กลายเป็นข่าวที่โด่งดังไปทั่วทั้ง ประเทศ อันเนื่องมาจากงานฌาปนกิจศพ "พระครูกมลวรการ" หรือ "หลวงปู่เงื่อม อังสุกาโร" พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัดกมลศรี ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งได้มรณภาพ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2552
แต่ปรากฏว่า ได้มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นท่ามกลางคณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ และประชาชน ที่กำลังร่วมงานจำนวนนับพันๆ คน
ทั้งนี้ ขณะที่กำลังจุดเพลิงศพ เมื่อเวลา 19.19 น. ของคืนวันที่ 4 สิงหาคม 2552 ณ เมรุพิเศษวัดกมลศรี โดยได้มีการราดน้ำมันเบนซินใส่ลงไปในโลงศพไว้จนเต็มแล้ว แต่ทันทีที่สิ้นเสียงระเบิดของลูกหนู ก็เกิดไฟขึ้นลุกท่วมเหนือโลงศพ จากนั้น ได้ลุกไหม้เป็นเวลานาน 10 นาที ก็ดับลง
ปรากฏว่า สังขารร่างกายของหลวงปู่เงื่อม มิได้ถูกไฟไหม้เลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากผ้าขาวใช้คลุมร่างของท่านที่ถูกไหม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อัต โนประวัติ หลวงปู่เงื่อม เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ หรือตรงกับวันที่ 8 พฤษภา คม 2470 ณ บ้านเลขที่ 37 หมู่ที่ 2 บ้านคลองใส ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายฤทธิ์และนางหม้ง สรรพจักร มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดา 3 คน
ในช่วงวัยเยาว์หลังจากจบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ลาออกมาช่วยทางครอบครัวทำสวนยางพารา และได้แต่งงานอยู่กินกับนางพร้อม แสงวิสุทธิ์ จนมีบุตรด้วยกัน 4 คน
กระทั่ง เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2500 ขณะที่อายุได้ 31 ปี ท่านได้ตัดสินใจอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดไม้ฝาด ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง มีพระครูสุตกิจวิจารณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา อังสุกาโร
หลังอุปสมบท ท่านได้มุ่งมั่นในการศึกษาพระปริยัติธรรม และได้ส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีทั้งการสั่งสอนพระภิกษุ-สามเณร ให้ตั้งใจเรียนพระธรรมวินัย และอยู่ในสัมมาปฏิบัติตลอดมา อบรมสั่งสอนคุณภาพจริยธรรมให้กับนักเรียน และเยาวชน อบรมธรรมะและสั่งสอนศาสนพิธีให้กับพุทธศาสนิกชน ตลอดจนปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างของสมณเพศที่ดี ไม่บกพร่อง และไม่มีมลทิน
พร้อม กันนี้ หลวงปู่เงื่อม ยังได้ก่อสร้างศาสนสถาน-อาคารต่างๆ ภายในวัดกมลศรี เช่น กุฏิ เป็นที่พักของพระภิกษุ-สามเณร สร้างศาลาการเปรียญ เพื่อใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม และศาสนกิจของพุทธศาสนิกชน รวมทั้งสร้างเมรุ ห้องน้ำ ห้อง ส้วม อาคารโรงครัว และศาลาที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ รวมทั้งการก่อสร้างเจดีย์สำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ขณะเดียว กัน ท่านยังให้การสงเคราะห์พระภิกษุ-สามเณร ได้ศึกษาพระธรรมวินัย ช่วยเหลือและอนุเคราะห์ชาวบ้านที่ยากไร้ สนับ สนุนทุนการศึกษาให้กับนักเรียนโรงเรียนกมลศรี ทุกปี ปีละ 4,000-5,000 บาท และยังเป็นพระอุปถัมภ์นักเรียนกำพร้าบิดา-มารดา 2 คน คนละ 2,000 บาทต่อปี ที่โรงเรียนกมลศรี กับโรงเรียนบ้านพรุเตย
ลำดับสมณศักดิ์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2543 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามว่า พระครูกมลวรการ
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ วันที่ 12 ตุลาคม 2523 ได้รับการแต่ง ตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดกมลศรี จนมรณภาพ
หลวงปู่เงื่ อม เป็นพระเถระที่มากด้วยเมตตา ชอบสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้อื่น เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนทั่วไป รักความสะอาด ชอบความเป็นระเบียบ มีกตัญญูกตเวทิตาธรรมสูง ขณะเดียวกัน ท่านยังเป็นผู้รู้จักเหตุผล รู้จักประมาณตน และมีหลักมนุษยสัมพันธ์ดี
นอกจากจะเป็นพระเกจิ อาจารย์ชื่อดังแล้ว ท่านยังเป็นพระนักพัฒนาที่สร้างคุณูปการแก่ชุมชนสังคมและสร้างความเจริญให้ กับวัดและชุมชนมากมาย ซึ่งท่านได้สร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ ศาสนสถานต่างๆ ภายในวัดมากมาย จนเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ
ในช่วงบั้นปลายชีวิต หลวงปู่เงื่อม ย่างเข้าสู่วัยชรา สังขารร่วงโรยไปเป็นธรรมดา และในที่สุดก็ล้มป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับตับ ผู้ใกล้ชิดได้พาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหลายแห่ง
กระทั่งอาการ ทรุดหนักลงจนยากแก่การเยียวยา ลูกหลานและบรรดาคณะศิษย์ได้พาท่านกลับวัดกมลศรี และท่านได้มรณภาพด้วยอาการสงบในที่สุด สิริอายุ 82 ปี พรรษา 51
แม้ ว่าหลวงปู่เงื่อม จะละสังขารลาโลกไปแล้วก็ตาม แต่คุณงามความดีที่ได้ประกอบศาสนกิจมาตลอดชีวิต
จะเป็นเครื่อง ยึดเหนี่ยวให้พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนได้จดจำอย่างมิลืมเลือนที่มา ข่าวสดออนไลน์ คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6 โดย เมธี เมืองแก้ว ขอขอบคุณครับ