ผู้เขียน หัวข้อ: กราบรำลึกพระคุณมารดา  (อ่าน 915 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ suwatchai

  • การนิ่งเงียบต่อคนโง่คนสามหาว เป็นทางยาวสู่เกียรติที่ใฝ่ฝัน ทั้งรักษาในศักดิ์ศรีเป็นเกราะกัน ไม่หุนหันฉันท์หมาวัดที่จัญไร เราจงดูราชสีห์น่าเกรงขาม ทุกผู้นามเกรงกลัวได้ไฉน ไม่เคยเห่าเคยหอนไล่ผู้ใด แล้วไซร้ใยมีเกียรติเป็นราชันต์...
  • สมาชิกที่ถูกแบน
  • **
  • กระทู้: 241
  • เพศ: ชาย
  • Death Is Beautiful & Sweet ....
    • MSN Messenger - suwatchai.com@windowslive.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
กราบรำลึกพระคุณมารดา
« เมื่อ: 11 ส.ค. 2552, 02:53:44 »

ขอน้อมกายเคารพนบกราบไหว้         บูชาคุณแม่นั้นมั่นยืนมิคืนคลาย

หล่อหลอมรวมความรักจากพ่อแม่      จากความรักยิ่งแท้แปลความหมาย

จากหัวใจสองดวงหลอมละลาย         ลูกจึ่งได้ปฏิสนธิกาล

ตามในแห่งกำเนิดเกิดจากภพ           มาประสบพบสุขสนุกสนาน

จากวิบากพรากภพนพวิญญาณ          มาจากกาลก่อนเกิดครรภ์มารดา

จากกลละลักษณะหยาดน้ำใส           แม่เฝ้าคอยห่วงใยเป็นนักหนา

เกรงลูกน้อยกลอยใจเคลื่อนออกมา     ระวังไวลูกจ๋าอย่าสะเทือน

แม่ถนอมออมกายให้ลูกสุข               เมื่อก่อร่างตัวลูกรูปเสมือน

อัพพุทะเป็นฟองงามประเทือง            แม่ฟูเฟื่องความสุขผูกดวงใจ

แม่อดเปรี้ยวอดหวานมิผ่านสบ            กลัวลูกจบชีวาพาหวั่นไหว

ฤทธิ์แสลงสำแดงลูกข้างใน               แม่หวั่นไหวอันตรายลูกเปลี่ยนแปร

แม่ออมชอมยอมล่ะในรสจัด              มิให้ลูกอัตคัดความพ่ายแพ้

สิ่งกัดกร่อนเนื้อกลอยเจ้าดวงแด...


สละสวยสละสาวคราวอุ้มท้อง            แม่ไม่ร้องไม่บ่นแม่ทนได้

แม่ถนอมครรภ์แก่แม่เต็มใจ               จะหาใครเหมือนแม่แพ้ทุกคน

ครบสิบเดือนเคลื่อนคลอดรอดชีวิต       แม่ใกล้ชิดลูกน้อยคอยฝึกฝน

ถึงลำบากตรากตรำใจแม่ทน              สายเลือดข้นแม่กลั่นปันลูกกิน

แม่ป้องริ้นป้องไรมิให้ผ่าน                 แม่สงสารห่วงลูกกว่าทรัพย์สิน

แม่อดออมถนอมยิ่งชีวิน                   แม่ได้ยินลูกร้องแม่ป้องมา

ยามลูกร้องแม่ขมระทมไห้                 ยามลูกไข้แม่ร้อนนอนผวา

ยามลูกทุกข์แม่กร่อนร้อนอุรา              ยามลูกยาสิ้นสร่างแม่สุขใจ

คราลูกหิวแม่ยิ่งน้ำตาร่วง                   แม่เป็นห่วงดิ้นรนค้นมาให้

แม้แม่อดหมดข้าวมิเป็นไร                  สละได้ลูกอิ่มแม่ทนเอา

ใครไหนเล่าอบรมบ่มนิสัย                   แม้เติบใหญ่ไม่ถอยคอยนั่งเฝ้า

พระคุณเลิศประเสริฐกำเนิดเรา             ใครไหนเล่าคุณแท้เท่าแม่เอย

เป็นลูกสาวแม่เฝ้าคอยห่วงหา              กลัวลูกยาโดนหนุ่มมาผ่าเผย

กลัวจอมใจช้ำชอกหลอกละเลย            มาเฉลยคำหวานหว่านวาจา

คอยพร่ำบ่นจนลูกผูกสมัคร                  ละความรักจากแม่หนีไกลหน้า

คิดว่าแม่ก้าวล้ำย่ำวิญญา                    เบื่อระอาคำแม่แท้อาทร

กับลูกชายหมายมั่นเมื่อเติบกล้า           อภิญญาอบร่ำคำสั่งสอน

อายุครบบวชเรียนเพียรบวร                 เฝ้าอาทรวอนไท้เทพธาดา

ชายผ้าเหลืองเปรื่องปราชญ์แสนบาดจิต   ขอลูกชิดเชยชมศาสนา

ปฏิบัติขัดเกลาเฟื่องปัญญา                  หมายใจชายผ้าลูกผูกพาไป

ใครหาญผิดคิดคดปดพ่อแม่                 เป็นมั่นแท้อบายภูมิจะชิดใกล้

จะไปผุดจุติอวีจิไกล                          สถานนี้ไร้มีกินแม้สิ้นกาย

อันโทษทัณฑ์รอรับสดับรู้                    พื้นแผ่นคุไฟร้อนเผาทั้งหลาย

ภูเขาเหล็กร้อนแรงบดมลาย                 เหล็กแหลมร้อนแทงกายจากยมบาล

กว่าสิ้นสุดจุดนี้หลายกัลล์นัก                มิคิดพักผ่อนผันสิ้นสงสาร

ต้องรับโทษหลายขุมหลายกัปล์กาล       ยังมิผ่านเศษกรรมรอย่ำยี

ในกรรมหนักหลักใหญ่เนรคุณ              ต่อบิดาเกื้อหนุนดั่งชีพนี้

มารดายิ่งเทิดทูนหนุนภักดี                  ทั้งสองมีพระคุณหนุนเกิดมา

ทั้งครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิทย์                 ท่านประสิทธิ์วิชาให้เก่งกล้า

ให้ความรู้ประศาสน์อภิญญา                 จงน้อมกายบูชาขมาคุณ

ในความดีมีทำวันละนิด                      เฝ้าบูชิตน้อมกายใฝ่เกื้อหนุน

มีบุญญาบารมีเจิดจรูณ                       นำเป็นทุนทำนบสุคติภูมิ.....