จ และบรรจุให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดกำแพงเพชร ในแต่ละวันจะมีพุทธศาสนิกชนแวะเวียนมากราบไหว้บูชา เพื่อขอพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา สำหรับเครื่องแก้บน นอกจากดอกไม้ธูปเทียนแล้วก็มีขนมจีนกับแป้งข้าวหมาก

ใครที่มีโอกาสเดินทางผ่านไปยังจังหวัดกำแพงเพชร ควรจะแวะไปสักการบูชาขอพรต่อองค์หลวงพ่อเทพโมฬี ที่วัดเทพโมฬี ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว



ที่มา - ข่าวสด

5432
เริ่มขึ้นแล้วครับ สำหรับกิจกรรม แฟนพันธุ์แม้ หลวงปู่ทิม วัดพระขาวครับ
รายละเอียดติดตามกันได้ในนี้ครับ
http://www.luangputim.com/webboard/viewtopic.php?t=520  :-*

5434
อนุโมทนาครับ อริยะสงฆ์ของเมืองนครปฐมอีกรูปหนึ่ง :-*

5435
จังหวะดีๆครับท่าน ;D

5436
ขอบคุณมากๆครับท่าน :-*

5438
ลายเส้นคมมั่กๆครับ :)

5439
งามครับพี่น้อง :)

5440
อย่ายึดติดครับ :)

5441
ผ่อนหนักเป็นเบา ดีครับ  :-*

5443
หุหุ ครับ ไม่ทราบครับ ประเด็นนี้ อิอิ ;D

5444
ข้อห้ามของตะกรุดนารายณ์แปลงรูปคือ ห้ามแกะออกครับ ท่านพระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ย้ำมาครับ :)

5445
นารีผล ชื่อก็บอกแล้วครับ ว่าเป็นเพศหญิง มาเป็นชาย+หญิง คิดไปถึงอิ่นเลยครับ :D

5446
หลังจากที่ได้ดูของ อาจารย์หนู จึงได้ข้อคิดครับ
"ได้มาถ้าไม่รักษาก็เสมือนประหนึ่งว่า เป็นลวดลายสักธรรมดาประดับไว้เท่านั้น" :)

5447
หุหุ ไม่ต้องคิดมากครับผม :D ;D :-*

5448
น่าคิดครับ อิอิ ถามท่านดูครับ  :D

5449
อิอิ สวัสดีครับพี่น้อง พระสีฯ ไม่มีอะไรมากครับ
ตะกรุด 3 ห่วง รูดเอา แล้วแต่จะใช้ครับ สู้ไว้ข้างหน้า ไม่กล้าไว้ข้างหลัง ขวาเจ้านาย ซ้ายชาย,หญิง   คาถาของหลวงพ่อเต๋   นะอุด โมอัด พุทยัดเข้าไว้ ปิดติภาคา พุทธะสังมิ อะนิทัสสะนะอัปปะติ อัดด้วยนะ
กุมารสายวัดสามง่ามที่ผมเลี้ยงอยู่ จุดธูป 5 ดอกครับ
ตะลุยวัด ผ่านไปนิดหน่อยแล้วครับผม วัดดอนยายหอม,วัดเกาะวังไทร,วัดห้วยจระเข้,วัดกลางบางแก้ว. อิอิ ครับ :-*

5451
หลวงปู่แย้ม รุ่นสุดท้าย อยากได้ยอดขุนพลล ;D

5452
หลวงปู่แย้มท่านก็รับสัก แต่ปัจจุบัน ท่านชราภาพแล้ว เลยงดครับ :-*

5453
พระพุทธไตรรัตนนายก วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา





"วัดพนัญเชิงวรวิหาร" เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่สร้างมาก่อนสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยาไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง

ตามหนังสือพงศาวดารเหนือ ระบุว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง ณ บริเวณที่พระราชทานเพลิงศพพระนางสร้อยดอกหมาก ส่วนที่มาของคำว่า พนัญเชิงนั้น ตามตำนานมูลศาสนา กล่าวว่า เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า พะแนงเชิง ซึ่งแปลว่า การนั่งพับเพียบ ซึ่งเป็นอาการที่พระเจ้าสายน้ำผึ้ง และพระนางสร้อยดอกหมากใช้ในวาระสุดท้ายของเรื่อง

นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์ศัพท์ที่ใกล้เคียงพบว่า คำว่าพะแนงเชิง ทางภาษาปักษ์ใต้ หมายถึงอาการนั่งแบบขัดสมาธิ

พระประธานในพระอุโบสถ เรียกกันว่า "พระโต" หรือ "หลวงพ่อโต" หรือ "หลวงพ่อพนัญเชิง" ชาวจีนเรียกว่า "ซัำปอกง" โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "พระพุทธไตรรัตนนายก"

เป็นศิลปะอู่ทองตอนปลาย ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ มีพัดยศขนาดใหญ่ตั้งอยู่เบื้องหน้า องค์พระปั้นด้วยปูน ลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง 14.20 เมตร สูง 19.20 เมตร ในพงศาวดารระบุว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้ง กษัตริย์แห่งอโยธยาเป็นผู้สร้างไว้ และพระราชทานนามว่า วัดพระเจ้าพระนางเชิง เข้าใจว่าพระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นพร้อมกับวัด และสร้างไว้กลางแจ้ง

ในจดหมายเหตุของแคมเฟอร์เขียนครั้งกรุงศรีอยุธยาว่า พระพุทธรูปองค์นี้เป็นของมอญ ในหนังสือภูมิสถานอยุธยา ว่าเป็นของพระเจ้าสามโปเตียน ซึ่งน่าจะเพี้ยนมาจากภาษาจีนว่า ซำปอกง แปลว่า รัตนตรัย

พระพุทธรูปองค์นี้ คนไทยเรียกทั่วไปว่า หลวงพ่อโตหรือหลวงพ่อพนัญเชิง ในสมัยกรุงศรีอยุธยาปรากฏว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงซ่อมครั้งหนึ่ง และต่อมาพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาคงจะซ่อมแซมกันต่อมาอีกหลายพระองค์

ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระปฐมบรมราชจักรีวงศ์ ได้ทรงปฏิสังขรณ์และได้รับการบูรณะต่อมาหลายพระองค์ โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้บูรณะใหม่ทั้งองค์ เมื่อปลาย พ.ศ.2397 แล้วถวายพระนามพระพุทธรูปว่า "พระไตรรัตนายก"

พ.ศ.2444 เกิดเพลิงไหม้ผ้าห่มพระเจ้าพนัญเชิง ทำให้องค์พระชำรุดร้าวแตกรานหลายแห่ง โปรดฯ ให้ซ่อมแซมกลับคืนดังเดิม เสด็จพระราชดำเนินทรงปิดทองแล้วมีสมโภช

ต่อมาในรัชกาลที่ 7 องค์พระส่วนพระหนุ (คาง) พังทลายลงมาจนถึงพระปรางค์ทั้งสองข้าง ได้ซ่อมแซมจนเรียบร้อยภายในเวลา 1 ปี ครั้งนั้นได้เปลี่ยนพระอุณาโลมจากทองแดงเป็นทองคำด้วย

ในรัชกาลปัจจุบันมีการปฏิสังขรณ์ ลงรักปิดทองใหม่ทั้งองค์ 2 ครั้งแล้ว คือ ในปี 2491 กับปี 2534-2536

ในพระราชพงศาวดารกล่าวว่า เมื่อกรุงศรีอยุธยาจะเสียแก่พม่าครั้งที่สองนั้นพระพุทธรูปองค์นี้มีน้ำพระเนตรไหลออกมาทั้งสองข้าง

หลวงพ่อโต เป็นที่นับถือของชาวไทยและชาวจีน มักจะมากราบไหว้โดยเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตดีขึ้น การค้าขายเจริญก้าวหน้า พุทธศาสนิกชนส่วนมากจะนำผ้ามาห่มองค์พระ มักนิยมนำผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ อาหารคาวหวานมาสักการะ

งานประจำปีใหญ่ๆ 4 งาน ก็เป็นงานที่เนื่องด้วยประเพณีจีน 2 งาน คือ งานสงกรานต์ 13 เมษายน เป็นงานใหญ่มีการนมัสการและเวียนเทียนประทักษิณรอบองค์พระติดต่อกันถึง 5 วัน

งานสรงน้ำและห่มผ้าถวาย วันแรม 8 ค่ำ เดือนเมษายน มีการสรงน้ำและเปลี่ยนผ้าห่มผืนใหม่ ส่วนผืนเก่าที่ใช้มาตลอด 1 ปี จะฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ แจกจ่ายให้ผู้คนนำไปบูชา

งานทิ้งกระจาดหรืองานงิ้ว เดือน 9 จะมีงิ้วและมหรสพอื่นๆ เล่นประชันกันอย่างครึกโครม จะมีผู้คนนับหมื่น หลั่งไหลกันมานมัสการนับเป็นงานทิ้งกระจาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยทีเดียว

งานตรุษจีนเป็นงานใหญ่อีกงานหนึ่ง จะมีการเปิดประตูพระวิหารหลวงไว้ทั้งวันทั้งคืนตลอด 5 วันที่จัดงาน

คาถาบูชาพระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต) วัดพนัญเชิง มีดังนี้ "ตั้งนะโม 3 จบ อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ, ทุติยัมปิ อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ, ตะติยัมปิ อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ"

วัดแห่งนี้มีผู้เดินทางมาสักการะตลอดทั้งปี ทางกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุ และโบราณสถานแห่งชาติ

ปัจจุบันมีพระราชรัตนวราภรณ์ เป็นเจ้าอาวาส พัฒนาวัดเป็นศูนย์รวมทางการศึกษาของพระสงฆ์และสามเณร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้มาชมและกราบไหว้พระพุทธรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา


ที่มา - ข่าวสด

5455
มีครับท่าน ลองหาดูครับ  :-*

5457
งามครับ ได้จากหลวงพี่แป๊วอีก สุดๆครับ :-*

5458
ประเด็นที่น่าจะเป็นไปได้นะครับ ( ไม่ชัวร์นะครับ )
พระซุ้มนครโกษา , พระร่วงนั่ง อะไรเทือกนี้แหละครับ :)

5461
พระอาจารย์ท่านจะจัดให้ครับ  :)

5462
ศิษย์หลวงปู่เหมือนกันครับ วางใจได้ครับ :-*

5463
รอติดตามชม รายการ "เรื่องจริงผ่านจอ"  ในวัน พฤหัสบดี ที่ 8 พฤษภาคม 2551 ได้ครับ เยี่ยมจริงๆครับท่าน :-*

5464
ยืนยันอีกเสียงครับท่าน ไม่ดีอย่างแน่นอนครับ :)

5466
พระดี เจตนาดี วัตถุประสงค์ดี ก็ดีแล้วครับ :)

5468
ไม่น่าจะมีนะครับ  :)

5469
สีผึ้ง พ.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชครับ ( ปี 45 หุงที่ เขาอ้อ ร่วมกับ พ่อท่านกลั่น , อ.ฉันทิพย์ , อ.ประจวบ  ) ร้อยเดียวเองครับ ตอนนี้คงหายากหน่อยครับผม :-*

5470
จ-ศ วันไหนก็ไดครับพี่น้อง ยินดีต้อนรับครับผม :-*

5471
น่าจะเป็นบล็อคกระบอกนะครับ ตามรายละเอียดที่ว่ามา จึงสรุปได้ว่า ไม่แท้ครับ  :)

5472
อนุโมทนาครับ :-*

5473
สนับสนุนครับ หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทรครับ เยี่ยม :-*

5474
อ.หนวด :-*

5478
สัตถาเทวะมะนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ มะอะอุ

5480
ส่วนมากจะขึ้น 9 ยอดก่อนครับ ว่าแต่อยู่ประเทศไหนหรือครับ เห็นว่ามาไกลเชียว :)

5481
จะแขวนพระอะไรก็ได้ครับ ขึ้นอยู่ที่ แขวนไปแล้วเราจะประพฤติตนอย่างไรต่างหากครับ  ทำดีย่อมได้ดีครับ สาธุ  :)

5482
เพิ่งกลับมาจากวัดกลางบางแก้วครับ ฝนก็ตก  กะว่าจะเอาเบี้ยไปให้หลวงปู่ท่านเสกให้หน่อย เข้าไปที่กุฏิท่าน เห็นท่านฉันข้าวอยู่ ก็ไม่อยากรบกวนท่าน

www.wkk.ac.th  อันนี้เป็นเวปของทางวัดกลางบางแก้วครับ  เข้าไปชมกันได้ครับ เห็นว่า ปีหน้า ทางวัดจะแจกพระเครื่องหลวงปู่บุญด้วยนะครับ ลองเข้าไปดูครับ :-*

5483
ขอบคุณทุกๆกำลังใจครับ สอบผ่านไปตั้งแต่ วันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 26-27 เมษายน 2551 แล้วครับ หวังลึกๆครับว่าน่าจะผ่าน ( หลวงปู่ทิมช่วยด้วยย  ;D ;D ) ขอขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งครับผม
                                           
                                                                  ด้วยความจริงใจ

                                                                     " สิบทัศน์ "

5484
เห็นด้วยครับ แล้วแต่พระอาจารย์ท่านจะเมตตาครับ :-*

5485
ถ้าสร้างจริง ก็คง ไม่ทันเสด็จเตี่ยหรอกครับ  :)

5486
ไปหาประวัติหุ่นพยนต์เขาอ้อมาฝากครับ? ?( ของ พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง? รุ่นมหาเวท มหามงคล 48 )




 ในอดีตแต่ครั้งโบราณจนถึงปัจจุบัน ผู้บำเพ็ญพรตทั้งหลาย เช่น ฤาษี-พราหมณาจารย์-นักสิทธิ์วิทยา-พระคณาจารย์
ที่แก่กล้า และเชี่ยวชาญในวิชาอาคม โดยคณาจารย์แต่ละท่านนั้นเป็นเหล่าผู้ที่มีสมาธิแก่กล้าสำเร็จภูมิธรรมชั้นสูง ในด้านสมถะ
หรือวิปัสนากรรมฐานก็ตาม สามารถที่จะแสดงฤทธิ์ออกมาได้หลายรูปแบบ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ พระคณาจารย์เหล่านั้นท่าน
จะแสดงฤทธิ์หรือไม่ หรือมีเหตุอันควรสิ่งใดที่จำเป็นจะแสดงฤทธิ์ออกมา ถ้าหากจะแสดงฤทธิ์ออกมา ก็คงเป็นไปเพื่อยังความ
ศรัทธาของพุทธบริษัททั้งหลายที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ให้ศรัทธาในพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้นไปเป็นสำคัญ การผูกหุ่น
พยนต์ของคณาจารย์รูปใดรูปหนึ่ง จะกำหนดให้เกิดอาการ 32 สามารถรับรู้และรู้เห็นเคลื่อนไหวได้ เหมือนกับสิ่งมีชีวิตจริง
ทุกประการ หรือในลักษณะของการแอบแฝง ซ่อนเร้น อยู่ในวัตถุธาตุ อาถรรพ์ต่างๆ จะแสดงฤทธิ์คอยปกป้องเมื่อมีผู้คิดร้าย
หรือถ้าหากเป็นสถานที่ต่างๆที่หุ่นพยนต์ดูแลรักษา หุ่นพยนต์จะแสดงฤทธิ์ในอาการต่างๆ ในหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป
คอยปกป้องเฝ้าทรัพย์สินสิ่งต่างๆ ในบริเวณพื้นที่นั้นๆ หุ่นพยนต์มีหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป เริ่มตั้งแต่สัตว์เล็กไปจนถึง
สัตว์ใหญ่ ตั้งแต่สัตว์เลื้อยคลานไปจนถึงช้าง, ปลาสวยงามไปจนถึงจรเข้, ผึ้งตัวเล็กไปจนถึงนกขนาดใหญ่ ผูกให้เกิดขึ้นได้ตั้ง
แต่ 1 ตัวไปจนถึงหลายตัว ไม่ว่าจะสร้างในรูปแบบของสัตว์บก / สัตว์น้ำ / สัตว์ปีก หรือรูปแบบของมนุษย์ และอมนุษย์ก็ตาม
ขึ้นอยู่กับพลังกะแสจิตของคณาจารย์ท่านนั้น กำหนดให้หุ่นพยนต์ออกมาในรูปแบบใด เพื่อประโยชน์สิ่งใดสิ่งหนึ่งในการใช้
หุ่นพยนต์นั้นๆ

              สำนักตักสิลาเขาอ้อ เป็นสำนักหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญในวิชาผูกหุ่นพยนต์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก่อนพระ
พุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองแผ่มาถึงแผ่นดินสุวรรณภูมิ มีประวัติตั้งแต่ฤาษีผู้ทรงพรต, พราหมณาจารย์ นุ่งขาวห่มขาวบำเพ็ญ
ศีล และฆราวาสผู้เรืองเวทย์หรือนักสิทธิ์วิทยา จนมาถึงพระคณาจารย์ ผู้บำเพ็ญรักษาศีลอยู่ในข้อวัตร วินัยของบวรพระพุทธ
ศาสนาสืบต่อมาตราบเท่าทุกวันนี้ ล้วนเชี่ยวชาญในตำราไสยเวทย์ ว่าด้วยการผูกหุ่นพยนต์ ทำให้เห็นในรูปร่างและลักษณะ
ต่างๆ หุ่นพยนต์ที่พระอาจารย์คล้อย อโนโม ได้สืบทอดตำราจากพระอาจารย์สายเขาอ้อ มาตั้งแต่พระอาจารย์ทองเฒ่า พระ
อาจารย์เอียด พระอาจารย์ปาน จนมาถึงสมัยท่านอาจารย์คล้อย ครูอาจารย์ท่านได้แต่ใช้ในกรณีใดกรณีหนึ่งเท่านั้นยังมิได้เคย
จัดสร้างเป็นลักษณะวัตถุอาถรรพ์ขึ้นเป็นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง พระอาจารย์คล้อย อโนโม ได้เห็นควรที่จะนำวิชาที่ท่านเชี่ยว
ชาญมาใช้ในเวลาอันสมควรนี้ เพื่อนำปัจจัยไปสร้างศาลาการเปรียญที่ยังจัดสร้างไม่เสร็จ ขณะที่พรรษาท่านได้แก่กล้าเชี่ยว
ชาญกับวิชาที่ได้ศึกษาครูบาอาจารย์ จึงเห็นควรที่จะนำวิชาผูกหุ่นพยนต์มาจัดสร้างในรูปแบบ "ตาปะขาว" ในลักษณะนุ่งขาว
และนุ่งแดง

              หุ่นพยนต์ตาปะขาวนุ่งแดง หมายถึง หุ่นพยนต์ที่พระอาจารย์คล้อย อโนโม ได้ปลุกเสกเดินกระแสจิต ไปในทาง
ด้านอิทธิฤทธิ์ เกี่ยวกับปกป้องคุ้มครองภัยทำให้ผู้ที่ประสงค์คิดร้าย เห็นไปในรูปแบบลักษณะต่างๆ กัน เช่นเห็นว่มากันหลาย
คนบ้าง ตามแต่กระแสจิตผู้คิดร้ายจะปรุงแต่งขึ้นมา

              หุ่นพยนต์ตาปะขาวนุ่งขาว หมายถึง หุ่นพยนต์ที่พระอาจารย์คล้อย อโนโม ได้ปลุกเสกเดินกระแสจิตไปในทาง
บุญฤทธิ์ เกี่ยวกับด้านเมตตา, ค้าขาย เฝ้าดูแลรักษาผลประโยชน์ของผู้ที่ครอบครอง ตามจิตเจตนาในทางกุศล

              เพราะฉะนั้น หุ่นพยนต์ตาปะขาวนุ่งขาว จะมีพุทธคุณในด้านบุญฤทธิ์ และหุ่นพยนต์ตาปะขาวนุ่งแดง จะมีพุทธ
คุณในด้านอิทธิฤทธิ์ และฤทธิ์เดชต่างๆ กัน

              วัตถุที่นำมาจัดสร้างหุ่นพยนต์ตาปะขาว ประกอบด้วยชนวนหุ่นพยนต์โลหะอาถรรพ์หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ
จ.ราชบุรี แผ่นยันต์ 108 แผ่น ของพระอาจารย์คล้อย อโนโม, แผ่นยันต์จากพระคณาจารย์สายเขาอ้อ, โลหะอาถรรพ์อื่นๆ จาก
หลายสถานที่

              รูปแบบลักษณะยันต์ที่ลงไว้ที่ตัวหุ่นพยนต์ตาปะขาว คือ ที่โคนขาขวาและซ้าย ลงด้วยธาตุ 4 นะมะพะทะ ดินน้ำ
ลมไฟ ลงหัวใจตาปะขาวไว้ที่ผ้าพาดบ่าถักด้วยด้ายมงคล ขาว-แดง เวียนทักษิณาวรรต ในลักษณะนุ่งโจนกะเบน มีชาย 7 เส้น
หมายถึงตัวอภินิหารว่าด้วย สัง วิ ชา ปุ กะ ยะ ปะ ปลุกเสกแช่ในน้ำว่าน มีใบไม้ไม่รู้นอน 7 อย่าง แช่ปนอยู่ในน้ำว่าน คือ ใบตาล,
ใบลาน, ใบขนุน, ใบคูณ, ใบพยุง, ใบรัก, ใบจันทร์

              ตอกโค๊ตตัวยันต์นาซีหรือตัวโอม เป็นตัวเกิดไว้ที่บ่าขวา หุ่นพยนต์ตาปะขาว ที่พระอาจารย์คล้อย อโนโม ผูกขึ้นมา
นั้นอยู่ในลักษณะเป็นรูปมนุษย์สูงอายุ มีตะบะ เดชะ อำนาจ มีความเมตตา ดูแลเฝ้ารักษาสถานที่ ผู้ที่มีเจตนาไม่ดีเท่านั้นจึงจะได้
พบเห็นเป็นภูติผีปีศาจ จากภายนอกขับไล่ผู้ที่มีเจตตนาไม่ดีมิให้เข้าใกล้ตัวผู้ครอบครองหรือสถานที่ที่เฝ้ารักษาทำให้เห็นเป็น
คนชรา, พระภิกษุ, เป็นผู้หญิง, เป็นชาย, เป็นเด็กหรือรูปร่างหน้าตาเหมือนตัวเราขณะที่เราไม่ได้อยู่ที่นั้นๆ










หรือรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่

http://www.siristore.com/Products/Mahawetch1.asp









5487
ขอบคุณครับ วันที่ 14 พฤษภาคม 2551 นี้ เป็นวันคล้ายวันเกิด หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ได้ข่าวมาว่ามีแจกพระด้วยนะครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ พี่น้องท่านใดว่างๆ ก็ไปรอรับได้ครับผม :001:

5488
หลวงพ่อพระยืนมิ่งมงคล พระพุทธรูปศิลา จ.ขอนแก่น



ในสมัยกรุงสุโขทัยเรืองอำนาจแทนอาณาจักรขอม ได้ทิ้งอารยธรรมไว้เป็นมรดกตกทอดแก่ชนชาติไทย คือ ด้านการปกครอง ปกครองแบบเทวราช ความคิดความเชื่อในทางศาสนาพราหมณ์

นอกจากนี้ ยังมีระบบจตุสดมภ์ 4 ประกอบด้วย เวียง วัง คลัง นา สำหรับการปกครองอาณาจักรและประเพณีสืบราชสมบัติของอาณาจักร ด้านวัฒนธรรมได้แก่ การนับถือศาสนาพราหมณ์ ทำให้เกิดประติมากรรม และสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทวาลัยและเทพเจ้าทางศาสนาพราหมณ์เช่น เทวรูปต่างๆ ปราสาทหินเหล่านี้เป็นตัวอย่างแหล่งวัฒนธรรมที่เป็นมรดกตกทอดของอาณาจักรขอม ที่ยังคงอยู่ในประเทศไทย

ปัจจุบัน มีซากเมืองโบราณ ลักษณะทรงกลมเป็นเมืองแฝดคู่กันแบบเมืองชั้นนอก ชั้น ในเมืองเป็นซากโบราณสถาน เป็นปรางค์ก่อด้วยอิฐและชิ้นส่วนของเทวรูป ลักษณะประติ มากรรมส่วนใหญ่จะเกี่ยวเนื่องกับศาสนาพราหมณ์ ในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีโบราณสถานสมัยขอมมากมายโดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่น มีอยู่หลายอำเภอ

แต่ในที่นี้จะขอกล่าวเฉพาะโบราณสถานหลวงพ่อพระยืนมิ่งมงคล

"หลวงพ่อพระยืนมิ่งมงคล" เป็นพระพุทธรูปศิลาที่สร้างขึ้นในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ หรือเรียกว่าสมัยขอมโบราณของอาณาจักรขอม (ประมาณพุทธศตวรรษที่ 11-19) เป็นพระพุทธรูปขอม สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 (พุทธศตวรรษที่ 15-16) เป็นโบราณวัตถุที่สร้างขึ้นสักการบูชาในสมัยขอมเรืองอำนาจ

หลวงพ่อพระยืนมิ่งมงคล ประดิษฐานอยู่บริเวณเหล่าตะวันตกของหมู่บ้าน บริเวณโรงเรียนชุมชนบ้านพระยืน องค์หนึ่ง เรียกว่าองค์ตะวันออก เพราะอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้านพระยืน มีอาณาบริเวณเฉพาะ สร้างศาลาเป็นที่กำบังแดดฝนอย่างดี

พระยืนองค์หนึ่ง แต่เดิมคนรุ่นเก่า เล่าว่า เป็นพระพุทธรูปยืน แต่ถูกโจรทุบทำลาย ดังคำบอกเล่าในศิลาจารึกที่ฐานพระพุทธรูปที่จารึกไว้ เมื่อคราวปฏิสังขรณ์เสร็จเมื่อรัตนโกสินศก 111 (พ.ศ.2435)

พระพุทธรูปศิลาทั้งสององค์นี้ เป็นพระพุทธรูปสมัยขอมเป็นพระที่มีพุทธลักษณะแบบสกุลช่างของขอมโดยแท้จริง คือ เป็นพระนาคปรก มีอายุราว 1,000 กว่าป มาแล้ว ลักษณะของพระพุทธรูปสมัยขอม มีพุทธลักษณะสำคัญ ดังนี้

1.เป็นพระพุทธรูปแกะสลักศิลาทราย หรือศิลาแลง

2.เป็นพระพุทธรูปที่มีพระวรกายกำยำ

3.เป็นพระพุทธรูปที่มีนาคปรก 7 เศียรเป็นรัศมีประภามณฑล

4.เป็นพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิ ปางมารวิชัย และเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร

5.เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะพระโอษฐ์แบะ พระเนตรโต พระพักตร์เหลี่ยม พระขนง เป็นสันตรง พระนาสิกโด่งสั้น ทรงจีวรแบบเนื้อไม?มีกลีบ

ข้อความศิลาจารึกที่หน้าตักพระยืนองค์ตะวันตก มีใจความว่า "เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม รัตนโกสินทร์ศก 111 ด้วยพระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคมข้าหลวงใหญ่เมืองลาวพวน มีบัญชาสั่งโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมชัยวัฒนาข้าหลวงที่สอง หัวเมืองลาวพวน มาระงับทุกข์สุข หัวเมืองน้อยใหญ่เขตแดน เมืองขอนแก่นให้เรียบร้อยมีความสุขความเจริญต่อไป ข้าพเจ้าได้รับสั่งแล้วจึงมาระงับทุกข์สุข เพื่อกรมการและราษฎรในเขตแขวงเมืองขอนแก่นตามรับสั่ง

ครั้น ณ วันที่ 2 ปีระกา รัตนาโกสินทร์ศก 111 ความว่า มีพวกอ่านคิดมิชอบซ่องสุมพากันเข้าไปเรียนรีดศาสนาเยซูต่อบาท หลวงคาทอลิก พากันมาทำลายพระพุทธรูป ศิลาทั้งสองพระองค์ ให้แตกหักเป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่ แล้วพากันขุดหาทรัพย์ภาย ในดิน

ข้าพเจ้าทราบความจึงพร้อมด้วยทหารและกรมการ พากันไปที่บ้านพระยืนจับได้พวกอ้ายคิดมิชอบมาลงโทษานุโทษแล้วบอกหมื่นทูลพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ข้าหลวงใหญ่เมืองลาวพวน ขึ้นไปเมืองหนองคายให้ทรงทราบพระบาทแล้วโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปศิลาให้เรียบร้อยดีดังเก่า แล้วโปรดให้ปลูกเรือนกันแดดและกันฝน อย่าให้เป็นอันตรายต่อไปได้

ข้าพเจ้ารับสั่งแล้วจึงจ้างให้เอาปูนประสมน้ำเชื้อไปพรมพระรูปศิลา ที่พวกอ้ายคิดมิชอบทำลายทุบเป็นผู้กำกับกรรมการให้แล้วโดยเร็ว

ครั้งถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทร์ศก 111 การปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปศิลาจึงแล้วเสร็จข้าพเจ้าพร้อมด้วยกับหลวงสิทธิสราวุธ ข้าหลวงเมืองชนบท นายกิจการีข้าหลวงเมืองขอนแก่น เท้าเพียกรมการและราษฎรข้าหลวงเมืองลาว ได้จัดงานฉลองสมโภชพระพุทธรูปทั้ง สองพระองค์ เพื่อเป็นสิริมงคล

ทุกวันนี้ ชาวบ้านได้ถือเอาวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เป็นวันจัดงานเทศกาลบุญเหล่าประจำปี สืบต่อกันมา ปัจจุบันถือว่าเป็นงานระดับอำเภอ


ที่มา - ข่าวสด

5489
หลวงพ่อพระลับ วัดธาตุ อ.เมือง จ.ขอนแก่น







"หลวงพ่อพระลับ" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง 11 นิ้ว สูง 29 นิ้ว ประทับนั่งขัดสมาธิราบ พระพักตร์รูปไข่ พระนลาฏกว้าง พระขนงโก่ง พระเนตรเรียว เหลือบตาลงต่ำ พระนาสิกสันปลายแหลม พระโอษฐ์แย้ม ขนาดพระเกศาเล็กแหลม พระเกตุมาลาใหญ่

รัศมีเป็นเปลวตั้งอยู่บนฐานกลีบบัว ครองจีวรห่มเฉียง เปิดพระอังสาขวา ชายจีวรยาวลงมาจรดพระนาภี นิ้วพระหัตถ์ยาวเสมอกัน ฐานปัทม์ยกสูงทรงสี่เหลี่ยมบัวคว่ำหงาย และแนวลูกแก้วอกไก่งอนขึ้นทางด้านบน

หลวงพ่อพระลับ จัดอยู่ในกลุ่มพระพุทธรูปศิลปะลาว "สกุลช่างเวียงจันทน์" คล้ายพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ระเบียงหอพระแก้ว เมืองเวียงจันทน์ มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 22-24

ประวัติเล่าสืบกันมาว่า พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 1 (พ.ศ.2077-2114) เป็นกษัตริย์ครองเมืองหลวงพระบาง เมื่อพม่ายกทัพมาตีเมืองหลวงพระบาง พ.ศ.2090 พระองค์อพยพไปตั้งเมืองหลวงใหม่ ชื่อ "เวียงจันทน์บุรีศรีสัตนาค" การอพยพครั้งนี้ได้นำพระแก้วมรกต พระบางพระพุทธรูปองค์อื่นๆ ไปด้วย ซึ่งพระพุทธรูปทั้งหมดสร้างในสมัยเชียงแสน เชียงใหม่ และสมัยพระเจ้าโพธิสารมหาธรรมิกราชาธิราช

จากการศึกษาพระพุทธลักษณะจึงสันนิษฐานว่า หลวงพ่อพระลับ สร้างขึ้นโดย "พระเจ้าโพธิสาร พระมหาธรรมิกราชาธิราช" ประมาณ ปี พ.ศ.2068 ณ นครหลวงพระบาง เมื่อ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 1 สวรรคต พ.ศ.2114 พระเจ้าศรีวรมงคล ผู้น้องขึ้นครองราชสืบมา พระนามว่า "พระยาธรรมิกราช" (พ.ศ.2134-2165) มีโอรส 1 พระองค์ ชื่อ เจ้าศรีวิชัย

เมื่อพระยาธรรมิกราชสิ้นพระชนม์ กลุ่มของพระยาแสนสุรินทร์ขว้างฟ้า ยึดเมืองเวียงจันทน์ได้ เจ้าศรีวิชัยจึงหลบหนีพร้อมนำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ไม่ทราบจำนวน ซึ่งมีหลวงพ่อพระลับ รวมอยู่ด้วย ไปอาศัยอยู่กับท่านพระครูหลวง (เจ้าอาวาสวัดโพนสะเม็ด)

เจ้าศรีวิชัย มีโอรสอยู่ 2 คน คือ เจ้าแก้วมงคล และเจ้าจันทร์สุริยวงศ์

พ.ศ.2233 ท่านราชครูหลวงได้อพยพชาวเวียงจันทน์บางส่วนประมาณ 3,000 คน ไปบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุพนม แล้วพาครอบครัวเวียงจันทน์ไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ดอนโขง เนื่องจากท่านราชครูได้รับความเคารพจากประชาชนมาก สองพี่น้องชื่อ นางเพา นางแพง ซึ่งปกครองดูแลเมืองจำปาศักดิ์ จึงได้อาราธนาท่านให้ไปอยู่ที่นครจำปาศักดิ์

เมื่อท่านไปปกครองได้ขยายอาณาเขตนครจำปาศักดิ์ให้กว้างขวางออกไป และสร้างเมืองใหม่ ไม่ขึ้นต่อเมืองเวียงจันทน์และหลวงพระบาง ได้อัญเชิญ "เจ้าหน่อกษัตริย์" หรือ "เจ้าหน่อคำ" มาเสวยราชสมบัติ เป็นกษัตริย์ปกครองนครจำปาศักดิ์ใหม่ ทรงพระนามว่า "เจ้าสร้อยศรี สมุทรพุทธางกูร" (พ.ศ.2256-2280) และได้ให้เจ้าแก้วมงคล อพยพครอบครัว พร้อมประชาชนพลเมือง นำเอาพระพุทธรูปเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาจากเวียงจันทน์ ไปสร้างเมืองทง หรือ "เมืองสุวรรณภูมิ" (ปัจจุบัน คือ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด)

เจ้าแก้วมงคล ได้เป็นเจ้าเมืองสุวรรณภูมิคนแรก (พ.ศ.2256-2268) จากนั้นก็มีเจ้าเมือง สืบต่อมาจนถึง พ.ศ.2326 "ท้าวภู" ได้เป็นเจ้าเมืองสุวรรณภูมิได้รับบรรดาศักดิ์เป็น "พระรัตนวงษา" ได้แต่งตั้งให้ลูกชาย "ท้าวศักดิ์" ไปดำรงตำแหน่ง "เมืองแพน" มียศเป็น "เพีย" เทียบเท่าพระยาฝ่ายทหาร ให้ไปตั้งรักษาการอยู่ริมแม่น้ำชี สถานที่นั้น เรียกว่า "ชีโหล่น"

ต่อมาถึง พ.ศ.2332 ก็ได้รับคำสั่งให้ไปตั้งแห่งใหม่ชายแดนด้านเหนือเขตเมืองสุวรรณภูมิกับเขตเมืองร้อยเอ็ดในขณะนั้น "ท้าวศักดิ์" อพยพประชาชนพลเมือง ประมาณ 330 ครอบครัว พร้อมนำเอาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์หลายองค์ไปไว้เคารพสักการะเป็นมิ่งขวัญเมืองด้วย ตั้งบ้านใหม่เรียกว่า "บ้านบึงบอน" และได้ก่อสร้างหลักเมืองฝั่งตะวันตกบึง

เมื่อสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัยเรียบร้อยแล้ว จึงได้สร้างวัดขึ้น 4 วัด คือ "วัดเหนือ" ให้เจ้าเมืองและลูกไปทำบุญอุปัฏฐาก "วัดกลาง" ให้เสนาอำมาตย์พร้อมลูกหลานไปทำบุญอุปัฏฐาก "วัดใต้" ให้ประชาชนพลเมืองทั่วไปทำบุญอุปัฏฐาก "วัดท่าแขก" อยู่ฝั่งบึงด้านทิศตะวันออก สำหรับพระภิกษุอาคันตุกะจากถิ่นอื่นๆ มาพักประกอบพุทธศาสนพิธี

เมื่อสร้างวัดเหนือแล้ว จึงสร้างธาตุมีอุโมงค์ภายในนำเอาพระพุทธรูปไปเก็บซ่อนไว้อย่างลับที่สุด รู้แต่เจ้าอาวาสวัดเหนือเท่านั้น คนทั้งหลายจึงเรียกว่า "พระลับ" หรือ "หลวงพ่อพระลับ" สืบมาจนถึงทุกวันนี้

กระทั่ง พ.ศ.2340 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระบรมราชโองการยกฐานะบ้านบึงบอนขึ้นเป็น "เมืองขอนแก่น" ตั้งให้ "ท้าวศักดิ์" เป็นเจ้าเมืองขอนแก่นคนแรก มีนามว่า "พระนครศรีบริรักษ์"

เมื่อกล่าวถึงพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ในพระธาตุก็จะเรียกว่า พระลับ เพราะไม่มีใครเคยเห็น

ปัจจุบันบ้านพระลับกลายเป็นเทศบาลเมืองขอนแก่น เหลือเป็นอนุสรณ์ คือ ตำบลพระลับ ส่วนวัดเหนือเปลี่ยนชื่อเป็น วัดธาตุ (พระอารามหลวง)

สมัยหลวงปู่พระเทพวิมลโมลี (เหล่า สุมโน) เป็นเจ้าอาวาส เกรงว่าต่อไปจะไม่มีใครรู้จักหลวงพ่อพระลับ จึงเชิญผู้ว่าฯ ขอนแก่น เป็นสักขีพยานเปิดเผยพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้ให้เป็นพระพุทธรูปคู่เมืองขอนแก่น เมื่อวันออกพรรษาปี 2537 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ (18 ตุลาคม 2537)

พระลับจึงประจักษ์แก่สายตาเป็นพระคู่เมืองขอนแก่นนับแต่นั้น



ที่มา - ข่าวสด

5490
เห็นใจครับ ผู้หญิง ผู้ชายเท่าเทียมกันครับ  อีกอย่างศิษย์หลวงปู่เหมือนกัน ครับ :-*

5491
คืนนี้แล้วนะครับพี่น้อง ช่อง 5  22.15 น. อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ :-*

5492
อย่าลืมหุ่นพยนต์สายเขาอ้อนะครับ ;D

5493
พระอาจารย์ทุกท่านครับ ไม่มีอะไรแตกต่างกันครับ :-*

5494
อยากได้ของดีก็ต้องทนกันหน่อยครับท่าน ;D ;D

5495
สุดยอดครับคุณลุงอเมซิ่ง ผมมีแต่ทองแดงกับนวะ วันนี้ได้เห็นลงยาเปลี่ยนสีได้ สุดยอดจรงิๆครับท่าน :)

5496
น่าจะเป็นนากปรกนะครับ เพราะปกติพระอาจารย์วัชระท่านก็แจกอยู่ครับ  :-*

5498
ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดกันครับ เอิ๊กๆๆ ไปที่กูฏิใหญ่ หรือ ที่หลวงพี่ติ่งก็ได้ครับ :-*

5499
กุมารทอง ของวัดสามง่าม เป็นการเรียกจิต เรียกนาม ให้เข้ามายังตุ๊กตาทอง ช่วยในการค้าขาย โภคทรัพย์ เฝ้าบ้านเรือน ฯลฯ
ผู้ที่เลี้ยงกุมารนั้น ประมาณว่าต้องเป็นพ่อแม่เค้าอ่ะครับ ตั้งชื่อให้ด้วย หมั่นพูดคุยกับกุมารบ่อยๆ ถวายข้าว น้ำแดง ไข่ต้ม ขนม ให้ทุกๆวัน ก่อนคนในบ้านจะรับประทานข้าวเช้า ซื้อของเล่นมาให้บ้างตามสมควร จะบนบานสานกล่าวอะไรก็ว่ากันไป
สำหรับผู้ที่จะเลิกเลี้ยง แนะนำว่าให้เอาไปคืนที่วัดที่บูชาออกมาครับ สมัยหลวงพ่อเต๋ ยังคงสังขารอยู่ ใต้ต้นไม้ในวัดสามง่าม มีผู้คนนำตุ๊กตาทอง มาปล่อยทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก สาเหตุเพราะ ของแรงมาก ซน เลยเอากลับมาคืนไว้ ( ตอนนี้คงไม่มีท่านใดอยากทิ้งแล้วแหละครับ ;D ;D หลายตังค์อยู่ )
คาถากำกับก็มีครับ ลองไปศึกษากันดูครับ :-*

5500
สวยงามมากมายครับ ขอบคุณครับที่แบ่งให้ชมครับท่าน :-*

5501
ฟังมาจาก "สีกาอ่าง" จากไทยรัฐนะครับ พระชัยไพรีพินาศ ทำเจ้ามือเจ๊งมาแล้วครับ แต่หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ห้ามใครแขวนท่านไปเล่นพนันโดยเด็ดขาดครับ หมดตัวกันมาเยอะแล้วครับ   ;D

5502
อนุโมทนาครับ :-*

5503
หลวงพ่อเปิ่นนั่งเสือ รูปบน ดูเบลอๆนะครับ :)

5504
ธรรมะ / ตอบ: พระไตรปิฎกย่อ
« เมื่อ: 25 เม.ย. 2551, 09:02:28 »
อนุโมทนาครับท่าน
 :-*

5505
ธรรมะ / ตอบ: " สาระจากพระสูตร "
« เมื่อ: 25 เม.ย. 2551, 08:57:42 »
อนุโมทนาครับ :)

5506
คุณสิบทัศน์ เป็นคนจังหวัดไหนหลอคับ เห็นโฆษณาให้ หลวงพ่อเอ็น วัดเขาราหู คนสุราษฏร์ธานีป่าวคับ พอดีมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อเอ็น

ผมเด็กนครปฐมครับ ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่  http://www.wat-khaorahu.pantown.com/  หรือท่าน leng_kub ของบอร์ดบางพระของเราก็ได้ครับ :-*

5507
ธนบัตร ที่มีกฎหมายรองรับ ยังมีปลอมกันได้เลยครับ  :)

5508
ที่วัดน่าจะมีนะครับทาน ลองไปหาดูครับ :-*

5509
ขุนแผน ล.พ. พูล ไผ่ล้อม จ.นครปฐม
เล่น ปี 2500 ไปเลยครับ ทันหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมด้วยครับ  :-*

5510
ดีครับท่าน น่าคิดดีครับ  :-*

5511
นครปฐมฝนตกหนักเหมือนกันครับท่าน หายไวๆนะครับ  :-*

5512
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: " มีดหมอ "
« เมื่อ: 24 เม.ย. 2551, 09:05:36 »
สวัสดีครับ

วันนี้ขอความรู้เรื่องมีดหมอครับ...

ขอถามเป็นข้อ ๆ ดังนี้ครับ...

01.มีดหมอทำขึ้นเพื่ออะไร...และมีกันกี่ขนาดครับ...

02.คาถาที่ใช้กำกับมีดมีหรือไม่มีอย่างไรครับ...

03.ตัวมีดมีอักขระภาษาอะไร..และมีความหมายอย่างไรบ้างครับ...

04.การใช้งานเวลาไหน..อย่างไร..ประโยชน์อย่างไรครับ...

05.ที่นิมใช้กันเป็นของอาจารย์หรือพระอาจารย์อะไรครับ...

06.ราคาประมาณสักเท่าไรกันครับ...

07.มีการทำปลอมหรือไม่ครับ...

08.มีดหมอมีชื่อเรียกอย่างอื่นไหมครับ...

09.ใช้เป็นอาวุธได้หรือไม่..อย่างไรครับ...

10.พกพาผิดกฏหมายหรือไม่ครับ. ??


***?? ขอความกรุณาตอบเป็นวิทยาทานกันตามสมควรครับ...

***?? ขอขอบพระคุณครับ...สวัสดีครับ?? พิศร?? ครับ?? ?? :090:


มีดหมอ ในทางวิทยาศาสตร์
1.มีดหมอ ใช้ในกิจกรรมทางการแพทย์ มีหลายขนาด
2.คาถาเวลาใช้ ว่า อย่าประมาทหนอ อย่าประมาทหนอ เดี๋ยวลืมมีดไว้ในท้อง
3.อักขระ ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ เช่น? made in usa
4.ใช้งานในทางการแพทย์ เอาไว้สำหรับผ่าตัด
5.ที่นิยมใช้กับอาจารย์สอนผ่าตัด โดยใช้ร่างของอาจารย์ใหญ่ ที่บริจาคร่างกายมา
6.มีหลายราคา
7.ของ SWEET น่าจะมีทำปลอมเหมื่อนกัน
8.,มีดผ่าตัด
9.มีด เป็นอาวุธโดยสภาพตามกฎหมาย
10.พกพามีด ถือว่าเป็นอาวุธ ผิดกฎหมายแน่นอน แม้ในทางไสยศาสตร์ ก็มีความผิด แต่ศาลจะลงโทษมากน้อยแค่ไหนก็ได้ ด้วยเหตุบรรเทาโทษ
? ?  ว่าด้วยการเชื่อถือ และศัทธา

ถามเอาทำวิทยานิพนธ์ ปริญญาโท แน่เลย

อิอิ คลายเครียดดีครับท่าน  ;D ;D

5513
ธรรมะ / ตอบ: บทแผเมตาหลวง
« เมื่อ: 24 เม.ย. 2551, 08:58:19 »
ขอบคุณมากมายครับ :-*

5514
ขอยืมรูปท่านโยคีมาลงใหนะครับ



5515
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: " มีดหมอ "
« เมื่อ: 23 เม.ย. 2551, 10:19:04 »
อันมีดหมอนั้นเพียงชักออกจากฝัก? หรือฟันกับขื่อ
ภูตผีปีศาจหนีกระจัดกระจาย
นะโมพุทธายะ พระพุทธเจ้าห้าพระองค์
นะ? พระกกุสันโธ
โม? พระโกนาคมโน
พุทธ พระกัสสะโปเถโร
ธา? พระสมณโคดมบรมศาสดา (โคตโม)
ยะ? พระศรีอริยเมตไตรโย

อนุโมทนาครับท่าน ความรู้มากมาย นับถือๆ :054:

5516
พายุซัดกระหน่ำ หายไวๆนะครับท่าน :-*

5517
ไม่เคยเห็น แต่ก็พอจะสรุปได้ว่าไม่น่าปลอมครับ :-*

5518
ยินดีด้วยนะครับ ผมแจกไปเกือบหมดกรุแล้ว เหอะๆๆ :)

5520
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: " มีดหมอ "
« เมื่อ: 23 เม.ย. 2551, 09:18:08 »
ครับ
1.กันคุณไสย เป็นสิริมงคล เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ฯลฯ มีหลายขนาดครับ มีชื่อเรียกต่างๆกันไป มีดเล็กมากๆก็เรียกว่า มีดสาริกา มีดเล็กแบบพกพาได้ ก็เรียกว่า มีดปากกา มีดขนาดใหญ่ก็เรียกว่า มีดควาญช้าง ปลอกรัดตัวมีดถ้าใช้โลหะ3ชนิด(เงิน ทอง นาก ) ก็จะเรียกว่า มีดสามกษัตริย์ครับ

2.มีครับมี แล้วแต่แต่ละสำนักครับ

3.ส่วนมากเลยนะครับ นะโมพุทธายะ นี่จะขาดไม่ได้ครับ จะเป็นการตอกลงบนใบมีดครับ

4.พกติดตัวไว้ใช้ในยามคับขันครับ อย่างเช่นกรณีของ บุตรของท่าน ดร.ไมตรี บุญสูง ครับ

5.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จัดอยู่ในระดับตำนานเลยครับ

6.แล้วแต่ความพอใจครับ

7.มีอย่างแน่นอนครับ สนามมากมายก่ายกองครับ

8.ประเด็นนี้ไม่ทราบครับ ขอผ่าน

9.มีดหมอขนาดเล็กส่วนมากจะไม่คมครับ ถ้าแทงอาจจะได้ครับ ;D ;D

10.ประเด็นนี้ไม่ทราบครับ  :-*

5521
ครับ DZI ครับ หรืออีกชื่อในนามหินธิเบต ของแท้ที่ว่า ทำมาจากหินอะเกตครับ ในประเทศไทยก็เคยมีการค้นพบมาหลายปีแล้วครับ อายุ พันปีขึ้นไปครับ ( อย่างนี้ถึงน่าเก็บ ;D ;D  เซียนลูกปัดโบราณคงจะทราบกันดีครับ สมัยก่อนใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้า และเป็นเครื่องประดับครับ ส่วนเรื่องที่ว่าจะหาของแท้ระดับนั้น ให้คนมีกะตังค์เค้าไปหาเถอะครับ ) ที่มาบูมๆนิยมแขวนกัน ก็เนื่องมาจาก มีคนแขวน DZI แล้วรอดจากเหตุการณ์เครื่องบินตกอย่างปาฏิหาริย์  จนมีการทำเลียนแบบกันขึ้นมามากมายครับ  เคยเห็นโรงงานผลิตในประเทศจีนแล้วอยากจะเป็นลม อะไรมันจะมากมายขนาดนั้น
 :D

5522
ลองค้นหาในกระทู้เก่าๆดูครับท่าน :-*

5523
ยอดขุนพลใล่อใจผมอีกแล้ว  ;D ;D ขอบคุณครับ :-*

5524
อนุโมทนาครับ ชอบยอดขุนพลมากๆเลยครับ ^^ ส่วนเรื่องที่หลวงพ่อเต้านั้น นำทองคำเปลวปิดหน้าผากผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. นั้น กระผมช่วยยืนยันให้อีกเสียงครับ :-*

5525
อะไรก็ได้ครับ ดีทุกอย่าง  :-*

5526
เจริญในธรรมครับ :-*

5527
น่าสนใจครับ ขอบคุณครับท่านเอ็ม  :-*

5528
ไม่ยากครับ น่าจะไม่ชินมากกว่าครับ  :-*

5529
ครับท่านเอ็ม007 รางหมันครับ :-*

5530
ขอบคุณครับท่าน :-*

5531
ความรู้สุดๆครับ ต้องขอลองบ้างแล้วครับ ขอบคุณครับ :-*

5532
อยากทราบว่าถ้าต้องการเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเปิ่นโดยตรง? ต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง
ปฏิบัติตนอยู่ในธรรม สาธุ :-*

5533
เชิญพิสูจน์ด้วยสายตาของคุณเอง ในคืนวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2551 ช่อง 5 ครับ  :-* แล้วจะรู้ว่าปาฏิหาริย์มีจริง

5534
ครับ
อิสวาสุ อะระหัง
พุทธะสังมิ
เฑาะว์ มะอะอุ   นะโมพุทธายะ  นะชาลีติ
อะสังวิสุโลปุสะภุพะ

ขอบคุณครับ งานรัดตัวเลยไม่ได้เจอกันเลย  :-*

5535
ครับ ดีครับดี ขอบคุณครับ :-*

5536
รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามีอยู่จริงแต่น้อยคนที่จะเจอจริงๆ? ;D

โดนครับท่าน เอิ๊กๆๆๆ ;D ;D

5537
ห้ามใส่นานๆนะครับ เด๋วสนิมเขียวจะเกาะข้อมือครับ ;D ;D

5538
ปกติครับท่าน เก่าเก๋าดีครับ ;D ;D :-*

5539
ต้องบอกว่าเป็นเว๊ปบอร์ดเกี่ยวกับการสักยันต์ที่โดดเด่นที่สุดครับ ที่อื่นๆ? ด้วยความเคารพรักหลวงปู่ครับ




ครับเป็นเวปที่โดดเด่นจริงๆ

แต่มาพักหลังๆ สมาชิกรุ่นเก่าๆ ก็ไมได้ออกมาตั้งกระทู้ และ ออกความคิดเห็น เพราะว่า ได้ตั้ง และตอบกระทู้ ให้กระจ่างใจไปแล้วพอสมควร
สมาชิกท่านใหม่ๆ ก็ไม่ได้สนใจ เข้าไปอ่านกระทู้เก่าๆ ที่มีความรู้? แต่มาตั้งกระทู้ใหม่แบบซ้ำๆ ทำให้หมดมุข หมดมุขจริงๆนะ จะบอกให้
อิอิ ครับ แต่ยินดีครับ  ;D :-*

5540
ก็เชื่อคับ แต่อยากได้มาเพิ่มอ่ะ ไม่ใช่ไม่เชื่อซํกหน่อยอ่ะคับ
แค่อยากได้มาเก็บไว้เพิ่มเท่านั้นเอง
แล้วก็อยากได้ ขนาดบูชาอ่ะคับ ยังไม่มีเลย
เจตนาคือ รุ่นใดก็ได้ครับท่าน อย่าคิดมากครับ  :-*

5541



ในท้องที่จังหวัดนนทบุรีนั้น โดยเฉพาะชาวอำเภอปากเกร็ดยากที่จะผู้ไม่รู้จัก "หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง" อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ผู้สร้างพระปิดตาที่อยู่ 1 ใน 5 เบญจภาคีพระปิดตา เจ้าตำรับตะกรุดโสฬส อันเป็นตะกรุดยอดปรารถนาของนักนิยมสะสมเครื่องรางของขลัง

ปัจจุบันทั้งพระปิดตาและตะกรุดโสฬสมีราคาเล่นหาแพงเรือนแสนเรือนล้าน

เมื่อสิ้น "หลวงปู่เอี่ยม" ไปแล้วยัง "หลวงปู่กลิ่น" วัดสะพานสูง สืบทอดไสยเวท และตกทอดมาถึง "หลวงพ่อทองสุข" วัดสะพานสูง หากแต่ยังมีพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาการสร้างพระปิดตาและยันต์โสฬสจากหลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง ถึงปัจจุบัน
 


พระเกจิอาจารย์รูปนั้นก็คือ "หลวงพ่อเปรื่อง" วัดบางจาก จ.นนทบุรี ศิษย์รูปสุดท้ายของหลวงพ่อทองสุขที่ยังมีชีวิตอยู่ ปัจจุบันสิริอายุ 78 ปี

ทุกวันนี้ หลวงพ่อเปรื่อง ยังสืบสานวิชาการสร้าง "ตะกรุดโสฬส" ตามตำรับที่ตกทอดมาแต่ครั้งหลวงปู่เอี่ยม และยังสร้างพระปิดตาคลุกรัก ตามแบบฉบับเดิมทุกประการ "ตะกรุดโสฬส" ทุกดอกของหลวงพ่อเปรื่องท่านจะจารแผ่นยันต์และม้วนด้วยตัวท่านเอง และหลังจากถัก จุ่มรัก และคลุกรักตามตำรับสายวัดสะพานสูงทุกประการ

ส่วนพระปิดตานั้น หลวงพ่อเปรื่องจะทำการลบผงศักดิ์สิทธิ์เอง พร้อมทั้งกดพิมพ์พระด้วยตัวท่านเองทุกองค์ ทุกขั้นตอนท่านจะควบคุมอย่างใกล้ชิด และหากจะมีผู้มาช่วยกดพระพิมพ์ปิดตา ท่านจะครอบครูและให้ถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด ซึ่งนับว่าหากยากแล้วในปัจจุบัน

นับว่าเป็นพระปิดตาอีกสำนักหนึ่งที่น่าบูชาและทรงคุณค่าต่อไปในภายภาคหน้า

วัตถุมงคลที่ได้จัดสร้างทั้งหมดหลวงพ่อเปรื่องได้นำเข้าไปปลุกเสกที่กุฏิท่านทุกคืน จนกว่าจะเป็นที่น่าพอใจ จึงนำออกมาให้ญาติโยมทำบุญ บางครั้งถึงกับมีผู้คนจากท้องที่อื่นไกลมาเฝ้าบูชาตะกรุดจากท่านที่กุฏิเสมอ

วัตถุมงคลของท่านได้เกิดประสบการณ์ จนเป็นที่เล่าลือให้กับคนย่านปากเกร็ดมากมาย และทางวัดบางจากยังได้จัดสร้างเหรียญกลมขนาด 3.5 ซ.ม. ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ด้านหลังเป็นยันต์โสฬส เพื่อเป็นการบูชาครูอาจารย์ของสายนี้ เหรียญรุ่นนี้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันยังมีให้เช่าบูชาอยู่ แต่มีจำนวนไม่มากนัก






5542




พระพุทธชินราช รุ่นอินโดจีนนี้เริ่มมีการดำริที่จะจัดสร้างโดยพลเรือตรี หลวงธำรงค์นาวาสวัสดิ์ ซึ่งเป็นนายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย เนื่องจากตอนนั้นมีกรณีพิพาทกับฝรั่งเศส เรื่องสิทธิเหนือดินแดนของอินโดจีน ในราวปีพ.ศ.2483-2484 วัตถุประสงค์เพื่อแจกจ่ายให้แก่ทหารที่ไปราชการสงคราม และให้ประชา ชนโดยทั่วไปได้มีโอกาสเช่าบูชา

ต่อมาในปีพ.ศ.2485 สงคราม โลกครั้งที่ 2 ก็กำลังก่อตัวขึ้นในภูมิภาคนี้ จึงได้มีการจัดสร้างพระ พุทธชินราช รุ่นอินโดจีนขึ้น ในตอนแรกมีกำหนดการให้ทำพิธีเททองหล่อพระพุทธชินราชที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก แต่มีเหตุต้องเปลี่ยนสถานที่การเททองให้มาทำพิธีที่วัดสุทัศน์ แทน เนื่องจากในขณะนั้นกำลังอยู่ในช่วงสงครามโลก ไม่สะดวกในการเดินทางและทำพิธี จึงจำเป็นต้องเปลี่ยน สถานที่มายังวัดสุทัศน์แทน

กำหนดการทำพิธีตรงกับวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ คือวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2485 โดยมีสมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นองค์ประธาน และท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์ เป็นผู้ดำเนินงาน ทำพิธี ณ มณฑลพิธีหน้าพระอุโบสถ วัดสุทัศน์ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย และได้มอบหมายให้ช่างอีกหลายโรงงานรับช่วงไปดำเนินงานต่อจนเสร็จ ชนวนมวลสารที่ใช้หล่อนั้นประกอบด้วยชนวนโลหะของวัดสุทัศน์ แผ่นจารจากพระคณาจารย์ทั่วประเทศ รวมทั้งโลหะทองเหลืองที่ประชาชนนำมาบริจาคให้

หลังจากนั้นเมื่อหล่อพระเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงนำพระทั้งหมดมามอบให้กับทางพุทธสมาคมฯ เพื่อตอกโค้ด เป็นรูปธรรมจักร และรูปอกเลา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก พระส่วนใหญ่ได้ทำการตอกโค้ดจนครบ แต่ได้มีพระอีกเพียงบางส่วนที่ยังไม่ได้ตอกโค้ด เนื่องจากโค้ดชำรุดเสียก่อน และได้นำพระทั้งหมดเข้าทำพิธีมหาพุทธาภิเษก ที่วัดสุทัศน์

พิธีมหาพุทธาภิเษก พระพุทธชินราช อินโดจีน เป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่มาก เนื่องจากในครั้งนั้นมีพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง จำนวนถึง 108 รูป พระคณาจารย์ที่เข้าร่วมในพิธีจะขอยกตัวอย่างเพียงคร่าวๆ คือ สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ ท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์ วัดสุทัศน์ หลวงปู่นาค วัดอรุณฯ กทม. หลวงพ่อนวม วัดอนงค์ฯ กทม. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ กทม. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดเทพฯ กทม. หลวงพ่ออ๋อย วัดไทร กทม. หลวงพ่อโชติ วัดตะโน กทม. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ติสโส อ้วน วัดบรมฯ กทม.หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ฉะเชิงเทรา หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา ปราจีนบุรี หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ หลวงพ่อภักตร์ วัดบึงทองหลาง กทม. หลวงพ่อเหมือน วัดโรงหีบ หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ หลวงพ่อดี วัดเหนือ หลวงพ่อเหรียญ วัดหนองบัว หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง หลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้ หลวงพ่อกลิ่น วัดสะพานสูง หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ หลวงปู่กลีบ วัดตลิ่งชัน หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก เป็นต้น

หลังจากเสร็จพิธีแล้ว จึงนำออกมาแจกจ่ายให้แก่ทหารหาญที่ไปราชการสงคราม และประชาชนที่ได้สั่งจองไว้ พร้อมทั้งนำเอาไปถวายไว้ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลกอีกจำนวนหนึ่ง ในส่วนที่แจกจ่ายไปนี้เป็นพระที่ทำการตอกโค้ดแล้วทั้งสิ้น พระส่วนที่เหลือทั้งที่ตอกโค้ดและไม่ได้ตอกโค้ดทางพุทธสมาคมฯ ได้ทำการเก็บรักษาไว้ จนในปี พ.ศ.2516 จึงเปิดให้ประชาชนได้มีโอกาสได้เช่าบูชาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในครั้งนี้มีทั้งพระที่ตอกโค้ดและพระที่ยังไม่ได้ตอกโค้ด

พระพุทธชินราช อินโดจีนสามารถแบ่งออกมาเป็นหมวดพิมพ์ใหญ่ได้ 3 หมวดพิมพ์ คือพิมพ์สังฆาฏิยาว พิมพ์สังฆาฏิสั้น และพิมพ์ต้อ แต่ละหมวดพิมพ์นั้นก็ยังแยกออกได้อีกหลายแม่พิมพ์ครับ



บทความโดย - แทน ท่าพระจันทร์

5543
หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย






"หลวงพ่อพระใส" เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก มีพระรูปลักษณะงดงามมาก ขนาดหน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว ส่วนสูงจากพระชงฆ์เบื้องล่างถึงยอดพระเกศ 4 คืบ 1 นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ วัดโพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย เป็นพระพุทธรูปที่ชาวเมืองนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพสักการะอย่างยิ่ง

มีความเชื่อกันว่า หลวงพ่อพระใส ทำการหล่อในสมัยเชียงแสน ชั้นหลังพระใสเป็นพระพุทธรูปล้านช้าง สมัยนั้นประเทศล้านช้างยังรุ่งเรืองอยู่และพระพุทธศาสนากำลังเจริญรุ่งเรือง พระเจ้าแผ่นดินทรงสนพระทัยในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง

พระใส เป็นพระพุทธรูปที่หล่อคราวเดียวกันกับพระเสริม และพระสุก และคู่เคียงกันมาเสมอ พระใสเป็นพระพุทธรูปที่ผู้หล่อประสงค์จะให้เป็นพระสำหรับแห่มาแต่เดิม สังเกตได้จากห่วงกลม 3 ห่วง โตกว่านิ้วมือติดอยู่กับพระแท่น (หล่อติดกับองค์พระ) สำหรับผูกสอดเชือกขันกับยานแห่ เมื่อประมาณ 50 ปีมาแล้ว พระเกศเดิมของพระใสซึ่งเป็นของที่มีราคามาก ได้ถูกขโมยลักเอาไป พระเกศที่ปรากฏอยู่ทุกวันนี้เป็นพระเกศใหม่

ภายในพระอุโบสถวัดโพธิ์ชัยนั้น จะมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติความเป็นมาของการหล่อพระสุก พระเสริม พระใส จำนวน 20 ภาพ มีใจความว่า

ในรัชสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ช่วง พ.ศ.2093-2115 แห่งอาณาจักรล้านช้างศรีสัตนาคณหุต ทรงมีพระราชธิดา 3 พระ องค์ ทรงพระนามว่า สุก, เสริม และใส

พระราชธิดาทั้งสามมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงร่วมพระทัยขอพรจากพระราชบิดา สร้างพระพุทธรูปประจำพระองค์ มีข้าราชการ ชาวบ้าน และทางวัดได้ระดมช่างและคนมาช่วยกันอย่างมากมาย การหลอมทองเป็นไปด้วยความยากลำบากใช้เวลาหลอมถึง 7 วัน ทองยังไม่ละลาย

ล่วงเข้าวันที่ 8 ตอนใกล้เพล ขณะที่หลวงตากับสามเณรช่วยกันสูบลมหลอมทองอยู่ ปรากฏว่ามีชีปะขาวคนหนึ่งอาสามาช่วยงาน หลวงตากับสามเณรหยุดพักขึ้นไปฉันเพลบนศาลา ชาวบ้านมองเห็นชีปะขาวจำนวนมากช่วยกันเททองหล่อพระพุทธรูป แต่หลวงตากลับเห็นเพียงคนเดียว เมื่อฉันเพลเสร็จหลวงตาลงมาดูก็พบว่าทองทั้งหมดถูกเทลงในเบ้าทั้งสามเรียบร้อยแล้ว และชีปะขาวได้หายไป

พระพุทธรูปทั้งสามองค์ประดิษฐาน ณ เมืองเวียงจันทน์

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าอนุวงศ์แห่งเมืองเวียงจันทน์ได้แข็งข้อ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ปราบเมืองเวียงจันทน์ นำโดยสมเด็จพระบวรราชเจ้า เมืองเวียงจันทน์จนสงบ จึงคิดอัญเชิญพระสุก พระเสริม พระใสมาฝั่งไทย

พระใสได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดประดิษฐ์ธรรมคุณ ในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดให้ขุนวรธานีและเจ้าเหม็น ข้าหลวงอัญเชิญพระเสริม และพระใสลงไปกรุงเทพฯ ขบวนเกวียนของพระใสจากวัดประดิษฐ์ธรรมคุณถึงวัดโพธิ์ชัยเกิดเหตุขัดข้อง เกวียนไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้ ท้ายที่สุดเกวียนก็หักลง แม้จะนำเกวียนมาเปลี่ยนใหม่แต่ไม่เป็นผล

จึงตกลงกันว่าพระใสจะประดิษฐานไว้ที่วัดโพธิ์ชัย

ชาวหนองคายมีศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อพระใส เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปที่กษัตริย์สร้างขึ้น เพื่อเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนเป็นสำคัญ และจากความศรัทธาเลื่อมใสนี้ มักจะมีประชาชนมาบนบานขอพรต่อองค์หลวงพ่อพระใส โดยส่วนใหญ่มักจะบนบานให้แคล้วคลาด เดินทางปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังมีการบนบานเกี่ยวกับสุขภาพ หน้าที่การงาน เมื่อบนบานและสัมฤทธิผลแล้วก็จะมาแก้บนในช่วงสงกรานต์ โดยนำปราสาทเงิน ปราสาททอง (ปัจจัย) โพธิ์เงิน โพธิ์ทอง 1 คู่, พวงมาลัย 9 พวง, แผ่นทองเปลว 9 แผ่น และผ้าอังสะ 3 ผืน มาทำการแก้บน ซึ่งจะมีพระสงฆ์พาประกอบพิธี

พิเศษที่สุด คือ การบนบานขอลูกจากหลวงพ่อพระใส คู่สามีภรรยาที่ต้องการมีลูกและขอพึ่งบารมีหลวงพ่อพระใส จะต้องมาประกอบพิธีบนบานต่อหน้าหลวงพ่อพระใส เตรียมขันธ์ 5 ขันธ์ 8 ขันหมากเบ็ง เทียนเงิน เทียนทอง โดยมีพระสงฆ์นำประกอบพิธี 4 รูป

หลังจากเสร็จพิธี ในวันพระสามีภรรยาต้องนุ่งขาวห่มขาว งดร่วมเพศเด็ดขาด จะต้องถือศีล 8 อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีลูก และเมื่อสัมฤทธิ์ดังประสงค์แล้ว รอให้คลอดลูกก่อน แล้วนำลูกน้อยนั้นมาทำพิธีแก้บน โดยจะมีพระสงฆ์ 4 รูป นำประ กอบพิธีต่อหน้าหลวงพ่อพระใสและผูกแขนทารกแรกเกิดให้

ถือว่าเป็นการปวารณาเป็นลูกของหลวงพ่อ มีข้อห้าม คือ เด็กที่เกิดจากการบนบานขอพรจากหลวงพ่อพระใส จะเป็นเด็กซนมาก แต่ฉลาด พ่อแม่ห้ามตีเด็ดขาด หากวันใดตีเด็ก เด็กจะป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุทันทีและต้องมาทำพิธีขอขมาองค์หลวงพ่อ

สำหรับงานประเพณีสำคัญเกี่ยวกับองค์หลวงพ่อพระใส ชาวหนองคายจะยึดถือเอาวันสงกรานต์ของทุกปี จัดงานสมโภชหลวงพ่อพระใส โดยในวันที่ 13 เมษายน จะเป็นวันทำพิธีอัญเชิญหลวงพ่อพระใสลงจากพระแท่นแห่รอบพระอุโบสถ เวียนประทักษิณ 3 รอบ แล้วอัญเชิญขึ้นสู่ราชรถ เป็นองค์พระประธานนำพระพุทธรูปจากชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย แห่ไปรอบเมืองให้ประชาชนได้สรงน้ำ เพื่อความเป็นสิริมงคล

และในวันสุดท้าย จะมีพิธีอัญเชิญหลวงพ่อพระใสกลับขึ้นประดิษฐานบนพระอุโบสถเช่นเดิม เป็นอันเสร็จสิ้นงานประเพณีสมโภชองค์หลวงพ่อพระใสในรอบปี

คาถาบูชาหลวงพ่อพระใส ตั้งนะโม 3 จบ อะระหัง พุทโธ โพธิชโย เสยยะคุโณ โพธิสัตโต มหาลาโภ ปิยัง มะมะ ภะวันตุโน โหตุ สัพพะทา



ที่มา - ข่าวสด

5544
ขอบคุณครับท่าน กะว่าจะไปรับลูกอมหลวงพ่อมี ที่บางพระอยู่เชียว เอิ๊กๆๆๆ ;D ;D

5545
ครับ บารมีธรรมสุดๆครับ ขอบคุณครับท่าน  :-*

5546
ขอบคุณครับท่าน เห็นว่าจะมีงานเร็วๆนี้นะครับ ออกเหรียญมางามมากๆครับ :-*

5547
ครับ เผยแพร่ดีครับท่าน อนุโมทนาครับ :-*

5548
ครับผม เยี่ยมครับ โดยเฉพาะท่านราช รามัญ เซียนลูกปัดโบราณ ท่าน ดร.ไมตรี บุญสูง ยังยอมรับเลยครับ สุดยอดครับ :-*

5549
พรุ่งนี้น่าจะได้ไปครับพี่น้อง :-*

5550
เยี่ยมครับท่าน หลวงพ่อแม้นก็ยังคงสังขารอยู่ครับ เรื่องเสือก็ดีเหมือนกันครับ :-*

5551
ยินดีครับท่าน บารมีหลวงพ่อเปิ่นคุ้มครองครับ  :-*

5552
อนุโมทนาครับ บารมีหลวงพ่อแช่ม สุดๆอยู่แล้วครับท่าน  :-*

5553
ตกลงที่ถือดอกบัว กับถือดาบนี่ ดำดื้อ หรือแดงเก น่ะครับ...อยากทราบครับ สันสนมานาน เรียกผิดๆถูกๆ..

เอ้า ไหนว่าตัวเป็น แดงเกย์ ล่ะ ฮิ้ว ล้อเล่นครับ ศิษย์พี่ใหญ่? ฝ่ายแดง เพชรพญาทร เจ้าของฉายา คนเดียวหัวเดียวไม่พอต้อง 11 หัว !!!! ;D
เหอะๆ จัดไปครับท่าน อิอิ  :D ;D ;D

5554
ของเสริมนี่เยอะจริงครับ ยอมรับ ศูนย์บอกสร้าง 5000 แต่พอขายหมดก็มีเสริมออกมาโดยไม่ได้ปลุกเสก เศร้าใจจริงๆ? :'(
ไม่น่าเลย ประเทศไทย :(

5555
ถิ่นบารมีธรรม "หลวงพอเงิน" ปัจจุบันศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชครับ ?ไปมาหาหลวงพ่อเปิ่น ตั้งแต่จำความได้อ่ะครับ ?ส่วนเรื่องสัก เร่มครั้งแรก ปี45 ที่หลวงพี่ติ่งครับ ยินดีครับยินดี :-*

5556
รุ่นไหนก้อเหมือนกันแหละครับ
เลี้ยงสม่ำเสมอ เชื่อในสิ่งที่ทำอยู่ พอแล้ว
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับท่าน :-*

5557
บทความโดย - อาจารย์ราม วัชรประดิษฐ์





ในประเทศไทยนั้นมีพระพุทธรูปมากมายหลายแบบหลายสมัย ซึ่งแต่ละแบบแต่ละสมัยก็จะมีความแตกต่างทางศิลปะตามอิทธิพลของถิ่นกำเนิดและศิลปะต้นแบบ "พระพุทธรูปเชียงแสน" เป็นพระพุทธรูปอีกศิลปะหนึ่งที่สำคัญและมีต้นกำเนิดจากทางภาคเหนือครับผม

ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ภาคเหนือของประเทศไทยเคยเป็นที่ตั้งอาณาจักรอันกว้างใหญ่ชื่อว่า "อาณาจักรเชียงแสน" ในราวรัชสมัยพระเจ้าอนุรุทมหาราชแผ่อำนาจเข้ามาปกครองเมืองเชียงแสน พระองค์ได้นำเอาพระพุทธศาสนาลัทธิหินยาน (เถรวาท) อย่างพุกามเข้ามาเผยแผ่ ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนาลัทธิหินยานที่เข้ามาทางประเทศอินเดียฝ่ายเหนือผ่านมอญและพม่า

อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้เอง การสร้างพระพุทธรูปจึงได้รับอิทธิพลจากพระพุทธรูปศิลปะอินเดียสกุลช่างปาละ ซึ่งมีพุทธลักษณะที่สำคัญคือ พระรัศมีทำเป็นแบบดอกบัวตูมหรือลูกแก้ว ขมวดพระเกศาทำเป็นก้นหอยใหญ่ พระพักตร์กลมอมยิ้ม พระหนุ (คาง) เป็นปม ลำพระองค์อวบอูมสมบูรณ์ พระอุระนูน ชายสังฆาฏิเหนือพระอังสาซ้ายสั้นและปลายแตกเป็นปากตะขาบ นิยมสร้างเป็นปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร และปรากฏพระบาททั้งสองข้าง และตั้งชื่อพระพุทธรูปศิลปะแบบนี้ว่า "พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน" เชื่อกันว่าเป็นแบบอย่างของพระพุทธรูปรุ่นแรกๆ ของไทย

"พระพุทธรูปเชียงแสน" ไม่ได้มีจำกัดอยู่เฉพาะที่เมืองเชียงแสนเท่านั้น แต่ได้ขยายขอบข่ายออกไปถึงเมืองเชียงใหม่ ลำพูน แพร่ น่าน และเลยเข้าไปยังเมืองหลวงพระบางและนครเวียงจันทน์ ด้วยพระเจ้าไชยเชษฐาแห่งเมืองเวียงจันทน์ ได้เข้ามามีอำนาจอยู่ในนครเชียงใหม่ช่วงระยะหนึ่ง และกวาดต้อนชาวเชียงใหม่ที่มีฝีมือในการสร้างพระพุทธรูป ไปสร้างพระพุทธรูปในเขตเมืองหลวงพระบางและเมืองเวียงจันทน์ จึงได้เกิดเป็นพุทธรูปศิลปะอีกแบบหนึ่งขึ้นมาเรียกว่า "พระเชียงแสนลาว" หรือ "พระพุทธรูปแบบเชียงแสนนอกเมือง" มีอายุเทียบได้ราวพุทธศตวรรษที่ 20 ประมาณอายุใกล้เคียงกับ "พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนสิงห์ 3" หรือสมัยอยุธยา ยังมีการค้นพบในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยโดยทั่วไป ซึ่งเป็นต้นแบบฝีมือสกุลช่างปั้นพระพุทธรูปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในสมัยต่อมา พระพุทธรูปเชียงแสนยังได้รับอิทธิพลและแบบอย่างจากพุทธศิลปะประเทศลังกา ซึ่งเผยแผ่เข้ามาทางภาคใต้ของประเทศไทย เกิดเป็นพุทธศิลปะอีกแบบหนึ่งเรียกว่า "พระพุทธรูปเชียงแสนลังกาวงศ์"

สรุปว่าพระพุทธรูปเชียงแสนนั้น มีมาก มายหลายสกุลช่าง และได้มีการสืบสานการสร้างตลอดมาเป็นระยะเวลายาวนานหลายร้อยปี พุทธลักษณะหลักมีดังนี้ พระเกศทำเป็นพระเกศบัวตูม พระศกทำเป็นขมวดก้นหอย และเม็ดพระศกค่อนข้างเขื่อง พระพักตร์อวบอูมดูสมบูรณ์ และปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อย พระเนตรเป็นแบบเนตรเนื้อ (ไม่ฝังมุก) พระหนุเป็นรอยหยิก พระวรกายอวบอ้วนสมบูรณ์ ชายสังฆาฏิสั้นอยู่เหนือราวนมและแตกเป็นปากตะขาบ ซึ่งจะเรียกว่า "พระพุทธรูปเชียงแสนสิงห์ 1" ถ้ายาวเลยราวนมลงมาเรียกว่า "พระพุทธรูปเชียงแสนสิงห์ 2" และสุดท้ายถ้ายาวลงมาจรดพระหัตถ์ จะเรียกว่า "พระพุทธรูปเชียงแสนสิงห์ 3" ครับผม


5558

เห็นบทความดีๆ เลยนำมาฝากกันครับ

ที่มา - ข่าวสด





สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้จะคุยกันถึงเครื่องรางของขลังกันต่อนะครับ เครื่องรางของขลังที่ผมจะพูดถึงนี้เป็นเครื่องรางรูปเสือ แต่ไม่ใช่ของ หลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาสนะครับ เนื่องจากได้เคยเขียนถึงมาแล้ว และในปัจจุบันเขี้ยวเสือแกะของหลวงพ่อปานนั้นหายากมากๆ ครับ สนนราคาเรือนแสนครับ วันนี้ผมจะพูดถึง เสือของหลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาสราชสงครามครับ ซึ่งเป็นเสือยุคกลางเก่ากลางใหม่ในปัจจุบันยังพอหาได้ครับ

เสือเนื้อโลหะของหลวงพ่อวงษ์นั้น ก็โด่งดังมากในด้านประสบการณ์เช่นเดียวกันครับ ในปัจจุบันเสือรุ่นแรกๆ นั้นก็มีราคาสูงพอสมควรครับและค่อนข้างหายากแล้วครับ หลวงพ่อวงษ์ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย จึงทำให้ท่านต้องสร้างไว้หลายรุ่นก็ไม่ค่อยจะพอกับความต้องการของลูกศิษย์ครับ หลวงพ่อวงษ์ท่านจึงสร้างเสือไว้ถึง 6 รุ่นครับ

หลวงพ่อวงษ์ ท่านมีความเคารพเลื่อมใสในตัว หลวงพ่อปาน วัดคลองด่านมาก ท่านจึงสร้างเสือตามแบบฉบับของหลวงพ่อปาน แต่สร้างเป็นเสือเนื้อโลหะครับ เสือรุ่นแรกของท่านนั้นสร้างในปี พ.ศ. 2501 เนื่องจากหลวงพ่อวงษ์สร้างรูปเหมือนหลวงพ่อปาน จากนั้นทองฉนวนที่เหลือท่านจึงนำไปผสมปั๊มเป็นรูปเสือรุ่นแรก ออกมาเป็นเนื้อทองผสมทองเหลือง สร้างได้จำนวน 500 ตัว โดยตอกโค้ดตัวเฑาะว์ และตัวพุทเป็นอักษรขอมไว้ที่ด้านหลังเสือ โดยทำพิธีปลุกเสกที่ในพระอุโบสถ และมีการบวงสรวงอัญเชิญหลวงพ่อปานให้มาช่วยทำพิธีด้วย ว่ากันว่าการทำพิธีปลุกเสกนั้น ปลุกเสกจนเสือกระดุกกระดิกได้จึงเสร็จพิธีครับ

ต่อมาปรากฏว่าเสือหมดไปจากวัด และลูกศิษย์ที่ยังไม่ได้เสือยังมีอีกมาก หลังจากนั้นอีก 3 ปี จึงทำพิธีสร้างเสือรุ่น 2 คือ ในปี พ.ศ. 2504 หลวงพ่อจึงสั่งให้ช่างปั๊มเสือแบบรุ่นแรกเป็นตัวอย่างแต่เปลี่ยนเป็นเนื้อทองแดง จำนวนประมาณ 1,000 ตัว ทำพิธีปลุกเสกที่ในพระ อุโบสถเช่นเดิม

ในปี 2508 หลวงพ่อจึงได้สร้างเสือรุ่น 3 ขึ้นอีก จำนวนประมาณ 2,500 ตัว เป็นเนื้อทองแดง ทำพิธีในพระอุโบสถเช่นเดิม มีประชาชนมาเช่าบูชาจนหมดอย่างรวดเร็ว หลวงพ่อวงษ์ท่านจึงได้ให้สร้างอีกเป็นรุ่นที่ 4 เป็นเสือเนื้อทองเหลืองจำนวน 2,000 ตัว แต่ช่างทำให้ไม่ทันฤกษ์ เสร็จเพียง 1,200 ตัวเท่านั้น มีตอกโค้ดตัวอุ ที่ด้านหน้า และตอกตัวพุทที่ด้านหลัง ทำพิธีปลุกเสกในพระอุโบสถเช่นเดิมและออกให้เช่าบูชาในปี พ.ศ. 2512 เสือรุ่น 4 นี้ก็ประชาชนสนใจเช่าบูชาหมดไปอย่างรวดเร็ว

ในปี พ.ศ. 2514 หลวงพ่อจึงให้สร้างเสือรุ่นที่ 5 ขึ้นอีก โดยถอดจากเสือรุ่น 4 โดยวิธีการหล่อเนื้อทองเหลืองจำนวนประมาณ 5,000 ตัว โดยมีการตอกโค้ด 2 ตัว ที่ด้านหน้าตอกเป็นตัวอุ ที่ด้านหลังตอกเป็นตัว พุท คราวนี้ทำพิธีปลุกเสกที่พระวิหาร

ในปี พ.ศ. 2519 หลวงพ่อวงษ์ท่านได้ให้สร้างเสือรุ่น 6 ขึ้นอีกเป็นครั้งสุดท้าย โดยนำพิมพ์รุ่น 3 มาเป็นแบบ มีเนื้อทองแดงสร้างไว้ประมาณ 37,000 ตัว และเนื้อเงิน 29 ตัว แม่พิมพ์ก็แตกเสียก่อน เสือรุ่นนี้ได้ทำพิธีในพระอุโบสถเช่นเดิม ในขณะทำพิธีนั้นได้มีเสือกระโดดออกมาจากบาตร 16 ตัว บรรดาศิษย์ที่อยู่ในพิธีต่างแย่งกันชุลมุน เสือรุ่นนี้หลวงพ่อพระครูจันทร์โอภาสเจ้าอาวาสวัดคลองด่าน ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อวงษ์ได้ขอไป 2,000 ตัว ไปออกที่วัดคลองด่าน

หลวงพ่อวงษ์ท่านมรณภาพในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2523 ในปัจจุบันก็มีคนเสาะหาเสือของหลวงพ่อวงษ์กันมาก โดยเฉพาะเสือรุ่นแรกนั้นเริ่มหายาก และมีสนนราคาค่อนข้างสูงแล้ว แต่รุ่นอื่นๆ นั้นยังมีราคาหลักพันอยู่ครับ วันนี้ก็นำรูปเสือของหลวงพ่อวงษ์รุ่นแรกมาให้ชมกันครับ

5559
พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก





"พระพุทธชินราช" ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารใหญ่ ด้านทิศตะวันตกของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นด้านหน้าวัด ผินพระพักตร์ไปทางแม่น้ำ เป็นพระพุทธรูปที่มีส่วนสัดสมตามแบบประติมากรรม มีลักษณะงดงามมากองค์หนึ่งในประเทศไทย

ดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ตรัสยกย่องสรรเสริญพระพุทธชินราช ว่า "งามหาพระพุทธรูปองค์ใดเปรียบมิได้ เป็นพระพุทธปฏิมากรดีล้ำเลิศ ประกอบไปด้วยพุทธลักษณะอันประเสริฐ มีสิริอันเทพยดาหากอภิบาลรักษา ย่อมเป็นที่สักการบูชานับถือแต่โบราณ"

พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว มีส่วนสูงตั้งแต่หน้าตักถึงพระเกศ 7 ศอก พระพักตร์ทรงรูปไข่ หรือเรียกว่า รูปหน้านาง ที่แสกพระพักตร์มีเครื่องหมายศูลประดับด้วยเพชร แสดงให้เห็นเป็นอุณาโลม

การสร้างใช้วิธีหล่อเป็นท่อนๆ ด้วยทองสัมฤทธิ์ตลอดทั้งองค์ นิ้วพระพักตร์และพระบาทเสมอกัน แต่แรกสร้างนั้นยังไม่ได้ปิดทอง คงขัดเกลี้ยงแบบทองสัมฤทธิ์เท่านั้น

ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างพระพุทธชินราชในปีใด แต่มีการสันนิษฐานโดยอ้างอิงตามพงศาวดาร คาดว่าน่าจะสร้างพร้อมกับ พระพุทธชินสีห์ และ พระศรีศาสดา ในรัชสมัย พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท)

จากนั้นจึงมีการลงรักปิดทององค์พระเป็นครั้งแรกในสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.2174 สมเด็จพระเอกาทศรถ โปรดให้นำทองเครื่องราชูปโภคไปแผ่เป็นทองแผ่นแล้วนำมาปิดพระพุทธชินราชด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เองจนแล้วเสร็จ

ต่อมา ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือ ได้โปรดให้ปฏิสังขรณ์และลงรักปิดทององค์พระพุทธชินราชอีกครั้ง พระพุทธชินราช จึงงดงามยิ่งดังที่เห็นในปัจจุบัน

พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีเรือนแก้ว หรือที่เรียกว่า พระรัศมี แกะสลักด้วยไม้สักลงรักปิดทอง มีลวดลายเป็นรูปนาค วงขนานไปตามทรงขององค์พระ ขึ้นไปบรรจบกันที่เหนือพระเกศ มีลักษณะเป็นลายรักร้อยและลายทองสร้อยสลับกัน มีสายสังวาล ทำด้วยทองเนื้อนพเก้า หรือทองสีดอกบวบ คือ ตรานพรัตน์ราชวราภรณ์ ประดับด้วยบุศย์น้ำเพชร ซึ่งรัชกาลที่ 7 ทรงสร้างถวายเป็นพุทธบูชา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ได้ถวายตรานพรัตน์แด่พระพุทธชินราช เมื่อคราวเสด็จภาคเหนือ ในปี พ.ศ.2501 ซึ่งยังไม่เคยมีพระพุทธรูปองค์ใดได้รับเครื่องราชสักการะสูงส่งถึงเพียงนี้ และมีรูปยักษ์ทั้งซ้ายขวา คือ ท้าวเวสสุวรรณ และ ท้าวอาฬวกยักษ์ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์

พระพุทธรูปนี้ แสดงออกซึ่งความสงบเย็น ความมีสติปัญญา ความเมตตาอันหาที่เปรียบไม่ได้ ถือเป็นความอัศจรรย์ที่คนไทยเมื่อประมาณพันปีล่วงมาแล้ว มีความสามารถอย่างสูงส่ง ที่สามารถนำเอาพุทธจริยาทั้งสามประการ คือ พระมหากรุณาคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระปัญญาคุณ ซึ่งเป็นนามธรรมมาถ่ายทอดเป็นรูปลักษณะของมนุษย์ที่ปั้น หล่อ ให้มองเห็นในความรู้สึกส่วนลึกของผู้ที่ได้ประสบพบเห็นได้เช่นที่ปรากฏในพุทธลักษณะของพุทธชินราชนี้

พระพุทธชินราช นอกจากเป็นพระปฏิมากร ที่มีลักษณะงดงามอย่างยอดเยี่ยมแล้ว ยังเป็นพระพุทธรูปที่ทรงมีพระปาฏิหาริย์เป็นอัศจรรย์อีกมากมายหลายอย่าง ซึ่งหลายๆ คนได้เคยเล่าสืบต่อกันมา ที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ก็มี เช่นเมื่อคราวเมืองพิษณุโลกถูกเผาในรัชกาลพระเจ้ากรุงธนบุรี ตอนอื่นๆ ไฟไหม้หมด แต่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งเป็นที่สถิตของพระพุทธชินราช หาได้ไหม้ไฟไม่

ปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่นิยมกราบไหว้ขอพรให้ประสบแต่สิ่งที่ดีงามในชีวิต ประสบความสำเร็จในทุกกิจการงาน รวมถึงการสักการะวัตถุมงคลที่มีพระพุทธชินราชเป็นองค์ประกอบหลัก

สำหรับคาถากราบไหว้มีอยู่ว่า "นะ ชาลีติ ปะสิทธิลาภา ปะสันนะจิตตา สะทา โหติ ปิยัง มะมะ สัพเพ ชะนา พะหู ชะนา สัพเพ ทิสา สะมาคะตา กาละโภชะนา วิกาละโภชะนา อาคัจฉันติ ปิยัง มะมะ"

เนื่องจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นวัดหลวง แต่เดิมวัดนี้มีงานฉลองกันตามโอกาส หลังจากในการสร้างพระพุทธรูปขึ้นมา หรือเมื่อพระมหากษัตริย์เสด็จมานมัสการพระพุทธชินราช จึงจะโปรดให้มีการฉลองสมโภช 3 วันบ้าง 5 วันบ้าง 7 วันบ้างแล้วแต่ความเหมาะสม

ปัจจุบันนี้ ทางวัดได้จัดงานประจำปีขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2477 กำหนดเอาวันพระกลางเดือน 3 เป็นต้นไป มีการฉลองใหญ่ถึง 7 วัน 7 คืน กลายเป็นงานประจำปีของทางวัด จัดขึ้นในราวเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้นมัสการกราบไหว้พระพุทธชินราช หรือหลวงพ่อใหญ่ได้อย่างทั่วถึง



ที่มา-ข่าวสด

5560
ขอบคุณครับท่านที่แบ่งกันชม  เขี้ยวเสือกลวง เป็นทนสิทธิ์ แขวนได้สบายใจเลยครับ :-*

5561
วัดบางพระของเรา ดีทุกอย่างครับ บารมีหลวงพ่อเปิ่น คุ้มครองครับ  :-*

5562
แล้วแต่ครับท่าน ส่วนตัวของผมใช้  ของ หลวงปู่ทิม วัดพระขาวครับ :-*

5563
ไม่เงียบหรอกครับท่าน น่าจะติดสงกรานต์กันอ่ะครับ  ;D ;D เชื่อว่าเดี๊ยวซักพักก็คงคึกคักเหมือนเดิมครับ :-*

5564
บทความ บทกวี / ตอบ: พลาดโอกาส
« เมื่อ: 19 เม.ย. 2551, 09:53:34 »
แง่ววว สักวันครับท่าน เป็นกำลังใจให้ครับ ;)

5565
เหอะๆๆ
อย่ามาตอน80ก้อเเร้วกาน
เล่นขุนแผนงี๊ก็ไม่นานหรอกครับท่าน ;D ;D ;D

5566
รอคุณลุงอเมซิ่ง หรือท่าน หอมเชียง มาตีให้อีกทีนะครับ  แต่น่าจะทันนะครับ :-*

5567
ครับ ถึงเวลามันมาเอง ;D ;D ;D

5568
ขอภาพด้านหลังด้วยครับท่าน :-*

5569
ไปทางมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมครับ ไปไกลพอสมควรครับ ( ไกลมากๆ ) จะมีป้ายบอกทางเข้าวัดกำแพงแสนอยู่ซ้ายมือครับ เลี้ยวเข้าไป ผ่านค่ายลูกเสือ ชมวิวทุ่งนา ลำธาร สองข้างทาง ไกลครับ ไปเรื่อยครับ วัดกำแพงแสนจะอยู่ทางขวามือครับ โชคดีนะครับท่าน  :-*

5570
พลาดไม่ได้แล้วครับงานนี้ ต้องหาโอกาสไปให้ได้ครับ ขอบคุณครับท่าน :-*

5571
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: พี่คับ
« เมื่อ: 18 เม.ย. 2551, 08:26:59 »
ยินดีด้วยครับท่าน :D

5572
โชคดีจงมีแก่ท่านนะครับ :-*

5575
ส.ว.ด.? ครับ?  เพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆชาวกระดานวัดบางพระทุกๆท่าน?  เช้านี้อากาศที่ภูเก็ตสดใสและปลอดโปร่งดีมาก?  ไม่มีฝนตกเหมือนเมื่อวาน? ที่ตกหนักมากและเช้าวันนี้?  ผมเชื่อว่าทุกๆท่านก็คงจะดำเนินชีวิตเป็นไปตามปรกติเหมือนๆเคยดังเช่นทุกๆวันที่ผ่านมา?  แต่ก็อาจจะมีบ้างที่อีกหลายๆท่านอาจจะยุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่นตัวและครอบครัว?  ที่ยุ่งเหยิงและสับสนในชีวิตประจำวัน?  ก็ขอให้ท่านเห่ลานั้นจงผ่านพ้นกับสิ่งเห่ลานี้........ไปได้ด้วยดี?  ด้วยสติและปัญญา?  ที่เราๆท่านๆมีอยู่?  เพราะเรายังคงต้องดำรงชีวิตแบบนี้ไปอีกนาน?  หรือจนกว่า...ไม่เราก็มัน?  จะจบกันไปข้างหนึ่ง? ? แต่อย่าปล่อยให้มันเข้ามามีอำนาจเหนือชีวิตเราก็พอแล้ว
รู้ได้ไงเนี่ย ขอบคุณครับ :)

5576
ผมว่าลักษณะนี้ อาจจะเอาเหรียญมาแปะแล้วตีเบี้ยกันเองครับ เคยเห็นอีกเหรียญนั่งเต็มองค์เนื้อตะกั่ว? ;D
น่าจะมีความเป็นไปได้สูงครับ หรือไม่ก็ทำที่หน้ากุฏิเลย   :D

5577
ส่วนมากเป้นน้ำมันงานะจ้ะ ส่วนว่านแล้วแต่เกจิอาจารจะเอามาผสม? ;D
ตามนั้นเลยครับ :)

5579
เเล้วพวกเขี้ยวเสือราคาไม่เเพงเเล้วราคาประมาณเท่าไหร่อ่าครับ
ผมสนใจชิ้นนี้ครับ
มีพุทธคุณด้านไหนบ้างครับ
ถ้าผมรบกวนมากไปบอกได้นะครับ
ขอบคุณครับ
ทันหลวงพ่อก็หลายปอนด์อยู่ครับ  :-*

5581
ขอบคุณมากๆครับท่าน เอ็ม007 นี่แหละครับ บารมีพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนครปฐมของเรา

 :054:

5583
:062:ผมจำได้ว่า? น้องสิบทัศน์?  เคยบอกผมว่าเหรียญพัดยศมีอยู่รุ่นเดียว......แต่ที่ผมมีอยู่นี้?  เขียนไว้ด้านหลังว่า...7? พ.ค. 38? ไม่ทราบว่าทีมาทีไปเป็นอย่างไร??  วานผู้ที่รู้ช่วยบอกที?  ขอขอบคุณ

รอท่านหอมเชียงมาฟันธงให้อีกทีนะครับ  :-*

5584
รบกวนพี่ๆอีกหน่อยนึงนะครับ
ถ้าอายุผมยังไม่ถึง20นี่ผมควรจะบูชาวัตถุมงคลเเบบไหนก่อนครับ
เนื่องจากผมสนใจการสักมากๆครับเเต่อายุผมยังไม่ถึงเลยจะปรึกษาพี่ๆๆหน่อยครับ
ว่าควรจะบูชาวัตถุมงคลเเบบไหนไปก่อนอ่าครับ
ผมอยากได้เเบบเน้นเเบบการพูดจาผุ้คนหวาดเกรงอ่าครับ
เเล้วก็เน้นทางด้านฟันเเทงไม่เข้าคงกระพันอ่าครับ
พี่ๆๆคนไหนทราบก็ช่วยเเนะนำด้วยนะครับ
ขอบพระคุณพี่ๆๆทุกคนที่เข้ามาให้ความรู้นะครับ


หาเสือใช้ก็ได้ครับ มหาอำนาจดีนักแล :-*

5587
บทความ บทกวี / ตอบ: ครั้ง 1 ในชีวิต
« เมื่อ: 14 เม.ย. 2551, 10:33:07 »
กุศโลบายกระทำกรรมดี ยินดีครับ :-*

5588
เท่าที่มองดู เปง รู หรือ เปงทอง ปิดไว้ครับ
ทองคำเปลวชัวร์ครับท่าน :-*

5589
อ๋อ เหรอครับ
เเล้วถ้าสักเเล้วเนี่ยต้องปฦิบัติตามข้อห้ามอย่างเคร่งครัดเลยใช่ปะครับ
 :) :) :) :) :) :) :) :)
ทำได้ก็ดีครับ :)

5590
ระลึกคุณพระรัตนตรัย คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระเป็นที่สุด  :-*

5591
น่าจะเป็นงานฉลองสมณศักดิ์ 5 ธันวาคม 2537 นะครับ (เท่าที่เห็นมีรุ่นเดียวนะครับ)  :-*

5592
ดำ กับ แดง รวมกันจะเป็นไรมั้ยครับ

อยากได้เหมือนกันอิอิ^^
ไม่หรอกครับ :-*

5593
ข่าวจาก - ไทยรัฐ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 เมษายน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบหลวงปู่แผ้ว ปวโร อายุ 85 ปี เกจิดังเมืองนครปฐม ซึ่งจำวัดอยู่อย่างเรียบง่ายที่กุฏิหลังใหม่ที่ลูกศิษย์พึ่งสร้างถวาย ตั้งอยู่ริมคลองท่าสารบางปลา ภายในวัดประชาราษฎร์บำรุง (รางหมัน)  ต.รางพิกุล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม โดยก่อนหน้านี้หลวงปู่แผ้วได้เข้ารับการรักษาอาการป่วยด้วยโรคเบาหวานและความดันขึ้นสูงที่ รพ.จันทรุเบกษา โรงเรียนการบินกำแพงแสน จนอาการดีขึ้น และแพทย์อนุญาตให้ศิษย์นิมนต์กลับวัดได้ซึ่งหลวงปู่แผ้วกล่าวว่า มาอยู่ที่นี่เพื่อต้องการพักผ่อนตามสังขาร และอยากสร้างโบสถ์วัดรางหมันให้เสร็จ

...............................
จึงเรียนมาเพื่อทราบ

5594
เสียค่าเข้าเปล่าครับ อยากรู้ ได้แต่เดินผ่าน
ไม่นะครับ เข้าไปชมได้เลยครับ ( ขนาดยังไม่เสร็จนะเนี่ย ยังขนาดนี้เลย ) :-*

5595



ประกาศสงกรานต์ปี พ.ศ. 2551

ปกติมาส ปกติวาร อธิกสุรทิน

สงกรานต์วันอาทิตย์ ที่ 13 เมษายน เวลา 18 นาฬิกา 55 นาที 48 วินาที

นางสงกรานต์ชื่อ ทุงสะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกทับทิม แก้วปัทมราช เป็นอาภรณ์ ภักษาหารอุทุมพร พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จมา บนหลังครุฑ

เถลิงศก จุลศักราช 1370

วันอังคาร ที่ 15 เมษายน เวลา 22 นาฬิกา 53 นาที 24 วินาที

เถลิงศก 2551 จุลศักราช 1370

มาสเกณฑ์ 16945 อวมาน 245

หรคุณ 500405 กัมมัชพล 37

อุจจพล 2056 ดิถี 10

วาร 3

กาลโยค เริ่มใช้ วันที่ 15 เมษายน

ศก 227 ธงไชย อธิบดี อุบาทว์ โลกาวินาศ

วัน 4 3 3 5

ยาม 7 6 6 2

ราศี 11 2 10 6

ดิถี 23 14 22 30

ฤกษ์ 14 23 13 6

เกณฑ์นาคให้น้ำ

ปีชวด นาคราชให้น้ำ 3 ตัว ฝนแรกปีน้อย กลางปีน้อย ปลายปีมากแล

เกณฑ์ธัญญาหาร

ชื่อ มัชฌิมา ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล 1 ส่วน เสีย กึ่งหนึ่ง โภชนาหารเป็นมัธยม ประชาชนทั้งหลายจะคลายทุกข์ ได้สุขเป็นอนุมาน

เกณฑ์พิรุณศาสตร์

ปีนี้ อาทิตย์ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 400 ห่า ตกในจักรวาล 160 ห่า

ตกในหิมพานต์ 120 ห่า ตกในมหาสมุทร 80 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 40 ห่า


ที่มา - ข่าวสด

5596
หลวงพ่อใหญ่ วัดโยธานิมิต ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี




จันทบุรี เป็นเมืองชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยในแต่ละยุคสมัย ทั้งสมัยก่อนกรุงธนบุรีและสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ดังปรากฏหลักฐานสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ให้เห็นอยู่จวบจนทุกวันนี้

หลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งยังเป็นพระยาวชิรปราการ ได้นำกำลังพลประมาณ 500 คน ตีฝ่าวงล้อมพม่าออกทางทิศตะวันออกของกรุงศรีอยุธยาและยึดเมืองจันทบุรีไว้เป็นเวลา 5 เดือน เพื่อเป็นแหล่งสะสมเสบียงอาหารและรี้พลจากนั้นจึงนำกำลังพลทั้ง ไทย-จีน จำนวน 5,000 คน กลับไปกอบกู้กรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ.2310

เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นความภาคภูมิใจของชาวจันทบุรี สามารถเห็นได้จากที่มีโบราณสถานและอนุสรณ์สถานหลายแห่งที่มีความเกี่ยวข้อง หรือจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ในครั้งนั้น

จังหวัดจันทบุรี เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ ดินฟ้าอากาศเอื้ออำนวยต่อการปลูกผลไม้หลายชนิด โดยเฉพาะ ทุเรียน เงาะ มังคุด และพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ เป็นศูนย์กลางธุรกิจ ด้านอัญมณี และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นภูเขา ป่าไม้ น้ำตก ชายทะเล และโบราณสถาน โบราณวัตถุต่างๆ

นอกจากนี้ จังหวัดจันทบุรี ยังมีสถานที่สำคัญที่เป็นศูนย์รวมใจแห่งศรัทธาของชาวเมือง คือ วัดโยธานิมิต

"วัดโยธานิมิต" ตั้งอยู่ในเขตท้องที่ตำบลบางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น พระอุโบสถเป็นแบบหลังคาชั้นเดียว ไม่มีช่อฟ้าไม่มีใบระกา เป็นลักษณะเฉพาะของอุโบสถที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งได้รับอิทธิพลการก่อสร้างมาจากศิลปะแบบจีน

ภายในพระอุโบสถไม่มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง สภาพปัจจุบัน วัดโยธานิมิต อยู่ในค่ายเนินวง และอยู่ห่างจากแนวกำแพงประมาณ 100 เมตร เนื้อที่วัดประมาณ 1 ไร่ โดยมีซากแนวกำแพงรอบวัดก่อด้วยศิลาแลง สภาพปัจจุบันเหลือแต่แนวกำแพงเป็นบางส่วน

จากแนวกำแพงรอบวัด หลังโบสถ์มีเจดีย์สูงประมาณ 20 เมตร มีกำแพงรอบอุโบสถก่ออิฐถือเป็นปูนสองชั้น ชั้นนอก กว้าง 27 เมตร ยาว 55 เมตร สูง 1.20 เมตร ชั้นในกว้าง 18 เมตร ยาว 28 เมตร สูง 1 เมตร

กำแพงเมืองวัดโยธานิมิต ก่อด้วยศิลาแลงโดยรอบ ภายในกำแพงวัดมีโบสถ์หลังหนึ่งขนาดกว้าง 5 ห้อง มีเฉลียงรอบพระประธานในโบสถ์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นซึ่งสร้างพร้อมกันกับโบสถ์ หลังโบสถ์ออกไปมีเจดีย์กลมแบบกังกาอยู่องค์หนึ่งสูงประมาณ 20 เมตร พร้อมกับศาลาการเปรียญ อยู่หลังหนึ่ง และกุฏิสงฆ์

พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 ของเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) ระบุว่า "...ในพุทธศักราช 2377 เมื่อเดือน 1 โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาพระคลังเป็นแม่กองสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่เนินวง ด้วยบ้านราษฎรอยู่ลึกเข้าไปข้างหลักเมือง เป็นที่ป้องกันครอบครัวพลเมืองได้ แล้วจึงสร้างวัดขึ้นสำหรับเมืองวัด 1 ชื่อวัดโยธานิมิต..."

เหตุที่สร้างวัด เนื่องจากในครั้งนั้น เมื่อญวณขอเดินทางผ่านประเทศไทย เพื่อจะไปตีเมืองเขมร รัฐบาลไทยส่งหลวงประดิษฐ์ บุญนาค นำทัพมาปักหลักที่เมืองจันทบุรี ตรงบริเวณค่ายเนินวงค์ เพื่อขัตตาทัพ

แต่ทหารไทยไม่ได้รบกับต่างชาติ หลวงประดิษฐ บุญนาค จึงนำทหารสร้างวัดโยธานิมิต โดยสร้างโบสถ์ด้วยชันอ้อยผสมดินศิลาแลง ต่อด้วยฝาผนังเป็นไม้ หลังคามุงกระเบื้องดินเผา มีเสมาทรงเหลี่ยมตั้งทับหลุมลูกนิมิต

ต่อมาในปีพุทธศักราช 2521 คณะกรรมการวัดโยธานิมิตได้ก่อสร้างอุโบสถ์หลังใหม่แทนอุโบสถหลังเดิมที่ชำรุดทรุดโทรม ด้วยการสร้างทับตามรอยเขตขอบเสมาเดิม

ปัจจุบัน วัดโยธานิมิต มี พระครูพินิจธรรมประภาส (พระอาจารย์ ต้อม) เป็นเจ้าอาวาส วัดโยธานิมิต เป็นหนึ่งใน 9 วัดของจังหวัดจันทบุรี ที่กำหนดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ต้อนรับนักท่องเที่ยวมาจากต่างจังหวัด ที่มาเยือน ทางเข้าวัด อยู่ริมถนนท่าแฉลบ ห่างจากเขตเทศบาลเมืองจันทบุรีประมาณ 4 กิโลเมตร ตั้งอยู่ใกล้พิพิทธภัณฑ์แห่งชาติพาณิชยนาวี

พระมงคลเทพนิมิต หรือหลวงพ่อใหญ่ ประดิษฐานในพระอุโบสถวัดโยธานิมิต ตั้งอยู่ในเขตกำแพงเมืองของค่ายเนินวงค์ (ค่ายทหารเมืองเก่า) ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ปางสมาธิ ขนาดหน้าตัก 4 เมตร หล่อด้วยดินศิลาแลงผสมงบน้ำอ้อย

ประชาชนนิยมเข้าสักการะหลวงพ่อใหญ่ เนื่องจากเชื่อว่ามีเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด จึงมีชาวบ้านและบุคคลทั่วไป เดินทางมากราบไหว้จำนวนมากในแต่ละวัน

เมื่อปี 2542 เกิดเหตุประหลาดไฟฟ้าลัดวงจรเพลิงลุกไหม้หลวงพ่อใหญ่ เผาไหม้ที่ผ้าอังสะ ที่สวมใส่ในองค์หลวงพ่อใหญ่ ชาวบ้านช่วยกันดับไฟ พอเพลิงสงบ พบว่าอังสะที่สวมใส่องค์หลวงพ่อใหญ่ไม่มีร่องรอยไฟไหม้เลย

มีลูกศิษย์ได้นำอังสะติดตัวไปหลายคน และประสบความโชคดี ค้าขายดี บ้างก็มีโชค ตามที่ตั้งจิตอธิษฐานไป และแคล้วคลาดภัยอุบัติเหตุ

หากมีโอกาสไปเยือนเมืองจันทบุรี ขอเชิญไปกราบไหว้ พระมงคลเทพนิมิต หรือหลวงพ่อใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคลอันดีเทอญ



ที่มา - ข่าวสด

5597
รู้สึกว่ารูปล่างสุดรูปเสือเรียกว่ากุรุสุรุคับ? ส่วนหนุมาร ผมไม่รู้ๆ ไปแย้วคับ
กุรุสุกุ คือหัวใจเสือครับ หะนะมานะ คือ หัวใจหนุมาน
ส่วนภาพล่างสุดนั้น ก็เป็นแบบตะกรุดข้อมือทั่วๆไปแหละครับ  แค่นำมาถักเชือกใหม่ไว้ สำหรับคาดเอว เท่านั้นเองครับ 
 :D

5598
ดีครับดี เยี่ยมไปเลยครับ ส่วนตัวชอบ ประภามณฑลหลวงปู่ศุข มากมายครับ  :-*

5601
รักสดมากๆเลย :D

5603
แล้วคุณอำพล สุขปาน เป็นกรรมการวัดหรือว่าเป็นพระที่วัดราหูครับ
เป็นฆาราวาสครับ :-*

5604
ประมาณ 20 นะครับ :-*

5605
กุเกิลไขข้อข้องใจได้ไม่หมดอ่าครับ รู้แต่ว่า เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อเต๋ แค่นี้เอง :D :D

5606
พระนอนตะแคงซ้าย วัดป่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง






จังหวัดระยอง ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของประเทศไทย มีชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 100 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 3,552 ตารางกิโลเมตร

จังหวัดระยอง เริ่มปรากฏชื่อในพงศาวดารเมื่อปีพุทธศักราช 2113 ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่งกรุงศรีอยุธยา สันนิษฐานว่าเมืองนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณปีพุทธศักราช 1500 ยุคที่ขอมมีอานุภาพเฟื่องฟูแถบดินแดนสุวรรณภูมิ ปรากฏจากหลักฐาน คือ ซากศิลาแลง คูค่ายที่ยังหลงเหลืออยู่ในเขตอำเภอบ้านค่าย อันเป็นศิลปะการก่อสร้างแบบขอม

ประวัติศาสตร์กล่าวถึงเมืองระยอง ระหว่างที่กรุงศรีอยุธยาใกล้จะเสียทีแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 ในรัชสมัยของพระเจ้าเอกทัศน์ ปีพุทธศักราช 2309 พระยาวชิรปราการ หรือพระยาตาก พร้อมไพร่พลประมาณ 500 คน ได้ตีฝ่าวงล้อมทัพพม่า มาหยุดพักไพร่พลที่เมืองระยอง

ก่อนเดินทัพต่อไปยังเมืองจันทบุรี เพื่อยึดเป็นที่มั่นในการกอบกู้อิสรภาพคืนจากพม่าในปีพุทธศักราช 2311

จังหวัดระยอง เป็นแหล่งอาหารทะเลและผลไม้นานาชนิด เป็นเมืองอุตสาหกรรม และเป็นที่ตั้งของโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่สำคัญ

ระยองได้รับการขนานนามให้เป็นเมือง "สุนทรภู่" เมืองแห่งกวีเอก กรุงรัตนโกสินทร์ ผู้ประพันธ์วรรณกรรม ประเภทร้อยกรอง ได้อย่างไพเราะสละสลวย และเต็มไปด้วยจินตนาการ โดยเฉพาะนิทานกลอนสุภาพ เรื่องพระอภัยมณี ซึ่งฉากหนึ่งในนิทาน เรื่องนี้คือ หมู่เกาะน้อยใหญ่และท้องทะเล ที่สวยงาม ในจังหวัดระยอง

นอกจากธรรมชาติอันงดงามแล้ว ในขณะเดียวกัน ระยองยังมีสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่หลายแห่ง และถ้าเป็นรูปแบบพระพุทธรูปแล้วก็ต้อง "พระพุทธไสยาสน์" วัดป่าประดู่ จ.ระยอง เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ประดิษ ฐานในพระอุโบสถวัดป่าประดู่ ในเขตเทศบาลเมือง ถนนสุขุมวิท อ.เมือง จ.ระยอง

วัดป่าประดู่ เป็นพระอารามหลวง ประวัติความเป็นมาก่อนสร้างวัดประมาณ พ.ศ.2372 เคยเป็นวัดร้างมาก่อน มีซากวัดที่เหลือแต่ซากโบสถ์ ซากพระพุทธรูปปางไสยาสน์ และซากองค์พระประธานซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ จึงเคยมีชื่อว่า วัดป่าเลไลยก์

ต่อมา เปลี่ยนชื่อตามท้องที่เป็นวัดป่าประดู่ เพราะมีต้นประดู่ใหญ่อยู่ภายในวัดเป็นจำนวนมาก และเพื่อมิให้ชื่อวัดพ้องกับวัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรีด้วย

ปัจจุบัน พระพุทธรูปทั้งสององค์ได้รับการบูรณะไว้ จึงถือเป็นพระเก่าแก่คู่บ้านเมืองของระยองแห่งหนึ่ง วัดได้รับการพัฒนามาโดยตลอด ปัจจุบัน กำลังก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่สวยงาม

วัดป่าประดู่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและเป็นพระอารามหลวง เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชุมชนในการปฏิบัติศาสนกิจและพิธีการทางศาสนาของประชาชนในเมืองระยอง

ที่วัดป่าประดู่ มีพระพุทธรูปนอนตะแคงซ้ายที่เก่าแก่ เป็นพระพุทธไสยาสน์ที่แปลกที่สุดในประเทศไทย โดยปกติแล้ว เมื่อมีการสร้างพระปางสีหไสยาสน์ มักจะสร้างท่านอนตะแคงขวา แต่พระพุทธไสยาสน์ที่วัดป่าประดู่ สร้างในท่านอนตะแคงซ้าย ยาว 12 เมตร สูง 3.60 เมตร ขนาดใหญ่

ในปี พ.ศ.2478 พระครูสมุทรสมานคุณ (แอ่ว) อดีตเจ้าอาวาส ได้บูรณะส่วนที่ชำรุดแล้วปิดทองเสียใหม่

มีผู้สันนิษฐานว่าการสร้างตามพุทธประวัติตอนพระพุทธเจ้ากระทำยมกปาฏิหาริย์ ให้พวกเดียรถีย์ชม โดยมีพระพุทธนิมิตแสดงอาการอย่างเดียวกับพระพุทธเจ้าเป็นคู่ๆ เมื่อถึงอิริยาบถไสยาสน์จึงผินพระพักตร์เข้าหากัน เป็นการนอนตะแคงซ้ายและขวาในลักษณะเดียวกัน ผู้สร้างคงเจตนาสร้างให้มีนัยของพุทธปาฏิหาริย์ดังกล่าว จึงสร้างเป็นพระนอนตะแคงซ้าย...

องค์พระพุทธไสยาสน์ มีลักษณะพิเศษ กล่าวคือ มีการหนุนพระเศียรด้วยหัตถ์ซ้าย สังเกตจากพระเกศ ไรพระศก จีวรแล้ว น่าจะอยู่ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ ดูแลรักษาอย่างดี

วัดป่าประดู่ ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 อยู่คู่บ้านคู่เมืองระยอง และมีงานสมโภชใหญ่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เป็นประจำทุกปี

ทุกวันจะมีประชาชนผู้ศรัทธา เดินทางเข้าไปกราบไหว้ขอพร เพื่อให้สมหวังในเรื่องต่างๆ ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล อย่างไม่ขาดสาย

การเดินทางไปสักการะพระนอนตะแคงซ้าย (พระพุทธไสยาสน์) วัดป่าประดู่ สามารถใช้เส้นทาง ถ.สุขุมวิท เข้าตัวเมืองระยอง ใกล้กับโรงพยาบาลระยอง โรงเรียนวัดป่าประดู่ ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุด



ที่มา-ข่าวสด

5607
ขอบคุณมากๆครับสำหรับรูปภาพ ( หลอดตะกรุดคงจะใหญ่น่าดูชม   ;D  )   ท่านหอมเชียงพอจะทราบประวัติหลวงพ่อเบี้ยวมั๊ยครับ แล้วตะกรุดสามห่วงของหลวงพ่อเบี้ยว มีพุทธคุณด้านไหนครับ ขอบคุณมากๆครับท่านหอมเชียง

5609
อาจจะไปบางพระครับ ดูก่อน ;D ;D ;D

5610
บารมีหลวงพ่อเปิ่น คุ้มครองทุกๆท่านครับ

5611
ผมก็ไปมาเมื่อวาน ล.พ.ไสว รูปหล่อ ขี่ไก่ เนื้อทองแดง ไม่รู้มือดีที่ไหน เอาไปซะหมด ไม่เหลือไว้แบ่งกันบ้าง
เหลือแต่ เนื้อนวะ 300 บาท ไม่แพงหรอก แต่ปัจจัยไม่พร้อม / เสือเผ่น นวะ 300 เหมื่อนกัน เหลือไม่มาก ขอบอก
ขอบคุณครับ :-*

5612
พิพิธภัณท์ นะครับ ไม่ใช่มด หาไม่เจอได้อย่างไงครับ ;D ;D ;D
555+ ครับ หาง่ายครับ ;D ;D ;D

5613
น่าจะเป็นดินนะครับ :D :D :D

5614
ใครรู้บ้าง ช่วยไขข้อข้องใจหน่อยเร็ว ;D ;D ;D

5615
ใช่ครับ จากภาพไม่สามารถพิจจารณาได้ครับ  :)

5616
เปิดให้เข้าไปชมครับ แต่ยังไม่เสร็จ 100%  :-*

5617
ลีลาถ้ำหีบครับ ( แท้ไม่แท้ไม่ทราบครับ แต่พิมพ์ทรงคือพระลีลาถ้ำหีบ ) :-*

5618
สวัสดีทุกๆท่านครับ ผมก็อีกคนนึงที่เพิ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อเปิ่น วักบางพระ ด้วยอ่ะครับ เมื่อวันที่1 เมษายน นี้เอง สักน้ำมันที่นี่แหละครับ? ฝากเนื้อและ ตัวด้วยน่ะครับท่านๆทั้งหลาย
ยินดีครับ  :-*

5620
รอท่านหอมเชียงมาตีให้ดีกว่าครับ ผมไม่ถนัด :-*

5621
ครับ เห็นนานแล้วแต่ไม่มีเวลาเข้าไปครับ  ขอบคุณครับ :-*

5622
  เหตุที่ผมใช้ชื่อ "สิบทัศน์" เป็นเพราะว่า บ้านผมตั้งอยู่บนพื้นที่ "โคกยายหอม" หรือ "เนินพระ" อันเป็นต้นกำเนิดของ "พระพิมพ์สิบทัศน์ วัดดอนยายหอม"  ( สำนึกรักบ้านเกิด ) จึงขอนำประวัติมาเล่าสู่กันฟังโดยสังเขปครับ
   

   โคกยายหอม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปากว่า "เนินพระ" ถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิด "พระสิบทัศน์" ของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อ หลวงพ่อเงินท่านริเริ่มจะสร้างพระอุโบสถ วัดดอนยายหอม ท่านจึงไปขุดอิฐทำรากที่บริเวณ โคกยายหอม ก็บังเอิญ พบโบราณวัตถุทางพระพุทธศาสนาอันล้ำค่ามากมาย อายุนับพันปี เช่น เสาหินแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่,รูปปั้นกวางเหลียวหลัง,เสมาธรรมจักร (ทั้งหมดนี้ ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่วัดดอนยายหอม)   นอกจากนี้ ยังได้พบแม่พิมพ์พระเครื่อง มีพระพุทธรูป 10 องค์  อยู่ในแม่พิมพ์เดียวกัน  ต่อมาทางวัด ได้นำแม่พิมพ์นี้ไปพิมพ์พระเครื่องสำหรับแจก แล้วขนานนามพระเครื่องนั้นว่า "พระสิบทัศน์" มาจนบัดนี้

   พระสิบทัศน์นี้ จัดอยู่ในพระเครื่องชุดแรกๆที่หลวงพ่อเงิน ท่านได้สร้างเอาไว้เพื่อ แจกแก่ชาวบ้านที่มาร่วมสรางพระอุโบสถ วัดดอนยายหอม ( ประมาณ พ.ศ 2480 ) เริ่มแรก สร้างได้ราว 100 องค์ สำหรับแจกแก่ผู่ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง ช่วยเหลือวัดในการสร้างพระอุโบสถ
   ในระยะเวลาเดียวกันนั้น มีผู้นำแท่งเงินที่ขุดเจอ มาถวายหลวงพ่อเงิน คณะกรรมการวัดจึงได้นำไปใช้ทำพระชนิดต่างๆ รวมถึงพระสิบทัศน์ด้วย 

   ต่อมา ราวๆปี พ.ศ.2496 ทางวัดจะจัดสร้างโรงเรียนประชาบาล ตามเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาธิการ และต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อที่ดิน ( 3 ไรเศษ ตารางวาละ 130 บาท เป็นเงิน 175,550 บาท ) ทางวัดได้สร้างพระสิบทัศน์ ( มีทั้งเนื้อดิน และเนื้อโลหะ แจกแก่ผู้มาร่วมการกุศลตั้งแต่ 100 บาท ขึ้นไป พระอื่นๆก็กำหนดมูลค่าลดหลั่นกันไป เข้าใจว่าถือขนาดพระ )และพระเครื่องอื่นๆ

ราวๆปี พ.ศ.2505 ทางวัดได้สร้างพระสิบทัศฯขึ้นอีกคราวหนึ่ง เป็นเนื้อโลหะ แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ คุณนายริ้ว กรรณสูตร ได้นำใบจักรของเรือรบหลวงศรีอยุธยา มาถวายหลวงพ่อเงิน ( เพื่อเป็นการแทนคุณ ที่หลวงพ่อเงินช่วยกู้เรือรบหลวงศรีอยุธยา ที่ถูกระเบิดจมลงในแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัดอรุณราชวราราม คราวกบฏแมนฮัตตันที่กรุงเทพฯ ) เพื่อจะหล่อเป็นระฆัง เมื่อหล่อระฆังเสร็จแล้ว ยังเหลือเนื้อโลหะอยู่อีกส่วนหนึ่ง หลวงพ่อเงินจึงได้นำมาสร้างพระเครื่อง ( รวมถึงพระพิมพ์สิบทัศน์ด้วยส่วนหนึ่ง ) น้อยท่านนักที่จะทราบเรื่องนี้

   พ.ศ.2512 เป็นปีที่มีเสาร์5 ประกอบกับลายรดน้ำและหน้าบรรพ์โบสถ์ของวัดทรุดโทรม คณะกรรมการวัดจึงมีมติสร้าง พระสิบทัศน์ แต่หลวงพ่อเกรงว่าจะเป็นการฉวยโอกาส ท่านจึงไม่เห็นด้วย แต่ด้วยความจำเป็นและทนต่อคำเรียกร้องของลูกศิษย์ไม่ไหว ท่านจึงอนุญาตืให้จัดสร้างขึ้น มีพระสิบทัศน์และพระพุทธรูปบูชา   พระสิบทัศน์ มี 3 แบบ จัดทำอย่างละ 10,000 องค์ พระบูชา จำนวน 200 องค์ ) นอกจากนี้ยังมีพระผงจากอินเดียจำนวนหนึ่งด้วย 
   พระที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2512 นี้ กล่าวกันว่า เป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวัดดอนยายหอมเลยทีเดียว ปลุกเสกโดยคณะสงฆ์วัดดอนยายหอม (หลวงพ่อเงิน,หลวงพ่อแช่ม,หลวงพ่ออวยพร) สมกับคำที่ว่า "ชาติเสือ ไม่ขอเนื้อใครกิน"

