ผู้เขียน หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๘ สค. ๕๔ ...  (อ่าน 1315 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๘ สค. ๕๔ ...
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
ศุกร์ที่  ๑๙  สิงหาคม  พ.ศ. ๒๕๕๔
         เป็นที่น่ายินดีที่ในสมัยปัจจุบันนี้  มีคนหนุ่มสาวหันมาสนใจในการศึกษาและปฏิบัติธรรม
กันมากขึ้นกว่าในอดีต ซึ่งจะเป็นเรื่องของคนที่มีอายุ หรือคนที่ไม่มีภาระอะไรแล้ว ที่เข้ามาปฏิบัติ
เพราะในสมัยก่อนนั้น การสื่อสารรับรู้ข้อมูลนั้นทำได้ยากและมีช่องทางน้อยมากที่จะรับรู้ข่าวสาร
ต้องเขาวัดไปฟังพระเทศน์ หรือหาหนังสือมาอ่าน ซึ่งหนังสือเกี่ยวกับธรรมะนั้นหาได้ยากมาก
และภาษาที่ใช้กันในสมัยก่อนนั้น อ่านแล้วเข้าใจยาก เพราะจะใช้คำศัพท์ของพระพุทธศาสนา
มาเขียนและบรรยายกัน บางครั้งทำให้ยิ่งอ่านก็ยิ่งงง เกิดความสงสัยไมเข้าใจมากกว่าเดิมอีก
ทำให้หนังสือเกี่ยวกับธรรมะทังหลายนั้นเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย เพราะยิ่งอ่านแล้วยิ่งไม่เข้าใจ
แต่ในยุคปัจจุบันนี้  มีการเผยแพร่ธรรมกันในหลายรูปแบบและช่องทาง ทำให้การเข้าถึงนั้น
ทำได้ง่ายขึ้น และภาษาที่ใช้ก็เข้าใจง่ายขึ้น เปลี่ยนจากภาษาเขียนทีติดยึดในรูปแบบ มาใช้
ภาษาง่ายๆที่เข้าใจไม่ยาก ทำให้มีคนรุ่นใหม่เข้ามาสนใจศึกษาและปฏิบัติธรรมมากขึ้น
          การศึกษาและปฏิบัติธรรมนั้น ในทางพุทธศาสตร์ เป็นไปเพื่อการ ลด ละ เลิกซึ่งอัตตา
มานะ กิเลส ตัณหา อุปาทาน และขบวนการทางจิตในการคิดและทำ ซึ่งเราต้องเริ่มจากฐานกาย
เป็นที่ตั้ง ต้องทำความเข้าใจในเรื่องของกายเป็นเบื้องต้น อันว่ากายนั้นประกอบขึ้นมาด้วยธาตุทั้ง ๔
คือมหาภูตรูป อันได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ มาประชุมรวมกัน เกิดช่องว่างระหว่างธาตุ
คือ อากาศธาตุ และมีจิตเข้ามารับรู้อยู่อาศัยและควบคุมคือ วิญญาณธาตุ ธาตุทั้ง ๔ มาประชุมรวมกัน
ก่อเกิดให้เป็นอวัยวะน้อยใหญ่คืออาการ ๓๒ ซึ่งนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายจำเป็นต้องรู้และเข้าใจในเรื่อง
กายและเรื่องธาตุเป็นเบื้องต้น โดยการฝึกจิตให้มีสติระลึกรู้อยู่กับกาย ให้มีความรู้ความเข้าใจในความ
สัมพันธ์ของธาตุในกายทั้งหลาย และเมื่อจิตชัดเจนในฐานกาย จิตก็มีที่อยู่ที่อาศัยมีฐานที่มั่นคง
การหลงในสภาวะทั้งหลายก็เกิดขึ้นได้น้อย เพราะมีสติคอยดูแลและควบคุมอยู่ เมื่อจิตรู้ชัดในฐานกาย
จิตก็จะจางคลายในการยึดถือซึ่งตัวตน เพราะเหตุที่ว่าเห็นกายนี้สักแต่ว่าเป็นธาตุที่ประชุมรวมกัน
และไม่นานก็ต้องสลายไป คืนทุกสิ่งกลับไปสู่ธรรมชาติ จิตนี้เป็นเพียงผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัย หาใช่เจ้าของ
แห่งกายนี้ เมื่อเห็นและเข้าใจเช่นนี้ การยึดถือในตัวตนก็จะจางคลาย ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจ
ในจิตแยกแยะความคิดที่เป็นกุศลและอกุศลของตนเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น รู้จักคิดและพิจารณา
ให้เห็นคุณ เห็นโทษ เห็นประโยชน์ และมิใช่ประโยชน์ของความคิดทั้งหลาย จนเกิดความรู้และเข้าใจ
ว่าสิ่งใดที่ควรคิดและควรทำ เพราะเข้าใจในกุศลและอกุศล มองเห็นความเป็นสาระของธรรมะทั้งหลาย
ที่อยู่รอบกายของเรา รู้ในสิ่งที่ควรและไม่ควร ของกาย ของจิต ของความคิด ของการกระทำ จิตนี้ก็จะไม่ตกต่ำ
เพราะมีธรรมคุ้มครองและรักษา มีสติและปัญญาคอยควบคุม มีองค์แห่งคุณธรรม คือหิริและโอตตัปปะ
คอยเกื้อหนุนและดูแล ในการดำรงค์ชีวิต ไม่ให้เดินผิดทางไปสู่อบาย จิตก็ไม่ตกต่ำ เพราะมีธรรมะเป็นที่อยู่
ที่อาศัย เป็นที่พึ่ง เป็นสรณะ และเมื่อเรารักษาธรรม ธรรมนั้นจะรักษาเรา
            การศึกษาและปฏิบัติธรรมนั้นต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่าได้ไปใจร้อนหวังผลในการปฏิบัติให้เกิดขึ้น
อย่างรวดเร็ว ซึ่งความเจริญในธรรมนั้นต้องใช้เวลาในการสะสมฝึกฝน ปฏิบัติอยู่อย่างสม่ำเสมอจนเป็นกิจวัตร
เป็นความเคยชินของกายและจิต ในการคิดและการทำ หมั่นพิจารณาอยู่อย่างสม่ำเสมอ จึงจะเห็นซึ่งความ
เปลี่ยนแปลงของความคิดและจิตสำนึกในคุณธรรมที่เกิดขึ้นในกายและในจิตของเรา ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลา
ในการละลายพฤติกรรมเก่าๆที่เราเคยคิดเคยกระทำมาจนเคยชิน ก่อนที่เราจะเข้ามาศึกษาและปฏิบัติธรรม
และในการศึกษาและปฏิบัติธรรมนั้น อย่าได้เอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นเขา เพราะมันจะก่อให้เกิดซึ่ง
ทิฏฐิ มานะและอัตตา เกิดการแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น ความหยิ่งผยองลำพองใจ หรือความน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาได้
เพราะพื้นฐานของแต่ละคนนั้นมีที่มาที่แตกต่างกัน สภาวธรรมทั้งหลายจึงเป็นของเฉพาะตน
          เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต-แด่มิตรผู้ใคร่และใฝ่ธรรมทั้งหลาย
                                     รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๑๙  สิงหาคม  ๒๕๕๔ เวลา ๐๔.๔๐ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 ส.ค. 2554, 05:14:19 โดย รวี สัจจะ... »
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ saken6009

  • อย่ากลัวคนจะมาตำหนิ แต่จงกลัวว่าตัวเองจะทำผิด อย่ากลัวที่จะรับรู้ความบกพร่องของตน แต่จงกลัวว่าตนจะเป็นคนที่ดีได้ไม่จริง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 893
  • เพศ: ชาย
  • ชีวิตของข้า เชื่อมั่นศรัทธา หลวงพ่อเปิ่น องค์เดียว
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๘ สค. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 19 ส.ค. 2554, 06:05:20 »
การศึกษาและปฏิบัติธรรมนั้นต้องค่อยเป็นค่อยไป 36; 36;
                                             
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ  รักษาดูแลสุขภาพด้วยนะครับ :054: :054:
 
ขอบพระคุณ ท่านพระอาจารย์ สำหรับคำสอนดีๆ ที่นำมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                                                                                     
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบพระคุณมากครับ) :033: :033:
               

กราบขอบารมีหลวงพ่อเปิ่น คุ้มครองศิษย์ทุกๆท่าน ให้แคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง สาธุ สาธุ

ออฟไลน์ boomee

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 339
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๘ สค. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 19 ส.ค. 2554, 07:52:37 »
กราบนมัสการครับพระอาจารย์ :054: :054:
หากตัวท่านไรซึ่งความหวัง  กายท่านจะคงอยู่เพื่อสิ่งใด

ออฟไลน์ berm

  • สิ่งที่ควรทำคือความดี..สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม..สิ่งที่ควรจำคือ...บุญคุณ
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1008
  • เพศ: ชาย
  • อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมิตรระวังวาจา
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๘ สค. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 19 ส.ค. 2554, 08:52:58 »
กราบนมัสการพระอาจารย์..ฝนตกทุกวันพระอาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะครับ...สาธุ
ทุกคนย่อมมีปัญหาของตัวเองเกิดขึ้นตลอดเวลา  อยู่ที่ใครเลือกที่จะเดินหนีปัญหา...หรือเลือกที่จะแก้ไขปัญหา

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๘ สค. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 19 ส.ค. 2554, 09:17:32 »
การศึกษาและปฏิบัติธรรมนั้นต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่าได้ไปใจร้อนหวังผลในการปฏิบัติให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งความเจริญในธรรมนั้นต้องใช้เวลาในการสะสมฝึกฝน
กราบนมัสการพระอาจารย์ เมื่อก่อนก็เคยถามพระอาจารย์หลายครั้งเกี่ยวกับการเจริญในธรรมจนได้รีบคำตอบอยู่2ข้อที่ทำให้ผมไม่เคยถามเรื่องนี้อีกเลย คือการเปรียบเปรยความก้าวหน้าเจริญในธรรมก็เหมือนการปลูกต้นไม้ ที่ต้องใช้เวลา อยากให้ต้นไม้โตไวก็รดน้ำพรวนดินแต่ก็ต้องใช้เวลาไม่สามารถสั่งต้นไมให้โตได้ในวันสองวัน อยากเจริญในธรรมก็ต้องหมั่นปฎิบัติธรรมฝึกจิตซึ่งต้องใช้เวลา ไม่สามารถทำได้ในวันสองวัน ส่วนอีกคำตอบคือ พระอาจารย์ถามผมกลับว่าจะเจริญในธรรมไปทำไม เป็นคำถามสั้นๆแต่เมื่อพบค้นหาคำตอบได้ ผมไม่เคยมีความสงสัยเรื่องการเจริญก้วหน้าในธรรมอีกเลยครับ

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา

ออฟไลน์ audytukzy5dragon

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 87
  • เพศ: ชาย
  • เคารพครู ดีต่อเพื่อน รักครอบครัว เจริญแน่นอน
    • MSN Messenger - audytukzy5dragon@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๘ สค. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 19 ส.ค. 2554, 04:19:05 »

 กราบนมัสการ พระอาจาร์ย ด้วยครับ    :054:
เคารพครู ดีต่อเพื่อน รักครอบครัว เจริญแน่นอน

Au_Ahoo

  • บุคคลทั่วไป
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๘ สค. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 19 ส.ค. 2554, 05:27:09 »
สาธุ  สาธุ  สาธุ