ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องรางของขลังคงกระพันชาตรีแห่งกองทัพไทยในอดีต cho. presley  (อ่าน 10609 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ cho presley

  • ------> I'm Cho Presley
  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 2049
  • เพศ: หญิง
  • สุดท้ายก็กาหลง!
    • MSN Messenger - cho.khalong@hotmail.com
    • AOL Instant Messenger - เมืองเสน่ห์กาหลง
    • Yahoo Instant Messenger - มหาเสน่ห์+เมตตา+มหานิยม
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.khalong.com
เครื่องรางของขลังคงกระพันชาตรี แห่งกองทัพไทยในอดีต....

ว่ากันถึงนักรบไทยในอดีตกัน..คงต้องมีภาคต่อขยายความจากเรื่อง 'เครื่องราง-ของขลัง พลานุภาพแห่งกองทัพไทยในอดีต'  
คราวนี้นอกจากเรื่องสักยันต์เขียวปื้ดเต็มตัวแล้วของนักรับไทยในอดีตแล้ว.... เครื่องรางของขลังอะไรบ้างที่เป็นความเชื่อแต่โบร่ำโบราณกาล...

         คัมภีร์พระปถมัง ถือว่าเป็นคัมภีร์ปฐมบทเรื่องเวทมนตร์คาถาที่คนศึกษาเวทมนตร์ต้องเรียน เพราะเป็นคัมภีร์ที่บรรจุพระคาถาพุทธบริสุทธิ์ที่สูงที่สุด โดยพระเถระเกจิอาจารย์ทุกคน ก็ต้องร่ำเรียนคัมภีร์นี้ กระทั้งการศึกสงครามจะนำยันต์จากพระคัมภีร์นี้มาใช้ด้านพลานุภาพความคงกระพันชาตรี
          ธงชัยเฉลิมพล ใช้ในการนำทัพ เป็นธงที่จะประจุด้วยอาคมอาถรรพ์ต่างๆ ได้จำนวนมาก เพื่อให้กองทัพมีอำนาจเหนือคู่ต่อสู้พระชัยหลังช้างคือ พระพุทธรูปที่จะอัญเชิญนำไปออกศึก โดยจะประทับอยู่บนหลังช้าง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ชนะศึกสงคราม
          พระลีลาเม็ดขนุน เป็นพระที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัน ที่มีพลานุภาพด้านเมตตามหามงคล แคล้วคลาดจากภยันตราย ทำให้สู้ศึกชนะสงคราม
          โคนสมอ คือ พระเครื่องชนิดหนึ่งที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย จะพบในกรุตามวัดโบราณต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นพระที่มีอิทธิฤทธิ์พลานุภาพด้านคงกระพันชาตรี โดยเฉพาะเป็นที่ร่ำลือกันมากกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้นำพระแสงยิงเข้าใส่โคนสมอ แต่เกิดกฤษฎาภินิหาริย์ คือ ยิงไม่เข้า อย่างไรก็ตามไม่อาจจะสืบค้นได้ว่า ผู้ใดเป็นผู้สร้างโคนสมอขึ้นมา
         พิษหมอน ที่ทำมาจากใบลานจารอักขระ เป็นชิ้นเล็กๆ นำมาแขวนติดตัว
         ตะกรุดพันกลั่น เป็นเครื่องรางปลุกเสกความคงกระพันที่จะนำไปใส่ไว้ข้างในมือจับด้ามดาบเพื่อให้เกิดอิทธิฤทธิ์ในการล้างอาถรรพ์ของคู่ต่อสู้ลงอาคมไว้
          ตรีนิสิงเห ที่เกิดจากการคำนวณอัตราเลที่ผู้ปลุกเสกตียันต์ตรีนิสิงเหลงบนดาบ เพื่อใช้แก้ และถอนอาถรรพ์อาคมต่างๆ ของคู่ต่อสู้ พร้อมกับมีการปลุกเสก "ผงตรีนิสิงเห" เช่นกัน ที่ใช้ประจุลงบนด้ามดาบที่เป็นไม้มะค่า ฝักดาบเป็นไม้มะขามกลายเป็นศาสตราวุธ
          พระยันต์พุทธนิมิตร (ลงด้วยพระพุทธคุณห้องอิติปิโส) เป็นรูปองค์พระ พระยันต์มงกุฎเจ้าล้อมด้วยกลเลข ตรีนิสิงแห ของพระครูประศาสน์ สิกขกิจ หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก
         มีดหมอเทพศาสตราวุธ ที่นิยมกันมากในสมัยอยุธยา ที่ตีตามสมัยเดิม ใช้ถอนอาถรรพ์ต่างๆ ป้องกันภูติผีปีศาจ
         เสื้อยันต์ทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด เช่นเสื้อยันต์ที่ลงด้วยนะโมพุทธายะ ไตรสรณาคมน์และหัวใจคาถามหาอุด อีกด้านลงด้วยพระนวโลกุตรธรรม คาถาพระเจ้าห้ามอาวุธ (อะสิสะติ) และพระยันต์หมวดอิติปิโสเกราะเพชร หรือพระยันต์ ไตรสรณาคมน์ ลงเป็นตาม้าหมากรุก หรือ ที่ลงด้วยนะโมพุทธายะ (พระเจดีย์ 5 พระองค์ ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า) หนึ่งในพระอาจารย์ของ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และเสื้อยันต์ราชสีห์ มียันต์มงกุฎเจ้า ด้านหลังลงด้วยพระเจ้า 16 พระองค์
          ผ้าซิ่นแม่ เป็นเครื่องรางที่ทหารไทยจะนำติดตัวไปรบในสงคราม คือ ชายซิ่นของผ้าถุงของแม่ผืนที่คลอดครั้งแรกโดยจะนำไปใส่ไว้ในหมวก จะอยู่ในตะกรุด พระประเจียด หรือยันต์มนตรา
         หำยนต์ หรือ ยันต์ที่ติดไว้บนบานประตู ป้องกันคุณไสยเพราะขณะนอนหลับมนต์คาถาจะเสื่อมลง
          เขี้ยวเสือโปร่งฟ้า เป็นเขี้ยวเสือกลวง เพราะปกติเขี้ยวเสือจะตัน ใครมีไว้พกติดตัวจะมีพลานุภาพด้านมหาอำนาจป้องกันภยันตรายต่าง ๆ รวมถึงป้องกันภูตผีปีศาจ
          เพชรตาแมว คือดวงตาแมวที่ตายหรือยังมีชีวิตอยู่ ที่มีลักษณะแก้วตากลายเป็นหิน ใครพกติดตัวไว้จะมีพลานุภาพด้านมหาอำนาจป้องกันภยันตรายต่างๆ รวมถึงป้องกันภูติผีปีศาจ
         งากำจัด-งากำจาย เป็นงาช้างที่ช้างชนต้นไม้ใหญ่แล้วหักคาทิ้งไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พบได้ยากมากใครมีไว้พกติดตัวมีพลานุภาพด้านมหาอำนาจป้องกันภยันตรายต่างๆ รวมถึงป้องกันภูตผีปีศาจ
          คด คือ วัสดุตามธรรมชาติที่กาลเวลาทำให้วัสดุชิ้นนั้นกลายเป็นหิน เช่น เม็ดมะขาด เม็ดขนุน ใครมีไว้พกติดตัวจะมีพลานุภาพด้านมหาอำนาจป้องกันภยันตรายต่างๆ รวมถึงป้องกันภูตผีปีศาจ

   Cho's Talk: หากไม่ได้ไปรบกับใคร ก็ไม่เห็นต้องมารบกันเอง..อยู่ร่วมกันด้วยความสงบสุขสิ.. แค่นั้นแหละเมืองไทย หรือเมืองไหนๆ..
article from p-today wrote by cho. presley cholvibul@hotmail.com


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 ก.ย. 2552, 09:16:47 โดย cho presley »

cho presley       

ออฟไลน์ รัช สุทธิสาร

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 393
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้มากเลย

ออฟไลน์ ไทยแท้

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 103
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
เสด็จแม่แจ๋วจริงๆ

ความรู้เน้นๆ

ชอบพระลีลาเม็ดขนุน

เพราะส่วนตัวมี

แหะๆ
เงินหมด ยศยังอยู่

ออฟไลน์ ชลาพุชะ

  • เราอาจไม่รู้มากนัก แต่เรารู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1526
  • เพศ: ชาย
  • ที่นี่คือเว็บวัดบางพระ เราก็ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
น่าจะมีรูปประกอบนะพี่สาว  ขอบคุณข้อมูลครับ

TUM

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

ยังมีอีก น้า .......... นา ........

เครื่องรางของขลัง..คงกระพันชาตรี

คนโบราณ และคนปัจจุบัน ยังมีความเชื่อ ในเมตตามหานิยม และเหนียว คือคงกระพันชาตรี กันอยู่มากมาย จะเห็นได้จากการสวมพระเครื่อง ตะกรุด ศิวลิงค์ห้อยตามเนื้อตัว และการสักยันต์ หรือสักตามมือไม้ หรือส่วนที่แสดงให้เห็นถึง อำนาจ คนยำเกรง

เรามาศึกษาหา..ความรู้ ประดับสมองกันไว้ดีกว่า..

1. พิษหมอน.. ที่ทำมาจากใบลานจานอักขระ เป็นชิ้นเล็กๆ นำแขวนติดตัว

2. ตะกรุดพันกลั่น.. เป็นเครื่องรางปลุกเสกความคงกระพันที่จะนำไปใส่ข้างใน มือจับดาบ เพื่อให้เกิดอิทธิฤทธิ์ ในการล้างอาถรรพณ์ ของคู่ต่อสู้ลงอาคมไว้

3. ตรีนิสิงเห ..ที่เกิดจากการคำนวณ อัตราเลข ที่ผู้ปลุกเสกยัต์ตรีนิสิงเห..ลงบนดาบ เพื่อใช้แก้และถอนอาถรรพณ์อาคมต่างๆ ของคู่ต่อสู้ พร้อมกับมีการปลุกเสก ..ผงตรีนิสิงเห..เช่นกัน ที่ใช้ประจุ ลงบนด้ามดาบที่เป็นไม้มะค่า ฝักดาบเป็นไม้มะขาม กลายเป็นศาสตราอาวุธ

4. พระยันต์พุทธนิมิตร ..ลงด้วยพระพุทธคุณห้องอิติปิโส เป็นรูปองค์พระ พระยันต์มงกุฏเจ้าล้อม ด้วยกลเลข ตรีนิสิงเห ของพระครูประศาสน์สิขกิจ หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก

5. มีดหมอศาสตราวุธ ที่นิยมกันมากในสมัยอยุธยา ที่ตีตามสมัยเดิม ใช้ถอนอาถรรพณ์ต่างๆ ป้องกันภูติผีปีศาจ

6. เสื้อยันต์ทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด เช่น เสื้อยันต์ที่ลงด้วย นะโมพุทธายะ ไตรสรณาคมน์ และหัวใจมหาอุด อีกด้านลงด้วยพระนวโลกตุรธรรม คาถาพระเจ้าห้ามอาวุธ ..อะสิสะติ..และ พระยันต์หมวดอิติปิโสเกราะเพชร หรือพระยันต์ไตรสรณาคมณ์ ลงเป็นตาม้าหมากรุก หรือที่ลงด้วยนะโมพุทธายะ พระเจดีย์ 5 พระองค์ ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หนึ่งในพระอาจารย์ของ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และเสื้อยันต์ราชสีห์ มียันต์มงกุฎเจ้า ด้านหลังลงด้วยพระเจ้า 13 พระองค์

7. ผ้าซิ่นแม่ เป็นเครื่องรางที่ทหารไทยจะนำติดตัวไปรบในสงคราม คือ ชายซิ่นของผ้าถุงของแม่ ผืนที่คลอดครั้งแรก โดยจะนำไปใส่ไว้ในหมวก จะอยู่ในตะกรุด พระประเจียด หรือยันต์มนตรา

8. หำยนต์ หรือ ยันต์ที่ติดไว้บนบานประตู ป้องกันคุณไสย เพราะขณะนอนหลับ มนต์คาถาจะเสื่อมลง

9. เขี้ยวเสือโปร่งฟ้า เป็นเขี้ยวเสือกลวง เพราะปกติเขี้ยวเสือจะตัน ใครมีพกไว้ติดตัวจะมีพลานุภาพ ด้านมหาอำนาจ ป้องกันภยันตรายต่างๆ รวมถึง ป้องกันภูตผีปีศาจ

10. เพชรตาแมว คือดวงตาแมวที่ตาย หรือยังมีชีวิตอยู่ มีลักษณะแก้วตากลายเป็นหิน ใครพกพาติดตัวไว้ จะมีพลานุภาพ ด้านมหาอำนาจ องกันภยันตรายต่างๆ รวมถึงภูติผีปีศาจ

11. งากำจัด- งากำจาย เป็นงาช้างที่ช้างชนต้นไม้ใหญ่แล้วหักตาทิ้งไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หายากมาก ใครมีไว้พกติดตัว มีพลานุภาพมหาอำนาจป้องกัน ภยันตรายต่างๆรวมถึงป้องกันภูติผีปีศาจ

12. คด คือ วัสดุตามธรรมชาติ ที่กาลเวลาทำให้วัสดุชิ้นนั้นกลายเป็นหิน เช่น เม็ดมะขาม เม็ดขนุน ใครมีพกไว้ติดตัวจะมีพลานุภาพ ด้านมหาอำนาจ ป้องกันภยันตรายต่างๆ รวมถึงป้องกันภูติผีปีศาจ

13. พระลีลาเม็ดขนุน เป็นพระที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ที่มีพลานุภาพ ด้านเมตตามหามงคล แคล้วคลาดจากภยันตราย ทำให้สู้ศึกชนะสงคราม

14. โคนสมอ คือ พระเครื่องชนิดหนึ่ง ที่สร้างขึ้นมาในสมัยอยุธยาตอนปลาย จะพบในกรุตามวัดโบราณต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นพระที่มีอิทธิฤทธิ์พลานุภาพ ด้านคงกระพันชาตรี โดยเฉพาะเป็นที่ร่ำลือกันมาก กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้นำพระแสงยิงเข้าใส่สมอโคน แต่เกิดกฤษฏาภินิหาริย์ คือ ยิงไม่เข้า อย่างไรก็ตาม ไม่อาจจะสืบค้นได้ว่า ผู้ใดสร้างโคนสมอขึ้นมา

15. พระชัยหลังช้าง คือ พระพุทธรูป ที่จะอัญเชิญนำไปออกศึก โดยจะประทับอยู่บนหลังช้าง ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้ชนะศึกสงคราม

16. ธงชัยเฉลิมพล ใช้ในการนำทัพ เป็นธงที่ประจุด้วยอาคมอาถรรพณ์ต่างๆ ไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อให้กองทัพ มีอำนาจเหนือคู่ต่อสู้

17. คัมภีร์พระปถมัง ถือว่าเป็นคัมภีร์ปฐมบทเรื่องเวทมนตร์คาถา ที่คนศึกษาเวทมนตร์ต้องเรียน เพราะเป็นคัมภีร์ที่บรรจุ พระคาถาพุทธบริสุทธิ์ที่สูงที่สุด โดยพระเกจิอาจารย์ทุกคน ก็ต้องร่ำเรียนคัมภีร์นี้ กระทั่งการศึกสงคราม จะนำยันต์จากพระคัมภีร์นี้ มาใช้ด้านพลานุภาพ ความคงกระพันชาตรี

อ่านแล้ว จะเห็นภาพ คนไทย บรรพบุรุษของเรา ต่อสู้เพื่อชาติไทยมาอย่างเอาชีวิตเข้าสู้ อย่าคิดไม่ดี แก่งแย่ง ต่อประเทศชาติ บ้านเมืองกันเลย กว่าจะถึงวันนี้ วันที่เรามีกินสุขสบาย ต้องผ่านเลือดเนื้อ ชีวิตน้ำตา ไม่รู้   สักเท่าไหร่

พวกท่านทั้งหลาย ปู่ ย่า ตา ทวด เสียสละชีวิต ให้พวกเรามาจนวันนี้ ต้องสำนึกในพระคุณ บรรพบุรุษทุกท่าน ให้มากๆกัน นะครับ..หมั่นทำบุญกรวดน้ำ ตักบาตร ทำสังฆทาน เลี้ยงเพลพระ บ่อยๆ จะทำให้ประเทศและเรา อยู่ อย่างสงบ ร่มเย็นและสุขสบาย

ที่มา www.firodosia.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 ก.ย. 2552, 12:22:56 โดย ฉัพพัณรังษี »