ผู้เขียน หัวข้อ: พระครูพิทักษ์ประทุมเขต ทายาทธรรม"หลวงปู่ซุน"  (อ่าน 1618 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ umpawan

  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 3112
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด




"พระ ครูพิทักษ์ประทุมเขต" อดีตเจ้าอาวาสวัดตระคลอง (วัดบ้านโคกไร่) และอดีตเจ้าคณะตำบลงัวบา อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เป็นพระนักปฏิบัติที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างสูง สืบทอดปฏิปทาและวิทยาคมจาก พระครูสุนทรสาธุกิจ หรือ หลวงปู่ซุน วัดบ้านเสือโก้ก อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม บูรพาจารย์รุ่นเก่ารูปหนึ่งของภาคอีสาน



อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า สุดใจ แสนโง เกิดในปี พ.ศ.2447 ณ บ้านหนองแวงต้อน อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เป็นบุตรของพ่อศรีสมบัติ-แม่ทุม แสนโง ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

ด้วยฐานะทางบ้านค่อนข้างจะยากจน หลังจบการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนในหมู่บ้านแล้ว ได้ออกมาทำงานช่วยครอบครัวทำไร่ทำนา จนอายุย่าง 15 ปี โยมบิดา-มารดา ได้นำไปบรรพชาที่วัดในหมู่บ้าน

เมื่ออายุครบบวช 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดบ้านหนองแวงต้อน ต.งัวบา อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม โดยมีพระครูสุนทรสาธุกิจ หรือหลวงปู่ซุน เจ้าอาวาสวัดบ้านเสือโก้ก เป็นพระอุปัชฌาย์





ภาย หลังอุปสมบทได้อยู่จำพรรษาที่วัดบ้านเกิด ทุกวันท่านจะเดินเท้าเข้าไปศึกษาพระปริยัติธรรมที่สำนักเรียนวัดโสมนัสฯ ในเขตอำเภอวาปีปทุม ซึ่งเป็นสำนักเรียนใหญ่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยนั้น ด้วยความขยันขันแข็งมุมานะจนสอบได้นักธรรมชั้นเอกและจบมูลกัจจายน์

นอก จากนี้ ท่านยังให้ความสนใจด้านวิทยาคม จึงเดินทางไปเรียนวิทยาคมกับหลวงปู่ซุน รวมทั้งได้เรียนการอ่านเขียนอักษรลาว ขอม และไทยน้อย

ต่อมา วัดตระคลอง หรือวัดบ้านโคกไร่ ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดว่างลง คณะสงฆ์จึงได้แต่งตั้งให้ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส

ท่าน ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาวัดในทุกด้านอย่างเต็มความสามารถ โดยเฉพาะการศึกษา ท่านให้ความสำคัญมาก เพราะผู้บวชเรียนส่วนใหญ่ล้วนมาจากครอบครัวที่ยากจน รวมทั้งสำนักเรียนใหญ่อยู่ไกลถึงในตัวอำเภอวาปีปทุม

ท่านจึงเปิด สำนักเรียนขึ้นและให้ความอุปถัมภ์จัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ ให้กับสำนักเรียนวัดบ้านโคกไร่ อีกทั้งให้ทุนการศึกษากับพระภิกษุ-สามเณรที่เรียนดีทุกปี



ตำแหน่งงานด้านปกครอง พระครูพิทักษ์ประทุมเขต ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตระคลอง เป็นเจ้าคณะตำบลงัวบา

ส่วนสมณศักดิ์ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ในราชทินนามที่ พระครูพิทักษ์ประทุมเขต

เนื่อง จากเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีเมตตาธรรมสูง ครองตนอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์อย่างสมถะเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้ท่านมีชื่อเสียงอยู่ในศรัทธาของชาวอำเภอวาปีปทุม ในแต่ละวัน มีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการรับฟังธรรมจากท่านอย่างล้นหลาม เพื่อขอประพรมน้ำพระพุทธมนต์ รวมทั้งปรารถนาในวัตถุมงคลเหรียญรูปเหมือนและตะกรุดโทนที่เข้มขลัง มีพุทธคุณรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน และเมตตามหานิยม






สำหรับ ปัจจัยที่ได้รับการบริจาคจากศรัทธาญาติโยม ท่านได้นำไปพัฒนาสาธารณูป โภค สาธารณูปการ สร้างความเจริญให้กับวัดแห่งนี้ อาทิ พระอุโบสถ ประตูโขง กำแพงแก้ว กุฏิ เป็นต้น นอกจากนั้นหลวงปู่ยังร่วมพัฒนาชุมชนในทุกๆ ด้าน

ถึง แม้วิทยาคมของท่านจะเข้มขลังเพียงใด ท่านก็ไม่เคยโอ้อวด กลับพร่ำสอนญาติโยมให้ยึดคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อขณะยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ขอให้ทุกคนหมั่นประกอบแต่กรรมดี ละความชั่ว และอย่าดำรงชีวิตอยู่ด้วยความประมาท รู้จักตอบแทนบุญคุณบุพการี ครู อาจารย์ เพียงเท่านี้ชีวิตของตนเองและครอบครัวก็จะพานพบแต่ความสุขความเจริญตลอดไป ไม่มีตกต่ำ

ในช่วงบั้นปลายของชีวิต หลวงปู่อาพาธบ่อยครั้งด้วยโรคชรา สุดท้าย ได้มรณภาพอย่างสงบ ในปี พ.ศ.2529 สิริอายุ 82 พรรษา 62

ณ วันนี้ถึงแม้หลวงปู่จะละสังขารไปนานกว่ายี่สิบปีแล้ว แต่คุณงามความดีของท่านยังคงปรากฏอยู่ในใจของชาวมหาสารคาม


ขอบคุณที่มาจาก  คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6 โดย เชิด ขันตี ณ พล ขอบคุณเป็นอย่างสูงครับ  :089: