ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
พุธที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
.......ทำงานไปพิจารณาธรรมไปโดยใช้กำลังของสติระลึกรู้อยู่กับสิ่งที่ทำ
มีสัมปชัญญะคือความรู้ตัวทั่วพร้อมควบคุมกายและจิตในขณะที่คิดและทำ
ไม่เอาความนึกคิดปรุงแต่งของเราไปผูกยึดหรือผูกมัดผู้อื่น ให้ผู้อื่นนั้นต้อง
เป็นไปตามความต้องการของเรา ตามความอยากของเรา เพราะเมื่อเราทำไป
โดยเอาความอยากของเรานั้นเป็นตัวตั้ง โดยหวังผลให้เป็นไปตามความปรารถนา
ของเรา มันก็คือการเอาตัณหาของเราไปบังคับให้ผู้อื่นกระทำตาม เพื่อตอบสนอง
ตัณหาความอยากของเรา เพราะเรานั้นไม่ได้เป็นเจ้าของชีวิตใคร เรามีแต่หน้าที่
เท่านั้น คือการทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ครบถ้วนตามความรู้และความสามารถ
ผลจะออกมาอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของวิบากกรรม อันประกอบด้วยเหตุและปัจจัย
ที่ทำให้บังเกิดขึ้น ทำตามหน้าที่ของผู้ที่ปฏิบัติธรรม กล่าวธรรมโดยธรรมและเพื่อ
ธรรม ไม่มีความอยากหรือหวังผลตอบแทนจากสิ่งที่ทำ ใจของเรานั้นก็จะเป็นสุข
ในสิ่งที่กำลังทำ เพราะมีความภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่โดยสมบูรณ์แบบครบถ้วนแล้ว
นึกถึงข้อธรรมคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล บทหนึ่งที่ท่านกล่าวไว้ว่า " การไม่กังวล
การไม่ยึดถือ นั่นแหละคือวิหารธรรมของนักปฏิบัติ " เอามาเป็นข้อคิดและพิจารณา
น้อมนำมาซึ่งการปฏิบัติตาม ทำให้เกิดความรู้และความเข้าใจในข้อธรรมนั้นๆ ตามกำลัง
ของสติระลึกรู้ที่เราได้ฝึกฝนมา ตามหลักธรรมที่ว่า " คิดเท่าไรๆก็ไม่รู้ ต่อเมื่อหยุดคิด
จิตจึงรู้ แต่ก็ต้องอาศัยความคิด ทำงานทุกชนิด ด้วยจิตที่ว่างจากอัตตา ปัญญาก็จะเกิด "
เป็นสิ่งที่ต้องหมั่นฝึกฝน ให้จนเป็นความเคยชินของจิต ในการคิดและการทำงาน.....
........บันทึกไว้ ณ. จุดหนึ่งบนกาลเวลา........
ทบทวน ในข้อธรรม เพื่อเตือนย้ำ จิตสำนึก
ควบคุม ความรู้สึก มีสติ ควบคุมกาย
รู้ตัว อยู่ทั่วพร้อม จิตนำน้อม สู่จุดหมาย
ตั้งจิต ไว้ในกาย ไม่ส่งออก ควบคุมตน
ตามดู ตามรู้เห็น สิ่งที่เป็น เหตุและผล
เข้าใจ ในจิตตน สิ่งที่คิด กิจที่ทำ
ทำตน ตามหน้าที่ ทำให้ดี เพื่อชี้นำ
สิ่งชอบ ประกอบกรรม ทำให้เห็น เป็นให้ดู
ตามดู ตามรู้จิต สิ่งที่คิด นั้นต้องรู้
เอาธรรม นั้นเป็นครู ชี้ทางจิต ให้คิดตาม
ทำงาน ทุกชนิด ดูความคิด จิตเฝ้าถาม
ตามดู รู้ทุกยาม รู้ทั่วพร้อม ทั้งกายใจ
กล่าวธรรม ตามหน้าที่ เพียงเท่านี้ กระทำไป
ความสุข เกิดที่ใจ ทำหน้าที่ ให้สมบูรณ์
เมื่อจิต ไม่ยึดติด ในความคิด ให้เสียสูญ
กุศล ก็เพิ่มพูล เพราะจิตว่าง ห่างอัตตา
จิตว่าง ห่างกิเลส จึงเป็นเหตุ เกิดปัญญา
เข้าถึง ตถตา เห็นความเป็น เช่นนั้นเอง...
.....ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต.....
.....รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร.....
๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๔ เวลา ๐๔.๑๖ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี