ผู้เขียน หัวข้อ: ตั่ว เหล่าเอี๊ย (เฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่)  (อ่าน 4254 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ umpawan

  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 3112
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด


ช่วงตรุษจีนของทุกปีเทพองค์หนึ่งที่ ผู้คนนิยมไปกราบไหว้ขอพรกันอย่างเนืองแน่น เพื่อให้มีโชคมีชัยตลอดทั้งปี ก็คือ "ตั่ว เหล่าเอี๊ย หรือเฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่" ณ ศาลเจ้าพ่อเสือ ซึ่งชาวจีนถือเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องอภิบาล และปราบปรามศัตรู

มี ตำนานเล่าขานมากมายเกี่ยวกับตั่วเหล่าเอี๊ย อาทิ ในเทวปกรณัมของจีนกล่าวว�เมื่อครั้งบรรพกาลล่วงมาแล้ว เมืองลกฮง กึงตัง ประเทศจีน มีชายหนุ่มรูปร่างกำยำใหญ่ผู้หนึ่งประกอบอาชีพฆ่าหมูและวัวเพื่อส่งขาย คืนหนึ่งเกิดนิมิตเห็นนักพรตลัทธิเต๋ามาบอกให้เลิกฆ่าสัตว์ เพราะเขามิได้เกิดมาเพื่อการนี้ แต่เกิดมาเพื่อสร้างบารมี ควรหันมาบำเพ็ญธรรมแล้วจะสำเร็จ เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาชายหนุ่มจึงเล่าให้มารดาฟัง ซึ่งมารดาก็เห็นด้วย ทั้งสองจึงตกลงยุติการฆ่าสัตว์และตั้งใจบำเพ็ญปฏิบัติธรรม

เวลาล่วง ไป 3-4 วัน นักพรตในนิมิตก็มาปรากฏกายที่หน้าบ้าน แล้วถามเขาว่า "ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวที่จะบำเพ็ญพรตให้สำเร็จหรือยัง" ชายหนุ่มตอบตกลงทันที จากนั้นจึงรวบรวมทรัพย์สินก้อนหนึ่งไว้สำหรับมารดาผู้ชรา แล้วเก็บข้าวของออกเดินทางตามนักพรตขึ้นเขาไปบำเพ็ญพรต แต่ไม่ว่าจะมานะและตั้งใจปฏิบัติบำเพ็ญมากแค่ไหน ก็หาประสบผลสำเร็จไม่ ทำ ให้ชายหนุ่มรู้สึกท้อแท้ใจมาก วันหนึ่งจึงถามนัก พรตว่า "เขาจะมีวันสำเร็จธรรมไหม" อาจารย์ตอบว่า "ตราบใดที่ภายในของเจ้ายังเป็นสีดำ ก็อย่าถามถึงความสำเร็จ" เขาทั้งเสียใจและข้องใจในคำพูดของอาจารย์ว่าหมายความว่าอย่างไร

เขา ตั้งใจมุ่งมั่นบำเพ็ญธรรมเพื่อความสำเร็จ แต่ภายในกลับเป็นอุปสรรค ถ้าเป็นเช่นนี้เขาก็ยินดีพลีชีพเพื่อบูชาธรรม จึงคว้ามีดขึ้นมาคว้านท้องลากไส้และกระเพาะออกมา เมื่อเครื่องในเหล่านั้นหลุดพ้นจากร่างเขาเกิดความรู้สึกตัวเบาและบรรลุธรรม ในทันที ด้วยได้เอาชีวิตของตนแลกธรรมเพื่อทดแทนบาปกรรมที่ได้ฆ่าสัตว์มามาก

เมื่อ นักพรตทราบความจึงรีบมารักษาจนหายเป็นปกติ ชายหนุ่มยังสามารถดำรงชีพอยู่โดยปราศจากลำไส้และกระเพาะ เพราะฌานสมาบัติแห่งธรรม เมื่อสำเร็จธรรมแล้วนักพรตจึงให้ชายหนุ่มลงจากเขาไปโปรดผู้คน โดยมอบธงสีขาวให้ 1 ผืน ชายหนุ่มจัดเตรียมสัมภาระลงเขา พร้อมเอากระเพาะและลำไส้ที่ตากแห้งติดตัวไปด้วย ครั้นเดินทางถึงเชิงเขาได้พบหญิงท้องแก่กำลังจะคลอดบุตร จึงมอบธงผืนนั้นเพื่อให้หญิงคนนั้นใช้รองรับเด็กทารก

หลังจากนั้น เขาได้เอาธงเปื้อนเลือดไปล้างที่ชายคลอง พอธงจุ่มลงน้ำน้ำในคลองพลันเปลี่ยนเป็นสีดำทันที รวมทั้งธงของเขาก็กลายเป็นสีดำด้วย อีกทั้งกระเพาะและลำไส้ก็พลัดหล่นลงน้ำไป จากนั้นชายหนุ่มก็ลงเขาโปรดผู้คนจวบจนสิ้นวาระขัยจากมนุษย์โลก ไปเสวยทิพย์สมบัติ องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ เจ้าแห่งสวรรค์ โปรดประทานยศให้เป็นผู้ตรวจการภพสาม ตำแหน่ง "เฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่" ผู้พิชิตมาร โดยมีธงเทพโองการสีดำเป็นอาญาสิทธิ์ และเป็นสัญลักษณ์ ต่อมาเง็กเซียนฮ่องเต้มีพระบัญชาให้ไปปราบสัตว์ประหลาด 2 ตน พอพบสัตว์ประหลาดทั้งสอง เฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่ทราบทันทีว่าเป็นกระเพาะและลำไส้ของตนที่ปีศาจร้ายเข้า ไปสิงสถิตอยู่ กระเพาะกลายเป็น "เต่า" และลำไส้กลายเป็น "งู" ท่านจึงเอาเท้าข้างหนึ่งเหยียบเต่า และเท้าอีกข้างเหยียบงูไว้ สยบสัตว์ปีศาจร้ายทั้งสองจนหมดฤทธิ์

ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาจึงจัด สร้างศาลเจ้าและรูปปั้นท่านขึ้นบูชา โดยใช้สัญลักษณ์เท้าเหยียบเต่า เหยียบงู และธงสีดำ โดยมี "เสือ" เป็นบริวารพาหนะ

นี่คือตำนานแห่ง ตั่วเหล่าเอี๊ย หรือเฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่ เทพศักดิ์สิทธิ์ ประจำกลุ่มดาวด้านทิศเหนือ ผู้พิชิตมาร ในรูปลักษณ์ขุนพลเคราดำยาว เท้าเหยียบบนหลังงูและเต่าซึ่งถือเป็นสัตว์ประจำกาย มือขวาถือดาบชิดแชเกี่ยม มือซ้ายยกชี้ระดับหน้าอกไปยังท้องฟ้า อันแสดงความหมายถึงการบรรลุธรรมสำเร็จเต๋า ที่ผู้คนกราบไหว้นับถือมาจนถึงทุกวันนี้ครับผม


ที่มาข่าวสด ออนไลน์ ขอขอบคุณครับ