ผู้เขียน หัวข้อ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล  (อ่าน 4100 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ pepsi

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 325
  • เพศ: ชาย
  • ทําดี คิดดี พูดดี
    • ดูรายละเอียด
    • http://sbntown.com/forum/group.php?groupid=33
คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« เมื่อ: 12 ต.ค. 2553, 06:03:42 »
กติกาเหมือนเดิมนะครับ..ผมจะไล่เวลาในการตอบของแต่ละท่านนะครับ..
ต้องถูกทุกข้อนะครับ


รางวัลที่1...พระผงโรยตะไบหลวงพ่อเปิ่นวัดบางพระ..พิมพ์ใหญ่พร้อมกล่อง(หายากครับ)
รางวัลที่2...พระผงหลวงพ่อเปิ่นพิมพ์เล็กขี่เสือฝังพลอยพร้อมกล่องสวยๆครับ
รางวัลที่3...เหรียญพระพุทธ25ศัตวรรษ สวยๆพร้อมกล่อง ปี 2500
รางวัลที่4-5...เหรียญปั้มหลวงปู่ทวด วัดประสาทบุญญาวาส ปี 2536 พร้อมกล่อง
คําถาม ถามว่า...
1.ภาพที่เห็นนี้ ชื่อวัดอะไรครับ?   และอยู่ในจังหวัดไหน?


2.ภาพประตูนี้...ประตูทางเข้าวัดอะไรครับ?  จังหวัดอะไรครับ?



3.รูปปั้นโบราณนี้ อยู่ที่วัดอะไรครับ? และมีประวัติอย่างไรครับ?


4.พระพุทธรูปพระประธานองค์นี้ ประดิษฐ์ฐานอยู่ที่วัดอะไรครับ..(บอกชื่อแค่วัดก็ได้ครับ)


5.พระเกจิอาจารย์องค์นี้ชื่อของท่านคือ? .. ท่านอยู่วัดอะไรครับ?  จังหวัด?

ขอให้เพื่อนๆทุกท่านโชคดีครับ.
กาลเวลาเป็นเครื่องชี้ตัวตนแห่งคน

ออฟไลน์ KITTITUCH

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 76
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 12 ต.ค. 2553, 06:40:26 »
โอ้มึนครับ ขอเชียร์ดีกว่า งานนี้หลีกทางให้เซียนครับ :010:

ออฟไลน์ pepsi

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 325
  • เพศ: ชาย
  • ทําดี คิดดี พูดดี
    • ดูรายละเอียด
    • http://sbntown.com/forum/group.php?groupid=33
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 12 ต.ค. 2553, 07:24:08 »
ยากไปหรือเปล่าครับ....
ถ้ายาก...อ้าวววผมบอกให้
ข้อ1-4 อยู่ทางเหนือครับ
ส่วนข้อ5 อยู่ใต้ครับ

ออฟไลน์ umpawan

  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 3112
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 12 ต.ค. 2553, 08:18:21 »
ภาพที่ 5 อยู่ เมืองนครอะไรเอ่ย   :080: 
ขอบคุณพี่เป็ปซี่ด้วยครับ สำหรับกิจกรรมดีๆ

ออฟไลน์ Chotipat

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 400
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 12 ต.ค. 2553, 08:31:54 »
 :005: :005: :005:กองเชียร์มาแล้วครับ...ไม่ยากเกินไป...  :058:
[shake]เป็นมิตรกับคนทุกคน เป็นเพื่อนกับลูกเสืออื่นทั่วโลก[/shake]

ออฟไลน์ นามมงคล

  • บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ
  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 145
  • เพศ: ชาย
  • ดีชั่ว อยู่ที่ตัวทำ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 12 ต.ค. 2553, 08:32:52 »
ตอบข้อ 5 น่าจะเป็น หลวงปู่เขียว อินทมุนี องค์อรหันต์แห่งวัดทรงบล นครศรีธรรมราช

ส่วนข้อ 1 - 4 ยังไม่ทราบครับ


เขา..ผู้สูญสิ้นทรัพย์สินไป           เขา..สูญเสียมากเหลือเกิน
เขา..ผู้สูญสิ้นเพื่อนไป               เขา..สูญเสียมากกว่า
เขา..ผู้สูญสิ้นความศรัทธา           เขา..ผู้นั้น.. สูญเสียยิ่งกว่าใครๆ

ออฟไลน์ hangman69

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 226
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 12 ต.ค. 2553, 09:31:41 »
1.” วัดไหล่หิน ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง
2..” วัดไหล่หิน ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง
3.วัดไหล่หิน หรือ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม
ประวัติ ปั้นของมหาเกสรปัญโญ ขนาดเท่าตัวจริง ซึ่งปั้นโดยตัวท่านเอง ในสมัยที่เป็นเจ้าอาวาส โดยมีเจ้าฟ้าจากเมืองเชียงตุงเป็นผู้อุปถัมภ์สร้างวัดถวายให้ และมหาเกสรนี้เป็นผู้เขียนใบลานเกี่ยวกับวัดนี้ไว้มาก ชาวบ้านที่นี่นับถือท่านมาก ทุกครั้งที่มาทำบุญที่วัดก็จะเข้ามากราบไหว้รูปปั้นพระมหาเกสรนี้ทุกครั้ง

ประวัติของ “ มหาเกสรปัญโญภิกขุ ” เดิมเป็นสามเณรน้อยบวชจากเมืองหริภูญชัย จังหวัดลำพูน เดินทางมาจำพรรษาที่วัดไหล่หินเมื่อราว จ.ศ. 1000 เศษ (ประมาณปี พ.ศ. 2181 ) เป็นสามเณรที่รักสันโดษ ไม่ค่อยจะมีใครสนใจนัก และมักถูกสามเณร รุ่นโตกว่ารังแกอยู่เป็นประจำ แต่มีความจำเป็นเลิศ สามารถแสดงธรรมเรื่องพระเวส--สันดรชาดกได้อย่างถูกต้องแม่นยำโดยไม่ต้องเปิดใบลานอ่าน สร้างความแปลกใจให้กับพระอาจารย์เป็นอย่างมาก ทั้งๆที่เป็นสามเณรที่เกียจคร้าน และทำให้พระอาจารย์ไม่ค่อยจะพอใจอยู่เป็นประจำ
ขอบคุณข้อมูลจากเวป http://www.photoontour.com/Articles_HTML/WatLaiHin/WatLaiHin2.htm
4.” วัดไหล่หิน ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง
5.หลวงพ่อเขียว อินทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน ต.บางตะพงษ์ อ.ปากพนัง จ. นครศรีธรรมราช
คนเรามักพูดว่ากาลเวลาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง  แต่จริงๆแล้วเราเป็นคนเปลี่ยนทุกสิ่งด้วยตัวเอง