   9 มีนาคม พ.ศ. 2517 ทางวัดได้สร้างพระเครื่องขึ้น ในงานทำบุญอายุ 84 ปี ( 7 รอบ ) พระราชธรรมาภรณ์ ทางวัดได้จัดสร้างพระสิบทัศน์ด้วย มีทั้งเนื้อดินผสมผงใบลานเผา และเนื้อผงพุทธคุณสีขาว อีกวาระหนึ่ง

   เมื่อหลวงพ่อเงินถึงกาลมรณะภาพไป หลวงพ่อแช่ม ก็ได้สานต่อวิชาที่หลวงพ่อเงินได้ฝากฝังไว้ หลวงพ่อแช่ม ท่านได้สร้างพระเครื่องไว้มากมาย 1 ในนั้น ก็มีพระพิมพ์สิบทัศน์ด้วย
   ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้ หลวงพ่อเงินและหลวงพ่อแช่ม ได้ละสังขารไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้สืบสานต่อวิชาของหลวงพ่อเงินไว้ได้เป็นอย่างดี คือ หลวงพ่อประพันธ์ ( เจ้าอาวาสวัดดอนยายหอม ) และ หลวงพ่ออวยพร ( รองเจ้าอาวาสวัดดอนยายหอม )  ท่านก็ได้สร้าง พระสิบทัศน์ สืบต่อมา ตำนาน "สิบทัศน์" จึงได้เล่าขานมาสู่ทุกวันนี้

   


คติธรรม หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
"จิตหาญ ใจพ้นทุกข์ สุขด้วยธรรม"
"รู้จักพอ ก่อสุข ทุกสถาน"

5623
ขอบคุณ คุณสิบทัศน์นะคะ อิ อิ? ;)?  เจอแล้วค่ะ เปิ่น ๆ ค่ะ ช่วงนี้? ? :D
ด้วยความยินดีจร้า  ;D ;D ;D

5624
ขอบคุณครับ รูปนี้ต้องยอมรับ เยี่ยมจริงๆครับ  :)

5625
ไปได้ครับ สงสัยมีปัญหาอะไรก็ลองถามพระอาจารย์ ดูนะครับ  :-*

5626
ท่านโจรฯ จ๋า? มารอชมรูปอยู่นะจ๊ะ? ;)
ลงไปแล้วนะครับท่าน ลองหาดู ;D ;D ;D

5627
อดทนรออีกหน่อยนะครับ  :-*

5628
ภาพขึ้นแล้วบางส่วนครับ ส่วนตัว ใช้รูปหล่อรุ่นแรก ของหลวงพ่อไสว ชิ้นเดียว เกินพอ ;)

5629
1. ไม่แตกต่างกันครับ
2. ไม่เสมอไปนะครับ
3. ผมเคยแกะออกดู ด้านใน เป็นแผ่นตะกรุดเล็กๆม้วนอยู่ เมื่อคลี่ออกมา เห็นมีเขียนภาษาขอมสองแถว อ่านได้ว่า "อิสวาสุ สุสวาอิ" ( บางท่านแกะไปดูเจอคำว่า "รักนะเด็กโง่" ลมใส่เลยครับ ;D ;D )
4. ได้ครับ ไม่มีปัญหา  :-*

5630
ธรรมะ / ตอบ: " สาระจากพระสูตร "
« เมื่อ: 09 เม.ย. 2551, 07:17:03 »
สาธุ :-*

5631
ธรรมะ / ตอบ: พระไตรปิฎกย่อ
« เมื่อ: 09 เม.ย. 2551, 07:16:42 »
ขอบคุณครับ :-*

5632
ดูรูปไม่ได้อ่ะครับ :075:

5633
http://www.acccomp.ath.cx/meu/
ที่นี่อาจจะช่วยได้นะครับ  :-*

5634
ขอบคุณมากๆครับ สำหรับภาพที่ฝากมาให้ชมกัน แล้วก็ยินดีกับท่านตาเอส วัดสิงห์ด้วยนะครับ   ;D ;D

5635
หากันดูนะครับ ;D ;D ;D

5636
งามครับพี่น้อง :)

5637
ตามนั้นเลยครับ ลองศึกษากันดู :)

5640





ฮือฮาพระศพไม่เน่า-แข็งคล้ายหิน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่วัดใหม่บำเพ็ญผล (วัดท่าแห) ม.8 ต.ดงละคร อ.เมืองนครนายก มีอดีตเจ้าอาวาสวัดที่มรณภาพไปนานแล้วกว่า 10 ปี แต่ลูกศิษย์ยังเก็บร่างไว้ในโลงแก้ว พอเปิดออกมาดูอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเปลี่ยนจีวรให้ใหม่ ก็พบว่าร่างของหลวงพ่อกลายเป็นหิน สร้างความแปลกใจให้กับลูกศิษย์ทุกคน จึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

เมื่อไปถึงผู้สื่อข่าวได้พบกับพระสำเนียง สุขธัมโม อายุ 74 ปี พระลูกวัดและเป็นบุตรชายของหลวงพ่อแดง อภิโชโต พระเกจิดังสายเมตตา ที่ได้มรณภาพไปแล้ว แต่มีการเก็บรักษาร่างไว้ จากนั้นพระสำเนียงนำผู้สื่อข่าวไปยังศาลาการเปรียญที่เก็บร่างของหลวงพ่อ แดงเอาไว้ในโลงแก้ว ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านที่เดินเข้าออกกราบไหว้ศพเป็นระยะ

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ศพของหลวงพ่อแดงที่นอนอยู่ในโลงแก้ว มีลักษณะประหลาด ผมงอกออกมาใหม่เหมือนตอนยังมีชีวิตอยู่ ลักษณะของเส้นผมเป็นสีน้ำตาลยาวประมาณ 3 ซ.ม. และมีหนวดงอกออกมาบ้างเล็กน้อย เมื่อชาวบ้านช่วยกันอุ้มร่างของหลวงพ่อแดงออกมา ก็พบว่าเนื้อที่แห้งหุ้มกระดูกนั้น มีลักษณะแข็งเป็นหิน ลองเคาะดูมีเสียงเหมือนเคาะไม้ไผ่ น้ำหนักตัวประมาณ 30 ก.ก. เล็บมือกับเล็บเท้าถอดหมดแล้ว ส่วนอวัยวะอื่นๆ อยู่ครบ และไม่มีกลิ่นของศพแต่อย่างใด

พระสำเนียง เปิดเผยว่า หลวงพ่อแดงบวชเรียนที่วัดใหม่บำเพ็ญผล (วัดท่าแห) เมื่อปี พ.ศ.2501 เมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นพระนักพัฒนา และเป็นพระที่มีเมตตาชอบช่วยเหลือผู้อื่น เวลาต่อมาได้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดดงข่า อ.ปากพลี จ.นครนายก อยู่ประมาณ 10 ปี

จากนั้นย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเกาะกา อ.ปากพลี ระยะหนึ่ง ช่วงบั้นปลายของชีวิตได้ย้ายกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดใหม่บำเพ็ญผลจนกระทั่ง มรณภาพไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2536 ที่ร.พ.นครนายก ด้วยโรคตับทับถุงน้ำดี ท่ามกลางความเสียใจของญาติพี่น้องและลูกศิษย์ทุกคน ในขณะที่มีอายุได้ 86 ปี

สำหรับหลวงพ่อแดง อภิโชโต เป็นพระเกจิอีกรูปหนึ่งสายเมตตา เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มุ้ย เจ้าอาวาสวัดท้าวอู่ทอง ต.โคกไม้ลาย อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพระเกจิชื่อดังสายเมตตา ก่อนมรณภาพเคยบอกกับลูกศิษย์ว่าร่างกายของหลวงพ่อจะไม่เน่าเปื่อย และขอให้อย่าได้เอาร่างของท่านไปเผาอย่างเด็ดขาด

ขอรอให้ร่างหลวงพ่อมีอายุครบ 108 ปีก่อน แล้วร่างกายของหลวงพ่อก็จะสลายเอง ซึ่งทั้งญาติพี่น้องและลูกศิษย์ต่างก็เฉยๆ คิดว่าท่านพูดเล่นๆ จากนั้นไม่นานหลวงพ่อได้มรณภาพ และก็ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดท่าแหแห่งนี้จนครบ 6 เดือน

พอเปิดฝาโลงออกเพื่อจะนำร่างออกมาทำพิธีฌาปนกิจศพ ก็ต้องพบกับความแปลกใจว่าร่างกายของหลวงพ่อแดงไม่เน่าเปื่อยและไม่มีน้ำ เหลืองไหลเยิ้มแม้แต่น้อย ญาติพี่น้องและลูกศิษย์จึงนำร่างใส่เอาไว้ในโลงแก้ว จนกระทั่งถึงปัจจุบัน รวมอายุของหลวงพ่อแดงได้ 101 ปี ซึ่งก็จะต้องเก็บร่างเอาไว้ให้ครบ 108 ปี ซึ่งเหลืออีกเพียงแค่ 7 ปีเท่านั้น บรรดาลูกศิษย์ต่างอยากรู้ว่าร่างของหลวงพ่อแดงจะสลายตัวเอง ตามที่บอกไว้จริงหรือไม่

ที่มา -- ข่าวสด
..............................................................................................................

เมื่อซักครู่ที่ผ่านมา ผมนั่งชมรายการเดอะโชว์เมจิก จากที่สังเกตดู สังขารของหลวงพ่อแดง แห้ง มีเส้นผมและหนวดเครางอกออกมา และที่ฮือฮา ก็ตอนที่พระลูกวัด เคาะสังขารของหลวงพ่อแดง ดังโป๊กๆๆๆๆ ดูแล้วไม่น่าเชื่อเลยครับ สุดยอดจริงๆ  :054:

5641
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ตี๋ใหญ่
« เมื่อ: 07 เม.ย. 2551, 07:26:19 »
มหาอุตม์ ( อุดลูกค้าเข้าร้าน ) ;D ;D ;D

5642
ว่ากันไป ;D ;D ;D ;D ;D

5643
พระศรีศากยทศพลญาณประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์

ไหว้พระนิดเดียว ขออธิฐานเอาอะไรต่อมิอะไรตั้งเยอะ ทำบุญ 20 บาท ขอถูกล็อตเตอรี่ รางวัลที่ 1 :063: :063: :063:
;D ;D ;D ถูกมั๊ยหล่ะครับท่าน ;D ;D ;D

5645
รับทราบครับผม :-*

5646
พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ วัดสังกัสรัตนคีรี จ.อุทัยธานี






วัดสังกัสรัตนคีรี เป็นวัดที่เก่าแกของจังหวัดอุทัยธานี ภายในวิหารประดิษฐาน พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวอุทัยธานี

พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ วัดสังกัสรัตนคีรี อ.เมือง จ.อุทัยธานี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย วัสดุสำริด ขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอก หรือ 150 เซนติเมตร ศิลปะสมัยสุโขทัย

ยุคเดียวกับพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุ โลก สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหง ระหว่าง พ.ศ.1821-1860 ฝีมือช่างสุโขทัยยุค 2 มีส่วนเศียรกับส่วนองค์พระเป็นคนละองค์ เข้าใจว่าคงซ่อมเป็นองค์เดียวกันก่อนนำมาไว้ที่เมืองอุทัยธานี

ปัจจุบันมีอายุประมาณ 600-700 ปี ได้อัญเชิญจากสุโขทัยมาทางแม่น้ำสะแกกรังมาประดิษฐาน ณ วัดขวิด อ.เมือง จ.อุทัยธานี ถึง 3 องค์ คือ พระพุทธมงคล ประดิษฐาน ณ วัดขวิด พระโพธิ์มงคล และพระที่วัดหนองแกมาจากสุโขทัย สมัยรัชกาลที่ 1 ได้นำขึ้นที่ท่าใกล้ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี พระพุทธมงคลฯ ได้รับการอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดขวิด บ้านสะแกกรัง อุทัยธานี ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรังฝั่งตะวันตก ราวพุทธศักราช 2342-2345

ครั้นพุทธศักราช 2471 เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เจ้าคณะมณฑลนคร สวรรค์ ท่านเป็นชาวจังหวัดอุทัยธานี ได้เดินทางมาตรวจวัดวาอารามที่จังหวัดอุทัยธานี ได้พบเห็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยที่งดงามมาก จึงมีความเลื่อมใสและศรัทธาเป็นอย่างมาก เมื่อได้กราบนมัสการสักการะแล้ว จึงโปรดให้พระมหาพุฒ หรือพระราชอุทัยกวี เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) ดูแลรักษาพระพุทธรูปองค์นี้ไว้ให้ดี

ครั้นถึงวันพุธขึ้น 3 ค่ำ เดือน 4 ปีชวด พุทธศักราช 2471 หลวงพ่อป๊อก (พระครูอุเทศธรรมวิจัย) พระอาจารย์ผู้เรืองเวทย์แห่งวัดโบสถ์ พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้าและประชาชนในจังหวัด ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญหลวงพ่อพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์มาประดิษฐานที่วัดสังกัสรัตนคีรี

มีพิธีเฉลิมฉลองสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายในพระเศียรของหลวงพ่อด้วย วันขึ้น 3-8 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี ประชาชนชาวอุทัยธานีจะร่วมกันจัดงานไหว้พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้จัดมาเป็นประจำทุกปีจนกลายเป็นประเพณีสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

ปัจจุบันนี้ ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาจะเข้าไปกราบไหว้ ขอพรและโชคลาภ จากหลวงพ่อพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดสังกัสรัตนคีรี ไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน

สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปที่วัดสังกัสรัตนคีรี ขอให้สังเกตว่า วัดตั้งอยู่ใกล้เชิงเขาสะแกกรัง สุดถนนท่าช้าง ในเขตเทศบาลเมือง อยู่ตรงข้ามศาลาประชาคมจังหวัดอุทัยธานี ต้องจอดรถยนต์แถวตลาดแล้วเดินเท้าข้ามสะพานไปอีกฝั่งของแม่น้ำสะแกกรัง



ที่มา-ข่าวสด

5647
ยินดีครับท่าน จากใจจริง :-*

5648
หลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร





"หลวงพ่อเพชร" เป็นพระพุทธรูปที่งดงามและศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่งแห่งเมืองพิจิตร ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดท่าหลวง (พระอารามหลวง) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร ติดกับแม่น้ำน่าน

หลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนรุ่นแรก หล่อด้วยสำริด ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชรซ้าย ขนาดหน้าตักกว้าง 2 ศอกเศษ สูง 3 ศอกเศษ

สันนิษฐานสร้างในระหว่างปี พ.ศ.1660-1880

มีคำกล่าวขานร่ำลือกันว่า เมื่อใครมีเรื่องเดือดร้อน เช่น ของหาย หรือมีความทุกข์ยาก บนบานศาลกล่าวขออำนาจหลวงพ่อเพชรให้ช่วยปกป้องรักษา หรือปัดเป่าความทุกข์ยากให้หมดไป เดชะบารมีขององค์หลวงพ่อเพชร จะดลบันดาลให้ผู้นั้นพ้นทุกข์

สำหรับประวัติการสร้างหลวงพ่อเพชร ยังไม่มีหลักฐานที่แน่นอน เพียงแต่มีตำนานเล่าขานกันสืบมาว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยาได้เกิดขบถจอมทองเมืองเชียงใหม่ กองทัพกรุงศรีอยุธยาจึงได้ยกไปปราบ เมื่อเดินทัพมาถึงเมืองพิจิตร แม่ทัพได้สั่งให้หยุดพักรี้พลที่เมืองพิจิตร

เมื่อกองทัพกรุงศรีอยุธยาหายเหนื่อยแล้ว จึงออกเดินทางจากเมืองพิจิตร แต่ก่อนที่จากกัน เจ้าเมืองพิจิตรได้ไปปรารภกับแม่ทัพว่า ถ้าปราบขบถเสร็จเรียบร้อยดีแล้วขอให้หาพระพุทธรูปงามๆ มาฝากสักองค์หนึ่ง ฝ่ายแม่ทัพเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ยุ่งยากนัก จึงรับปากจัดหามาให้

ครั้นเมื่อปราบขบถจอมทองจนราบคาบ แม่ทัพได้อัญเชิญหลวงพ่อเพชรจากจอมทอง โดยประดิษฐานบนแพลูกบวบล่องมาตามลำน้ำแม่ปิง ประดิษฐานไว้ ที่วัดนครชุม (เมืองพิจิตรเก่า) ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.พิจิตร

จนกระทั่งถึงปีพุทธศักราช 2442 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีพระราชประสงค์จะหาพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงาม เพื่อนำไปไว้ที่วัดเบญจมบพิตร จังหวัดพระนคร

เจ้าพระศรีสุริยศักดิ์ สมุหเทศาภิบาล มณฑลพิษณุโลก ได้สั่งให้พระยาเทพาธิบดี (อิ่ม) เจ้าเมืองพิจิตร แสวงหาพระพุทธรูปที่สวยงามตามพระราชประสงค์ เมื่อได้รับคำสั่ง พระยาเทพาธิบดีจึงออกตรวจดูพระพุทธรูปทั่วไปในเมืองพิจิตร พบว่าองค์หลวงพ่อเพชรเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงามตามพระราชประสงค์

พระยาเทพาธิบดี ได้กราบเรียนต่อสมุหเทศาภิบาล ว่า การนำหลวงพ่อเพชรมาครั้งนี้ ทำให้ชาวเมืองพิจิตรมีความโศกเศร้าเป็นอันมาก เพราะเสียดายในองค์หลวงพ่อเพชรในฐานะที่เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่เดิม

เมื่อได้ทราบดังนั้น สมุหเทศาภิบาล จึงได้สั่งให้เจ้าเมืองพิจิตรนำกลับไปไว้ตามเดิม

อย่างไรก็ตาม การอัญเชิญหลวงพ่อเพชรกลับมายังเมืองพิจิตรคราวนี้ ไม่ได้นำไปไว้ที่วัดนครชุมเหมือนเดิม แต่นำมาประดิษฐานที่วัดท่าหลวง จนเกิดข้อพิพาท ด้วยราษฎรทางเมืองใหม่เห็นว่า เมืองพิจิตรได้ย้ายมาตั้งใหม่แล้ว หลวงพ่อเพชรควรจะอยู่เป็นมิ่งขวัญของชาวเมืองใหม่ จึงไม่ยินยอมให้ชาวเมืองเก่านำกลับไปวัดนครชุม

เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เกิดการยื้อแย่งและถึงขั้นการเตรียมอาวุธเข้าประหัตประหารกัน

เดือดร้อนถึงพระธรรมทัสสีมุนีวงศ์ (เอี่ยม) เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรในขณะนั้น ได้ชี้แจงว่าจะหล่อหลวงพ่อเพชรจำลองเท่ากับขนาดองค์จริง เพื่อนำกลับไปให้ชาวเมืองเก่าแทนองค์หลวงพ่อเพชรองค์จริง ส่วนหลวงพ่อเพชรองค์จริงนั้น ขอให้ประดิษฐานไว้ที่วัดท่าหลวง ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาส และถ้าชาวเมืองเก่าจะมานมัสการก็ไม่ไกลเกินไปนัก

องค์หลวงพ่อเพชรจึงประดิษฐานอยู่ที่วัดท่าหลวงตราบเท่าทุกวันนี้

อีกเหตุการณ์หนึ่งที่องค์หลวงพ่อเพชรได้ประดิษฐานที่วัดท่าหลวง เล่าสืบต่อกันมาว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์จะอัญเชิญพระพุทธชินราชจากวัดศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมพิตร

พระองค์มีพระราชกระแสรับสั่งให้สืบหาพระพุทธรูปที่มีลักษณะที่งดงาม นำไปแทนพระพุทธชินราชได้ จึงมีคำสั่งให้เจ้าเมืองพิจิตรนำองค์หลวงพ่อเพชรไปยังเมืองพิษณุโลก

ข่าวการนำองค์หลวงพ่อเพชร ล่วงรู้ไปถึงประชาชน ต่างพากันหวงแหนองค์หลวงพ่อเพชรเป็นอันมาก จึงได้คบคิดกับนายอาง ซึ่งเป็นชาวญวนจัดการทะลวงหุ่นดินภายในองค์หลวงพ่อเพชรออก เพื่อให้น้ำหนักเบาสะดวกในการขนย้ายองค์หลวงพ่อเพชรไปซ่อนไว้ในป่า

แต่ข่าวการนำองค์หลวงพ่อเพชรไปซ่อน หาได้พ้นการติดตามของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ผลที่สุด ได้ใช้อำนาจบังคับให้นำองค์หลวงพ่อเพชรจากเมืองเก่า และได้นำมาพักไว้ชั่วคราวที่วัดท่าหลวง เพื่อรอการนำไปยังเมืองพิษณุโลก

ชาวเมืองพิษณุโลกก็เช่นเดียวกันกับชาวเมืองพิจิตร เมื่อทางราชการจะนำพระพุทธชินราชไปจากพวกเขา ต่างพากันร้องไห้ดังระงมไปทั่วเมือง เป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก

เจ้าคุณสมุหเทศาภิบาล จึงได้นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเห็นใจชาวเมืองพิษณุโลก จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ระงับการนำพระพุทธชินราชไปกรุงเทพฯ โดยจะหล่อพระพุทธชินราชจำลองประดิษฐานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรแทน

เมื่อพระพุทธชินราชไม่ได้เคลื่อนย้ายไปกรุงเทพฯ องค์หลวงพ่อเพชรจึงตั้งประดิษฐานอยู่ที่วัดท่าหลวง กระทั่งปัจจุบันนี้


ที่มา-ข่าวสด

5649
น่าจะแท้นะครับท่าน  :-*

5651
ครับท่าน น่าจะดีครับ รอสายตรงมาฟันธงให้อีกทีดีกว่าครับ   :-*

5652
งามมากๆครับท่าน :-*

5653
หลวงพ่อจืด สำนักปฏิบัติธรรมโพธิ์เศรษฐี ศิษย์หลวงพ่อน้อยวัดธรรมศาลาและทายาทวิชาของ หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง
หลวงพ่อสืบ วัดสิงค์ ศษย์หลวงพ่อม้วน วัดไทร
พระอาจารย์เอนก วัดปรีดาราม ศิษย์หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม
พระครูสังฆรักษ์อวยพร วัดดอนยายหอม หลานแท้ๆของหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม และศิษย์หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
ฯลฯ

5654
ครับ แล้วแต่ครับ อย่างที่ท่าน m007 ว่าไว้แหละครับท่าน แต่ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป อ.นอง วัดทรายขาว ท่านห้ามแกะออกมานะครับ  :-*

5655
ยอดเยี่ยมครับท่านโจรฯ อย่าลืมเอาของฝากมาฝากกันบ้างเน้อ ;D ;D

5656
1.(ผง)น่าจะดินนะครับ มีของปลอมแน่นอนครับ ส่วนเสมาอัลปาก้า ก็น่าจะมีปลอมเช่นเดียวกันครับ
2.ที่พุทธมณฑลมีออกมาเรื่อยๆครับ (แต่เป็นพิมพ์อื่น) ถ้าเป็นพิมพ์เดียวกับ 25 ศตวรรษ เคยเห็นออกในคราวที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาไว้ที่พุทธมณฑล แต่ก็แตกต่างกันไม่น้อยครับ
3.การจะดูพระแท้นั้น พระแท้ทุกองค์ต้องมีรายละเอียดที่เหมือนกัน โดยเฉพาะเหรียญ ที่สร้างโดยการปั๊ม บล็อคที่ใช้ในการปั๊ม จะมีลักษณะเฉพาะตัว ให้รายละเอียดเหมือนกันในทุกๆมิติ กล่าวง่ายๆคือ ถ้าจะทำพระปลอม ก็ต้องปลอมตั้งแต่บล็อคที่ใช้ปั๊มแหละครับ ซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกอาจจะเหมือนกัน แต่รายละเอียดปลีกย่อย ย่อมไม่เหมือนกันอย่างแน่นอนครับ เช่น ความคมชัด,การตัดขอบวรรณะของโลหะฯลฯ ส่วนมากพระปลอมจะใช้วิธีการถอดพิมพ์จากพระแท้ แน่นอนว่าถอดพิมพ์มาอีกที รายละเอียดก็ไม่คมชัดเหมือนของแท้หรอกครับ
4.ปลอมพระเพื่อหลอกลวงคน มันก็น่าจะเป้นบาปอยู่แล้วแหละครับ แต่จะหนักขนาดไหนมิอาจทราบได้
5.อันนี้ก็ไม่อาจทราบได้เหมือนครับ (เพราะผมไม่ได้เห็นพระ) ครับ

5657
ครับ เพื่อความแน่นอน แผยแพร่ความรู้ให้พี่น้องชาวบางพระ ผมได้ไปก๊อปข้อสังเกตมาให้ชมกันครับ
















หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

5658
ตาไม่ถึงครับ  ;D ;D ขอผ่านงานนี้ :D ;)

5660
ทรรศนะของผมนะครับ ผมชอบตระกรุดจารมือมากกว่า ขนาดของตะกรุดไม่สำคัญเพราะดีเหมือนกันครับ  :-*

5661
วันที่ 5 เมษายน 2551 ไม่ใช่วันเสาร์ ๕ ตามโบราณจารย์นะครับ
วันเสาร์ ๕ จะต้อง ขึ้น ๕ ค่ำ หรือ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๕ เท่านั้น
ส่วน 5 เมษายน เป็นวันเชงเม้ง :004:
แก้ให้นิดนึงครับ ปีนี้ วันเช็งเม้งตรงกับ วันที่ 4 เมษายน 2551 ครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบ :-*

5662
ขุนแผนไข่ฝาซีก วัดพระรูป แน่นอน หาวัดทำเรียนแบบไม่ค่อยมี ส่วนของวัดป่าเลไลย์ หลวงพ่อถิรย์ ด้านหลังจะมีโค๊ด รูปชฎา หรือ ฉัตร
ส่วนองค์นี้จะเป็นของหลวงพ่อดี วัดพระรูปสร้าง หรือเปล่าไม่ทราบ
แต่ถ้าเป็น พระกรุวัดพระรูป ในกรณีไม่แม่นพิมพ์ ให้ทดลอง เอาพระใส่ลงในน้ำ ในแก้วก็ได้ สังเกตุฟองอากาศ ว่าฟองอากาศขึ้นมามาก
และนานหรือเปล่า เพราะพระกรุเนื้อดินจะแห้ง ความชื้นแทบจะไม่มีอยู่เลย ถ้าเป็นไปตามที่ทดลองโอกาสแท้มี 50% เสร็จแล้วเอาออกมาพึ่งลม
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ไข่ผ่าซีก วัดพระรูป :-*

5663
อีกหนึ่งช่องทางสำหรับ ข่าวสารของหลวงปู่ทิม วัดพระขาวhttp://www.oknation.net/blog/somboontiew/category/LP_tim[/color]

5664
คำถวายพระพรจาก หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา       
               

 

5665



       ใจจึงหน่ายจึงเหนื่อยจึงเมื้อยล้า        วุ่นผวาว่อนไหวถูกไล่ต้อน
 เกิดแล้วก่อล่อแล้วเร้นเย็นแล้วร้อน          ไม่พักผ่อนเพียงสักคราวเฝ้าแฟบฟู

มีนาคม ปีหน้า ก็ 8 รอบ 96 ปี  แล้ว  ความเมตตาของหลวงปู่ก็ไม่เคยเสื่อมคลายไปจากใจของลูกศิษย์ ถึงหลวงปู่จะเหนื่อยจะล้าสักเพียงใด ท่านก็ยินดีและเต็มใจ สงเคราะห์ลูกศิษย์ที่มาหาท่านทุกคน อย่างไม่มีแบ่งชนชั้นวรรณะ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง หลวงปู่ท่านก็ยินดีทำให้ทุกอย่าง  แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สงสารหลวงปู่ท่านบ้างนะครับ



5668
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ขอเชิญ
« เมื่อ: 02 เม.ย. 2551, 06:45:25 »
รับทราบครับท่าน :-*

5669
แล้วแต่ทางสะดวกครับท่าน :D ;D ;D

5670
ยินดีครับ ขอให้มีความสุขในธรรมนะครับ :-*

5671
แท้ครับท่าน เสาร์ 5 ปี 36 เนื้อทองระฆัง ข้างหลังมีโค้ดอยู่ครับ :-*

5672
1. อะ มะ อุ
2. อิสวาสุ มะอะอุ
3. เยธัมมาฯ (หนทางสู่นิพพาน)
4. ประสบการณ์มากมายครับ
5. ข้อห้าม ห้ามแขวนเกิน 9 องค์ (เพราะจะทำให้กระดูกคอเสื่อม ;D ;D ล้อเล่นครับ อย่าคิดมาก) รักษาศีล คิดดี ทำดี พูดดี เท่านี้ ได้ดีแน่นอน 8)

5674
อยากทราบค่ะว่าที่วัดบางพระสักให้ผู้หญิงหรือเปล่าคะ
สัก จร้า? หญิงชายสักได้หมด ;D ;D

แล้วพี่ทัศน์ สักไหมคับ เอิ้กๆๆๆ
สักค๊าบบบ :D ;D

5675
ขอบคุณครับท่านหอมเชียง ของผมน่าจะนวะ ขอบคุณมากๆครับท่าน

5676
หามาได้ยังไงครับท่าน สุดยอดมากๆครับ    :074:

5678
สอบถามท่านหอมเชียงหน่อยครับ ว่า รูปหล่อหลวงพ่อเปิ่น ที่แจกในงานฉลองอาคารเรียน โรงเรียนเม่งฮั้วกงฮัก 20 มีนาคม 2541 ใช่สร้างพิธีเดียวกันกับพระกริ่งหน้าไทย รุ่นแรก ของหลวงพ่อเปิ่น หรือเปล่าครับ  :054:

5679


ไปทุกที่คับผม 555+?

แต่ยังไม่ได้เจอคุง สิบทัศ เลย ว่าจะขอพระหน่อย


5555+
ครับ ขออะไรอ่ะครับท่าน ;D ;D

5680
อยากทราบค่ะว่าที่วัดบางพระสักให้ผู้หญิงหรือเปล่าคะ
สัก จร้า  หญิงชายสักได้หมด ;D ;D

5682
ครับ อ่านทีไรก็ได้ใจทุกทีครับ  :)

5685
ธรรมะ / ตอบ: " สาระจากพระสูตร "
« เมื่อ: 01 เม.ย. 2551, 07:36:50 »
สาธุ :054:

5686
ไม่ได้ต่อต้านนะครับ แต่สำนักโพธิเศษรฐี ของฟรีไม่มีครับ ทุกอย่างย่อมเป็นปัจจัย
แก้หน่อยครับ มีครับมี ผมยืนยันได้ครับ :-*

5687
งามมากๆเลยครับ คงได้แต่ชม ;D ;D ;D

5688
ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด  31 มีนาคม พ.ศ. 2551

ต้องมีพิธี ล้างอาคม ศพจึงไหม้ คนตะลึง





ศพไม่ไหม้- ศิษย์แห่ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพครูบาผัด วัดศรีดอนมูล จ.เชียงใหม่ พบมหัศจรรย์ศพไม่ไหม้ชาวบ้านเชื่อเพราะอิทธิฤทธิ์ตะกรุดกาสะท้อน ครูบาน้อยศิษย์เอกต้องทำพิธีล้างอาคม ศพจึงไหม้จนหมด

 
ศิษยานุศิษย์กว่าครึ่งแสนร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ"ครูบาผัด" เกจิอาจารย์ล้านนา ต้นตำรับตะกรุดกาสะท้อน ฮือฮารอบๆวัดฝนตกหนักแต่บริเวณพิธีลมพัดเย็นสบายไม่มีฝนแม้แต่เม็ดเดียว ขณะที่ช่วงเผาศพทั้งปราสาทและโลงต่างไหม้ไฟหมด ทว่าสังขารครูบาผัดกลับไม่ไหม้ไฟ "ครูบาน้อย"ศิษย์เอกต้องนั่งอธิษฐานจิตล้างอาคมพระอาจารย์ จากนั้นไฟจึงเผาสรีระครูบาผัดจนหมดเป็นที่อัศจรรย์แก่ลูกศิษย์จนต้องก้มกราบ พร้อมกับเปล่ง"สาธุ"ดังกระหึ่ม

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 30 มี.ค.ที่เมรุชั่วคราวบริเวณลานอเนกประสงค์เจดีย์ 9 คณาจารย์ วัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ มีพิธีพระราชทานเพลิงศพพระครูพิศิษฏ์สังฆการ หรือครูบาผัด ผุสฺสิตธมฺโม เกจิอาจารย์ชื่อดังล้านนา เจ้าตำรับตะกรุดกาสะท้อน โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ประธานฝ่ายฆราวาส เป็นผู้อัญเชิญผ้าไตรพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 5 ผืน และอัญเชิญไฟหลวงพระราชทานเข้าประกอบพิธี ฝ่ายสงฆ์มีพระเทพวิสุทธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีพระราชทานเพลิงศพครูบาผัดครั้งนี้มีประชาชนและศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศมาร่วมพิธีกว่าครึ่งแสนคน ทำให้บริเวณเมรุชั่วคราวพื้นที่กว่า 30 ไร่แคบลงไปถนัดตา โดยช่วงทำพิธีเพื่ออัญเชิญผ้าไตรพระราชทานและไฟหลวงพระราชทานนั้น เกิดลมพายุพัดตลอดเวลา ขณะเดียวกันรอบๆ วัดศรีดอนมูลเกิดพายุและฝนตกอย่างหนัก แต่บริเวณพิธีพระราชทานเพลิงศพครูบาผัดกลับไม่มีฝนมีแต่ลมพัดสร้างความเย็นสบายแก่ผู้มาร่วมพิธีเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ทุกคนต่างยกมือท่วมหัวสาธุ เพราะเชื่อว่าเป็นบุญญาบารมีของครูผาผัด

หลังเสร็จพิธีอัญเชิญผ้าไตรพระราชทานและไฟหลวงพระราชทานแล้ว พระสงฆ์ ประชาชนและศิษยานุศิษย์ร่วมกันวางดอกไม้จันทน์ จากนั้นพระราชทานเพลิงโดยใช้พลุและดอกไม้ไฟนานาชนิดตามประเพณีแบบโบราณเพื่อเผาทั้งปราสาทนกหัสดีลิงค์ โดยมีรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลชมภู คอยดูแลไม่ให้เพลิงลุกลามจำนวน 5 คัน

ทั้งนี้ขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้ปราสาทนกหัสดีลิงค์และลามไหม้โลงศพแก้วบรรจุสังขารครูบาผัดจนเป็นจุณไปในพริบตา ปรากฏว่าสรีระของครูบาผัดที่นอนสงบอยู่ในโลงแก้วกลับไม่ไหม้ไฟทั้งที่เปลวเพลิงลุกโหมรุนแรงตลอดเวลา ประชาชนและศิษยานุศิษย์ที่เฝ้าดูต่างฮือฮาและพากันก้มลงกราบพร้อมกับเปล่งคำว่า "สาธุ" ดังกระหึ่ม กระทั่งไฟได้ไหม้ปราสาทนกหัสดีลิงค์และโลง ศพจนหมดแล้วแต่กลับเหลือสรีระของครูบาผัดนอนทอดยาวบนกองเพลิงไม่ได้ไหม้ไฟไปด้วย

จากนั้นคณะกรรมการวัดและศิษยานุศิษย์จึงร้องขอให้พระครูสิริศีลสังวร หรือครูบาน้อย เตชปัญโญ ศิษย์เอกครูบาผัด นั่งอธิษฐานจิตเพื่อล้างอาคมในตัวครูบาผัดให้หมดสิ้นไปเพื่อไฟพระราชทานจะได้ไหม้ส่งดวงวิญญาณไปสู่สัมปรายภพ เมื่อครูบาน้อยนั่งจิตอธิษฐานเพลิงก็ค่อยๆไหม้สรีระครูบาผัดไปเรื่อยๆ จนหมดเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่ผู้อยู่ร่วมงานหลายหมื่นคน

นายภัทร กองคำ คณะกรรมการวัดศรีดอนมูล เปิดเผยว่า สาเหตุที่สรีระของครูบาผัดไม่ไหม้ไฟนั้น น่าเชื่อว่าเป็นเพราะวิชาอาคมในตัวของครูบาผัดยังล้างออกไปไม่หมด ตอนที่ครูบาผัดมรณภาพทางครูบาน้อย ศิษย์เอกก็ได้นำน้ำสมป่อยล้างวิชาอาคมออกจากตัวครูบาผัดแล้วครั้งหนึ่ง คาดว่ายังคงมีวิชาอาคมบางส่วนยังล้างไม่ออก โดยเฉพาะวิชาตะกรุดกาสะท้อนที่แรงกล้าติดตัวท่าน


5689
งามครับงาม ด้านหลังมีจารด้วยหรือเปล่าครับท่านหอมเชียง :)

5690
มีกิจกรรมแฟนพันธุ์แท้หลวงปู่ทิม (มีรางวัลแจกด้วย) ติดตามกันได้เร็วๆนี้ครับ
http://www.luangputim.com/webboard/viewtopic.php?t=511  :-*

5691
ครับผม มึนนิดหน่อยแต่จะพยายามปรับตัวนะครับ :-*

5692
สุดยอดจริงๆครับ คณาจารย์ระดับแนวหน้าของเมืองนครปฐมอีกรูปนึง นับถือๆ :)

5693
สุดยอดเหรียญพระเกจิคณาจารย์แห่งประเทศไทย เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ สุดยอดจริงๆ :)

5694
อะนิทัสสะนะอัปปะติ
อะนิทัสสะนะอัปปะติคา
อะนิทัสสะนะอัปปะติคาตายะ
 :)

5696
นับถือมากๆครับ ประสบการณ์มากมาย เยี่ยมมากครับ  :-*

5698
ไม่ต้องปลุกหรอกครับ คิดดี ทำดี พูดดี แค่นี้ของก็ไม่เสื่อมครับ :-*

5699
"หลวงปู่ทิม" วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุทธยา
เป็นผู้ทรงศีลที่ถูกขนานนามว่า "พระมากเมตตา"
วัตถุมงคลที่นิยมสร้างออกมา จึงเป็นด้านเมตตามหานิยม
และค้าขาย สร้างออกมาครั้งใดกระแสแรงทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น
พระขุนแผน หรือเครื่องรางปลาตะเพียนเงินปลาตะเพียนทอง
"ปลาตะเพียน ช่างเวียนช่างแวะ ขายดิบขายดี มั่งมีเยอะแยะ"

5700
ไม่ทราบครับ แต่น่าจะเป็นฤาษีนะครับ  :)

5702
เยี่ยมไปเลยครับ
 :)



  :-*

5703
หลวงพ่อทันใจ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก


"ตะกุตะกะ จายาริโย เอวัง วันตา อะหัง วันทามิ สัพพะทา" บทสวดนมัสการ "หลวงพ่อทันใจ" วัดพระบรมธาตุบ้านตาก อ.บ้านตาก จ.ตาก ที่สาธุชนผู้เลื่อมใสศรัทธา มีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อทันใจ ว่าขอสิ่งใด ล้วนแต่ได้สมดังใจปรารถนาทุกประการ

"วัดพระบรมธาตุบ้านตาก" อยู่ที่ ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง เดิมวัดแห่งนี้เป็นเมืองตากเก่า ก่อนที่จะมีการย้ายตัวเมืองไปอยู่ที่ ต.ระแหง ตัวเมืองตากในปัจจุบัน ห่างไปทางทิศใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร อันมีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ล่องเรือเสด็จไปเมืองลำพูน หยุดพักบริเวณแห่งนี้ พบว่าเป็นเมืองร้าง จึงได้สั่งให้มีการฟื้นฟูบูรณะเมืองแห่งนี้ จนกลายเป็นชุมชนเมืองตาก

วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ยังปรากฏในศิลาจารึของพ่อขุนรามคำแหง ที่ทรงกระทำยุทธหัตถี ชนะศึกเจ้าเมืองฉอด บนเนินเขาใกล้กับพระบรมธาตุ ประมาณ 500 เมตร

ตามตำนานพระเจ้าเลียบโลก ซึ่งเขียนเป็นภาษาเหนือ กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จโปรดสัตว์ล่องมาตามลำน้ำปิง พระองค์ได้เสด็จมายังดอยมะหิยังกะ ในเขตตัวเมืองตาก ตรัสกับพระอานนท์ว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่สำราญ ร่มรื่น หากเราตถาคตปรินิพพานแล้วให้นำอัฐิและเกศากลับมายังดอยมะหิยังกะ

ภายหลังจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพาน พระอรหันต์ทั้ง 4 ได้นำพระบรมสาริกธาตุของพระองค์ พร้อมด้วยเกศาอีก 4 องค์ มาประดิษฐานยังดอยมะหิยังกะ แล้วก่อเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมแล้ว นำพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ในพระเจดีย์ เพื่อเป็นที่สักการบูชาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย

ต่อมา พระครูพิทักษ์พระบรมธาตุ (ทองอยู่) ได้ไปนมัสการพระธาตุชเวดากอง ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ท่านจึงได้จำมาก่อสร้างองค์พระเจดีย์เหมือนเจดีย์ชเวดากองล้อมคลุมองค์เก่าไว้ ปิดทองสวยงาม

พระครูพิทักษ์บรมธาตุ (พาน) เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุบ้านตาก กล่าวถึงประวัติของหลวงพ่อทันใจ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ว่า ตั้งแต่สมัยที่ท่านเป็นพระลูกวัด พระครูบาตา อดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อน ได้ปรึกษากับศรัทธาญาติโยมว่า มีความประสงค์จะสร้างพระพุทธรูปขึ้นสัก 1 องค์ และศรัทธาญาติโยมได้พร้อมใจร่วมกันนุ่งขาว ห่มขาว เริ่มก่อพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน ปางมารวิชัย หน้าตัก 32 นิ้ว และลงรักปิดทองคำเปลว ก่อนประกอบพิธีพุทธาภิเษก 1 วัน กับ 1 คืน เสร็จพอดี

โดยคณะศรัทธาได้ตั้งชื่อว่า "พระเจ้าทันใจ" เพราะทำเสร็จเร็วทันใจ ต่อมามีญาติโยมได้มาตั้งจิตอธิษฐาน ขออะไรก็ได้สมความปรารถนา ทุกสิ่งทุกประการ นับเวลาจนปัจจุบันประมาณ 200 กว่าปีมาแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2519 นายทิพย์ หิงคานนท์ อดีตข้าราชการครู หลังเกษียณอายุราชการ ได้ล้มป่วยลงอาการหนักมาโดยตลอด จึงได้มาสักการะพระบรมธาตุ และอธิษฐานต่อองค์หลวงพ่อทันใจ ขอให้หายป่วย มีสุขภาพดีแข็งแรง จะกลับมาทอดกฐินที่วัดแห่งนี้ 15 ปี

ปรากฏว่า เป็นจริงดั่งคำอธิษฐาน อาการเจ็บป่วยของนายทิพย์ทุเลาลงตามลำดับ และในปี พ.ศ.2520 จึงมาทอดกฐินพร้อมคณะญาติชาวจังหวัดชลบุรี ต่อเนื่องจนครบ 15 ปี และต่อมาอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งนายทิพย์ได้ถึงแก่กรรมในวัย 89 ปี แต่ความศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทันใจยังคงแพร่ขยายไปทั่วสารทิศ เช่น นักฟุตบอลทีมชาติไทย เคยยกทีมมาไหว้แก้บนเมื่อหลายปีก่อน, บรรดานักการเมืองระดับชาติ, นักธุรกิจใหญ่ ต่างเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทันใจ เดินทางมาแก้บนตามที่ได้อธิษฐานไว้

หลวงพ่อทันใจ ไม่เพียงแต่ดลบันดาล ในเรื่องหน้าที่การงาน ธุรกิจ การค้าขาย สำเร็จไปด้วยดีเท่านั้น ยังรวมไปในเรื่องของความรัก คู่ครอง และขอ บุตร-ธิดา

โดยเครื่องบูชาหลวงพ่อทันใจ จะเป็นกล้วย ส้ม ผลไม้ตามฤดูกาล ส่วนของไหว้ประเภทเนื้อสัตว์ทุกชนิด ห้ามนำเข้ามาถวายและห้ามนำเข้าเขตพัทธสีมาอย่างเด็ดขาด ยกเว้น ไข่ต้มสุกอย่างเดียว

ส่วนการเสี่ยงทายความสำเร็จ มีช้างเสี่ยงทาย ใช้นิ้วก้อยยกสำหรับผู้ชาย และนิ้วนางสำหรับผู้หญิง ทำนายดวงชะตา หากสำเร็จครั้งแรกขอให้ยกขึ้นทันที และอธิษฐานยกใหม่อีกครั้ง ขอให้ยกไม่ขึ้น หากคำทำนายดีสำเร็จดังหมาย ซึ่งก็สมปรารถนาดังใจทุกประการ

ที่มา-ข่าวสด

5704
ครับ หลวงพ่อเหว่า ก็เป็นศิษย์ของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม รับประกันความขลังได้ครับ :-*

5707
หลวงพ่อแสนทอง วัดมณีบรรพต อ.เมือง จ.ตาก




 
"หลวงพ่อแสนทอง" พระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเมืองตาก เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยเชียงแสน สิงห์สาม ประดิษฐานที่อุโบสถวัดมณีบรรพตวรวิหาร หรือวัดเขาแก้ว ต.หนองหลวง อ.เมือง จ.ตาก

พระครูเมธีวรคุณ (พระมหาฉลวย กาญจโน) เจ้าอาวาสวัดมณีบรรพตวรวิหาร เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 78 ปีก่อน สมัยที่พระครูรัตนวาสพิพัฒน์ (หลวงพ่อห้อน อินทสโร) ขณะเจริญกรรมฐานภายในวัด ได้มีนิมิตถึงองค์พระพุทธรูปตั้งอยู่ในวิหารร้างเมืองโบราณแห่งหนึ่งชื่อว่า "เมืองตื่น" อยู่ในป่าทางเหนือของเขื่อนภูมิพลในปัจจุบัน มีพญาเสือ 2 ตัว คอยปกป้องดูแลพระพุทธรูปดังกล่าวอยู่ไม่ไกล

จากนั้นพระพุทธรูปได้เปล่งแสงลอยข้ามฟ้าจากป่าเมืองร้างมาลอยวนเหนือตัวเมืองตาก และมาหยุดสถิตอยู่เหนือเขาแก้ว ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดมณีบรรพตวรวิหาร เป็นเช่นนิมิตหมายว่าจะเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองตากสืบไป

หลวงพ่อห้อน พระเกจิดังเมืองตาก จึงสืบหาเมืองร้างดังกล่าวว่ามีอยู่จริง รวบรวมสานุศิษย์ประมาณ 15 คน เดินทางด้วยเท้า เข้าป่าเหนือลำแม่น้ำปิงและต้องถ่อแพไปตามลำห้วยแม่ตื่น ลำน้ำสาขาของแม่น้ำปิง เข้าป่าลึก หานานกว่า 20 วัน จึงค้นพบเมืองตื่น เมืองโบราณที่ถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีวิหารร้างสภาพปรักหักพัง

ภายในมีพระพุทธรูปทองสำริด ลักษณะดังเช่นที่หลวงพ่อนิมิตถึง

จากนั้นคณะจึงได้อัญเชิญ และล่องแพมาตามลำน้ำแม่ตื่น เกิดแพแตก ทำให้องค์พระพุทธรูปจมน้ำและต้องดำน้ำงมขึ้นมาใหม่ถึง 3 ครั้ง ใช้เวลาเดินทางล่องมาตามลำน้ำแม่ปิง ถึง 7 วัน 7 คืน ผ่านอุปสรรคนานานัปการ

กระทั่งมาถึงท่าโพธิ์ ชุมชนตัวเมืองตาก (ปัจจุบันท่าโพธิ์ได้ถูกถมสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร เพื่อขยายตัวเมือง สภาพเป็นถนนร้านค้า ช่วงบริเวณหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาตาก) ซึ่งเป็นเวลารุ่งเช้า แสงอาทิตย์จับต้องที่องค์พระสะท้อนแสงสีทองงดงาม

คณะอัญเชิญและชาวเมืองตากที่รอรับ ได้พร้อมใจตั้งชื่อพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่อัญเชิญมาจากเมืองตื่น เมืองโบราณ ว่า "หลวงพ่อแสงทอง" ต่อมา เรียกเพี้ยนเป็น "หลวงพ่อแสนทอง"

พระครูเมธีวรคุณ เล่าอีกว่า ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อแสนทองนั้น สมัยก่อนมีขโมยลักลอบเข้ามาจะตัดเศียรพระ ด้วยระบบป้องกันการโจรกรรมยังไม่ดี และพระอุโบสถยังมิได้มีการล็อกกุญแจประตูแต่อย่างใด

พวกหัวขโมยได้เข้าไปภายในโบสถ์ เตรียมลักพระพุทธรูปหลวงพ่อแสนทอง แต่ปรากฏว่าเกิดปาฏิหาริย์ มองไม่เห็นหลวงพ่อแสนทอง ได้แต่พระพุทธรูปใหม่ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน เป็นเช่นนี้หลายครั้ง จนกลายเป็นเรื่องเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีการติดตั้งสัญญาณกันขโมยอย่างดี รวมทั้งมีพระเณรเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง

และเมื่อกว่า 20 ปี เกิดเหตุไฟไหม้บ่อยครั้งในเขตตัวเมืองตาก คนเฒ่าคนแก่ที่มาปฏิบัติธรรมได้นิมิตถึงหลวงพ่อแสนทอง ว่าจะต้องนำองค์ท่านแห่รอบเมืองเพื่อให้ชาวตากสรงน้ำ เพื่อสักการะและปัดเป่าเภทภัย ดังนั้น ทุกวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี จะมีการอัญเชิญหลวงพ่อแสนทองออกไปแห่รอบเมือง ให้ประชาชนสรงน้ำเพื่อเป็นสิริมงคลสืบมา

สำหรับวัดมณีบรรพตวรวิหาร เดิมเรียกว่า วัดเขาแก้ว ตามลักษณะภูมิประเทศที่ตั้งวัดที่เป็นภูเขา และมีหินลักษณะแก้วสีขาว หรือหินเขี้ยวหนุมานเป็นจำนวนมาก

สันนิษฐานว่า วัดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ดังมีความปรากฏตามพระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ว่า ในปี พ.ศ.2317 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้เสด็จไปนมัสการพระพุทธรูปที่วัดดอยเขาแก้วและได้ตรัสกับภิกษุที่วัดว่า พระองค์ได้เคยกระทำสัตยาธิษฐานเสี่ยงพระบารมีที่วัดแห่งนี้

มีความเข้าใจตรงกันว่าวัดเขาแก้วคงเป็นวัดร้างในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนเมื่อปี พ.ศ.2395 หลวงพ่อเณร หรือชาวบ้านเรียกว่า ขรัวเณร หรือขรัวตาเณร เป็นผู้ริเริ่มปฏิสังขรณ์วัดและปกครองเป็นรูปแรก โดยมีฆราวาสที่สร้างวัดและบูรณะตั้งแต่ต้น คือ ท่านเผือก เศรษฐีเจ้าของตลาดในจังหวัดสุโขทัย ได้ทำการก่อสร้างพระอุโบสถและศาลาการเปรียญขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2435

วัดมณีบรรพตวรวิหารได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2436 และได้รับสถาปนาให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2505


.....................
ที่มา-ข่าวสด

5708
โห สุดยอดเลยครับท่านหอมเชียง  :o

5710
เก็บมาฝากครับ ขุนแผนพลายเดี่ยว หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
ดูภาพพุทธาภิเษกได้ที่http://www.luangputim.com/kunpan2551.html
 :-*

5711
แล้ววัดพระงาม อยู่แถวไหนหละครับ
อยู่แถวๆวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ครับ ลองไปถามคนแถวๆนั้นดูก็ได้ครับท่าน :-*

5712
แล้วหลวงพ่อเผือก วัดละมุด หล่ะครับ ท่านหอมเชียง พอจะทราบประวัติหรือเปล่าครับ :-*

5713
www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?=&p=38532
ตามนี้เลยครับท่าน  :-*

5714
ท่านหอมเชียงครับ วัดละมุดที่อยู่แถวๆวัดบางพระใช่ไหมครับท่าน :)

5715
ทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ควรมีความละอายใจกันบ้าง  :(

5716
เยียมไปเลยครับ ขอบคุณครับ ;D ;D

5717
เบี้ยหลวงพ่อเผือดสุดๆจริงๆครับ เข้าทางผมเลย วันนี้ไปอ่านเจอเบี้ย หลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ ในข่าวสด เลยนำมาเผยแพร่ให้ได้รับทราบกันครับ
 คอลัม ชมรมพระเครื่อง โดย แทน ท่าพระจันทร์

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้เรามาเริ่มต้นเรื่องเบี้ยแก้สายอ่างทองกันที่ หลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ ตำบลโพธิ์ม่วงพันธ์ อำเภอสาม โก้ จังหวัดอ่างทอง ในบรรดาเบี้ยแก้สายอ่างทองนั้น เบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ นับว่าหายากและมีสนนราคาสูงที่สุดของสายนี้ครับ เรามาคุยกันดูถึงประวัติของหลวงพ่อพักและเบี้ยแก้ของท่านกันนะครับ

หลวงพ่อพัก จันทสุวัณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.2425 ที่บ้านท่ามะขาม ตำบลดอนปรู อำเภอวิเศษชัยชาญ (ปัจจุบันขึ้นกับอำเภอศรีประจันต์ สุพรรณบุรี) โยมบิดาชื่อถมยา โยมมารดาชื่อพุก ในตอนเด็กๆ บิดาของท่านได้นำท่านไปฝากเรียนหนังสือกับหลวงปู่เถื่อน วัดหลวง ตำบลยี่ล้น อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง จนอ่านออกเขียนได้ ต่อมาเมื่อหลวงพ่อพักอายุครบ 20 ปี ในปี พ.ศ.2445 ท่านจึงอุปสมบทที่วัดอ้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ โดยมีหลวงปู่เถื่อนเป็นพระอุปัชฌาย์

เมื่อท่านอุปสมบทแล้วท่านได้ติดตามท่านเจ้าคุณรัตนมุณี ซึ่งเป็นพระพี่ชายของท่านมาอยู่ที่วัดหงษ์ กทม. เพื่อศึกษาคันถธุระ และวิปัสสนากรรมฐาน อยุ่ที่สำนักพระอาจารย์อูฐ ศึกษาอยู่ 9 พรรษา หลวงพ่อพักท่านก็เชี่ยวชาญทั้งคันถธุระโดยเฉพาะทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน ต่อมาในปี พ.ศ. 2454 หลวงปู่เนตร เจ้าอาวาส วัดโบสถ์ได้มรณภาพลง ญาติโยมและชาวบ้านแถบบ้านอบทม และบ้านโคกจันทร์จึงได้มานิมนต์หลวงพ่อพักขอให้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ และในปี พ.ศ. 2455 หลวงพ่อพักก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส วัดโบสถ์

หลวงพ่อพักท่านมีอาจารย์อยู่หลายท่าน ได้แก่ อาจารย์วาต ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายของท่าน อยู่ที่บ้านท่ามะขาม อำเภอดอนปรู อดีตเคยเป็นขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่แถวชานเมืองอ่างทอง และสุพรรณบุรี และเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมสูง ล่องหนหายตัวได้ ต่อมาได้เลิกราในอาชีพทุจริตโดยสิ้นเชิง แล้วหันเข้าสู่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ต่อมาจึงถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้แก่หลวงพ่อพักจนหมดสิ้น โดยเฉพาะวิชาเบี้ยแก้ ตะกรุดโทน ผ้ายันต์แดง ฯลฯ อาจารย์ของหลวงพ่อพักอีกองค์หนึ่งคือหลวงปู่บุญ ผู้มีวิชาอาคมสูงจากแขวงเมืองพิจิตร ซึ่งได้ธุดงค์ล่องมาถึงแขวงเมืองวิเศษชัยชาญ จนได้มาพบกับหลวงพ่อพัก และได้ถ่ายทอดวิชาปลุกเสกเขี้ยวเสือแกะ งาช้างแกะ และวิทยาคมต่างๆ ให้แก่หลวงพ่อพัก

หลวงพ่อพักท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้ให้แก่ศิษย์หลายอย่างด้วยกัน ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย เช่น เหรียญรูปท่านที่มีทั้งเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง แต่เป็นเหรียญที่ค่อนข้างหายากและมีสนนราคาสูงครับ ส่วนเครื่องรางของขลังนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิงห์งาแกะ เมื่อนำติดตัวผ่านฝูงวัว ฝูงวัวเหล่านั้นถึงกับแตกตื่นวิ่งหนี และเด่นทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี ตะกรุดโทนนั้นก็มีคุณวิเศษ ถ้ารูดไปข้างหน้าจะเป็นมหาอุด รูดไปด้านซ้ายจะเป็นเมตตามหานิยม รูดไปด้านขวาเป็นมหาอำนาจ รูดไปด้านหลังศัตรูไม่สามารถตามทัน ตะโพนงาแกะของหลวงพ่อพัก ท่านสร้างไว้แจกพวกศิลปิน มีคุณวิเศษทางด้าน เมตตามหานิยม เมื่อนำติดตัวจะเป็นมหานิยมแก่ผู้พบเห็น

ส่วนเบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก เป็นสุดยอดแห่งเครื่องรางของขลัง ที่มีพุทธคุณครบทุกด้าน โดยเฉพาะด้านป้องกันคุณไสย ยาสั่ง แก้เหตุร้าย ให้กลายเป็นดี แคล้วคลาดปลอดภัยและคงกระพันชาตรี เบี้ยแก้ของหลวงพ่อพักท่านจะเรียกปรอทเข้าตัวเบี้ยแล้วอุดด้วยชันโรงใต้ดินแล้วปิดทับด้วยตะกรุดที่ม้วนแล้วทุบให้แบน แปะทับบนชันโรง จากนั้นจึงถักเชือกทับอีกทีหนึ่ง การถักเชือกนั้นจะถักเปิดด้านบนของตัวเบี้ยให้เห็นลายหอยเบี้ย ลายถักส่วนมากมักถักเป็นลายกระสอบ วนเป็นเส้นรูปไข่ตามตัวเบี้ย การถักห่วงจะถักเป็นด้านหลังสองห่วง หรือด้านบนหูเดียวก็มี บางตัวนั้นอาจจะมีที่ทำเป็นตะกรุดร้อยเชือกคาดเอวก็มี มีทั้งจุ่มรัก และไม่จุ่มรักก็มี

วันนี้ผมได้นำรูปเบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก วัด โบสถ์มาให้ชมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งเป็นของคุณไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ครับ ส่วนประวัติของหลวงพ่อพักนั้นมาจากหนังสือ พระสมเด็จวัดไชโย และพระเครื่องเมืองอ่างทองครับ

ด้วยความจริงใจ

แทน ท่าพระจันทร์
  :-*

5718
ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ว่าแต่ว่า คุณลุงอเมซิ่งให้ลูกใช้พระอะไรไปแข่งหรือครับ เผื่อว่างานมหาธีรราชเจ้าปีหน้าผมจะได้ใช้บ้าง (ปีหน้าศึกหนักต้องเอาแชมป์ประเทศไทยมาฝากพี่น้องบอร์ดบางพระให้ได้)  :090:

5719
อยากแจกครับ? อยากแจก


ใครสามารถนำภาพที่ กระผมวิ่งในประลำพิธี (ชัดเจนที่สุด)?
พร้อมลงไว้ให้ดูเป็นหลักฐาน หรือ ใครที่มีภาพงานไหว้ครู ปี 2551 เกิน 30 ภาพ
รับไปเลยครับ ตระกรุดหนุมาน ขุนกระบี่ วัดบางพระ? ( รับเฉพาะ 2 ท่านแรกเท่านั้นนะครับ)
ส่งชื่อและที่อยู่ของคุณ มาที่ oat-smile@hotmail.com:053: :053: :053:?




โอย ~โอ๊ย ~ อยากได้มากๆๆ เรามันชอบเครื่องรางแนวนี้ด้วยสิ เฮ้อเสียดายจังไม่ได้ไปงาน วู้ยยย :'( :'( :'(

ขอบคุณครับ
อยากได้ลองไปหาที่กุฏิใหญ่ก็ได้ครับท่าน ;D ;D

5720
1.ได้ครับได้
2.ไม่ผิดครับ
3.(ของที่ออกวันที่ 31/11/47) ด้านหน้า พระสิวลี,ตะเพียนคู่,สิงห์,โภคทรัพย์,หัวใจนวรหคุณ(17ยอด)  ด้านหลัง ตะเพียนคู่,มหาอุตม์,มงกุฏพระพุทธเจ้า,พระเจ้า5พระองค์,สุกิตติมา
4.ของหลวงปู่ทิม จะใช้อะไรด้านไหนก็ให้นึกถึงหลวงปู่เป็นสำคัญครับ   :-*

5721
ขอบคุณครับ ที่ตำหนักป้ายเขตมีเยอะแยะเลยครับ :-*

5722
รูปหลวงพ่อหล่อมากๆเลยครับ :-*

5723
ครับ อย่างที่เรียนไว้ตอนแรกอ่ะครับ หน้าเบลอหลังกริบ ดูขัดๆกัน พอดูด้านหลังชัดๆ พอจะสรุปได้ว่า ตัวหนังสือน่าจะสปาร์คมา จะว่าเป็นบล็อคธรรมดาก็ไม่ค่อยเข้าซักเท่าไหร่อ่ะครับ ทรรศนะส่วนตัวผมว่าไม่ดีครับ
ท่านอื่นว่าอย่างไรกันบ้างครับ :)

5724
ลงมาเยอะๆเลยครับท่าน ชอบชม รอชมอยู่นะครับ :-*

5725
ซัพพลายเกินความพอดีครับ อุปทานส่วนเกินมีมากเกินไปจนล้น แต่หาเก็บรุ่นพิธีดีดีไว้ก็ไม่เสียหลายครับ อย่างน้อยก็เป็นที่พึ่งทางจิตใจได้ สู้ๆกันต่อไปครับ ฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้ ฟ้าหลังฝนสดใสอยู่เสมอครับ :-*

5726
หลวงพ่อพร้อม อาจารย์อีกรูปของหลวงพ่อพูล ดีนักแล :)

5727
อันวัตถุมงคลมีมากมายหลากหลายคณานับ เสื่อมไม่เสื่อมอยู่ที่ตัว ถ้าของเสื่อม ก็อย่าปล่อยให้ใจเสื่อมตามกันหล่ะครับ  :-*

5728
ธรรมะ / ตอบ: พระไตรปิฎกย่อ
« เมื่อ: 26 มี.ค. 2551, 10:27:33 »
ขออนุโมทนา สาธุ... ครับ

แถมสูตรท่องจำ... จัม เภ กะ จี จัม โก
ขอบคุณครับ กระทัดรัดดี ;D ;D

5729
บทความ บทกวี / ตอบ: " ของใคร "
« เมื่อ: 26 มี.ค. 2551, 10:26:58 »
เอามาฝากกันเรื่อยๆครับ ติดตามอยู่ครับท่าน  :-*

5730
ยังสงสัยอยู่เลยครับว่า หลังคมกริบ แต่หน้าดูเบลอๆ(หรืออาจเป็นเพราะแสง ติดใจด้านหน้ามากเลยครับ)   ขอด้านหน้าอีกทีครับท่าน :-*

5731
วันนี้ไปหาหลวงพ่อจืดมาครับ เลยเก็บภาพวัตถุมงคล ไหว้ครู 2551 มาฝากครับ?



www.kanesorn.com
วันนี้หลวงพ่อท่านอารมณ์ดีครับ ผมเลยได้รับแจกเศียรพ่อแก่เนื้อผงรังต่อมา? 3 องค์?
สำหรับพี่น้องชาวบางพระ ผมก็ไม่ลืมนะครับที่จะหาของมาฝาก (คราวนี้น่าจะ ประมาณ 100 เหรียญเห็นจะได้)? ติดตามได้ครับ เร็วๆนี้

5732
ประมาณนั้นครับท่าน :D :D

5733
อย่างท่านโจรอ่ะครับ น่าจะเป็นลูกกด พิจารณาไม่เป็นด้วยครับ ดูยากส์ ข้อห้าม ห้ามแกะปลอกลูกปืนออก
คาถานารายณ์แปลงรูป-อะวิสุนุตสานุติ  :-*

5734
เยี่ยมเลยครับพี่น้อง สุดยอดจริงๆ :-*

5735
เข้าใจถ่ายดีนะครับ ช่างภาพฝีมือมั่กๆ ;D ;D

5736
เป็นผู้ตรวจการวัดไปซะแล้วท่านพี่ ดีครับดี จะได้แก้ปัญหาได้ถูกทาง :-*

5737
ตามตรงเลยนะครับท่านพี่
เหรียญนี้มีระบาดมานานแล้วครับ (เค้ายัดเป็นโก๋เล็กอีกพิมพ์) ซึ่งความจริงก็คือ ไม่มีอยู่ในสารบบครับ สรุปว่า ไม่ดีครับผม

                                                                    ด้วยความจริงใจ
                                                                        "สิบทัศน์"

5738
โชคดีนะครับท่านตี๋ใหญ่ :-*

5739
เหมือนๆกันแหละครับไม่แตกต่างกันครับ :-*

5740
อ่าครับ ?สุขก็สุขนะครับ น่าจะหมายถึงตะกรุดข้อมือ(เสือ) ของหลวงพ่อนะครับ :-*

5742
มีด้วยหรือนี่ คงหมั่นไส้กันมั๊งครับ อย่าไปคิดมาก (ถ้ามาถีบหลังเราค่อยมาคิดจะดีฝ่าครับ) ;D ;D ;D

5743
555ว่ากันไป ;D ;D ;D

5745
ครับปีนี้แรงมากๆเลยครับ (แดดแรงมั่กๆ) ;D

5747
เคยถามหลวงพ่อจืดว่าอิ้นใช้ยังไง ท่านตอบว่า เป็นของต่ำ อย่านำเข้าบ้านเด็ดขาด ท่านว่าอย่างรั้รอ่ะครับ ;)

5749
ดีครับดี ลงมาเรื่อยๆก็ดีครับ ;D ;D

5750
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ของขึ้น
« เมื่อ: 24 มี.ค. 2551, 07:34:53 »
จะขึ้นไปทำไมหล่ะครับท่าน :D

5751
งามๆกันทั้งนั้นเลยครับ  :)

5752

เดิมๆ จะซึ้งกว่านะครับ? ;D ชอบเดิมๆ? :-*
เดิมๆเงินต้องถึงนะจ๊ะ ;D ;D

5753
พระเจ้าตนหลวง วัดศรีโคมคำ ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา
 
"วัดศรีโคมคำ" ตั้งอยู่เลขที่ 692 ถ.พหล โยธิน ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา ริมกว๊านพะเยา

กว๊านพะเยา เป็นทะเลสาบน้ำจืดใหญ่เป็นที่ 1 ในภาคเหนือของประเทศไทย เป็นแหล่งน้ำที่มีธรรมชาติงดงาม อยู่ใจกลางเมืองพะเยา มีทิวเขาเป็นฉากบังข้างหลังสูงตระหง่านอย่างงดงามตา คำว่า "กว๊าน"ตามภาษาพื้นเมืองหมายถึง "บึง" มีเนื้อที่ 12,831 ไร่ มีความลึกเฉลี่ย 1.5 เมตร ลึกที่สุด 4 เมตร เป็นแหล่งประมงน้ำจืด และเพาะพันธุ์ปลาชนิดต่างๆ กว่า 50 ชนิด เช่นปลากราย ปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาจีน ปลานิลปลาไน ฯลฯ

ปัจจุบันศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด พะเยาสามารถเพาะพันธุ์ปลาบึกจากพ่อพันธุ์ในบ่อเลี้ยงเป็นผลสำเร็จ เป็นแห่งแรกของโลกในปี พ.ศ.2544 สามารถเพาะพันธุ์ลูกปลาบึกได้เป็นแสนตัว ส่วนหนึ่งได้ปล่อยลงสู่กว๊านพะเยา ทัศนียภาพโดยรอบ กว๊านพะเยาเหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ในยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกริมกว๊าน เป็นภาพที่สวยงามมาก ซึ่งเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็นและมาเยือนจนอาจกล่าวได้ว่าหัวใจของเมืองพะเยาอยู่ที่ กว๊านพะเยา

"วัดศรีโคมคำ"เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองพะเยา เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีและวัดพัฒนาตัวอย่าง ชาวเมืองพะเยาทั่วไปนิยมเรียกว่า "วัดพระเจ้าตนหลวง" ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน "พระเจ้าตนหลวง" สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2034-2067

พระเจ้าตนหลวง เป็นองค์พระประธานเก่าแก่ ศิลปะเชียงแสนที่ใหญ่ที่สุดในล้านนา ขนาดหน้าตักกว้าง 14 เมตร สูง 16 เมตร สร้างจากอิฐมอญผสมกับปูนขาว ชาวพะเยาถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง เดือนหกทุกปีจะมีงานนมัสการพระเจ้าตนหลวง

ตามตำนาน พระเจ้าตนหลวงสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.2034 โดยอยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเมืองแก้ว เจ้าผู้ครองเมืองเชียงใหม่ และพระยาเมืองตู้ เจ้าผู้ครองเมืองพะเยาในสมัยนั้น

เจ้าอาวาสรูปแรกที่ปรากฏในตำนาน คือ พระธรรมปาล ได้เขียนตำนานพระเจ้าตนหลวงออกเผยแพร่

มีสมุดข่อยบันทึกว่า วัดศรีโคมคำ เป็นวัดมาแต่โบราณกาล แต่ยุคหลัง บ้านเมืองตกอยู่ในสงคราม ต้องอพยพโยกย้ายไปอยู่ตามหัวเมืองที่ปลอดภัยจากข้าศึก ทำให้บ้านเมือง วัดวาอารามรกร้างว่างเปล่าไป ต่อมาภายหลังได้สถาปนาเมืองพะเยาขึ้น บ้านเมืองก็ดี วัดวาอารามก็ดี ก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ตามลำดับ

พ.ศ.2465 พระครูศรีวิราชวชิรปัญญา เจ้าคณะแขวงเมืองพะเยา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทางฝ่ายบ้านเมืองคือ พระยาประเทศอุดรทิศ เจ้าผู้ครองเมืองพะเยา ร่วมกันไปอาราธนาท่านครูบาศรีวิชัยจากจังหวัดลำพูน มาเป็นประธานสร้างพระวิหารหลวงและเสนาสนะต่างๆ สำเร็จบริบูรณ์ กระทั่งวันที่ 17 เมษายน 2523 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง

นอกจากนี้ ยังมีพระอุโบสถกลางน้ำ เป็นศิลปะแบบล้านนาประยุกต์ สร้างขึ้นโดยศรัทธาประชาชน มี "นิยม สิทธหาญ" มัณฑนากรจากมหาวิทยาลัยศิลปากร และ "จินดา สหสมร" สถาปนิกจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกันออกแบบ

และมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดย "อังคาร กัลยาณพงศ์" และ "ภาพตะวัน สุวรรณกูฏ"

ชะตาพระเจ้าตนหลวงตามตำนาน กล่าวได้ว่า "พระโมลีใหญ่ 20 กำมือ สูง 3 ศอก พระเศียรกลม 6 วา พระเกศามี 1,500 เส้น ขนาดใหญ่ 4 กำมือ ขนาดกลาง 3 กำมือ ขนาดเล็ก 2 กำมือ ขนาดจิ๋ว 1 กำมือ พระพักตร์หน้ายาว 2 วา กว้าง 2 วา พระขนง (คิ้ว) 3 ศอก ระหว่างพระขนงกว้าง 1 ศอก ยาว 3 ศอก กว้าง 1 คืบ ดั้งพระนาสิก 3 ศอก 1 คืบ ใหญ่ 6 กำมือ

พระโอษฐ์ (ปาก) ยาว 4 ศอก กว้าง 1 คืบ ใหญ่ 6 กำมือ พระกรรณ (หู) ยาว 6 ศอก กว้างศอกคืบ พระศอ ยาว 2 ศอก กลม 3 วา พระอังสา(บ่า) ยาว 3 คืบ กระดูกด้ามมีดยาว 4 วา ตั้งแต่พระอุระ(อก)ถึงพระชานุ(คาง) 2 วา ตั้งแต่พระถัน(นม)ถึงพระอังสา(ไหล่) 2 วา ตั้งแต่พระนาภี(สะดือ)ถึงพระอุระ(อก) 2 วา ระหว่างพระอุระ(อก)กว้าง 2 วา

พระพาหา (แขน) ยาว 4 วา กลม 29 กำมือ นิ้วพระหัตถ์ใหญ่ 9 กำมือ ยาว 1 วา พระกฏิ(สะเอว)กลม 7 วา ฝ่าพระบาท ยาว 2 วา กว้าง 3 ศอก ระหว่างพระชานุกว้าง 7 วา พระหทัยใหญ่ 6 กำมือ ตั้งแต่ที่ประทับนั่งถึงพระโมลี สูง 8 วา 2 ศอก"

พระเจ้าตนหลวง หรือ พระเจ้าองค์หลวง มิใช่เป็นแต่เพียงพระพุทธรูปคู่เมืองพะเยาเท่านั้น แต่ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอาณาจักรล้านนาไทยด้วย

ในช่วงเดือนหก ประมาณพฤษภาคม ตรงกับวันวิสาขบูชา จะมีงานนมัสการพระเจ้าตนหลวง หรือเทศกาล "แปดเป็ง" จะมีประชาชนในจังหวัดพะเยาและจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากการก่อสร้างพระเจ้าตนหลวง เมื่อครั้งสมัยที่ยุคทองทางพระพุทธศาสนาของล้านนา ประชาชนจึงเชื่อว่าพระเจ้าตนหลวง คือ ตัวแทนของพระพุทธเจ้า ใครที่ได้มากราบสักการะแล้ว จะทำให้เกิดความเป็นสิริมงคล อยู่ดีมีสุขตลอดไป

...........................................
ที่มาจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

5754
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 23 มีนาคม 2551 คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง  โดย อ.ราม วัชรประดิษฐ์



การจะตัดสินใจจะเช่าบูชาพระเครื่องเก่าแก่สักหนึ่งองค์ ยิ่งถ้ามูลค่าสูงๆ ด้วยแล้ว คงต้องมีการพิจารณากันอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลังว่าเป็นพระเก๊บ้าง พระซ่อมบ้าง โดยเฉพาะพระเครื่องที่มีอายุยาวนานมากๆ ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่องค์พระอาจเกิดการแตกหักหรือชำรุด ซึ่งจะทำให้มูลค่าลดลงไปตามส่วน "พันธุ์แท้พระเครื่อง" จึงขอนำ "แนวทางการพิจารณาพระซ่อม-พระตกแต่ง" มาให้เรียนรู้กันพอสังเขปจะได้ไม่โดนหลอกง่ายๆ ครับผม

การซ่อมพระในวงการพระเครื่อง พระบูชา เริ่มมีเป็นอาชีพมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2490 ต่อมาแพร่ขยายออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการพัฒนาถึงขั้นดูไม่ออกเลยว่า เป็นพระที่ผ่านการซ่อมมาแล้วก็มี ขนาดเอากล้องส่องยังไม่พบร่องรอยการซ่อมว่าอยู่ตรงไหน จะรู้กันเพียงเจ้าของพระกับช่างซ่อมเท่านั้น ยิ่งในกรณีที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ ยังไม่มีการชำระค่าเช่าบูชาแก่เจ้าของพระ ยิ่งเป็นการลำบากที่จะนำพระมาล้าง เพราะจะทำให้เกิดปัญหากับเจ้าของพระได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นพระสมเด็จของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่มีคุณค่าสูง มูลค่าสูง และหายากด้วยแล้ว
 


ข้อแนะนำประการแรกคือ ให้นำองค์พระไปที่ "แผนกรังสีวิทยา" ของโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง เพื่อให้ทำการ "เอกซเรย์" เพราะรอยหักรอยซ่อมจะปรากฏชัดขึ้นตามฟิล์ม อันเป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งว่าพระหักเป็นสองชิ้น ถึงแม้จะซ่อมยอดเยี่ยมเพียงใด ก็ไม่สามารถเชื่อมต่อให้เป็นเนื้อเดียวกันได้ ด้วยอายุขัยของเนื้อมวลสารและรอยประสานที่แตกต่างกัน และกลายเป็นหลักปฏิบัติมาถึงปัจจุบัน แต่ในบางกรณีที่องค์พระเกิดการกะเทาะ ช่างซ่อมจะตกแต่งให้สมบูรณ์ขึ้น อันนี้ ถ้าช่างฝีมือเยี่ยมจริงๆ จะดูได้ยากมาก ถ้านำพระไปเอกซเรย์ตามปกติคือวางพระในแนวราบธรรมดา เพราะฉะนั้นจะต้องวางองค์พระในแนวตะแคงทำมุม 15 องศา จึงจะสังเกตเห็นได้ อีกวิธีการหนึ่งในการตรวจสอบพระซ่อม โดยเฉพาะพระสมเด็จ คือ ให้นำ "เมทิลแอลกอฮอล์" ใส่สำลีแล้วเช็ด 2-3 ครั้ง ที่องค์พระ รอยซ่อมก็จะปรากฏ

พระสมเด็จของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) นั้น พระสมเด็จวัดระฆังฯ จะทำการซ่อมและตกแต่งยากกว่าพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม เพราะเป็นพระที่ไม่ได้ผ่านการบรรจุกรุ จึงไม่มีคราบกรุที่จะอำพรางรอยซ่อมได้ แต่สำหรับพระสมเด็จวัดบางขุนพรหมมักจะมีคราบกรุจับ ช่างเก่งๆ บางคนสามารถทำการ "ย้ายคราบกรุ" มาปิดตรงบริเวณที่ซ่อมเพื่อเป็นการอำพราง ไม่ว่าจะเป็นพระแท้ที่หักเป็น 2 ส่วน พระแท้หักครึ่ง 2 องค์ แม้กระทั่งพระแท้ครึ่งองค์กับพระเทียมครึ่งองค์ก็มี จนในวงการมักมีคำล้อกันว่า "ซื้อองค์เดียวได้สององค์" พระที่ถูกซ่อมในลักษณะเช่นนี้ ให้พิจารณา "ซุ้มครอบแก้ว" ว่าบรรจบเหลื่อมล้ำกันหรือไม่ ดูแผ่นหลัง รอยตัดข้าง สีผิวขององค์พระว่ามีความแปลกแตกต่างกันไหม ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์และความละเอียดรอบคอบอย่างสูง

จึงขอแนะนำวิธีง่ายๆ แต่ค่อนข้างพิสูจน์ได้ คือ นำองค์พระไปตรวจสอบกลางแดด เอียงองค์พระในลักษณะ 45 องศา ให้สะท้อนกับแสงแดด กระดกองค์พระไปมา ถ้าเป็นพระที่ไม่มีการซ่อมจะมีผิวด้านเสมอกัน แต่หากบริเวณใดมีการซ่อมจะปรากฏความมันสะท้อนแตกต่างจากจุดอื่น ให้ตั้งข้อสังเกตได้เลยว่า น่าจะเป็นพระที่ผ่านการซ่อมมา แต่ระวังอย่ากระดกแรงไป เดี๋ยวหลุดมือขึ้นมา..เรื่องใหญ่ครับผม


....................................................................................
หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แกพี่น้องชาวบางพระนะครับ

5755
บทความดีมากๆเลยครับ ขอบคุณครับ :-*

5756
ดีครับดี ดูแล้วคิดถึงหลวงพี่พันอยู่เหมือนกันครับ :)

5757
ก็ดีครับ คงต้องรอผู้ใจบุญกันต่อไป ;D ;D

5758
5 เมษายน 2551 ตรงกับวันเสาร์ ท่าทางคนน่าจะเยอะนะครับ เพราะตรงกับวันหยุด ถ้าจะไปก็ไปได้ครับ อาจจะรอนิดนึงครับ วัดบางพระยินดีต้อนรับทุกท่านครับ :-*

5760
เยียมเลยครับท่านหอมเชียง เผื่อหิวจะได้แวะไปอุดหนุนซะหน่อย ;D ;D

5761
จริงใจไม่ลอกอ เด็ดๆทั้งนั้นเลยครับ ?ตามดูอยู่นะครับ ง่วงเหมือนกัน :010:

5762
เรื่อยๆเลยครับ รอชมกันอยู่นะครับ จัดไปครับท่านหอมเชียง :-*

5764
ร้อนแทบตายแหนะครับ วันนี้ไข้ขึ้นแน่ๆเลย ( ผมไปช่วยงานอยู่ตรงที่ให้บูชาพานครูอ่ะครับ ร้อนสะใจจริงๆ )
แต่เห็นลูกศิษย์ที่มาไหว้ครูมากมายก็ชื่นใจแทน บารมีหลวงพ่อเปิ่น สุดๆจริงๆครับ สาธุ :-*

5765
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ขอเชิญ
« เมื่อ: 21 มี.ค. 2551, 11:28:53 »
รับทราบครับผม ขอบคุณครับ  :-*

5766
ขอบคุณครับที่นำมาให้ชมกัน :-*

5767
ขอเชิญร่วมงานประจำปี ปิดทองหลวงพ่อแดง ,หลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง ,หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร ,พระอาจารย์ดาว วัดเกาะวังไทร
ระหว่างวันที่ 21 - 25 มีนาคม 2551? มหรสพฟรีตลอดงาน พร้อมกับ เชิญบูชา วัตถุมงคล ของ หลวงพ่อเต้า ตั้งแต่ ปีพ.ศ.2496? รายได้ นำไปสร้างวิหาร ประดิษฐานสังขารหลวงพ่อเต้า สนใจก็เชิญได้ที่วัดเกาะวังไทร เลยนะครับ ( มีแจกตะกรุดคาดเอว หลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสนด้วยนะครับ ผมเพิ่งไปรับมา )


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

5768
รูปแบบเรียบ แต่เชื่อว่า พุทธคุณไม่เรียบแน่นอนครับ :-*

5769
สวยงามมากครับ ต้องไปหาหลวงพี่ญาซะแล้ว ;D ;D ;D

5770
มีที่จอดรถตรงไหนบ้างครับ? ที่โรงเรียนจอดได้รึเปล่า วานบอก ....
ในโรงเรียนก็ได้ครับท่าน แต่ต้องไปเช้าหน่อยนะครับ เพราะที่จอดจะเต็มเอาเสียก่อน ที่จอดมีหลายที่ครับ ซอยแถวหน้าวัดก็ลองหาดูได้ครับ หรือไม่ ก็ข้ามสะพานไปจอดฝั่งนู้น เดินไกลหน่อยแต่ก็ยังมี่ที่จอด ครับ  :-*

5771
ขอแจมด้วยอีกคนครับ ก๋วยเตี๋ยวของเจ๊ อร่อยเหาะจริงๆ โดยเฉพาะเครื่องยำ ถึงใจมากๆครับ  ;D ;D ;D

5772
ไปหาผมก็ได้ครับเดี๊ยวแนะนำให้ :-*

5773
แล้วเจอกันเน้อพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย :-*

5774
โอ้ยยย ท่านโจรสลัด ตามตัวทั้งวัดก็หาไม่เจอ ไหงมายืนตัวเขียวอยู่ตรงนั้นได้หว่า ;D ;D ;D

5775
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ได้ไหม
« เมื่อ: 20 มี.ค. 2551, 10:37:47 »
ตามสบายครับท่าน อย่าคิดมาก :)

5776
ขอบคุณท่านหอมเชียงมากๆเลยครับ แต่ไม่ติดผมเลย  ;D ;D ผมอยู่ตรงซุ้มต้นไม้หน้ากุฏิพอดี(ตรงป้ายห้ามเด็กนักเรียนอายุต่ำกว่า20ปีสัก)  ผมใส่เสื้อขาวไม่มีแขนอ่ะครับ  ;D

5777
โอ ไม่ทราบครับ :)

5778
มาแล้วครับ สรุปดังนี้
ผมไปตอนประมาณ9โมงครึ่ง คนเยอะมากๆ  เลยเข้าไปนมัสการหลวงพี่แป๊วก่อน ถวายพระสิบทัศน์กับเข่าลอยให้ท่านไป พร้อมกับครอบครูที่หลวงพี่แป๊ว
จากนั้นไม่นานมีคนเดินมาถามพระที่ห้อยคอว่าใช่ "มเหศวรหรือเปล่า" หรือว่าเป็นคุณ"สิบทัศน์" ผมเลยให้แผ่นจารพร้อมกับพระไปได้แก่คุณ "ภคกรณ์" (ลืมถามว่าเป็นสมาชิกบอร์ดหรือเปล่า) ยินดีด้วยนะครับ
อีก 9 ท่านที่เหลือ ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ วันไหว้ครู 22 มีนาคม 2551 ก็คงมีโอกาสได้พบกันอีกนะครับทุกท่าน


5781
บทความ บทกวี / ตอบ: " ของใคร "
« เมื่อ: 20 มี.ค. 2551, 09:05:46 »
ดีแล้วครับ :)

5782
ธรรมะ / ตอบ: " สาระจากพระสูตร "
« เมื่อ: 20 มี.ค. 2551, 09:03:52 »
สาธุ :)

5783
แขวนหลวงปู่ทวด ไม่ตายโหง? จริงมั้ยครับ
จริงครับจริง :-*

5784
ได้มาแล้วครับพี่น้อง  ได้มาเป็นสีส้ม สวยดีครับ :048:

5785
วันนี้อ่านหนังสือเจอ พระอาจารย์มาลัย ออกตะกรุดตี๋ใหญ่ ท่านใดสนใจก็ไปได้ที่วัดเลยนะครับ  :-*

5786
พรุ่งนี้แล้วสินะครับทุกท่าน  ;D ;D ;D
เสื้อขาว ไม่มีแขน ทักทายกันได้เน้อ  :002:

5788
เอ่อ เห็นไม่นานมานี้ (2วันก่อนเห็นจะได้) ไฟไหม้ที่ หลวงปู่ทวด องค์ใหญ่ วัดห้วยมงคล  ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้างเอ่ย :'(

5789
นา สัง สิ โม  (ต่อไปเริ่มตัว สัง )
สัง สิ โม นา  (ต่อไปเริ่มตัว สิ )
สิ โม นา สัง  (ต่อไปเริ่มตัว โม )
โม นา สัง สิ อ่ะครับ
วัตถุมงคลก็ต้องอาราธนาก่อนใช้ จึงจะดี
สวาโฆม ไม่ทราบความหมายจริงๆครับ

5790
แหล่มๆทั้งนั้นเลย :D

5792
http://www.bp-th.org/webboard/index.php/topic,3853.0.html
ตามนี้เลยครับท่าน  ผมรับประกันให้ ว่าของเค้าดีจริง :-*

5793
งามครับงาม :-*

5794
พลาสติกครับผม
อย่างที่พี่สายันเค้าบอกหรือเปล่าอ่ะครับ 100 ปี วัดระฆัง

5795
คลี่ตะกรุดออกมา เสียดายของ ความขลังไม่รู้ลดลงหรือเปล่า ธรรมดาเขาห้าม คลี่ออกมา
เห็นด้วยครับ

5796
ใช่ เสือขาว มั้ยครับพี่สิบทัศน์
จำไม่ได้จริงๆอ่ะครับโทดที

5797
หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ใช้ได้ทุกรุ่นครับ นะโมโพธิสัตโตอาคันติมายะอิติภะคะวา แคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตาโชคลาภ คงกระพัน ฯลฯ เรื่องโฉลกพระ หาดูได้ในกระทู้เก่าๆครับ  เจ้าหน้าที่เก็บศพยืนยันว่า ไม่เคยเจอพระหลวงปู่ทวด ในคอผู้ตายแม้แต่ศพเดียว พูดง่ายๆ แขวนหลวงปู่ทวด ไม่ตายโหง (เจอของปลอมก็ไม่เหลือเหมือนกันนะครับ) เวลาเจอเหตุการณ์ไม่ดี ก็นึกถึงหลวงปู่ทวด ให้ท่านช่วยคุ้มครอง ครับ

5798
อิจฉาทั้งสองตัวเลยครับท่านหอมเชียง ;D ;D ;D

5799
เนื่องา ฉ่ำจัดมากครับ  :-*

5800
เอ! หรือจะตั้งเปนคำถามชิงรางวัลกับเขาบ้างดีไหม 5555[/size :004: :004: :004:]
ดีครับดี จัดเลยครับท่าน ;D ;D ;D

5801
เป็นบุญตาจริงๆครับ :o

5802
งามมากๆครับ อยากได้บ้างจัง ;D ;D ;D

5803
โอ้โห เข้าใจง่ายดีครับแบบนี้ ความคิดสร้างสรรค์มากๆครับ  :-*

5804
รูปถ่ายล๊อคเก็ต? ที่จะแจกในงานครอบครูหลวงพี่ติ่ง วันพฤหัสที่ 20 มีค.นี้ครับ?  มี4 สีจำนวนสร้างไม่มาก? แจกเฉพาะผู้ที่ถวายพานครูดอกไม้และหมากพลูครับ ชุดพานครู มีให้บริการพร้อมที่กุฏิหลวงพี่ติ่งครับ
พานครู เท่าไหร่หรือครับ จะได้เตรียมปัจจัยไปถูก

5805
อ่าว ขนาดท่านตี๋ใหญ่เอง ยังไม่รู้เลย  ;D ;D อย่าคิดมากนะครับ ;)

5806
ต้องไปปลุกมาถามเลยครับ อยากถามอะไรก็ถามได้เลยครับ  ;D ;D

5807
หาเจอเป็นคนสุดท้ายได้อะไรครับ
ได้เห็นหน้าผมไงครับ  ;D ;D ;D

5808
ด้านหน้าคล้ายๆถอดพิมพ์ วัดใหญ่ชัยมงคลมาเลยนะครับ เข้มขลังจริงๆ  ผมไม่พลาดร่วมทำบุญอยู่แล้วครับงานนี้ ขอบคุณมากๆครับ สำหรับข่าวสารที่นำมาฝากกัน :-*

5809
คือ หนูอยากบูชา สาริกาลิ้นทอง และ อยากทำพิธีที่เค้าว่ากันว่าได้สักลิ้น อ่าค่ะ คือ ศรัทธามานานมาก แต่ไม่รู้สถานที่ทำ พอเห็นเว็บบอร์ดก้เลย สนใจมาก อยากถามว่าที่ไหนรับทำพิธีบ้างคะ? และ ถ้าสักลิ้น มีแบบไม่เจ็บไหมคะ? ค่าทำพิธี ประมานกี่บาทคะ? และถ้าเรารู้ คาถาฯ? แล้วท่องยังไงเวลา ไหนคะ? อยากทราบมากมายค่ะ ช่วยกรุณาตอบด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ :o
หลวงพี่ติ่งเลยครับ :-*

5810
ถูกต้องนะครับ นาสังสิโม คือ หัวใจพญาเต่าเรือน เขาเขียนแบบวิ่งอ่ะครับ
นา สัง สิ โม
สัง สิ โม นา
สิ โม นา สัง
โม นา สัง สิ
ข้อมูลที่เหลือ ก็ของท่าน seata  เลยครับ :-*

5811
ธรรมะ / ตอบ: พระไตรปิฎกย่อ
« เมื่อ: 18 มี.ค. 2551, 07:48:03 »
ความรู้มากมาย ขอบคุณครับท่าน :-*

5812
ในบรรดา เครื่องนี้ มีดหมอถือว่าสุดยอดแล้วใช่ไหมคับ เพราะไม่ว่ามีอะไรคุ้มครองตัวก็สามารถฟันเข้าหมด
แล้วแต่จะคิดครับ
ถ้าพูดกันนัยๆ ผมว่า ถ้าจะให้ฟันเข้าแทงเข้าพวกที่มีของหรือสักยันต์หรืออะไรก็ตามเนี่ย ผู้ที่สร้างมีดหรือปลุกเสกมีดหมอเนี่ย จะต้องมีอาคมวิชาที่แข็งหรือเหนือกว่าคนที่เราจะฟันหรือของๆที่เราจะฟัน คือง่ายๆ ผู้ที่ปลุกเสกมีดหมอจะต้องมีอาคมเหนือกว่านั่นแหละครับ และอีกอย่างคือ ถ้าว่ากันทางไสยฯแล้วก็ต้องดูอีกทางหนึ่งครับ ว่าไสยฯขาวไสยฯดำ

ขอบคุณครับ

ปล.ผมเอาตามที่ผมเข้าใจนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยขอโทษด้วยนะครับ เข้าใจมาอย่างนี้? :-[ :-[ :-[ :-[
มีผูกก็ต้องมีแก้ เคยอ่านเจอมาเกี่ยวกับประสบการณ์ของมีดหมอ ของพระอาจารย์2รูป (ผมจำชื่อไม่ได้) ทั้งสองท่าน เป็นสหายเรียนวิชามาจากพระอาจารย์ท่านเดียวกัน คนนึงเรียนวิชาผูก อีกคนเรียนวิชาแก้  ทั้งสองท่านก็สร้างมีดหมอ ซึ่งท่านทั้งสอง ก็ลงวิชาที่เล่าเรียนกันมาอย่างครบสูตร
  มีอยู่กรณีหนึ่ง  มีคนนำมีดหมอของพระอาจารย์ที่เรียนวิชาผูก ไปใช้ผิดประเภท ริเป็นโจรผู้ร้าย  ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ ยิงก็ไม่เข้า ล้อมจับ ก็หลบหนีได้ทุกครั้ง ตำรวจจึงตัดสินใจลองพึ่งมีดหมอของพระอาจารย์ที่เรียนวิชาแก้ โดยการนำมีดหมอของพระอาจารย์ที่เรียนวิชาแก้ มาหลอมทำเป็นลูฏกระสุนปืน แล้วลองไปใช้ ปรากฏว่า ได้ผล จากที่ยิงไม่เข้า คราวนี้ทะลุเข้าเนื้อ และจับกุมตัวได้ในที่สุดครับ :-*

5813
อิอิ หายากจัง ยอดธง ไม่ค่อยเจอเลยนะ !!!? ;D
หุหุ หายากส์หลุดมาฟรีๆอีกแล้วผม  ;D ;D ;D

5814
"ไบเซพ+ไตรเซพ=15นิ้ว"ถามกันเข้ามามากมาย อธิบายต่อให้นิดนึงนะครับ ( เผื่อจะได้เข้าใจกันง่ายขึ้น )"แขน"

5815
หุหุ แถมให้ครับ สำหรับท่านแรกที่หาผมเจอ
พระผง หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา เนื้อชานหมาก ขนาด 3.5 ซม.
สายสิญจน์ผูกข้อมือ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม (รับมากับมือ)
สรุปว่า ท่านแรกที่หาผมเจอ รับ แผ่นจาร , พระพิมพ์สิบทัศน์ , พระผงชานหมาก หลวงปู่ทิม ,สายสิญจน์ผูกข้อมือ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม ครับ

คำใบ้ต่อไปเลยครับ 

"ไบเซพ+ไตรเซพ=15นิ้ว"

5816
ไม่เป็นไรหรอกครับ นึกถึงคุณครูบาอาจารย์ที่ประสิทประสาทวิชา แค่นี้ก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ :-*

5817
เหรียญหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ ดูแปลกๆนะครับ  (ท่านอื่นว่าอย่างไรกันบ้าง)
ส่วนหลวงพ่อเปิ่น พระสนามมาอีกแล้ว  เก๊แน่นอนฟันธง 8)

5818
หุหุ น่าจะมาเทิร์นแถวนี้บ้างนะครับ  ;D ;D

5819
จัดไปครับท่าน ขอชมว่า สวยมากๆครับ งามตากินใจ :-*

5820
หลวงพ่อผาเงา วัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขงทางด้านทิศตะวันตก ตรงกันข้ามกับประเทศลาว อยู่ในหมู่บ้านสบคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน อยู่ทางทิศใต้ของตัวอำเภอเชียงแสนประมาณ 3 กม. หรืออยู่ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 15 กม. มีพื้นที่ทั้งหมด 743 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาเล็กๆ ทอดยาวลงมาตั้งแต่บ้านจำปี ผ่านบ้านดอยจันและ มาสิ้นสุดที่บ้านสบคำ แต่ก่อนเขาเรียกดอยลูกนี้ว่า ?ดอยคำ? แต่มาภายหลังชาวบ้านเรียกว่า ?ดอยจัน??
ชื่อของวัดนี้มาจากชื่อของพระธาตุผาเงาที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่าผาเงาก็คือ เงาของก้อนผา (ก้อนหิน) หินก้อนนี้มีลักษณะสูงใหญ่คล้ายรูปทรงเจดีย์และทำให้ร่มเงาได้ดีมาก ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า ?พระธาตุผาเงา?? ความจริงก่อนที่จะย้ายวัดมาที่นี่ เดิมมีชื่อว่า ?วัดสบคำ?? ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขง ฝั่งน้ำได้พังทลายลง ทำให้บริเวณ ของวัดพัดพังลงใต้น้ำโขงเกือบหมดวัด คณะศรัทธาจึงได้ย้ายวัดไปอยู่ที่ใหม่บนเนินเขา ซึ่งไม่ไกลจากวัดเดิม
ประวัติ ในช่วงสมัยของอาณาจักรโยนก วัดร้างแห่งนี้กำลังอยู่ในช่วงที่เจริญรุ่งเรืองสุดขีด สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นวัด ที่สำคัญและ ประจำกรุงเก่าแห่งนี้ก็เป็นได้ จะเห็นได้ ว่าพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงาที่ขุดค้นพบแห่งนี้ถูกสร้างและฝังอยู่ใต้ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ (พระประธาน) จะปิดบังซ่อนเร้นกลัวถูกโจรกรรมจากพวกนิยมสะสม ของเก่า ตอนแรกได้สันนิษฐานว่าบริเวณเนินเขาเล็กๆ ลูกนี้ที่กำลังแผ้วถางอยู่นี้จะต้องเป็นวัดเก่าแน่ เพราะได้พบเห็นซากโบราณวัตถุ ุกลาดเกลื่อนไปทั่วบริเวณในเดือนกุมภาพันธ์ 2519 จึงได้ลงมือแผ้วถางป่า แต่เดิมที่แห่งนี้เคยเป็นถ้ำ เรียกว่า ถ้ำผาเงา ปากถ้ำถูกปิดไว้นาน ทำให้บริเวณแห่งนี้เป็นป่ารก เต็มไปด้วย ซากโบราณวัตถุกระจัดกระจายอยู่กลาดเกลื่อน การค้นพบพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา? เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2519 เวลา 14.00 น. เมื่อคณะศรัทธาได้ปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างตื่นเต้นและปีติยินดีเมื่อ ได้พบว่าใต้ตอไม้นั้น (หน้าฐานพระประธาน) มีอิฐโบราณก่อเรียงไว้ เมื่อยกอิฐออกก็พบหน้ากาก จึงได้พบพระพุทธรูป มีลักษณะสวยงามมาก ผู้เชี่ยวชาญทางโบราณวัตถุได้วิเคราะห์ว่า พระพุทธรูปองค์นี้มีอายุระหว่าง 700-1,300 ปี คณะทั้งหมดจึงได้พร้อมกันตั้งชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ว่า ?หลวงพ่อผาเงา?? และเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น ?วัดพระธาตุผาเงา? ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา



[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

5821
ฮิ้วววววววววววว หาผู้ชนะ รับบ้านและที่ดิน พร้อมทั้งหนี้สินนะจ้ะ? ;D
555+
บ้านและที่ดิน ไม่มีนะครับ  แต่หนี้สินใครอยากรับก็บอกกันได้นะครับพี่น้อง เต็มใจมอบให้ฟรีๆเลย ;D ;D ;D

5822
อิจฉาคนเป๋าหนักเจงๆ  ;D ;D  งามครับงาม ขอบคุณครับที่แบ่งกันชม :)

5823
พี่สิบทัศออน msn กี่โมง ครับ?
ออนกลางคืนอ่ะครับ คุยได้ ไม่มีนอกรอบนะจ๊ะ ;D ;D ;D
เรียกร้องมาเลยจัดไปก่อนนิดนึง
"ด้านหน้า มเหศวร? ด้านหลัง เขี้ยวบางพระ พลังM "ตีความกันนิดนึงนะครับพี่น้อง


เล่นไรเอ่ย ได้เล่นตามเกมส์ถูก? :D
ท่านโจรสลัด ไม่ต้องเล่นครับ เป็นกรณีพิเศษ มีไปฝากแน่นอนครับ ;D ;D ;D
หุหุ ยัง งง อยุ่ เลยนะนี่ ติดตามอยู่ครับ
 :P
ไม่ต้องงงหรอกครับ ผมบอกใบ้ให้อ่ะครับ เผื่อจะหาตัวผมได้ง่ายขึ้น

ต่อกันเลยนะครับ? ? ?พิจารณากันดีๆเน้อพี่น้อง? "ดรรชนี ซ้ายงา ขวาพิรอด"

5824
เรียกร้องมาเลยจัดไปก่อนนิดนึง
"ด้านหน้า มเหศวร  ด้านหลัง เขี้ยวบางพระ พลังM "ตีความกันนิดนึงนะครับพี่น้อง

5825
ข่าวฝากจากวัดป้อมแก้ว

กำหนดการ

พิธีทำบุญอายุวัฒนะมงคล ครบ ๘๑ ปี

พระครูประโชติธรรมวิจิตร

(หลวงพ่อเพิ่ม อตฺตทีโป)

เจ้าอาวาสวัดป้อมแก้ว ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางไทร
วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๑ (ตรงกับวันแรม ๖ ค่ำ เดือน๔)
...................................................................

เวลา ๐๙.๓๐ น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ สวดมาติกา บังสุกุล รับทักษิณานุปทาน

บำเพ็ญกุศลอุทิศอดีตเจ้าอาวาสและผู้มีพระคุณต่อวัดป้อมแก้ว

เวลา ๑๐.๐๐ น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน ๒๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์

เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษู สามเณร จำนวน ๑๐๐ รูป

เวลา ๑๒.๐๐ น. พิธีถวาย น้ำสรงแด่หลวงพ่อเพิ่ม

เสร็จแล้วเชิญผู้ร่วมพิธี รับประทานอาหารกลางวันพร้อมกัน

................................................................


ขอเชิญศิษยานุศิษย์ และท่านที่เคารพนับถือทุกท่าน

ร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกับ


อันที่จริงแล้ววัดป้อมแก้วกับวัดพระขาว (หลวงปู่ทิม) ก็เหมือนวัดพี่ วัดน้อง ทางเข้าวัดก็อยู่ตรงข้ามกัน มีงานการครั้งใดก็ถึงกัน งานนี้พระสงฆ์ มาร่วมเจริญพระพุทธมนต์ก็ล้วนแล้วแต่ระดับสุดยอดพระดีศรีอยุธยาทั้ง ๒๐ รูป หนึ่งในนั้นที่ขาดไม่ได้ ก็คือพระเดชพระคุณหลวงปู่ทิม วัดพระขาว แล้วก็ยังมี หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน เรียกว่างานชุมนุมสุดยอดเกจิยิ่งกว่างานพุทธาภิเษกเสียอีก

เรียนเชิญทุกท่านนะครับ โอกาสอย่างนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ ที่สำคัญหลวงพ่อเพิ่มท่านเป็นพระดีมาก มากครับ น่านับถือจริงๆ กราบได้อย่างสนิทใจ ลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาท่านจึงมีมากขึ้นเรื่อยๆ สมดังมงคลนามของท่าน และเป็นสุดยอดพระดีศรีอยุธยา อีกรูปหนึ่ง


.....................................................

วัดป้อมแก้ว

ต.บ้านกลึง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

โทร. (๐๓๕) ๓๐๗ ๕๘๗ .. (๐๓๕) ๒๙๐ ๖๙๗

โทร.สอบถามเส้นทางได้นะครับ


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

5827
ไปมาเรียบร้อยแล้วครับ สำหรับงานไหว้ครู หลวงปู่หิ่ม  คนเยอะมากๆ มาจากทั่วสารทิศ บารมีหลวงปู่สุดยอดจริงๆครับ (ได้เหรียญย้อนยุคกะไหล่ทองมาด้วย บุญจริงๆผม) เลยมาเล่าสู่กันฟังครับทุกท่าน :-*

5828
พระเจ้าพลาละแข่ง วัดหัวเวียง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน"พระเจ้าพลาละแข่ง" หรือ "พระมหามุนี" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแม่ฮ่อง สอน ประดิษฐานอยู่ ณ วัดหัวเวียง ต.จองคำ อ. เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

ด้วยเหตุที่วัดหัวเวียงหรือวัดกลางเวียงตั้งอยู่ใจกลางเมือง จึงมักใช้เป็นที่จัดงานวัฒนธรรมประเพณีของชาวไทยใหญ่ตลอดปี

ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลออกพรรษา เทศกาลปีใหม่สากล และเทศกาลปี๋ใหม่เมือง วัดหัวเวียงจะได้จัดพิธีการสรงน้ำพระเจ้าพลาละแข่งเป็นประจำทุกปี พอถึงเทศกาลสำคัญ จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธ ต่างเดินทางมานมัสการเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมานับหลายร้อยปี

พระเจ้าพลาละแข่ง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่อง ฝีมือช่างชาวเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า องค์พระหล่อจากทองเหลือง แต่พระพักตร์มีส่วนผสมของทองคำอยู่จำนวนหนึ่ง ทำให้พระพักตร์เงาแวววาวอยู่เสมอ ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง

พระเจ้าพลาละแข่งนี้จำลองจากพระมหามุนีในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งชาวพม่านับถือกันมาก เนื่องจากเชื่อว่า พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทานลมหายใจให้แก่พระมหามุนี การหล่อพระเจ้าพลาละแข่ง ช่างได้หล่อเป็นท่อนๆ จำนวน 9 ท่อน

ส่วนประวัติความเป็นมาของ พระเจ้าพลาละแข่ง หรือ พระมหามุนี พระพุทธรูปองค์ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีตำนานเล่าว่า ในสมัยเมื่อ 90 ปีล่วงมาแล้ว ก่อนที่มีการจำลองพระพุทธรูปองค์นี้มาไว้บูชาที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีประวัติเล่าว่า มีพ่อเฒ่าคนหนึ่งชื่อว่า "ลุงจองโพหย่า" เป็นพ่อค้าวัวในสมัยนั้นการคมนาคมลำบาก เวลาจะไปทำการค้าขายในต่างอำเภอในระหว่างเดินทางนั้นต้องรอนแรมไปในป่าตลอดทาง วันหนึ่งพ่อลุงจองโพหย่ากินหมากเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไม่ได้เก็บเชี่ยนหมาก และไม่ได้ปิดฝาด้วยแล้วก็เข้านอนพักผ่อน

พอตื่นเช้าได้ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยก็หาเชี่ยนหมากเพื่อจะกินหมาก พอมองดูในเชี่ยนหมากก็พบว่า มีพระบรมธาตุ 1 องค์ ใหญ่ขนาดเมล็ดข้าวโพดอยู่ในเชี่ยนหมาก

พ่อลุงจองโพหย่า รู้ว่าเป็นพระบรมธาตุแน่นอน จึงได้บอกกล่าวแก่เพื่อนฝูงที่เป็นพ่อค้าด้วยกันทราบ แล้วก็บอกกับเพื่อนฝูงว่าเราจะเข้าไปในเมือง เพื่อจะเอาผอบทองมาใส่พระบรมธาตุนี้ เมื่อได้ผอบทองคำมา นำไปใส่พระบรมธาตุมาไว้ที่บ้านปางหมูก่อน แล้วกลับเข้าไปในเมืองแม่ฮ่องสอนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อบอกข่าวให้แก่ประชาชนทั้งหลายที่มีจิตศรัทธาในเมืองแม่ฮ่องสอนโดยทั่วถึงกัน

ในขณะที่คณะศรัทธาบ้านปางหมู ได้เตรียมฆ้องกลอง พร้อมเครื่องสักการะร่วมกับคณะศรัทธาชาวในเมืองแม่ฮ่องสอนได้จัดขบวนอัญเชิญพระบรมธาตุแห่แหนเข้าไปยังตัวเมือง เพื่อจะนำไปไว้ที่บ้านพ่อลุงจองโพหย่า วันรุ่งขึ้น ได้จัดให้มีการถวายอาหารบิณฑบาต พร้อมบอกกล่าวเพื่อนบ้านให้มาร่วมอนุโมทนาเป็นการใหญ่

เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วพ่อลุงจองโพหย่าได้กลับไปทำหน้าที่ของตนเอง ทำการค้าขายกับเพื่อนๆ เป็นเวลานานแรมเดือน เมื่อเก็บเงินเก็บทองได้พอประมาณ ได้กลับมายังบ้านของตนเอง เพื่อที่จะนำพระบรมธาตุ ไปประดิษฐานบรรจุไว้ในพระธาตุดอยกองมู

โดยพ่อลุงจองโพหย่า ได้ปรึกษาหารือกับเพื่อนบ้านและกลุ่มพ่อค้าด้วยกัน แต่ก็มีเสียงคัดค้านจากชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยที่จะนำเอาพระบรมธาตุไปบรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ เนื่องจากเป็นองค์พระเจดีย์ที่เก่าแก่

ในที่ประชุมได้เสนอให้พ่อลุงจองโพหย่าและพ่อลุงจองหวุ่นนะ เดินทางไปยังเมืองมัณฑะเลย์ประเทศพม่า เพื่อติดต่อขอจำลองพระมหามุนี หรือเจ้าพลาละแข่ง โดยฝีมือช่างจากเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า เป็นผู้จำลองขึ้นเมื่อ จ.ศ.1279 ตรงกับปี พ.ศ.2416 รวมน้ำหนัก 999 กิโลกรัม

พ่อลุงจองโพหย่าและพ่อลุงจองหวุ่นนะ ได้ทำการบูชาเพื่อนำมาประดิษฐานไว้ ณ วัดหัวเวียง ตลอดจนถึงปัจจุบัน โดยได้อัญเชิญพระบรมธาตุขึ้นบรรจุไว้ในพระเศียรของเจ้าพลาละแข่ง

พระเจ้าพลาละแข่ง มีความศักดิ์สิทธิ์ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏไว้หลายประการ อาทิ อัญเชิญมาสู่วัดหัวเวียงจะมีฝูงผึ้งบินอยู่รอบโดยไม่ได้ทำอันตรายผู้ใด ครั้นถึงเวลาจัดงานสมโภชจะมีกระแสลมอยู่เฉพาะภายในวิหาร ส่วนภายนอกไม่ปรากฏ สมัยเมื่อครั้งยังไม่มีไฟฟ้า ในวันเพ็ญเดือน 11 หรือ 12 พระเจ้าพลาละแข่งจะเปล่งพระรัศมีทำให้วิหารสว่างไสวเสมอ

ชาวเมืองแม่ฮ่องสอน จึงถือว่าพระเจ้าพลาละแข่ง เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ใครที่เดินทางไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน ควรไปสักการะบูชากราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว


ที่มา --ข่าวสด

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

5829
หายหน้ากันไปซะนานเลยนะครับ พี่น้องชาว บางพระทุกท่าน พอดีเกิดปัญหานิดหน่อยครับ ช่วงที่ไม่อยู่เลยตระเวนไปทำบุญ หาของฝากยกใหญ่  กะว่าจะเอาไปแจก วันครอบครู หลวงพี่ติ่ง 20 มีนาคม 2551  ใครเจอผมก็ทวงของรอรับกันได้เลยนะครับ
เข้าไปหาหลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอมมาครับ เลยขอพระของท่านมาแจกกัน ดังนี้
พระพิมพ์สิบทัศน์ หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม เนื้อดินผสมผงใบลาน หลังจารเปียก 1 องค์ ( ได้มา 2 องค์ ตั้งใจถวายหลวงพี่แป๊ว ท่านไปองค์นึง)
พระพิมพ์เข่าลอย หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม เนื้อดินผสมผงใบลาน หลังจารเปียก 9 องค์
พิเศษสุดๆ กับแผ่นจาร ลายมือ หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม (ผมขอให้ท่านลง โภคทรัพย์ ไว้นะครับ) แผ่นจารนี้ ผมขอมอบให้กับท่านแรกที่เจอผมนะครับ มีชิ้นเดียวครับ

แล้วเจอกันนะครับทุกๆท่าน (หาตัวไม่ยากส์ครับเด๋วใกล้ๆแล้วจะเข้ามาบอกรายละเอียดอีกที)

...................................................................................................................................
อ่อ เกือบลืม สำหรับท่านโจรสลัด เดี๊ยวผมจะล็อคของไว้ให้นะครับ ไม่ต้องห่วง ครับ

5830
ขอเชิญร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี
ณ วัดป่าสามัคคี เมืองคิลลีน มณรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
งานฉลองครบรอบ 14 ปี และประเพณีสงกรานต์
วันเสาร์ - อาทิตย์ ที่ 26-27 เมษายน 2551
เวลา 13.00น.
นำโดย
พระครูสังฆรักษ์อวยพร วัดดอนยายหอม
ออกเดินทาง วันพุธ ที่ 23 เมษายน 2551 ( เวลา 12.00น.)


ไปวัดดอนยายหอมมาอ่ะครับ เห็นขึ้นป้ายที่หน้ากุฏิ อ.พร เลยเก็บมาฝาก ใครสนใจไปก็ออกทุนตามกันไปเองนะครับ สาธุ

5831
เชียร์น่าดูนะครับ แต่ของเค้าดีจริง ยอมรับ ;)

5834
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: วันแรก
« เมื่อ: 16 มี.ค. 2551, 01:19:30 »
ฝากพี่หาให้ดีฝ่า อิอิ ;D ;D

5835
หลวงพ่ออวยพรครับ แก้ให้นิดนึง :D

5837
เข้ามาช่วยปลุกด้วยคนครับ (ตื่นได้แล้วครับท่าน) ;D ;D

5838
ของเค้าดีอยู่แล้วไม่ต้องห่วง ;D

5840
ใจหายมากๆครับ สิ้นหลวงพ่อไปอีกแล้ว ขอไว้อาลัยด้วยอย่างสุดซึ้งครับ

5841
โชว์ได้แต่ระวังหายนะจ๊ะ ;D ;D ;D

5843
คิดถึงวันเก่าๆ ;D

5844
ของหลวงพ่อเราดีทุกอย่าง ประสบการณ์มากมาย ขึ้นคอได้สบายเลยครับ 8)

5846
วาสนาไม่ถึง (เป๋าแห้ง) คงได้แต่ชมอ่ะครับช่วงนี้ ::)

5847
พลาดไม่ได้แล้วงานนี้ แล้วเจอกันนะจ๊ะพี่น้องทั้งหลาย 8)

5849
โห ผมก็มีปิดตา หลังมิ ไม่ทราบที่ เพิ่งมารู้วันนี้แหละครับ ขอบคุณข้อมูลครับท่าน :-*

5851
ดีครับดี (มานะน่าดูนะท่าน) ;D

5852
ที่วัดยังมีอยู่นะครับ ลองเข้าไปดู ;D

5853
หนังเสือ หลวงปู่แย้ม สุดๆอยู่แล้วครับท่าน ไม่ต้องบรรยาย :o

5854
เป็นบุญตาครับท่าน :D

5857
ฝนแสนห่า พุทธคุณฝอยท่วมหลังช้าง :-*

5860
ดีครับดี แผ่บารมีทั่วไทย ;D ;D ;D

5861
ไม่ทราบเหมือนกันครับพี่น้อง   :-*

5862
สิ้น"หลวงปู่สุธีร์" พระราชมงคลวุฒาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโสธร ฉะเชิงเทรา ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ที่ร.พ.บำรุงราษฎร์ สิริอายุ 90 ปี 70 พรรษา ท่ามกลางความเศร้าสลดของศิษยานุศิษย์ กำหนดพิธีน้ำหลวงสรงศพ 17.00 น. วันที่ 10 มี.ค. ที่วัดโสธร วราราม วรวิหาร

พุทธศาสนิกชนสูญเสียพระผู้ใหญ่ไปอีกรูป เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นายสินชัย ผดุงเจริญ เลขานุการพระราชมงคลวุฒาจารย์ (สุธีร์ ทองบูรณะ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจ.ฉะเชิงเทรา อดีตเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือวัดหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า พระราชมงคลวุฒาจารย์ มรณภาพด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน เมื่อเวลา 22.54 น. วันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่ร.พ.บำรุง ราษฎร์ สิริอายุ 90 ปี 1 เดือน 29 วัน รวม 70 พรรษา

เลขานุการอดีตเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามฯ กล่าวต่อว่า พระราชมงคลวุฒาจารย์เข้ารักษาตัวที่ร.พ.บำรุงราษฎร์ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการอาพาธประจำตัว ถุงลมโป่งพอง โดยเริ่มอาพาธมาหลายปีแล้ว คณะลูกศิษย์หารือกันแล้วจะเคลื่อนศพมาบำเพ็ญกุศลที่หอฉันวัดโสธรวรารามวรวิหาร วันที่ 10 มี.ค. จากนั้นเวลา 17.00 น.ทำพิธีน้ำหลวงสรงศพ ส่วนการจัดการพิธีศพและวันพระราชทานเพลิงจะประชุมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดวันต่อไป

สำหรับประวัติพระราชมงคลวุฒาจารย์ เดิมชื่อสุธีร์ ทองบูรณะ เกิดเมื่อวันที่ 10 ม.ค.2461 เป็นชาวต.เปร็ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา บิดาชื่อนายรอด ทองบูรณะ มารดาชื่อนางเทียบ ทองบูรณะ บรรพชาเมื่อวันที่ 12 พ.ค.2477 ที่วัดสุคันธศีลาราม ต.บางเกลือ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มี พระอาจารย์บุญ ปุญญโชโต เป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบทเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2482 ที่วัดทองนพคุณ แขวงและเขตคลองสาน กรุงเทพฯ มีพระเทพวิมล เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2482 สอบได้นักธรรมเอก สำนักเรียนวัดทองนพคุณ พ.ศ.2490 สอบได้ป.ธ.4 สำนักเรียนวัดอนงคาราม พ.ศ.2502 เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พ.ศ.2511 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร พ.ศ.2511 เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา พ.ศ.2532 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ.2540 เป็นพระพุทธิรังสี พ.ศ.2541 เป็นพระราชมงคลวุฒาจารย์ พ.ศ.2547 มหาเถรสมาคมมีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เนื่องจากชราภาพ และวัดเกิดปัญหาหลายๆ เรื่อง

พระราชมงคลวุฒาจารย์ เป็นพระสงฆ์ที่ได้รับความเคารพศรัทธาเลื่อมใสจากศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ ด้วยวัตรปฏิบัติยึดสายกลาง สมถะ ไม่ยึดติดในลาภ ยศ สรรเสริญ ตำแหน่ง สร้างคุณประโยชน์ต่อวงการสงฆ์และศาสนามาตลอดตราบจนวาระสุดท้าย
....................................
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าสด

5864
พอจะทราบราคาบูชากันบ้างหรือเปล่าครับ ::)

5866
พระเหลือ สร้างจาก ทองที่เหลือจากการเทองค์พระพุทธชินราช น่าบูชามากๆครับ :-*

5867
อ่อ เห็นแล้วครับ ขอบคุณมากๆครับ ที่แบ่งมาให้ชม :-*

5868
รูปไม่ขึ้นอ่ะครับ ::)

5871
น่าเก็บไว้ใช้มากๆครับ สุดยอด    :016:

5872

พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ) วัดไตรมิตรวิทยารามกรุงเทพฯ
เป็นพระพุทธรูปทองคำที่ได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊ก ปี 1991 ว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าสูงกว่า 21 ล้านปอนด์

ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ พระวิหาร วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ในพระอิริยาบถนั่งสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางเหนือพระชานุ ปลายพระหัตถ์ชี้ลงพื้นธรณี หน้าตักกว้าง 6 ศอก 5 นิ้ว หรือมากกว่า 2.50 เมตร

ความสูงจากพระเกตุมาลาถึงฐานทับเกษตร (ฐานที่รองรับพระพุทธรูป) 7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้ว หรือประมาณ 3.04 เมตร 10 ฟุต มีน้ำหนักประมาณ 5.5 ตัน หรือ 5,500 กิโลกรัม

นักประวัติศาสตร์ชี้ว่า เป็น "พระพุทธรูปทอง" ในวิหารวัดมหาธาตุ กรุงสุโขทัย ที่อ้างถึงในศิลาจารึกหลักที่ 1 ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช บรรทัดที่ 23-27 มีข้อความปรากฏดังนี้

"กลางเมืองสุโขทัย มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารส มีพระพุทธรูป มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม มีพิหารอันใหญ่ มีพิหารอันราม"
 


ข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ในสมัยสุโขทัยมีการก่อสร้างพระวิหาร พระพุทธรูปปูนปั้น โลหะ และทองคำ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง ดังปรากฏเป็นหลักฐานประติมากรรมสมัยสุโขทัยที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

จึงสันนิษฐานได้ว่าหลวงพ่อทองคำน่าจะถือกำเนิดในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ก่อนปี พ.ศ.1826 อันเป็นพุทธศักราชที่ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทย หากนับเนื่องมาจนถึงปัจจุบันปี 2550

ในสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงมีพระบรมราชโองการให้อัญเชิญพระพุทธรูปตามวัดร้างต่างๆ ที่สุโขทัยมาประดิษฐานไว้ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ รวมจำนวนได้ 1,248 องค์ รวมทั้งหลวงพ่อทองคำ ขณะนั้นอยู่ในสภาพมีปูนปั้นหุ้มทั้งองค์

ต่อมา พ.ศ.2344 ได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานวัดพระยาไกร หรือวัดโชตินาราม อันเป็นวัดที่พระยาโชฎึกราชเศรษฐี สร้างถวายเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลที่ 3 เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ.2475

ต่อมา วัดพระยาไกรชำรุดทรุดโทรม บริษัทอีสต์เอเซียติกได้มาขอเช่าจัดสร้างโรงเลื่อยไม้ขนาดใหญ่ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ชำรุดทรุดโทรมของวัดออกจนเหลือแต่พระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่

ขณะนั้นวัดสามจีนหรือที่ต่อมาเป็นวัดไตรมิตรฯ กำลังบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ และเห็นว่าจะทิ้งพระพุทธรูปไว้เช่นนั้นไม่เหมาะสม จึงได้อัญเชิญมาไว้ที่วัด

การก่อสร้างใช้เวลาถึง 20 ปี จึงแล้วเสร็จ ในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2498 ได้เริ่มโยกย้ายองค์พระซึ่งมีน้ำหนักมาก ลวดสะลิงขาด องค์พระตกกระแทกพื้น ขณะนั้นเป็นช่วงค่ำและฝนตกหนัก การอัญเชิญหยุดชะงักลง

เช้ารุ่งขึ้น พระมหาวีรธรรมมุนี เจ้าอาวาส ได้มาตรวจ สังเกตเห็นปูนตรงพระอุระแตกเป็นรูกว้าง มองเห็นเนื้อทองคำจับตา เมื่อกะเทาะปูนออก พบว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำทั้งองค์ และยังพบกุญแจกลซ่อนอยู่บริเวณฐานทับเกษตร สามารถใช้ไขถอดองค์พระพุทธรูปได้ 9 ส่วนด้วยกัน

จึงได้ถอดองค์พระออกสี่ส่วน แล้วอัญเชิญขึ้นไปประดิษฐานบนวิหาร แรกๆ เรียกว่าพระสุโขทัยไตรมิตร ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร"

หลวงพ่อทองคำ เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่แถวเยาวราชมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ ยังเป็นเอกลักษณ์อันยิ่งใหญ่เคียงคู่ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนอีกด้วย

หลวงพ่อทองคำ มีพุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก สมดังที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นรูปแบบของศิลปกรรมสุโขทัยยุครุ่งเรืองที่ได้รับการยอมรับว่ามีความวิจิตร อ่อนช้อยกว่าสกุลช่างยุคใด ขนาดและน้ำหนักทองคำขององค์หลวงพ่อ สะท้อนความสามารถอันฉลาดลุ่มลึกของฝีมือช่าง ทั้งด้านการออกแบบ ศิลปกรรม การปั้นหล่อ

เป็นหนึ่งในมรดกทางอารยธรรมล้ำค่ายิ่งของพระพุทธศาสนาคู่ผืนแผ่นดินไทย

ที่มา - ข่าวสด

5873
;D สุดยอดไปเลย ครับ ...........เยี่ยม ......

(เอ่อ พี่สิบทัศ ครับ ......ผมมีเรื่องรบกวนอีกอย่างอะครับ ..... ผมอยากได้ข้อมูล หลวงพ่อวัดไร่ขิง รุ่นสิริมหามงคลรุ่นล่าสุด อะครับ ขนาดผมเป็นคนไร่ขิงแท้ๆ ยังไม่รู้เลยอะครับ ว่ามีท่านใด มาพุทธาพิเศก บ้าง ถามใคร ก็ๆ ไม่มีใครรู้อะครับ ถ้าพี่รู้ช่วยตอบหน่อยนะครับ ) ขอบคุณ ครับ ...
พระเกจิอาจารย์ที่มาปลุกเสก หลวงพ่อวัดไร่ขิง รุ่น สิริมหามงคล น่าจะเป็นชุดเดียว กับที่มาปลุกเสก หลวงพ่อวัดไร่ขิง รุ่น มงคลจตุคามนะครับ  (ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)
ข้อมูลที่พอทราบนะครับ
มวลสารที่ใช้จัดสร้าง
1.ผงเกศ เนื้อรักเก่าปิดทององค์หลวงพ่อวัดไร่ขิง
2.ผงกระเบื้องเก่าหลังคาพระอุโบสถวัดไร่ขิง
3.ผงพระสมเด็จวัดไร่ขิงกดลายมือ รุ่นแรก
4.ผงเกสรดอกไม้บูชาหลวงพ่อวัดไร่ขิง
5.ผงธูปบูชาพระพุทธรูป 5 พี่น้อง
หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม หลวงพ่อวัดเขาตะเครา และหลวงพ่อโต วัดบางพลี
6.ดินจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง ประเทศอินเดียและประเทศเนปาล
7.ไม้เทพทาโร
8.ไม้พะยูง
9.ไม้ขนุน

ประกอบพิธีพุทธาภิเษก(กำหนดการเดิมนะครับ เนื่องจาก หลวงพ่อปัญญา ท่านมรณะภาพ กำหนดการเลยอาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง)
วาระที่ 1 วันที่ 3 พฤศจิกายน 2550
พิธีพุทธาภิเษกมวลสาร ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
วาระที่ 2 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2550
พิธีพุทธาภิเษกมวลสาร ณ วัดสุทัศน์เทพวราราม กทม.
วาระที่ 3 วันที่ 20 พฤศจิกายน 2550
พิธีพุทธาภิเษกมวลสาร ณ วัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา
วาระที่ 4 วันที่ 22 พฤศจิกายน 2550
พิธีพุทธาภิเษกมวลสาร ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จ.นครปฐม
วาระที่ 5 วันที่ 24 พฤศจิกายน 2550
พิธีพุทธาภิเษก และกดพิมพ์นำฤกษ์และในฤกษ์ ณ พระอุโบสถ วัดไร่ขิง จ.นครปฐม
วาระที่ 6 วันที่ 30 พฤศจิกายน 2550
พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ณ วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี
วาระที่ 7 วันที่ 2 ธันวาคม 2550
พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ณ วัดเพชรสมุทรวรวิหาร จ.สมุทรสงคราม
วาระที่ 8 วันที่ 24 ธันวาคม 2550
พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ณ วัดกัลยาณมิตร กทม.
วาระที่ 9 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551
พิธีพุทธาภิเษกและสมโภชวัตถุมงคล ณ พระอุโบสถวัดไร่ขิง จ.นครปฐม

เห็นว่าทางวัดไร่ขิง จะจัดงานประจำปี นมัสการหลวงพ่อวัดไร่ขิง ประมาณเดือนเมษายน รบกวน ท่าน M007ช่วยดูให้ทีครับ ว่าจัดระหว่างวันที่เท่าไหร่บ้าง (เพื่อจะไปเที่ยวอ่ะครับ) ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยนะครับ

5874
อ่อ ข้อมูลของผมเชื่อถือได้ครับ เพราะได้มาจาก หนังสือที่ระลึก งานเทศกาลนมัสการ พระปฐมเจดีย์ 21-29 พฤศจิกายน 2539  รวบรวมโดยพระธรรมปริยัติเวที เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์  และคุณสุธี สูงกิจบูลย์(เซียนนครปฐมเลยครับท่านนี้) ครับ

5875


ครับ ไปยืมรูปมาลงให้ดูครับ พระคันธารราษฎร์  ของวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร พุทธลักษณะเป็นแบบนี้ครับ (องค์ในภาพไม่ใช่ของทางวัดพระปฐมเจดีย์นะครับ) เป็นพระปางอินเดีย (ขอฝน) ครับ

5876
เยี่ยมเลยครับท่านหอมเชียง
ในภาพคือ พระพุทธนรเชษฐ์ (ศิลาขาว) ปางปฐมเทศนา (ประทานพร) พิมพ์ใหญ่ (ไม่ใช่พระคันธารราษฎร์ ตามที่เข้าใจนะครับ )
สร้างในสมัยของท่านเจ้าคุณพระธรรมสิริชัย (ชิตวิปุลเถระ) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร
บูชาไว้ดีแท้แน่นอนครับ รายนามพระเกจิคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเศก (เท่าที่พอจำได้นะครับ) หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม,หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา,หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม,หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีฯลฯ

พระพุทธนรเชษฐ์นี้ เป็นพระศิลปะทวาราวดี ในประเทศไทย มีอยู่ 4 องค์ ขุดพบบริเวณทุ่งพระเมรุ ปัจจุบันได้กระจายไปตามสถานที่ต่างๆดังนี้
องค์แรก ประดิษฐานเป็นพระประทาน ประจำพระอุโบสถ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร
องค์ที่สอง ประดิษฐานเป็นพระประทานประจำทิศใต้ ของวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร (พระศิลาขาว) องค์นี้ ชำรุด  กรมศิลปากร จึงสร้าง พระกรด้านขวาขององค์พระให้ใหม่
องค์ที่สาม ประดิษฐานอยู่ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา
องค์ที่สี่ ประดิษฐานอยู่ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ

5878
โอ้วส์ ของแจก ไม่พลาดแน่นอนครับท่าน แล้วเจอกันนะครับ

5879
ไม่ทราบว่า วัตถุมงคลที่กำลังปลุกเสกในภาพ เป็น วัตถุมงคลรุ่นใดหรือครับ (อยากรู้จัง ใช่ไหว้ครู 2551 หรือเปล่าเอ่ย )
สำหรับหลวงปู่ทิม วัดพระขาว รูปนี้สุดยอดจริงๆครับท่าน  ปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นใดแล้ว รับรองว่า ดีแท้อย่างแน่นอน   ลองอ่านดูนะครับ
"หลวงพ่อทิม วัดพระขาวนั้น ท่านมีจิตที่ละเอียด ละเอียดมากๆ เลยแท้ๆหาได้ยากจริงๆ ..."
(หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา)

"หลวงปู่ทิม วัดพระขาว มีจิตที่ละเอียดมากๆ ละเอียดที่สุด .... ดีมากๆ มากเลยนะ"
(หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา)

"หลวงปู่ทิม เก่งมากนะ"

(หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา )


แค่นี้ก็ไม่ต้องบรรยายแล้วหล่ะครับ สุดยอดจริงๆ

5880

หลวงพ่อศาสดา วัดสุวรรณาราม กรุงเทพฯ
 
"วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร" หรือชื่อเดิมว่า "วัดทอง" ถือเป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ความเก่าแก่ของวัดทองนี้นับอายุไปได้ถึงปลายสมัยอยุธยา และต่อมาในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ทรงใช้บริเวณวัดแห่งนี้เป็นลานประหารชีวิตเชลยพม่า

แต่ในสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นสมัยที่วัดทองได้เปลี่ยนรูปโฉมไปมาก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่แทบทั้งหมด และพระราชทานนามให้ใหม่ว่า "วัดสุวรรณาราม"

ปัจจุบันวัดสุวรรณาราม ตั้งอยู่ที่ 33 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 32 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอก น้อย กรุงเทพฯ

พระอารามหลวงแห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คือ "หลวงพ่อศาสดา" พระพุทธรูปหล่อสมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย พระประธานของพระอุโบสถ ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธากันมาก

การสร้างหลวงพ่อศาสดา พระประธานในพระอุโบสถวัดสุวรรณาราม มีปรากฏเรื่องเกี่ยวกับการสร้างเป็น 2 นัย คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานไว้ว่า พระ พุทธรูปองค์นี้ไม่ปรากฏเรื่องราว แต่พิจารณาจากลักษณะแล้วเห็นว่าเป็นฝีมือเดียวกับช่างที่หล่อพระศรีศากยมุนี ซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองสุโขทัยครั้งแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหา ราช จึงทรงเห็นว่าคงจะเชิญพระศาสดามาในคราวเดียวกัน
 


ส่วนหนังสือประวัติวัดสุวรรณาราม กล่าวว่า พระศาสดาองค์นี้ไม่ปรากฏนามผู้สร้าง และสร้างในสมัยใด สันนิษฐานว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช คงจะทรงหล่อขึ้น เพื่อเป็นพระประธานในพระอุโบสถ เมื่อคราวทรงปฏิ สังขรณ์วัดสุวรรณารามขึ้นใหม่ โดยพระพุทธรูปองค์นี้ไม่ปรากฏนามเฉพาะ มีเพียงชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า "พระศาสดา"

หลวงพ่อศาสดา มีคนมากราบไหว้นมัสการหรือบนบานศาลกล่าว โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเกณฑ์ทหาร มิให้ถูกจับได้ใบแดง ต้องไปเกณฑ์ทหาร นิยมแก้บนด้วยการวิ่งม้า แต่ไม่ได้ใช้ม้าจริงๆ เพียงแค่ใช้คนวิ่งและมีผ้าขาวม้าเป็นสัญลักษณ์แทนม้าเท่านั้น

ทั้งนี้ ประเพณีการแก้บนเช่นนี้ ยังมีสืบทอดมาจนปัจจุบัน

มีเรื่องเล่าขานกันว่า "หลวงพ่อศาสดา" โปรดการวิ่งม้าเป็นอย่างยิ่ง มีคนมาบนบานศาลกล่าวเรื่องของการงานและการค้าขาย เมื่อสำเร็จผล ได้ฝันว่า มีพราหมณ์ท่านหนึ่งมาบอกว่าให้แก้บนด้วยการวิ่งม้า กลายเป็นที่มาของการวิ่งม้าแก้บนที่วัดแห่งนี้

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าอีกว่า มีคนมาวิ่งม้าแก้บน แต่แกล้งวิ่งม้าหลอกๆ ไม่ยอมวิ่งจริงๆ แต่ดำเนินไปได้เพียงสักครู่เท่านั้น ทันใดนั้น ได้มีมือขนาดยักษ์มาเขกหัว ทั้งๆ ที่บริเวณนั้นไม่มีใครเลย

นับแต่นั้นมา ทำให้หลายคนไม่กล้าวิ่งม้าหลอกๆ แก้บนที่วัดแห่งนี้อีก

วิ่งม้าแก้บน เป็นคติความเชื่อที่สืบทอดกันมาของชาวบ้านบุ ชุมชนในบริเวณวัดสุวรรณาราม อันเกิดจากความเคารพศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อศาสดา ในอดีตการแก้บนวิ่งด้วยม้าก้านกล้วย แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้ผ้าขาวม้าแทน

การบนวิ่งม้าที่วัดแห่งนี้ ส่วนใหญ่เป็นการบนบาน เพื่อไม่ให้ถูกเกณฑ์ทหาร ตลอดจนบนให้ประสบความสำเร็จในด้านอื่นๆ โดยมีข้อห้ามมิให้พูดคำว่า "ขอ" เป็นอันขาด

การแก้บนจะทำที่ใบเสมาแรกทางด้านหน้าของพระอุโบสถ เพราะตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกับหลวงพ่อศาสดาพอดี

ก่อนที่จะทำการวิ่งม้าแก้บน จะต้องนำผ้าขาว ม้ามาวางหน้าใบเสมาและต้องขมวดปมให้เรียบ ร้อย ผ้าขาวม้าผืนเล็ก-ใหญ่ ตามขนาดตัว

ในการวิ่งม้าแก้บน จะต้องวิ่ง 3 รอบขึ้นไป และต้องร้องเสียงม้าไปพร้อมกันด้วย

เมื่อวิ่งเสร็จนำผ้าขาวม้ามาวางกับพื้นตรงหน้าใบเสมาใบแรกแล้วกราบลา เป็นอันเสร็จพิธี

ปัจจุบัน วัดสุวรรณาราม มีการบริการให้เยาวชนในชุมชนวิ่งม้าแก้บนแทนผู้บนบานด้วย

........................................
ที่มา - ข่าวสด

5881
เครื่องรางไม่มีภูมิเลยครับผม ใช่เขี้ยวของหลวงพ่อนก วัดสังกะสี หรือเปล่าเอ่ย ท่านอื่นว่าอย่างไรบ้างครับ

5882
อ่อครับ อันนี้ก็ไม่ทราบจริงๆครับ :)

5883
อันนี้ปะครับท่านmix2555

5885
ฆ่าเชื้อโรคหรือเปล่าครับ ไม่ทราบเหมือนกัน ท่านอื่นมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ

5886
พระสมเด็จญาณวิลาศ หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี? ท่านมรณะภาพปีอะไรนะคับ ผมจำไม่ได้ พอดีผมมีเหรียญปี03 อยู่อะคับ ใครมีรูปและประวัติช่วยลงหน่อยนะคับ ใครมีเหรียญก็แบ่งกันชมมั้งนะคับ
วันมรณะภาพของ พระครูญาณวิลาศ ( หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี ) ตรงกับวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2517 ( แรม 8 ค่ำ เดือน 2 เวลา 21.05น. ) มรณะภาพด้วยโรคชรา ที่วัดเขาบันไดอิฐ สิริอายุ 96 ปี พรรษาที่ 74

5887
รุ่น 4 ใช่มั๊ยเอ่ย อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ประสบการณ์ พุทธคุณเรื่องคงกระพันและมหาอุดดีนัก (เห็นลานโพธิ์เคยตีพิมพ์ไว้นะครับ) หลวงพ่อเปิ่นของเรา  สุดยอดอยู่แล้วครับ :-*

5888
คาถาบูชาหลวงพ่อวัดไร่ขิง

(ตั้งนะโม 3 จบ)

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา มะเหสักขายะ เทวะตายะ อะธิปาถิตัง อิทธิปาฏิหาริกัง มังคะละจินตารามพุทธะปะฏิมากะรัง ปูชามิหัง ยาวะชีวัญจะ สุกัมมิโก สุขะปัตถิตายะ

5889
ครับ หลวงพ่อวัดไร่ขิง ถือว่าถูกโฉลกกับบ้านผมทีเดียว  เมื่อปีที่แล้ว วัดไร่ขิง ออกรุ่น มงคลจตุคาม แล้วมีแจกผ้ายันต์  ผมก็อยากได้ เตรียมตัวจะไปรับแจกที่วัดอยู่แล้ว จู่ๆ มีรถประชาสัมพันธ์หลวงพ่อวัดไร่ขิง รุ่นมงคลจตุคาม มาขอติดผ้าใบประชาสัมพันธ์ ผมก็ให้เค้าติด พอเสร็จ เขายื่นผ้ายันต์หลวงพ่อวัดไร่ขิงออกมาให้ 2 ผืน เลยไม่ต้องไปที่วัดเลยครับ อยู่ดีดี ผ้ายันต์ก็มาให้ถึงบ้าน ;D
   ที่ผมบูชาอยู่ เป็น กระเบื้องหลังคาโบสถ์หลวงพ่อวัดไร่ขิง แผ่นนึง ได้มาฟรีอีกแล้ว คุณลุงบุญยิ่ง (อยู่หอการค้าจังหวัดนครปฐม) แกแบ่งมาให้ ครับ :)

5892
? พระกริ่ง เห็นบอกว่า ปี 2516 ก็น่าจะมีชื่อหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ,หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม ร่วมปลุกเสกด้วยนะครับ (ความคิอเห็นส่วนตัวนะครับ)
   วิธีใช้พระกริ่งทั่วๆไป ก็นิยม นำมาแช่น้ำทำน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อดื่มกิน รักษาโรคภัยไข้เจ็บ อะไรเทือกนี้ครับ
   ในจังหวัดนครปฐม เราจะได้ยินชื่อ พระร่วงโรจนฤทธิ์,หลวงพ่อวัดไร่ขิง อยู่เสมอ ถือได้ว่าเป็นพระประจำจังหวัดได้เลยครับ เรื่องพุทธคุณ หายห่วงได้ครับ (ประสบการณ์มากมาย)

(คาถาของหลวงพ่อเต๋ ผมใช้ประจำทุกวันครับ ขอบคุณครับที่นำมาเผยแพร่)

5893
ดีครับ พี่สายัน พระดี แต่ไม่ดัง แถมราคาเยาว์อีก เก็บซะๆ :-*

5894
555+
บล็อคคอมพ์ทำแสบอีกแร้วว ;D ;D ;D

5895
ขอด้วย ปี 37 ลพ.เงิน :005: :002: :007:
รูปเหมือนปั๊ม หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ของพี่สายัน น่าจะดีครับ แต่ไม่ทราบว่าออกที่ไหน :-*

5896
มีครับ บล็อคนี้ ออกที่ สนามพระทั่วไปครับ พบเห็นได้ง่าย ราคาเช่าในสนาม ประมาณ 10 บาทต่อกำมืออ่ะครับ  ;D ;D ;D       
พระในภาพ ไม่ดีแน่นอนครับ แก่ปูน  และผิดพิมพ์นะครับ     
 :-*

5897
อ่าว ใครมีก็ช่วยสานต่อเจตนารมณ์ท่าน sophon  หน่อยนะครับ  (ผมไม่รู้จาไปหาที่ไหนมาลง) ;D ;D ;D

5898
เหรียญหลวงปู่จ้อย วัดบางช้างเหนือ ไม่มีข้อมูลเลยครับ เคยเห็นผ่านๆตา และก็ทราบเฉพาะประวัติของท่านคร่าวๆ อ่ะครับ
แต่ตามสภาพนั้น ไม่น่าจะเก๊นะครับ อย่างไรก็ลองฟังความเห็นของท่านอื่นด้วยครับ

5899
อืม ครับ รูปหล่อหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นี่เอง ( รูปหล่อไม่ค่อยได้เล่นเลยครับ )  ลงรูปประดับความรู้ ขอบคุณมากๆครับ (ทั้งหลวงพ่อแช่ม,หลวงพ่อพูล) 

หลวงพ่อพูล น่าจะได้รับการปลุกเสกจาก หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมด้วยนะครับ (เพราะเห็นว่าปี10)

 

5900
โอ้โห...!!!!
รูปแรก หลวงปู่จ้อย วัดบางช้างเหนืองามครับงาม พุทธคุณเหลือล้นอยู่แล้วครับ(เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมด้วย)
รูปหล่อ ( น่าจะมีกริ่งด้วย) ของท่านใดเอ่ย
พระผง หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ผมไม่เคยเห็นพิมพ์นี้เลยครับ  (ท่าทางจะถอดพิมพ์มาจากเหรียญรุ่นแรกของท่าน)

5901
รูปหล่อมาอีกแร้ว  ไม่ถนัดเลยผม  ถ้าเป็นผมนะครับ ผมตีเข้า รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม รุ่นแรก ปี 2500  (ของวัดวังน้ำขาว เคยเห็นแต่เป็น รูปเหมือนปั๊ม (ที่ช่วงนี้กำลังดัง) ) บอกคร่าวๆนะครับ ดูตามซอก จะมีคราบเบ้าปรากฏให้เห็น  ดูผิว อย่าให้มีรอยตามุ้ง (รอยตามุ้งพบมากในพระใหม่) รอยตะไบก้านชนวน ตรงฐาน ให้หยาบเป็นเสี้ยนไว้ก่อน (รูปหล่อสมัยก่อนไม่ปราณีตมากนัก)  พิมพ์ทรงถ้ามองในมุมนี้ ถือว่าเข้าเค้ามากทีเดียว ปรากฏผิวด้านในให้เห็นเป็นแห่งๆ ยืนยันความเก่าชัดเจน ครับ  ส่วนที่สำคัญคือตรงรอยตอก หลวงพ่อเงิน ที่ฐาน  ดูให้คมไว้ก่อนครับ ร่องของรอยตอกนั้น อย่าให้มีรอยตามดอย่างเด็ดขาด (รอยตามดที่ปรากฏในรอยตอก ถือว่าเป็นการถอดพิมพ์พระองค์จริงมา มักมีรอยฟองอากาศแบบพระหล่อทั่วไป)  ครับ

5902
ทางที่ดีอย่าอาบน้ำเลยจะดีกว่า 555? 8)
ระวังเน่านะจ๊ะ ;D ;D ;D

5904
บทความ บทกวี / ตอบ: คาถาเขาว่าโบราณ
« เมื่อ: 06 มี.ค. 2551, 07:27:28 »
ดีมากๆครับ จำหมดคงนานน่าดู  ;D

5905
สำนักวัดบางพระดีทุกๆรูปครับ  :-*

5906
ใครรู้..รบกวนบอกวิธีด้วยครับ..ขอบคุณล่วงหน้าครับ :090:
ลองหาดูในกระทู้เก่าๆดูนะครับ ท่าน  :-*

5908
? เหรียญแรก เสมาเล็ก หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม เสาร์ ๕ พ.ศ. 2516  เก๋าซะด้วย คมกริบ แถม บล็อดแรกอีกต่างหาก (บล็อคเสริม ลบเลข ๑ ออก เพื่อไม่ให้สับสน) เหรียญนี้ ทันหลวงพ่อเงิน ปลุกเศกด้วยนะครับ พุทธคุณไม่ต้องพูดถึง คนนครปฐมโดนกันมาเยอะแร้ว สภาพในรูป  หาจีวรมาห่ม ขึ้นคอได้เลยครับ
   รูป เป็นรูปของ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมครับ (ถ่ายสมัยยังหนุ่มๆอยู่)  ด้านหลังยันต์ นะทรหด (เน้นทางคงกระพัน มหาอุตม์ เป็นยันต์ครูของสายวัดดอนยายหอมครับ )  จากสภาพที่ปรากฏ  น่าจะเป็นรูปซีเปีย  เก่าดีครับ 
   วิธีพิจจารณารูปเก่า - รูปเก่า สมัยก่อน จะเป็นรูปซีเปีย ขาวดำ ต้องลองพลิกรูปกับแสงไฟดูครับ ถ้าเป็นซีเปีย จะสะท้อนคล้ายๆเงิน(พรรณาไม่ถูกเหมือนกันอ่ะครับ) ลองหารูปเก่าๆสมัยอากงอาม่า มาลองดูก็ได้ครับ มันจะเป็นอย่างนั้นแหละครับ  (ลองหาดูนะ)
   แนะนำนะครับ - หาเก็บหลวงพ่อแช่ม แทนหลวงพ่อเงิน ก็ได้ครับ (ถ้าสู้หลวงพ่อเงินไม่ไหว) พุทธคุณไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แถมหวงพ่อแช่ม ท่านยังเป็น พระอริยะสงฆ์เหมือนกับหลวงพ่อเงินด้วยครับ(ตามคำพูดของ หลวงพ่อเกษม เขมโก จ.ลำปาง)   เมตตา แคล้วคลาด คงกระพัน ครบเครื่อง
   
   

5909
ให้เหล้วข้าวอย่างไรครับ ชวยบอกที่ครับ ศิษย์พี่ทุกท่าน


ตามนี้อ่ะครับ :-*

5910
เอ ... ปกติก็เห็นพระลูกวัดท่านก็ปัดกวาดเช็ดถูอยู่ทุกวัน ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ในเมื่อพี่สายันแนะนำมา  ถ้าผมไปวัดดอนยายหอม ผมจะลองสอบถาม หลวงพ่อประพันธ์ ให้นะครับ  :-*

5911
พระสมเด็จญาณวิลาศ หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี ( ไม่ทราบว่าเป็นสมเด็จญาณวิลาศหรือเปล่านะครับ ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เห็นรูปทีแรกก็กะจะตีเป็น สมเด็จ หลวงพ่อแดง แล้ว )

ไม่สามารถพิจจารณาได้นะครับ ว่าแท้หรือเปล่า เพราะ....ไม่ได้เล่นสายนี้ครับ ... ;D ;D โทดทีนะครับ ไม่ว่ากันนะ :-*

5912
มาแล้วครับท่าน ตามคำเรียกร้อง ;D
   ในภาพเป็นเหรียญหลวงพ่อเงิน+หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม รุ่นฉลองสมณศักดิ์ หลวงพ่อแช่ม ที่ พระครูเกษมธรรมนันท์ ปี2516
    เหรียญของท่าน M007 และของท่านโจรสลัด บอกตามตรงนะครับ (อย่าว่ากันนะครับ) คือว่า .......เป็น....พระ....แท้ครับ .........100%
    แต่...เป็นบล็อคเสริมครับ ไม่ทันหลวงพ่อเงิน  เหรียญนี้แหละครับ ที่ผมเคยบอกไว้ว่า มีการสร้างเสริมออกมานับครั้งไม่ถ้วน  สังเกตง่ายๆครับ ว่าเหรียญไหนทันหลวงพ่อเงินหรือเปล่า  ให้สังเกตตรงที่ เหรียญด้านหลวงพ่อแช่ม  ถ้าทันหลวงพ่อเงิน ด้านบนของหลวงพ่อแช่ม จะมีคำว่า ฉลองสมณศักดิ์ และที่สำคัญ จะมีเลข 1 ไทย(๑) ปรากฏ ตรงปลายสังฆาฏิหลวงพ่อแช่ม ครับ
   เหรียญของทั้งสองท่านเป็นพระแท้ ครับ ไม่แน่ว่าอาจจะทันหลวงพ่อแช่ม ท่านปลุกเศกด้วยก็เป็นไปได้ครับ  สายวัดดอนยายหอม เก็บได้สบายใจหายห่วงครับ  ทั้งหลวงพ่อเงิน หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่ออวยพร หรือว่าแม้แต่ หลวงพ่อประพันธ์ เจ้าอาวาสวัดดอนยายหอม รูปปัจจุบัน
   ทั้งหลวงพ่ออวยพร และ หลวงพ่อประพันธ์ ต่างก็ได้เรียนวิชาอาคม มาจากทั้งหลวงพ่อเงิน และหลวงพ่อแช่ม ครับ เพราะฉะนั้น วัตถุมงคลของท่านทั้งสองนี้ จึงขึ้นคอได้อย่างสบายใจครับ

5913
สายนี้ต้องยกให้ท่านโจรสลัดเค้า เยี่ยม ;D ;D ;D

5914
ฮาๆๆ รู้ๆกันอยู่ครับท่าน  ถืดโอกาสโชว์ซะเรย ;D ;D ;D

5915
เมตตาดีครับท่าน อิอิ ;D ;D

5916
โห เก็บซะเยอะเลยนะครับ ขอบคุณครับที่แบ่งกันชม  ;D

5917
พุทธคุณจะเน้นหนักไปทางคงกระพัน และเรื่องผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ครับ ที่สำคัญ หลวงปู่แย้ม ท่านเคยบอกไว้ว่า พระสีสะแลงแงง สามารถพกพาเข้าที่อโคจรได้โดยไม่เสื่อม  วิธีบูชาก็ให้ด้วยเหล้าขาว น่าใช้มากๆครับ :-*

5918
ก่อนอื่นขอชม สิงห์งาแกะหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม สวยดีนะครับ อิจฉาเหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม รุ่นแรก ปี 2515  จากภาพไม่สามารถระบุได้ครับ ว่าเป็นบล็อคแรกหรือบล็อคเสริม (เป็นเพราะเหรียญวางไรนาบกับพื้นครับ ต้องดูมุมตรง จะได้สังเกตโค้ดเลข 67 ว่ากลมหรือยืน  สภาพรมดำดูเป็นธรรมชาติดีครับ รายละเอียดเส้นสายก็คมดีครับ  พื้นเหรียญตึงไม่บวม  ขอฟันธงไว้ก่อนครับ ว่าแท้ แต่ต้องดูบล็อคอีกทีนะครับ ถ้าถ่ายรูปมาใหม่เด๋วจะพิจจารณาให้ครับ
............................................................
ท่านอื่นมีความเห็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย
 8)

5919
22 มีนาคม ครับ :-*

5920
ที่วัดบางพระ เสาร์-อาทิตย์ คนเยอะมากครับ ส่วนเรื่องหลวงพี่พันธ์ไม่ทราบครับ :)

5921
เหมือนเดิมครับผม ;)

5922
อยากเหนียวต้องกินข้าวเหนียว? ;D มันเกี่ยวป่ะเนี่ยะ อิอิ

ก็ดีครับ ประสบการณ์มากมายหนาหูอยู่แล้วนะจ้ะ ศิษย์หลวงพ่อเปิ่น ซะอย่าง? ;D
ช่ายครับ อยากเหนียวต้องกินข้าวเหนียว (เหนียวดำ) อ.ประจวบ คงเหลือ ;D ;D ;D

5924
เนื้อดินไม่ค่อยถนัดครับ พอไปได้ ส่วนมากจะถนัดเหรียญมากกว่าครับ :-*

5925
มาแล้วครับ
หลักในการพิจจารณาพระเนื้อดินทั่วไปขั้นแรกดูประวัติการสร้าง ว่าใช้ดินอะไร พระโคนสมอองค์นี้ ทำจากดินผสมผงใบลานเผา  (จากประวัติ หลวงพ่อเงินท่านนำดิน มาจากทุ่งดอนยายหอมครับ  เนื้อดินค่อนข้างหยาย ท่านจึงกรองด้วยผ้าขาวบาง และผสมกับผงใบลานเก่าของทางวัด กดพิมพ์พระเสร็จแล้ว ก็นำพระใส่ในโอ่งขนาดเล็กสุมไฟ 7วัน7คืน พร้อมกับบริกรรมคาถาไปด้วย นี่เป็นพระชุดแรกครับที่หลวงพ่อเงินท่านสร้างไว้แจกชาวบ้านที่มาช่วยงานที่วัด ประมาณปี 2480กว่าๆ)เนื้อพระจึงละเอียด พระเนื้อผงใบลานถ้ามีความเก่า จะเป็นสีดำมันครับ(คล้ายๆกับเนื้อพระกริ่งคลองตะเคียน)  พระโคนสมอในภาพ มีความดำมันตามอายุการสร้าง 70กว่าปี ข้อนี้ผ่านเกณฑ์ครับขั้นต่อมา พิจจารณาพิมพ์ทรง พระเนื้อดินเผาทั่วไป พิมพ์ขอให้ลึกไว้ก่อนครับ จำไว้ครับ ขอให้พิมพ์ชัดเจน ไม่เบลอหรือพิมพ์ตื้น(เบลอเกิดจากการถอดพิมพ์พระ)  พระโคนสมอในภาพ พิมพ์ทรงคมชัดเจนครับ ข้อนี้ก็ผ่านเกณฑ์ครับ


ขั้นต่อมา การพิจจารณาความเก่าของพระเนื้อดิน พระเนื้อดิน ถ้าเป็นพระเก่า ก็จะปรากฏรอยเนื้อดินยุบตัวครับ เป็นธรรมชาติของพระเนื้อดินทั่วไปครับ พระโคนสมอในภาพ ปรากฏรอยยุบตัวของเนื้อดินอย่างเห็นได้ชัดครับ สังเกตบริเวณซุ้มเรือนแก้ว บริเวณองค์พระ โดยเฉพาะบริเวณหัวไหล่ด้านซ้ายจะเห็นได้ชัดเจนครับ ข้อนี้ก็ผ่านเกณฑ์อีกเช่นกันครับ[/coloสรุปนะครับ พิมพ์ถูก เนื้อใช่ เก่าถึงยุค  แท้แน่นอน 100% ฟันธงครับ :-*r]

5926
เหรียญโก๋ เล็ก หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม พิจารณาคร่าวๆแล้วพิมพ์ถูก พื้นเหรียญไม่บวม ขอบข้างมีรอยตัดขอบชัดเจน น่าจะแท้นะครับ ( เหรียญโก๋ของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ทำจากเนื้ออัลปาก้า ถ้าผ่านกาลเวลามาพอสมควร เนื้อที่เป็นสีเงินตอนแรก จะเป็นสีเงินอมเหลืองครับ  คล้ายๆกับกำไลข้อมือ วัดบางพระ ปี 48 สีเงินครับ ใช้ไปเรื่อยๆก็จะออกเหลืองครับ ถือว่าเป็นข้อพิจจารณาเหรียญโก๋หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ที่สำคัญอีกข้อนึงครับ)   :-*

5928
พระของหลวงพ่อเปิ่นทุกรุ่น สบายใจได้ครับพี่น้อง ;D

5929
สุดยอดพิธีกรรมครับ...เพราะเคยไปร่วมพิธีมาครับ...น้ำที่ใช้ในการหุงข้าวเหนียวดำ ว่านยาล้วน ๆ ครับ...ไว้จะเอาภาพมาให้ชมครับ :)
สุดยอดครับพี่ จะรอชมรูปนะครับ :) (เห็นว่าต้องดำน้ำไปกินใต้น้ำด้วยจริงหรือเปล่าครับ) ::)

5930
ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องแยกกันทำ
เด๋วผมไปถามมาให้นะครับ ;D

5931
ปลอมนะครับ เค้าตั้งใจทำให้เป็นของปี 36 เนื้อหาไม่ได้ใกล้เคียงเลยครับ ด้านหลังก็ไม่ใช่อีกเช่นกันครับ :'(

5934
เนื้อดินสีแปลกๆ ไม่ทราบว่าปิดทองด้วยหรือเปล่าครับ   :)

5935
ได้ความรู้อีกแล้ว ขอบคุณครับท่านหอมเชียง

5936
น่าจะแท้ครับ แต่ไม่ทราบรุ่นอ่ะครับ :)

5937
น่าจะหายแล้วนะครับท่าน ลองเข้าไปหาดูนะครับ :-*

5938
ผมก็มีไม่ได้ฝังพลอย ให้เขาไปแล้ว แบ่งๆ กันไป อิอิ? ;D
ไม่แบ่งมาทางนี้มั่งน๊อ (ล้อเล่งคับ มีเยอะแระ) ;D

5939
แนะนำครับถอดพระออกจากกรอบสแตนเลสก่อนครับ ภาพจะได้ไม่สะท้อนแสง

5940
ภาพไม่ชัดครับ น่าจะเป็นปี 2536

5941
สวยแล้วยังฝังพลอยอีก เยี่ยมครับเยี่ยม
 :-*

5942
นั่งมาลงนครปฐมคับ ลงแถวท่านา(นครชัยศรี)เพื่อต่อรถเข้าบางพระอีกทีนึง 
ที่วัดบางพระมีพระอาจารย์ที่สักอยู่หลายท่านครับ จะเข้าไปหาท่านไหนก็ได้ครับ ศิษย์หลวงพ่อเหมือนกันครับ(หลวงพี่แป๊ว,หลวงพี่ติ่ง,หลวงพี่ญา,ฯลฯ)
ค่าครูหมึกกับน้ำมันเท่ากันนะครับ
เรื่องที่จะหาอะไรไปถวายนั้นแล้วแต่ศรัทธาครับ :-*

5943
ดูแล้วครับ ทันหลวงพ่อเปิ่นชัวร์ครับ :-*

5944
ผมว่าไม่เห็นยากเลย? ถ้าอยากได้จริงๆ? ไปหน้าวัดตรงแผงพี่กวง?  หรือแผงพี่จ๊ะ(แผงพี่ดมเก่า)? ยังไงก็ยังพอหาได้? ? ไม่ต้องกลัวเก๊?  เพราะพวกพี่ๆเขาอยู่หน้าวัดไม่กล้าเอาของเก๊มาขายหรอก?  ราคาค่าบูชาจะถูกหรือแพงอยู่ที่เราต่อรองกับเขาครับ?  ดีกว่าไปหาตามศูนย์พระเครื่องเพราะดีไม่ดีเจอเหรียญเก๊มาเหรียญ อาจทำให้จุกได้ครับ?  ราคาตามท้องตลาดน่าจะสัก6000-10000? แล้วแต่สภาพครับ?  ถ้ายังกลัวเก๊อีกก็ให้เขารับประกันให้ก็ได้ครับ? ผมก็ได้จากหน้าวัดนี่แหละครับ
แผงอากวง,ลุงเปี๊ยก ไว้ใจได้ครับ (ญาติห่างๆผมเอง แถวห้วยพลูคงรู้จักกันดีนะครับ  ;D ;D ;D)

5945
คาถาเรียนเก่ง!! ...(ใครใกล้สอบรีบอ่านลเย...)
เข้าไปดูกันเองนะครับ (ไม่กล้าลง อิอิ)
http://www.dhammadelivery.com/webboard.php?action=show&id=1807
รับประกันความฮา ;D ;D ;D

5946
มันคือไรครับ
พระสีสะแลงแงง ที่สำคัญเนื้อผงซะด้วย (หายากส์มั่กขอบอก) ;D

5947

"หลวงปู่ดี จัตตมโล" หรือพระครูสุนทรสุวรรณกิจ พระเกจิชื่อดังในจังหวัดสุพรรณบุรี ต้นตำรับพระปิดตาและพระผงสุพรรณ ปี 2514 ได้มรณภาพลงอย่างสงบด้วยโรคชรา ภายในกุฏิวัดพระรูป ท่ามกลางความเศร้าสลดของคณะศิษยานุศิษย์ทั่วไป

หลวงปู่ดี จัตตมโล สิริอายุ 96 ปี พรรษา 73 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระรูป ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า นายดี ศรีขำสุข เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2454 ที่บ้านคันลำ ต.ดอนตาล อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายปั้น และ นางหรุ่น ศรีขำสุข มีพี่น้อง 5 คน ท่านเป็นบุตรคนสุดท้อง

ในช่วงวัยเยาว์ ได้ติดตามพี่ชายคือ พระอาจารย์เผื่อน ปุสสชิโน (ศรีขำสุข) ซึ่งบวชเป็นพระภิกษุ มาอยู่อาศัยที่วัดพระรูป ได้ศึกษาเล่าเรียนภาษาขอมกับ พระอาจารย์คง วัดไชนาวาส เขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี และเรียนหนังสือไทยกับ พระอาจารย์ช้าง เจ้าอาวาสวัดพระรูป

ครั้นอายุ 23 ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดไชนาวาส โดยมี พระครูสมณะการพิสิฐ (หลวงพ่อท้วม) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูถาวรสุวรรณคุณ (หลวงพ่อคำ) เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และ พระอาจารย์บุญ วัดไชนาวาส เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากอุปสมบทได้อยู่จำพรรษาที่วัดพระรูป และมุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมและพระธรรมวินัย สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี ในปี พ.ศ. 2524 ได้รับแต่งตั้งจากคณะสงฆ์จังหวัดสุพรรณบุรี ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระรูป

พ.ศ.2488-2520 หลวงปู่ดี ได้ร่วมกับคณะกรรมการวัด พระภิกษุ-สามเณร บูรณปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัด เช่น กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ พระอุโบสถ

พ.ศ.2512-2514 หลวงปู่ดี ได้สร้างพระเครื่องและพระบูชาแบบต่างๆ เพื่อหาเงินสร้างวิหารพระพุทธไสยาสน์ โดยท่านได้ตั้งจิตอธิษฐาน จุดธูปเทียนบูชาพระ ชุมนุมเทวดา ก่อนปฏิญาณตนต่อหน้าพระพุทธรูป ว่า

"ข้าพเจ้าขอสร้างพระชนิดต่างๆ เพื่อนำเงินมาบูรณะวัดพระรูป จะไม่นำเงินส่วนนี้มาใช้ส่วนตัวเป็นอันขาด ถ้าข้าพเจ้าเอาไปใช้ส่วนตัว ขอให้ตกนรกอย่าได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีกเลย"

หลวงปู่ดีได้นิมนต์พระคณาจารย์ รวบรวมดอกไม้ร้อยแปด ว่านร้อยแปด แร่ธาตุต่างๆ และผงกรุต่างๆ นำมาสร้างพระเครื่องขึ้น ดังนี้ พระผงสุพรรณ, พระนางพญา, พระซุ้มกอ, พระสมเด็จ, พระรอด, พระกำแพงศอก, พระพุทธรูปบูชา 3 สมัย คือ เชียงแสน สุโขทัย และอู่ทอง โดยมีพิธีพุทธาภิเษกครบไตร มาส 3 เดือนเต็ม จึงได้นำออกมาให้เช่าบูชา

นอกจากนี้ ยังมีพระขุนแผน รุ่นปี"13 พระกรุของวัดพระรูป ชุดกิมตึ๋ง ประกอบด้วยพระสี่กร พระมอญแปลง พระประคำรอบ พระนาคปรกชุมพล รวมทั้งพระกรุขุนแผนไข่ผ่าซีก เป็นพระกรุยอดนิยม ที่เซียนพระทั้งประเทศรู้จักกันดี

พระเครื่องทุกแบบ ทุกพิมพ์ ทุกรุ่น ที่หลวงปู่ดีสร้างปรากฏว่าได้รับความนิยม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองสุพรรณบุรี จนกระทั่งถึงระดับประเทศ ได้ชื่อว่า เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังระดับประเทศอีกรูปหนึ่ง ที่เปี่ยมไปด้วยเมตตา สามารถกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ

จนกระทั่ง เมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 18 ก.พ. พระลูกศิษย์ใกล้ชิด ได้เข้าไปถวายภัตตาหารหลวงปู่ดี ที่นอนพักผ่อนในกุฏิ ปรากฏว่าขณะที่หลวงปู่ดีลุกขึ้นรับอาหารเสริม ได้ล้มหงายแน่นิ่งบนที่นอน

พระลูกศิษย์ใกล้ชิดรีบเข้าไปพยุง แต่ปรากฏว่าหลวงปู่ดีได้ละสังขารไปแล้ว

นับเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของพุทธศาสนิกชนชาว จ.สุพรรณบุรี และลูกศิษย์ที่เคารพนับถือของหลวงปู่ดี ซึ่งมีอยู่มากมายทั้งใน จ.สุพรรณบุรี และต่างจังหวัด

ทั้งนี้ วัดพระรูปแจ้งว่า หลังจากหลวงปู่มรณภาพแล้ว ได้สั่งไว้ว่า ให้จัดการศพให้เสร็จภายใน 30 วัน ในการจัดพิธีบำเพ็ญกุศล พิธีสรงน้ำศพ และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 16 มีนาคม 2551

แม้วันนี้หลวงปู่ดี จะละสังขารไปจากโลกนี้แล้ว แต่กุศลผลบุญแห่งความดีที่ยังคงปรากฏอยู่ในใจของพุทธศาสนิกชนตลอดไป
......................................................................
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 2 มีนาคม 2551(http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdPVEF5TURNMU1RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHdNeTB3TWc9PQ==)

5948
ทำบุญครบ100วัน"ครูบาผัด"



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้ประกอบพิธีทำบุญครบ 100 วัน พระครูพิศิษฏ์ สังฆการ หรือครูบาผัด อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล เจ้าของตำรับตะกรุดกาสะท้อนกลับอันโด่งดัง ที่ได้มรณภาพลง เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2550 ในการทำบุญครบ 100 วันครั้งนี้ มีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมพิธีในการสวดอภิธรรมกันจำนวนมาก ทางวัดศรีดอนมูล จึงต้องใช้ลานปฏิบัติธรรมบริเวณใต้ร่มไม้ด้านล่างวิหารเพิ่มเติมให้เพียงพอกับจำนวนพระสงฆ์ที่มาร่วมกันสวดอภิธรรมดังกล่าว ทั้งนี้ พระครูสิริศีลสังวร หรือครูบาน้อย เตชปัญโญ รักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล ซึ่งเพิ่งออกจากนิโรธกรรม ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดทำพิธีทำบุญครบ 100 วัน ครูบาผัด พิธีการได้ดำเนินการกระทั่งเวลา 12.00 น.จึงแล้วเสร็จ พระครูสิริศีลสังวร หรือครูบาน้อย เตชปัญโญ ได้เปิดเผยว่า ครูบาผัด ได้มรณภาพไปเมื่อวันที่ 18 พย.50 ซึ่งได้มีการกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพพระครูพิศิษฏ์ สังฆการ หรือครูบาผัด ในวันที่ 30 มีค.51 สำหรับสถานที่ในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพนั้น ทางวัดได้จัดสถานที่ไว้แล้ว เป็นบริเวณลานปฏิบัติธรรมเจดีย์ 9 คณาจารย์ หลังจากนั้น จะสร้างพระสถูปเจดีย์ให้กับครูบาผัดอยู่บริเวณด้านหลังอีกครั้ง เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้กับลูกหลานได้มากราบไหว้ต่อไป


5949

พระพุทธชินราช วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ
พระพุทธชินราช (จำลอง) วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย นั่งสมาธิราบ จำลองแบบจากพระพุทธชินราช วัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก วัสดุสัมฤทธิ์

ปัจจุบัน ประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เขตดุสิต กรุงเทพฯ

พระพุทธชินราช มีขนาดหน้าตัก 5 ศอกคืบ 5 นิ้ว มีเศษ น้ำหนักทองที่ใช้หล่อ 3,940 ชั่ง

ตามตำนานเล่าว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สถาปนาวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม พุทธศักราช 2442 โปรดให้ออกแบบพระอุโบสถตกแต่งไว้ด้วยหินอ่อนงดงามวิจิตร จำเป็นต้องแสวงหาพระประธานที่มีความทัดเทียมกัน

ทรงระลึกได้ว่า เมื่อ พ.ศ.2409 ทรงบรรพชาเป็นสามเณรได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปนมัสการพระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่งดงามไม่มีที่เปรียบ แต่การจะอัญเชิญลงมา ย่อมไม่สมควร ด้วยเป็นสิริของชาวพิษณุโลก จึงมีดำริให้หล่อขึ้นใหม่
 


พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้พระประสิทธิปฏิมา (ม.ร.ว.เหมาะ ดวงจักร) จางวางช่างหล่อขวา ซึ่งเป็นช่างหล่อฝีมือดีที่สุด ขึ้นไปปั้นหุ่นถ่ายแบบจากพระพุทธชินราชองค์เดิม ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก

แล้วเสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อเป็นส่วนๆ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2444 อัญเชิญล่องเรือมาคุมองค์และแต่งที่กรมทหารเรือ โดยพระยาชลยุทธโยธิน (Andre du Plessis de Richelieu) ชาวเดนมาร์ก เข้ามารับราชการเป็นทหารเรือ มียศเป็นพลเรือโท ตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ เป็นผู้ควบคุมการแต่งองค์พระ เสร็จแล้วเชิญลงเรือมณฑปแห่ไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2444

เมื่ออัญเชิญพระพุทธชินราชขึ้นประดิษฐานแล้ว ต่อมาถึงปลายปี พ.ศ.2452 จึงโปรดเกล้าฯให้จ้าง นายซึรุฮารา (Mr.Tsuruhara) ครูช่างในโรงเรียนวิชาช่างกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เข้ามาทำการปิดทองจนแล้วเสร็จ และโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานสมโภช ในวันที่ 5 สิงหาคม 2453

พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย มีเรือนแก้ว ประทับนั่งเหนือรัตนบัลลังก์หินอ่อน เรือนแก้วนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้ทำถวาย เมื่อ พ.ศ.2455 แต่ช่างทำไม่งาม รัชกาลที่ 7 จึงโปรดเกล้าฯ ให้แก้ไขใหม่สวยงามตามที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ที่มีความสวยงามเลื่องชื่อเป็นอันดับต้นของเมืองไทย จนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ด้วยความงดงามของพระอุโบสถ พระระเบียง ประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี รังสรรค์ให้วัดเบญจมบพิตรฯ กลายเป็นอารามที่มีความวิจิตรงดงาม ด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมไทยโบราณ

สำหรับการเดินทางไปเยี่ยมชมวัดเบญจมบพิตรฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือเหมารถตู้รวมกลุ่มกันไปเยอะๆ สามารถหาที่จอดรถได้ง่ายๆ บริเวณริมถนนติดคลองด้านหน้าของวัด

อีกวิธีเป็นการเดินทางแบบประหยัดด้วยการนั่งรถประจำทาง สาย 5 16 23 หรือรถปรับอากาศ สาย 503 505 509 เป็นต้น หรือโบกรถแท็กซี่ให้ไปส่งได้

สามารถเดินทางมาตามเส้นทางถนนสายใหญ่ คือ ถนนพระรามที่ 5 ถนนศรีอยุธยา ถนนราชดำเนินนอก และถนนพิษณุโลก จะแลเห็นพระอุโบสถวัดตั้งโดดเด่นเป็นสง่า

วัดเบญจมบพิตรฯ แห่งนี้ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเป็นเวลา ไม่ได้เปิดตลอดทั้งวัน ด้วยเกรงจะเป็นการรบกวนการปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุ-สามเณร เวลาทำการ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. พระอุโบสถ ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

เสียค่าธรรมเนียม-ค่าเข้าชม สำหรับชาวต่างชาติ จำนวน 20 บาท ส่วนเราๆ ท่านๆ จะบริจาคปัจจัยบ้างเล็กๆ น้อยๆ เป็นค่าบำรุงดูแลศาสนสถาน

ไปเยี่ยมชมความสวยงามของวัดและเข้าไปกราบพระพุทธชินราช (จำลอง) เสริมความเป็นมงคลให้กับชีวิตได้อย่างดี


5951
บุญพาวาสนา จะนำท่านสู่ความสมหวังซักวัน :-*

5952
 ;D ;D อย่าเผลอใส่ชุดนักเรียนไปสักหล่ะครับ  และอีกอย่างที่สำคัญ ทำหน้าให้แก่เข้าไว้นะ ;D ;D

5953
ลองศึกษาดูนะครับ
ตามนี้ http://www.lanpomagazine.com/b/index.php?option=com_content&task=view&id=1252&Itemid=83
 :-*

5954
ไม่แน่ใจครับ สำหรับโก๋เล็ก หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม อย่างไรก็ลองดูขอบเหรียญดูนะครับ ถ้าไม่มีรอยตัดขอบแบบว่าเรียบไปเลย(เพราะตัดครั้งเดียว)  แสดงว่าเก๊  ถ้ามีรอยขยักของการตัดขอบเหรียญแสดงว่าเป็นของแท้ครับ  ที่ผมไม่กล้าชี้ชัดเพราะตอนนี้ของเก๊ฝีมือเฉียบขาดมากครับสำหรับเหรียญโก๋เล็ก :-*

5955
เหรียญหลวงพ่อเงิน ปี 2500 ไม่ดีครับ เก๊

5956
ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2551
เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่29 กพ. พ.ต.ต. วินัย โห้เหรียญ สารวัตรเวร สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งมีคนถูกแทงที่หน้าหอพักคนงาน ภายในซอยสุขุมวิท พัทยา 81 หมู่10 ต.หนองปรือ รุดไปตรวจสอบพบกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลบางละมุง ทราบชื่อ นายประเสริฐ มากกลาง อายุ 37 ปี หน.ฝ่ายคลังกระเบื้องบริษัทซีเมนต์ไทยโฮมมาร์ทพัทยา มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมตามลำตัวและต้นคอ รวม 8 แผล ส่วนมือมีดตำรวจตามจับกุมได้ในเวลาต่อมา ทราบชื่อนายสมาน นพสกุล อายุ 38 ปี พนักงานขับรถส่งสินค้าบริษัทเดียวกัน สอบปากคำให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มสุรากัยเพื่อนคนหนึ่ง แล้วมีปากเสียงทะเลาะกับนายประเสริฐที่เดินผ่านมา แต่ไม่มีอะไรรุนแรง หลังแยกย้ายกันกลับหอพัก ปรากฏว่านายประเสริฐยังไม่หายโกรธบุกมาที่หอพักหมายจะทำร้าย จึงคว้ามีดหมอลงอักขระยันต์ของหลวงพ่อเปิ่นที่วางไว้บนหิ้งพระออกมาเป็นอาวุธกระหน่ำแทงนายประเสริฐเสียชีวิต

5957
หามาแทบตาย วันนี้เจอแล้วครับ เลยนำมาฝากพี่น้องบอร์ดบางพระที่อยากได้ชานหมากหลวงปู่ทิม วัดพระขาว สำหรับพี่น้องชาวบอร์ดบางพระต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้วครับ เพราะเป็นชานหมากขนาดจัมโบ้ (เท่าผลมะนาวเลยทีเดียว) อยากได้เข้าไปดูกันเอาเองนะครับ ที่วัดโล่ห์ www.watlo.net  :-*

5958
ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด  ( http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOREF4TURNMU1RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHdNeTB3TVE9PQ==)


พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ

 
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร" หรือ พระแก้วมรกต เป็นพระประธานคู่บ้านคู่เมืองปางสมาธิ ทำด้วยมณีสีเขียวเนื้อเดียวกันทั้งองค์ หน้าตักกว้าง 48.3 เซนติเมตร สูงตั้งแต่ฐานถึงยอดพระเศียร 66 เซนติเมตร ประดิษ ฐานอยู่ในบุษบกทองคำ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดา ราม ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พอรวบรวมได้ว่าองค์พระแก้วมรกตสร้างขึ้นในประมาณปี พ.ศ.500 โดยพระนาคเสนเถระ เมืองปาฏลีบุตร อินเดีย เข้ามาสู่ดินแดนของไทยครั้งแรกในอาณาจักรอโยธยา

จากนั้นอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระแก้วเมืองชากังราว หรือกำแพงเพชร จากกำแพงเพชรได้อัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระแก้วเชียงรายเป็นเวลา 45 ปี จากนั้นก็อัญเชิญลงมาประดิษฐานที่ลำปางอีก 32 ปี จากลำปางอัญเชิญขึ้นเหนือไปประดิษฐานที่วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ เป็นเวลา 85 ปี

จากเชียงใหม่ไปประดิษฐานที่เมืองเวียงจันทน์ 225 ปี แต่เก่าก่อนตอนปลายสมัยอยุธยา เมืองเวียงจันทน์ตกเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยา ครั้งเมื่อกรุงศรีอยุธยามีศึกหนักกับพม่าจนตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า ทางเวียงจันทน์ถือโอกาสแข็งเมืองแยกตัวเป็นอิสระ
 


จนกระทั่งพระเจ้าตากกอบกู้เอกราชได้และตั้งราชธานีใหม่ จึงได้ส่งเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกไปตีเมืองเวียงจันทน์ให้กลับมาเป็นเมืองขึ้นเหมือนเดิม ศึกครั้งนั้นทัพของเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้รับชัยชนะโดยเด็ดขาด ก่อนได้อัญเชิญพระแก้วมรกตกลับคืนสู่แผ่นดินไทย

ครั้งแรกเมื่ออัญเชิญพระแก้วมรกตกลับมายังประเทศไทยในสมัยกรุงธนบุรี ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ที่วิหารน้อยวัดอรุณราชวราราม ประดิษฐานอยู่ที่วัดอรุณฯ เป็นเวลา 5 ปี

เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกเมื่อชนะศึกเมืองเวียงจันทน์และได้อัญเชิญพระแก้วมรกตกลับมาก็เกิดความยินดี ดั่งว่าพระแก้วมรกตเป็นพระคู่บารมีคู่บ้านคู่เมือง ครั้นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ได้สำเร็จ และได้ตั้งเมืองขึ้นใหม่มีชื่อว่า กรุงรัตนโกสินทร์

รวมระยะเวลาที่องค์พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่พ.ศ.2321 จนถึงปัจจุบันนี้เป็นเวลา 227 ปี

พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระราชศรัทธาสร้างเครื่องทรงถวายเป็นพุทธบูชาสำหรับฤดูร้อนและฤดูฝน

เครื่องทรงสำหรับฤดูร้อน เป็นเครื่องต้นประกอบด้วยมงกุฎพาหุรัด ทองกร พระสังวาล เป็นทองลงยา ประดับมณีต่างๆ จอมมงกุฎประ ดับด้วยเพชร เครื่องทรงสำหรับฤดูฝน เป็นทอง คำ เป็นกาบหุ้มองค์พระอย่างห่มดอง จำหลักลายที่เรียกว่าลายพุ่มข้าวบิณฑ์ พระเศียรใช้ทองคำเป็นกาบหุ้ม ตั้งแต่ไรพระศกถึงจอมเมาฬี เม็ดพระศกลงยาสีน้ำเงินแก่ พระลักษมีทำเวียนทักษิณาวรรต ประดับมณีและลงยาให้เข้ากับเม็ดพระศก

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างเครื่องฤดูหนาวถวายอีกชุดหนึ่ง ทำด้วยทองเป็นหลอดลงยาร้อยด้วยลวดทองเกลียว ทำให้ไหวได้ตลอดเหมือนกับผ้า ใช้คลุมทั้งสองพาหาขององค์พระ

บุษบกทองที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร สร้างด้วยไม้สลักหุ้มทองคำทั้งองค์ ฝังมณีมีค่าสีต่างๆ ทรวดทรงงดงามมาก เป็นฝีมือช่างรัชกาลที่ 1 เดิมบุษบกนี้ตั้งอยู่บนฐานชุกชี

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเบญจาสามชั้นหุ้มด้วยทองคำ สลักลายวิจิตรหนุนองค์บุษบกให้สูงขึ้น บนฐานชุกชีด้านหน้า ประดิษฐานพระสัมพุทธพรรณี เป็นพระพุทธรูปที่คิดแบบขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยไม่มีเมาฬี มีรัศมีอยู่กลางพระเศียร จีวรที่ห่มคลุมองค์พระเป็นริ้ว พระกรรณเป็นแบบหูมนุษย์ธรรมดาโดยทั่วไป

หน้าฐานชุกชีประดิษฐานพระพุทธปฏิมากรฉลองพระองค์รัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 2 องค์ ด้านเหนือพระนามว่า พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก องค์ด้านใต้พระนามว่า พระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระพุทธรูปทั้ง 2 พระองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์สูง 3 เมตร ทรงเครื่องแบบจักรพรรดิหุ้มทองคำ เครื่องทรงเป็นทองคำลงยาสีประดับมณี

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นวัดที่สำคัญและเป็นที่เชิดหน้าชูตาของเมืองไทย ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมอยู่ไม่ขาดสาย

5959
มาแล้วครับ
เหรียญหลวงพ่อเปิ่นไม่น่าจะมีปัญหา ยืนยันอีกเสียงว่าแท้แน่นอน
สำหรับเหรียญหลวงพ่อเงิน ปี 2500 บอกตามตรงว่า เก๊ครับ สังเกตได้จาก ของแท้ ด้านหน้า เป็นบล็อคขี้กลาก (ขี้กลากนี้เกิดจาก นำแม่พิมพ์เหรียญเสมารุ่นแรก หลวงพ่อเงิน พ.ศ.2493 มาใช้ปั๊มรุ่น 2500 ครับ เก็บแม่พิมพ์ไว้นาน แม่พิมพ์จึงเกิดสนิม ผุกร่อนไปบ้าง แต่ก็ยังพอใช้การได้อยู่ ทำให้ปรากฏเป็นขี้กลากบนเหรียญครับ และช่างก็ได้ลบตัวอักษรหลวงพ่อเงินด้านบนออก เพื่อไม่ให้สับสนกับเหรียญรุ่นแรก) รูปหลวงพ่อเงินก็ดูเพี้ยนๆไปครับ
ส่วนด้านหลัง ทำได้เนี๊ยบแล้ว แต่ยังดีไม่พอ ถ้าจะว่าบล็อคเคลื่อน ก็คงเคลื่อนเยอะไปทีเดียว รายละเอียดด้านหลัง ตำแหน่งในภาพต่ำเกินไปครับ (เท่าที่ผมเคยเห็นของแท้มานะครับ) ตัว อุ น่าจะอยู่ในระนาบเดียวกับขอบเหรียญด้านบนครับ
 สรุป หลวงพ่อเปิ่นแท้ หลวงพ่อเงินไม่แท้ครับผม
 :-*

5960
เป็นอย่างไรหว่า ::)

5961
ได้นะครับ ไม่ต้องกังวล สบายใจได้ครับท่าน ;)

5962
ขอบคุณมากๆครับ

5963

ตอนแรกไม่รู้นึกว่าเป็นองค์เดียวกับวัดระหารไร่ ระยอง ตกลงในประเทศไทยเรามีหลวงปู่ทิมกี่องค์ครับ
หลวงปู่ทิม วัดพระขาว,หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่,หลวงปู่ทิม วัดช้างให้ ส่วนฆาราวาสอีก 2 ลองถามท่านหอมเชียงดูนะครับ :D

5964
ขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วยครับ :'(

5966
                                                                                           
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ( http://www.thairath.co.th/news.php?section=specialsunday02&content=79148 )
ความศรัทธา...เป็น พลังของความเชื่อถือ และยึดมั่นต่อสิ่งนั้นๆอย่างมีสติ มิใช่มากล้นจนหลงใหล แต่อาจมีการเปลี่ยนในปริมาณได้บางเวลา คือ อาจเพิ่มพูน หรือเสื่อมสลายลงเมื่อใดก็ได้...โดยไม่มีกำหนดวาระและกฎเกณฑ์

นาวาอากาศตรี ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย ที่มีความสามารถ เก่งกาจจนได้รับการบันทึกว่าเป็น ซุปเปอร์สตาร์ ดาราเอเชีย...ทั้งเพื่อนร่วมทีม และแฟนบอลมี ความเชื่อมั่นศรัทธากับตัวเขาในทักษะของเกม

...แต่ในบางลีลา ตัวเขาเองกลับศรัทธาต่อเครื่องรางของขลัง ด้วยเพิ่มความมั่นใจว่า ช่วยให้สิ่งต่างๆเกิดความสำเร็จได้ เหนือจากความสามารถของตนเอง

O O O

ดาวซัลโวลูกหนัง...เกิดความมั่นใจว่า ตะกรุด ของ หลวงพ่อยงยุทธ วัดไผ่เลี้ยง มีพลังส่งผลให้มีสิ่งดีๆเข้ามาในวิถี...

อย่างเช่น...หน้าที่การงานราบรื่น การเงินหมุนเวียนดี บ่อยครั้งที่ได้รับเม็ดเงินก้อนโตๆ มีผู้ใหญ่คอยค้ำชูอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้งงานเขียนหนังสือ “เคล็ดลับการเล่นฟุตบอล” ก็มีการตอบรับจากนักอ่านเป็นอย่างดี

และยังได้รับการ ทาบทามจากโทรทัศน์หลายช่องให้ดำเนินการเป็นพิธีกรร่วม พากย์กีฬาฟุตบอล เมื่อไม่นานมานี้ได้เดินทางไปดูงานสำนักลูกหนัง เบคแคม อะคาเดมี่...ก็ยัง พกตะกรุดไปด้วย

O O O

ตะกรุดชุดนี้มี 4 ดอก 4 สีสดสวย...ซึ่ง เป็นได้ทั้งเครื่องรางของขลัง และ เครื่องประดับ ไปในตัว

...ตะกรุดสีเงิน กับ สีทอง อย่างละดอก มีชื่อรวมกันว่า “ตะกรุดรับเงินรับทอง” ภายในบรรจุผงแร่เงินล้าน ผงต้นเศรษฐี และว่านเงินไหลมา ประจุคาถาเงินล้านเสริมพลัง ในการค้าขายและการทำงานเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินเงินทอง

อีกดอกเป็น สีแดง ภายในอุดด้วย แป้งขุนแผน ว่านสาวหลงผงพิศวาส โดยรวมเอาทั้งกิ่ง ใบ รากและต้นสวาทมาบดรวมกัน แล้วประจุพลังคาถาเมตตามหานิยม เรียกตะกรุดดอกนี้ว่า “มหาเสน่ห์”

และ สีดำ...ภายในอุดด้วย ผงเหล็กไหลพันปี และมวลสารมหามงคล 299 ชนิด แล้วประจุคาถาแคล้วคลาด เรียกว่า ตะกรุดธาตุดินมหายงยุทธ

ซึ่งนอกจากจะเข้าพิธีกรรมโบราณแล้ว ยังผ่านกรรมวิธีไฮเทค ตอกโค้ดด้วยเลเซอร์ทุกดอก...

...เมื่อแล้วเสร็จ นำจำนวนหนึ่งบรรจุไว้ใต้ฐานพระอุโบสถ (ที่กำลังสร้างเกือบเสร็จแล้ว) อีกส่วนก็ จ่ายแจกแก่ศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใส

O O O

[     

หลวงพ่อยงยุทธ หรือ พระครูวิมลอรรถวาที (มหายงยุทธ อุปคุตฺโต ป.ธ.3) อายุ 76 ปี เจ้าอาวาสวัดไผ่เลี้ยง เขตหนองแขม ซอยเพชรเกษม 110 กทม. บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าเมื่ออายุ 13 ปี และอุปสมบทที่นั่นเมื่ออายุครบ...

...ได้ศึกษาอาคมของ หลวงปู่ศุขตั้งแต่เป็นสามเณรจนแกร่งกล้า เมื่อพ้นจาก เป็นพระนวกะแล้ว จึงได้ออกธุดงค์ปฏิบัติกิจวิปัสสนากรรมฐานโปรดสัตว์ ไปตามสถานที่ต่างๆ จนได้รับแรงศรัทธาสร้างศาสนสถานหลายแห่ง...อาทิ

วัดโปรดภาวนา อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี วัดดงประดาพระ ทุ่งโพธิ์ทอง อุทัยธานี ฯลฯ และในปี 2526 ขณะที่จะธุดงค์ลงสู่ภาคใต้ เข้ากรุงเทพมหานคร ผ่านหนองค้างพลู เขตหนองแขม ได้เทศน์โปรดแม่บุญเลี้ยงกับแม่ไผ่ 2 พี่น้อง จนเกิดแรงศรัทธาอย่างแรงกล้า จึงได้ถวายที่สวนให้และได้สร้างเป็นศาสนสถานขึ้น อีกแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งศรัทธาจึงได้เอาชื่อ 2 พี่น้องมาเป็นชื่อว่า วัดไผ่เลี้ยง...แล้ว หลวงพ่อก็ได้จำวัดแห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน

O O O

หลวงพ่อยงยุทธ ก็ได้สืบสานกิจกรรมต่างๆตามแบบของ หลวงปู่ศุข ในทางเมตตามหานิยมอย่างสม่ำเสมอ จนเกิดแรงศรัทธา แก่บุคคลทั่วไปทั้งใกล้และไกลวัด

มีรายหนึ่งคือ ร้อยตำรวจโท จินตศักดิ์ สิทธิคง ซึ่งปฏิบัติราชการ อยู่ที่จังหวัดปัตตานีไม่เคยรู้จักกับ หลวงพ่อยงยุทธ มาก่อนเลย เมื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อนๆชวนแวะไปที่วัดไผ่เลี้ยง...

ครั้งแรกที่พบแทบไม่อยากจะเข้าใกล้ด้วยเห็นหน้าตาดุ ต่อเมื่อได้เจรจา จึงเกิดศรัทธา ด้วยเป็นผู้ที่มีพลังแห่งเมตตาจึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ พอหลวงพ่อรู้ว่าปฏิบัติราชการ ในพื้นที่เสี่ยงภัยจึงได้ มอบตะกรุดไว้เผื่อ (เน้นคำว่าเผื่อ) จะ มีพลังไว้ป้องกันตัว

O O O

หลังจากที่ได้ตะกรุดมาก็มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปในทางดี ซึ่งตอนปฏิบัติราชการ ไม่เคยเดินผ่านแผงลอตเตอรี่เลย มีวันหนึ่งบังเอิญผ่านก็เลยลองซื้อดู และก็ มีโชค กับเขาจริงๆแม้เป็นเม็ดเงินที่ไม่มากนัก มันก็สร้างความดีใจ และ ศรัทธา

และที่เด่นชัดคือการมีเมตตามหานิยม เพื่อนฝูงผู้ใต้บังคับบัญชามีความเชื่อฟังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อีกทั้งเจ้านายก็เรียกหาอยู่เป็นประจำ...และได้เลื่อนเงินเดือนขึ้น 2 ขั้น

ที่แปลกมากคือในยามที่จะมีภัยหรือเหตุการณ์ มักจะมีอะไร ที่เป็นสัญญาณเตือนให้รู้ก่อน เป็นคล้ายๆกับมีอะไรลึกลับ มาสั่งการหรือจิตสังหรณ์...

อย่าง...ในช่วงที่กำลังเดินทางเมื่อมีปรากฏการณ์อย่างนี้ จะต้องหยุดก่อนซักระยะหนึ่ง แล้วค่อยเดินทางต่อ ซึ่งก็ปรากฏว่าเกิดเหตุร้ายขึ้น คือถ้าไม่หยุดก็จะเป็นจังหวะ ที่โดนพอดี...และมีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งเช่นกัน

O O O

ซึ่ง หมวดจินตศักดิ์ ก็บอกว่า...กับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่ว่ากลัวแล้วหลีกเลี่ยง แต่มันเป็นพลังของการแคล้วคลาด...

...จะหลีกเลี่ยงหรือแคล้วคลาดก็คงไม่มีใครกังขา เพราะ Safety First หรือ ปลอดภัยไว้ก่อน ...เป็นดีที่ซู้ด...!!!

   
.............................................................................

5967
   


ข่าวดีเป็นมงคล  จัดทุกครั้งดังทุกปีเทศกาลงานประจำปี 2551 นมัสการพระบรมสารีริกธาตุ
ปิดทององค์หลวงพ่อโต
ทำบุญบ่อน้ำพระพุทธมนต์
วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
๑-๑๐ มีนาคม ๒๕๕๑ (๑๐วัน๑๐คืน)
หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว...

5968
ผมมีเหรียญของท่านคับผมมีประสบการโดยตรงคับโดนยิงแต่ลูกสับไม่แตกคับ

ประสบการณ์เยี่ยมครับท่าน  :015:

5969
งามตามากๆครับคุณผู้หญิง :-*

5970
1.ส่วนใหญ่สร้างขึ้นมาใช้เพื่อป้องกันตัว  คงกระพันชาตรี และอื่นๆตามตำราของผู้สร้าง
2.ตะกรุด ใช้สรรพนามว่า "ดอก" นะครับ
3.แล้วผมจะทราบมั๊ยเนี่ย     :010:
4.ขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ ถ้าไม่รู้ก็ไม่ผิดหรอกนะครับ (อย่าคิดมากนะครับ)
5.พบเห็นได้ทั่วไปครับ ตะกรุดมีสร้างกันเยอะมากมาย ส่วนผู้ที่เป็นเจ้าของคนแรกก็มักจะตายไปพร้อมกับความรู้ของเขาเอง(ปล่อยให้คนรุ่นหลังไม่ทราบที่กันต่อไป)
6.คาถาที่ใช้ได้กับตะกรุดทุกที่
นะโม 3 จบ
พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง อุกาสะอาราธนานัง กะโรมิ นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ(บริกรรมก่อนคาดตระกรุด)
สัตถาเทวะมะนุสสานัง   (ภาวนาตอนจะคาดคาดตระกรุด)
อิมังกายะพันธะนานัง อะธิษฐามิ  (บริกรรมขณะคาด)
พุทโธภะคะวาติ  (บริกรรมเมื่อแก้ปมออก)


 :090:

5971
เยี่ยมครับท่าน :-*

5972
ขอดูบางครับ พวกศิษย์พี่เล้วยังมีขายที่วัดไหมครับ
ที่วัดไม่มีขายครับ มีแต่ให้เช่า เอิ๊กกกก :D

5973
บุญถึงจริงๆครับ ท่าน  ขอบคุณภาพที่แบ่งปันกันชมนะครับ :-*

5975
จัดมานานแล้วครับ (10ปี อัพ)ลองถามคนแถววัดบางพระดูนะครับ  :-*

5976
ธรรมะ / ตอบ: พระไตรปิฎกย่อ
« เมื่อ: 27 ก.พ. 2551, 11:09:35 »
ดีครับ นำมาฝากกัยบ่อยๆ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะ :-*

5977
ธรรมะ / ชายคนหนึ่ง???
« เมื่อ: 26 ก.พ. 2551, 10:15:07 »
เก็บมาจากเวปพระอาจารย์ครับ เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี จึงนำมาฝากกัน(www.dhammadelivery.com)

ชายคนหนึ่ง...เพิ่งจะมาพูดได้ตอนอายุ 4 ขวบ

ชายคนนั้น...เพิ่งจะมาอ่านหนังสือออกตอนอายุ 8 ขวบ
 
ชายคนนั้น...เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียน

ชายคนนั้น...เคยถูกปฏิเสธจากโรงเรียนอาชีวะแห่งซูริค

ชายคนนั้น...เคยถูกอาจารย์ระบุว่า "สมองช้าไม่ชอบสังคมและล่องลอยอยู่ในความฝันอันโง่เขลาของตัวเองตลอดเวลา"

ชายคนนั้น...ชื่อ ?อัลเบิร์ต ไอสไตน์? บิดาแห่งปรมาณู

*********************************************

ชายคนหนึ่ง...หลงไหลในคอมพิวเตอร์อย่างมาก

ชายคนนั้น...ชอบหมกตัวกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ และถูกเพื่อนมองว่า สกปรก บ้าคอมพิวเตอร์

ชายคนนั้น...เคยเสนอซอฟแวร์ระบบให้กับ แอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์ และถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดี

ชายคนนั้น...ปัจจุบันคือผู้ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับแอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์

ชายคนนั้น...เคยถูก ไอบีเอ็ม มองว่า "แค่เด็ก"

ชายคนนั้น...ปัจจุบันเป็นผู้นำบริษัทซอฟแวร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก

ชายคนนั้น...ชื่อ ?วิลเลี่ยม เฮนรี่ เกตส์? ที่สาม หรือที่รู้จักกันในนาม ?บิลล์ เกตส์? ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ผู้ถือครองสินทรัพย์กว่า 46,000 ล้านเหรียญ

**********************************************

ชายคนหนึ่ง...หลงไหลวิชาการเงินอย่างมาก

ชายคนนั้น...ยื่นใบสมัครกับมหาวิทยาลัยธุรกิจฮาวาร์ดอันเลื่องชื่อ

ชายคนนั้น...ถูกปฏิเสธในเวลาต่อมา

ชายคนนั้น...ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้าศึกษที่มหาวิทยาลัยธุรกิจโคลัมเบีย

ชายคนนั้น...สำเร็จการศึกษา

ชายคนนั้น...ปัจจุบันมีสินทรัพย์รวมกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินลงทุนเพียง 100 เหรียญสหรัฐ

ชายคนนั้น...ชื่อ ?วอเรน บัฟเฟตต์? นักลงทุนอัจฉริยะอภิมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก

***********************************************

ชายคนหนึ่ง... เป็นนักร้อง

ชายคนนั้น...เคยถูกผู้จัดการของ แกรนด์โอเลโอเพรย์ ไล่ออก

ชายคนนั้น...เคยโดนดูถูกว่า ?แกมันไปไม่ถึงไหนเลย แกควรกลับไปขับรถบรรทุกมากกว่า?

ชายคนนั้น...ชื่อ ?เอลวิส เพรสลี่ย์? ราชาแห่งร็อกแอนด์โรลล์

***********************************************

"เชื่อว่าทุกคนเคยแพ้ แต่คนแพ้ไม่ใช่คนล้มเหลว คนที่ล้มเหลวคือ ...คนที่ล้มเลิกต่างหาก"

5978
                    กำหนดการไหว้ครู หลวงปู่หิ่ม อินฺทโชโต
ณ ตำหนักป้ายเขต เลขที่ ๓๐/๓ หมู่ที่ ๕ ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม_____________________________________________________________________________
วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ (ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๔)
             เวลา ๑๘.๐๐ น.  ชุมนุมเทพ
วันเสาร์ที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ (ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๔)
             เวลา ๐๙.๓๙ น.  ไหว้ครู
             เวลา ๑๑.๐๐ น.  ถวายภัตตาหารแด่พระวงฆ์ ๙
รูป

จึงขอเรียนเชิญศิษย์ยานุศิษย์ทุกท่านร่วมในพิธีนี้ โดยพร้อมเพรียงกัน
                                                  คณะศิษยานุศิษย์  ผู้จัดงาน 

5979
กระบี่ไม่มีครับ มีแต่มีดหมอ ;D ;D ;D

5980
วัตถุมงคลกันเขี้ยวงา อาถรรพ์
-แหวนพิรอด หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา,หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทรฯลฯ
-ตะกรุดกันงู หลวงพ่ออั๊บ วัดท้องไทร
-พระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้
-ราหูกะลาตาเดียว วัวธนู หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง,หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระฯลฯ
-มีดหมอ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์,หลวงปู่จ้อย วัดศรีอุทุมพระ,หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระฯลฯ
-เบี้ยแก้ สายวัดกลางบางแก้ว,หลวงปู่เผือด วัดมะกอก,หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ,หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระฯลฯ
ฯลฯ
 :-*

5981
โชคดีมากๆครับท่าน เก็บรักษาดีๆนะครับ :-*

5982


เริ่มขึ้นแล้วครับ ปีนี้ สำหรับงานนมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏ  จังหวัดจันทบุรี ปีนี้งานจัดระหว่างวันที่ 7 กุมภาพันธ์ - 7 เมษายน 2551  ครับ (นักแสวงบุญท่านใดสนใจก็ไปร่วมกันทำบุญได้ครับ) :001:............................................................................................

สำหรับลูกบาตร(ก้อนหินในภาพ) เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าอัศจรรย์มากๆ อยู่บริเวณข้างรอยพระพุทธบาทพลวง กล่าวกันว่า หินก้อนนี้ ลอยอยุ่สามารถเอาเชือกลอดได้ ครับ   :073:   

5983
งามมากๆครับท่านหอมเชียง :)

5984
พี่โจรสลัดครับต่อจากยันต์ดอกบัว (อยู่ในหน้าชมภาพหน้า 12 หัวข้อรอยสักดังเดิมของหลวงพ่อครับพี่ๆ)
ต่อลงมาจากยันต์บัวแก้วคือ ยันต์แม่ทัพครับ
(เคยถามหลวงพี่แป๊วอยู่เหมือนกันครับ ท่านบอกว่า ยันต์แม่ทัพ ของก็ขึ้นได้เช่นกันครับ ท่านว่าอย่างนั้น) :-*

5985
เยี่ยมๆทั้งนั้นเลยครับท่านโจรสลัดและท่านgottkung
ขอแนะนำอีกที่นะครับ
ตะกรุดลูกอม หลวงปู่ทิม วัดพระขาว เทพเจ้าแห่งบางบาล(เห็นว่าทางวัดกำลังจะออกครับ ด้านในอุดชานหมากของหลวงปู่ ครับ)
www.luangputim.com  :-*

5987
ถ้าไม่มีคนร่วมทำบุญผมเอาพระทั้งหมดให้ศิษย์หลวงพ่อเปิ่น ที่รู้จักกันเช่าบูชาเอาเงินสมทบทุนสร้างกระจกนะครับ แล้วจะแจ้งยอดทีหลังจ้า? ;D
ใจดีอีกแล้วครับท่าน นับถือๆ :016:

5988
อยากสอบถามว่ายันต์ที่เป็นเส้นตรงแล้วลากวนเป็นรูปสามเหลี่ยมเรียกว่ายันต์อะไร เห็นจากหลังคนที่ถ่ายรูปลงบนหัวกระดานบอดสักอยู่ระหว่างเสือสองตัวครับ
สัณฐานสามเหลี่ยม บนหัวกระดานบอร์ด คือยันต์เก้ายอด แต่มาขัดตรงที่ อยู่ระหว่างเสือสองตัวเนี่ยซิครับ น่าจะเข้าใจผิดคิดว่าสาริกาคู่เป็นเสือมากกว่านะครับ :-*

5989
ดีจริง ต้องยิงไม่ออก (คำพูดของ พระครูประยุตนวการ หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม) :-*

5990
ผมสักกะอาจารย์ท่านอื่นมา ....แต่เป้นศิษวัดบางพระเหมือนกัน ไม่ทราบว่า ผมจะครอบครู ที่วัดบางพระได้หรือไม่ ครับ? แล้วสักหมึก.... จะสักน้ำมันได้อีกป่าว ครับ ตรงที่ว่าๆ หลวงพี่อจะสักให้ใหม ครับ ขอบคุณครับ
อาจจะได้เจอกันที่วัดบางพระเร็วๆ นี้ ครับ
ได้ครับ ไม่มีปัญหา :)

5991
ธรรมะ / ตอบ: พระไตรปิฎกย่อ
« เมื่อ: 25 ก.พ. 2551, 12:30:17 »
เยี่ยมครับท่าน

5992
เก้ายอด หรือแม่ทัพหว่า ::)

5993
พระอาจารย์ท่านจะจัดให้ตามความเหมาะสมครับ ไม่ต้องห่วงครับ เพราะพระอาจารย์ท่านเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกศิษย์ทุกๆคนครับ :-*

5994
เคลียร์กันเองครับงานนี้ ;D ;D ;D

หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7