ผู้ใหญ่บ้านที่นรกถามหา
โดย..วารี จากหนังสือ กรรมกำหนด เล่มที่ ๑
************************
โยมผู้ใหญ่ .... อาตมาขอปรึกษาโยมสักหน่อย และจะมอบหมายให้โยมรับไปดำเนินการด้วย เพราะอาตมาเอง ก็ไม่สู้จะเข้าอกเข้าใจอะไรนัก คือ ทางวัดเราจะหล่อพระพุทธรูปไว้ให้ญาติโยมสักการะบูชา ตั้งใจจะหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ และปิดทองคำเปลวภายนอกตามกำลังปัจจัย และศรัทธาตามประสาวัดบ้านนอก ปัจจัยนั้นอาตมามีเตรียมไว้แล้วจากเงินทอดกฐินเมื่อปีที่แล้ว พอได้สักก้อนนึงไม่มากหรอก โยมช่วยเป็นธุระด้วยนะ ในฐานะเป็นมรรคทายกอาวุโสของวัดมานาน ในเดือนหน้าเขาจะมีการประกอบพิธีพุทธาภิเษก เททองหล่อพระพุทธรูป เบิกพระเนตร ที่วัดใหญ่ในเมือง อยากให้โยมผู้ใหญ่หาทองสัมฤทธิ์และทองคำเปลว ไปร่วมพิธีหล่อพระกับเขาด้วย โยมจะเห็นเป็นการใด ที่อาตมาขอร้องล่ะ...
เจ้าอาวาสวัดหนองซาก อำเภอประลอง พูดปรึกษาเรื่องบุญกุศลนี้กับผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑ ประจำท้องถิ่นนั้น ในวันพระหรือวันธรรมสวนะ บนศาลาการเปรียญของวัดดังกล่าว ในขณะที่พระสงฆ์กำลังฉันเช้า โดยมีญาติโยมอุบาสก อุบาสิกา ผู้ศรัทธาเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนา นำอาหารคาวหวาน เครื่องไทยทาน มาทำบุญในวันพระตามปกติ
ผมเองอยู่ในวงสนทนานั้นด้วย ในฐานะลูกศิษย์ของเจ้าอาวาส หลังจากท่านเจ้าอาวาสพูดจบ โดยไม่ต้องตริตรองตัดสินใจอะไรให้มากเรื่องมากความ ผู้ใหญ่บ้านคนนั้นตอบรับปากตกลงพระไปในทันที โดยจะรับเป็นธุระจัดซื้อหาทองสัมฤทธิ์ ทองคำเปลว และตัวเองจะไปร่วมพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปในพิธีพุทธาภิเษกเดือนหน้า ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปี เกจิอาจารย์ พระเถรานุเถระผู้ใหญ่ และ ช่างฝีมือหล่อ และปั้นพระพุทธรูป จะมาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียงกัน..
เจ้าอาวาสถึงกับยิ้มออกมาได้ และทันใดนั้นโดยที่ใคร ๆ คาดไม่ถึง ท่านกวักมือเรียกผมให้เข้าไปใกล้ ๆ ใช้ให้ไปหยิบซองกระดาษสีน้ำตาลซองหนึ่งในย่าม ซึ่งวางอยู่ข้างๆตัว ขึ้นมา และสั่งให้มอบแก่ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกับพูดว่า ในซองนี้คือเงินสด ๕๓ ,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นเงินบุญทอดกฐินสามัคคีในปีที่แล้ว ขอให้ผู้ใหญ่บ้านนำไปดำเนินการตามที่เห็นสมควร แล้วแต่ดุลยพินิจเห็นชอบ
ผู้ใหญ่บ้านคนนั้นระบายยิ้มบนใบหน้า ดวงตาคมวาวล่อกแล่กแบบตาเหยี่ยวลุกโพลง ความจริงผมเองนั้นไม่ชอบหน้ามรรคทายกคนนี้มานานแล้วแต่พูดอะไรไม่ออก ไม่มีอำนาจอะไรไปคัดค้านหรือยุ่มย่าม เพราะตัวเองก็ต้อยต่ำมีฐานะเพียงเด็กวัด กินข้าวก้นบาตรเลี้ยงตัวรอดไปวัน ๆ
นิสัยของผู้ใหญ่บ้านคนนี้ คดในข้องดในกระดูก โลภโมโทสัน และไม่รู้จักกรรมเวรบาปบุญคุณโทษ เบียดบังโกงเงินทอง ข้าวของ ของวัดสารพัดสาระเพ แม้ทางวัดรู้อยู่แต่ใจ ก็เข้าทำนองน้ำท่วมปาก พูดอะไรไม่ออก ตกอยู่ในฐานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาจนทุกวันนี้ เพราะความมีหน้ามีตา อำนาจอิทธิพลท้องถิ่นในหมู่บ้านนั่นเอง
ผมและเด็กวัดคนอื่น ๆ รู้อยู่แก่ใจ และเห็นตำตามานานว่า มรรคทายกคอรัปชั่น โกงเงินเอาผลประโยชน์ของวัดที่ญาติโยมเขาศรัทธาบริจาค เพื่ออานิสงส์ไปใช้ส่วนตัว สร้างความร่ำรวยให้ครอบครัวของตนอย่างไม่ละอายต่อบาป สมบัติส่วนกลางเครื่องใช้ในวัดก็เอามาไว้บ้าน แม้ต้นไม้ใหญ่ ในวัด ก็ยังสั่งให้ลูกน้องโค่นมาทำฟืนขาย หารายได้เข้าพกเข้าห่อตัวเองเลย เรียกว่า กินเล็กกินใหญ่ ทำตัวเป็นมารศาสนา โดยที่ไม่มีใครกล้าแตะต้องสอบสวนจับผิด แบบทำนองเอาลูกกระพรวนไปผูกคอแมวนั่นแหละ
ผู้ใหญ่บ้านคนนี้จึงรอดตัวลอยนวล ตั้งหน้าตั้งตาทำความชั่วยักยอกผลประโยชน์รายได้ของวัดอย่างคล่องคอ ไม่ติดขัดอะไร จนมาถึงกรณีเงินค่าหาทองสัมฤทธิ์ และทองคำเปลวไปร่วมพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปในงานพิธีพุทธาภิเษกเดือนหน้านั้น ผมวิตกและใจหายวูบขึ้นมาว่า มันจะสูญไปอีก เพราะกิตติศัพท์การคดโกงคอรัปชั่นของมรรคทายกคนนี้มีอย่างไร ชาวบ้านและพระเองก็ซึมซาบอยู่แก่ใจดี..ผมก็ได้แต่คิดกังวลไม่สบายใจไปเท่านั้นเอง
มีต่อ....
ที่มา
http://www.fwdder.com/topic/16763