ผู้เขียน หัวข้อ: พ่อท่านบุญให้ ปทุโม พระเกจิดังเมืองคอน  (อ่าน 10070 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ umpawan

  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 3112
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด


นามพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งนครศรี ธรรมราช คงไม่มีใครไม่รู้จัก "พ่อท่านบุญให้ ปทุโม" หรือ "พระครูพิศาลวิหารวัตร" วัดท่าม่วง

ถือเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกรูป และได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้า

ที่ผ่านมา ท่านได้จัดสร้างวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม หลายต่อหลายรุ่น มอบให้แก่คณะศิษยานุศิษย์และสาธุชนที่เลื่อมใสศรัทธา จนเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นผู้มีวิทยาคมทรงพุทธคุณเข้มขลัง

ท่านมักจะได้รับกิจนิมนต์จากวัดวาอารามทั่วประเทศ ให้ร่วมในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลมาโดยตลอด อาทิ จตุคามรามเทพรุ่น ปี 2530, ปี 2545 และวัตถุมงคลต่างๆ เกือบทุกรุ่นที่จัดสร้างเรื่อยมา

ปัจจุบัน พ่อท่านบุญให้ สิริอายุ 82 พรรษา 62 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าม่วง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

อัตโนประวัติ เกิดในสกุล สุขขนาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม 2471 ณ หมู่บ้านบางทองคำ ต.บ้านเนิน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายสงฆ์ และนางทองนวล สุขขนาน ครอบครัวมีพี่น้อง 9 คน ท่านเป็นคนที่ 6

ในช่วงวัยเยาว์ ท่านมีอุปนิสัยเรียบร้อย เป็นเด็กดี ไม่ชอบเที่ยวเตร่ ตั้งแต่เริ่มเข้าวัยรุ่นมีความประพฤติเรียบร้อย จิตใจฝักใฝ่สนใจหลักธรรมในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เป็นคนขยันขันแข็ง มีจิตใจเมตตากรุณามาตั้งแต่วัยเยาว์ แม้กระทั่งวัวที่เลี้ยงไว้ไถนา ท่านให้ความรักดูแลเป็นอย่างดี จะคอยตัดหญ้าให้กินมาโดยตลอด

กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบททดแทนคุณบุพการี เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2491 ณ วัดพระหอม ต.บ้านกลาง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มีพระธรรมปาลาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดฝาก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายาว่า ปทุโม มีความหมายว่า ดอกบัว

เมื่อได้อุปสมบท ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม รวมทั้งได้ศึกษาร่ำเรียนสรรพวิชาจากพระครูทักษิณธรรมสาร ตลอดเวลา 3 พรรษา ท่านได้คอยปรนนิบัติรับใช้พระครูทักษิณธรรมสาร ซึ่งเป็นลูกศิษย์พ่อท่านจับ วัดท่าลิพง อย่างใกล้ชิด ได้รับเมตตาถ่ายทอดสรรพวิชาคาถาอาคมต่างๆ ให้อย่างครบถ้วน

พ่อท่านได้หมั่นฝึกฝนปฏิบัติวิทยาคมต่างๆ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจนเชี่ยวชาญ เกิดพลังสมาธิอย่างน่าอัศจรรย์ สรรพวิทยาคมที่ได้ร่ำเรียนจากพระครูทักษิณธรรมสารแห่งวัดพระหอม เป็นวิชาสายเดียวกับพ่อท่านเอื้อม แห่งวัดบางเนียน อ.เชียรใหญ่

ต่อมา พ.ศ.2494 ท่านได้เดินทางมายังภาคกลาง แถบเมืองหลวง ได้อยู่จำพรรษาที่วัดเขมาภิรตาราม อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยเป็นเวลา 13 พรรษา

หลังจากนั้น อาจารย์ก็ให้พ่อท่านบุญให้ เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าบันเทิงธรรม เขตบางกอกน้อย ซึ่งที่นั้นท่านได้บูรณะซ่อมแซมกุฏิ สร้างศาลา โรงธรรม เสนาสนะต่างๆ ครบ 3 พรรษา

กระทั่งปี พ.ศ.2508 ท่านได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระหอมเป็นเวลา 1 พรรษา ก่อนย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่ามะเดื่อ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เป็นเวลา 6 พรรษา

ณ ที่แห่งนี้เอง ที่พ่อท่านได้มีโอกาสศึกษาวิชาต่างๆ กับพระอาจารย์สำนักเขาอ้อ หลายๆ ท่าน เช่น พระสมุห์สงฆ์ วัดตะโหมด, พระครูกาชาด วัดดอนศาลา, พ่อท่านนำ, พ่อท่านทอง เป็นต้น

จวบจนปี 2513 พ่อท่านบุญให้ ได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าม่วง ซึ่งในตอนที่ท่านเข้ามาอยู่ใหม่นั้น มีเพียงพระหลวงตาอายุ 80 ปี อยู่เพียงรูปเดียว กับวัดที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม มีเพียงโบสถ์เก่ากับกุฏิผุพังเท่านั้น

ด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว ในปีรุ่งขึ้น พ่อท่านบุญให้สามารถชักชวนให้ชาวบ้านมาบูรณะซ่อมแซมวัด เปลี่ยนเสาโบสถ์ หลังคาและสร้างผนังโบสถ์ พร้อมกันนี้ ยังเป็นองค์อุปถัมภ์ในการสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ของโรงเรียนวัดท่าม่วง ในปี พ.ศ.2514 สร้างหอระฆัง พ.ศ.2515 สร้างเมรุ พ.ศ.2517 สร้างกุฏิและศาลาการเปรียญ

พ.ศ.2528 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลปากพูน

พ่อท่านบุญให้ เป็นพระที่บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น เป็นที่นับถือศรัทธาของชาวนครศรีธรรมราช เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของลูกศิษย์ซึ่งเป็นทหารกล้าของกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ ต่างล้วนเคยเข้ากราบนมัสการพ่อท่านบุญให้ และท่านได้มอบตะกรุดให้พกติดตัวไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ทหารหาญรายหลาย ต่างมีประสบการณ์แคล้วคลาดกันมาหลายหน จนเป็นที่เลื่องลือว่า ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งวิทยาคมด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ผู้ที่มีวัตถุมงคลของท่านไว้บูชาจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองทั้งในหน้าที่การ งาน ค้าขาย และโชคลาภ ผู้ที่ได้บูชาพระเครื่องของหลวงพ่อบุญให้ไปต่างร่ำลือในเรื่องพุทธคุณในด้าน คงกระพันชาตรี เมตตา ค้าขาย โชคลาภ กันอยู่เนืองๆ

ในปี พ.ศ.2553 พ่อท่านบุญให้ ได้ดำริจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่นสรงน้ำ เพื่อนำปัจจัยที่ได้ไปจัดสร้างกุฏิสงฆ์ ด้วยกุฏิของวัดท่าม่วงยังไม่เพียงพอให้พระอยู่จำพรรษา วัตถุมงคลที่ท่านจัดสร้าง ประกอบด้วย พระพุทธสิหิงค์หน้าตัก 14 นิ้ว พระรูปเหมือนขนาดบูชา หน้าตัก 5 นิ้ว พระกริ่งบุญให้ เหรียญรูปไข่พ่อท่านบุญให้ เป็นต้น ซึ่งท่านได้นำชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย จัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้ ด้วยท่านตั้งใจให้วัตถุมงคลรุ่นสรงน้ำ เป็นวัตถุที่เข้มขลังกว่าทุกรุ่นที่ท่านเคยจัดสร้างมา

พ่อท่านบุญให้ เป็นพระเกจิอาจารย์อาวุโสของเมืองนครศรีธรรมราช ได้สืบทอดวิชาและวัตรปฏิบัติตามแนวทางที่ครูบาอาจารย์ได้สั่งสอนเอาไว้ได้ เป็นอย่างดี เป็นที่เจริญศรัทธาของสาธุชน

พ่อท่านบุญให้ ได้นำวิชาความรู้ด้านวิทยาคม เป็นกุศโลบายสำคัญในการอบรมสั่งสอนศีลธรรมให้ประชาชนทั่วไป ได้ยึดหลักธรรมคำสอนตามแนวทางของพระพุทธศาสนาเป็นวิถีสำคัญในการประพฤติ ปฏิบัติธรรมและเข้าถึงธรรมะได้อย่างง่าย

ปัจจุบัน ท่านมีความเป็นอยู่อย่างสงบเรียบง่าย

ทุกวันนี้การเดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่อบุญให้ ที่วัดท่าม่วง มีความสะดวกสบาย เนื่องจากวัดท่าม่วงตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เส้นทางคมนาคมสะดวก

กราบไหว้พระดีเปี่ยมด้วยเมตตาถือเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต


ที่มาข่าวสด ออนไลน์ ขอขอบคุณครับ  :001: :001: :001: