ผู้เขียน หัวข้อ: มียันต์หรือของอะไรที่ใช้แล้วห้ามนิพพานบ้างครับ  (อ่าน 5419 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nuvergo

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 199
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ที่ผมรู้มา มีตะกรุดนาคกระสันธรณี ของพระอาจารย์ปุ้ม ครับ ที่ใช้แล้วห้ามนิพพาน3ชาติ แล้วมีอย่างไหนอีกบ้างครับ

ออฟไลน์ duckky06

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 17
  • ศึกษาอยู่ กทม.
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
มีด้วยหรอครับผมก็เพิ่งเคยได้ยินหรือผมอาจจะความ
รู้น้อย นิพพาน นี่แปลว่า ตายหรือมรณะใช่ไหมครับ
รอคำตอบจากผู้รู้แล้วกันครับ

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
ทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับอะไรก็ตามในต้นหัวข้อกระทู้คำถามข้างต้น

หากยึดถือไม่ยอมวางก็จะนิพพานหรือแม้แต่เข้าระยะแรกของกระแสพระนิพพานในปัจจุบันชาติก็ไม่ได้

(ปุจฉา)ถามว่าอ้างหลักอะไร ? ถึงได้ตอบเช่นนั้น ?

(วิสัชนา)อ้างหลักธรรม "สังโยชน์" อันหมายถึง กิเลสอันผูกใจสัตว์ให้ติดอยู่ในภพ มี ๑๐ ประการ ได้แก่

๑.สักกายทิฏฐิ หมายถึง ยึดมั่นถือมั่นว่านี้ตัวกู นี้ของกู คือ เห็นว่าร่างกายนี้เป็นของเรา

๒.วิจิกิจฉา หมายถึง ความลังเลสงสัยในพระรัตนตรัย

๓.สีลัพพตปรามาส หมายถึง การนำศีลหรือพรตไปปฏิบัติอย่างงมงาย ผิดวัตถุประสงค์ของการรักษาศีล คือ ศีลมีไว้เพื่อละกิเลส แต่กลับนำศีลหรือพรตไปปฏิบัติเพื่อทำกิเลสให้มากขึ้น เช่น นำศีลไปข่มผู้อื่น , การนำศีลไปเป็นข้อห้ามของความเชื่อต่าง ๆ ที่ว่า หากไม่รักษาศีลแล้วของจะเสื่อม เป็นต้น

๔.กามราคะ หมายถึง การยินดีพอใจในกามคุณ

๕.ปฏิฆะ หมายถึง ความกระทบกระทั่งของใจ

๖.รูปราคะ หมายถึง ความยึดติดกับรูป หรือแม้แต่ยึดติดในรูปฌาน

๗.อรูปราคะ หมายถึง ความยึดติดกับอรูป พอใจกับนามธรรม หรือแม้แต่ยึดติดกับอรูปฌาน

๘.มานะ หมายถึง การยึดมั่นถือมั่นในตน

๙.อุทธัจจะ หมายถึง ความฟุ้งซ่าน

๑๐.อวิชชา หมายถึง ความไม่รู้ คือไม่รู้ในอริยสัจ ๔

- หากละกิเลส ๓ ข้อ เบื้องต้นได้เด็ดขาด จะเป็นผู้แรกเข้ากระแสพระนิพพาน คือ จะถือกำเนิดอีกไม่เกิน ๗ ชาติก็จะเข้านิพพาน

หรือ จะแปลความว่า ไม่มีชาติที่ ๘ แน่นอน ก็จะเข้าพระนิพพาน บุรุษประเภทนี้เรียกว่า "พระโสดาบัน" (พระอริยบุคคลชั้นต้น)

- จากนั้นก็ไล่เรียงไปตามลำดับ ละกิเลส ๓ ข้อ เบื้องต้นได้เด็ดขาดและทำข้อ ๔ และ ๕ ให้เบาบางได้ จะบรรลุเป็น "พระสกิทาคามี"

- หากละกิเลสทั้ง ๕ ข้อ ข้างต้นได้บริบูรณ์ จะบรรลุเป็น "พระอนาคามี"

- หากละกิเลสได้ครบถ้วนทั้ง ๑๐ ข้อ บริบูรณ์ ก็จะบรรลุเป็น "พระอรหันต์" คือ ผู้ที่เข้าพระนิพพานได้แล้วนั่นเอง ไม่มีการกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก

   ข้อสังเกต - กิเลสในสังโยชน์ข้อที่ ๓ เรียกว่า "สีลัพพตปรามาส" หมายถึง การปรามาสศีล นำศีลไปปฏิบัติหรือถือพรตปฏิบัติเพื่อสั่งสมกิเลสให้มีมากขึ้น (แทนที่ศีลจะมีไว้เพื่อลดละกิเลสให้เบาบางลง) อาทิเช่น ไปกระทำพิธีอะไรมาสักอย่าง หรือ ไปนำอะไรสักอย่างมาบูชา โดยมีข้อห้ามว่า "ต้องรักษาศีล ๕ ด้วย มิเช่นนั้นของจะเสื่อม" เป็นต้น  แบบนี้ ก็จะเรียกว่า "สีลัพพตปรามาส" เหมือนกัน

กิเลสเบื้องต้น ๓ ข้อแรก อันเป็นคุณสมบัติของ "พระโสดาบัน"(ผู้แรกเข้ากระแสพระนิพพาน)ยังละไม่ได้ แล้วจะเข้านิพพาน(ละกิเลสทั้ง ๑๐ ข้อ)ได้อย่างไร?

จึงสรุปว่า - ของทุกอย่างนำมาบูชาหรือข้อปฏิบัติอะไรของพิธีกรรมก็ตามที่เข้าข่าย "สีลัพพตปรามาส" หากในปัจจุบันชาติยังไม่ละ ยังไม่ทำให้ความเห็นถูกเกิดขึ้นแล้วหล่ะก็ ในชาตินั้นก็หวังนิพพานไม่ได้ครับ.

ออฟไลน์ nuvergo

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 199
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ยาวเลยนะครับ อิอิ

ออฟไลน์ nuvergo

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 199
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
แล้ว ฤาษีโคบุตร ละครับ

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
แล้ว ฤาษีโคบุตร ละครับ


พุทธศาสนิกชน หมายถึง คนที่นับถือพระพุทธศาสนา , คนที่ตกลงใจน้อมรับนับถือพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำตัวประจำชีวิต ยินดีที่จะปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา เต็มใจที่จะปฏิบัติตามหลักธรรมคือ เว้นจากการทำความชั่ว ทำแต่ความดี และทำจิตใจให้หมดจดจากกิเลส ด้วยการบำเพ็ญบุญในพระพุทธศาสนา เช่น ให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาเพื่อขัดเกลา อบรม บ่มเพาะกาย วาจา ใจให้งดงามเรียบร้อย ให้สงบนิ่ง และให้พ้นจากความเศร้าหมองต่างๆ .(๑)


เป็นที่เชื่อได้โดยสนิทใจว่า ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น "พุทธศาสนิกชน" ต้องเคยได้ท่องบท"ไตรสรณคมน์"นี้อย่างแน่นอน นั่นคือ

"พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ"

(ไม่ว่าจะเป็นงานกุศลพิธีี , งานบุญพิธี ฯ พระสงฆ์ก็จะให้เรากล่าวรับ "ไตรสรณคมน์" ก่อนเสมอ)

   เมื่อเคยท่ิองตามนี้แล้ว ถามว่ารู้ความหมายของคำที่ท่องไปหรือเปล่า? และยิ่งกว่านั้น ปฏิบัติตนตามคำที่ท่องไปนี้หรือเปล่า?

คำแปลของบท"ไตรสรณคมน์"

ข้าพเจ้าขอถึงพระรัตนตรัย(พระพุทธ,พระธรรม,พระสงฆ์)ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด สิ่งอื่นนอกไปจากนี้ไม่มีอีกแล้ว

ข้าพเจ้าขอถึงพระรัตนตรัย(พระพุทธ,พระธรรม,พระสงฆ์)ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด สิ่งอื่นนอกไปจากนี้ไม่มีอีกแล้ว แม้ในครั้งที่ ๒

ข้าพเจ้าขอถึงพระรัตนตรัย(พระพุทธ,พระธรรม,พระสงฆ์)ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด สิ่งอื่นนอกไปจากนี้ไม่มีอีกแล้ว แม้ในครั้งที่ ๓


เมื่อทราบคำแปลของบท"ไตรสรณคมน์"ดังนี้แล้ว ก็ย้อนถามต่อไปว่า ได้ปฏิบัติตนตามคำแปลนั้นหรือเปล่า ?
(หากนำ "อิสิ" มาเป็นสรณะ มาเป็นที่พึ่ง แล้วที่เคยกล่าวในบท"ไตรสรณคมน์"ว่ามี"พระรัตนตรัย"เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด สิ่งอื่นนอกจากนี้ไม่ใช่สรณะไม่ใช่ที่พึ่ง หล่ะ คืออะไร ? แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นการผิดคำพูด ผิดสัจจะวาจาหรือ ?)


ในฐานะที่ตนได้ชื่อว่าเป็น "พุทธศาสนิกชน" ควรบูชาใคร,บูชาสิ่งใดดีหนอ ?

ระหว่าง "อิสิ" หรือ "พระรัตนตรัย" ?


ลองตรองดูเถิด ผู้ที่เรียกตนเองว่าเป็น "พุทธศาสนิกชน" ทั้งหลาย



ํํํํํํํํํํ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

(๑)อ้างอิงจาก - พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต
พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548

ออฟไลน์ be_ning

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 183
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ไม่เข้าใจความหมายข้อที่ 3 สีลัพพตปรามาสคือ ในวัดบางพระก็มีในข้อที่5 หรือ การรับศีลรับพรจากพระก็ให้รับศีล5 ให้อยู่ในศีล5เลย :070: :010: :067:

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
ไม่เข้าใจความหมายข้อที่ 3 สีลัพพตปรามาสคือ ในวัดบางพระก็มีในข้อที่5 หรือ การรับศีลรับพรจากพระก็ให้รับศีล5 ให้อยู่ในศีล5เลย :070: :010: :067:

*เรื่อง "สีลัพพตปรามาส" หากมีข้อสงสัย ก็ศึกษาเพิ่มเติมได้ใน "ธรรมวิภาคปริจเฉทที่ ๒ ทสกะ หมวด ๑๐ ข้อธรรม สังโยชน์ ๑๐"


**การสมาทานศีล ๕ ก็คือ การตั้งสัจจะว่าจะรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ ทำได้ ๒ กรณี คือ

๑.หากเรามีความตั้งใจจริง มีความหนักแน่นมากพอ คิดว่าเราสามารถรักษาสัจจะ มีความมั่นใจว่าเราจะไม่ผิดคำพูดกับตัวเองแน่นอน คือให้สัจจะกับตัวเองว่าจะรักษาศีล ๕ ได้อย่างแน่นอน เราก็สามารถ สมาทานศีล ๕ เอง ได้ (การสมาทานศีลด้วยตนเอง)

๒.หากเรายังไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะรักษาศีล ๕ ให้บริบูรณ์ได้ คือยังไม่มีความเชื่อมั่นมากพอ ก็สามารถไปรับศีลกับพระภิกษุได้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้พระภิกษุรูปนั้นเป็นพยานในการรับรู้ ประมาณว่า ขอให้พระภิกษุรูปนั้นๆ จงจำข้าพเจ้าว่าเป็นผู้สมาทานรักษาศีล ๕ นี่จึงเป็นการตอกย้ำความหนักแน่นในการรักษาศีลของเราให้เพิ่มมากขึ้น เพราะมีพยานรับรู้คือพระภิกษุนั่นเอง (การรับศีลจากพระภิกษุ)


ปัจจุบัน หลาย ๆ ท่าน ก็คงคุ้นชินกับการอาราธนาศีลในงานกุศลพิธี,งานบุญพิธี ต่าง ๆ มากกว่า ซึ่งก็จะอนุโลมเข้าในกรณีที่ ๒ (การรับศีลจากพระภิกษุ) ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

ตั้งสัจจะแล้วก็ต้องปฏิบัติตามสัจจะที่ตนให้ไว้ หากพลั้งเผลอผิดพลาดก็สมาทานศีลใหม่ และก็ใช้เป็นเครื่องเตือนสติว่าจะไม่ประมาททำผิดศีลเช่นนั้นอีก


***กรณีข้อห้ามของวัดบางพระมีข้อสรุปว่า - เป็นอุบายเบื้องต้นให้คนรักษาศีล , เป็นอุบายเบื้องต้นให้คนได้เข้ามาทำบุญที่วัด , เมื่อคนเข้าวัดแล้วก็จะได้เข้ามาศึกษาธรรมะ อันจะได้นำไปปรับใช้ตามระดับความสามารถของตน เพื่อให้คนเป็นคนดีของครอบครัวของสังคม ใช้หลักธรรมเป็นหลักในการดำรงชีวิต  อันเป็นการเติมเต็มความสมบูรณ์ของชีวิตมนุษย์ที่มีโอกาสมาพบพระพุทธศาสนา ในเบื้องปลาย.




- ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก วิทยานิพนธ์ของคณะศึกษาศาสตร์ สาขาพัฒนศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร ๒๕๕๑

  เรื่อง "บทบาท หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ กับงานพัฒนาชุมชน" ของ พระมหานรินทร์ สุวรรณโชติ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 ธ.ค. 2554, 12:01:19 โดย ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์) »

ออฟไลน์ puyusuk1

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 970
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ใด้ความรู้เพิ่มขึ้นขอบคุณมากๆครับ

ออฟไลน์ kriengkri P.

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 451
  • เพศ: ชาย
  • ตัวกูผู้ไม่แพ้
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ที่ผมรู้มา มีตะกรุดนาคกระสันธรณี ของพระอาจารย์ปุ้ม ครับ ที่ใช้แล้วห้ามนิพพาน3ชาติ แล้วมีอย่างไหนอีกบ้างครับ
ไม่มีหรอกครับห้ามนิพพาน คำว่านิพพาน คือหลุดพ้นจากห่วงกรรมทั้งหลายแล้วหล่ะครับ อย่างเราคงไม่นิพพานหรอกครับนิพพานต้อง อรหัน มนุษย์อย่างเรากิเลศมันหนานักต้องเกิดมาใช้กรรมอีก การที่จะไม่สามารถนิพพานได้ก็คือ 1.ฆ่าพ่อแม่หรือผู้มีพระคุณ 2.ฆ๋าพระหรือผู้ทรงศีล 3.ฆ่าคน ห้ามนิพพานเลยเพราะกรรมหนัก ผิดถูกประการใดขออภัยครับ

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
เข้าใจผิดอย่างแรงน่ะครับ คนบางคนตั้งใจทุ่มเททั้งชีวิตยังไปไม่ถึงนิพพานเลยครับ ไม่ต้องห้ามหรอกครับ คนอย่างเราๆท่านแบบนี้ไม่มีโอกาศได้นิพพานหรอกครับ

