หมวด บทสวดมนต์ และ คาถา > บทสวดมนต์

มงคลสูตรอินเดีย (แปลไทย)

(1/2) > >>

เว็บมาสเตอร์...:
มงคลสูตรอินเดีย แปลไทย

.....................................

เอวัมเม สุตัง
(อันข้าพเจ้า (คือพระอานนท์เถระ) ได้สดับมาอย่างนี้)

เอกัง สะมะยัง ภะคะวา
(สมัยหนึ่ง สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า)

สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน, อนาถะปิณฑิกะ อาราเม
(ประทับอยู่ที่เชตวันวิหาร อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้เมืองสาวัตถี)

อะถะ โข อัญญะตะรา เทวะตา
(ครั้งนั้นแล เทวดาองค์ใดองค์หนึ่ง)

อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา
(ครั้งเมื่อราตรีปฐมยามล่วงไปแล้ว มีรัศมีอันงามยิ่งยิ่งนัก)

เกวะละปัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา
(ยังเชตวันทั้งสิ้น ให้สว่าง)

เยนะ ภะคะวา เตนุปะสังกะมิ
(พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ที่ใด ก็เข้าไปเฝ้า ณ ที่นั้น)

อุปะสังกะมิตวา ภะคะวันตัง อภิวาเทตวา
(ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว จึงถวายอภิวาท พระผู้มีพระภาคแล้ว)

เอกะมันตัง อัฏฐาสิ
(ได้ยืนอยู่ในที่สมควรแห่งหนึ่ง)

เอกะมันตัง ฐิตา โข สา เทวตา
(ครั้นเทวดานั้น ได้ยืนในที่สมควรแห่งหนึ่งแล้ว แล)

ภะคะวันตัง คาถายะ อัชฌะภาสิ
(ได้ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยคาถาว่า)

พะหู เทวา มะนุสสา จะ
(หมู่เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก)

มังคะลานิ อะจินตะยุง อากังขะมานา โสตถานัง
(ผู้หวังความสวัสดี ได้คิดหามงคลทั้งหลาย)

พรูหิ มังคะละมุตตะมัง
(ขอพระองค์จงเทศนา มงคลอันสูงสุด)

อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา
(พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า การไม่คบคนพาลทั้งหลาย ๑ การคบคบบัณฑิตทั้งหลาย ๑)

ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
(การบูชาชนที่ควรบูชาทั้งหลาย ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด)

ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ ปุเพ จะ กะตะปุญญะตา
(การอยู่ในประเทศอันสมควร ๑ การเป็นผู้มีบุญอันทำแล้วในกาลก่อน ๑)

อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
(การตั้งตนไว้ชอบ ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด)

พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ วินะโย จะ สุสิกขิโต
(การเป็นผู้ฟังมาก ๑ ศิลปะ๑ วินัยอันชนศึกษาดีแล้ว ๑)

สุภาสิตา จะ ยา วาจา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
(วาจาอันชนกล่าวดีแล้ว ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด)

มาตาปิตุอุปัฏฐานัง ปุตตะทารัสสะ สังคะโห
(การบำรุงมารดาบิดา ๑ การสงเคราะห์บุตรและภรรยา ๑)

อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
(การงานทั้งหลายที่ไม่อากูล ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด)

ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ ญาตะกานัญจะ สังคะโห
(การให้ ๑ การประพฤติธรรม ๑ การสงเคราะห์ญาติทั้งหลาย ๑)

อะนะวัชชานิ กัมมานิ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
(การกระทำทั้งหลายไม่มีโทษ ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด)

อาระตี วิระตี ปาปา มัชชะปานา จะ สัญญะโม
(การงดเว้นจากบาป ๑ การสำรวมจากการดื่มน้ำเมา ๑)

อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
(การไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด)

คาระโว จะ นิวาโต จะ สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา
(การเคารพ ๑ การไม่จองหอง ๑ การยินดีในของที่มีอยู่ ๑ การเป็นคนกตัญญู๑)

กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
(การฟังธรรมตามกาล ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด)

ขันตี จะ โสวะจัสสะตา สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง
(ความอดทน ๑ การเป็นคนว่าง่าย ๑ การเห็นสมณะทั้งหลาย ๑)

กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
(การเจรจาธรรมโดยกาล ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด)

ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง
(ความเพียรเผากิเลส ๑ การประพฤติอย่างพรหม ๑ การเห็นอริยสัจทั้งหลาย ๑)

นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
(การทำพระนิพพานให้แจ้ง ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด)

ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ
(จิตของผู้ใด อันโลกธรรมถูกต้องแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหว)

อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
(ไม่มีโศก ปราศจากธุลี เกษม ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด)

เอตาทิสานิ กัตวานะ สัพพัตถะมะปะราชิตา
(เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย กระทำมงคลทั้งหลายเช่นนี้แล้ว เป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง)

สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ ฯ
(ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เหล่านั้น แล ฯ)



ที่มา... geocities.com/buddhistmon

http://www.bp-th.org/uploads/dhamma/monkolasutta.swf

Gearmour:
สาธุ
    บทนี้สวดแล้วไม่ทำก็ไม่เป็นมงคล
ข้อเดียวที่ทำตอนนี้ไม่ได้ คือ
จะ ปุเพ จะ กะตะปุญญะตา
    กราบขอบคุณ ผู้โพสด้วยครับ
ขอแสดงความนับถือ
  Gearmour

۞เณรน้อยเส้าหลิน۞:
พระตถาคตเจ้าทรงแสดงไว้ว่าสิ่งที่เป็นกระทำแล้วเป็นมงคลทั้งหลายมี ๓๘ ประการหรือเรียกย่อๆกันว่า "มงคล ๓๘ ประการ"

โดยข้อแรกที่พระตถาคตทรงตรัสเอาไว้คือ"การไม่คบคนพาล"   คนพาลในที่นี้ก็คือคนที่ติดอบายมุข คนที่ทุศีลหรือไม่มีศีล เพราะถ้าคบไปแล้วจะทำให้เราเป็นคนพาลไปด้วย  ดั่งวลีที่ว่า "ห่างสุนัขให้ห่างศอก ห่างวอกให้ห่างวา  ห่างพาลาให้ห่างหมึ่นโยชน์แสนโยชน์" (1 โยชน์เท่ากับ 16 กิโลเมตร) เพราะถ้าติดอบายมุขและเป็นคนไม่มีศีลเสียแล้ว การจะเจริญก้าวหน้าในความเป็นมนุษย์ และการที่จะเจริญในมงคลอื่นเป็นไปได้ยาก หรือพระท่านมักจะสอนไว้ว่า การเป็นคนพาล ติดอบายมุข ติดเหล้า เป็นโจรขโมย  มันขวางประตูมรรคผลนิพพานเสียแล้ว  จะทำอะไรมันก็เจริญยาก.

อนุโมทนาบุญด้วยครับกับธรรมะดีๆครับ

สาธุ

danutgood:
การสวดแบบนี้เรียกการสวดแบบ มคธ ครับ

จะเห็นได้ว่าพระป่าสายธรรมยุติท่านจะสวด โดยออกเสียงแบบนี้

กล่าวคือ พ.พาน ออกเสียง เป็น บ.ใบไม้ ท.ทหาร ออกเสียงเป็น คมช. เอ้ยไม่ใช่ครับ ออกเสียงเป็น ด.เด็ก ค.ควายออกเสียงเป็น ตัวกล้ำระหว่าง ก. กับ ง. เป็นต้น

kusara:
อยากได้มาฟังอ่ะค่ะ...ต้องทำไงบ้างคะ

ห้ามบอกนะว่าให้ไปหาซื้อเพราะเดินทางไกลมากคงไม่ได้ไปกรุงเทพหรอก
 :069:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version