ผู้เขียน หัวข้อ: ...บันทึกเส้นทางบนสายธรรม บทที่ ๔๗...  (อ่าน 257 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เว็บมาสเตอร์...

  • ผู้ดูแลระบบ
  • *****
  • กระทู้: 571
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • www.bp.or.th


...บันทึกเส้นทางบนสายธรรม บทที่ ๔๗...

...ในความเคลื่อนไหว ขอให้ใจสงบนิ่ง...
...ชีวิตคนเรานั้น มันไม่ได้สลับซับซ้อน
อะไรมากมาย มันเป็นชีวิตที่เรียบง่าย
ถ้ารู้จักความพอดีและพอเพียง ยินดีใน
สิ่งควรเป็นและควรได้ เข้าใจในบทบาท
หน้าที่ของตนเองและเคารพในบทบาท
และหน้าทีของผู้อื่น
...แต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตนั้นสับสนวุ่นวาย
ก็คือตัวกิเลสตัณหา ความทะยานอยาก
ที่ไม่รู้จักพอ ทำให้เกิดการก้าวก่ายใน
บทบาทหน้าที่ของผู้อื่น ก้าวล่วงไปใน
สิ่งที่ควรมีและควรเป็นของตนเอง ล้ำไป
ในสิ่งที่ผู้อื่นนั้นควรจะได้รับ ชีวิตนั้นจึง
สับสนและวุ่นวาย เพื่อให้ได้มาซึ่งความ
สมปรารถนาของตนเอง หลงติดอยู่ใน
สิ่งสมมุติทั้งหลาย เวียนว่ายอยู่ในวังวน
ของกิเลสตัณหาไม่มีวันสิ้นสุด ชีวิตไป
ยึดถือและยึดติดในสิ่งที่สมมุติขึ้นมา
ทั้งหลาย
...สังคมมนุษย์จึงสับสนวุ่นวายไม่มี
ที่สิ้นสุด เพราะว่ามนุษย์นั้น ไม่รู้จัก
คำว่าพอประมาณในการใช้ชีวิต
โลกนี้มันจึงเป็นเช่นนั้นเอง...
...สรรพสิ่ง เคลื่อนไหว ไม่หยุดนิ่ง
คือความจริง ที่เห็น และเป็นอยู่
ใช้สติ ใคร่ครวญ ทบทวนดู
ก็จะรู้ และเข้าใจ ในหลักธรรม
...มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับ
เปลี่ยนสลับ กันไป เหมือนเช้า-ค่ำ
มีสีขาว ก็ย่อมมี ทั้งสีดำ
เพื่อเตือนย้ำ ความแตกต่าง สองอย่างกัน
...และเมื่อเรา วางใจ ไม่ยึดถือ
สิ่งนั้นคือ ของเรา เข้าถือมั่น
เมื่อใจว่าง ก็วางได้ โดยเร็วพลัน
สิ่งสำคัญ คือใจ เป็นประธาน
... เริ่มที่ใจ ที่จิต ต้องคิดก่อน
โดยการย้อน มองสิ่ง ที่พ้นผ่าน
เอาเป็นครู เรียนรู้ ประสพการ
นั้นคืองาน ของจิต ที่คิดทำ
...การทำดี ต้องเริ่มที่ การฝึกคิด
ฝึกทำจิต คิดดี หลายทีซ้ำ
คิดอะไร ก็ให้ดี มาชี้นำ
คือฝึกทำ ฝึกจิต ให้คิดเป็น
...คิดเพื่อหา เหตุผล ต้นความคิด
ต้องฝึกจิต ให้รู้ ดูให้เห็น
ทำประจำ จากเช้า จนถึงเย็น
ไม่ว่างเว้น ฝึกทำ จนชำนาญ
...ให้ใจเรา นั้นอยู่ กับกุศล
เป็นมงคล ชีวิต จิตอาจหาญ
ทำสิ่งใด ก็รู้เท่า ทันเหตุการณ์
นี่คืองาน ฝึกสติ ให้รู้ทัน
... ระลึกรู้ ให้เห็น ความเป็นอยู่
โดยตามดู ความคิด จิตเรานั้น
แยกถูกผิด ชั่วดี ออกจากกัน
ให้ใจนั้น มีสติ อยู่คุ้มครอง
...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...

...๕ มกราคม ๒๕๖๕...