ผู้เขียน หัวข้อ: "เฮือนใจ๋ยอง"  (อ่าน 5252 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

porvfc

  • บุคคลทั่วไป
"เฮือนใจ๋ยอง"
« เมื่อ: 05 ก.พ. 2553, 07:19:59 »

ชื่อร้าน "เฮือนใจ๋ยอง" หมายถึงอะไร แต่คาดว่าน่าจะเป็นเรือนของคนยองหรือเปล่า
ชาวไทยอง หรือ ชาวเมืองยอง ใช้เรียกกลุ่มคนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณเมืองยอง และกระจายอยู่ในด้านตะวันออกของรัฐฉาน ประเทศพม่า เขตสิบสองพันนา ในมณฑลยูนนานของจีน ภายหลังได้อพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนใน จังหวัดลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ในสมัยรัชกาลที่ 1 ตามกุศโลบาย "เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง" เพื่อรื้อฟื้นอาณาจักรล้านนาภายหลังการยึดครองของพม่าสิ้นสุดลง

จากตำนาน ชาวเมืองยองนั้น ได้อพยพมาจากเมืองเชียงรุ้งและเมืองอื่นๆ ในสิบสองปันนา ซึ่งเป็นคนไทลื้อ และได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานครั้งใหญ่ในเมืองลำพูน และ เชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2348 ด้วยสาเหตุของสงคราม เจ้าเมืองยองพร้อมด้วยบุตรภรรยา น้องทั้ง 4 ญาติพี่น้อง ขุนนาง พระสงฆ์และไพร่พลจากเมืองยอง จำนวน 20,000 คนเข้ามาแผ้วถางเมืองลำพูนที่ร้างอยู่ ตั้งบ้านเรือนตามลุ่มน้ำแม่ทา น้ำแม่ปิง ผู้คนทั่วไปในแถบนั้นจึงเรียกคนที่มาจากเมืองยองว่า ชาวไทยอง

ในสมัยนั้นผู้คนต่างเมืองที่มาอยู่ร่วมกัน จะเรียกขานคนที่มาจากอีกเมืองหนึ่งตามนามของคนเมืองเดิม เช่น คนเมืองเชียงใหม่ คนเมืองลำปาง คนเมืองแพร่ คนเมืองน่าน คนเมืองเชียงตุง เป็นต้น แต่ของคนเมืองยองนั้น ต่อมาคำว่าเมืองได้หายไป คงเหลืออยู่คำว่า คนยอง ดังนั้น ยอง จึงมิใช่เป็นเผ่าพันธุ์ และเมื่อวิเคราะห์จากพัฒนาการ ประวัติศาสตร์ของเมืองยองแล้ว ชาวไทยอง ก็คือ ชาวไทลื้อนั่นเอง

200 ปี ชาวยอง สิบสองปันนา ชาติพันธุ์ต้นตระกูลคนลำพูน

จากข้อมูลของกลุ่มนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ต่างให้การยอมรับว่า "นครหริภุญไชย" หรือลำพูน เป็นจังหวัดที่มีกลุ่มคน ชาติพันธุ์ที่หลากหลายที่สุดในภาคเหนือ อาทิ ยวน โยนก ไทใหญ่ ยางแดง เขิน ลื้อ ลั้วะ ยอง มอญ
หากนับชาติพันธุ์ตั้งแต่อดีต ยุคสมัยที่พระนางจามเทวี พร้อมไพร่พล จากเมืองละโว้ เข้ามาปกครองบ้านเมือง สร้างความเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านศาสนา สังคม และวัฒนธรรม จนเป็นที่กล่าวขานว่า เป็นแผ่นดินทองของล้านนา

ต่อมาเมื่อต้องถูกรุกราน ลำพูนต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของเชียงใหม่ จนถึงยุคที่พม่าเข้ามารุกรานล้านนา และได้ปกครองลำพูนนานกว่าสองทศวรรษ
ต้องยอมรับว่าในช่วงหลังสงคราม ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใดก็ตาม เมืองที่ถูกรุกรานแทบจะกลายเป็นเมืองร้างทันที ผู้คนชาวบ้านต่างหนีตาย อพยพลูกหลานไปอาศัยอยู่ที่อื่นกันหมด

สำหรับเมืองลำพูน หลังจากที่ พญากาวิละ เจ้าเมืองเชียงใหม่ ได้ต่อสู้ ขับไล่พม่าจนชนะ จึงได้เกณฑ์ชาวเชียงใหม่และชาวลำปางประมาณ 1,500 คน ให้มาตั้งรกรากที่เมืองลำพูน พร้อมกันนี้ได้กวาดต้อนชาวไตลื้อจากเมืองยอง สิบสองปันนา ประมาณ 10,000 คน มาอยู่เมืองลำพูน

ในช่วงที่มีการอพยพ โยกย้ายผู้คนจำนวนมากนี้ เรียกกันว่า ยุคเก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2348 และพญากาวิละได้สถาปนาให้ เจ้าคำฝั้น หรือ เจ้าบุรีรัตน์ เป็นเจ้าเมืองลำพูน มาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ในที่ราบลุ่มฝั่งแม่น้ำกวง ตรงข้ามกับตัวเมืองลำพูน ด้านตะวันออก คือบ้านเวียงยองและบ้านตอง ในปัจจุบัน
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ชาวไตถูกกวาดต้อนอพยพมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองในครั้งสงครามนั้น เนื่องจากเป็นเมืองชายขอบ ที่อยู่ระหว่างศูนย์อำนาจใหญ่ เช่น พม่า จีน เชียงตุง เชียงรุ่ง เชียงแสน เชียงใหม่ และหลวงพระบาง ตั้งอยู่ในแอ่งที่ราบขนาดเล็ก เป็นเมืองที่ไม่มีความเข้มแข็งและมีอำนาจในช่วงสงคราม จึงมีการแก่งแย่ง กวาดต้อนผู้คนจากเมืองเล็กๆ ที่ไม่มีความเข้มแข็ง เมืองยองได้รับความกระทบกระเทือนทุกครั้ง ทำให้ผู้คนล้มตายและหลบหนีเข้าป่าไปจนเกือบเป็นเมืองร้าง
ครั้งที่พญากาวิละ ไปกวาดต้อนผู้คนจากเมืองยองมานั้น ได้ประกาศว่า
"ผู้ใดสมัครใจจะไปอยู่เมืองหละปูน บ่ต้องโกนหัว ส่วนไผอยู่เมืองเดิม ให้โกนหัวเสีย"

ปรากฏว่าชนชั้นเจ้านาย ยอมโกนหัว เพื่อประกาศว่าจะไม่ละทิ้งแผ่นดินเกิด ในขณะที่ชนชั้นล่าง ชาวไร่ ชาวนา ยินยอมที่จะอพยพไปตายเอาดาบหน้า แต่พญากาวิละเห็นว่ากลุ่มคนที่ไม่ยอมไป มีมากกว่า และเป็นกลุ่มคนชั้นสูงที่มีคุณภาพ จึงกลับคำ และสั่งให้กลุ่มคนเหล่านั้นไปอยู่เมืองหละปูนแทน ส่วนพวกชาวนา ชาวไร่ ก็ให้ปักหลักอยู่แผ่นดินเดิมต่อไป

การฟื้นฟูเมืองลำพูนของพระเจ้ากาวิละ เพื่อต้องการให้เมืองเชียงใหม่มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ประกอบกับเมืองลำพูนยังเคยเป็นส่วนหนึ่งของเชียงใหม่มาก่อน จึงได้ให้เจ้าเมืองยอง บุตร ภรรยา พี่น้อง พร้อมชาวยองจำนวนหนึ่ง มาตั้งถิ่นฐานราบลุ่มแม่น้ำกวง ฝั่งด้านทิศตะวันออกของเมืองลำพูน แม่น้ำทา และแม่น้ำลี้ เพื่อที่พระเจ้ากาวิละจะสามารถควบคุมดูแลได้ง่าย และป้องกันการก่อกบฏด้วย

นางเพ็ญสุภา สุขคตะ ใจอินทร์ หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญชัย กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดว่ายองเป็นชื่อของชาติพันธุ์กลุ่มหนึ่งที่แยกตัวมาจากชาวไต แต่แท้จริงแล้ว ยองเป็นชาติพันธุ์เดียวกับชาวไตลื้อ ไตเขิน เพียงแต่อพยพมาจากคนละเมือง ไตยองมาจากเมืองยอง ไตเขินมาจากเชียงตุง ปัจจุบันอยู่ในประเทศพม่า และไตลื้อมาจากเชียงรุ่ง ในสิบสองปันนา ปัจจุบันอยู่ในประเทศจีน พอมาอยู่เมืองไทยจึงเรียกตนเองว่า "ไตยอง"

"การสร้างความโดดเด่น หรือ อัตลักษณ์ ให้กับตนเองทางด้านวัฒนธรรมนั้น ชาวไตเขิน จะสร้างให้ตนเองเป็นสล่า หรือช่างฝีมือชั้นสูง ที่เห็นได้ชัดคือ หมู่บ้านเขินแถบวัวลาย กลางเมืองเชียงใหม่ เป็นแหล่งผลิตเครื่องเขิน เครื่องเงินและหัตถศิลป์ต่างๆ ชาวไตยอง จะเป็นช่างแกะสลักไม้ และทอผ้า ในขณะที่ชาวไตลื้อจะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทำไร่ ทำนา"

อาจารย์แสวง มาละแซม นักวิชาการท้องถิ่น จากโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ผู้เขียนหนังสือ ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น คนยองย้ายแผ่นดิน และคนยอง กล่าวว่า การเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองลำพูน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสังคม
โดยเมืองยองมีพลเมืองลดลง แต่เมืองลำพูนมีจำนวนพลเมืองเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งในรัชกาลที่ 5 ชาวยองเมืองลำพูน ถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองชาวสยาม การปรับตัวของชาวยองในแผ่นดินสยาม ในด้านสังคมและวัฒนธรรม กลุ่มชาวยองยังคงรักษาเอกลักษณ์ของตนเองไว้อย่างยาวนาน อาทิ บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ภาษาพูด "ภาษายอง" ซึ่งเป็นภาษาพูดที่สามารถสื่อสารกันอย่างเข้าใจระหว่างชาวยอง สิบสองปันนา กับชาวยองลำพูน ซึ่งต่างจากชาติพันธุ์อื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในลำพูน แต่ถูกวัฒนธรรมคนเมืองกลืนไปจนหมด
"ปัจจุบันนี้ ชาวยองนับว่าเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มใหญ่ของเมืองลำพูน เกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ พลเมืองลำพูน ทั้ง 7 อำเภอ 1 กิ่ง เป็นคนยองที่อาศัยราบลุ่มน้ำทา น้ำลี้ น้ำกวงทั้งสิ้น เป็นระยะเวลากว่า 200 ปี ที่คนยองได้ย้ายแผ่นดิน จากสิบสองปันนา มาอยู่สยามประเทศ ถึงแม้ว่าระยะทางจะห่างไกลกันก็ตาม แต่คนยองทั้งสองประเทศ ยังไปมาหาสู่กันอยู่ ร่วมกันคิด สืบสานวัฒนธรรมรากเหง้าของบรรพบุรุษ ให้ลูกหลานได้สืบทอดต่อไป"

ทันตแพทย์อุทัยวรรณ กาญจนกามล ทายาทรุ่นที่ 4 เจ้าเมืองยอง ที่ถูกพญากาวิละ กวาดต้อนมาอยู่เมืองลำพูน เล่าว่า พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ชาวไตยองที่ถูกกวาดต้อนมา มักจะถูกเหยียดยาม ไม่ได้รับการยกย่อง จากกลุ่มคนเมือง และกลุ่มเจ้านายเมืองเหนือ

ถ้าเกิดมาเป็นหญิง มีรูปลักษณ์หน้าตาสวยงาม ก็จะได้แต่งงานกับเชื้อเจ้า และเจ้าขุนมูลนาย เหมือนกับย่าทวด หรือเจ้าแม่คำเฝื่อ ลูกสาวเจ้าเมืองยอง ที่มีด้วยกันสองพี่น้อง
ผู้พี่ได้แต่งงานกับเจ้าหลวงเมืองลำพูน เจ้าดาราดิเรกรัตน์ไพโรจน์ แต่ก็ไม่ได้รับการยกย่องเชิดชู ส่วนน้องสาว แต่งงานกับคนจีนตระกูลแซ่เล้า ใน ตระกูลอนุสารสุนทร ซึ่งเป็นต้นตระกูลของ นิมมานเหมินทร์
ถึงแม้ว่าจะมีเชื้อเจ้าเมืองยอง การเมืองในขณะนั้นค่อนข้างที่จะรุนแรง แต่ตลอดระยะเวลา ก็ต้องปกปิดฐานะตนเองไว้ แสดงตัวไม่ได้ และถ้ามีทายาท ที่เป็นลูกชาย ที่มีความเข้มแข็งแกร่งกล้า หรือฝึกการต่อสู้ ถ้าเจ้าเมืองทราบก็จะถูกกำจัด


ดังนั้น พ่อของตนจึงได้นำตนไปฝาก พระประสานสุตาคม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนเลี้ยงดู และด้วยความที่พ่อแม่ ไม่ค่อยพูดถึงประเพณี วัฒนธรรมของบรรพบุรุษให้ฟัง จึงทำให้รากเหง้าต่างๆ ถูกทำลายด้วยความเป็นไปของโลกปัจจุบัน แต่ก็ยังคงรักษาภาษาพูดไว้ สำหรับการกีดกันของเชื้อเจ้านายฝ่ายเหนือ ก็หมดสิ้นไปตามยุคสมัย ในการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปการเมือง พ.ศ.2475
นับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของชาวไตหรือคนยอง ที่อพยพกันมาแบบเทครัว หรือเตโค ตั้งแต่ปี พ.ศ.2348 จนถึงเมษายน 2549 เป็นเวลา 200 ปี ที่ชาวยองได้มาตั้งถิ่นฐานที่เมืองลำพูน เอกลักษณ์ และวัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ยังคงสืบทอดมาจนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน อาทิ การแต่งกาย ผู้เฒ่า ผู้แก่บางคนยังคงแต่งกายแบบชาวไต

ภาษายอง ซึ่งเป็นภาษาพูดที่เป็นเอกลักษณ์ สำเนียงแปลก แตกต่างจากภาษาคำเมือง บ้านที่อยู่อาศัย ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะหาดูได้ยาก แต่ยังมีให้เห็นใน อ.ป่าซาง อ.บ้านธิ และ
อ.เมือง ซึ่งลักษณะของบ้านชาวยองนั้น จะนิยมสร้างบ้านไม้ ใต้ถุนโล่ง หลังคาจะไม่มีกาแล แต่จะมีรูปนกยูง ซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ที่ชาวยองเคารพนับถือประดับอยู่แทน ศิลปะการฟ้อนรำบางอย่าง เช่น ฟ้อนยอง ฟ้อนดาบ การทำกลองหลวง ความเคารพ ยึดถือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า รักความสงบ

ชาวไตยอง นับเป็นชาติพันธุ์ บรรพบุรุษคนลำพูน ที่รักษารากเหง้าของตนเองได้นานกว่า 200 ปี ซึ่งเด็กรุ่นหลังควรจะภาคภูมิใจ ยึดรากเหง้า วิถีชีวิตดั้งเดิมของบรรพบุรุษรักษาไว้



อ่านประวัติความเป็นมากันเรียบร้อยแล้ว เรามาดูอาหารที่เฮือนใจ๋ยองกันบ้างเน้อเจ้า
อย่างแรกที่เห็นกันจนคุ้นหน้าคุ้นตาทั้งหน้าตาและรสชาติ แต่ละที่อาจจะไม่เหมือนกัน ตามคำล่ำลือ เค้าบอกปากตาปากมาว่าที่นี่อาหารอร่อยทุกอย่าง
นั่นก็คือ ไส้อั่วหมู

น้ำพริกหนุ่ม

















สุดท้าย ท้ายสุด เวลาขึ้นเฮือนไผ๋ ก็อย่าลืมทำสิ่งนี้ตวยเน้อเจ้า  :001:


ที่มาข้อมูลทั่วหมด - http://www.cm108.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 ก.พ. 2553, 07:20:50 โดย swat@pvc »

ออฟไลน์ Ronaldo 2007

  • .....ขออภัยในความบันเทิงบางลีลา.....
  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 940
  • เพศ: ชาย
  • ...รักนะจุ๊บๆ...รักดอกจึงหยอกเล่น...
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 05 ก.พ. 2553, 08:33:33 »
... :058:...น่าไปเยือนมาก...อาหารก็น่ารับประทาน... :109:

ขอให้........เจริญด้วย  อายุ วรรณะ  สุขะ  พละ..ขอรับ

ออฟไลน์ umpawan

  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 3112
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 05 ก.พ. 2553, 09:02:46 »
ขอบคุณครับ เป็นร้านอาหารเหนือ บรรยากาศดีมากๆเลย  :016:  :053:

ออฟไลน์ cho presley

  • ------> I'm Cho Presley
  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 2049
  • เพศ: หญิง
  • สุดท้ายก็กาหลง!
    • MSN Messenger - cho.khalong@hotmail.com
    • AOL Instant Messenger - เมืองเสน่ห์กาหลง
    • Yahoo Instant Messenger - มหาเสน่ห์+เมตตา+มหานิยม
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.khalong.com
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 06 ก.พ. 2553, 06:27:44 »
พึ่งเห็นหน้าตาของผักกาดจอก็วันนี้ค่ะ... เคยได้ยินได้ฟังจากเพลงมานานแล้ว..ถอดเกิบโตยเน้ออ

น้องปอร์.. ตอนนี้อยู่เหนือเหรอ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 ก.พ. 2553, 06:28:34 โดย cho presley »

cho presley       

ออฟไลน์ kajornsak

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 51
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 06 ก.พ. 2553, 07:59:55 »
อาหารอร่อยครับ แต่ไปให้ถูกวันหน่อย จำไม่ได้หยุดทุกวันพฤหัสที่ 3 หรือไงนี่แหละครับ

ออฟไลน์ wongrad

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 106
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 06 ก.พ. 2553, 10:07:31 »
ร้านอยู่ตี้ไหนก้าครับ.....จะไปเอ่วปาเปื่อนไปกิ๋นเข้า...... :095:
.......เจ้าเมืองเจียงใหม่......

ออฟไลน์ wongrad

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 106
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 06 ก.พ. 2553, 10:09:02 »
ไข้ไปเอ่วอ่ะครับตอบปิ๊กตวยเน้อครับ.....รินทร์

porvfc

  • บุคคลทั่วไป
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 06 ก.พ. 2553, 11:27:53 »
ก็เส้นทางถ้าเริ่มจากสนามบิน ก็ตรงไปทางสันกำแพงเลย (เป็นเส้นทางเดียวกัน)
หรือเริ่มจาก Big-C สาขาแยกดอนจั่น ก็ง่ายเช่นกัน คือตรงไปทางอำเภอสันกำแพง (สายใหม่)
หรือไปอำเภอแม่ออน ก็เส้นนี้เช่นกัน ไปประมาณ 10 กิโลได้เจ้า จดเบอร์โทรร้านไปด้วยยิ่งดีเลย :015:

ตามเส้นทางข้างบนนี้เลยเจ้า สะดวกไปทางไหนก่อได้ แต่ถ้าอ้ายไปแอ่วแล้วอย่าลืม ถ่ายรูปมาฝากแหม๋ตวยเน้อเจ้า
 

porvfc

  • บุคคลทั่วไป
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 06 ก.พ. 2553, 11:33:56 »
พึ่งเห็นหน้าตาของผักกาดจอก็วันนี้ค่ะ... เคยได้ยินได้ฟังจากเพลงมานานแล้ว..ถอดเกิบโตยเน้ออ

น้องปอร์.. ตอนนี้อยู่เหนือเหรอ?


ตอนนี้ปอร์กลับมากรุงเทพฯแล้วจ้ะ ปอร์ไปเชียงใหม่ช่วงพ.ย.ถึง ม.ค.อ่ะคะคุณพี่ ไปสันกำแพงด้วย ไปอ่างขาง อ่างขางหนาวมากก
พี่นุช มาแอ่วเหนือไม่โทรหาน้องเลย งอนแล้วเน้อ 42;

ออฟไลน์ ณ.อยุธยา

  • "รักแม่มากครับ"
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1374
  • เพศ: ชาย
  • "ชาติหน้า-ไม่ขอ-มาเกิด"
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 06 ก.พ. 2553, 12:57:35 »
ไกลแท้น้อ...   อยากกิ้นอยากกิน อิอิ  คลาสสิคมากมาย :015:

ออฟไลน์ nutagul

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 573
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 06 ก.พ. 2553, 01:37:19 »
เห็นแล้วคิดถึงบ้านจังเลยครับ
อิติสุคโตอะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ฐิตคุโณอาจาริโย จะมหาเถโร มหาลาโภ สัพพะสุขขัง จะมหาลาภัง สัพพะโภคัง สัพพะธะณัง ภะวัณตุเม

ออฟไลน์ cho presley

  • ------> I'm Cho Presley
  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 2049
  • เพศ: หญิง
  • สุดท้ายก็กาหลง!
    • MSN Messenger - cho.khalong@hotmail.com
    • AOL Instant Messenger - เมืองเสน่ห์กาหลง
    • Yahoo Instant Messenger - มหาเสน่ห์+เมตตา+มหานิยม
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.khalong.com
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 06 ก.พ. 2553, 10:08:14 »
พึ่งเห็นหน้าตาของผักกาดจอก็วันนี้ค่ะ... เคยได้ยินได้ฟังจากเพลงมานานแล้ว..ถอดเกิบโตยเน้ออ

น้องปอร์.. ตอนนี้อยู่เหนือเหรอ?


ตอนนี้ปอร์กลับมากรุงเทพฯแล้วจ้ะ ปอร์ไปเชียงใหม่ช่วงพ.ย.ถึง ม.ค.อ่ะคะคุณพี่ ไปสันกำแพงด้วย ไปอ่างขาง อ่างขางหนาวมากก
พี่นุช มาแอ่วเหนือไม่โทรหาน้องเลย งอนแล้วเน้อ 42;

จะไปเหนือแหม... ไว้เราไปสักกันเนอะ.. หุหุ..

ปล.น้องปอร์สวยขึ้นแยะนะคะช่วงนี้.. อ่า ใกล้วาเลนไทน์แล้ววว...
  :090:

ออฟไลน์ ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1560
  • เพศ: ชาย
  • ไม่สู้ ไม่หนี ทําดีเรื่อยไป
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 07 ก.พ. 2553, 09:34:55 »


อากาศดี อาหารอร่อย  น่าไปมากๆครับพี่ปอร์จัง
ครูผู้บริสุทธิ์ ครูผู้หมดกิเลสเครื่องเศร้าหมอง
ครูผู้มี"พระปัญญาธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ" อย่างประมาณมิได้
บรมครูผู้นั้นคือ "สมเด็จพระพุทธเจ้า"
ขอนอบน้อมกราบกรานพระบรมศาสดา

porvfc

  • บุคคลทั่วไป
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 07 ก.พ. 2553, 11:02:18 »


อากาศดี อาหารอร่อย  น่าไปมากๆครับพี่ปอร์จัง

อ้าว!!! น้องเณรน้อยเจ้าปัญหา  เอ๊ย!!! เณรน้อยเจ้าปัญญา น้องยังมีชีวิตอยู่อีกแฮะ  :004: อิอิ   นึกว่าหายไปไหนซะแล้ว เงียบหาย หายเงียบ :062:
นี่ใกล้วาเลนไทน์แล้ว พาน้องสาวไปเที่ยวที่ไหนหล่ะ ไปเที่ยวเผื่อด้วยนะ  คนแก่จะเฝ้าบ้าน  :007:

ออฟไลน์ ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1560
  • เพศ: ชาย
  • ไม่สู้ ไม่หนี ทําดีเรื่อยไป
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: 08 ก.พ. 2553, 08:42:22 »

อ้าว!!! น้องเณรน้อยเจ้าปัญหา  เอ๊ย!!! เณรน้อยเจ้าปัญญา น้องยังมีชีวิตอยู่อีกแฮะ  :004: อิอิ   นึกว่าหายไปไหนซะแล้ว เงียบหาย หายเงียบ :062:
นี่ใกล้วาเลนไทน์แล้ว พาน้องสาวไปเที่ยวที่ไหนหล่ะ ไปเที่ยวเผื่อด้วยนะ  คนแก่จะเฝ้าบ้าน  :007:


สวัสดีครับพี่ปอร์จัง
 
ผมก็เรื่อยๆครับ  ไม่ได้ไปไหน  แวะมาเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยได้โพสต์ครับ  แหะๆ

วาเลนไทน์ปีนี้ตรงกับตรุษจีน อาจจะไปไหว้พระ  นั่งสมาธิ ครับ

ออฟไลน์ TTTUTTT

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 834
  • เพศ: ชาย
  • สร้างสรรค์แต่สิ่งดี
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: "เฮือนใจ๋ยอง"
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: 10 ก.พ. 2553, 02:10:15 »
น่าอร่อยทั้งนั้นเลยครับปอร์...

เห็นอาหารแต่ละอย่างแล้วสงสารพุงน้อยๆจัง อิอิอิ ...{^_^}...