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา

ออฟไลน์ โยคี

  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 1361
  • เพศ: ชาย
  • เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
    • ดูรายละเอียด
ที่ผมรู้มา มีตะกรุดนาคกระสันธรณี ของพระอาจารย์ปุ้ม ครับ ที่ใช้แล้วห้ามนิพพาน3ชาติ แล้วมีอย่างไหนอีกบ้างครับ
ไม่มีหรอกครับห้ามนิพพาน คำว่านิพพาน คือหลุดพ้นจากห่วงกรรมทั้งหลายแล้วหล่ะครับ อย่างเราคงไม่นิพพานหรอกครับนิพพานต้อง อรหัน มนุษย์อย่างเรากิเลศมันหนานักต้องเกิดมาใช้กรรมอีก การที่จะไม่สามารถนิพพานได้ก็คือ 1.ฆ่าพ่อแม่หรือผู้มีพระคุณ 2.ฆ๋าพระหรือผู้ทรงศีล 3.ฆ่าคน ห้ามนิพพานเลยเพราะกรรมหนัก ผิดถูกประการใดขออภัยครับ
เข้าใจผิดอย่างแรงน่ะครับ คนบางคนตั้งใจทุ่มเททั้งชีวิตยังไปไม่ถึงนิพพานเลยครับ ไม่ต้องห้ามหรอกครับ คนอย่างเราๆท่านแบบนี้ไม่มีโอกาศได้นิพพานหรอกครับ

วิชานาคกระสันธรณี เมื่อก่อนพระอาจารย์ปุ้ม ท่านหวงมาก ท่านว่าห้ามนิพพาน เมื่อก่อนท่านสักให้ลูกศิษย์
เป็นวิชชา ที่เกี่ยวข้องโลกีย์วิสัย โดยตรง เน้นเรื่อง มหาเสน่ห์ ต่อเพศตรงข้าม  อักขระเลขยันต์ ประมาณว่า
นะ สัง วา สะ (สังวาส)
ส่วน ของวัดบางพระ อาจารย์บางท่านก็มียันต์ จูงนาง ตำรับ หลวงพ่อไสว อักขระว่า นะ กอ ดอ ล่อ ...

ท่าน ทั้งหลายที่ยังเกี่ยวข้องอยู่ ในกาม ปฎิบัติธรรมก็เพียงแค่หางอึง จะนิพพาน ได้อย่างไร
แต่เมื่อ ท่าน ปฎิบัติธรรม แบบมุ่งมั่น เพื่อละกาม ละกิเลส ย่อมสู่หนทางพระนิพพาน
อิติ สุคคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ  ฐิตคุโณ อาจาริโย จะมหาเถโร
มหาลาโภ สัพพะสุขขัง จะมหาลาภัง สัพพะโภคัง สัพพะธะนัง ภะวันตุเม

ออฟไลน์ nuvergo

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 199
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
อ๋อ ก็คือว่าอย่างเราๆ ไม่มีทางได้นิพพานได้ คือว่าต้องมาเวียนว่ายตายเกิดใหม่

ออฟไลน์ bangphralism

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 349
  • เพศ: ชาย
  • ลูกศิษย์หลวงพ่อเปิ่น
    • ดูรายละเอียด
อ๋อ ก็คือว่าอย่างเราๆ ไม่มีทางได้นิพพานได้ คือว่าต้องมาเวียนว่ายตายเกิดใหม่

จะว่าไม่มีทางเลยเสียทีเดียวก็ยังไม่ถูกตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่
เพราะหากวันใดเริ่มตั้งใจปฏิบัติให้ถึงความหลุดพ้นก็ยังมีโอกาส
แม้อริยะเจ้าทั้งหลายยังใช้เวลาในการปฏิบัติไม่เท่ากัน
บริษัททั้งสี่สาวกของตถาคตหากตั้งใจปฏิบัติก็ย่อมเข้าถึงความหลุดพ้นได้เช่นกัน

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ nong-juk

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 62
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
      หยุด กับ อยาก     เด็กๆอย่างหนู นั่งฟัง ผู้ใหญ่คุยกัน ได้สาระดี

ออฟไลน์ Gearmour

  • ที่ปรึกษา
  • *****
  • กระทู้: 1204
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • ลานพิศวง
ที่ผมรู้มา มีตะกรุดนาคกระสันธรณี ของพระอาจารย์ปุ้ม ครับ ที่ใช้แล้วห้ามนิพพาน3ชาติ แล้วมีอย่างไหนอีกบ้างครับ
ตระกรุดใช้ไปเถอะครับ  เลิกแล้วก็เก็บซะ ไม่ต้องเอามาใช้อีก

   อย่าคิดอะไรมากมาย
ผมสักติดตัวยังไม่คิดเลย

ขอบคุณครับ