ออฟไลน์ ~>uาJวัuทoJ<~

  • AlwaYs Miss Ya !! ><* คนที่คุณก็รู้ว่าใคร **
  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 212
  • เพศ: หญิง
  • Twitter@MinzLadyMaFiAz
    • Yahoo Instant Messenger - KawisaraMinz@yahoo.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 12 ต.ค. 2553, 10:11:42 »
1.วัดไหล่หินหลวงแก้วช้างยืน อ.เกาะคา จ.ลำปาง
2.วัดไหล่หินหลวงแก้วช้างยืน อ.เกาะคา จ.ลำปาง ตอบตามด้านบนจ้า ไม่รู้จริงๆ แห่ะๆ
3.วัดไหล่หินหลวงแก้วช้างยืน อ.เกาะคา จ.ลำปาง รูปปั้นพระมหาเกสรปัญโญ
ลุง เป็ง ชี้ให้ผมดูรูปปั้นภายในวิหาร บอกว่านี่เป็นรูปปั้นของมหาเกสรปัญโญ ขนาดเท่าตัวจริง ซึ่งปั้นโดยตัวท่านเอง ในสมัยที่เป็นเจ้าอาวาส โดยมีเจ้าฟ้าจากเมืองเชียงตุงเป็นผู้อุปถัมภ์สร้างวัดถวายให้ และมหาเกสรนี้เป็นผู้เขียนใบลานเกี่ยวกับวัดนี้ไว้มาก ชาวบ้านที่นี่นับถือท่านมาก ทุกครั้งที่มาทำบุญที่วัดก็จะเข้ามากราบไหว้รูปปั้นพระมหาเกสรนี้ทุกครั้ง
ประวัติ ของ “ มหาเกสรปัญโญภิกขุ ” เดิมเป็นสามเณรน้อยบวชจากเมืองหริภูญชัย จังหวัดลำพูน เดินทางมาจำพรรษาที่วัดไหล่หินเมื่อราว จ.ศ. 1000 เศษ (ประมาณปี พ.ศ. 2181 ) เป็นสามเณรที่รักสันโดษ ไม่ค่อยจะมีใครสนใจนัก และมักถูกสามเณร รุ่นโตกว่ารังแกอยู่เป็นประจำ แต่มีความจำเป็นเลิศ สามารถแสดงธรรมเรื่องพระเวส--สันดรชาดกได้อย่างถูกต้องแม่นยำโดยไม่ต้องเปิด ใบลานอ่าน สร้างความแปลกใจให้กับพระอาจารย์เป็นอย่างมาก ทั้งๆที่เป็นสามเณรที่เกียจคร้าน และทำให้พระอาจารย์ไม่ค่อยจะพอใจอยู่เป็นประจ

สามเณรน้อยได้ถูกพระอาจารย์ทดสอบความสามารถด้วยการให้เรียงใบลานจากโรงธรรม โดยที่ได้แกะเชือกที่ผูกใบลาน ออกหมด ทุกใบ ทุกกัณฑ์ และให้สามเณรเกสรจัดเรียงใหม่ ซึ่งก็ได้จัดเรียงอย่างถูกต้องครบทุกกัณฑ์ภายในเวลาไม่นานนัก
สร้างความแปลกใจให้กับผู้พบเห็น จนมีผู้เกรงขามในตัวสามเณรน้อยผู้นี้
จ.ศ. 1012 (พ.ศ. 2193 ) ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยมีนามว่า “ มหาเกสรปัญโญภิกขุ ” และได้ตำแหน่งเจ้าอาวาสใน เวลาต่อมา
พระ มหาเกสร เป็นพระนักปฏิบัติที่มีความรู้แตกฉานในการเขียนธรรม (จาร) ลงบนใบลานเป็นอักขระพื้นเมืองเหนือได้วันละมากๆ จนมูลเหล็กจาร(ขุยใบลาน) เต็มกะลามะพร้าว ซึ่งหาผู้เสมอเหมือนไม่ได้
ตาม ประวัติของท่านที่ปรากฏในเรื่องปฏิหาริย์ ก็มีเล่าว่า ท่านออกไปบิณฑบาตยังแดนไกลถึงหมู่บ้านไทยใหญ่แคว้นเชียงตุง ประเทศพม่าอยู่ทุกเช้า จนมีผู้ เลื่อมใสศรัทธา อยู่มาวันหนึ่งเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงได้นมัสการถามว่า
” ท่านจำพรรษาอยู่วัดใด ”
ซึ่งท่านก็ตอบในเชิงปริศนาว่า
“ เจริญพร อาตมาอยู่วัดขบไม่แตก ”
เจ้า ฟ้าเมืองเชียงตุงได้ฟังดังนั้นจึงให้ทหารอำมาตย์ค้นหาวัดจนทั่วเมืองเชียง ตุง แต่ก็ไม่พบวัดดังกล่าว และด้วยแรงศรัทธา ของเจ้าฟ้าฯที่มีต่อท่านมหาเกสร จึงสั่งให้ทหารนำมะพร้าวมาปอกเปลือกและขูดให้เกลี้ยง แล้วผ่ามะพร้าวออกเป็นสองซีกโดยนำไปใส่บาตรซีกหนึ่ง ส่วนอีกซีกหนึ่งได้เก็บรักษาไว้ พร้อมกับบอกท่านมหาฯว่า
“ ขออาราธนาพระคุณเจ้าฉันท์เนื้อมะพร้าวแล้วกรุณาเก็บกะลามะพร้าวไว้ด้วย ข้าพเจ้าจะไปรับเอากะลาในภายหลัง ”
จาก นั้นจึงได้ให้บริวารออกติดตามหาวัดของพระมหาเถระเจ้า และกะลามะพร้าว ซึ่งต่อมาอีก 4 เดือน เสนาอำมาตย์พวกหนึ่งได้เดินทางมาเขลางค์นคร และได้สืบเสาะ จนพบว่าท่านอยู่ที่วัดไหล่หิน พร้อมกับได้นมัสการถามถึงกะลามะพร้าว มหาเกสรปัญโญเจริญพรตอบว่า ยังมีอยู่ พร้อมกับหยิบเอากะลามะพร้าวออกมาจากใต้เตียงนอน ยื่นให้เสนาอำมาตย์ เมื่อนำกะลาที่อำมาตย์นำมาจากเมืองเชียงตุง ประกบคู่กับกะลามะพร้าวที่มหาเกสรยื่นให้ปรากฏว่าเข้ากันได้พอดี จึงกราบลาและ แจ้งให้กับเจ้าฟ้าฯเมืองเชียงตุงได้ทราบ จึงได้พาข้าทาสบริวารเดินทางมาที่วัดไหล่หินโดยผ่านมาทางจังหวัดเชียงราย
ลุง เป็งได้เล่าประวัติของท่านมหาเกสรพร้อมกับชี้ให้ดูปูนปั้นรูปกะลามะพร้าว ด้านหน้าวิหารที่แสดงถึงเรื่องราวของอดีต เจ้าอาวาสวัดไหล่หิน ซึ่งเป็นผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดเป็นอย่างมาก และวิหารที่เห็นเก่าแก่นี้ก็ด้วยแรงศรัทธา จากเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงเป็นประธานสร้างถวายเมือปี จ.ศ. 1045 (พ.ศ.2226) โดยฝีมือช่างจากเชียงตุงประเทศพม่า
4.วัดไหล่หินหลวงแก้วช้างยืน อ.เกาะคา จ.ลำปาง
5.หลวงปู่เขียว อินทมุนี องค์อรหันต์แห่งวัดทรงบล นครศรีธรรมราช ตอบตามท่านนามมงคลจ้ะ
[shake]เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว ไม่ค่อยเข้าใจสภาพความเป็นไป...โลกร้อนมากไปคนก็กลายเป็นหมาบ้า --*[/shake]

ออฟไลน์ ยอดรัก..บางแค

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 587
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - yodrak-bo@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 12 ต.ค. 2553, 10:51:09 »
1.” วัดไหล่หินหลวง จังหวัด ลำปาง ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง
2..” วัดไหล่หินหลวง จังหวัด ลำปาง ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง
3.วัดไหล่หินหลวง หรือ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม
ประวัติ รูปปั้นของมหาเกสรปัญโญ หรือ ครูบามหาป่าขนาดเท่าตัวจริง ซึ่งปั้นโดยตัวท่านเอง ในสมัยที่เป็นเจ้าอาวาส โดยมีเจ้าฟ้าจากเมืองเชียงตุงเป็นผู้อุปถัมภ์สร้างวัดถวายให้ และมหาเกสรนี้เป็นผู้เขียนใบลานเกี่ยวกับวัดนี้ไว้มาก ชาวบ้านที่นี่นับถือท่านมาก ทุกครั้งที่มาทำบุญที่วัดก็จะเข้ามากราบไหว้รูปปั้นพระมหาเกสรนี้ทุกครั้ง
ประวัติของ “ มหาเกสรปัญโญภิกขุ ” เดิมเป็นสามเณรน้อยบวชจากเมืองหริภูญชัย จังหวัดลำพูน เดินทางมาจำพรรษาที่วัดไหล่หินเมื่อราว จ.ศ. 1000 เศษ (ประมาณปี พ.ศ. 2181 ) เป็นสามเณรที่รักสันโดษ ไม่ค่อยจะมีใครสนใจนัก และมักถูกสามเณร รุ่นโตกว่ารังแกอยู่เป็นประจำ แต่มีความจำเป็นเลิศ สามารถแสดงธรรมเรื่องพระเวส--สันดรชาดกได้อย่างถูกต้องแม่นยำโดยไม่ต้องเปิดใบลานอ่าน สร้างความแปลกใจให้กับพระอาจารย์เป็นอย่างมาก ทั้งๆที่เป็นสามเณรที่เกียจคร้าน และทำให้พระอาจารย์ไม่ค่อยจะพอใจอยู่เป็นประจำ

4.” วัดไหล่หินหลวง จังหวัด ลำปาง ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง
5.หลวงพ่อเขียว อินทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 ต.ค. 2553, 11:07:32 โดย ยอดรัก..บางแค »

ออฟไลน์ ยอดรัก..บางแค

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 587
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - yodrak-bo@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 12 ต.ค. 2553, 11:36:38 »
1.” วัดไหล่หินหลวง จังหวัด ลำปาง ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง
2 วัดพระธาตุช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ พระอารามหลวง เป็นวัดที่ตั้งอยู่เนินเขาเตี้ย สูงประมาณ 28 เมตร องค์พระธาตุช่อแฮ เป็นเจดีย์พุกามรูปแปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะแบบเชียงแสน บุด้วยทองดอกบวบสูง 33 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 11 เมตร ลักษณะองค์พระธาตุตั้งอยู่บนฐานเขียงสี่เหลี่ยม 1 ชั้น ถัดขึ้นไปเป็นฐานหน้ากระดานแปดเหลี่ยม 3 ชั้นรองรับ ถัดไปเป็นฐานบัวคว่ำและชุดท้องไม้แปดเหลี่ยม ซ้อนลดชั้นกันขึ้นไป 7 ชั้น จากนั้นเป็นบัวระฆัง 1 ชั้น และหน้ากระดานหนึ่งชั้น จนถึงองค์ระฆังแปดเหลี่ยม ถัดขึ้นไปเป็นบัลลังค์ย่อมุมไม้สิบสองและปล้องไฉน ส่วนยอดฉัตรประดับตกแต่งด้วยเครื่องบนแบบล้านนา หุ้มด้วยทองจังโก้ตลอดทั้งองค์ มีรั้วเหล็กรอบองค์พระธาตุ 4 ทิศ มีประตูเข้าออก 4 ประตู แต่ละประตูได้สร้างซุ้มแบบปราสาทล้านนาไว้อย่างสวยงาม
3.วัดไหล่หินหลวง หรือ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม
ประวัติ รูปปั้นของมหาเกสรปัญโญ หรือ ครูบามหาป่าขนาดเท่าตัวจริง ซึ่งปั้นโดยตัวท่านเอง ในสมัยที่เป็นเจ้าอาวาส โดยมีเจ้าฟ้าจากเมืองเชียงตุงเป็นผู้อุปถัมภ์สร้างวัดถวายให้ และมหาเกสรนี้เป็นผู้เขียนใบลานเกี่ยวกับวัดนี้ไว้มาก ชาวบ้านที่นี่นับถือท่านมาก ทุกครั้งที่มาทำบุญที่วัดก็จะเข้ามากราบไหว้รูปปั้นพระมหาเกสรนี้ทุกครั้ง
ประวัติของ “ มหาเกสรปัญโญภิกขุ ” เดิมเป็นสามเณรน้อยบวชจากเมืองหริภูญชัย จังหวัดลำพูน เดินทางมาจำพรรษาที่วัดไหล่หินเมื่อราว จ.ศ. 1000 เศษ (ประมาณปี พ.ศ. 2181 ) เป็นสามเณรที่รักสันโดษ ไม่ค่อยจะมีใครสนใจนัก และมักถูกสามเณร รุ่นโตกว่ารังแกอยู่เป็นประจำ แต่มีความจำเป็นเลิศ สามารถแสดงธรรมเรื่องพระเวส--สันดรชาดกได้อย่างถูกต้องแม่นยำโดยไม่ต้องเปิดใบลานอ่าน สร้างความแปลกใจให้กับพระอาจารย์เป็นอย่างมาก ทั้งๆที่เป็นสามเณรที่เกียจคร้าน และทำให้พระอาจารย์ไม่ค่อยจะพอใจอยู่เป็นประจำ

4.” วัดไหล่หินหลวง จังหวัด ลำปาง ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง
5.หลวงพ่อเขียว อินทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช
ขอแก้ตัวข้อส่อบ ข้อ 2 หน่อยครับ พร้อมส่งการบ้านแล้วคร้าบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 ต.ค. 2553, 11:52:33 โดย ยอดรัก..บางแค »

ออฟไลน์ ~>uาJวัuทoJ<~

  • AlwaYs Miss Ya !! ><* คนที่คุณก็รู้ว่าใคร **
  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 212
  • เพศ: หญิง
  • Twitter@MinzLadyMaFiAz
    • Yahoo Instant Messenger - KawisaraMinz@yahoo.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 12 ต.ค. 2553, 11:57:09 »
1.วัดไหล่หินหลวงแก้วช้างยืน อ.เกาะคา จ.ลำปาง
2.วัดพระธาตุช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่  ตามท่านยอดรักค่ะ ^^
3.วัดไหล่หินหลวงแก้วช้างยืน อ.เกาะคา จ.ลำปาง รูปปั้นพระมหาเกสรปัญโญ
ลุง เป็ง ชี้ให้ผมดูรูปปั้นภายในวิหาร บอกว่านี่เป็นรูปปั้นของมหาเกสรปัญโญ ขนาดเท่าตัวจริง ซึ่งปั้นโดยตัวท่านเอง ในสมัยที่เป็นเจ้าอาวาส โดยมีเจ้าฟ้าจากเมืองเชียงตุงเป็นผู้อุปถัมภ์สร้างวัดถวายให้ และมหาเกสรนี้เป็นผู้เขียนใบลานเกี่ยวกับวัดนี้ไว้มาก ชาวบ้านที่นี่นับถือท่านมาก ทุกครั้งที่มาทำบุญที่วัดก็จะเข้ามากราบไหว้รูปปั้นพระมหาเกสรนี้ทุกครั้ง
ประวัติ ของ “ มหาเกสรปัญโญภิกขุ ” เดิมเป็นสามเณรน้อยบวชจากเมืองหริภูญชัย จังหวัดลำพูน เดินทางมาจำพรรษาที่วัดไหล่หินเมื่อราว จ.ศ. 1000 เศษ (ประมาณปี พ.ศ. 2181 ) เป็นสามเณรที่รักสันโดษ ไม่ค่อยจะมีใครสนใจนัก และมักถูกสามเณร รุ่นโตกว่ารังแกอยู่เป็นประจำ แต่มีความจำเป็นเลิศ สามารถแสดงธรรมเรื่องพระเวส--สันดรชาดกได้อย่างถูกต้องแม่นยำโดยไม่ต้องเปิด ใบลานอ่าน สร้างความแปลกใจให้กับพระอาจารย์เป็นอย่างมาก ทั้งๆที่เป็นสามเณรที่เกียจคร้าน และทำให้พระอาจารย์ไม่ค่อยจะพอใจอยู่เป็นประจ

สามเณรน้อยได้ถูกพระ อาจารย์ทดสอบความสามารถด้วยการให้เรียงใบลานจากโรงธรรม โดยที่ได้แกะเชือกที่ผูกใบลาน ออกหมด ทุกใบ ทุกกัณฑ์ และให้สามเณรเกสรจัดเรียงใหม่ ซึ่งก็ได้จัดเรียงอย่างถูกต้องครบทุกกัณฑ์ภายในเวลาไม่นานนัก
สร้างความแปลกใจให้กับผู้พบเห็น จนมีผู้เกรงขามในตัวสามเณรน้อยผู้นี้
จ.ศ. 1012 (พ.ศ. 2193 ) ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยมีนามว่า “ มหาเกสรปัญโญภิกขุ ” และได้ตำแหน่งเจ้าอาวาสใน เวลาต่อมา
พระ มหาเกสร เป็นพระนักปฏิบัติที่มีความรู้แตกฉานในการเขียนธรรม (จาร) ลงบนใบลานเป็นอักขระพื้นเมืองเหนือได้วันละมากๆ จนมูลเหล็กจาร(ขุยใบลาน) เต็มกะลามะพร้าว ซึ่งหาผู้เสมอเหมือนไม่ได้
ตาม ประวัติของท่านที่ปรากฏในเรื่องปฏิหาริย์ ก็มีเล่าว่า ท่านออกไปบิณฑบาตยังแดนไกลถึงหมู่บ้านไทยใหญ่แคว้นเชียงตุง ประเทศพม่าอยู่ทุกเช้า จนมีผู้ เลื่อมใสศรัทธา อยู่มาวันหนึ่งเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงได้นมัสการถามว่า
” ท่านจำพรรษาอยู่วัดใด ”
ซึ่งท่านก็ตอบในเชิงปริศนาว่า
“ เจริญพร อาตมาอยู่วัดขบไม่แตก ”
เจ้า ฟ้าเมืองเชียงตุงได้ฟังดังนั้นจึงให้ทหารอำมาตย์ค้นหาวัดจนทั่วเมืองเชียง ตุง แต่ก็ไม่พบวัดดังกล่าว และด้วยแรงศรัทธา ของเจ้าฟ้าฯที่มีต่อท่านมหาเกสร จึงสั่งให้ทหารนำมะพร้าวมาปอกเปลือกและขูดให้เกลี้ยง แล้วผ่ามะพร้าวออกเป็นสองซีกโดยนำไปใส่บาตรซีกหนึ่ง ส่วนอีกซีกหนึ่งได้เก็บรักษาไว้ พร้อมกับบอกท่านมหาฯว่า
“ ขออาราธนาพระคุณเจ้าฉันท์เนื้อมะพร้าวแล้วกรุณาเก็บกะลามะพร้าวไว้ด้วย ข้าพเจ้าจะไปรับเอากะลาในภายหลัง ”
จาก นั้นจึงได้ให้บริวารออกติดตามหาวัดของพระมหาเถระเจ้า และกะลามะพร้าว ซึ่งต่อมาอีก 4 เดือน เสนาอำมาตย์พวกหนึ่งได้เดินทางมาเขลางค์นคร และได้สืบเสาะ จนพบว่าท่านอยู่ที่วัดไหล่หิน พร้อมกับได้นมัสการถามถึงกะลามะพร้าว มหาเกสรปัญโญเจริญพรตอบว่า ยังมีอยู่ พร้อมกับหยิบเอากะลามะพร้าวออกมาจากใต้เตียงนอน ยื่นให้เสนาอำมาตย์ เมื่อนำกะลาที่อำมาตย์นำมาจากเมืองเชียงตุง ประกบคู่กับกะลามะพร้าวที่มหาเกสรยื่นให้ปรากฏว่าเข้ากันได้พอดี จึงกราบลาและ แจ้งให้กับเจ้าฟ้าฯเมืองเชียงตุงได้ทราบ จึงได้พาข้าทาสบริวารเดินทางมาที่วัดไหล่หินโดยผ่านมาทางจังหวัดเชียงราย
ลุง เป็งได้เล่าประวัติของท่านมหาเกสรพร้อมกับชี้ให้ดูปูนปั้นรูปกะลามะพร้าว ด้านหน้าวิหารที่แสดงถึงเรื่องราวของอดีต เจ้าอาวาสวัดไหล่หิน ซึ่งเป็นผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดเป็นอย่างมาก และวิหารที่เห็นเก่าแก่นี้ก็ด้วยแรงศรัทธา จากเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงเป็นประธานสร้างถวายเมือปี จ.ศ. 1045 (พ.ศ.2226) โดยฝีมือช่างจากเชียงตุงประเทศพม่า
4.วัดไหล่หินหลวงแก้วช้างยืน อ.เกาะคา จ.ลำปาง
5.หลวงปู่เขียว อินทมุนี องค์อรหันต์แห่งวัดทรงบล นครศรีธรรมราช ตอบตามท่านนามมงคลจ้ะ



ปล.มาแก้ตัวค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 ต.ค. 2553, 11:59:23 โดย ~>uาJวัuทoJ<~ »

ออฟไลน์ hangman69

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 226
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 12:15:51 »
1.” วัดไหล่หิน ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง
2..วัดพระธาตุช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่
3.วัดไหล่หิน หรือ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม
ประวัติ ปั้นของมหาเกสรปัญโญ ขนาดเท่าตัวจริง ซึ่งปั้นโดยตัวท่านเอง ในสมัยที่เป็นเจ้าอาวาส โดยมีเจ้าฟ้าจากเมืองเชียงตุงเป็นผู้อุปถัมภ์สร้างวัดถวายให้ และมหาเกสรนี้เป็นผู้เขียนใบลานเกี่ยวกับวัดนี้ไว้มาก ชาวบ้านที่นี่นับถือท่านมาก ทุกครั้งที่มาทำบุญที่วัดก็จะเข้ามากราบไหว้รูปปั้นพระมหาเกสรนี้ทุกครั้ง

ประวัติของ “ มหาเกสรปัญโญภิกขุ ” เดิมเป็นสามเณรน้อยบวชจากเมืองหริภูญชัย จังหวัดลำพูน เดินทางมาจำพรรษาที่วัดไหล่หินเมื่อราว จ.ศ. 1000 เศษ (ประมาณปี พ.ศ. 2181 ) เป็นสามเณรที่รักสันโดษ ไม่ค่อยจะมีใครสนใจนัก และมักถูกสามเณร รุ่นโตกว่ารังแกอยู่เป็นประจำ แต่มีความจำเป็นเลิศ สามารถแสดงธรรมเรื่องพระเวส--สันดรชาดกได้อย่างถูกต้องแม่นยำโดยไม่ต้องเปิดใบลานอ่าน สร้างความแปลกใจให้กับพระอาจารย์เป็นอย่างมาก ทั้งๆที่เป็นสามเณรที่เกียจคร้าน และทำให้พระอาจารย์ไม่ค่อยจะพอใจอยู่เป็นประจำ
ขอบคุณข้อมูลจากเวป http://www.photoontour.com/Articles_HTML/WatLaiHin/WatLaiHin2.htm
4.” วัดไหล่หิน ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง
5.หลวงพ่อเขียว อินทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน ต.บางตะพงษ์ อ.ปากพนัง จ. นครศรีธรรมราช


ออฟไลน์ beer3515

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 61
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 02:04:59 »
1.” วัดไหล่หินหลวง จังหวัด ลำปาง  ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง

2 วัดพระธาตุช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ พระ อารามหลวง เป็นวัดที่ตั้งอยู่เนินเขาเตี้ย สูงประมาณ 28 เมตร องค์พระธาตุช่อแฮ เป็นเจดีย์พุกามรูปแปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะแบบเชียงแสน บุด้วยทองดอกบวบสูง 33 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 11 เมตร ลักษณะองค์พระธาตุตั้งอยู่บนฐานเขียงสี่เหลี่ยม 1 ชั้น ถัดขึ้นไปเป็นฐานหน้ากระดานแปดเหลี่ยม 3 ชั้นรองรับ ถัดไปเป็นฐานบัวคว่ำและชุดท้องไม้แปดเหลี่ยม ซ้อนลดชั้นกันขึ้นไป 7 ชั้น จากนั้นเป็นบัวระฆัง 1 ชั้น และหน้ากระดานหนึ่งชั้น จนถึงองค์ระฆังแปดเหลี่ยม ถัดขึ้นไปเป็นบัลลังค์ย่อมุมไม้สิบสองและปล้องไฉน ส่วนยอดฉัตรประดับตกแต่งด้วยเครื่องบนแบบล้านนา หุ้มด้วยทองจังโก้ตลอดทั้งองค์ มีรั้วเหล็กรอบองค์พระธาตุ 4 ทิศ มีประตูเข้าออก 4 ประตู แต่ละประตูได้สร้างซุ้มแบบปราสาทล้านนาไว้อย่างสวยงาม

3.วัดไหล่หินหลวง หรือ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม

ประวัติ รูปปั้นของมหาเกสรปัญโญ หรือ ครูบามหาป่าขนาดเท่าตัวจริง ซึ่งปั้นโดยตัวท่านเอง ในสมัยที่เป็นเจ้าอาวาส โดยมีเจ้าฟ้าจากเมืองเชียงตุงเป็นผู้อุปถัมภ์สร้างวัดถวายให้ และมหาเกสรนี้เป็นผู้เขียนใบลานเกี่ยวกับวัดนี้ไว้มาก ชาวบ้านที่นี่นับถือท่านมาก ทุกครั้งที่มาทำบุญที่วัดก็จะเข้ามากราบไหว้รูปปั้นพระมหาเกสรนี้ทุกครั้ง

ประวัติ ของ “ มหาเกสรปัญโญภิกขุ ” เดิมเป็นสามเณรน้อยบวชจากเมืองหริภูญชัย จังหวัดลำพูน เดินทางมาจำพรรษาที่วัดไหล่หินเมื่อราว จ.ศ. 1000 เศษ (ประมาณปี พ.ศ. 2181 ) เป็นสามเณรที่รักสันโดษ ไม่ค่อยจะมีใครสนใจนัก และมักถูกสามเณร รุ่นโตกว่ารังแกอยู่เป็นประจำ แต่มีความจำเป็นเลิศ สามารถแสดงธรรมเรื่องพระเวส--สันดรชาดกได้อย่างถูกต้องแม่นยำโดยไม่ต้องเปิด ใบลานอ่าน สร้างความแปลกใจให้กับพระอาจารย์เป็นอย่างมาก ทั้งๆที่เป็นสามเณรที่เกียจคร้าน และทำให้พระอาจารย์ไม่ค่อยจะพอใจอยู่เป็นประจำ สามเณรน้อยได้ถูกพระอาจารย์ทดสอบความสามารถด้วยการให้เรียงใบลานจากโรงธรรม โดยที่ได้แกะเชือกที่ผูกใบลาน ออกหมด ทุกใบ ทุกกัณฑ์ และให้สามเณรเกสรจัดเรียงใหม่ ซึ่งก็ได้จัดเรียงอย่างถูกต้องครบทุกกัณฑ์ภายในเวลาไม่นานนัก
สร้างความแปลกใจให้กับผู้พบเห็น จนมีผู้เกรงขามในตัวสามเณรน้อยผู้นี้
จ.ศ. 1012 (พ.ศ. 2193 ) ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยมีนามว่า “ มหาเกสรปัญโญภิกขุ ” และได้ตำแหน่งเจ้าอาวาสใน เวลาต่อมา
พระ มหาเกสร เป็นพระนักปฏิบัติที่มีความรู้แตกฉานในการเขียนธรรม (จาร) ลงบนใบลานเป็นอักขระพื้นเมืองเหนือได้วันละมากๆ จนมูลเหล็กจาร(ขุยใบลาน) เต็มกะลามะพร้าว ซึ่งหาผู้เสมอเหมือนไม่ได้
ตาม ประวัติของท่านที่ปรากฏในเรื่องปฏิหาริย์ ก็มีเล่าว่า ท่านออกไปบิณฑบาตยังแดนไกลถึงหมู่บ้านไทยใหญ่แคว้นเชียงตุง ประเทศพม่าอยู่ทุกเช้า จนมีผู้ เลื่อมใสศรัทธา อยู่มาวันหนึ่งเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงได้นมัสการถามว่า
” ท่านจำพรรษาอยู่วัดใด ”
ซึ่งท่านก็ตอบในเชิงปริศนาว่า
“ เจริญพร อาตมาอยู่วัดขบไม่แตก ”
เจ้า ฟ้าเมืองเชียงตุงได้ฟังดังนั้นจึงให้ทหารอำมาตย์ค้นหาวัดจนทั่วเมืองเชียง ตุง แต่ก็ไม่พบวัดดังกล่าว และด้วยแรงศรัทธา ของเจ้าฟ้าฯที่มีต่อท่านมหาเกสร จึงสั่งให้ทหารนำมะพร้าวมาปอกเปลือกและขูดให้เกลี้ยง แล้วผ่ามะพร้าวออกเป็นสองซีกโดยนำไปใส่บาตรซีกหนึ่ง ส่วนอีกซีกหนึ่งได้เก็บรักษาไว้ พร้อมกับบอกท่านมหาฯว่า
“ ขออาราธนาพระคุณเจ้าฉันท์เนื้อมะพร้าวแล้วกรุณาเก็บกะลามะพร้าวไว้ด้วย ข้าพเจ้าจะไปรับเอากะลาในภายหลัง ”
จาก นั้นจึงได้ให้บริวารออกติดตามหาวัดของพระมหาเถระเจ้า และกะลามะพร้าว ซึ่งต่อมาอีก 4 เดือน เสนาอำมาตย์พวกหนึ่งได้เดินทางมาเขลางค์นคร และได้สืบเสาะ จนพบว่าท่านอยู่ที่วัดไหล่หิน พร้อมกับได้นมัสการถามถึงกะลามะพร้าว มหาเกสรปัญโญเจริญพรตอบว่า ยังมีอยู่ พร้อมกับหยิบเอากะลามะพร้าวออกมาจากใต้เตียงนอน ยื่นให้เสนาอำมาตย์ เมื่อนำกะลาที่อำมาตย์นำมาจากเมืองเชียงตุง ประกบคู่กับกะลามะพร้าวที่มหาเกสรยื่นให้ปรากฏว่าเข้ากันได้พอดี จึงกราบลาและ แจ้งให้กับเจ้าฟ้าฯเมืองเชียงตุงได้ทราบ จึงได้พาข้าทาสบริวารเดินทางมาที่วัดไหล่หินโดยผ่านมาทางจังหวัดเชียงราย
ลุงเป็ง ได้เล่าประวัติของท่านมหาเกสรพร้อมกับชี้ให้ดูปูนปั้นรูปกะลามะพร้าว ด้านหน้าวิหารที่แสดงถึงเรื่องราวของอดีต เจ้าอาวาสวัดไหล่หิน ซึ่งเป็นผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดเป็นอย่างมาก และวิหารที่เห็นเก่าแก่นี้ก็ด้วยแรงศรัทธา จากเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงเป็นประธานสร้างถวายเมือปี จ.ศ. 1045 (พ.ศ.2226) โดยฝีมือช่างจากเชียงตุงประเทศพม่า

4.” วัดไหล่หินหลวง จังหวัด ลำปาง ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง

5.หลวงพ่อเขียว อินทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 ต.ค. 2553, 02:11:50 โดย beer3515 »

ออฟไลน์ ~กระจกเงา~

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 180
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 02:17:52 »
1. วัดไหล่หินหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง
2. ทางเขาวัด พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่
3. พระมหาป่าเกสระปัญโญ ที่วัดไหล่หินหลวง ซึ่งปั้นด้วยตัวท่านเอง
มีประวัติดังนี้
   ตำนานพระมหาป่าเกสระปัญโญ หรือ ครูบามหาป่าเกสระปัญโญ
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความเก่ง ความฉลาดของพระมหาป่าเสระปัญโญในการอ่านคัมภีร์ใบลานที่มีอยู่มากมายภายในวัดว่า พระมหาป่าเจ้าครั้นเมื่อเป็นสามเณรไม่ค่อยจะสนใจการเรียนการสอนของพระอาจารย์ที่มีการสอนผ่านคัมภีร์ใบลาน ในช่วงเวลาที่สามเณรหรือพระรูปอื่นกำลังเรียนหนังสืออยู่นั้น สามเณรเกสระปัญโญก็ไม่ได้ใส่ใจ ตั้งใจในการเรียนในขณะนั้น มัวแต่วิ่งเล่น และเป็นสามเณรที่ไม่ค่อยจะอาบน้ำ สระผม จนทำให้ศรีษะของสามเณรเกสระปัญโญมีแต่กลากเกลื้อนเต็มไปหมด ครั้นถึงวันที่สามเณรและพระรูป   อื่น ๆ จะมาทำการสอบธรรมตามที่พระอาจารย์ได้สอนไปแล้วนั้น สามเณรเกสระปัญโญก็สามารถสอบธรรมตามที่พระอาจารย์ได้สอนไปอย่างประหลาดใจยิ่งนัก มาถึงตรงนี้พระอาจารย์ พระองค์อื่น ๆ ก็แปลกประหลาดใจในความสามารถของสามเณรเกสระปัญโญยิ่งนัก พอมาถึงวันพระพระอาจารย์ที่สอนก็นำสามเณรเกสระปัญโญขึ้นนั่งบนธรรมาสน์แสดงธรรมให้กับคณะศรัทธาที่มานั่งฟังโดยไม่ให้ดูธรรมคัมภีร์ใบลานที่เล่าเรียนมา ปรากฏว่าสามเณรเกสระปัญโญสามารถแสดงธรรมได้อย่างถูกต้องไม่มีผิด แม้แต่ประโยคเดียว ยิ่งสร้างความแปลกประหลาดใจจากพระอาจารย์ พระและสามเณรที่เรียนด้วยกันขึ้นไปอีก หลังจากนั้นพระอาจารย์ก็นำคัมภีร์ใบลานเรื่องต่าง ๆ มาแกะเชือกออกออก และนำคัมภีร์ใบลานนั้นมาปะปนกันไปและนำมารวมกองไว้แล้วให้สามเณรเกสระปัญโญรวบรวมและเรียงตามผูกของเรื่องต่าง ๆ ให้ได้ เวลาผ่านไปได้ไม่นานสามเณรเกสระปัญโญก็สามารถเรียงตามหน้า เรียงตามผูกของเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี จากเรื่องราวต่าง ๆ เหล่านี้คณะศรัทธาเกิดความเลื่อมใสและศรัทธาต่อสามเณรเกสระปัญโญมากยิ่งขึ้น
ครั้นเมื่อเติบใหญ่และบวชเรียนเป็นพระภิกษุสงฆ์ก็นั่งเขียนคัมภีร์ใบลานเอาไว้เป็นจำนวนมาก เล่ากันว่าเศษขี้เหล็กจากการจารคัมภีร์ใบลานมีมากเกือบเต็มกะลามะพร้าวเต่า จากที่ครูบามหาป่าได้จารคัมภีร์ใบลานไว้เป็นจำนวนมากนั้น ทำให้ที่วัดแห่งนี้มีพระภิกษุและสามเณรในละแวกใกล้เคียงมาบวชเรียนกันเป็นจำนวนมาก เพื่อศึกษาเรียนรู้จากตำราคัมภีร์ใบลานของครูบามหาป่าที่ได้จารไว้ ทำให้บรรยากาศภายในวัดเต็มไปด้วยความสนุกสนานของพระและเณรตลอดจนถึงเด็กวัดที่มีอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน นั่นทำให้ข้าวของเครื่องใช้ภายในวัดมีจำนวนมากเหมือนกัน
จากคำบอกเล่าของคนไหล่หินที่ได้เรียบเรียงไว้ในหนังสือประวัติวัดไหล่หินที่ทางวัดได้จัดพิมพ์ได้กล่าวไว้ในตอนหนึ่งว่า “ท่านพระมหาเกสระปัญโญเป็นพระนักปฏิบัติ นักศึกษาศาสนธรรมคำสั่งสอนอันยืนยง ท่านมีความรู้แตกฉานสามารถแต่งและเขียนธรรม(จาร)ได้วันละมาก ๆ เล่ากันว่าจารวันหนึ่ง ๆ ได้มูลเหล็กจารเต็มกะลามะพร้าว(มะพร้าวเต่า) ซึ่งหาใครเสมอเหมือนมิได้เลย นอกจากนี้ท่านได้ประพฤติปฏิบัติสมณธรรมอย่างจริงจัง โดยปฏิบัติอยู่ที่ถ้ำดอยฮางฮุ้งจนจิตเป็นสมาธิได้ฌานสมาบัติมีอภินิหารเป็นอัจฉริยะ...”
อ้างอิงจากงานวิจัยการจัดการองค์ความรู้ในพิพิธภัณฑ์วัดไหล่หินหลวง โดยนายทรงศักดิ์ แก้วมูล ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์วัดไหล่หินหลวง สนับสนุนการวิจัยโดย สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ(สพร.) 2549

4. ประประธาน วัดไหล่หินหลวง
5. พ่อท่านเขียว วัดหรงบล ต.บางตะพงษ์ อ.ปากพนัง  จ.นครศรีธรรมราช

ออฟไลน์ ตั้นคนเมืองโอ่ง

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 266
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 02:23:34 »
1.   วัดไหล่หินหลวง จังหวัด ลำปาง  ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง


2.   วัดพระธาตุช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ พระ อารามหลวง เป็นวัดที่ตั้งอยู่เนินเขาเตี้ย สูงประมาณ 28 เมตร องค์พระธาตุช่อแฮ เป็นเจดีย์พุกามรูปแปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะแบบเชียงแสน บุด้วยทองดอกบวบสูง 33 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 11 เมตร ลักษณะองค์พระธาตุตั้งอยู่บนฐานเขียงสี่เหลี่ยม 1 ชั้น ถัดขึ้นไปเป็นฐานหน้ากระดานแปดเหลี่ยม 3 ชั้นรองรับ ถัดไปเป็นฐานบัวคว่ำและชุดท้องไม้แปดเหลี่ยม ซ้อนลดชั้นกันขึ้นไป 7 ชั้น จากนั้นเป็นบัวระฆัง 1 ชั้น และหน้ากระดานหนึ่งชั้น จนถึงองค์ระฆังแปดเหลี่ยม ถัดขึ้นไปเป็นบัลลังค์ย่อมุมไม้สิบสองและปล้องไฉน ส่วนยอดฉัตรประดับตกแต่งด้วยเครื่องบนแบบล้านนา หุ้มด้วยทองจังโก้ตลอดทั้งองค์ มีรั้วเหล็กรอบองค์พระธาตุ 4 ทิศ มีประตูเข้าออก 4 ประตู แต่ละประตูได้สร้างซุ้มแบบปราสาทล้านนาไว้อย่างสวยงาม


3.   วัดไหล่หินหลวง หรือ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม

ประวัติ รูปปั้นของมหาเกสรปัญโญ หรือ ครูบามหาป่าขนาดเท่าตัวจริง ซึ่งปั้นโดยตัวท่านเอง ในสมัยที่เป็นเจ้าอาวาส โดยมีเจ้าฟ้าจากเมืองเชียงตุงเป็นผู้อุปถัมภ์สร้างวัดถวายให้ และมหาเกสรนี้เป็นผู้เขียนใบลานเกี่ยวกับวัดนี้ไว้มาก ชาวบ้านที่นี่นับถือท่านมาก ทุกครั้งที่มาทำบุญที่วัดก็จะเข้ามากราบไหว้รูปปั้นพระมหาเกสรนี้ทุกครั้ง

ประวัติ ของ “ มหาเกสรปัญโญภิกขุ ” เดิมเป็นสามเณรน้อยบวชจากเมืองหริภูญชัย จังหวัดลำพูน เดินทางมาจำพรรษาที่วัดไหล่หินเมื่อราว จ.ศ. 1000 เศษ (ประมาณปี พ.ศ. 2181 ) เป็นสามเณรที่รักสันโดษ ไม่ค่อยจะมีใครสนใจนัก และมักถูกสามเณร รุ่นโตกว่ารังแกอยู่เป็นประจำ แต่มีความจำเป็นเลิศ สามารถแสดงธรรมเรื่องพระเวส--สันดรชาดกได้อย่างถูกต้องแม่นยำโดยไม่ต้องเปิด ใบลานอ่าน สร้างความแปลกใจให้กับพระอาจารย์เป็นอย่างมาก ทั้งๆที่เป็นสามเณรที่เกียจคร้าน และทำให้พระอาจารย์ไม่ค่อยจะพอใจอยู่เป็นประจำ สามเณรน้อยได้ถูกพระอาจารย์ทดสอบความสามารถด้วยการให้เรียงใบลานจากโรงธรรม โดยที่ได้แกะเชือกที่ผูกใบลาน ออกหมด ทุกใบ ทุกกัณฑ์ และให้สามเณรเกสรจัดเรียงใหม่ ซึ่งก็ได้จัดเรียงอย่างถูกต้องครบทุกกัณฑ์ภายในเวลาไม่นานนัก
สร้างความแปลกใจให้กับผู้พบเห็น จนมีผู้เกรงขามในตัวสามเณรน้อยผู้นี้
จ.ศ. 1012 (พ.ศ. 2193 ) ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยมีนามว่า “ มหาเกสรปัญโญภิกขุ ” และได้ตำแหน่งเจ้าอาวาสใน เวลาต่อมา
พระ มหาเกสร เป็นพระนักปฏิบัติที่มีความรู้แตกฉานในการเขียนธรรม (จาร) ลงบนใบลานเป็นอักขระพื้นเมืองเหนือได้วันละมากๆ จนมูลเหล็กจาร(ขุยใบลาน) เต็มกะลามะพร้าว ซึ่งหาผู้เสมอเหมือนไม่ได้
ตาม ประวัติของท่านที่ปรากฏในเรื่องปฏิหาริย์ ก็มีเล่าว่า ท่านออกไปบิณฑบาตยังแดนไกลถึงหมู่บ้านไทยใหญ่แคว้นเชียงตุง ประเทศพม่าอยู่ทุกเช้า จนมีผู้ เลื่อมใสศรัทธา อยู่มาวันหนึ่งเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงได้นมัสการถามว่า
” ท่านจำพรรษาอยู่วัดใด ”
ซึ่งท่านก็ตอบในเชิงปริศนาว่า
“ เจริญพร อาตมาอยู่วัดขบไม่แตก ”
เจ้า ฟ้าเมืองเชียงตุงได้ฟังดังนั้นจึงให้ทหารอำมาตย์ค้นหาวัดจนทั่วเมืองเชียง ตุง แต่ก็ไม่พบวัดดังกล่าว และด้วยแรงศรัทธา ของเจ้าฟ้าฯที่มีต่อท่านมหาเกสร จึงสั่งให้ทหารนำมะพร้าวมาปอกเปลือกและขูดให้เกลี้ยง แล้วผ่ามะพร้าวออกเป็นสองซีกโดยนำไปใส่บาตรซีกหนึ่ง ส่วนอีกซีกหนึ่งได้เก็บรักษาไว้ พร้อมกับบอกท่านมหาฯว่า
“ ขออาราธนาพระคุณเจ้าฉันท์เนื้อมะพร้าวแล้วกรุณาเก็บกะลามะพร้าวไว้ด้วย ข้าพเจ้าจะไปรับเอากะลาในภายหลัง ”
จาก นั้นจึงได้ให้บริวารออกติดตามหาวัดของพระมหาเถระเจ้า และกะลามะพร้าว ซึ่งต่อมาอีก 4 เดือน เสนาอำมาตย์พวกหนึ่งได้เดินทางมาเขลางค์นคร และได้สืบเสาะ จนพบว่าท่านอยู่ที่วัดไหล่หิน พร้อมกับได้นมัสการถามถึงกะลามะพร้าว มหาเกสรปัญโญเจริญพรตอบว่า ยังมีอยู่ พร้อมกับหยิบเอากะลามะพร้าวออกมาจากใต้เตียงนอน ยื่นให้เสนาอำมาตย์ เมื่อนำกะลาที่อำมาตย์นำมาจากเมืองเชียงตุง ประกบคู่กับกะลามะพร้าวที่มหาเกสรยื่นให้ปรากฏว่าเข้ากันได้พอดี จึงกราบลาและ แจ้งให้กับเจ้าฟ้าฯเมืองเชียงตุงได้ทราบ จึงได้พาข้าทาสบริวารเดินทางมาที่วัดไหล่หินโดยผ่านมาทางจังหวัดเชียงราย
ลุงเป็ง ได้เล่าประวัติของท่านมหาเกสรพร้อมกับชี้ให้ดูปูนปั้นรูปกะลามะพร้าว ด้านหน้าวิหารที่แสดงถึงเรื่องราวของอดีต เจ้าอาวาสวัดไหล่หิน ซึ่งเป็นผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดเป็นอย่างมาก และวิหารที่เห็นเก่าแก่นี้ก็ด้วยแรงศรัทธา จากเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงเป็นประธานสร้างถวายเมือปี จ.ศ. 1045 (พ.ศ.2226) โดยฝีมือช่างจากเชียงตุงประเทศพม่า



4.   วัดไหล่หินหลวง จังหวัด ลำปาง ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่า “ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ” หรือวัดไหล่หิน หลวงแก้วช้างยืน บางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อนๆก็จะเรียกว่า วัดป่าหิน หรือวัดม่อนหินแก้ว  จ.ลำปาง


5.   หลวงพ่อเขียว อินทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช

ขอร่วมตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 ต.ค. 2553, 02:24:08 โดย ตั้นคนเมืองโอ่ง »

ออฟไลน์ pepsi

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 325
  • เพศ: ชาย
  • ทําดี คิดดี พูดดี
    • ดูรายละเอียด
    • http://sbntown.com/forum/group.php?groupid=33
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 06:21:05 »
ข้อ2..ภาพหายจ้าๆ...
เอาภาพมาให้ใหม่...ท่านใดตอบประตูเข้าวัดหรือประตูทางเข้าวัดพระธาตุช่อแฮ..ถูกต้องครับ



ออฟไลน์ pepsi

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 325
  • เพศ: ชาย
  • ทําดี คิดดี พูดดี
    • ดูรายละเอียด
    • http://sbntown.com/forum/group.php?groupid=33
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 06:46:29 »
กระทู้ปิดนะครับ..ได้ท่านที่ตอบถูกทั้ง 5 ท่านแล้วครับ

ท่านที่ได้รางวัลที่1....คือท่าน นายยอดรัก...บางแค เวลาในการตอบ  23.52.33 วันที่ 11/10/53


ท่านที่ได้รางวัลที่2....คือน้อง...นางวันทอง เวลาในการตอบ 23.59.23 วันที่ 11/10/53


ท่านที่ได้รางวัลที่3...คือคุณ.hangman69...เวลาในการตอบ ..00.15.51  วันที่ 12/10/53


ท่านที่ได้รางวัลที่4...คือคุณ...beer3515..เวลาในการตอบ..02.11.50 วันที่ 12/10/53
 

ท่านที่ได้รางวัลที่5..คือคุณ~กระจกเงา...เวลาในการตอบ..02.17.52 วันที่ 12/10/53



ท่านที่ 6 ตอบช้าไปนิดนึงนะครับ..ไม่ต้องเสียใจนะครับ สนุกๆ
เพื่อนๆที่ชนะ กรุณาส่ง ชื่อ ที่อยู่ มาให้ผมด้วยครับ.
และขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาเชียร์ และ เข้ามาดู มากๆครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 ต.ค. 2553, 07:05:30 โดย pepsi »

ออฟไลน์ ยอดรัก..บางแค

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 587
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - yodrak-bo@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 06:56:38 »
เหอๆได้กะเค้าซ้ะที ขอบคุณสำหรับของรางวัลครับ พี่แป๊ป เล่นซ้ะดึกเลยอ่ะผม  :010:

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 07:04:04 »
      :059: อนุโมทนาสาธุ กับกิจกรรมสนุกๆที่มีเนื้อหาสาระ สอดแทรกธรรมะ ของคุณโยม pepsi
บอร์ดเคลื่อนไหว คึกคักดี แต่ในเวปบอร์ดนี้ มีแต่สิงห์มือไว ตอบได้รวดเร็วทันใจ จบเกมส์เร็วไปหน่อย
คงจะต้องคอยติดตามกันต่อไปให้ดี เพราะจะมีออกมาเสมอ ให้สมาชิกได้ฝึกฝนค้นหาคำตอบกัน....
....ขออนุโมทนาด้วย..สาธุ..สาธุ..
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ pepsi

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 325
  • เพศ: ชาย
  • ทําดี คิดดี พูดดี
    • ดูรายละเอียด
    • http://sbntown.com/forum/group.php?groupid=33
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 07:09:29 »
      :059: อนุโมทนาสาธุ กับกิจกรรมสนุกๆที่มีเนื้อหาสาระ สอดแทรกธรรมะ ของคุณโยม pepsi
บอร์ดเคลื่อนไหว คึกคักดี แต่ในเวปบอร์ดนี้ มีแต่สิงห์มือไว ตอบได้รวดเร็วทันใจ จบเกมส์เร็วไปหน่อย
คงจะต้องคอยติดตามกันต่อไปให้ดี เพราะจะมีออกมาเสมอ ให้สมาชิกได้ฝึกฝนค้นหาคำตอบกัน....
....ขออนุโมทนาด้วย..สาธุ..สาธุ..

กราบนมัสการท่านพระอาจารย์ ครับ ที่เข้ามาให้กําลังใจและเข้ามาเยี่ยม ครับ..

ออฟไลน์ ~>uาJวัuทoJ<~

  • AlwaYs Miss Ya !! ><* คนที่คุณก็รู้ว่าใคร **
  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 212
  • เพศ: หญิง
  • Twitter@MinzLadyMaFiAz
    • Yahoo Instant Messenger - KawisaraMinz@yahoo.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 09:47:15 »
ขอบคุณค่ะคุณลุงใจดี ^^ ที่อยู่หนูต้องส่งอีกรอบปะคะ ^^

ออฟไลน์ รันตี

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 743
  • เพศ: ชาย
  • อยากเห็นผู้อื่นสุข จงฝึกตนให้มีเมตตา อยากเป็นผู้มีสุข จงฝึกตนให้มีเมตตา:ดาไลลามะ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 09:54:01 »
เห็นตอบกันแต่ละคนแล้วรู้สึกตัวเองเขียดมากๆ รู้จักวัดไหล่หินอย่างเดียวที่เหลือมืดบอดใบ้ ฮึ่มๆ  :066:

เมตตาพระอาจารย์อภิญญา คณุตฺตโม ศิษย์ขอน้อมรำลึกพระคุณไว้ ณ ที่นี้

ออฟไลน์ touch_navara

  • "นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา"
  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 557
  • เพศ: ชาย
  • "ก่อนที่จะตัดสินผู้อื่น ให้ดูตัวท่านเองเสียก่อน"
    • MSN Messenger - touch_navara_175@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 10:29:17 »
ยินดีกับผู้ที่ตอบถูกด้วยนะครับ

ไม่ว่างเข้ามาชมบอร์ดเลย พอเข้ามาได้ผู้โชคดีไปซะแล้ว

รอโอกาสหน้าแล้วกันนะเรา

ขอบคุณครับสำหรับกิจกรรมดีๆ ครับ
[shake]ศิษย์วัดบางพระครับ[/shake]

คำขวัญจังหวัดนครสวรรค์ "เมืองสี่แคว แห่มังกร พักผ่อนบึงบอระเพ็ด ปลารสเด็ดปากน้ำโพ"

ออฟไลน์ ~กระจกเงา~

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 180
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 02:54:34 »
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ kaineverdie

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 96
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 03:10:01 »
เราคนทางภาคใต้เน้อ  :075:

ออฟไลน์ จิ๋ววัดตะกล่ำ

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1234
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - bigjiew123@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คําถามมาแล้วครับ...5 รางวัล
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 06:57:28 »
เก่งๆกันทั้งนั้นครับ อิอิอิ  :003:  :003:  :003:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 ต.ค. 2553, 06:57:52 โดย จิ๋ววัดตะกล่ำ »
พระอุดมประชานาถ (หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ) วัดบางพระ
"เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี"